ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ดาร์ก บุรุษแห่งความมืด
รุ่งเช้าก็ผ่านมาถึง ความคิดของเด็กหนุ่มพลันแตกสลายทันที เอล์ และฮาฟเอล์ คงไปกันไม่ได้จริงๆ ตลอดช่วงเช้าที่ออกเดินทางมานั้นทั้ง สองสาวทะเลาะขัดแย้งกันมาตลอดทางเริ่มตั้งแต่
“ซิด เจ้ารู้หรือเปล่าว่าแม่น้ำที่เจ้าเห็นนี่ สวยงามที่สุด ในดินแดนนี้ เชียวนะ ”เฟรดึงแขนเสื้อเด็กหนุ่มพลางชี้ไปที่แม่น้ำและทะเลสาบกว้างใหญ่ที่สะท้อนแสงของดวงอาทิตย์ ระยิบระยับ สวยงามจับตายิ่งนัก
“แต่แม่น้ำนี่ไหล ไปถึงหมู่บ้านข้า ใยกลับ ดำทะมึนน่ากลัวเล่าทั้งที่มันก็ มาจากที่เดียวกัน” เสียงของฮาฟเอล์สาวดังขึ้นมา ขัดจังหวะการสนทนาของทั้งสองคนทำเอาเฟรเงียบไปสักพักหนึ่งด้วยอารมย์ที่ไม่สุ้ดีนัก
“ซิดเจ้ารู้รึเปล่า นั่นน่ะเป็นสัตว์ ของเทพีแห่งเรา มีเพียงชาวเอล์เราเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถ อัญเชิญ มันออกมาได้ นะ” เฟรเริ่มที่จะพูดคุยกับซิดต่อ หล่อนชี้ไป ทางมาสีขาวตัวหนึ่ง ที่ยืนสง่า อยู่ ใกล้ๆ วิหารเล็กๆ ตรงนั้น บนหัวของมันมีเขางอก แสดงให้เห็นถึงความแตกต่าง กับ ม้าธรรมดา แต่ไม่วายที่เอวาด้าจะแย้งขึ้น
“ขนาดสัตว์ของเทพีแห่งเจ้ายังคงพ่ายแก่ราชันย์ เงาของ เทพีเราเมื่อครั้งก่อนนี้นะ จะคุ้มครองใครได้” สายตาสีฟ้าของเฟร มองไปที่ต้นเสียงทันที ทำเอาเด็กหนุ่ม นึกขึ้นว่าเริ่ม จะไม่ดีแล้ว แฮะ
“ซิด นี่ก็ใกล้จะออกพ้นเขตเป็นกลาง ระหว่างเมืองเรา กับ ทางเข้าสู่แผ่นดินใหญ่แล้ว นะ เจ้าไม่กังวลบ้างหรือ” หญิงสาวตาสีฟ้า เริ่มถามซิดอีกครั้งหลังจาก ที่เดินทางมานาน
“โอ้ ถ้าเจ้ากลัว ก็กลับไป ซิข้าว่าท่าไม่มีเจ้านี่ ก็ คงสบายกว่านี้เยอะนะนี่ เห็นจ้อมา ตลอดทางเชียว” เพียงเท่านั้น คมมีดและ คมดาบสั้นก็ พุ่ง ผ่านร่างเด็กหนุ่มเข้าหา กันในทันที
“เจ้าน่ะซิที่จะต้องไป”เฟรกระแทกเสียงใส่เอวาด้า
“ข้าน่ะรึ ข้าว่า ข้ายังอารมย์เย็นกว่าเจ้าเยอะ หากอารมย์เช่นเจ้า เข้าสู่สนามรบจะต้องถูกยั่วยุ และพ่ายแพ้เป็นแน่ที่สุด” เอวาด้าสะบัดดาบใส่ ทำเอาเฟรต้องถอยห่างออกมา
“น่านะ เฟร เอวาด้า เรายังต้องเดินทางกันอีกไกล นะอย่าเพิ่งทะเลาะกันเลย ”ซิดรีบห้ามปรามก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปยิ่งกว่านี้ แต่สายตาทั้ง สองคู่ของศึกตรงหน้าเขาจ้องมองมาราวกับ จะกินเลือดกินเนื้อ แล้วเขาจะทำย่างไร ดี
“เอาเถอะ ทะเลาะกับเด็กจะได้อะไร ” เอวาด้าเป็นฝ่ายเก็บดาบก่อนเฟร ที่ยังคงถือมีดของหล่อนไว้ในมือ
“หึ ข้าไม่เด็กอย่างที่เจ้า คิดหรอก ” เอล์สาวเก็บมีดสั้นใส่ฝักข้างลำตัวแล้วจึงเดินไปนั่ง บนโขดหินขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำแห่งเอวา
“อา คือว่า เราควรพักกันสักเดี๋ยว นี่ก็ จะเที่ยงแล้ว ข้าจะไป ตักน้ำนะ” ซิดรีบเดินถือถุงหนัง ที่ผูกติดกับข้างกระเป๋า ของเขาซึ่งวางอยู่ข้างๆเฟรเดินไปที่ริมน้ำ
“ทำไมทั้ง สองเผ่าถึงต้อง อาฆาต กันมานานเพียงนี้ นะ”เด็กหนุ่มรำพึงขึ้นมา
“เจ้าอยากรู้ รึ”เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นซิดรีบกลับไปมองทางต้นเสียงซึ่งยืนอยู่เหนือต้นโอ๊คต้นใหญ่ที่ขึ้นอยู่ไม่ห่างเขานัก
“เจ้าเป็นใคร” ซิดรีบตั้งท่าพร้อมสู้ดาบที่เก็บอยู่ข้างตัวเขาซึ่งได้รับมาจาก บ้านเกิด ถูกนำมาถือในมืออย่างรวดเร็ว
“ช้าก่อน เถอะ เจ้าหนู ข้าไม่ได้มาเพื่อ โรมรัน กับเจ้านะ” เสียงนั้นตอบพลางเผยให้เห็นเจ้าของ มันที่โดดลงมาจากต้นไม้ที่ยืนอยู่ เป็นฮาฟเอล์หนุ่มผมดำเข้ม ตรงหน้าผากมีรอยสักเป็นรูป ที่แสดงถึงสาวกของเทพีแห่งความตาย ผิวสำดำเทาเหมือนกับเอวาด้ แสดงถึงชาติพันธ์ ไม่ผิดเพี้ยน กัน
“เจ้าคือ ” ซิดค่อยๆ ถอยออกมาจากฮาฟเอลตรงหน้าที่เดินเข้ามาหา เด็กหนุ่มเรื่อยๆ
“อย่ากลัวไป หนุ่มน้อย ถึงหน้าตาข้า จะไม่ได้ดู แก่วัยมากนั้ก แต่ข้าเองก็ ผ่านสมรภูมิ มามากกว่าเจ้ายิ่งนัก” เขากล่าวก่อนที่จะหยุดยืนเฉยๆ เมื่อซิด จ้องมองเข้าด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
“เอาล่ะ เจ้าอยากรู้ใช่ไหมว่าข้าคือไคร ข้าคือ ดาร์ก ชายที่ขโมยคัมภีร์ หายนะ และเชื้อพันธ์ ปิศาจ ” ทันทีที่ ดาร์กกล่าวจบ เด็กหนุ่ม พุ่ง เข้าหา เขาทันที
“โว้ว ใจเย็น เด็กน้อย ข้า ไม่อยากออกแรง” แม้จะเป็นฝ่ายถูกจู่โจม แต่ดาร์กก็ไม่ได้เสียเปรียบ มากนัก คำกล่าวที่ว่า ผ่านสมรภูมิมามาก คงไม่ใช่เรื่องที่ พูดเกินจริงเป็นแน่
“เพียง แค่ข้านำ ของสองสิ่งจากเจ้า กลับมาได้ ภาระกิจ ที่ข้าได้รับ คงจะจบ เร็วกว่าที่คิด ” ซิดตวัดดาบในมือพร้อมกับ อัดพลังกาย เข้าไป ทำให้คมดาบที่คมอยู่แล้ว มีแรงพอที่ผ่าเกราะ สีดำ ของ บุรุษ ตรงหน้าเขาได้
“ดู ดี แต่ เชื่องช้านัก” ฉับพลัน ประกายแสงสีแดง ก็พุ่งจากฝ่ามือ ของฮาฟเอล์หนุ่ม ตรงเข้ามัดเป้าหมาย มิให้ขยับได้อีกต่อไป
“เจ้า คงจะอยู่นิ่งได้ อีกซักพัก นะ ” ดาร์กยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ซิด ที่ขยับแม้กระทั่ง แขนของเขาไม่ได้แม้ซักนิดเดียวเมื่อ แสงสีแดงนั้นกลายเป็นเชือกที่รัด เขาทั่วทั้งร่างรั้งอยู่กับพื้นดิน
“เจ้าคง จะไม่เคยเจอล่ะ สิ เขาเรียกว่า ไดร์แอทรูท” ฮาฟเอล์หนุ่ม ชี้ไปที่ เวทมนต์ ที่รัดร่างซิดเอาไว้
“เอาล่ะ เราคงคุยกันได้ซักที เจ้าคงไม่เคยออกมานอกเกาะซิท่า เผ่าฮาฟเอล์ ของเรา จริงๆ แล้วก็ คือเผ่าพันธ์ เดียวกัน เพียงแต่ พวกเรานั้น ได้พ่ายแพ้ แก่พวก ออร์ค และ มนุษย์ เช่น พวกเจ้า จึง ต้องหลบหนี เข้ามาสู่ป่าอันเป็นที่พักพิง แก่เรา” แววตาของฮาฟเอลหนุ่มแฝงไปด้วยความเดือดดาลเมื่อกล่าวถึงอดีตอันน่า ขมขื่นของเผ่าตน
“พวกข้าต้องการที่จะแก้แค้นจึงได้ นำเอา เวทแห่งความตาย มาใช้เพิ่มพลังของ ตน เจ้ารู้ไหมว่าเกิดอะไร ขึ้นหลังจากนั้น” ซิดส่ายหน้า
“พวก ข้าถูก เอล์ด้วยกันนี่ล่ะ ขับไล่ให้ลงสู่ใต้ดิน ไกลออกไป จากป่าแห่งนี้ โดนคำสาบที่ไม่สามารถถูกแสงแดด ได้ ” แววตา ของดาร์กเปลี่ยนเป็น สีแดง รอบๆ กายเขาเริ่มมีหมอกสีดำเข้มกระจายออกมา
“เอาเถอะนั่นเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้พวกเราแก้คำสาบนั่นได้ แล้วแต่สีผิวเราไม่กลับไปเป็นดังเดิม แต่ไม่เป็นไร จอนนี้ ข้าจะทำลายพวกมันด้วย คัมภีร์เล่มนี้ และ สิ่งนี้” ดาร์กหยิบคัมภีร์ เล่มสีดำขึ้นมาพร้อมกับเมล็ดพันธ์ ประหลาด ที่มีหมอกสีดำกระจายออกมาตลอดเวลา ส่วนคัมภีร์ ที่ถูกหยิบมาคู่กัน ซิดไม่อาจจะเงยหน้ามอง มันเต็มๆ ตาได้เขารู้สึกเหมือนกับมี อะไรซักอย่างจาก คัมภีร์เล่มนั้น จ้องมองมาที่เขา เหงื่อออกท่วมตัวเด็กหนุ่มก่อนที่ ดาร์กจะเก็บคัมภีร์เล่มนั้นเข้า เสื้อเกราะของเขาไป
“เอาล่ะเจ้า จะบอกข้าได้ไหมว่าเจ้าจะมาอยู่ข้างข้า หรือ จะเป็นปรปักฏ์ ต่อข้า” คำกล่าวที่ได้ออกมาจากปาก บุรุษ เบื้องหน้า กับ อำนาจที่แผ่ออกมาจากคัมภีร์เล่มนั้น ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกได้ว่า ตนไม่อาจที่จะ สู้กับคนตรงหน้าเขาได้เลย แต่ ด้วยศักดิ์ศรีเกียรติยศของเขา ก็ไม่อาจที่จะ เกลับคำที่ให้แก่ ครูสโด้ ได้เช่นกัน
“อย่าไปฟังมัน นะซิด” เสียงของเอวาด้าดังขึ้นพร้อมกับก้อนพายุเล็กๆเท่าลูกบอล พุ่งเข้าหา ดาร์ก ที่ยืนอยู่ข้างกายเด็กหนุ่ม แต่ ไม่อาจเป็นผล ทำได้เพียงแค่ ฮาฟเอล์ หนุ่มถอยออกมาเท่านั้น
“ใช่ เจ้าจะฟังมันไม่ได้” เฟรโผล่เข้ามา ใช้มีดที่ อัดด้วยเวทแห่งแสง ตัดเชือกสีแดงที่พันธนาการ ซิด ออกทำให้เด็กหนุ่มเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง
“เอาล่ะ ทีนี้ ข้าก็ ขยับตัวได้แล้ว เจอกันซักตั้งสิดาร์ก” ซิดหันไป หา ฮาฟเอล์หนุ่ม อีกครั้ง
“ไม่ล่ะ ข้ามีงานต้องทำอีก คงไม่ว่างที่จะ ต่อกร กับพวกเจ้าเป็น แน่ ลาก่อนนะ เจ้าหนู แล้ว ก็ เอวาด้า...” ทันที่ที่ กล่าวจบ ดาร์ก ก็ ใช้เวท เคลื่อนย้ายมิติ จากม้วนเวทมนต์ หาย ตัวไป ในทันที
“อ่ะ มันหนีไปแล้ว เจ้าเป็น อะไร ไหม ซิด ” เฟร ร้องออกมาอย่างเสียดาย
“ข้าไม่เป็นอะไร เรารีบเดินทางต่อเถอะ ” เด็กหนุ่มตอบ แต่ เขารู้สึกว่าศัตรูของเขานั้นเก่งกาจเพียงใดและตัวเขาเองนั้น ด้อยฝีมือแค่ไหน หยาดเหงื่อ ที่ชุ่มฝ่ามือของเขา นั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดี
ส่วนตัวเอวาด้าเองได้แต่เพียงยืนมองดาร์กที่บัดนี้ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ก่อนที่จะเดินกลับไป หยิบสัมภาระ และก้าวเดินออกไปเงียบๆ ตามด้วย ซิดและเฟร
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น