ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Reborn+KNB } World of Mafia โชคชะตาพาสู่สงครามมาเฟีย[Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #4 : ♜ : Chapter Two : Wheel of fortune

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 58


    Chapter Two :  Wheel of fortune

     

     

     

              “เอาล่ะ ที่นี้ฉันจะพูดถึงประวัติศาสตร์ของอิตาลี..”

     

     

            ที่นี่มันญี่ปุ่นแล้วเรียนประวัติศาสตร์ของอิตาลีทำไมครับครู..!!!

     

     

              ถ้าเป็นไปได้เหล่านักบาสทั้งหลายก็อยากจะตอบกลับไปแบบนั้น  วิชาประวัติศาสตร์ที่แสนน่าเบื่อยังคงดำเนินต่อไป  โลกนี้มันช่างทำร้ายเหล่านักบาสคนหล่อเป็นอย่างยิ่ง..ยิ่งสำหรับอาโอมิเนะที่มีผลการเรียนจะตกอยู่รอมร่อ  แค่ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นยังเอาตัวไม่รอด..แล้วที่นี่จะสอนประวัติศาสตร์อิตาลี!! เมื่อมองไปรอบๆห้องก็จะสังเกตเห็นว่าเหลือโต๊ะว่างอยู่ 7 ที่  ถ้าอาคาชิเดาไม่ผิดก็คงจะเป็นพวกโดดเรียนไม่ผิดแน่  แต่ว่า..ที่ผิดสังเกตก็คือครูผู้สอนกลับไม่พูดอะไรและไม่ต่อว่าอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวทั้งๆที่การที่นักเรียนโดดไป 7 คน โต๊ะว่าง 7 โต๊ะ มันออกจะสะดุดตาแท้ๆ!

     

     

              มันคงจะปกติอยู่หรอก..แต่นี่มันว่างมาตั้งแต่คาบแรก!!

     

     

              พับผ่าสิ! นี่ถ้าโดดแค่คาบเดียวก็ว่าไปอย่าง..แต่นี่โดดตั้งแต่คาบแรกจนนี่แทบจะหมดวันอยู่แล้ว!! ทำไมอาจารย์ไม่ด่าอะไรบ้าง  นั่นมันคือจุดที่น่าสงสัยที่สุด..!

     

     

              “อาคาชิคุง..ดูเหมือนว่าพวกซาวาดะคุงจะยังไม่เข้ามาเรียนเลยนะครับ” คุโรโกะหันมากระซิบกระซาบกับร่างสูงผมสีแดงเพลิง  ยังดีที่เขาทั้งคู่ได้นั่งใกล้กันอาคาชิจึงไม่เหงา(?)ซักเท่าไหร่..แต่โต๊ะข้างหลังเขา  ที่เขาพึ่งได้รู้ว่าเจ้าของที่นั่งนั้นชื่อ ซาวาดะ สึนะโยชิ กลับยังไม่เข้ามาเรียนเลยนับตั้งแต่พวกเขาแนะนำตัวเสร็จเมื่อคาบแรก

     

     

              “นั่นสินะ..” อาคาชิตอบไปเพียงเท่านั้น..ยิ่งเขาเห็นใบหน้าน่ารักของคุโรโกะแสดงออกว่าสงสัยแบบสุดๆนั่นเขายิ่งอยากจะจับมากอดจูบลูบคลำ(?)ซะให้เข็ด  แต่เดี๋ยวก่อน..นี่มันในห้องเรียน! ไว้ถึงคอนโดก่อนเถอะ!

     

     

              “ถ้าฉันโดดด้วยจะเป็นอะไรรึเปล่านะอาคาชิจจิ T^T” หมาน้อยคิเสะเริ่มเบ้ปากเมื่อได้ยินประวัติศาสตร์ที่อาจารย์กำลังร่ายยาวอยู่หน้าชั้นเรียน  อาคาชิและคุโรโกะถอนหายใจพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย..ถ้าเป็นไปได้พวกเขาก็อยากทำอยู่เหมือนกันนั่นแหละนะ..

     

     

              เฮ้..สาบานได้เลยว่าพวกเขาเป็นเด็กดีไม่เคยโดดเรียน  .__.

     

     

              “เอาล่ะนะ..ทีนี้ฉันอธิบายเกี่ยวกับมาเฟียของอิตาลี” หนุ่มนักบาสทั้ง 7 ปล่อยให้คำอธิบายเหล่านั้นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาต่อไปโดยไม่เก็บเกี่ยวมาคิดแม้แต่น้อย  สิ่งเดียวที่พวกเขารับรู้จากการฟังคืออาจารย์ผู้ชายแก่ๆหน้าชั้นเรียนกำลังพูดอะไรซักอย่างเกี่ยวกับมาเฟียของอิตาลี  พวกเขาจับใจความได้แค่นั้นจริงๆ..

     

     

              ก็แหม..มันน่าเบื่อนี่นา

     

     

              โดยที่พวกเขาคงไม่รู้ตัว..ว่าตอนนี้สายตาคู่หนึ่งของใครบางคนกำลังจับจ้องสังเกตพฤติกรรมของพวกเขาอยู่  อดีตอัลโกบาเลโน่ธาตุอรุณ..นักฆ่าที่เก่งที่สุดในโลกซึ่งปัจจุบันอยู่ในรูปลักษณ์ของเด็กชายกำลังมองพวกเขาผ่านทางกล้องส่องทางไกลจากมุมหนึ่งของโรงเรียน..

     

     

              “นายชักจะสนใจพวกนั้นเกินไปหน่อยรึเปล่านะรีบอร์น” บนดาดฟ้าของอาคารเรียนฝั่งตรงข้าม..นภาสีครามบอสรุ่นที่ 10 ของวองโกเล่กำลังนั่งทอดสายตามองไปยังท้องฟ้าด้วยความเบื่อหน่าย  เพราะฮิบาริผู้พิทักษ์เมฆาของเขาค่อนข้างที่จะมีอิทธิพลต่อโรงเรียนนี้  อีกทั้งวองโกเล่แฟมิลี่ก็ช่วยโรงเรียนนี้เอาไว้ในหลายๆความหมาย  ดังนั้นการที่พวกเขาจะโดดเรียนหรือตัดสินใจไม่เรียนเลยซักคาบมันก็ไม่มีปัญหาอะไร  เพราะยังไงซะการที่พวกเขากลับมาเรียนมันก็แค่เพราะหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น

     

     

              “แต่ผมไม่ชอบขี้หน้าเจ้าพวกนั้นเลย..” โกคุเดระพูดขึ้นพลางเบะปากอย่างไม่พอใจ  ก็ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่ถูกชะตา..ก็แค่มีความรู้สึกว่าเจ้าพวกนักบาสบ้าพวกนั้นจะนำหายนะมาให้

     

     

              “สึนะ..” เหมือนกับอยู่ดีๆสัญชาตญาณความห่วยที่หายไปนานตั้งแต่มัธยมต้นถูกปลุกขึ้น  ร่างโปร่งของสึนะโยชิสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของอาจารย์สอนพิเศษเรียกด้วยน้ำเสียงที่ดูมีเลศนัยแบบนั้น  เลือดในกายมันกำลังร้องบอกว่าหายนะกำลังจะมาเยือนเขาในไม่ช้า..สิ่งที่อาจารย์นักฆ่าต้องการแต่ล่ะอย่างมันไม่เคยหามาได้ง่ายๆเลยซักครั้งเดียว

     

     

              “ม..มีอะไรเหรอรีบอร์น” สาบานได้ว่าหากเป็นปกติสึนะคงจะยังเป็นบอสที่พึ่งพาได้  แต่ในยามนี้อาการหวาดกลัวอาจารย์นักฆ่าของตนกำลังกัดกินทั้งสมองและหัวใจ  พร้อมรู้สึกได้ว่าหายนะกำลังจะมาเยือนพวกเขาอย่างแน่นอน..

     

     

              “เอาเจ้าพวกนั้นเข้าแฟมิลี่ซะ..”

     

     

              เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำเอาบอสวองโกเล่และเหล่าผู้พิทักษ์ตาโตเท่าไข่ห่าน..

     

     

              “อะไรนะ!!!” ถือซะว่ายกเว้นฮิบาริกับมุคุโร่ที่ไม่ได้หลุดตะโกนถามออกไปแบบนั้น  แม้ความจริงจะเกือบมาดหลุดอยู่รอมร่อแล้วก็ตามที..พูดตรงๆเขาทั้งสองก็ไม่ได้สนใจอะไรพวกนักบาสนั่นนัก  แต่ถ้าจะบอกว่าชอบรึเปล่าคงต้องตอบว่าไม่ชอบและไม่ถูกชะตาเป็นอย่างมาก 

     

     

              “แกต้องทำทุกวิถีทางให้เจ้าพวกนั้นเข้ามาร่วมเป็นแฟมิลี่เดียวกับแก..” นักฆ่าที่เก่งที่สุดในโลกยังคงยืนยันคำขอร้อง ไม่สิ..ต้องบอกว่าเป็นคำสั่ง..รีบอร์นยังคงยืนยันคำสั่งเดิมทำให้เหล่าผู้พิทักษ์ที่อึ้งวิญญาณหลุดจำต้องวิญญาณกลับเข้าร่างอย่างเสียมิได้  ฝั่งสึนะที่สัญชาตญาณความห่วยถูกปลุกขึ้นมาก็จำต้องตั้งสติและพยายามใจเย็นให้มากถึงมากที่สุด  ถึงแม้เขาจะเก่งขึ้นมากแค่ไหน..แต่เมื่ออยู่กับรีบอร์นก็เหมือนถูกปลุกสัญชาตญาณความห่วยเมื่อครั้งวัยเยาว์ขึ้นมาอะไรทำนองนั้นทุกที  หรือบางทีมันอาจจะเป็นเพราะการฝึกหนักปางตายของรีบอร์นที่เขายังคงจำฝังใจอยู่กระมั้ง..มันถึงได้ทำให้เขายังคงหวาดผวาทุกครั้งเวลาที่มีรีบอร์นอยู่..

     

     

              “แต่จะสนใจอะไรก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยสิรีบอร์น! จะให้นักบาสมาเป็นมาเฟียน่ะเหรอ..ไม่มีทาง!” สึนะจัดการข่มความกลัวก่อนจะหันไปพูดกับอาจารย์สอนพิเศษของตนที่ยังคงแอบมอง(?)เหล่านักบาสทางกล้องส่องทางไกล

     

     

              “แต่นายก็ทำให้นักเบสบอลเป็นมาเฟียไปแล้ว..” แค่ประโยคเดียวทำเอาบอสร่างโปร่งจากวองโกเล่รู้สึกเหมือนโดนตีเข้ากลางแสกหน้า  จะว่าไปมือซ้ายของเขาอย่างยามาโมโตะก็เคยเป็นนักเบสบอลมาก่อนนี่นะ..ให้ตาย! ทำไมเขาถึงไม่เคยเถียงชนะเจ้ารีบอร์นเลยซักครั้งก็ไม่รู้!!

     

     

              “ฮะๆๆ คิดอีกทีก็น่าสนใจเหมือนกันนะสึนะ..ลองดูเถอะ” ยามาโมโตะพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีพลางวางมือไว้บนไหล่ของบอสสัตว์น้ำอย่างเนียนๆ 

     

     

              “อย่ามาเนียน..เจ้าสัตว์กินพืช!” เพียงแค่เห็นภาพอันไม่น่ามอง(?)  เหตุใดถึงกล้ามาแตะต้องสัตว์กินพืชของเขา(?)กัน..คิดได้ดังนั้นคุณพี่ฮิบาริผู้โหดสัสรัสเซียก็หยิบทอนฟาขึ้นมาก่อนจะตั้งการ์ดเตรียมโจมตีพิรุณแห่งวองโกเล่ทันทีทันใด

     

     

              “คุฟุฟุ..อย่าแตะต้องสึนะโยชิคุงของผมสิครับ” สายหมอกสับปะรดนี่ก็อีกคน..พอพูดจบก็หยิบสามง่ามมาตั้งท่าเตรียมตัวโจมตีทันที  คิดแล้วทูน่าโยชิก็อยากจะกรีดร้องเสียเหลือเกิน..เขาไม่ใช่ของใครทั้งนั้นแหละ!!

     

     

              “ให้ตายเซ่..พวกนายก็โตๆกันแล้วหยุดทะเลาะกันแล้วไปหาวิธีให้พวกนั้นเข้าร่วมแฟมิลี่ดีกว่าสุดขั้ว!!” คนที่ห้ามการทะเลาะกันไม่ใช่ผืนนภาสีครามเหมือนที่ใครๆคิด  แต่เป็นผู้พิทักษ์อรุณแห่งวองโกเล่ที่พยายามห้าม..แต่ถึงห้ามไปเจ้าพวกนั้นก็คงจะไม่ฟังอยู่ดี

     

     

              เคว้ง! ปัง! โครม! ตุบ! พลั่ก! กึก!

     

     

              เสียงสู้กันบนดาดฟ้าดังเปรี้ยงปร้าง..แต่ที่สู้กันไม่ใช่เมฆาและสายหมอกรุมโจมตีพิรุณแต่อย่างใด  แต่มันเป็นการสู้กันเองของเมฆาและสายหมอกต่างหาก! ยังคงดีที่ทั้งคู่สู้ด้วยอาวุธประจำกายมิได้ใช้อาวุธกล่องหรือพลังแปลกประหลาด..มิเช่นนั้นคงเกิดข่าวลือสิ่งมหัศจรรย์ที่ 8 ของโรงเรียนนามิโมริเป็นแน่แท้!!

     

     

              กาลเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก..เวลาเย็นซึ่งน่าจะเป็นเวลาชมรมของเหล่านักเรียน  กลุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยนทั้ง 7 เดินออกจากโรงเรียนเพื่อที่จะไปหาสนามบาสสำหรับฝึกซ้อม  เหตุเพราะไม่มีสนามบาสในโรงเรียนนามิโมริ..แม้อยากจะบ่นมากแค่ไหนก็ตาม  แต่เอาเถอะ..ในเมื่อมันไม่มีสนามบาสก็คือไม่มี  เหล่านักบาสทั้ง 7 จึงต้องเดินทางออกต่างหาสนามที่สามารถใช้การได้...

     

     

              “ดีจ้า!

     

     

              “เห้ย!!” เอาเป็นว่านักบาสหนุ่มทั้ง 7 เป็นอันตกใจแทบหงายหลังเมื่อเห็นเด็กทารกในชุดสูทและหมวกสีดำกระโดดมายืนตัดหน้า..บนไหล่ขวามีกิ้งก่าสีเขียวดูน่าจะเชื่อง เห้ย! ไม่ควรจะมาคิดเรื่องแบบนั้นในเวลานี้นี่!!

     

     

              “ไม่ใช่ผีครับ เด็กต่างหากล่ะครับคิเสะคุง..” ฝ่ายคุโรโกะก็ต้องหันไปอธิบายให้กับเจ้าหมาน้อยคิเสะที่หลบอยู่ด้านหลังเหมือนเด็กๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็สูงกว่าเขาอยู่มากโข..ภาพที่คนผมทองซึ่งตัวสูงกว่ามาหลบหลังคนผมฟ้าซึ่งเตี้ยกว่านี่คงเป็นภาพที่น่าขำน่าดู  หมดสภาพนายแบบเลยล่ะทีนี้...

     

     

              “เจ้าเด็กนี่ใครน่ะ..” ชายร่างสูงผมแดงนามคางามิถามขึ้น..รู้สึกเหมือนตาขวากระตุกยังไงชอบกล  เหมือนกับว่าเด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติหรือหายนะมาให้อะไรทำนองนั้น =_=

     

     

              “ในรายการบอกว่าในวันนี้เด็กจะพาหายนะมาให้ราศีกุมภ์ ราศีสิงห์ ราศีเมถุน ราศีกรกฎ ราศีกันย์ ราศีตุลย์ และราศีธนูน่ะ นาโนะดาโยะ ” มิโดริมะพูดขึ้นบ้างหลังจากที่ไร้บทมานานก่อนจะดันแว่นขึ้นตามความเคยชิน  แต่สิ่งที่เขาพูดกลับทำให้ทุกคนตัวแข็งทื่อเป็นหิน..

     

     

              “นั่นมันราศีเกิดของพวกเราไม่ใช่เรอะ!” อาโอมิเนะพูดขึ้นบ้าง..ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดผวา  ทั้งๆที่ความจริงไม่เคยคิดที่จะเชื่อไอรายการบ้าๆที่มิโดริมะชอบแท้ๆ  แต่ไหงวันนี้เขากลับรู้สึกเสียวสันหลังวาบเหมือนกับว่าไอคำทำนายบ้าๆนั่นจะเป็นจริงขึ้นมาอะไรทำนองนั้น

     

     

              “หาสนามบาสอยู่ใช่มั้ยล่ะ?” เด็กในชุดสูทพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่พวกเขาลงความเห็นพร้อมกันว่ามันดูใสซื่อแบบแปลกๆพิกล  พูดให้เข้าใจง่ายก็คือดูซื่อเกินไปจนไม่น่าไว้วางใจ..

     

     

              “ง่ำๆ..เด็กนี่จะหาสนามบาสให้พวกเราแหละอาคาจิน” มุราซากิบาระพูดขึ้นพลางพลางเคี้ยวขนมในปากไปด้วย  ในมือคือขนมสองถึงสามห่อซึ่งโดนแกะไปแล้วห่อนึง 

     

     

              “ฉันชื่อ รีบอร์น ฉันหาสนามบาสให้พวกนายได้นะ..” เด็กคนนั้นที่บอกว่าตัวเองชื่อรีบอร์นยังคงพูดต่อไป  แต่ในความเห็นของพวกเขาเหล่านักบาสกลับรู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อถือเลยซักนิด!!  จนกระทั่งใครบางคนเดินเข้ามาในฉาก..

     

     

              “เฮ้! รีบอร์น..อย่าทำอะไรโดยไม่ถามความเห็นคนอื่นแบบนี้สิ!” ชายหนุ่มร่างโปร่งบางเจ้าของใบหน้าหล่อหวานและผมสีน้ำตาลเข้มรวมถึงดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้วิ่งเข้ามาในฉากพร้อมกับอุ้มรีบอร์นขึ้นมา  ดวงตาสีน้ำตาลมองอาจารย์ของตนอย่างนึกตำหนิในใจ  ทำอะไรไม่ถามความเห็นพวกเขาเลยซักคำ..อยู่ดีๆก็วิ่งมาหาคนพวกนี้เสียเอง!!

     

     

              “อ้าว..นายคือ ซาวาดะคุง?” คุโรโกะพูดขึ้นพลางเอียงคอแบบมึนงงเล็กน้อย

     

     

              “อ๋อ พวกคุณที่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนนี่ครับ..แล้วก็เรียกผมว่าสึนะดีกว่านะ ฮะๆ” สึนะยิ้มแหย่ๆเพราะไม่ค่อยชินเท่าไหร่กับการถูกเรียกด้วยนามสกุล บุคคลผู้เป็นนักบาสทั้งเจ็ดพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะเลิกคิ้วอย่างสงสัยอีกครั้งเมื่อเห็นเด็กตัวเล็กที่สึนะอุ้มอยู่กำลังจะพูดอะไรซักอย่าง..

     

     

              “ว่าแต่จะหาสนามบาสให้พวกเราได้จริงๆเหรอ..?” คิเสะถามขึ้นบ้างพลางมองรีบอร์นอย่างสงสัย  ในวินาทีนั้นเองที่รีบอร์นยกยิ้มแปลกๆ  แม้คนอื่นจะไม่ทันสังเกตที่มันไม่อาจหลีกเลี่ยงสายตาที่ดีเกินมนุษย์ธรรมดาอย่างสึนะและอาคาชิไปได้..

     

     

              “หาได้สิ สึนะก็รู้จักนี่นา..” ในวินาทีนั้นเองดวงตาทั้ง 7 คู่หันมามองที่สึนะอย่างมีความหวัง

     

     

            เจ้ารีบอร์นคงหมายถึงที่นั่นสินะ (=__=;)

     

     

              “อืม มันอยู่ที่ฐาน เอ่อ..เอาเป็นว่าตามฉันมาแล้วกันนะ” ใครจะไปกล้าบอกว่าอยู่ในฐานทัพลับใต้ดินของวองโกเล่สาขานามิโมริ  ให้ตายเถอะเจ้ารีบอร์น..นี่คิดจะลากเหยื่อเข้าถ้ำเลยรึไงฟะ!! ไอ้$%^%*&((&%^%#$# ด่ากับปากไม่ได้ขอด่าในใจก็แล้วกัน!!

     

     

              “โอเค..” เอาเป็นว่าทุกคนยินดีปรีดากันอย่างพร้อมเพรียง  บางทีไอ้รายการบ้าๆนั่นที่มิโดริมะชอบดูก็คงจะเป็นรายการลวงโลกจริงๆนั่นแหละ  หายนะอะไรกัน..ช่วยหาสนามบาสให้แบบนี้นำโชค(?)ล่ะสิไม่ว่า!!  บอสทูน่าโยชิเดินนำทุกคนไปยังศาลเจ้านามิโมริซึ่งเป็นหนึ่งในทางเข้าฐานทัพ  เอาเป็นว่าทุกคนกำลังยินดีปรีดาที่จะมีสนามบาสให้เล่น..ยกเว้นเสียแต่อาคาชิคนนึงซึ่งกำลังสังเกตพฤติกรรมของบอสทูน่ากับนักฆ่ารีบอร์นอยู่อย่างเงียบๆ..

     

     

              “ที่ศาลเจ้านี่น่ะเหรอ!?” คางามิถามอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก  เพียงแต่ได้รับการพยักหน้าเบาๆและรอยยิ้มจางๆเป็นคำตอบ 

     

     

              “รอซักครู่นะ..แฮะๆ” นภาแห่งวองโกเล่ยิ้มแหย่ก่อนจะขยับมือเข้าไปแตะที่เสาต้นหนึ่งของศาลเจ้า  ฉับพลันที่เกิดบันไดให้เดินลึกเข้าไปคล้ายๆกับข้างใต้ของศาลเจ้าแห่งนี้..ช่างน่าแปลกที่แม้พวกเขาจะพยายามหลีกเลี่ยงไม่สร้างฐานลับที่เดียวกับอนาคตที่เห็น  แต่เมื่อคิดไปคิดมาคำนวณไปคำนวณมาสุดท้ายก็กลายเป็นที่เดียวกัน..

     

     

              “โห!! สุดยอดไปเลยแฮะ!” อาโอมิเนะเบิกตากว้างอย่างอึ้งตะลึงปนตกใจ..มันเหมือนกับพวกหนังมาเฟียไม่ก็หนังบู๊หนังย้อนเวลาไปอนาคตที่เขาเห็นเลย  อ้อ! มันเหมือนการ์ตูนเรื่องที่เจ้าห่วยเป็นมาเฟียแล้วมีครูสอนพิเศษเป็นนักฆ่าด้วยนี่นะ เอ..ชื่อเรื่องอะไรนะ? ช่างเถอะ...

     

     

              เส้นทางดูวกวนราวกับเขาวงกต..สึนะเดินนำทางพวกเขาจนมาหยุดอยู่ที่ห้องๆหนึ่ง  ห้องขนาดกว้างที่มีสนามบาสและแป้นบาสภายในห้อง  มีประตูทางทิศตะวันออกของห้องซึ่งมีป้ายบอกว่าเป็นห้องน้ำ  สนามบาสเป็นสนามตามมาตรฐานเหมือนกับที่โรงเรียนของพวกเขา..

     

     

              “ซ้อมในนี้แล้วก็ช่วยอย่าออกมาเดินข้างนอกนะเพราะจะหลงเอา ถ้าซ้อมเสร็จแล้วให้กดปุ่มสี่เหลื่อมที่หน้าประตูนี่นะ แล้วเดี๋ยวฉันจะมารับแล้วพาออกไปข้างนอก” บอสทูน่าพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ  ทุกคนพยักหน้ารับกันอย่างมึนๆงงๆโดยไม่ทันได้เอะใจว่าบางทีทูน่าน้อยอาจจะมีความลับอะไรซักอย่างก็เป็นได้..

     

     

              ประตูห้องซ้อมถูกปิดลงพร้อมกับนภาแห่งวองโกเล่ที่ออกไปข้างนอกพร้อมกับนักฆ่าที่เก่งที่สุดในโลก..

     

     

              “นายนี่ทำอะไรไม่ปรึกษาฉันเลยนะรีบอร์น..”

     

     

              “ก็แหม..พวกนั้นน่าสนใจดีนี่นา เหมาะจะเป็นแฟมิลี่ของนายมากเลย..”

     

     

              อีกฝั่งของประตู..กัปตันหนุ่มผมแดงเพลิงของกลุ่มนักบาสยืนพิงประตูราวกับกำลังลอบฟังสิ่งที่บุคคลทั้งสองกำลังพูด  แต่ถึงกระนั้น..ก็ไม่ได้เข้าใจอะไรมากขึ้นกว่าเดิมเลยซักนิดเดียว..

     

     

              “แฟมิลี่..? อะไร..?”

     

     

     

    โดยที่พวกเขาทั้งสองไม่รู้ตัว..

     

    ..กงล้อแห่งโชคชะตากำลังขับเคลื่อนอย่างช้าๆ..

     

     

     

     

     

     

    17 / 10 / 2015

              จบไปอีกตอนแล้ว เฮ้อออออ //ถอนหายใจบ่อยนะช่วงนี้

              ยังไม่ตรวจคำผิดค่ะ

              ไม่มีอะไรจะพูดค่ะ 5555 วันที่ 19-23 ตุลาคม มีเที่ยวค่ะ อาจจะไม่ได้มาอัพนะคะ ประกาศเอาไว้ก่อน แหะๆ ก็อ่านแล้วเม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยน๊า

     

     

     

     

     

     

    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×