ตอนที่ 1 : บทนำ
ลำแสงจากสายฟ้าฟาดลอดผ่านเข้ามาทางช่องกระจกใส ด้านนอกบานกระจกเต็มไปด้วยหยาดฝนที่รวมตัวกันไหลลู่ลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างไม่ขาดสายก่อนจะตามมาด้วยเสียงอสุนีบาตดังกึกก้องจนพื้นดินสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น
ภายในห้องเล็กๆ ชั้นใต้ดินของบ้านหลังหนึ่ง แสงจากโคมไฟบนเพดานที่ส่องสว่างลงมายังพื้นเบื้องล่าง เผยให้เห็นร่างของใครบางคนที่กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงสเตนเลสขนาดใหญ่ เรือนกายเพรียวบางภายใต้เสื้อผ้าขาดวิ่นถูกชโลมไปด้วยโลหิตสีแดงสด บาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งปรากฏขึ้นบนผิวที่ขาวซีดราวกับไม่เคยต้องแสงแดดนั้น ข้อมือและข้อเท้าทั้งสองข้างถูกตรึงเอาไว้ด้วยสายหนังสีดำสนิทอย่างแน่นหนา
“ส่งมีดมาให้ฉันเร็วเข้า เวลาของเขาเหลือน้อยลงไปทุกทีแล้ว”
เสียงของชายวัยกลางคนในชุดสีเขียว สวมหน้ากากและถุงมือยางเหมือนอย่างแพทย์หันไปสั่งชายหนุ่มอีกคนด้วยน้ำเสียงขึงขัง พลางมองร่างที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงนั้นด้วยความสงสาร ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบื้องหลังกรอบแว่นสีทองเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสก่อนจะไหลรินลงมาอาบสองแก้มที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัย เขาเอ่ยอะไรบางอย่างแต่ดูเหมือนว่าคนที่นอนอยู่จะไม่รับรู้อะไรอีกแล้วเมื่อสติสัมปชัญญะที่มีอยู่เพียงน้อยนิดพลันดับวูบลงหลังจากที่เขากดปลายเข็มฉีดยาลงบนลำคอยาวระหงอย่างแผ่วเบา
ใบมีดสีเงินเงาวาววับในมือใหญ่บรรจงกรีดลงบนแผ่นอกขาวอย่างชำนาญ โลหิตสีแดงสดซึมขึ้นมาเหนือบาดแผลที่เปิดออกทีละน้อยกระทั่งมีความกว้างมากพอ เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนหน้าผากของชายวัยกลางคน ในขณะที่เขาค่อยๆ นำอวัยวะบางอย่างออกมาจากร่างของคนที่นอนอยู่ หัวใจดวงนั้นยังคงเต้นตุบๆ อยู่บนมือใหญ่ ก่อนจะถูกบรรจุใส่กล่องเก็บความเย็นที่มีไอน้ำสีขาวจางๆ ลอยออกมาข้างนอกอย่างรวดเร็ว
การผ่าตัดยังคงดำเนินต่อไปอย่างเร่งรีบแข่งกับเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงทำให้ทั้งสองไม่ทันได้สังเกตว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองเข้ามาจากด้านนอกของบานกระจกใส แสงสว่างวาบจากสายอสุนีบาตเผยให้เห็นร่างผอมสูงของเด็กหนุ่มผมสีดำขลับคนหนึ่ง ดวงตาสีอำพันเบิกโพลงอย่างตกตะลึงกับภาพที่เห็น เขาอ้าปากค้างแต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากหยักนั้น ได้แต่เฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เงียบๆ จนกระทั่งร่างขาวซีดที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงถูกครอบไว้ด้วยผลึกใสรูปทรงยาวรีก่อนจะถูกยกลงใส่ไว้ในกล่องหนาทึบสีน้ำตาลเข้มอีกชั้น ทั้งสองช่วยกันยกกล่องใบนั้นใส่รถเข็นแล้วนำออกมาข้างนอกบ้าน ซึ่งมีรถตู้คันหนึ่งจอดรออยู่ก่อนแล้ว ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงโปรยปรายลงมามิหยุดหย่อน
“ขอบใจมากนะ นายคือคนเดียวเท่านั้นที่ฉันไว้ใจได้ รีบไปเถอะ”
ชายวัยกลางคนกล่าวหลังจากที่พวกเขาช่วยกันยกกล่องใบนั้นขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ทว่านักศึกษาหนุ่มผู้เป็นเจ้าของรถกลับย้อนถามอีกฝ่ายอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
“ด็อกเตอร์เอ็ดการ์ครับ หลานชายของคุณ...”
“ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ พาเขาไปซ่อนไว้ในที่ที่ปลอดภัยที่สุด อย่าให้ใครหาเจอ”
หนุ่มผมทองทำท่าละล้าละลัง พลางมองใบหน้าเหี่ยวย่นของชายวัยกลางคนสลับกับกล่องหนาทึบบนรถของตัวเองอย่างข้องใจ อาจารย์ของเขาทำอะไรกับชายหนุ่มหน้าสวยที่บอกว่าเป็นหลานชายคนนั้นกันแน่
“มัวรีรออะไรอยู่อีก รีบออกรถได้แล้ว ยิ่งไปได้ไกลจากที่นี่เร็วขึ้นเท่าไหร่ นายเองก็จะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น จำไว้นะ อย่าให้ใครรู้ที่ซ่อนของเขาเด็ดขาด”
ชายวัยกลางคนกล่าวกำชับด้วยน้ำเสียงเข้มอีกครั้ง ก่อนจะรุนหลังนักศึกษาหนุ่มรุ่นลูกไปขึ้นรถพลางมองตามรถตู้สีน้ำเงินเข้มที่วิ่งฝ่าสายฝนออกไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง เมื่อรถคันนั้นแล่นออกไปไกลจนลับสายตาแล้วเขาจึงหันไปเอ่ยกับชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ไปกันเถอะ ได้เวลาจัดการกับหัวใจของเจลิโอแล้วล่ะ”
“ครับผม”
ชายหนุ่มร่างสูงรับคำด้วยสายตาเป็นประกาย พลางเดินตามชายวัยกลางคนไปติดๆ หลังจากที่ทั้งสองกลับเข้าไปในบ้านแล้ว เด็กหนุ่มผมดำจึงออกมาจากที่ซ่อน เขากำมือแน่นพลางมองเข้าไปบ้านหลังนั้นด้วยสายตาเคียดแค้น
‘เจ้าพวกนี้ก็อยากได้หัวใจของท่านด้วยสินะ ข้าบอกแล้วใช่ไหมท่านเจลิโอ มนุษย์พวกนี้ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด’
.................................................................................................................
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆ