ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Reborn+KNB } World of Mafia โชคชะตาพาสู่สงครามมาเฟีย[Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #7 : ♜ : Chapter Five : ..Italy.. [ 100% ]

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 59


    Chapter Five : ..Italy..

     

     

     

              ท่ามกลางเมืองนามิโมริที่สุดแสนจะวุ่นวาย..ร่างโปร่งของชายหนุ่มอายุประมาณ 17 หรือ 18 ปีกำลังเดินทอดน่องไปตามถนนคอนกรีต  ศีรษะรวมถึงใบหน้าถูกปกปิดด้วยเสื้อฮู้ดสีดำสนิท..มือสองข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋า  เขายังคงเดินต่อไป..

     

     

              “เฮ้ย! แกน่ะ..หยุดอยู่ตรงนั้นก่อนซิ!” ร่างโปร่งถูกคว้าไว้ด้วยชายรูปร่างกำยำดูแข็งแรงมีกล้ามมีเนื้อ  สายตาดุดันจดจ้องมาที่ใบหน้าของร่างโปร่ง..ก่อนที่ชายอีกคนที่มีรูปร่างใหญ่จะมีถอดฮู้ดที่คลุมหัวของเขาออก 

     

     

              “หน้าตาแกก็ใช้ได้นี่หว่า..น่าจะเป็นลูกคนรวย เอาเงินมาให้พวกฉันซะ!” ชายรูปร่างกำยำคนที่สามพูดขึ้นพร้อมกับยืนกอดอกใช้สายตาที่ดุดันจ้องหวังที่จะกดดันลูกแกะน้อยที่อยู่ตรงหน้า  แต่สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นรอยยิ้มหวานแต่แลดูสยดสยองคล้ายรอยยิ้มของพวกโรคจิต  ร่างโปร่งในเสื้อฮู้ดคว้ามีดที่ตนซ่อนเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงออกมาก่อนจะพุ่งเข้าไปหวังจะแทงเหล่าชายกำยำทั้ง 3...

     

     

              “หยุดนะบาจิล!!!” ทีวีในห้องนั่งเล่นถูกปิดลงพร้อมกับเด็กหนุ่มหน้าสวยอายุอานามไม่ต่างจากเจ้าของบ้านซักเท่าไหร่นักที่กำลังมุดตัวเข้าไปนั่งแอบอยู่หลังโซฟา  ร่างโปร่งผมสีน้ำตาลถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความขี้กลัวของหนุ่มหน้าสวยคนนี้

     

     

              “แต่กระผมกลัวนี่ขอรับท่านซาวะดะ! นั่นจะเอามีดไล่แทงแล้วนะขอรับ! ต่อไปอาจจะเป็นการแล่เนื้อ...”

     

     

              “บาจิลเงียบ!!” หนุ่มหน้าสวยหุบปากโดยฉับพลันเมื่อได้รับคำสั่งอันศักดิ์สิทธิ์มาจากผู้เป็นบอสใหญ่ของวองโกเล่แฟมิลี่  ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลสั่นไหวน้อยๆอย่างหวาดกลัว..บ้าไปแล้ว! ท่านซาวาดะไม่เคยตวาดหรือใช้ประกาศิตกับเขาเลยนะ! เขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเริ่มตีตื้นขึ้นมาโดนบาจิลแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่..มือบางสั่นระริก เช่นเดียวกับหัวใจดวงน้อยที่ยังคงสั่นไหวกลัวว่านภาแห่งวองโกเล่จะไม่พอใจตนมากไปกว่านี้  เพราะที่ผ่านมา ซาวาดะ สึนะโยชิ ก็ตามใจตนแล้วก็ไม่เคยดุด่าว่าตนมาก่อน และแน่นอน..ว่านี่เป็นครั้งแรกที่โดนตวาด..

     

     

              “ข..ขอรับ” หนุ่มหน้าสวยก้มหน้าลงแอบซ่อนความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้..

     

     

              “เฮ้อ..ไม่เอาน่าบาจิล ฉันอาจจะอารมณ์เสียไปหน่อย ขอโทษนะ..” นภาหนุ่มแห่งวองโกเล่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบศีรษะของบาจิลอย่างแผ่วเบา 

     

     

            คิดมากไปได้..

     

     

              หากจะพูดกันตามตรงแล้วสึนะโยชิ นภาแห่งวองโกเล่ก็คงจะไม่ได้เหมาะกับการเป็นเมะซักเท่าไหร่นักเพราะใบหน้าหล่อหวานนั่น..แต่ใบหน้าหล่อหวานรึจะไปสู้กับใบหน้าสวยราวกับผู้หญิงของหนุ่มหน้าสวยตรงนี้!! พออยู่ด้วยกันทีไรนภาแห่งวองโกเล่ก็จะกลายเป็นเมะในทันที..

     

     

              นี่สินะสาเหตุที่ชอบขลุกอยู่กับบาจิลน่ะ =__=

     

     

              “ข..ขอรับ” หนุ่มหน้าสวยพยักหน้าเบาบาง  ความอบอุ่นบนศีรษะทำให้น้ำตาที่กำลังจะไหลเหือดแห้งไป..รอยยิ้มบางถูกประดับขึ้นบนใบหน้า  ก็แค่ชอบสัมผัสที่ร่างโปร่งมอบให้..เขาไม่ผิดนี่

     

     

            จริงมั้ย..?

     

     

              “รุ่นที่ 10 คร้าบบบบ! เห้ย!! ออกห่างจากรุ่นที่ 10 เดี๋ยวนี้นะเฟ้ย!!” ผู้พิทักษ์วายุผู้พ่วงตำแหน่งมือขวาของนภาแห่งวองโกเล่รุ่นที่ 10 พูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจพร้อมกับถือไดนาไมต์มาไว้ในมืออย่างเตรียมพร้อมที่จะปาใส่หนุ่มหน้าสวยได้ทุกเมื่อหากอีกฝ่ายเข้าใกล้นภาของเขา

     

     

              “เอาน่าๆ ใจเย็นก่อนสิโกคุเดระ..คือสึนะ..เรามีเรื่องจะบอกนายน่ะ” ผู้พิทักษ์พิรุณพูดขึ้นพร้อมกับจับคอเสื้อของมือขวาหนุ่มแล้วโยนออกยังนอกบ้านเพื่อไม่ให้รบกวนการพูดคุยธุระกัน

     

     

              “อะไร?”

     

     

              “มีคำสั่งให้คุณและพวกเราผู้พิทักษ์กลับไปประจำการที่อิตาลี 1 เดือนน่ะครับ..” ผู้พิทักษ์สายหมอกแห่งวองโกเล่แฟมิลี่ปรากฏกายขึ้นพร้อมกับพูดจาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มคล้ายจะยินดีปรีดาเป็นอย่างมาก  ประชด!! ทำไมเขาจะต้องชอบไปอยู่ในถิ่นของมาเฟียกัน!

     

     

              “แล้วทำไมเหรอครับ?” สึนะเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย..กลับไปประจำการที่อิตาลี? แล้ว..?

     

     

              “แล้วพวกเราต้องพาเจ้าพวกนักบาสนั่นแล้วก็นักเรียน ห้อง A ไปด้วยน่ะสุดขั้ว!!” ไม่ต้องอธิบายคุณก็คงรู้ใช่มั้ยว่าใครพูด...

     

     

              สิ้นสุดตรงนี้นภาแห่งวองโกเล่ก็เริ่มเข้าใจเสียแล้วว่าทำไมนักเรียนห้อง A ถึงถูกเลือกให้เป็นเพื่อนร่วมห้องของเขา  แม้จะไม่ได้เรียนเก่งเสียทุกคน..แต่ว่าแต่ละคนก็มีทักษะเฉพาะของตนซึ่งมีความจำเป็นมากสำหรับแฟมิลี่  ดังนั้น..ที่รุ่นที่ 9 คัดเด็กห้อง A เอาไว้ก็คงจะเพราะเพื่อให้ได้รับการฝึกฝนในการเป็นคนของวองโกเล่ในอนาคต..

     

     

              ซึ่งดูเหมือนว่าคนพวกนั้นจะไม่รู้ตัวเลยนี่สิ..เฮ้อ~

     

     

              “สุดท้ายพวกห้อง A ก็เป็นแค่เครื่องมือสำหรับการเปิดกล่องแพนโดร่างั้นสินะ..” เด็กสาวผู้มาใหม่พูดขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวลงบนโซฟา  ทาจิบานะ นาเดชิโกะ ยกยิ้มร้ายบนใบหน้าก่อนจะหันไปมองผู้เป็นนภาของวองโกเล่

     

     

              “อืม..ก็คงงั้น J

      

     

     

     

     

     

     

     

     

              สึนะไม่เคยรู้สึกอยากจะบ้าตายเท่าวันนี้มาก่อนเลยชีวิต..

     

     

              ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่สนามบินนามิโมริกำลังเตรียมตัวไปขึ้นเครื่อง..แต่เรื่องที่ทำให้เขาปวดหัวมากขนาดนี้น่ะเหรอ? ฮึฮึ ก็หลังจากมีประกาศว่านักเรียนโรงเรียนนามิโมริแผนกมัธยมปลายปี 2 ห้อง A ได้ไปทัศนศึกษาที่อิตาลี 1 เดือน พวกผู้ปกครองของเด็กห้อง B เกิดความไม่พอใจในความไม่ยุติธรรมขึ้น สุดท้ายเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาจึงต้องจำใจพาเด็กห้อง B ไปด้วย...ประสาท!!! ดีนะที่ห้อง C D E และ F ไม่ได้เกิดการประท้วงขึ้นบ้าง ไม่งั้นงบของวองโกเล่ของชิบหายวอดวายหมดเกลี้ยงกันพอดี!!!

     

     

              นักเรียนห้อง A ถ้าไม่นับพวกเขา 7 คนแล้วก็มี 23 คน กับนักเรียนห้อง B อีก 45 คน..นี่เขาเสียงบไปเท่าไหร่แล้วฟะ!!!

     

     

              และสาเหตุอีกประการหนึ่งก็เนื่องมาจากเจ้ารีบอร์นดันบ้าจี้บอกทางโรงเรียนว่าค่าใช้จ่ายในการออกเดินทางทั้งหมดวองโกเล่จะจ่ายเอง พวกนักเรียนทั้งหลายจึงไม่ต้องเสียเงินเลยแม้แต่เยนเดียว!! บ้าเอ้ย!! ไปเสนอข้อเสนอแบบนั้นมี 1000 คนก็อยากมา 1000 คนล่ะเจ้าบ้า!

     

     

              “เครียดเรื่องงบเหรอสึนะ” ยามาโมโตะลากกระเป๋าเดินทางมายืนอยู่ข้างๆก่อนจะถามพลางยิ้มเจื่อนๆ ยามาโมโตะก็ไม่คาดคิดหรอกว่าสุดท้ายแล้วเรื่องทั้งหมดมันจะกลายเป็นแบบนี้  พวกห้อง B ไม่ได้เป็นพวกที่รุ่นที่ 9 เตรียมเอาไว้เลยซะด้วยซ้ำ มันก็เหมือนกับเจ้าพวกนั้นได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียวนั่นแหละ..

     

     

              “เอาล่ะนักเรียน! ครูขอเช็คชื่อนักเรียนห้อง A ก่อนนะครับ!” ดีโน่ที่รับบทเป็นครูที่ปรึกษาประจำห้อง A ชั่วคราวพูดใส่โทรโข่งก่อนจะยิ้มกว้างตามแบบฉบับของเจ้าตัว นักเรียนห้อง A ถูกจัดให้ไปเข้าแถวโดยแบ่งเป็น 2 แถวแยกหญิงและชาย ดวงตาสีอำพันของม้าพยศเหลือบมองพวกนักเรียนแลกเปลี่ยนทั้ง 7  พวกสึนะทั้ง 8 (รวมแรมโบ้) นาเดชิโกะ  เคียวโกะ และฮารุ เมื่อแน่ใจว่าอยู่กันครบจึงเริ่มเช็คชื่อนักเรียนห้อง A คนแรกทันที

     

     

              “โอคามิ คิทสึเนะคุง”

     

     

              “มาครับ” เสียงนุ่มทุ้มน่าฟังดังขึ้น โอคามิ คิทสึเนะ เป็นเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่ง เขามีผมสีขาวราวกับความว่างเปล่าที่ไร้จุดสิ้นสุด ดวงตาคมของเขาเป็นสีฟ้าราวกับสีของท้องฟ้ายามกลางวัน ร่างกายที่พอมีกล้ามเนื้อเล็กน้อยทำให้เจ้าตัวไม่ดูอ่อนปวกเปียกเสียจนเกินไป ผิวขาวเนียนและใบหน้ารูปไข่ที่มักจะมีรอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่บางๆ รวมถึงลักษณะนิสัยที่สุภาพและอ่อนโยน มีน้ำใจ ทำให้นั่นเป็นเหตุผลที่เขาได้เป็นหัวหน้าห้องของนักเรียนห้อง A   สึนะเหลือบมองคิทสึเนะเล็กน้อยก่อนจะเสมองไปทางอื่น แม้จะดูไม่น่ามีพิษมีภัย..แต่คนแบบนี้แหละที่อันตรายที่สุด!

     

     

              “คาวะกะ โคริโกะจัง”

     

     

              “มาค่ะ” คาวะกะ โคริโกะ เธอเป็นเด็กสาวรูปร่างค่อนข้างสูง เธอมีเรือนผมสีดำสนิทราวกับสีของท้องฟ้ายามรัตติกาล ดวงตาสีฟ้าใสราวกับสีของท้องฟ้ายามกลางวันที่สว่างเจิดจ้าระยิบระยับ ผิวขาวเนียนเสมือนคนที่ไม่ค่อยได้พบแดด และใบหน้าหวานที่มักจะบึ้งตึงหรือไม่ก็เฉยชาตลอดเวลานั้นทำให้เธอดูเป็นคนจริงจังกับงานและได้รับตำแหน่งรองหัวหน้าห้องมา  และนอกจากนั้นในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดเธอคือคนที่สูงที่สุดอีกด้วย

     

             

              “แอนนา โรซามาเนล..เห นามสกุลน่าสนใจดีนะครับ”

     

     

              .........  เงียบ..ไม่มีเสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก กรุณาโทรใหม่อีกครั้งค่ะ  // ไม่ใช่แล้วเฟ้ย!

     

     

              “คุณแอนนา!” ดีโน่เพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นอีกก่อนจะเห็นเด็กสาวคนหนึ่งสะดุ้งแล้วยกมือขึ้นเป็นการบ่งบอกว่าตนมาแล้วด้วยท่าทีงัวเงีย  แอนนา โรซามาเนล เด็กสาวร่างเล็กบอบบางผู้มีผมสีขาวบริสุทธิ์ถึงกลางหลัง  ดวงตาสีแดงราวกับสีของอัญมณีทับทิมเม็ดงามที่มักจะปรือเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา เธอมีผิวขาวราวกับน้ำนมและใบหน้าที่สวยหวานราวกับตุ๊กตา ส่วนสูงของเธอน่าจะอยู่ที่ประมาณ 155 ถึง 156 ไม่น่าจะเยอะหรือน้อยไปกว่านั้น แต่เพราะวันนี้โรงเรียนไม่ได้บังคับให้ต้องใส่ชุดนักเรียน..ทำให้เธอดูน่าสะดุดตามากในชุดโกธิคโลลิต้าสีแดงเข้มตัดกับผิวขาวๆของเธอ

     

     

              “งั้นคนต่อไป..มินากิ ริโนะ และ มินากิ รินะจัง”

     

     

              “มาค่ะ..” มินากิ ริโนะ และ มินากิ รินะ คือคู่ฝาแฝดที่ว่ากันว่ามักจะอยู่ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ ริโนะเป็นเด็กสาวร่างโปร่งเธอสูงประมาณ 160 และผิวขาวแบบที่คนเอเชียพึงจะมีเช่นเดียวกับรินะพี่สาวฝาแฝดของเธอ ริโนะมีผมยาวสลวยสีน้ำเงินเข้ม และดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ดูแข็งกร้าวและไม่ยอมคนอยู่เสมอ นั่นคือสิ่งที่ต่างกับพี่สาวอย่างรินะ..รินะสูงประมาณ 158 เห็นจะได้  เธอมีผมสีฟ้าสว่างเจิดจ้าและดวงตาสีฟ้าสว่างราวกับท้องฟ้ายามกลางวันที่มักจะทอประกายความอ่อนโยนราวกับเธอเป็นแม่พระผู้มีเมตตา สึนะเหลือบมองฝาแฝดคู่นี้เล็กน้อย..เขาเคยเจอทั้งคู่ตอนที่ยังเรียน ม.ต้น อยู่ที่นามิโมริ..ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นทั้งคู่อยู่ห้อง D และมักจะตัวติดกันเสมอ  ซึ่งดูเหมือนตอนนี้ก็เช่นกัน..

     

     

              “โยชิดะ ยูโตะคุง”

     

     

              “อ่า..มาครับ”  โยชิดะ ยูโตะ เด็กหนุ่มร่างเล็กเจ้าของดวงตาสีฟ้าแซฟไฟร์และผมซอยสั้นระดับต้นคอสีทองอำพัน บนใบหน้ามีแว่นไร้กรอบทำให้พอจะรู้ว่าบางทีเขาอาจจะสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง เอ่อ..อะไรทำนองนั้นทำให้ต้องใส่แว่น เขาเป็นคนผิวขาวและตัวค่อนข้างเล็ก ถึงจะไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าเตี้ยแต่ก็ตัวเล็กกว่ามาตรฐานของเด็กหนุ่มมัธยมปลายปี 2 อยู่ไม่น้อย เขามีใบหน้าที่ดูน่ารักน่าชังน่าแกล้งมากกว่าดูหล่อเหลา บางทีก็ดูป้ำๆเป๋อๆไปบ้าง แต่เขาก็เป็นเด็กโชตะที่มีแฟนคลับอยู่จำนวนหนึ่งเลยทีเดียว ดีโน่มองเด็กตรงหน้าก่อนลอบถอนหายใจออกมา..พลางคิดเป็นเสียงเดียวกันกับสึนะและพวกผู้พิทักษ์วองโกเล่ว่า..

     

     

            ตัวเล็กๆโชตะๆแบบนี้..จะเอาไปทำไรวะครับ!

     

     

              “มุจาคินะ ฮิคาริคุง”

     

     

              “อ..ม ม ม..มาฮะ” ....โมเอะโคตร!!!!  เสียงในใจของทุกคนที่ดังขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

     

     

              มุจาคินะ ฮิคาริ เป็นเด็กหนุ่มร่างโปร่งบาง ถึงจะไม่ถึงขั้นเรียกว่าสูงแต่ก็สูงกว่ายูโตะเกือบ 5 เซนติเมตรเลยทีเดียว ฮิคาริเป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าดูหวานมากกว่าหล่อ เขามีผิวขาวซีดคล้ายคนที่ไม่ค่อยได้เจอแดดเท่าไหร่นัก ดวงตาสีเทากลมโตที่มักจะเหลือบมองไปมาหรือระแวงไม่ก็อะไรซักอย่างทำให้เจ้าตัวดูน่ารักน่าแกล้งเหมือนกับหนูแฮมเตอร์ตัวน้อยๆไม่มีผิด ฮิคาริเป็นเด็กหนุ่มผมสีดำขลับขัดกับชื่อของเขาที่แปลว่าแสงสว่างโดยสิ้นเชิง ใบหน้าของเขาที่แดงระเรื่อเหมือนมะเขือเทศเวลาคุยกับคนอื่นทำให้เขาดูโมเอะยิ่งกว่าเดิมเสียอีก!

     

     

              “อากิฮิโกะ เอล เอเวอลิน

     

     

              “ผมมาแล้ว~” น้ำเสียงที่ฟังดูร่าเริงสุดๆดังขึ้นก่อนที่จะปรากฏเด็กหนุ่มร่างเล็ก..ไม่สิ ควรจะบอกว่าเตี้ยซะมากกว่า อากิฮิโกะหรือที่คนอื่นๆมักจะเรียกว่า อากิระ หรือ อากิ เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กมากๆจนเรียกได้เลยว่าเตี้ย เขาสูงเพียง 160 เซนติเมตร..พูดง่ายๆเลยคือเขาเตี้ยกว่าโคริโกะที่เป็นผู้หญิงถึง 10 เซน! อากิฮิโกะเป็นเด็กหนุ่มที่ดูร่าเริงและค่อนข้างไฮเปอร์เล็กน้อย เขามีผมสีเงินสว่างแลดูมีออร่าอย่างน่าประหลาดสมชื่อ อากิฮิโกะ ที่แปลว่าเจ้าชายผู้เจิดจรัส ดวงตาคมของเขาเป็นสีทองอำพันที่มักจะฉายแววเล่นสนุกอยู่เสมอ ผิวขาวเนียนไร้รอยตำหนิและใบหน้ารูปไข่ที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มซุกซนแทบตลอดเวลา ทำให้อากิฮิโกะดูเหมือนกับเจ้าชายน้อยที่เอาแต่ใจและซุกซนไม่สมกับอายุ 16 ปีของเจ้าตัว  

     

     

              เอาเข้าแฟมิลี่..มีหวังแฟมิลี่ล่มจมแน่ๆ

     

     

              “อาบิเกล เชสเชอร์ คอนสแตนติน

     

     

              “มาครับ! อ้อ! ทุกคนอย่าลืมนะครับ..ว่าผมหล่อมาก ฮ่าๆๆๆ” ไอ้หมอนี่ช่างมั่นหน้า...  อาบิเกล เชสเชอร์ คอนสแตนติน หรือที่เพื่อนๆในห้องมักจะเรียกเขาว่า อาบิส อาบิสเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงที่สูงที่สุดในห้อง เขามีผมสีเงินสว่างบริสุทธิ์ดูมีออร่าราวกับทูตสวรรค์ก็ไม่ปาน ดวงตาสีฟ้าสว่างดูศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถสะกดทุกสายตาให้มองแต่เพียงเขาได้ในพริบตา และรอยสักเล็กๆรูปโพดำบริเวณใต้ตาก็คือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่เขามี อาบิสเป็นเด็กหนุ่มรูปงาม..เขาสูง 180 เซนติเมตรและมีใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตร ผิวของเขาขาวราวกับชาวเอเชียทั้งๆที่ความจริงแล้วเขาไม่ได้มีเชื้อสายคนเอเชียเลยซักนิดเดียว แม้จะดูบ้าบอแต่สึนะก็สังเกตเห็นว่าในดวงตาสีฟ้าสว่างแลดูศักดิ์สิทธิ์นั่นกลับมีแววตาบางอย่างที่ดูน่าเกรงขามซ่อนอยู่.. แต่ไอ้นี่มันบ้า..บางทีเขาอาจจะคิดไปเอง

     

     

              “มอร์เต้ มาเอฮาระคุง”

     

     

              “มาครับ” มอร์เต้ มาเอฮาระ หรือที่รู้จักกันในชื่อมอร์เต้ เขาคือเด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งที่สูงเป็นอันดับ 2 ของห้องรองมาจากอาบิส มอร์เต้นั้นเป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาพอตัวเลยในความคิดของใครหลายคน เขามีผมสีแดงเพลิงและดวงตาสีแดงโลหิตที่มักจะดูเฉยชาไม่แสดงอารมณ์อยู่เสมอๆ มอร์เต้ไม่ใช่คนผิวคล้ำ..แต่ผิวของเขาก็ไม่ถึงกับจะเรียกว่าขาวนักหรอก หรืออย่างน้อยมันก็ไม่ได้ขาวเสียขนาดนั้น.. และบางทีในห้อง A นี้เขาอาจจะเป็นคนที่สติดีที่สุดในห้องก็ได้

     

     

              “โมริ เลอา

     

     

              “มาค่ะ!” โมริ เลอา เธอเป็นเด็กสาวร่างโปร่งสูง 169 ซม. ในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดเธอสูงเป็นอันดับ 2 ของห้องรองจากโคริโกะ เลอาเป็นเด็กสาวผิวขาว..เธอมีใบหน้าที่สวยหวานราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ผมสีทองของเธอยาวสลวยลงมาจนถึงกลางหลัง ดวงตาคู่กลมโตสีฟ้าอัญมณีที่บางครั้งก็กลายเป็นสีชมพูราวกับสีของลูกกวาด ริมฝีปากบางที่ดูเชิดเล็กน้อยทำให้เจ้าตัวดูเหมือนหญิงสาวยโสที่เห็นตัวเองเลิศที่สุดในปฐพี และสายตาที่ชอบหรี่มองคนรอบข้างทำให้เจ้าตัวดูเหมือนคนที่สามารถด่าคนอื่นว่า โง่ในทุกครั้งที่มีโอกาส

     

     

              “โฮชิโนะ มุราคามิคุง..เอ๋ นามสกุลนี้มัน..” ประโยคหลังดีโน่พึมพำเสียงเบาๆก่อนจะหันไปสบตากับสึนะที่หันมาทางเขาเหมือนสนใจเด็กหนุ่มที่ใช้นามสกุลมุราคามิอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

     

     

              “ม..มาครับ..” เด็กหนุ่มตรงหน้าที่ปรากฏในสายตาคือเด็กหนุ่มร่างบอบบางดูไร้พิษภัย เขาสวมเสื้อผ้าตัวใหญ่กว่าร่างกายของตัวเอง ผมสีดำสนิทที่ดูยุ่งๆฟูๆและดวงตาสีดำรัตติกาลที่ถูกปกปิดไว้ด้วยแว่นกลมๆที่หนาเตอะ ผิวที่ขาวจนซีดเหมือนคนที่ไม่ถูกแสงแดดมาเป็นเวลานาน สึนะเหลือบมองโฮชิโนะเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ..บอกแล้วไงว่าพวกอ่อนโยนผิดวิสัยและพวกเฉิ่มผิดวิสัยนั่นแหละที่น่าสงสัยที่สุด ว่าพลางก็เหลือบไปมองคิทสึเนะที่ยังดูอ่อนโยนอยู่ตลอดเวลา

     

     

            ไอ้ 2 คนนี้มันต้องเป็นคนจำพวกเดียวกันแหงๆ..

     

     

     

     

              “อาคาชิคุง ไปเข้าแถวกันเถอะครับ” คุโรโกะดึงชายเสื้อของอาคาชิที่กำลังมองไปที่สึนะโยชิอย่างจับผิดจนอาคาชิสะดุ้งเล็กน้อย  ดวงตาคมสองสีเหลือบมองคุโรโกะก่อนจะยกยิ้มบางแล้วพยักหน้ารับเบาๆ แต่ถึงกระนั้น..ในใจกลับรู้สึกว้าวุ่น ตราบใดที่เขายังไม่สามารถรู้ได้ว่าความไม่ธรรมดาที่แฝงตัวอยู่ในความธรรมดาของอีกฝ่ายนั้นคืออะไร เขาก็จะไม่สามารถกำจัดความรู้สึกแปลกๆในใจไปได้แน่นอน..

     

     

              เขาต้องรู้ให้ได้..

     

     

              ตัวตนที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากใสซื่อนั่น..

     

     

              ซาวาดะ สึนะโยชิ..คนธรรมดาที่มีบรรยากาศรอบตัวที่แสนแปลกประหลาด..

     

     

              “เอาล่ะครับ นักเรียนห้อง A ทุกคนไปที่เครื่องบินลำแรกนะครับ ส่วนห้อง B ไปที่เครื่องบินลำที่ 2 “ ดีโน่ประกาศด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนจะวางโทรโข่งลงแล้วเดินนำนักเรียนห้อง A ทุกคน (รวมถึงพวกสึนะ)ไปที่เครื่องบินลำแรกที่มีลวดลายสีทองอร่ามว่า Vongola Decimo X ส่วนลำที่ 2 เป็นเพียงเครื่องบินธรรมดาๆ

     

     

              ดูแค่ภายนอกก็รู้ได้เลยว่าลำไหนหรูหรากว่ากัน =__=

     

     

              “ทำไมพวกเราถึงไม่ได้ไปอยู่ลำนั้นล่ะฟะ! เอาเปรียบกันนี่หว่า!” เด็กชายตัวประกอบ A จากห้อง B พูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจพลางชี้ไปที่พวกห้อง A ที่หันกลับมามองเพราะได้ยินเสียงโหวกเหวก

     

     

              “นั่นดิ! ทำไมพวกเจ้าห่วยถึงได้ไปอยู่ลำนั่นฮะ!!” เด็กชายไร้หน้าตัวประกอบ B จากห้อง B พูดสมทบ

     

     

              “นั่นสิคะ! ไหนความยุติธรรมของเราคะอาจารย์!” เด็กสาวไร้นามตัวประกอบ C เอ่ยขึ้นบ้างพลางหันไปหา ทาคามิยะ ไคโตะ อาจารย์ฝึกสอนซึ่งตอนนี้ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของพวกห้อง B อยู่ด้วยสีหน้าไม่พอใจ

     

     

              ไม่พอใจยังไงก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ..

     

     

              สึนะคิดในใจก่อนจะลอบยิ้มเล็กน้อย..ก็เพราะพวกเขาเป็นคนพิเศษ ส่วนพวกเธอเป็นคนธรรมดา..ระดับจะต่างกันแล้วมันผิดตรงไหน J

     

     

              “เอาล่ะ ไม่ต้องสนใจพวกห้อง B แล้วขึ้นเครื่องได้เลยนะครับห้อง A ทุกคน” ดีโน่ละความสนใจจากเด็กห้อง B ก่อนจะหันมาสนใจนักเรียนในการปกครองของตนเองแล้วพูดจาฉะฉาน เพียงแต่พอเดินไปไม่กี่ก้าว..

     

     

              โครม!!!

     

     

              เขาก็สะดุดขาตัวเองล้มลงไปกองกับพื้นปูนซีเมนต์ทันที..

     

     

              อนาถโดยแท้..

     

     

              “อาจารย์ของเราซุ่มซ่ามขนาดนี้เลยเหรอ..” มิโดริมะพูดขึ้นพลางเหงื่อตก ดวงตาสีเขียวภายใต้กรอบแว่นเหลือบตามองอาจารย์ดีโน่ที่ล้มไม่เป็นท่าอยู่บนพื้น

     

     

              “ถามว่าซุ่มซ่ามขนาดนี้มาเป็นอาจารย์ให้พวกเราได้ไงดีกว่าเหอะ” โมริ เลอา พูดขึ้นบ้างก่อนจะเชิดหน้าไปทางอื่นเหมือนไม่อยากมองสภาพอาจารย์ของตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว  ถึงทุกคนจะระอา..แต่ทุกคนก็รักอาจารย์พอตัวอยู่ล่ะนะ ฮึๆๆ

     

     

              “อ..อ่า ขึ้นเครื่องกันเถอะครับ” ดีโน่พยุงตัวลุกขึ้นยืนโดยการช่วยเหลือของสึนะและยามาโมโตะ (ที่ทนมองไม่ได้) ก่อนจะเดินขึ้นเครื่องบินไปโดยมีสึนะและยามาโมโตะช่วยพยุงเหมือนเดิมนั่นแหละ 

     

     

              “เจ้าม้าพยศนั่นกล้าดียังไงมาทำให้รุ่นที่ 10 เป็นห่วง!!” โกคุเดระโวยวายก่อนจะหุบปากลงเมื่อสังเกตเห็นดวงตาคมกริบของสึนะที่มองมาเป็นเชิงให้เงียบ อย่างน้อยการที่เจ้าตัวมัวแต่เรียกเขาว่ารุ่นที่10 รุ่นที่ 10 อยู่แบบนี้ก็มีแต่จะทำให้เสี่ยงต่อการความลับแตกมากขึ้น อีกอย่างพวกเขาก็ยังคิดแผนที่จะทำให้พวกนักบาสพวกนั้นมาเป็นมาเฟียไม่ออกเลยซักนิดเดียว

     

     

            บ้าเอ้ย...

     

     

              “อา..ผมต้องขอบคุณคุณฮิบาริสินะครับที่อุตส่าห์ยอมขึ้นเครื่องบินน่ะ” สึนะยิ้มเจื่อนๆก่อนจะหันไปมองฮิบาริที่อยู่ข้างๆ ฮิบาริมองสึนะชั่ววูบหนึ่งก่อนจะเดินออกจากโซนที่ยืนอยู่ทันที

     

     

              เครื่องบินลำนี้แบ่งออกเป็น 3 โซน โซนที่ 1 คือโซนที่พวกอาคาชิและพวกห้อง A อยู่ในตอนนี้ เป็นโซนที่เหมือนกับที่นั่งผู้โดยสารของเครื่องบินทั่วไป  ส่วนโซนที่ 2 เป็นโซนที่พวกสึนะและดีโน่อยู่ เป็นโซนที่เก็บเสียงและมีที่นั่งเป็นโซฟาสีแดงสดและโต๊ะกระเบื้องที่ดูหรูหรามีระดับเอามากๆ และโซนสุดท้ายคือโซนส่วนตัว ถูกแบ่งออกเป็น 7 ห้องสำหรับนภาและผู้พิทักษ์ 7 คน..เป็นไงล่ะ? หรูใช่มั้ย? แต่การเดินทางน่ะ..มันพึ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    3 / 01 / 2016

              ขอโทษด้วยค่ะที่มาอัพได้แค่นี้..พอดีสมองตีบตันคิดต่อไม่ออกค่ะ แงๆๆ T^T

              อยากบอกว่าตอนนี้ยาวมากประมาณ 24 หน้า Word เลยทีเดียว แค่ 15% นี้ก็ 7 หน้า Word แล้วนะคะไม่อยากจะโม้ TT

              ไว้สมองแล่นเมื่อไหร่จะมาแต่งต่อนะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนค่ะ J

              ปล. ยังไม่เช็คคำผิดนะคะ

    2 / 4 / 2016

              เฮ! ในที่สุดก็ได้ตัวละครใหม่และแต่งครบ 100% แล้วค่ะ!

              ประวัติคร่าวๆของตัวละครใหม่สามารถไปดูได้ที่  จิ้ม!

              และหากไม่เข้าใจว่าใครธาตุเอาไรบ้างก็สามารถไปทำความเข้าใจได้ที่ จิ้ม!

              ยังไม่แก้คำผิดนะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนค่ะ!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     
     
    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×