ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Reborn+KNB } World of Mafia โชคชะตาพาสู่สงครามมาเฟีย[Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #13 : ♜ : Chapter Eight : Survivors Game Ver.Vongola

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 59


    Chapter Eight : Survivors Game Ver.Vongola

     

     

     

              ในห้องรับประทานอาหาร ณ คฤหาสน์ตะวันตก..ตรงกลางห้องคือโต๊ะยาวขนาดที่ว่าสามารถนั่งได้โต๊ะละ 20 คน จำนวน 2 โต๊ะ ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ล้วนทำมาจากวัสดุชั้นดีที่มีราคาสูง เอาเป็นว่ามันราคาสูงมากซะจนแทบจะไม่มีใครกล้าแตะของในคฤหาสน์เลยซะด้วยซ้ำ

     

     

              “หืม พวกสึนะโยชิคุงยังไม่มาเล่นนะครับ” คุโรโกะทักขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มผมน้ำตาลและคนอื่นๆในกลุ่มนั้นยังไม่เข้ามาในห้องอาหารแต่ทุกคนกลับเริ่มกิน(หรือกระโจนเข้าหา(?)อาหารตรงหน้าเสียแล้ว

     

     

              “ไม่เป็นไรหรอกคุโรโกะคุง ทุกคนกินตามสบายเลยนะ เดี๋ยวพวกเขามา” สิ้นสุดคำพูดของดีโน่ทุกคนก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย

     

     

              ไม่อยากบอกว่าอาหารที่นี่อร่อยมากและหรูมากกกกกกกก!

     

     

              “มาแล้ว!!!~” เรียวเฮพูดขึ้นเสียงดังก่อนจะรีบวิ่งไปนั่งที่ของตัวเองอย่างรวดเร็ว ภายในห้องอาหารดูครึกครื้นมากขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อมีคนเพิ่มขึ้น

     

     

              “ผมไม่ชอบสุมหัว..” พูดจบท่านฮิบาริสุดหล่อก็ยกจานอาหารของตัวเองแล้วเดินออกจากห้องไปในทันที  สึนะถอนหายใจก่อนจะมองภาพนั้นอย่างปลงๆ ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะยังอยู่กับพวกเขาวองโกเล่ได้ แต่ก็คงยังไม่ชอบอยู่ในสถานที่ๆมีคนมากๆแบบนี้อยู่ดีสินะ ฉับพลันดวงตาสีน้ำตาลเข้มก็สังเกตเห็นบางอย่าง...

     

     

              รีบอร์นกำลังกินข้าวพร้อมกับมองมาที่เขาแล้วลอบยิ้มอย่างมีเลศนัย

     

     

            ...เจ้ารีบอร์นมันวางแผนอะไรของมันอีกวะเนี่ย...

     

     

              “แอนนาทานเยอะกว่านี้หน่อยสิครับ” คิทสึเนะถือช้อนป้อนไปที่ริมฝีปากบางของแอนนาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  สึนะอยู่ร่วมห้องกับคิทสึเนะมาตั้งแต่ ม.1 จะว่าไปเมื่อก่อนเจ้าคิทสึเนะก็ดูอ่อนโยนแบบนี้แหละ เพียงแต่..ดูมีหัวใจมากกว่านี้  ไม่รู้สิ..ถึงจะอ่อนโยนกว่าเดิมแต่คิทสึเนะกลับดูแปลกไปจากเมื่อก่อนราวกับเป็นคนละคน

     

     

              ระหว่างที่เขาไปอยู่อิตาลี..มีอะไรเกิดขึ้นกับคิทสึเนะกันแน่?

     

     

              “ไม่เอา..ฉันอิ่มแล้ว” แอนนาปฏิเสธพร้อมกับฟุบลงกับโต๊ะอาหาร แอนนาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่สึนะเคยเห็นมาบ้างตั้งแต่ตอนที่เขายังอยู่นามิโมริ แต่ตอนนั้นเธออยู่ห้องอื่นแล้วดูเหมือนว่าจะไม่ได้สนิทกับคิทสึเนะมากขนาดนี้  แต่คู่นี้ไม่ดูเหมือนคู่รักหรอก..เขาว่ามันเหมือนคู่พ่อกับลูกซะมากกว่า =__=

     

     

              ดีโน่สบตากับรีบอร์นเล็กน้อยก่อนพูดด้วยน้ำเสียงฉะฉาน

     

     

              “ครูให้เวลากินข้าวอีกครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นให้มาเจอกันหลังคฤหาสน์”

     

     

              “หลังคฤหาสน์..นั่นมันป่าไม่ใช่เหรอฮะ” คิเสะถามด้วยความสงสัย หลังคฤหาสน์นั้นเป็นป่าทึบดูน่ากลัวและน่าจะหลงได้ง่าย การที่ให้ไปรอที่นั่นอาจารย์ดีโน่คิดจะทำอะไรกันแน่

     

     

              “ใช่แล้วล่ะ จะมีกิจกรรมให้ห้อง A ทำกัน” เบียคุรันพูดพร้อมกับฉีกยิ้มหวาน

     

     

              หลังจากนั้นเบียคุรัน ดีโน่ และรีบอร์นก็เดินออกจากห้องอาหารไปอย่างรวดเร็ว บางทีอาจจะไปเตรียมของสำหรับกิจกรรม..

     

     

              “ต..แต่ว่าถ้ากิจกรรมนั่นให้เข้าไปในป่าก็มีสิทธิ์หลงได้น่ะสิ” โฮชิโนะพูดจาตะกุกตะกัก

     

     

              “โดยเฉพาะคนที่ขี้ลืม..” พอรินะพูดจบทุกคนภายในห้องอาหารก็พร้อมใจกันมองไปที่เด็กหนุ่มโชตะผมทองทันที

     

     

              “เอ๋?” ยูโตะขานรับอย่างมึนงงเล็กน้อย ทำไมทุกคนถึงมองเขาด้วยสายตาแบบนั้นหว่า..

     

     

              “อ่า น่าเป็นห่วงจริงๆด้วยสินะ” ทุกคนพูดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

     

     

              ..ครึ่งชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก..

     

     

              ตอนนี้ทุกคนกำลังยืนรวมตัวกันหน้าป่าทึบหลังคฤหาสน์ฝั่งตะวันตก..สาบานได้ว่าพวกเขาก็ไม่ได้อยากมานักหรอก แต่มันเป็นเพราะนี่เป็นกิจกรรมที่ทางวองโกเล่จัดให้กับเด็กห้อง A โดยเฉพาะ (ถามว่าพวกเขาต้องการรึเปล่าก่อนจะได้มั้ย?) ดังนั้นพวกเขาจึงต้องมาอย่างเสียไม่ได้..

     

     

              “พวกเธอห้อง A คือห้องที่เป็นที่คาดหวังของวองโกเล่แฟมิลี่ เพราะฉะนั้นทางวองโกเล่แฟมิลี่จึงได้จัดกิจกรรมพิเศษให้กับห้อง A โดยเฉพาะ และนี่คือหนึ่งในกิจกรรมพวกนั้น” เบียคุรันพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

     

     

              “เคียวโกะกับฮารุไปเตรียมทำอาหาร ส่วนคนอื่นต้องร่วมกิจกรรมโดยไม่มีข้อแม้..ใครถอนตัวจะโดนเจื๋อนทิ้ง”

     

     

              ก็รู้หรอกนะว่าเป็นแค่คำพูดของเด็กทารกที่กำลังถือปืนสีเขียวเล็งมาที่พวกเขา ซึ่งมันอาจจะเป็นปืนปลอมก็ได้..แล้วขนาดเป็นปืนปลอมนะนี่ ทำไมพวกเขาถึงต้องตั้งท่าเตรียมวิ่งหนีกันขนาดนี้ด้วยล่ะฟะ!

     

     

              “กิจกรรมนี้จะจัดขึ้นในป่านี่แหละ” ดีโน่พูดขึ้นก่อนจะฉีกยิ้มโดยไม่วายหันไปสบตากับรีบอร์นเล็กน้อย

     

     

              ทำไมพวกสึนะถึงรู้สึกเหมือนจะมีหายนะมาเยือน..

     

     

              “กิจกรรม?..อะไรเหรอครับ?” อาคาชิถามขึ้นมาอย่างสงสัย กิจกรรมบ้าอะไรจัดในป่าวะครับ..  หรือจะให้มาปลูกป่าลดโลกร้อนไรงี้อ่ะเหรอ = =

     

     

              “Survivors Game เวอร์ชั่นวองโกเล่ J” เพียงแค่ชื่อเกมที่รีบอร์นคิดขึ้นมาก็ทำเอาสึนะและเหล่าผู้พิทักษ์สะดุ้งกันเป็นแถบ

     

     

              Survivors Game เวอร์ชั่นวองโกเล่ คือเกมที่พวกสึนะเป็นคนคิดขึ้นเพื่อฝึกฝนให้กับคนในแฟมิลี่ หรือที่พวกเขาเรียกกันว่า “สมาชิกระดับ E” ซึ่งถือเป็นระดับเด็กที่เข้ามาใหม่ หรือก็คือพวกเด็กที่เขามาฝึกการเป็นคนของแฟมิลี่ ซึ่งก็คล้ายกับเด็กฝึกงานหรืออะไรเทือกๆนั้นโดยจะใช้เวลาทั้งหมด 1 ปี แล้วค่อยเลื่อนขั้นเป็นระดับสูงขึ้นไป แน่นอนว่าเกมที่พวกสึนะคิดย่อมไม่ใช่เกมธรรมดาๆอยู่แล้ว

     

     

              “มันคืออะไรคะ” เลอาถามพลางเลิกคิ้วสูงขึ้น..เธอไม่ค่อยเข้าใจนัก

     

     

              “เดี๋ยวค่อยอธิบายแล้วกันนะครับ ก่อนอื่นจะขอแบ่งฝ่ายเป็นฝ่ายเหยื่อและฝ่ายนักล่า ฝ่ายเหยื่อขอเป็นนักเรียน 9 คน คือ สึนะโยชิ โกคุเดระ ยามาโมโตะ เรียวเฮ แรมโบ้ มุคุโร่ ฮิบาริ โคลม และนาเดชิโกะ แล้วกันนะครับ” เบียคุรันพูดพร้อมกับขยิบตาให้สาวๆของห้อง A แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครหลงเสน่ห์เขาเลย!

     

     

              “เอ๋..แต่ทำไมถึงมีแค่ 9 คนเองล่ะ~~” อากิฮิโกะทักขึ้นเมื่อเห็นว่ามีเหยื่ออยู่แค่ 9 คนซึ่งออกจากน้อยเกินไปหน่อย

     

     

              “ฟังผมก่อนแล้วผมค่อยอธิบายเรื่องนั้นให้ฟังนะครับ ทั้ง 9 คนนั้นเป็นเหยื่อ ส่วนพวกคุณเป็นผู้ล่า มีเวลาเล่นเกม 3 ชั่วโมง โดยภายในเกมทุกคนจะได้รับ ปืนอัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และกระสุนสี (Paintball Gun) เป็นอาวุธ ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมเหยื่อถึงมีเพียง 9 คนซึ่งน้อยกว่าจำนวนผู้ล่าเกือบ 3 เท่า นั่นก็เพราะว่าเหยื่อนั้นจะได้อาวุธไปคนละ 2 อย่างคือปืนอย่างที่บอกไปข้างต้นและมีดสั้นเพื่อใช้ในการดิ้นรนหนีให้พ้นจากนักล่าครับ” เบียคุรันอธิบาย

     

     

              “หรือก็คือเหยื่อจะได้เปรียบตรงที่มีอาวุธระยะประชิดสินะ” มอร์เต้กล่าวขึ้นอย่างสนใจ

     

     

              “แต่มีดสั้นไม่เป็นอันตรายรึไง” อาโอมิเนะถามขึ้นบ้างพร้อมกับเบะปากเล็กน้อย มีดสั้น..ถ้าใช้จริงก็ตายจริงน่ะสิ!

     

     

              “ไม่หรอก เพราะมีดสั้นที่ผมหมายถึงคือมีดที่มีด้ามจับทำจากวัสดุชนิดเดียวกับด้ามจับของมีดที่ใช้เป็นอาวุธ แต่ตรงใบมีดจะทำจากยางชนิดพิเศษที่มีความยืดหยุ่นสูงและไม่คม แต่หากโดนตัวจะทิ้งรอยสีเอาไว้ มันเป็นอาวุธสำหรับการฝึกที่วองโกเล่สร้างขึ้นน่ะ” ดีโน่อธิบายขึ้นบ้าง ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง..

     

     

              “สถานที่ๆใช้คือภายในป่าทั้งป่า ส่วนกติกาการตัดสินแพ้ชนะก็ง่ายๆ..หากผู้ล่าสามารถทำให้เหยื่อ Out ได้หมดภายใน 3 ชั่วโมงก็คือว่าชนะ หรือหากเหยื่อสู้กลับทำให้ผู้ล่า Out ได้หมดฝ่ายเหยื่อก็ชนะ แต่ถ้าหากเหยื่อไม่สามารถล่าผู้ล่าได้หมดก็จะถือว่าผู้ล่าชนะ”

     

     

              ใช่..ถ้าฟังจากกติกาจะพบว่านอกจากเรื่องจำนวนคนแล้วฝ่ายที่เป็นเหยื่อยังเสียเปรียบทั้งเรื่องกติกาที่ใช้อีกด้วย นั่นหมายความว่าวิธีเดียวที่เหยื่อจะชนะคือทำให้นักล่าทุกคนที่มากกว่าเกือบ 3 เท่า Out ให้ได้ ในขณะเดียวกันสำหรับผู้ล่าแล้วหากทำให้เหยื่อ Out หมดก็ชนะ หรือหากทำให้ Out ได้ไม่หมด แต่หมดเวลาเสียก่อนพวกเขาก็ชนะอยู่ดีเพราะนั่นหมายความว่าเหยื่อไม่สามารถล่าผู้ล่าให้ out ได้หมด..

     

     

            ช่างเป็นเกมที่เอาเปรียบซะจริงๆ..

     

     

              “กระสุนสีที่ใช้ของเหยื่อจะเป็นสีแดง ส่วนของผู้ล่าจะเป็นสีฟ้านะครับ เพื่อที่จะสามารถแยกแยะได้ถูก เพราะหากถูกพวกเดียวกันยิงก็ไม่ถือว่าออกนะครับ” เบียคุรันยิ้มน้อยๆ ดวงตาสีอะเมทิสต์พราวระยับ     

     

     

              “อ้อ แต่ละคนจะได้จอมอนิเตอร์ในรูปลักษณ์นาฬิกาเพื่อแสดงพิกัดของฝ่ายตรงข้ามนะ โดยจอมอนิเตอร์นี้จะมีเครื่องแสดงตำแหน่งและสามารถพูดคุยออกคำสั่งผ่านเจ้านี่ได้ด้วย แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าทุกคำพูดต่างฝ่ายต่างได้ยินนะ รวมถึงพวกเราที่จะคอยดูอยู่จะได้ยินและเห็นพวกเธอผ่านจอมอนิเตอร์ในคฤหาสน์ด้วย เอาล่ะ เลือกหัวหน้ามาฝ่ายละ 1 คนสิ” เมื่อดีโน่พูดจบทุกคนในทีมผู้ล่าก็หันไปจ้องกันไปมาระหว่างอาคาชิกับคิทสึเนะ

     

     

              “ให้อาคาชิคุงเป็นเถอะครับ ผมไม่ถนัดอะไรพวกนี้ซักเท่าไหร่” คิทสึเนะยิ้มแหย่ๆก่อนที่ทีมผู้ล่าจะเห็นพ้องกันว่าควรจะให้อาคาชิจักรพรรดิไร้พ่ายเป็นหัวหน้าทีม

     

     

              พวกเขาหันไปมองทีมเหยื่อ..ถ้าวัดจากความแข็งแกร่งแล้ว คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือฮิบาริ (ในสายตาของพวกเขา มุคุโร่ก็แค่ไอโรคจิตคนหนึ่ง) ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่ฮิบาริจะเป็นหัวหน้า..

     

     

              “ทีมพวกเราให้สึนะโยชิคุงเป็นหัวหน้าครับ คุฟุฟุ”

     

     

            ...เอ๋..?

     

     

           เอ๋!!!!!!!!!!!!!

     

     

           ให้เจ้าห่วยเป็นหัวหน้าเหรอ!!!

     

     

              “อ..เอ่อ ท..ทีมพวกเราให้อาคาชิคุงเป็นหัวหน้าครับ” โฮชิโนะที่สติกลับมาก่อนเพื่อนหลังจากเจอการตัดสินใจที่ไม่คาดคิดหันไปบอกอาจารย์(ชั่วคราว)ทั้งสอง

     

     

              “เอาล่ะ ไปเตรียมตัวได้เลยครับ”

     

     

              สิ้นสุดคำสั่งของเบียคุรันทุกคนก็ไปรับอุปกรณ์และจับกลุ่มวางแผนกันทันที

     

     

              “อะไรคือเหตุผลที่ทำให้พวกนั้นเลือกสึนะโยชิเป็นหัวหน้ากันนะ นาโนะดาโยะ” มิโดริมะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยังคงมีความสงสัยอยู่อย่างเต็มเปี่ยม นิ้วชี้เรียวดันแว่นขึ้นก่อนที่ดวงตาสีเขียวมรกตจะเหลือบมองอีกทีมที่ดูจะไม่ทุกข์ร้อนซักเท่าไหร่

     

     

              สึนะนั่งแกว่งขาเล่นอยู่บนลังไม้ซึ่งต่อขึ้นจนสูงพอตัว..โดยที่มีพวกโกคุเดระนั่งอยู่บนลังไม้ที่อยู่ต่ำลงมา เจ้าตัวยังคงยิ้มแย้มตามปกติ..เหมือนจะสนุกสนานกับเกมนี้เสียซะด้วยซ้ำ

     

     

              “ทั้งๆที่กติกามันเสียเปรียบขนาดนั้น  แต่ดูพวกเขาจะไม่ทุกข์ร้อนเลยนา” อาบิสพูดขึ้นบ้างพลางนั่งเท้าคางมองไปยังสึนะโยชิที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนลังไม้ๆหนึ่ง..

     

     

            น่าสนใจนะ..เด็กนั่น

     

     

              “ไปรวมตัวกันซะ ใครไปช้าเดี๋ยวโดนเจี๋ยน!” สิ้นสุดคำสั่งของรีบอร์นทุกร่างก็พร้อมใจกันวิ่งหน้าตั้งไปยังจุดรวมตัวในทันที ทั้งๆที่ใจส่วนนึงก็คิดนะว่าน่าจะเป็นปืนปลอม..แต่ขนาดเป็นปืนปลอมพวกเขายังวิ่งหน้าตั้งกันขนาดนี้เลยเหรอฟะ! พวกทีมผู้ล่าวิ่งไปจุดรวมตัว..ส่วนพวกทีมเหยื่อก็กระโดดลงมาจากลังไม้แล้วไปรวมตัวกันที่จุดรวมตัวเช่นกัน

     

     

               “หลังจากครูบอกว่า Start จะให้ทีมเหยื่อวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อหาที่หลบซ่อน และหลังจากนั้น  20 นาที ทีมผู้ล่าก็เข้าไปล่าในอาณาเขตป่าได้เลย” ดีโน่ฉีกยิ้มกว้าง เขาคิดว่าอย่างพวกสึนะน่าจะทำได้อยู่แล้ว  ความจริงจุดประสงค์ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพราะรีบอร์นและรุ่นที่ 9 ต้องการประเมินทักษะทางกายภาพ การยิงปืน การต่อสู้ การวางยุทธศาสตร์ และการสามัคคีกันภายในกลุ่ม รวมถึงเป็นการทดสอบธาตุพลังไฟของนักเรียนห้อง A บางคนที่พวกเขายังไม่ได้ทดสอบด้วย

     

     

              “ดูเหมือนว่าในขณะที่ทีมพวกเรากดดันแทบตาย ทีมนั้นจะลั้ลลาไม่รู้สึกอะไรเลยแฮะ” คิเสะอธิบายพลางใช้ดวงตาสีอำพันไล่มองสมาชิกทีมเหยื่อทุกคนที่กำลังคุยกันอย่างสบายอารมณ์เหมือนกับว่าไม่ได้รู้จักกดดันอะไรเลย

     

     

              “เอาล่ะ Ready..” เบียคุรันพูดขึ้นเมื่อมองนาฬิกาแล้วพบว่าเป็นเวลา 9 โมงซึ่งถือว่าเป็นเวลาอันสมควรแล้ว ทีมเหยื่อทุกคนอยู่ในท่าเตรียมตัวเรียบร้อย.. ส่วนทีมนักล่าก็จับตามองอย่างลุ้นระทึกด้วยความกดดัน

     

     

              “Go!!

     

     

              ส..สุดยอด!!

     

     

              นั่นคือความคิดของพวกทีมนักล่าทุกคน..เพราะสิ่งที่พวกเขาเห็นคือทีมเหยื่อแต่ละคนที่กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ได้อย่างรวดเร็วราวกับลิง(?)แล้วกระโดดข้ามไปยืนบนกิ่งก้านของต้นไม้แต่ละต้นอย่างชำนาญ ทั้งการกระโดด ความเร็ว ความตัวเบา หรือแม้แต่ทักษะการยืนบนกิ่งก้านของต้นไม้ก็ดูสูงลิ่วราวกับเป็นลิงน้อยจอมซนกลับชาติมาเกิด..

     

     

              “ร..เร็วมาก!” เลอามองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อซักเท่าไหร่นัก แม้แต่เจ้าห่วยสึนะก็ยังสามารถกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้และกระโดดไปยังต้นไม้อีกต้นได้อย่างรวดเร็วและชำนาญได้ไม่แพ้กัน

     

     

              ไม่สิ..

     

     

              เผลอๆจะเร็วกว่าคนอื่นเสียอีก!

     

     

              ทีมเหยื่อทั้ง 9 หายเข้าไปในป่าทึบเรียบร้อยแล้ว..

     

     

              “ทีมนักล่าจะไปวางแผนกันระหว่างนี้ก็ได้นะ อ้อ และถ้าไม่อยากให้อีกทีมได้ยินก็ปิดลำโพงตรงจอมอนิเตอร์จิ๋วด้วยล่ะ” ดีโน่พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ถึงแม้ว่าในใจจะคิดว่าต่อให้พวกนั้นปิดลำโพงก็เอาชนะพวกสึนะไม่ได้อยู่ดีก็เถอะ

     

     

              “ฉันคิดว่าเราควรจัดการคนที่อ่อนที่สุดในทีมก่อน” อาคาชิเสนอความคิดขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าทุกคนจะคิดไว้ในใจอยู่ก่อนแล้วจึงไม่มีใครคิดปฏิเสธความคิดนี้

     

     

              “ผู้หญิงในนั้นมี 2 คนคือ นาเดชิโกะซังและโคลมจัง” รินะพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ดวงตาสีฟ้าคู่สวยไล่มองสมาชิกในทีมเล็กน้อย

     

     

              “จะจัดการผู้หญิงหรือผู้ชายก่อนล่ะครับ” คุโรโกะถามขึ้นมาบ้าง หากจัดการผู้หญิงก่อนก็ต้องโคลมและนาเดชิโกะ แต่หากจัดการผู้ชายก่อน..ก็น่าจะเป็นแรมโบ้ไม่ก็สึนะโยชิ

     

     

              “ฉันคิดว่าเราน่าจะแบ่งทีมกัน” โคริโกะซึ่งปกติไม่ค่อยพูดซักเท่าไหร่พูดด้วยสีหน้าจริงจัง  ก็จริงอย่างที่โคริโกะพูด..พวกเขามีสมาชิกทีมที่มากจนเรียกได้ว่ามากจนเกินไป ถ้าไปรุมกันทีเดียวก็มีแต่จะไปเป็นตัวถ่วงและเกะกะ ไหนจะการเปลืองพลังงานไปโดยไม่ใช่เหตุอีก

     

     

              “งั้นเราจะแบ่งเป็น 2 ทีม ทีมนึง 10 คน ส่วนอีกที 9 คนละกันนะ หัวหน้าทีมแรกคือ ฉัน ส่วนหัวหน้าของทีมที่ 2 คือ..อืม โคริโกะละกัน” อาคาชิกล่าวพร้อมกับลูบคางเล็กน้อยพลางสอดสายตามองสมาชิกแต่ละคนในทีมนักล่าแล้วประเมินความสามารถอย่างคร่าวๆ

     

     

              “งั้นทีมฉันมี ฉัน เท็ตสึยะ เรียวตะ ไดกิ คิทสึเนะ โฮชิโนะ เลอา แอนนา และยูโต” อาคาชิร่ายชื่อสมาชิกของตนเองก่อนจะไล่สายตามองทุกคนเพื่อพิจารณาความสามารถอีกครั้ง

     

     

              “งั้นทีมฉันก็มี ฉัน มิโดริมะ คางามิ มุราซากิบาระ รินะ ริโนะ ฮิคาริ อาบิเกล อากิระ และมอร์เต้..” โคริโกะพูดขึ้นบ้างก่อนจะเหลือบไปมองอาบิสและอากิฮิโกะ ใช่..ชื่อจริงของอาบิสคืออาบิเกล ส่วนชื่อจริงของอากิระก็คืออากิฮิโกะ เธอชอบเรียกอาบิสด้วยชื่อจริงแต่กลับชอบเรียกอากิฮิโกะด้วยชื่อเล่น แปลกใช่มั้ยล่ะ..

     

     

              “งั้นให้ทีมของโคริโกะตามล่าและทำให้โคลมและคุณทาจิบานะ Out ให้ได้ ส่วนทีมของฉันจะโจมตีแรมโบ้และค่อยไปโจมตีสึนะโยชิ ถ้าสำเร็จแล้วคนต่อไปก็คือ เรียวเฮ  ฮายาโตะ ทาเคชิ มุคุโร่ และฮิบาริ” อาคาชิร่ายแผนการให้ฟัง หากคุณลองสังเกตดูดีๆจะพบว่าอาคาชิเรียกทุกคนด้วยชื่อจริงหมด แต่มีเพียงนาเดชิโกะและฮิบาริเท่านั้นที่เขาเรียกนามสกุล  ซึ่งนั่นก็เพราะกับนาเดชิโกะเขารู้สึกว่าเธอเหมือนควีนซึ่งหากไปเรียกชื่อจริง เธอกับเขาคงมีปัญหากันแน่ (เขาไม่อยากมีปัญหากับใครหรอกนะ) ส่วนฮิบาริ...รายนั้นน่ะขย้ำไม่เลือกหน้า ขืนไปเรียกเคียวยะๆได้โดนทอนฟาซัดหัวกลับมาแน่ๆ..

     

     

              “อ่า..ครบ 20 นาทีแล้ว ทุกคนเปิดลำโพงเหมือนเดิมนะ ตลอด 3 ชั่วโมงขอให้เปิดลำโพงไว้ตลอดเพราะพวกเราจะแจ้งสถานการณ์ผ่านทางลำโพงด้วย” เบียคุรันพูดก่อนจะชี้ไปที่จอมอนิเตอร์จิ๋วรูปลักษณ์นาฬิกาข้อมือที่ข้อมือของแต่ละคน

     

     

    “สึนะๆ ได้ยินรึเปล่า..ทีมของเธอเรียบร้อยรึยัง” ดีโน่ซึ่งนั่งเยื้องออกไปนิดหน่อยเริ่มติดต่อกับอีกทีมที่น่าจะเรียบร้อยแล้ว

     

     

    “เรียบร้อยแล้วครับ” เค้าได้ยินเสียงสึนะตอบผ่านทางลำโพงขนาดเล็กที่ติดอยู่ที่จอมอนิเตอร์ แหม..เทคโนโลยีสมัยนี่สุดยอด! พวกเขาล่ะอยากซื้อกลับไปไว้ที่บ้านบ้าง!

     

     

    “ฮ่าๆๆ ซื้อไม่ได้หรอกนะ นี่เป็นของที่วองโกเล่ผลิตนะ เทคโนโลยีของที่อื่นยังไม่ได้พัฒนาได้ไกลถึงขนาดนี้หรอก”

     

     

    ราวกับรู้ใจนักเรียน..เบียคุรันตอบด้วยใบหน้าซื่อๆพร้อมรอยยิ้มที่บางทีพวกเขาก็รู้สึกว่ามันช่างกวนตีนมากกว่าดูหล่อ จริงๆนะ..มันดูกวนเบื้องล่างเอามากๆเลย

     

     

    “ทีมนักล่าเตรียมตัว..” ดีโน่พูดขึ้นทำให้ทีมนักล่าทุกคนไปอยู่ประจำที่

     

     

    “ครับ / ค่ะ”

     

     

    Ready..” ทุกคนอยู่ในท่าเตรียมพร้อม

     

     

    Go!” สิ้นสุดประโยคทีมนักล่าทุกคนก็วิ่งเข้าไปในป่า..คือวิ่งจริงๆนะ วิ่งแบบธรรมดาอ่ะ ไม่ได้กระโดดไปมาอยู่บนต้นไม้ คือสกิลไม่ถึงขั้นงั้นไง..ทำไม่ได้ก็ไม่แปลก

     

     

    หลังจากที่ทีมนักล่าออกจากจุดเริ่มต้นไปแล้ว..

     

     

    “ดีโน่คุง~ นายว่าทีมนักล่ากับทีมเหยื่อใครจะชนะ” เบียคุรันหันมาถามม้าพยศดีโน่ที่ถอดคราบคุณครูออกไปแล้วกลายมาเป็นบอสมาเฟียผู้สง่างาม(?)

     

     

    “ก็ต้องทีมเหยื่อแน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ”

     

     

    “แต่ทีมนักล่าก็เป็นไปได้อยู่นา~

     

     

    “งั้นมาพนันกันมั้ยล่ะครับ” ดีโน่พูดพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก..

     

     

    “พนัน?”

     

     

    “ครับ ใครชนะได้จองตัวสึนะ 1 เดือน ส่วนคนแพ้ก็ห้ามยุ่งกับสึนะตลอด 1 เดือนนั้น”

     

     

    “งั้นฉันพนันว่าสึนะโยชิคุงชนะแล้วกันนะ ฮะๆๆ” เบียคุรันหัวเราะก่อนจะมองเข้าไปในป่าทึบซึ่งตอนนี้ทีมนักล่าทุกคนวิ่งหายเข้าไปในป่าเรียบร้อยแล้ว

     

     

    “งั้นถ้าสึนะชนะจริง ก็ผลัดกันจองตัวสึนะคนละ 1 เดือน Deal?” ดีโน่เสนอพร้อมกับตาเป็นประกาย

     

     

    Deal!

     

     

     

     

     

     

              ****ปล.ว่าด้วยเรื่อง Deal  Deal อ่านว่า ดีล แปลว่า ข้อเสนอ ตกลง เช่น Deal? แปลว่า ตกลงมั้ย? หรือ Deal! แปลว่า ตกลง

              กลับมาแล้วหลังจากหายไปชาติกว่าๆ..(ก็ไม่ได้นานขนาดนั้นปะ 555) เอาเป็นว่าจะเริ่มกลับมาทยอยอัพแล้วค่ะ แต่คงจะนานๆอัพทีเพราะไม่ค่อยว่าง //หันไปมองตารางเรียนพิเศษที่โคตรแน่น พอดีมีความฝันอยู่และกำลังอยู่ในช่วงทำให้ฝันเป็นจริง ฟฟฟ เพราะฉะนั้นอาจจะอัพได้ไม่บ่อยนะคะ

              ยังไม่ตรวจคำผิดค่ะ! รักรีดเดอร์ทุกคนน๊า!

     

     

     

    ✄THE ORA


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×