ตอนที่ 4 : แค่เพื่อนธรรมดา. . .เท่านั้น
โบสถ์ทรงยุโรปตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ผู้คนมากหน้าหลายตาล้วนแต่งกายด้วยชุดสีสันสดใส มีทั้งเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยไปทั่วบริเวณ ซุ้มประตูโค้งด้านหน้าของโบสถ์ถูกประดับตกแต่งไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวอมชมพูงดงามราวกับภาพวาด พอให้เดาได้ลางๆ ว่า คงจะเป็นพิธีแต่งงานของชาวคริสต์นั่นเอง
ฉันเดินเข้าไปใกล้อีกนิดเพื่อจะดูว่าใครกันนะคือเจ้าสาวผู้โชคดีคนนั้น เพราะฉันเองก็เคยฝันเอาไว้ถึงการแต่งงานแบบนี้ ถือช่อดอกไม้ เดินเข้าโบสถ์ ทำพิธีสาบานตน แลกแหวนแต่งงาน และจบพิธีด้วยการมอบจุมพิตที่อบอวลไปด้วยความรัก ต่อหน้าสักขีพยานทั้งหลาย ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้อย่างฝัน ฉันก็คงจะมีความสุขมากๆ แต่มันคงไม่มีวันเป็นไปได้ เพราะฉันรู้ดีว่าเส้นทางที่ฉันเลือก ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม การจะเข้าพิธีแต่งงานแบบนั้น โดยที่เจ้าบ่าวของฉันเป็นผู้หญิง คงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
มัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนี้น่ะแอม ใกล้จะได้เวลาแล้วนะ ผิงนั่นเองที่เร่งให้ฉันก้าวเข้าไปยังโบสถ์ด้วยกัน ฉันหันไปหาเธอด้วยสีหน้างุนงง
เวลาอะไรเหรอผิง แล้วนั่นมันงานแต่งงานใครกันเหรอ
ยังจะมาทำเป็นงงอีก ก็งานแต่งงานของเธอไงล่ะ ชุดเจ้าสาวก็สวมอยู่แล้วนี่นา เจ้าบ่าวรออยู่แล้วด้วย รีบไปสิ
งานแต่งงาน? เจ้าบ่าว? นี่มันอะไรกัน ฉันกำลังจะแต่งงานงั้นเหรอ ฉันก้มลงมองดูสภาพของตัวเอง ชุดวันพีซสีขาวบริสุทธิ์ ประดับประดาไปด้วยมุกและเลื่อมพรายระยิบระยับ กับช่อดอกไม้ขนาดย่อมในมือ ครบเซ็ทแบบนี้ ชุดเจ้าสาวจริงๆ ด้วย มาได้ยังไงกันเนี่ย ไม่ทันได้เสียเวลาคิดอีกต่อไปเมื่อผิงกึ่งลากกึ่งจูงฉันก้าวผ่านซุ้มประตูโค้งเข้าไปในตัวโบสถ์
เสียงเพลง wedding song ถูกบรรเลงขึ้นก้องกังวานไปทั่ว ทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉันด้วยความรู้สึกชื่นชม นั่นคุณพ่อคุณแม่ นั่นก็เพื่อนๆ ที่โรงเรียน เอ๊ะ พี่ๆ ชมรสบาสมากันเพียบเลย ว่าแต่ว่าใครเป็นเจ้าบ่าวของฉันล่ะ ฉันก้าวเดินไปใกล้แท่นพิธีเรื่อยๆ เจ้าบ่าวของฉันในชุดทักซิโด้สีดำ ยื่นมือออกมารับฉัน มองเห็นหน้าไม่ชัดเท่าไหร่ แต่สิ่งที่โดดเด่นก็คือทรงผมสีส้มชี้โด่ชี้เด่แบบนี้ นายแซลม่อนนี่นา ?!? ฉันเดินมาจนถึงแท่นพิธีด้วยความงุนงง เสียงของบาทหลวงดังขึ้น
คุณนภัสสร คุณจะรับผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยา จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขตราบจนชั่วชีวิตหรือไม่ เขากล่าวรับคำด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก ทว่าหนักแน่นและจริงจัง บาทหลวงหันมาทางฉันแล้วกล่าวขึ้น
ถ้าอย่างนั้นพ่อขอประกาศให้ท่านทั้งสองเป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์ เอาล่ะ พิธีได้เสร็จสิ้นลงแล้ว เชิญมอบจุมพิตเพื่อแสดงความรักต่อกันได้ สิ้นเสียงของบาทหลวง นายแซลม่อนก็หันหน้าทะเล้นมา พร้อมทั้งหลับตาพริ้มยื่นปากเข้ามาทำท่าจะจูจุ๊บฉัน
อะไรกันคะบาทหลวง หนูยังไม่ได้กล่าวรับคำเลย ว้าย ยยย หยุดนะนายม่อน จะทำอะไรช้าน นนน!!!
.
.
.
ฉันลุกพรวดขึ้นจากที่นอน มือไม้ไขว่คว้าสะเปะสะปะอยู่ในอากาศ เมื่อลืมตาตื่นขึ้นก็พบว่าอยู่ในห้องนอนของตัวเอง นี่ฉันฝันอะไรกันเนี่ย สงสัยจะอ่านการ์ตูนมากไปหน่อยถึงได้ฝันอะไรแปลกๆ แบบนี้ แต่ว่าทำไมต้องฝันถึงอีตานั่นด้วยนะ ฉันได้แต่คิดอยู่ในใจ พลางหันไปมองข้างกายก็พบเพียงความว่างเปล่า มองเลยไปที่หัวเตียงก็เห็นกระดาษโน้ตสีเหลืองสดแปะเอาไว้
เห็นว่ากำลังหลับเพลินๆ ท่าทางจะฝันดีเลยไม่อยากปลุก เจอกันที่โรงเรียนเลยนะจ๊ะ
ผิงนะผิง ปลุกกันซักหน่อยก็ดีหรอก จะได้ไม่ต้องฝันอะไรเพ้อเจ้อแบบนั้น ฉันแอบบ่นพึมพำอยู่คนเดียว หันไปคว้านาฬิกามาดูแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าสายแล้ว แล้วจึงรีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวทันที
เมื่อมาถึงห้องเรียนก็เห็นนายตัวยุ่งกำลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ จึงนั่งลงอย่างเงียบๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะลอบมองใบหน้าด้านข้างของเขา เวลาอยู่เฉยๆ แบบนี้ ก็ดูดีอยู่หรอกนะ พลางนึกไปถึงความฝันเมื่อคืน ผมสีส้มนี่ก็เหมือนกัน ถึงมันจะเด่นจนสะดุดตาเกินไปหน่อย แต่พออยู่ในชุดทักซิโด้สีดำแบบนั้น ก็ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ฉันเอื้อมมือไปลูบผมของเขา ผมเส้นเล็ก นุ่มกว่าที่คิดไว้นึกว่าจะแข็งกระด้างเป็นสก๊อตไบรท์เสียอีก พลันดวงตากลมโตนั้นก็ลืมตาขึ้นทันที ด้วยความตกใจ ฉันรีบชักมือกลับ แล้วเบนสายตาหลบไปทางอื่น แกล้งหยิบหนังสือขึ้นมากางเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อ่านอะไรอยู่เหรอแอม ท่าทางเครียดเชียว น้ำเสียงของเขาเหมือนคนงัวเงียเพิ่งตื่น
อ๋อ ก็ไม่มีอะไร อ่านเล่นๆ ไปงั้นเอง เห็นอาจารย์ยังไม่เข้าน่ะ ทำไมเหรอ ฉันหันไปหาเขา รู้สึกหวิวๆ ในหัวใจ เขาจะรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าเมื่อกี้ฉันทำอะไรไปน่ะ
นอกจากเล่นบาสเก่งแล้ว เพิ่งรู้นะว่าแอมมีความสามารถพิเศษอ่านหนังสือกลับหัวได้ด้วย เขาพูดแล้วอมยิ้มอย่างล้อๆ ฉันชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงมองหนังสือในมือตัวเองด้วยความรู้สึกอับอายสุดๆ แต่ก็ยังแกล้งพูดวางฟอร์มกลบเกลื่อนออกไปเพื่อไม่ให้รู้สึกเสียหน้าไปมากกว่านี้
อืม ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แค่ลองฝึกอ่านดูน่ะ นายลองดูบ้างมั้ยสนุกดีนะ ฉันพูดแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ แต่เขากลับยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูฉัน
ไม่ต้องเขินหรอกน่า แอบมองม่อนหลับก็บอกมาตรงๆ เถอะ ดาร์ลิ้งค์ของม่อนเนี่ย น่ารักจริงๆ เลยนะ แล้วเมื่อคืนหลับฝันดีรึเปล่าเอ่ย
บ้าเหรอ ใครเขาจะแอบมองนาย หลงตัวเองเกินไปแล้วล่ะ อีกอย่างฉันจะฝันดีฝันร้ายมันก็ไม่เกี่ยวกับนายซักหน่อย แค่มาโผล่อยู่ในความฝันฉัน อย่าคิดว่าฉันจะคล้อยตามหน่อยเลย
ฉันตอกกลับไปอย่างลืมตัว นึกแล้วอยากจะตบปากตัวเองจริงๆ ดันบอกไปซะได้ว่าฝันถึงเขาน่ะ บ้าจริงๆ เลยฉัน ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำเป็นอ่านหนังสือต่อ แอบเห็นเขายิ้มมุมปากนิดๆ เฮ้อ อ เพราะความฝันเมื่อคืนแท้ๆ เชียว
เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ จำได้ว่าเพิ่งเปิดเทอมไปแหมบๆ ไม่ทันไรก็ใกล้ถึงเวลาสอบเลื่อนชั้นแล้ว พอได้เวลาเลิกเรียนผิงก็เข้ามารอฉันที่ห้องเหมือนเช่นเคย ช่วงนี้ไม่มีการซ้อมเพราะทุกคนเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบกันหมด
นายม่อน ตื่นได้แล้ว อาจารย์ออกไปแล้วนะ
เขาลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากคำนับอาจารย์วิชาสังคมเมื่อครู่นี้ไปหลายรอบ นี่ถ้าไม่ได้เห็นคะแนนสอบกลางภาค คงไม่มีใครเชื่อหรอกนะว่านายคนนี้เป็นอัจฉริยะขนาดไหน เห็นหลับแทบจะทุกคาบ แต่ได้ท็อปของชั้นปี ทั้งๆ ที่ฉันตั้งใจเรียนแทบตาย แต่ไม่ติด 1 ใน 10 กับเค้าบ้างเลย
ระหว่างที่กำลังหันไปเก็บข้าวของลงกระเป๋าโดยมีผิงเพื่อนรักคอยเป็นลูกมือ แพม สาวเปรี้ยวประจำห้องที่เล็งแซลม่อนไว้ตั้งแต่วันแรก ก็เดินเข้ามาทักเขาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ฟังแล้วชวนให้หมั่นไส้ซะเหลือเกิน
แซลม่อนจ๋า เย็นนี้ว่างรึเปล่าคะ ช่วยติวคณิตให้แพมกับเพื่อนๆ หน่อยสิ พวกเรายังไม่ค่อยเข้าใจเลย พูดไม่พูดเปล่า ยังลูบไล้มือไปทั่วหลังของเขาอีก ติวคณิตหรือติววิชาอะไรกันแน่นะ ยัยคนนี้
เอ่อ คงไม่ได้หรอก เพราะว่าม่อนจะต้องไปติวคณิตให้แอมเค้าน่ะ จริงมั้ยจ๊ะที่รัก เขาหันมาหาฉันพร้อมกับขยิบตาเล็กน้อย เป็นเชิงว่าให้ช่วยปฏิเสธที แต่ผิงกลับหันไปตอบแทนพร้อมทั้งฉีกยิ้มกว้างอย่างยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ไม่เป็นไรจ้ะแพม วันนี้ผิงจะติวให้แอมเอง เชิญเอาตัวนายม่อนไปได้ตามสบายเลย ขอบใจนะจ๊ะม่อนที่ช่วยติวให้ทุกวัน แต่วันนี้ไม่ต้องแล้วล่ะ เราสองคนกลับก่อนนะโชคดีจ้ะ ผิงตอบแล้วรีบฉุดมือฉันเตรียมจะเดินออกจากห้องทันที
เอ่อ ขอโทษนะแพม แต่เราต้องไปส่งสองสาวกลับบ้านน่ะ ขอตัวนะ เขารีบลุกขึ้นตามพวกเรามา ก็โดนแพมยื้อยุดฉุดเอาไว้
แหม . . . ม่อนคะ คำก็แอม 2 คำก็แอม นี่อย่าบอกนะว่าเธอสองคนกำลังคบกันอย่างที่เขาลือกันไปทั่วน่ะ ฉันถึงกับหูผึ่งหันขวับไปหาแพมทันที พลางชี้มือไปยังนายตัวยุ่ง
เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ ใครลือว่าเราคบกับอีตานี่ ข่าวมั่วแล้วล่ะ ไม่เชื่อถามผิงดูได้เลย จริงมั้ย ฉันหันไปหาแนวร่วมจากผิงที่พยักหน้าช่วยยืนยันอีกแรง
อ้าวแอม. . .ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ ก็เราสองคนไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ แถมยังกลับบ้านพร้อมกันอีกตังหาก ไม่เรียกว่าแฟนแล้วจะเรียกว่าอะไรล่ะครับ เขาหันมายิ้มหวานทำตาเชื่อมใส่ฉัน
จะบ้าเหรอ ฉันกับนายจะเป็นแฟนกันได้ยังไง ไปตกลงคบด้วยตอนไหนไม่ทราบ แล้วอีกอย่างนายก็ไม่เคยบอกว่ารักว่าชอบฉันเลยด้วยซ้ำ คนที่เค้าจะเป็นแฟนกันได้ก็ต้องรักกันมาก่อนสิ แค่ไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วบอกว่าเป็นแฟน อย่างงั้นเรากับผิงก็คงเป็นแฟนกันมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะสิ
ฉันร่ายยาวเป็นชุด ก่อนจะหันไปสบตากับผิงก็เห็นผิงหน้าแดงขึ้นมา พลอยทำให้ฉันเขินไปด้วย พูดอะไรออกไปเนี่ยเรา
ก็ได้ถ้าแอมต้องการอย่างนั้น . . . เพื่อนทุกคน เฮ้ ฟังเราพูดหน่อย เราจะบอกกับทุกคนว่า เราแซลม่อนชอบแอมจริงๆ แล้วก็จะขอคบอย่างเป็นทางการด้วย . . . ได้โปรดเถอะแอม เป็นแฟนกับเรานะ
เขาหันไปตะโกนเรียกเพื่อนๆ ในห้อง ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าฉันพลางกุมมือฉันขึ้นมาจูบ แล้วประกาศขอคบฉันต่อหน้าเพื่อนๆ
ตึก . . . ตึก . . . ตึก . . . ก
โอย อะไรกันนะใจฉัน เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้ว ดูเค้าทำเข้าสิ อย่างกับพระเอกการ์ตูนขอนางเอกแต่งงานยังไงยังงั้น ฉันได้แต่ยืนนิ่งอึ้งไป ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง เสียงเป่าปาก และเสียงปรบมือดังกึกก้องไปหมด อายจัง ตาบ้านี่ ชอบทำอะไรเว่อร์จริงๆ เลย
ไม่ได้นะ!!!
เสียงของผิงดังแทรกขึ้นมา เล่นเอาทุกคนชะงัก เสียงเงียบกริบไปทันที ฉันหันไปหาผิงด้วยความสงสัย สีหน้าของผิงค่อยๆ หงอลงไป ก่อนจะเอ่ยขึ้น
ก็ . . . ก็ . . . ก็นายม่อนน่ะเนื้อหอมจะตาย เราไม่อยากเห็นเพื่อนเราต้องเสียใจนี่นา อีกอย่างนายกับเพื่อนเราก็ยังไม่รู้จักกันดีพอ ผิงเพื่อนรัก แม้กระทั่งเรื่องแบบนี้ยังเป็นห่วงฉันเลย ฉันล่ะดีใจจัง
โธ่เรื่องแค่นั้นเอง . . . เราอยากจะบอกทุกคนเอาไว้ตรงนี้เลยนะ ถึงจะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่เราก็จริงจังกับแอม ไม่มีวันจะทำให้แอมเสียใจหรอก เขาเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น
แต่ . . . ไม่ได้หรอก . . . เราไม่ยกแอมให้ใครทั้งนั้น . . . ก็เรา . . . เรารักแอมมาก่อนนี่ ทุกคนรวมทั้งฉันต่างก็ตกใจกับคำพูดประโยคนั้นของผิงไม่แพ้กัน
มะ . . . หมายความว่ายังไงผิง . . . รัก . . .เหรอ . . . แต่เรา . . . กับ ผิง . . . แค่เพื่อน
ฉันพูดออกไปอย่างตะกุกตะกัก สมองของฉันกำลังประมวลอย่างหนัก ฉันงงไปหมดแล้วนี่มันอะไรกัน ที่ผ่านมาฉันไม่เคยรู้เลยว่าผิงคิดกับฉันมากกว่าคำว่าเพื่อน
ใช่สิ . . . ก็เรามันเป็นแค่เพื่อน ถึงจะรักแอมแค่ไหน แต่ผิงก็เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น
แอม . . . แอมไม่เคยรู้เลย แอมขอโทษ ก็เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วตอนนี้แอมก็ . . .
พอแล้วแอม ผิงไม่อยากได้ยินคำว่าเพื่อนจากปากแอมอีกแล้ว
น้ำตาของผิงไหลรินลงมาอาบแก้ม ฉันกำลังจะเดินเข้าไปหา แต่เธอกลับคว้ากระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้องเรียนไป ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน แล้วนี่ฉันควรจะทำยังไงดี ใครก็ได้บอกฉันทีสิ!!!
To Be Continued
LovePenguin Talks. . .
สวัสดียามบ่ายวันอาทิตย์ค่ะ วันนี้แวะมาอัพตอนใหม่ให้ได้อ่านกันต่อแล้วนะคะ เรื่องราวเริ่มจะเข้มข้นขึ้นแล้ว มีหลายคนบอกว่าสงสารผิงเพราะรู้สึกว่าคล้ายกับที่ตัวเองเป็นอยู่ตอนนี้ เราเองก็เข้าใจความรู้สึกนั้นดีเช่นกัน ก็เคยเป็นมาก่อนนี่นะ ยังไงก็มาร่วมลุ้นและเอาใจช่วยเพื่อนสาวผู้แสนดีคนนี้กันด้วยนะคะ อยากให้เรื่องราวเป็นอย่างไร อยากแนะนำให้เพิ่มเติมหรือแก้ไขตรงไหน เขียนความคิดเห็นของคุณเอาไว้ได้เลยนะคะ หรือว่าถ้าไม่อยากลงในบอร์ดก็ส่งเมลมาให้เป็นการส่วนตัวก็ได้ค่ะ น้อมรับความคิดเห็นของทุกๆ คนเลยนะคะ
ส่วนในงานมหกรรมหนังสือ ที่ศูนย์สิริกิติ์ในวันที่ 17 28 ต.ค. นี้ ทางสนพ.ทูบีเลิฟจะมีนิยาย Girls Love 2 ซึ่งเขียนโดย ธนูสีฟ้า (เป็นนักเขียนอีกคนที่เราชอบผลงานเค้ามากๆ เลย) มาให้เพื่อนๆ ได้จับจองเป็นเจ้าของอีกเล่มด้วย ขอบอกว่าหน้าปกสวยมากๆ เราเองก็คงไม่พลาดที่จะต้องไปซื้อมาเก็บเป็นสมบัติส่วนตัวอีกแล้ว หุหุ ใครอยากทราบรายละเอียดเข้าไปติดตามได้ที่เว็บสนพ.(2belovedbook.com) นะคะ และสำหรับใครที่อยากแวะมาให้กำลังใจนักเขียนตัวเล็กๆ คนนี้ ก็มาเจอกันได้ที่โซนเพลนนารีฮอลล์ บูธ H15 วันที่ 18 21 และ 26 27 ต.ค. 11.00 16.30 น. นะคะ วันนี้ต้องขอตัวไปก่อนแล้วค่ะ พบกันใหม่ตอนหน้านะคะ บับบายค่า
ตัวอย่างตอนต่อไป
.
.
.
.
ขอบคุณนะม่อนที่มาส่ง ฉันหันกลับไปกล่าวขอบคุณร่างสูงข้างกาย เขายิ้มให้ฉัน พลางขยี้ผมเบาๆ ฉันหลบสายตาเขาลงสู่พื้นเบื้องล่าง
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ม่อนอยากให้แอมรู้ว่า ม่อนจริงใจกับแอมจริงๆ นะ ส่วนเรื่องคำตอบเอาไว้ให้แอมพร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกม่อนก็ได้ ม่อนไม่รีบร้อนหรอก คืนนี้ก็อย่าคิดมากนะ นอนหลับฝันดีครับ
เขากล่าวทิ้งท้ายด้วยความห่วงใย แล้วจึงเดินจากไป ฉันมองเขาอยู่หน้าประตูบ้านจนกระทั่งเขาลับตาไป จึงหันหลังจะกลับเข้าบ้าน แต่ไม่รู้ว่าอะไรที่ดลใจให้ฉันมองขึ้นไปยังห้องนั้นอีกครั้ง แล้วก็เห็นว่าผิงกำลังมองลงมาที่ฉันเช่นกัน ฉันส่งยิ้มให้เธอและกำลังจะยกมือขึ้นทักทาย แต่ร่างนั้นก็ผลุบหายเข้าไปในความมืดเสียก่อน สงสัยว่าคงจะยังไม่หายโกรธเรื่องเมื่อตอนเย็น ฉันจึงได้แต่ยกมือขึ้นเกาศีรษะแก้เก้อ แล้วเดินเข้าบ้านตัวเองไปเงียบๆ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

                                ได ใส
                                BG
ใต้นิยายมันคือไรอ่ะ?
(>^<)?
                                ได ใส
                                BG
ใต้นิยายมันคือไรอ่ะ?
(>^<)?
                                ได ใส
                                BG
ใต้นิยายมันคือไรอ่ะ?
(>^<)?