ตอนที่ 7 : ตอนที่ 6 : แอบมองคนข้างห้อง
ตอนที่ 6 : แอบมองคนข้างห้อง
เชอะ...หมั่นไส้อีตาบ้านั่นจริงๆ เลย คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน คนอื่นเขาอุตส่าห์ช่วยดูแลบ้านให้ ดันมาหาว่าเราเป็นพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านไปเสียได้
ภรัณยาบ่นกระปอดกระแปดพร้อมกับเดินกระแทกส้นเท้าปึงปังเข้ามาในบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่มินรญาเดินลงมาจากชั้นบนพอดี สาวมาดเซอร์เห็นเพื่อนร่วมบ้านแต่งกายด้วยชุดน่ารักราวกับตุ๊กตาญี่ปุ่นแต่กลับทำหน้ามุ่ยเหมือนไปกินรังแตนมาจากไหน แม้จะสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรมากไปกว่าแค่การทักทายสั้นๆ
อรุณสวัสดิ์ค่ะ
อะ...อรุณสวัสดิ์ค่ะ แล้วนั่นหอบอะไรเยอะแยะเชียว กำลังจะไปเรียนเหรอคะ
คนที่กำลังทำปากยื่นปากยาวบ่นสาวหล่อที่เพิ่งย้ายมาใหม่ฝากผ่านไปกับสายลมอยู่นั้น เมื่อได้ยินมินรญาทักทายก็รีบปรับเปลี่ยนสีหน้าทันที พร้อมกับเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายหอบหนังสือเล่มหนาอยู่ในมือ เนื่องจากเมื่อวานนี้ได้คุยกันคร่าวๆ ไปบ้างแล้วว่าสาวมาดเซอร์กำลังรอเรียนปริญญาโทอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากบ้านนี้มากนัก
ตอนนี้ฉันยังไม่ได้เปิดเทอมน่ะ แค่จะออกไปธุระข้างนอกหน่อย ขอตัวก่อนนะ
มินรญาส่ายหน้าพร้อมกับปฏิเสธ พลางเอ่ยเสียงเรียบ ส่วนเจ้าของบ้านก็พยักหน้าหงึกหงักกับคำตอบที่ได้รับ สาวมาดเซอร์กล่าวขอตัวและเดินก้าวฉับๆ ออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทันได้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำท่าโบกมืออำลาเธออยู่
บะ...บาย อ้าว? ไปซะแล้ว ยายนั่นท่าทางหยิ่งชะมัด ไม่คิดจะหัดล่ำลาเพื่อนร่วมบ้านกันบ้างเลยหรือไง
สาวน้อยร่างบางค่อยๆ ลดมือลงข้างกายทำเป็นเกาแขนตัวเองแก้เก้อเมื่อถูกเพื่อนสาวร่วมบ้านทำเมินใส่เช่นนั้น พานทำให้อารมณ์ขุ่นเคืองเกิดปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เธอจึงตัดสินใจหันหลังเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองทันทีด้วยยังไม่หายหงุดหงิดดีนัก
เมื่อขึ้นมาบนห้องได้ภรัณยาก็รีบเปลี่ยนชุดเดรสแขนสั้นสีขาวกระโปรงพองบานฟูฟ่องกลับไปเป็นชุดลำลองสำหรับใส่อยู่บ้านแบบสบายๆ อย่างเสื้อยืดแขนสั้นสกรีนลายตุ๊กตากับกางเกงขาสั้นลายตารางสีน้ำตาลสลับอ่อนเข้ม ผมลอนยาวสีน้ำตาลอ่อนประกายชมพูที่ปล่อยสยายเต็มแผ่นหลังมื่อครู่ถูกรวบมัดเป็นหางม้าเอียงไปทางด้านข้างเล็กน้อยตามสไตล์เกาหลีอย่างที่เธอชอบ ก่อนเจ้าของร่างเล็กจะทิ้งตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงกว้างขนาดหกฟุตอย่างหมดแรง ทั้งที่เช้านี้เธอยังไม่ทันได้แตะงานบ้านใดๆ เลยแม้แต่น้อย
เฮ้อ...ทำไมมันหงุดหงิดอย่างนี้นะ ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเองแต่เช้าเลยฉัน สงสัยจะเมาขี้ตามากไปหน่อยถึงได้เผลอมองคนปากร้ายแบบนั้นหล่อขึ้นมาได้ เชอะ หน้าตาก็งั้นๆ ไม่เห็นจะดูดีตรงไหนเลย โอ๊ย ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด พอทีเลิกคิดแล้วมาหาอะไรดูแก้เซ็งดีกว่าเรา
ร่างเล็กบ่นอุบพร้อมกับพ่นลมหายใจยาวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก เธอสะบัดหน้าไปมาคล้ายพยายามจะลบภาพของสาวหล่อข้างบ้านออกไปจากสมอง มือข้างหนึ่งเอื้อมไปหยิบรีโมตโทรทัศน์ขึ้นมากดเปิดช่องรายการเพลงจากแดนกิมจิที่เธอโปรดปรานเป็นนักหนา เพื่อหวังว่าจะช่วยดับอารมณ์ความกรุ่นโกรธที่ถูกใครบางคนกระตุ้นขึ้นมาครู่ก่อนให้สงบจิตสงบใจลงได้บ้าง
อะไรกัน อีตานั่นอยู่ห้องนี้หรอกเหรอ เฮอะ! ซวยจริงๆ เลยฉัน ดันมาอยู่ห้องที่ระเบียงติดกันเสียได้ แบบนี้ก็ต้องทนเห็นหน้านายนั่นไปทุกวันสินะ
แม้ปากจะบอกว่าไม่สนใจ แต่ไม่ทันไรสาวน้อยเจ้าของบ้านเช่าก็ผุดลุกขึ้นมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างหน้าต่างตรงหัวเตียงซึ่งมีผ้าม่านสีครีมปิดกั้นแสงสว่างจ้าจากดวงอาทิตย์เอาไว้ มือเล็กแง้มม่านออกเป็นช่องกว้างพอให้แสงสว่างลอดเข้ามาได้และสามารถมองออกไปเห็นทิวทัศน์เบื้องนอกได้พอประมาณ ดวงตาเรียวเล็กจับจ้องมองไปยังบ้านข้างๆ กระทั่งพบว่าสาวหล่อปากดีคนนั้นได้กำลังขนย้ายข้าวข้องเข้ามาพักในห้องนอนห้องหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับห้องของเธอพอดิบพอดีราวกับมีใครจงใจกลั่นแกล้ง
ด้วยระเบียงหน้าห้องนอนของบ้านทั้งสองหลังนั้นอยู่ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่เมตร ทำเอาภรัณยาถึงกับทำหน้าเบ้พลางยกมือขึ้นกุมขมับอย่างเหนื่อยใจ อดสงสัยไม่ได้ว่าบางทีคงจะเป็นเพราะความโชคร้ายของเธอจริงๆ ที่จะต้องมาอยู่ใกล้กับคนที่ไม่ถูกชะตาด้วยนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป แต่แล้วเมื่อได้ยินเสียงเพลงคุ้นหูซึ่งขึ้นต้นด้วยท่วงทำนองเร้าใจ กับเสียงดังกังวานใสของนักร้องนำคนโปรดที่ดังมาจากลำโพงชุดโฮมเธียเตอร์ เธอก็หันหน้ากลับมายังจอโทรทัศน์อีกครั้งพร้อมกับเลิกให้ความสนใจกับสาวหล่อข้างบ้านทันที
หลังเปิดศึกปะทะคารมกับเจ้าของบ้านคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาเมื่อเช้า ภรัณยาก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องทั้งวันคล้ายไม่อยากจะเห็นหน้าของคนที่อยู่ห่างออกไปเพียงแค่ขอบรั้วกั้น ยกเว้นก็แต่เวลาอาหารกลางวันและอาหารเย็นที่สาวน้อยจะลงมาเปิดตู้เย็นและหยิบเอากล่องอาหารแช่แข็งซึ่งไปเหมาซื้อมาตุนไว้ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อนมาอุ่นในเตาไมโครเวฟ ซึ่งโชคดีว่ามื้อเย็นของวันนี้มินรญาได้ซื้อก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยจากร้านตรงแถวหน้าปากซอยมาฝาก หญิงสาวจึงไม่ต้องพึ่งอาหารกล่องเหมือนอย่างเช่นทุกที
จากนั้นเมื่อสองสาวจัดการกับความหิวไปเรียบร้อยแล้ว คนที่ซื้อของฝากมาให้ก็ขอตัวขึ้นห้องไปก่อน ปล่อยให้สาวน้อยเจ้าของบ้านยืนล้างจานอยู่ในครัวแต่เพียงลำพัง
เสียงบ้านโน้นเงียบไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ ดีจัง ในที่สุดโลกก็กลับมาสงบสุขอีกครั้งแล้ว วู้! เอาล่ะงานบ้านของวันนี้เก็บไว้ทำต่อพรุ่งนี้ละกัน ไปดูหนังต่อดีกว่าเรา กำลังสนุกอยู่เลยด้วย
คนที่เพิ่งบอกว่าดีใจที่เห็นโลกกลับมาสงบสุขอีกครั้ง แอบเผลอชะเง้อมองผ่านหน้าต่างห้องอาหารไปยังบ้านข้างๆ ที่ปิดไฟชั้นล่างมืดมิดราวกับว่าไม่มีใครอยู่อย่างอดไม่ได้ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดกลับเข้าห้องตัวเองไปและเปิดซีรี่ย์ที่ดูค้างไว้ต่ออย่างรวดเร็ว
To Be Continued. . .
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ชีวิตคงไม่ต้องการอย่างอื่นแล้วแหละ
ฮ่าๆๆๆ
มาต่อด่วนๆเลยจ้า
-0-* เข้าใจว่าตอนอื่นยาวกว่านี้นา (คนเขียน : ลงให้ก็ดีเท่าไหร่แล้วยะ )<< โทดค้าบ >/\<''
^^ สาวน้อยนี่ครบสูตรจริงๆ เกาหลีฟีเวอร์55+