ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Kuroko no Basket ] มิติพิศวงของยัยจอมมึน (All x Oc )

    ลำดับตอนที่ #6 : มิติพิศวงที่ 4 [Re]

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 63


     

     

     

     

    มิติพิศวงที่ 4

     

     

     

     

     

    อมีเรียมองคางามิที่กำลังดูวีดีโอการแข่งของทีมคู่แข่งด้วยความสงสัยก่อนจะนึกอะไรออกได้ว่า พรุ่งนี้จะเป็นการแข่งรอบรองชนะเลิศ เซย์รินต้องเจอกับโรงเรียนเซโฮ จึงไม่แปลกที่คางามิจะนั่งดูอย่างตั้งอกตั้งใจเพื่อหาทางแก้เกมส์ให้ได้ แต่การที่เขาไม่ยอมนอนสักทีมันกำลังทำให้ร่างกายของเขาเหนื่อยล้ายิ่งกว่าเดิมมากกว่า

    แถมบางทีอาจจะส่งผลถึงสภาพของร่างกายเขาในวันพรุ่งนี้ด้วย หากปล่อยเอสประจำทีมทำตัวแบบนี้

    มันก็แย่นะสิ! ในฐานะผู้จัดการทีมอมีเรียไม่ยอมเด็ดขาด

    นชร่างบางตรงเข้าไปปิดทีวีที่กำลังฉายวีดีโอแล้วกอดอกจ้องมองญาติหนุ่ม นัยน์ตาสองสีจับจ้องญาติหนุ่มเป็นการกดดันก่อนเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง “ไทกะ ไปนอนได้แล้ว” หรี่ตาลงเมื่อเห็นใบหน้าแตกตื่นของคนตรงหน้า

    “เห่! ฉันต้องดูมันนะ” คางามิโวยวาย แต่ก็ต้องสงบปากเมื่อสบตาเธอ

    อมีเรียเหลือบมองขาของคางามิสลับกับมองใบหน้าที่เริ่มอิดโรย “ถ้าไม่พักผ่อน อาการเจ็บที่ขาจะยิ่งรุนแรงนะ”

    “แค่นี้เอ...”

    “อย่ามาพูดว่าแค่นี้เอง..หากทีมขาดตัวหลักอย่างนายมันไม่แย่หรอ?” อมีเรียพูดขัด

    ทั้งสองคนแข่งจ้องตากันอย่างไม่ยอมใคร ท้ายที่สุดคางามิก็ยกมือยอมแพ้แต่โดยดี ยินยอมลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนของเขา เป็นการบอกกลายๆว่า เขายอมนอนพักตามที่อมีเรียต้องการแล้ว หญิงสาวในคราบเด็กสาวถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยใจ 

    ในตอนแรกเธอไม่คิดที่จะเข้ามายุ่งวุ่นวายอะไรมาก แต่พอเห็นคนบางคนไม่ยอมนอนพักแล้วมันคันหยุบหยิบที่หัวใจ อยากจะตบสักทีด้วยความหมั่นไส้ก็ยั้งมือไว้ได้ทัน

    มิเช่นนั้นบางทีเธออาจจะทำมากกว่าปิดทีวีก็เป็นได้...ใครจะไปรู้

    อมีเรียปิดไฟห้องนั่งเล่นแล้วเดินเข้าห้องนอนของตัวเองก่อนจะเดินออกมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาล หญิงสาวมองชายหนุ่มที่นอนคว่ำแผ่บนเตียงพร้อมเสียงกรนที่ดังออกมา หลับไวมาก...อมีเรียส่ายหัวด้วยความอ่อนใจ สุดท้ายแล้วก็เอาชนะความง่วงและความเหนื่อยของตัวเองไม่ได้ละสิ คางามิ ไทกะ..

    อมีเรียเริ่มนวดขาของคางามิอย่างเบามือ พร้อมกับคลายเส้นไปด้วยเพื่อที่ขาของเขาจะได้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า 

    เธอนั่งนวดอยู่อย่างนั้นนานสองชั่วโมงจนขาที่แข็งเกร็งเพราะกล้ามเนื้อมันตึงเกินไปเริ่มอ่อนตัวลง อมีเรียแปะพลาสเตอร์แก้ปวดลงไปทั้งหมดสี่ตำแหน่ง ตามจุดที่เธอสัมผัสแล้วรู้สึกว่า มันเป็นจุดที่ทำให้ปวดกล้ามเนื้อ – เธอมองผลงานของตนเองพร้อมรอยยิ้มก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไปพร้อมปิดประตูและไฟให้เขา

    ตัวเองก็ต้องรีบนอนให้ร่างกายได้พักผ่อนเช่นกัน แม้จะตื่นเต้นกับสิ่งที่เรียกว่าการแข่งรอบชิงก็ตาม

    นานแล้วที่เธอไม่ได้สนใจสิ่งอื่นนอกจากการทดลองในห้องแลป ในตอนนี้ตัวเธอเองก็กำลังสนใจสิ่งที่เรียกว่าบาสเกตบอลอยู่ เพราะงั้น..เป็นไปได้เธอก็อยากให้ร่างกายพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ไม่ต่างอะไรกับเหล่านักกีฬาทั้งหลาย

     

     

     

    และแล้วเวลาของการแข่งขันก็มาถึง อมีเรียเตรียมตัวพร้อมตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นด้วยความตื่นเต้นและคางามิที่หายปวดขาแถมยังมีพลาสเตอร์ยาแปะอยู่ด้วยใบหน้ามึนงง เขาพึมพำกับตัวเองว่าละเมอเอามาติดรึเปล่านะจนอมีเรียแทบจะหลุดขำออกมา 

    สรุปแล้ว คางามิ ซื้อบื้อเกินหรือเปล่าน่ะ??

    แต่เมื่ออยู่ในระหว่างวอร์มร่างกายรอเวลาแข่งขัน คางามิก็เอาแต่จ้องเขม็งไปยังทีมบาสโรงเรียนเซโฮ เขายังมีความขุ่นเคืองใจอยู่เล็กน้อยจากการที่อมีเรียไล่ไปนอนเมื่อคืนแต่พอนึกๆดูแล้ว อมีเรียก็ตามมานวดขาให้เขาจนอาการปวดทุเลาลงไปเยอะเลย รู้สึกได้เลยว่าขาเขาตอนนี้ไม่ตึงเหมือนก่อนหน้านั้นแล้ว

    “ว้าว ผมแดงแจ๊ดแจ๋เลย น่ากลัวจัง”

    “หา?”

    จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้น คางามิและทีมเซย์รินต่างหันไปมอง แน่นอนว่าอมีเรียที่กำลังตรวจสอบดูว่ายาในกล่องปฐมพยาบาล ผ้าขนหนูและน้ำพร้อมรึยังก็หันไปให้ความสนใจด้วยว่าเจ้าของเสียงทักเมื่อสักครู่เป็นใคร คางามิมองคนที่ตัวเล็กกว่าตนเองเล็กน้อยด้วยความสงสัยปนไม่สบอารมณ์ แต่พอมองหัวของเขาโล้นจนเด่นสะดุดตาแล้วจู่ๆอารมณ์ที่ขุ่นมัวก็หายไปเสียอย่างนั้น

    จะไปบวชรึไงหมอนี่...โล้นเตี้ยนเลย

    “กัปตัน เขาเองสินะครับ – คนเก่งคนเดียวที่เข้าทีมกระจอกเซย์ริน..”

    กึก!

     

    อมีเรียมองรุ่นพี่และเพื่อนของเธอที่ดูจะมีสีหน้าไม่พอใจด้วยความสงสัย เธอรู้จักเจ้าของเสียงนี้ เพราะมันเป็นเสียงที่แอมมีลี่เปิดจนดังแล้วด่ากราดใส่ตัวละคร(ในบางทีก็เริ่มปลงกับความมโนอินไปกับอนิเมะของหัวหน้าทีม) แต่การที่เขาพูดแบบนั้นออกมาเป็นการดูหมิ่นไม่น้อยเลย เริ่มไม่สบอารมณ์นิดหน่อยกับความปากเสียของเขาที่อายุอานามก็ไม่ใช่เด็กสามสี่ขวบเสียหน่อย

    โป้ก!

    ชายหัวโล้นโดนกัปตันของตัวเองโบกหัวจากด้านหลังจนเกิดเสียงดัง

    ทำเอาสมาชิกทีมเซย์รินที่อารมณ์ไม่ดีถึงกับชะงักกันไปเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่ากัปตันทีมเซโฮพูดอะไรกับรุ่นพี่ฮิวงะและคางามิ แต่เธอรู้อย่างหนึ่ง สองคนนั้นเริ่มอารมณ์ไม่ดีเสียแล้วละค่ะ – เมื่อเห็นว่าทุกคนเริ่มหันไปสนใจกับคำพูดของสองผู้เล่นเซโฮ อมีเรียเลยต้องทำการแย่งบาสจากมือของคางามิเพื่อกระตุ้นพวกเขา

    “เห้ย!” คางามิอุทานด้วยความตกใจ

    “อย่ามัวแต่เหม่อสิ แค่วอร์มอัพเรายังแย่งได้แบบนี้ เริ่มแข่งจริงๆ – ระวังจะโดนแย่งบอลนะ”

    “ยัยเบื้อกนิ” คางามิกระตุกยิ้มมุมปาก “อ่อนให้ต่างหาก อ่อนให้ – มีเรียมาเล่นด้วยกันสักตาก่อนแข่งดิ๊”

    “ห้ามกระโดดน่ะ” อมีเรียเอ่ยดักอย่างรู้ทัน

     

     

    วันนี้เธออยู่ในชุดนักเรียนหญิงเซย์ริน ดังนั้นการเคลื่อนไหวเลยสะดวกนิดหน่อย เพียงแต่ไม่สามารถกระโดดได้ก็เท่านั้นเอง อมีเรียเริ่มทำการเลี้ยงลูกหลบคางามิโดยมีพวกรุ่นพี่ยืนมองเป็นเสาให้เด็กสาววิ่งซิกแซกไปมา ส่วนสาเหตุที่พวกเขายืนนิ่ง พวกเขาแค่กำลังตกใจและประหลาดใจ 

    อมีเรียหลบหลีกได้เร็วมากแม้แต่คางามิยังตามไม่ทัน จนกระทั้งลูกลงห่วงไปอย่างง่ายได้

    “....จำแล้วนำไปใช้นะคะ ไทกะ”

    อมีเรียมองจังหวะของลูกบาสที่เด้งขึ้นลง ชั่วจังหวะที่ลูกบาสเด้งขึ้นค้างในอากาศ ร่างบางก็หมุนตัวครึ่งวงกลมพร้อมใช้หน้ามือสัมผัสลูกบาสให้มันพุ่งทิศทางไปยังคางามิที่ยืนเด๋ออยู่ เป็นจังหวะการส่งลูกที่ดูอ่อนช้อยเหมือนผีเสื้อหยอกเย้าดอกไม้ 

    พอรู้ตัวอีกทีลูกบาสก็พุ่งมาแล้ว!!! -- คางามินับว่าสมกับที่เป็นนักบาสเขามีสัญชาตญาณที่ดีเมื่อลูกพุ่งไปหาเขา เขาจึงรับมันเอาไว้ได้แม้จะฉิวเฉียดนิดหน่อยก็เถอะ

    คางามิตาแทบค้างด้วยความตะลึง 

    เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าญาติสาวเล่นบาสเป็นด้วยแถมดูแล้ว..ฝีมือค่อนข้างจะเก่งพอตัวเลยละ!! – เขาจำการหลบหลีกพลิ้วไหวนั้นอย่างรวดเร็วตามที่อมีเรียบอกแล้วนั้นก็ทำให้เขานึกถึงอะไรบางอย่าง การหลบหลีกของอมีเรีย เหมือนกับสายน้ำที่ไหลไปทุกทิศทางเลยนะสิ! 

    แต่...เขาจะทำได้อย่างที่ญาติสาวบอกรึเปล่าไม่แน่ใจเลยสักนิด...

    คุโรโกะมองการส่งลูกเมื่อครู่ของอมีเรียทัน เขาเริ่มคิดและนึกภาพตามที่เห็นก่อนจะสรุปความเห็นในใจ เขาจะลองใช้ท่าเมื่อกี้ของอมีเรียดู ในยามที่คับขันละนะ. .— เมื่อกลับมานั่งข้างสนามเสียงนกหวีดก็ได้ขึ้นเป็นสัญญาณว่า ถึงเวลาการแข่งขันแล้ว นักกีฬาทั้งสองโรงเรียนยืนเผชิญหน้ากัน ก่อนที่เสียงนกหวีดจะเป่าให้สัญญาณเริ่มการแข่งได้!!!!

     

     

    .

    .

    .

    ทันทีที่เริ่มการแข่งคางามิก็โดนประกบทั้งๆที่มีลูกบาสอยู่ในมือเขา

    เป็นการประกบที่บล๊อคทิศทางและถ้าคางามิไม่ส่งลูกมันจะเกินกำหนดเวลาในการครองลูกบาสตามกฎและกติกาที่ระบุเอาไว้เป็นมาตรฐานสากล ผู้จัดการสาวมองสีหน้าที่เริ่มเครียดของคางามิอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะลุกเดินไปยืนขอบสนาม สูดหายใจเข้าลึกแล้วตะโกนสั่งการ

    “ไทกะ Back”

    คางามิที่กำลังกังวลจากการประกบของอีกทีมได้ยินเสียงของอมีเรียที่ตะโกน เขาเหล่มองญาติสาวด้วยความสงสัยแต่ทันใดนั้นชั่วขณะเขาก็เผยรอยยิ้มแสยะก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้ฝ่ายประกบแล้วส่งลูกให้ฮิวงะ เป็นการทำที่ฉิวเฉียดจากเวลาในการครองลูกพอสมควร 

    ฮิวงะรับลูกบาสได้ก่อนที่เขาจะเริ่มเลี้ยงลูกหลบออกจากคนที่ประกบอยู่ แต่พอเลี้ยงไปสักพักก็โดนประกบใหม่

    “รุ่นพี่ above”

    ฮิวงะทำตามที่อมีเรียบอกเขาโยนลูกขึ้นสูงเหนือหัวทันทีโดยที่สายตาจดจ้องอยู่กับคนที่เข้ามาประกบเขา ทีมเซโฮรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับการโยนลูกขึ้นไปแบบนั้นแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าเซย์รินเล่นอ่อน

    หวานหมู

    นั้นคือความคิดที่ดังขึ้นในหัวทุกคนแต่ก่อนที่ใครจะเข้ามาเอาลูกบาส คุโรโกะก็โดดสัมผัสลูกบาสได้ก่อนและส่งลูกไปยังคางามิที่ไปรออยู่ใต้แป้นบาสตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เป็นการส่งลูกกลางอากาศทำให้ลูกอยู่สูงเกินไปที่จะมีใครโดดปัดได้ แต่แน่นอนว่าเอสของทีมอย่างคางามิทำได้

    “ย๊า!”

    ปึง!!

    คางามิกระโดดสูงกว่าคนอื่นๆ เขาดั๊งลูกลงห่วงจนเกิดเสียงดังพร้อมกับสกอคะแนนที่เริ่มต้นนับคะแนน เซย์รินทำคะแนนได้แล้ว!! -- อมีเรียพ่นลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเพราะอย่างน้อยๆก็ทำให้ทีมไม่กดดันเกินไปละนะ เธอยิ้มบางแล้วหันไปกระซิบบอกริโกะให้รู้ว่าการเคลื่อนไหวของฝั่งทีมเซโฮนั้นเป็นการเคลื่อนไหวแบบไหน.. แน่นอนว่าเธอไม่ได้รู้ล่วงหน้า เรื่องนี้เธอสังเกตเอาจากวีดีโอที่คางามิดูเมื่อคืนเท่านั้นเอง

    พวกเขาเล่นไปสักพักก็ได้สัญญาณขอเวลานอก นั้นถือเป็นเรื่องดีเพราะนักกีฬาจะได้พักกันเล็กน้อย อมีเรียส่งผ้าขนหนูเย็นๆให้พวกเขาก่อนที่เธอจะเริ่มเช็คดูว่ามีใคร มีอาการบาดเจ็บหรือปวดตรงไหนบ้างรึไม่ โดยมีโค้ชริโกะแจ้งถึงแผนการและรายละเอียดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของทีมตรงข้าม และเมื่อถึงเวลาลงสนามอมีเรียก็ส่งยิ้มให้พวกเขาพร้อมบอกว่า

    “สู้ๆนะคะทุกคน ถ้าไม่ไหวห้ามฝืนนะ – เดี๋ยวจะบาดเจ็บ”

    “คร้าบบบ!”

    แต่ไม่รู้ทำไม..ทุกคนกลับกระตือรือร้นกันกว่าเดิม..

    เธอพูดอะไรผิดรึเปล่านะ?? แต่นั้นก็ไม่ได้แย่อะไร ออกจะดีด้วยซ้ำที่พวกรุ่นพี่กระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น..

     

     

     

     

     

    “โย่ว!”

     

     

    ……………………………………………………….

    จะทยอยรีไรท์เพื่อที่ตรวจคำผิดกับปรับเนื้อหาเดิมเพิ่มเติมขึ้นนิดหน่อยนะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×