คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เฮฮากับเพื่อน
ก๊อก..ก๊อก
“คุณแพรขา อาหารเย็นเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ” เสียงแม่บ้านทำให้ฉันต้องตื่นขึ้นมา
“ค่า เดี๋ยวแพรลงไปนะคะ”ฉันตอบไปด้วยเสียงที่งัวเงียสุดๆ
พอฉันลงไปข้างล่างที่โต๊ะอาหารเย็นก็มีน้องชายฉันนั่งรออยู่แล้ว บนโต๊ะมีแต่ของที่ฉันไม่ได้กินตั้งนานทั้งนั้นเลย
“นี่พี่เร็วๆ สิ ผมนั่งรอตั้งนานหิวจะตายอยู่แล้ว”
“จ้า จ้า”
วันนี้ฉันก็ได้กลับมาทานข้าวกับน้องอีกครั้งนึง ทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่ได้มาทานด้วยหรอคะ ก็เพราะว่าพ่อแม่ของเราทั้งสองทำธุรกิจอยู่ที่สิงคโปร์ค่ะ พ่อฉันเป็นคนสิงคโปร์ทำธุรกิจเกียวกับบ่อนกาสิโน ส่วนแม่ฉันเป็นคนไทย แม่อยากให้เราสองพี่น้องเรียนที่เมืองไทย เพราะยังไม่อยากให้เราไปยุ่งเรื่องธุรกิจของพ่อ แหมม ไม่อยากจะอวดเลยนะว่าพ่อฉันเป็นมาเฟียใหญ่อยู่ที่นู่น แต่เพื่อนๆ ฉันที่เมืองไทยไม่มีใครรู้หรอก เราเก็บมันไว้เป็นความลับ ค่ะ อิอิ ขืนเพื่อนรู้ ก็เป็นเรื่องใหญ่สิ จิงมะหละ
“อืม พี่แล้วอยู่ที่นู่นเป็นไงบ้างอะ หนุกมะ” พีทเริ่มถาม
“ก็ดี”ฉันตอบ
“แล้วของฝากผมหละ ไม่มีหรอ”พีทเริ่มทวง นั่นไง ธาตุแท้เริ่มออกลายแล้ว นิสัยงกไง - -“
“มี เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาให้”
“มันคืออะไรหรอ”พีทเริ่มซัก
“ก็ของฝากไงถามแปลก”ฉันกวน
“โห พี่อะ ตอบงี้ ไม่ถามดีกว่า”
“แล้วใครใช้ให้เธอถามหละ” >> คนแต่งไง - -“
พอตอบน้องฉันเสร็จ ก็ขึ้นไปอาบน้ำบนห้องนอน เสร็จแล้วก็เปิดคอม ออนไลน์ MSN
ไม่มีใครออนอยู่เลย T_T >>แหงแหละ เพิ่งกี่โมงเองหละยะ
พอออนแล้วไม่เจอใคร ฉันก็เลยทิ้งไว้งั้นแล้วก็เดินไปอาบน้ำ
พอเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นว่ามีแต่เพื่อนฉันมาทักเต็มไปหมดเลย ^_^
“ดีจ้า”
“ไปญี่ปุ่นเปงไงบ้าง”
“มีของฝากให้เราปะ”
“ที่นู่นหนุ่มหล่อมะ”
ฉันคุยกับเพื่อนในห้องอยู่ไม่นาน (ก็แค่ถึงตีสามเอง แหะ แหะ)
ก็ไปนอน ไม่รู้ตอนนี้นัททำไรอยู่ อยากเจอหน้าเร็วๆ จัง
วันรุ่งขึ้น พอห้างเปิด ฉันก็ออกไปเดินชอปปิ้งกับเพื่อนซี้ โดยมีบอดี้การ์ดเดินตาม (คือพ่อสั่งให้เดินหนะ)
“นี่ๆ ดูสิ สวยจังเลย”
“อันนั้นก็น่ารักนะ”
“แต่ฉันชอบอันนี้นมากกว่าอะ”
“นี่เธอฉันจองอันนั้นแล้วน้า”
หลังจากที่เราซื้อของเสร็จ ซึ่งฉันก็ได้ของมาไม่น้อย แหมก็ไม่ได้มาเดินตั้งนานนี่หน่า
เราก็ไปกินข้าวกัน โดยมีฉันเป็นเจ้ามือ (อีกแล้ว- - “)
“อืม นี่ๆ ที่โรงเรียนเป็นไงบ้างหละ” ฉันเริ่มถาม
ปีนี้ฉันอยู่ม. 5 เลยต้องทำงานกีฬาสีค่ะ
“ก็โออะนะ แต่เห็นยังทะเลาะกันอยู่เลย”
“หรอ”
“เออ แล้วอยู่ที่นู่นไม่มีหนุ่มๆ มั่งเลยหรอ” เพื่อนฉันเริ่มซัก
“หึ ไม่มีอะ” ฉันตอบ
“ไม่จิงง ไม่เชื่อ” แล้วแกถามฉันไปเพื่อ
“บอกว่าไม่มีก็ไม่มีไง กินต่อเหอะ จะได้ไปซื้อของต่อ” ฉันบอก
แล้วเราก็ไปเดินชอปกันต่อ 5555 มีความสุขจังเลย
กลับถึงบ้าน ก็มีผู้หญิงคนนึงนั่งหน้าสลอนอยู่ที่ห้องนั่งเล่นที่บ้าน
“เธอเป็นใคร” ฉันถาม
“แล้วเธอหละเป็นใคร เป็นอะไรกับพีทของฉันรึเปล่า” ผู้หญิงคนนั้นย้อน
สงสัยยัยนั่นต้องเป็นพวกที่ชอบตามเจ้าพีท แน่ๆ เลย ฉันไม่ชอบพวกนี้เลยจิงๆ สงสัยต้องจัดการซะหน่อย
“ฉันเป็นใครหนะหรอ ฉันก็คือคนที่สนิทกับพีท มากกกกกกกกเลยหละ”
“สนิทขนาดไหนก็คงไม่เท่าที่ฉันสนิทกับเค้าหรอกยะ”
“งั้นหรอ งั้นลองฟังหน่อยมะว่าฉันกับพีทสนิทขนาดไหน”
“ก็ได้เพราะฉันก็อยากรู้เหมือนกัน”
“อืม คิดก่อนนะ ก็เคยนอนห้องเดียวกัน ไปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยกัน แล้วฉันก็มีกุญแจบ้านหลังนี้ เข้าออกได้ 24 ชม.”
แหมนี่มันเรื่องจิงทั้งนั้นเลยนะ ฉันเคยนอนกับพีทตอนเด็กๆที่ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ไปหาพ่อกะแม่ที่สิงคโปร์ แล้วนี่คือบ้านฉัน ฉันก็ต้องมีกุญแจบ้านบ้านตัวเองสิ จิงมะ
“กรี๊ดดดดดดดดด ไม่จิงๆ แกโกหกฉัน แก ตายยย” เสียงยัยนั่นแสบแก้วหูเป็นบ้าเลย แล้วดูสิ ทำท่าจะเข้ามาตบฉันแล้ว ก็ลองดูสิ นี่บ้านฉัน บอดี้การ์ดอยู่เยอะแยะ เธอนั่นแหละท่าแย่เอานะ
“ก็ลองดูสิยะ” พอฉันตั้งท่าจะโต้ตอบยัยนั่น พีทก็เดินเข้ามาพอดี ฉันเลยรีบพูดก่อนเกิดศึกที่บ้าน
“นั่นไงพีทมาแล้วไปลองถามเค้าดูสิว่าที่ฉันพูดมมันจิงมะ”
“พีทขา”ยัยนั่นรีบวิ่งถลาเข้าไปอ้อนน้องฉันเลย แหวะ
“นี่ใครอะพีทขา เค้าบอกว่าเค้าเคยนอนห้องเดียวกับพีทขา มันจิงหรอคะ”
“อืมจิงสิ” น้องฉันตอบพร้อมกับทำหน้างง
“แล้วเคยสิงคโปร์ด้วยกันจิงหรอคะ” ยัยนั่นถามต่อ
“จิงคับ” น้องฉันตอบ
“แล้วยัยนั่นมีกุญแจบ้านนี้จิงหรอคะพีท”
“จิงคับ”
“อะไรกันพีทขา ขนาดเราเป็นแฟนกันมาตั้งเดือน พีทยังไม่เห็นให้กุญแจบ้านจีจี้เลย ยัยนี่มันเป็นใครคะ” มันถามแล้วชี้มาทางที่ฉันยืนอยู่ ในที่สุดฉันก็รู้ว่าแม่เนี่ยชื่อจีจี้นั่นเอง บอกไปเลยน้องว่าฉันเป็นใคร
“เค้าเป็นใครหรอ ก็พี่สาวผมไง” พอน้องชายฉันพูดแค่นั้นแหละค่ะ ยัยจีจี้นั่นอ้าปากค้างแบบอึ้งไปเลยหละ
“เอ่อ..สวัสดีค่ะคุณพี่ แหมไม่รู้มาก่อนเลยนะว่าพีทขามีพี่สาวด้วย” ทีงี้มาพูดซะดีเลยนะยะหล่อน
“ไม่ต้องมาสวัสดีชั้นเลยนะหล่อน หนอยยัยบ้า มะกี้เธอเพิ่งด่าชั้นว่าอะไร” ตอนนี้ฉันโมโหสุดๆ เลย หนอยยัยหน้าไหว้หลังหลอก ให้ตายก็ไม่ยอมให้เธอเป็นน้องสะใภ้ชั้นหรอก ต้องรีบกำจัดซะแล้ว
“คือ..แหมคุณพี่ขา เมื่อกี๊หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ขอโทดนะคะ”
“นี่หล่อนไม่ต้องมาขอโทดเลยนะ รีบๆ ออกไปจากบ้านฉัน แล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก ออกไป” ฉันคงตะโกนด้วยเสียงดังมาก เพราะถึงขนาดที่ว่าบอดี้การ์ดฉันรีบวิ่งเข้ามาดูเลย
“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะพี่ขา ยังไงหนูก็แฟนของน้องชายพี่นะคะ”
“ แฟนงั้นหรอ นี่พีท บอกฉันมาซิ ยัยนี่เป็นแฟนเธอรึไง” ฉันหันไปหา(เรื่อง)น้องชาย
“ฟงแฟนไรพี่ ถ้าผมมีผมก็พามาแนะนำแล้ว เค้ามาตามผมเองต่างหาก”
พอยัยน่นได้ยินประโยคนี้ถึงกับอึ้งไปเลย คงไม่คิดหละสิ ว่าน้องฉันจะตอบแบบนี้
“เอาหละ” ฉันหันไปพูดกับยัยนั่น “ในเมื่อเธอได้ยินแบบนี้แล้ว ก็ออกไปจากบ้านชั้นซะ ไป!!! ”
“ไม่จิง ม่ายยยย” ยัยจีจี้เริ่มโวยวาย
“มันจิงคับจีจี้ ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณเลยนะ แต่คุณที่คิดไปเองทั้งนั้น” ในที่สุดน้องฉันก็พูดซักที ปล่อยให้ฉันโวยอยู่นาน
“นี่หล่อน ผู้ชายเค้าพูดขนาดนี้แล้ว จะออกไปดีๆ หรือจะให้จับโยนออกไป ห๊า”
“ฮึ ไปก็ได้”
“ไปแล้วไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่นะ”
พอยัยนั่นกลับออกไป ฉันก็หันมาเล่นงานน้องชายต่อค่ะ ไม่รู้ไปรู้จักผู้หญิงแบบนี้ได้ยังงัย
“นี่ แม่นั่นเป็นใคร เธอไปรู้จักเค้าได้ยังงัย บอกมาเดี๋ยวนี้นะพีท”
“โถถถ พี่เค้าอะห็นผมที่สยาม แล้วเค้ามาถามเบอร์ผมจากเพื่อน แล้วมันก็เลยเป็นงี้ไง”
“แล้วทำไมเค้าเกาะเธอหยั่งกับตังเมหละ ฉันว่าเธอต้องหว่านเสน่ห์แน่ๆ”
“เปล่าเลยนะพี่ ผมก็อยู่เฉยๆ นี่แหละ แล้วผมเห็นว่าพี่จะกลับมาแล้ว ก็เลยกะว่าจะให้พี่จัดการให้ ผมรู้ว่าพี่ทำได้ ขอบคุณนะพี่นะ ^_^ ”
ว่าแล้วพีทก็รีบวิ่งขึ้นห้องไป สงสัยคงกลัวโดนฉันโวย ก็ฉันหนะถนัดเรื่องนี้อยู่แล้ว
“เอาเหอะถือว่าช่วยน้องละกัน” ฉันบ่นขณะที่กำลังเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำ
อาบน้ำเสร็จฉันก็เปิดคอมออนเอ็มตามประสาคนชอบเม้าท์ แล้วนัทก็เข้าทักฉัน
NUT : เปนไงบ้างจ๊า
PARY : บายดีจ้า แล้วนัทหละ
NUT : ก็ดี วันนี้ไม่เห็นโทรหาเราเลย T_T
PARY : แหม ก็เราเพิ่งไปข้างนอกกลับมานี่นา อย่างงอนเลยนะ
NUT : ไปชอปปิ้งละสิ
PARY : ใช่แล้ว ^_^
NUT : ได้ของมาเยอะมะ?
PARY : เพียบเลย กะจะซื้อไปให้เพื่อนที่นู่นด้วยไง
NUT : งี้ก็ต้องมีของเราด้วยสิ
PARY : ไมอะ
NUT : ก็เราเป็นเพื่อนที่นู่นของแพรไง เราจะรอนะจ๊ะแพรจ๋า
PARY : ทำยังกะตัวเองไม่เคยมาไทยงั้นแหละ ไว้รอวันเกิดละกานนะ
NUT : แพรอะ ใจร้ายจัง
PARY : ไรกันนัท แค่นี้เอง แล้วเราก็ไม่ได้ซื้อไรมากมายซะหน่อยนึง ไว้กลับมาแล้วค่อยไปด้วยกันก็ได้นะ
NUT : ก็ได้ งั้นเราไปก่อนนะแพร บับบาย
PARY : บายจ้า
คุยกับนัทเสร็จฉันก็ปิดเครื่องแล้วก็มาหาหนังดูในทีวีต่อ ไม่มีไรน่าดูเลยจิงๆ น่าเบื่อจัง นอนดีกว่าZzzzz
ตอนเช้าตื่นขึ้นมาก็ต้องไปโรงเรียน เพราะต้องไปช่วยงานกีฬาสีเพื่อนๆ หลังจากเบี้ยวมานาน อิอิ
ถึงโรงเรียนปุ๊บเพื่อนๆ ก็รีบทวงของฝากใหญ่เลย สงสัยตอนที่ฉันไม่อยู่คงคิดถึงแต่ของฝากแหงๆ ไม่มีใครคิดถึงฉันเลยหรอ T_T
รับโทรศัพท์หน่อยจ้า รับหน่อย รับหน่อย
นั่นมันเสียงโทรศัพท์ฉันหนิ ฉันเลยรีบวิ่งไปรับ จะใครซะอีกที่โทรมา นัทไง
“ฮัลโหล” ฉันกรอกเสียงลงไปตามสาย
“ว่าไงแพร ว่างอยู่ป่าว” เสียงนัทตอบกลับมา
“อืม เรากำลังอยู่ที่โงเรียนหนะ ช่วยเพื่อนทำกีฬาสีอยู่ นัทมีไรรึเปล่า” ฉันถาม
“อ๋อปล่าวหรอก คิดถึงก็เลยโทรมา”
“อะไรกันนัท เพิ่งคุยกันเมื่อคืนเอง”
“แหม ก็พอแพรไม่อยู่แล้วมันเหงานี่นา วันนี้วันหยุดด้วยเลยว่าง”
“อ้าว หรอไมอะ”
“ก็วันนี้เค้าให้หยุดอ่านหนังสือสอบไง”
“เลยเอาเวลามาโทรหาแพรเนี่ยนะ ไปอ่านหนังสือก่อนนัท เด๋วก็ได้คุยกันแล้ว”
“จ้า จ้า งั้นเราไปอ่านหนังสือก่อนนะ”
“อืมบ๊ายบาย ตั้งใจสอบนะ”
“จ้า บายจ้า”
พอฉันตัดสายทีฉันคุยกับนัทเสร็จบีม เพื่อนสนิทฉันก็เข้ามาแซว
“แหม อะไรจ๊ะแพร เพิ่งออกจากบ้านมาเอง ต้องโทรมาเช็คแล้วหรอเนี่ย”
“ใช่ที่ไหนละ เพื่อนฉันที่ญี่ปุ่นต่างหาก เค้าเป็นคนไทยหนะ อีก 2 อาทิตย์ก็กลับมาแล้ว”
“เพื่อนหรือแฟนกันแน่อะ”
“เพื่อนยะเพื่อน พอดีฉันอยู่โรงเรียนเดียวกับเค้าหนะ”
“แล้วไมสนิทกันจัง เพิ่งรู้จักกันไม่นานไม่ใช่หรอ”
“ก็พอดีว่าเค้าไปชอบสาวญี่ปุ่นที่นู่นอะดิ แล้วเค้าขอให้ฉันช่วยเพราะกับผู้หญิงคนนั้นเค้าเป็นรูมเมตฉัน”
“อ้อ ก็เลยไปเป็นแม่สื่อที่นู่นว่างั้น ไปเรียนหรือไปทำอะไรเนี่ย”
“ไปเรียน แต่อันนี้ถือว่าเป็นงานนอกเวลาไงแบบงานอดิเรกอะ”
“งานอดิเรกบ้านแกดิ เป็นแม่สื่อ เอาเหอะไปทำงานต่อดีกว่า เด๋วไม่เสร็จ”
แล้วเราก็ไปทำงานกันต่อ พอตอนบ่ายเพื่อนในสีก็เริ่มชวนกันไปกินสุกี้ ดีเหมือนกันตั้งแต่ลับมายังไม่ได้กินเลย >>นี่เธอเพิ่งกลับมากี่วันเองยะ จะกินทุกอย่างภายในวันเดียวรึไง
พอกินกันเสร็จก็ไม่มีใครอยากกลับไปทำงานแล้ว เราก็เลยไปร้องคาราโอเกะกันต่อจยถึงเย็ยแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน สนุกจัง ไม่ได้เที่ยวกับเพื่อนๆ แบบนี้มานานแล้ว
ความคิดเห็น