คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ♜ : Chapter Seven : Welcome to Vongola Family
Chapter Seven : Welcome to Vongola Family
สถานที่ตรงหน้าเหล่านักเรียนทั้งหลายคือปราสาททรงยุโรปขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างจากวัสดุชั้นดีและมีลักษณะรูปทรงที่สวยงามและดูน่าเกรงขามสมกับเป็นปราสาทของมาเฟีย ตอนนี้พวกเขากำลังยืนรวมตัวกันอยู่หน้ากำแพงปราสาทเพราะไม่สามารถเข้าไปได้จนกว่านักเรียนจะอยู่ครบทุกคน
“นี่น่ะเหรอปราสาทวองโกเล่..” ริโนะพึมพำเสียงเบาก่อนจะมองรอบๆ..รอบปราสาทเต็มไปด้วยป่าไม้ดูร่มรื่น เธอกำลังคิดว่า..ถ้าด้านนอกยังสวยขนาดนี้แล้วด้านในมันจะสวยงามขนาดไหน มันจะต้องสวยงามมากแน่ๆ..
“เดี๋ยวเราจะรอจนกว่าพวกสึนะจะมาแล้วค่อยเข้าไปข้างในกันนะ” ดีโน่พูดด้วยน้ำเสียงเริงร่า แม้ว่าในใจของเขาตอนนี้มันจะไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลยก็ตาม..สึนะขอตัวไปทำธุระระหว่างทาง เขาก็พอรู้หรอกนะว่าธุระอะไรและมีความสำคัญมากแค่ไหน แต่มันน่าเป็นห่วง..
“ อ่ะ ซ..ซาวาดะคุงมาแล้วครับครู” ฮิคาริทักดีโน่ขึ้นเมื่อเห็นร่างโปร่งของใครบางคนที่แสนคุ้นเคยวิ่งมาแต่ไกล ใกล้ๆกันนั้นมีคนอีกกลุ่มหนึ่งประมาณ 6 – 7 คนวิ่งตามอยู่ด้วย ซึ่งก็คาดว่าน่าจะเป็นพวกโกคุเดระที่ไปกับสึนะนั่นล่ะ
“นายมาช้านะเจ้าห่วย!”
“นี่ถ้ามาช้ากว่านี้พวกเราต้องฆ่านายแน่ๆ!”
“ทำคนอื่นเดือดร้อนไปทั่ว!” พอมาถึงเสียงกร่นด่าก็ดังขึ้นมาจากทุกสารทิศในทันที สึนะหันไปยิ้มแหย่ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินเข้าไปยืนในแถวอย่างสำนึกผิด แต่ดูเหมือนว่าเหล่าผู้พิทักษ์ที่มาด้วยกันจะไม่มีความรู้สึกอย่างนั้นเลยนี่สิ..โดยเฉพาะ..
“แกว่าจะฆ่าใครนะเจ้าสัตว์กินพืช..”
“จ๊าก! คุณฮิบาริ” เด็กชายไร้นามตัวประกอบห้อง B ผู้โชคร้ายตัวสั่นงกๆนึกอยากตบปากในใจ ลืมไปเลยว่าหนึ่งในคนที่ไปธุระก็มีฮิบาริอยู่ในนั้นด้วย
“เฮอะ เจ้าห่วยสึนะนั่นมันกล้าทำให้พวกเรารอ!” เด็กสาวตัวประกอบไร้ชื่อคนหนึ่งจากห้อง B สบถขึ้นเสียงดังโดยไม่เกรงใจใครเลยซักนิด มิหนำซ้ำยังมองไปที่สึนะด้วยสายตาลุกโชนราวกับไฟ ก็ไม่ใช่อะไรหรอก..เพียงแต่เธอแค้นเจ้าห่วยสึนะที่ได้อยู่ข้างพวกโกคุเดระซึ่งเป็นกลุ่มที่เธอชื่นชอบมานาน ถึงแม้เจ้าสึนะจะสูงขึ้น เก่งขึ้น หล่อขึ้น แต่เธอก็ยังไม่ชอบขี้หน้าอยู่ดี
“ขอโทษด้วยนะ..มันเป็นธุระของฉันเองล่ะ ฉันแค่ให้สึนะไปเป็นเพื่อนน่ะ” ยามาโมโตะที่ได้ยินหันมาเอ่ยขอโทษเสียงหวาน แม้ว่าในใจจะคุกรุ่นอยากฆ่าให้ตายก็เถอะ
กล้าดียังไงมาว่าสึนะของเขา..
“อะ..เอ่อ ไม่เป็นไรจ๊ะ” เด็กสาวหน้าซีดก่อนจะยกยิ้มเจื่อนๆแล้วก้มหน้างุดด้วยความอาย เธอว่าเธอสบถเสียงเบานะ..มันดังขนาดนั้นเลยเหรอ..
หลังจากกรณีของเด็กสาวคนนั้นก็มีคำกร่นด่าอีกมากมายตามมาจากนักเรียนตัวประกอบคนอื่นๆ
“กล้าว่ารุ่นที่ 10..เดี๋ยวพ่อก็บึ้มซะหรอก!!” ทุกเสียงเงียบโดยฉับพลัน โกคุเดระกระฟัดกระเฟียดอย่างหัวเสีย ก่อนจะเดินหน้ามุ่ยไปนั่งข้างสึนะอย่างไม่สบอารมณ์ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะต้องปิดความลับของตัวเองเอาไว้พวกเขาคงฆ่าพวกนักเรียนห้อง B ตัวประกอบไร้ค่าจ้างพวกนี้ตายหมดแล้ว!
“เอาน่าๆ เอาเป็นว่าเราเข้ากันไปเลยดีกว่านะครับ” เบียคุรันที่เห็นท่าไม่ดีรีบไกล่เกลี่ยสถานการณ์ก่อนจะเดินนำนักเรียนทุกคนเข้าไปในปราสาท
ภายในปราสาทวองโกเล่..มันงดงามหรูหรามากสมกับเป็นหนึ่งในฐานทัพของแก๊งมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ข้างในตกแต่งด้วยเครื่องประดับราคาแพง โทนสีของผนังเน้นเป็นสีทอง ดำ และขาว เพดานเป็นส่วนเว้าโค้งให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในปราสาทของเจ้าหญิงในเทพนิยายก็ไม่ปาน.. รอบด้านตามทางเดินมีชายชุดดำยืนเฝ้าเป็นจุดๆซึ่งน่าจะกำลังรักษาความปลอดภัยของปราสาท และตามผนังตามทางเดินก็มีรูปรวมของคน 7 คนอยู่ทั้งหมด 9 รูป แต่ละรูปก็ไม่ซ้ำกัน เริ่มจากรูปแรกที่เป็นภาพขาวดำดูเก่าเอามากๆ จากที่อาคาชิเดามันก็น่าจะเมื่อประมาณราวๆ 400 กว่าปีก่อนเห็นจะได้
“นั่นมัน..” เพียงแต่ที่สะดุดตาอาคาชิและพวกคุโรโกะไม่ใช่สภาพของรูปที่ดูเก่าจนโทรม แต่เป็นบุคคลทั้ง 7 ในรูปนั่นต่างหาก.. คุ้นมาก..ถึงภาพจะเป็นขาวดำและเลือนลางไปบ้างแต่ก็เป็นภาพที่ทำให้รู้สึกคุ้นมาก
..หน้าคุ้นๆ..เหมือนเคยเห็นหน้าแบบนี้ที่ไหนนะ?
“ฮ..เฮ้ย!” สึนะสบถออกมาเบาๆเมื่อเห็นเหล่าขบวนบาสเรนเจอร์จ้องภาพของนภาแห่งวองโกเล่รุ่นที่ 1 และผู้พิทักษ์ไม่ว่างตา พลางคิดเป็นเสียงเดียวกันกับพวกผู้พิทักษ์ของตนว่า..
ชิบหายแล้วไง...
สึนะกลืนน้ำลายดังเอื้อกก่อนจะรีบหันไปมองเหล่าการ์ดชุดดำเป็นการออกคำสั่งส่งผ่านทางสายตา เหล่าการ์ดชุดดำเมื่อได้รับคำสั่งจากนายเหนือหัวก็เข้าใจแล้วรีบเดินไปหาอาคาชิทันที
“ขออนุญาตที่ขัดจังหวะ แต่ช่วยเดินต่อไปด้วยครับ” คิเสะที่อยู่ด้วยกันสะดุ้งน้อยๆก่อนจะพยักหน้าหงึกๆด้วยความกลัวแล้วรีบดึงแขนอาคาชิและคุโรโกะให้เดินต่อทันที ทางพวกมิโดริมะก็เริ่มเดินต่อพลางกอดตัวเองหลวมๆด้วยความขนลุก..
การ์ดนั่นน่ากลัวเป็นบ้า..
แต่ว่าในรูปนั่น..
ใครวะ..คุ้น คุ้นมากๆ
“รูปที่พวกเธอเห็นคือรูปของบอสและผู้พิทักษ์ของวองโกเล่แต่ละรุ่นน่ะ..” ดีโน่อธิบายเมื่อเห็นเหล่าเด็กๆให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก
“ผู้พิทักษ์? หมายถึงอะไรเหรอ..ครับ” คางามิถามก่อนจะเติมหางเสียงต่ออย่างยากลำบาก เขาไม่ถนัดกับการทำตัวสุภาพพูดมีหางเสียงซักเท่าไหร่ แต่เพราะโดนพวกรุ่นพี่ที่เซย์รินบังคับ(แกมข่มขู่)มาตลอดทำให้เขาจำใจที่จะต้องพูดมีหางเสียงกับผู้ที่อายุมากกว่า แม้ว่าจะไม่อยากพูดเท่าไหร่ก็เถอะ..
“ผู้พิทักษ์หมายถึงกลุ่มคนที่ถูกเลือกโดยบอสของวองโกเล่และแหวนวองโกเล่น่ะครับ มนุษย์ทุกคนมีสิ่งที่เรียกว่า เปลวไฟดับเครื่องชน อยู่ในตัว..ขึ้นอยู่กับว่าเป็นธาตุอะไรก็เท่านั้น พลังไฟถูกแบ่งออกเป็น 7 ธาตุ คือ ธาตุนภา ธาตุวายุ ธาตุพิรุณ ธาตุอรุณ ธาตุอัสนี ธาตุสายหมอก และธาตุเมฆา” เบียคุรันอธิบายพร้อมรอยยิ้มก่อนหยุดเดินแล้วหันมาประจัญหน้ากับนักเรียน และการหยุดเดินของเขาจึงส่งผลให้นักเรียนต้องหยุดเดินไปด้วย
“แหวนวองโกเล่ก็เช่นกัน..มันถูกแบ่งออกเป็น 7 ธาตุ และในอดีตกาลวองโกเล่พรีโม่..บอสรุ่นแรกผู้ก่อตั้งวองโกเล่ก็ได้มอบแหวนวองโกเล่ให้กับสหาย 6 คน พวกเขาถูกเรียกว่า ผู้พิทักษ์ มีหน้าที่ในการดูแลประสานงานและปกป้องแฟมิลี่ เรียกได้ว่าเป็นแนวหน้าเลยล่ะ..” เบียคุรันหยุดอธิบายภาพนั้นก่อนจะพาเหล่านักเรียนทั้งหลายเดินต่อไป ภาพแต่ละภาพตามทางเดินนับได้ 9 ภาพ..แต่หลังภาพที่ 9 ก็มีรอยเหมือนกับเคยมีภาพติดเอาไว้ตรงนั้น เพียงแต่อาจจะถูกถอดออกไปแล้ว..
“ล..แล้วไม่มีรูปรุ่นที่ 10 เหรอครับ” โฮชิโนะหันไปถามดีโน่พลางดันแว่นหนาเตอะขึ้น ดวงตาสีดำภายใต้กรอบแว่นเหลือบมองรอยสี่เหลี่ยมข้างๆภาพของบอสวองโกเล่และผู้พิทักษ์รุ่นที่ 9 ไม่ผิดแน่..เคยมีรูปวองโกเล่รุ่นที่ 10 อยู่ตรงนั้น แต่มันถูกถอดถอนออกไป
และดูเหมือนจะพึ่งถอนออกไปได้ไม่นานซะด้วย..
ดูเหมือนคนที่สังเกตเห็นรอยนั้นจะไม่ได้มีแค่พวกอาคาชิ..พวกห้อง A ทุกคนต่างสังเกตเห็นรอยนั้นกันทุกคน
ดีโน่ยิ้มเจื่อนๆ
สายตาดีมาก..สมแล้วที่เป็นเด็กที่รุ่นที่ 9 คัดเลือกมาให้..
“คือว่านั่น..” ดีโน่ส่งสายตาไปขอความช่วยเหลือจากสึนะ เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดว่าอะไรดี...
‘แถๆไปเถอะเจ้าม้าพยศ’ สายตาของโกคุเดระ
‘จะตอแหลแถอะไรไปก็ได้..ขอแค่พวกเขาเชื่อก็พอ ฮะๆๆๆ’ สายตาของยามาโมโตะ
“พวกเขาถอดรูปไปทำความสะอาดน่ะ ฮะๆๆ” ช่างเป็นคำโกหกที่ปัญหาอ่อนที่สุดเท่าที่สึนะเคยเจอมา..
“เหรอครับ..”
เชื่อด้วยเหรอฟะ..!!! นี่คือความคิดของเหล่าผู้พิทักษ์ของวองโกเล่
“อ่า เอาล่ะ ถึงห้องรับแขกแล้ว” ตรงหน้าคือประตูไม้สักบานใหญ่ที่มีการสลักลวดลายแปลกตาเอาไว้ เมื่อเบียคุรันเปิดเข้าไปเหล่านักเรียนจากโรงเรียนนามิโมริก็ต้องตาโตเท่าไข่ห่าน นี่ไม่ควรเรียกว่าห้องรับแขกหรอกนะ..ควรเรียกว่าห้องประชุมซะมากกว่า
ในห้องประชุมขนาดใหญ่ (ใหญ่จริงๆนะ ใหญ่กว่าห้องเรียนของพวกเขาเกือบ 4 เท่า) มีชายชรานั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวสีทองอร่ามดูงดงาม ชายชราคนนั้นส่งยิ้มให้พวกเขาอย่างมีไมตรีจิตจนพวกเขาไม่อยากจะคิดเลยว่าชายชราท่าทางดูใจดีมีเมตตาแบบคุณปู่ทั่วไปแบบนี้จะเป็นหัวหน้าของแก๊งมาเฟียระดับโลกได้
“คุณคือ..” อาคาชิมองไปยังชายชราพลางหรี่ตาลงเล็กน้อย..เหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่เขาก็นึกไม่ออก มันน่าจะเป็นตอนที่เขายังเด็กมากๆ..ล่ะมั้ง?
“ฉันเป็นวองโกเล่รุ่นที่ 9..ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่วองโกเล่แฟมิลี่นะ” วองโกเล่รุ่นที่ 9 ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร รอยยิ้มที่ดูอบอุ่นซะจนเหล่านักเรียนทั้งหลายอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ สึนะเหลือบมองรุ่นที่ 9 เล็กน้อยก่อนจะหันไปมองดีโน่และเบียคุรัน
จริงสินะ..คุณดีโน่กับเบียคุรันก็ต้องทำตัวเป็นอาจารย์ธรรมดาๆ ไม่ใช่บอสของแก๊งมาเฟียนี่นา
“เอาล่ะฉันจะแนะนำวองโกเล่รุ่นที่ 10 ให้เธอรู้จักนะ” สึนะและวองโกเล่ทุกคนที่แฝงตัวอยู่ในหมู่นักเรียนสะดุ้งอย่างตกใจ อะไร! นี่รุ่นที่ 9 วางแผนเปิดเผยตัวตนของเขาเหรอ! ไม่สิ..รุ่นที่ 9 ไม่น่าวางแผนอะไรพวกนี้นี่.. หรือแม้แต่ดีโน่และเบียคุรันก็หน้าซีดราวกับเห็นความตายยืนอยู่ตรงหน้า รุ่นที่ 9 คงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก..ใช่มั้ย? แต่ดูเหมือนว่ารุ่นที่ 9 จะไม่ได้ใส่ใจเลยว่าตอนนี้พวกสึนะรู้สึกใจหายแค่ไหน เพราะจากที่สึนะดู..ดูเหมือนรุ่นที่ 9 จะพอใจที่ได้แกล้งพวกเขาเล่นมากกว่า
แม้เหล่านักเรียนทั้งหลาย..จะตื่นเต้นดีใจอยากจะเจอวองโกเล่รุ่นที่ 10
แต่ทว่า..
“อ่า..ลืมไป เขาไปติดต่อซื้อขายส้มตำ(?)ที่ไทยนี่นา” รุ่นที่ 9 ทำหน้าเสียดายอย่างสุดซึ้ง โดยไม่ทันสังเกตเห็นพวกสึนะที่มีสีหน้าเหี้ยมดูเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากเต็มที่
อีกคนแถว่าไปเจรจากับเพนกวิ้นที่ขั้วโลกใต้..
ส่วนอีกคนก็แถว่าไปติดต่อซื้อขายส้มตำที่ไทย..
ขั้วโลกใต้กับประเทศไทยมันไม่ได้ใกล้กันเลยนะโว้ยยยย!!!
“แต่อาจารย์บอกว่าไปเจรจากับเพนกวิ้นที่ขั้วโลกใต้ไม่ใช่เหรอครับ~” อาบิเกล หรือที่หลายคนเรียกว่า อาบิส ถามพร้อมกับรอยยิ้มหวานบนใบหน้า ดวงตาสีฟ้าสว่างที่ทอประกายออร่าราวกับเป็นดวงตาศักดิ์สิทธิ์จดจ้องไปที่วองโกเล่รุ่นที่ 9 อย่างคาดคั้นคำตอบ รู้หรอกว่าเสียมารยาท..แต่ก็อยากรู้นี่นา
...ความจริงน่ะ
“เอ๋..คือ..สงสัยจะจำผิด” เบียคุรันเจ้าของคำพูดที่ว่าไปเจรจากับเพนกวิ้นพูดพลางยิ้มเจื่อนๆ ใบหน้าหล่อเหลามีเม็ดเหงื่อไหลลงมาเนื่องจากความรู้สึกกดดันจากสายตานักเรียนทั้งหลาย
“ฮะๆ ฉันก็แกล้งเล่นน่ะ ความจริงแล้วเขาไปติดต่องานที่ญี่ปุ่นนี่แหละ” รุ่นที่ 9 พูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะหัวเราะเล็กน้อยกับใบหน้าเหวอของเหล่านักเรียนนามิโมริ ก่อนจะหันไปมองอาบิสอีกครั้ง..สมแล้วที่เป็นเด็กที่เขาเลือกมา ความจำดี ไหวพริบดี แถมจับผิดเก่งอีกต่างหาก..
ไอ้ข้อสุดท้ายนั่นใช่ข้อดีแน่เรอะ..
“ยังไงก็ยินดีต้อนรับทุกคนสู่วองโกเล่แฟมิลี่อีกครั้งนะ” ชายชราผู้ครองตำแหน่งบอสวองโกเล่รุ่นที่ 9 ระบายรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าช่วยเสริมลุคคุณปู่ใจดีให้ดูใจดีมากขึ้นไปอีก
“งั้นพวกเราขอตัวก่อนครับท่านรุ่นที่ 9” ดีโน่พูดพร้อมกับรอยยิ้มเจื่อนๆบนใบหน้า..
อยู่นี่ต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะมีการแกล้งอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า..
รีบไปดีกว่า..
“อื้ม โชคดีนะเด็กๆ” รุ่นที่ 9 กล่าวพร้อมกับยกยิ้มละมุนก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องประชุมไป สึนะคิ้วกระตุกเล็กน้อย..จะว่าไปเขาก็ยังไม่เห็นเจ้ารีบอร์นเลย ถ้าไม่ได้ไปดักรอที่คฤหาสน์วองโกเล่ก็ดีอยู่หรอก..
.........
คฤหาสน์บ้านพักตากกากาศของวองโกเล่รุ่นที่ 10 ใหญ่มาก ถึงจะเล็กกว่าปราสาทวองโกเล่ของรุ่นที่ 9 แต่มันก็ถือว่าใหญ่พอที่จะให้คน 100 คนอยู่กันได้อย่างสบายๆ พื้นที่กว้างมาก มีทั้งสวนดอกไม้ สวนกุหลาบ เขาวงกต น้ำตกธรรมชาติ(ที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์ตะวันออก) และป่าลึกดูท่าทางอันตราย(ที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์ตะวันตก) ดูเหมือนว่าที่นี่จะแบ่งคฤหาสน์ออกเป็น 3 หลัง คือคฤหาสน์ตะวันตก คฤหาสน์ตะวันออก และคฤหาสน์กุหลาบที่อยู่ตรงกลาง ดูเหมือนว่าจะเป็นหลังที่สวยที่สุดและใหญ่ที่สุด
“ดีจ้า!” ดูเหมือนว่าคำภาวนาของสึนะจะไร้ผล..เพราะเมื่อมาถึงคฤหาสน์ที่เป็นบ้านพักตากอากาศของเขาก็พบกับนักฆ่าตัวจิ๋วในรูปลักษณ์เด็กทารกกำลังยืนยิ้มอยู่หน้าประตูพร้อมกับกิ้งก่าเลออนที่นอนอยู่บนหมวก
“ร..รีบอร์น” สึนะหน้าซีดเล็กน้อย..พวกคิทสึเนะไม่น่าจะรู้จักรีบอร์น แต่กับพวกอาคาชิที่เคยเห็นหน้ารีบอร์นมาแล้วต้องจำหน้าได้แน่ๆ ให้ตายสิ..คิดจะเปิดเผยความลับก่อนเวลาอันสมควรรึไงกัน!
“เด็กนี่..ใคร” โอเค..สิ่งที่แปลกยิ่งกว่าการพบเด็กทารกในชุดสูทยืนรออยู่หน้าคฤหาสน์ก็คือการที่มอร์เต้ที่ปกติพูดน้อยชนิดที่ว่าสามารถนับคำได้ให้ความสนใจกับเด็กทารกนี่มากถึงขนาดว่ายอมเปิดปากถามออกมาเลยทีเดียว
“ฉันชื่อรีบอร์น!” รีบอร์นทักทายก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนไหล่ของดีโน่
“เอ่อ..เอาล่ะ รีบเข้าไปกันเถอะนะ” ดีโน่ที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินนำหน้าเหล่านักเรียนทั้งหลายเข้าไปยังคฤหาสน์ตะวันออกก่อนเป็นอันดับแรก โดยไม่ทันสังเกตเห็นพวกอาคาชิที่จ้องรีบอร์นด้วยความสงสัย
เด็กคนนั้น..ที่อยู่กับสึนะโยชิ?
คฤหาสน์ตะวันออกเป็นคฤหาสน์สไตล์โรมัน และเป็นคฤหาสน์หลังที่เล็กที่สุดใน 3 หลังแต่ถึงกระนั้นก็ยังใหญ่มากสำหรับพวกเขาอยู่ดี เป็นคฤหาสน์ 3 ชั้น ดูเหมือนว่าชั้น 3 จะเป็นห้องนอนโดยมีทั้งหมด 10 ห้อง ชั้น 2 เป็นห้องรับประทานอาหารและห้องสันทนาการต่างๆ เช่น ห้องฟิตเนส ห้องคาราโอเกะ ห้องสมุด ส่วนชั้นล่างสุดเป็นห้องรับรอง ห้องโถง ห้องประชุม และห้องครัว ส่วนด้านนอกของคฤหาสน์ก็มีสระน้ำขนาดใหญ่พอที่จะสามารถให้คนทั้ง 45 คนลงเล่นพร้อมกันได้โดยไม่อึดอัด นี่ขนาดเป็นคฤหาสน์ตะวันออกที่เล็กที่สุดยังขนาดนี้ แล้วลองคิดถึงคฤหาสน์กุหลาบที่ใหญ่ที่สุดดูสิ..
“คฤหาสน์ตะวันออกนี้จะเป็นของนักเรียนห้อง B นะ เนื่องจากนักเรียนห้อง B มีถึง 45 คน จึงขอให้นอนห้องละ 5 คน นักเรียนสามารถทำกิจกรรมยามว่างภายในคฤหาสน์หลังนี้ได้ไม่ว่าจะว่ายน้ำ ฟิตเนส คาราโอเกะ อ่านหนังสือในห้องสมุด หรือทำอาหาร นักเรียนสามารถทำได้เสมือนคฤหาสน์หลังนี้เป็นของนักเรียนตลอด 1 เดือนนี้ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า..อย่าทำรก อย่าทำสกปรก อย่าทำพัง อย่าทำเสียหาย และอย่าสร้างปัญหา เพราะอย่าลืมว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของเราจริงๆ ต้องเกรงใจเจ้าของที่ด้วยนะ” ดีโน่แนะนำด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“จะเล่นน้ำตกก็ได้ แต่ห้ามทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บเด็ดขาด..รวมถึงห้ามเข้าไปในป่าหลังคฤหาสน์ตะวันตกด้วย ไม่สิ..ควรต้องบอกว่าห้ามเข้าไปในฝั่งคฤหาสน์ตะวันตกหากไม่ใช่เหตุจำเป็นจริงๆ..แล้วก็ข้อสุดท้าย ข้อนี้สำคัญมาก..คฤหาสน์กุหลาบนั้นเป็นคฤหาสน์ที่เป็นที่พักส่วนตัวของบอสวองโกเล่รุ่นที่ 10 และเหล่าผู้พิทักษ์ ห้ามเข้าไปโดยเด็ดขาด! ห้ามแม้แต่จะเหยียบเข้าไปในอาณาเขตของคฤหาสน์หลังนั้น เข้าใจนะครับ?” เบียคุรันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกพร้อมรอยยิ้มแต่ดวงตาสีอะเมทิสต์กับไม่ได้ยิ้มไปด้วยเลยซักนิด
“และหากทำผิดกฎเมื่อไหร่..ครูจะส่งพวกเธอกลับญี่ปุ่นทันที” ดีโน่กล่าวพร้อมกับสีหน้าจริงจังเป็นเชิงบอกว่าพูดจริง 100% ไม่ได้พูดเล่นแต่อย่างใด
“เข้าใจมั้ยครับ”
“เข้าใจครับ/ค่ะ” เหล่านักเรียนห้อง B ตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน หลังจากนั้นดีโน่จึงอธิบายว่าจะให้อาจารย์ไคโตะอาจารย์ที่ปรึกษาของห้อง B เป็นคนอยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้และคอยคุมเด็กห้อง B พร้อมกับบอกให้นักเรียนห้อง B ทุกคนแยกย้ายกันไปเลือกห้องนอนตัวเอง แล้วดีโน่กับเบียคุรันจึงพานักเรียนห้อง A ทั้งหมดไปที่คฤหาสน์ตะวันตก
คฤหาสน์ตะวันตกเป็นคฤหาสน์สไตล์ยุโรป..มีลักษณะการตกแต่งแบบหรูหราแต่ก็ไม่ถึงกับอลังการงานสร้าง เน้นการสร้างให้ดูมีบรรยากาศเก่าๆเหมือนพวกคฤหาสน์ของขุนนางอังกฤษสมัยก่อนอะไรทำนองนั้นเสียมากกว่า คฤหาสน์ตะวันตกใหญ่เป็นอันดับ 2 ของคฤหาสน์ทั้งหมด มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้น 4 และชั้น 3 เป็นห้องนอน โดยชั้น 4 มีห้องนอนทั้งหมด 8 ห้อง และชั้น 3 อีก 8 ห้อง ส่วนชั้น 2 ก็เป็นห้องห้องรับประทานอาหารและห้องสันทนาการทั่วไป เช่น ห้องฟิตเนส ห้องสมุด ห้องคาราโอเกะ ห้องดูหนัง และห้องเรียน ส่วนชั้นล่างสุดเป็นห้องครัว ห้องโถง ห้องรับรอง ห้องประชุม และสระน้ำในร่ม นอกจากนั้นด้านข้างของคฤหาสน์ฝั่งหนึ่งคือสระน้ำกลางแจ้ง ใช่..มันหรูมากกกกกกกกกกกกกกกก
“ส่วนของห้อง A นั้นมีห้องนอนอยู่ชั้น 3 และ 4 นะ ให้จับคู่นอนห้องละ 2 คน หลังจากนั้นก็ค่อยไปเลือกห้องนอนกันเอง อ้อ..แล้วก็กฎของการอยู่ที่นี่ก็เหมือนกับห้อง B นั่นแหละ สามารถทำกิจกรรมยามว่างได้ตามสบาย แต่ห้ามทำลายทรัพย์สิน ห้ามสร้างความเดือดร้อน อย่าทำพัง ห้ามทำรก ห้ามทำสกปรก หรือถ้าเกิดทำไปแล้วก็ต้องทำความสะอาดเอง ห้ามลักเล็กขโมยน้อย และห้ามไปที่ป่าหลังคฤหาสน์หากไม่ได้รับอนุญาต ห้ามไปคฤหาสน์ฝั่งตะวันออกด้วยเช่นกัน” ดีโน่อธิบาย
“ข้อสุดท้ายสำคัญมาก..ห้ามเข้าไปในอาณาเขตของคฤหาสน์กุหลาบโดยเด็ดขาด ฉันกับดีโน่จะเป็นคนคอยคุมพวกเธอ เพราะฉะนั้นช่วยทำตามกฎด้วยนะ” เบียคุรันพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“เอาล่ะเดี๋ยวฉันจะปล่อยให้พวกเธอพักผ่อน แต่พรุ่งนี้จะมีกิจกรรมสำหรับห้อง A โดยเฉพาะ ตื่นซัก 7 โมงหรือก่อนหน้านั้นแล้วลงมากินข้าวเวลา 8 โมงนะ จับคู่แล้วแยกย้ายเข้าห้องที่ต้องการได้!” สิ้นคำสั่งทุกคนก็จับคู่กันแล้วแยกย้ายไปเลือกห้องทันที
และสรุปรูมเมทของห้อง A มีรายชื่อดังนี้..
- ซาวาดะ สึนะโยชิ กับ โรคุโด มุคุโร่
- ยามาโมโตะ ทาเคชิ กับ โกคุเดระ ฮายาโตะ
- ซาซางาวะ เรียวเฮ กับ แรมโบ้
- ฮิบาริ เคียวยะ กับ มอร์เต้ มาเอฮาระ (เงียบทั้งคู่..)
- อาคาชิ เซย์จูโร่ กับ คุโรโกะ เท็ตสึยะ
- คางามิ ไทกะ กับ อาโอมิเนะ ไดกิ
- มิโดริมะ ชินทาโร่ กับ มุราซากิบาระ อัตสึชิ
- คิเสะ เรียวตะ กับ มุจาคินะ ฮิคาริ
- ซาซางาวะ เคียวโกะ กับ มิอุระ ฮารุ
- ทาจิบานะ นาเดชิโกะ กับ โคลม โดคุโร
- โอคามิ คิทสึเนะ กับ แอนนา โรซามาเนล (ทำไมต้องอยู่ด้วยกันตลอด?)
- มินากิ รินะ กับ มินากิ ริโนะ
- คาวะกะ โคริโกะ กับ โมริ เลอา
- โฮชิโนะ มุราคามิ กับ โยชิดะ ยูโตะ
- อาบิเกล เชสเชอร์ คอนสแตนติน กับ อากิฮิโกะ เอล เอเวอลิน
และห้องนอนของ 2 อาจารย์ ดีโน่ กับ เบียคุรัน
หลังจากที่ทุกคนเข้าห้องไปเก็บของๆตัวเองกันหมดแล้วดีโน่และเบียคุรันก็เรียกพวกสึนะและนาเดชิโกะมาที่ห้องลับใต้ดินของคฤหาสน์หลังนี้..
“พวกนายคงอยากนอนคฤหาสน์หลังเก่าของพวกนายมากกว่าใช่มั้ยล่ะ” เบียคุรันพูดพลางยิ้มน้อยๆ แน่นอนว่าคำถามของเบียคุรันทำให้พวกสึนะต่างพยักหน้ารับกันอย่างพร้อมเพรียง
“หลังจากทำกิจกรรมในแต่ละวันเสร็จ ผมว่าจะรอให้พวกเขาเข้านอนแล้วค่อยกลับไปนอนที่คฤหาสน์กุหลาบนะครับ คุณเบียคุรันกับคุณดีโน่สนใจไปนอนนู่นด้วยมั้ยครับ” สึนะถามพร้อมรอยยิ้มบางๆบนใบหน้า พวกสึนะชอบนอนนู่นมากกว่า เพราะมันมีห้องส่วนตัวของพวกเขาอยู่แล้ว อีกอย่างถ้าไปนอนนู่นก็จะสามารถสะสางงานต่างๆได้อย่างดีเยี่ยม
“หืม..เป็นความคิดที่น่าสนใจมาก” เบียคุรันลูบคางเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับพร้อมกับยิ้มกว้าง
“งั้นเป็นอันตกลงนะครับ!”
05 / 04 / 2016
ดีค่า!!! มาอัพแล้วค่ะ!
ตอนนี้ก็ไม่มีไรมากเป็นแค่การทักทายรุ่นที่ 9 แล้วเข้าคฤหาสน์ก็เท่านั้น คิกๆๆ (ติดเชื้อการ์เนตมาเรียบร้อย)
รีดเดอร์กล้าเม้นไรท์ก็กล้าอัพค่ะ!
รักรีดเดอร์ทุกคนนะคะ!
ปล.ยังไม่แก้คำผิดค่ะ
ความคิดเห็น