คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Season 1 : Chapter 1 : First Kill
ศรของโมสท์ถูกยิงเข้าปากเจ้าบาซิลิสก์ทะลุเพดานปากไปเสียบสมองของมันแต่ก็มันก็ยังไม่ตายในทันที ก่อนมันฉกใส่โมสท์อีกรอบ เขาเบี่ยงตัวหลบแต่ก็หลบพ้นไม่หมดโดนกัดเข้าแขนซ้ายทะลุเป็นรูขนาดใหญ่
“แม่งเอ้ย” โมสท์ตะโกนออกมาก่กอนจะรวบรวมความกล้าและพลังใจในการตัดแขนตัวเองทิ้ง
อ้ากกกกกกกกกกกกก!
“เจ็บชิบหายเลยสัส” โมสท์บ่นก่อนจะรีบหาของมารัดห้ามเลือดก่อนก่อนจะเดินไปดูศพของเจ้างูยักษ์เขาก็ เจอเป็นเหรียญลอยอยู่เหนือตัวมัน
“เจ้านี่คือ Soul Coin สินะ” โมสท์เอ่ยก่อนเก็บมา แล้ว Soul Coinก็หายไป ก่อนจะมีข้อมูลจำนวนของเหรียญไหลเข้ามาในหัวอัตโนมัติ ซึ่งตอนนี้เขามีอยู่3,000 Soul coin
“ไม่มีพวกหน้าต่างระบบแต่เป็นข้อมูลส่งเข้าสมองโดยตรงสินะ” โมสท์เอ่ย
“สวัสดีครับคุณลูกค้า”อยู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังของเขา โมสท์ก็รีบหันกลับไปทันที “มึงเป็นใคร”
“ข้าคือพ่อค้า ดูเหมือนเจ้าต้องการสินค้าของข้านะ ไม่ลองดูหน่อยล่ะ” พ่อค้าคนนั้นเอ่ย โดยมีสรีระเป็นผู้ชายตัวสูงประมาณ180-190เซนติเมตร สวมหน้ากากปิดบังใบหน้า มีผมสีทอง สวมเสื้อคลุมมิดชิด
".....มีอะไรขายบ้างล่ะ" โมสท์คิดอยู่สักพักก่อนเอ่ยถาม
พ่อค้าวาดวงเวทก่อนเอื้อมมือเข้าไปหยิบบางอย่างออกมา เป็นของเหลวสีแดงใสไร้สิ่งเจือปนดูเป็นของที่ราคาสูงพอสมควร
"นี่คือยาฟื้นฟูระดับสูง สามารถงอกแขนให้เจ้าใหม่ได้ ราคา 2,500 เหรียญวิญญาณ" พ่อค้าเอ่ยเสนอ โมสท์หรี่ตา มองเขา
"เอาของระดับนี้มาขายนี่ เกมจะสมดุลแน่เหรอ" โมสท์เอ่ยถาม
"ก็ถ้าคุณมีเหรียญพอก็ซื้อได้หมดแหละ" พ่อค้าเอ่ย "สรุปจะซื้อไม่ซื้อ"
"ซื้อดิ" โมสท์เอ่ยก่อนจะมาถุงSoul Coinปรากฎอยู่ข้างหน้าพ่อค้าแล้วเขาก็เก็บมันไป แล้วโมสท์ก็ถามต่อ "อีก500เหรียญนี่พอจะซื้ออาวุธอะไรได้บ้าง"
"ก็พวกมีดกับมีดบินน่ะ มีดสั้นธรรมดาเล่มละ 350 เหรียญ มีดบินขายเป็นชุด ชุดละ400 มีมีด 60เล่ม" พ่อค้าเอ่ย
"งั้นขอมีดบิน1ชุด" โมสท์เอ่ยแล้วเขาก็ได้ของมา เหรียญของเขาก็หายไปเช่นกัน
"ไว้ใช้บริการในโอกาสหน้านะครับ" พ่อค้าเอ่ยก่อนหายตัวไป
“ดูลึกลับจังแหะ” โมสท์เอ่ยก่อนดื่มของเหลวสีแดงสดเข้าไปก่อนแขนของเขาจะค่อยๆงอกกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ยาแม่งดีจริงว่ะ” โมสท์เอ่ยก่อนจะเดินไปชำแหละซากของเจ้าบาซิลิสก์ที่ตายไป โดยเลือกที่จะตัดหัวมันทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้พิษไปโดนส่วนอื่น แต่ก็ยากพอสมควรเพราะต้องเอาเกล็ดมันออกเสียก่อน แล้วก็เริ่มคิดว่าจะเก็บเนื้อ เกล็ดและเขี้ยวมันไว้ไหนดี
“จะว่าไปเราสามารถทนพวกพลังคำสาปได้สินะ เป็นความสามารถพิเศษหรือเปล่าวะ แล้วเราจะรู้ความสามารถของตัวเองได้ไงวะ” โมสท์เอ่ยพลางครุ่นคิด ก่อนจะมีกระดาษคล้ายม้วนคัมภีร์ปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา ศึกมันเขียนข้อมูลของเขาเอาไว้
ชื่อ : โมสท์ เพศ : ชาย อายุ : 14 ปี 11 เดือน 24วัน ความสามารถพิเศษ : จ้าวแห่งคำสาป อาวุธวิเศษที่ครอบครอง : ธนูโลหิตมังกรต้องสาป |
รายละเอียดของความสามารถ “จ้าวแห่งคำสาป”
ไม่รับผลจากคำสาปทุกชนิด และเพิ่มพลัง2.25เท่าการโจมตีประเภทคำสาปให้กับผู้ครอบครอง แต่ค่าใช้จ่ายในการใช้งานจะเพิ่มเป็น1.75เท่า
“สาเหตุที่จ้องตาบาซิลิสก์แล้วไม่ตายสินะ ส่วนไอธนูนี่สิ่งที่เราต้องจ่ายคือเลือดของเราสินะ สมมติว่าคนอื่นใช้มันจะพลังโจมตีจะเบากว่านี้ แต่จะเสียเลือดน้อยกว่าเราสินะ ให้ตายสิเหมือนว่าถ้าฆ่าไม่ตายในครั้งเดียวเราจะขาดเลือดตายก่อนสินะ ส่วนพวกการโจมตีด้วยคำสาป คงต้องไปอ่านและเรียนรู้เวทมนตร์คำสาปจากหนังสือคำสาปด้วยสิ ยุ่งยากจังไม่เหมือนในเกมสักนิด” โมสท์เอ่ยบ่นออกมาอย่างหัวเสียเพราะเขาต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้ถ้าเขายังไม่อยากตาย
“แล้วนี่ไม่มีพวกระบบเก็บของสินะ คงต้องหาอะไรมาห่อเนื้อพวกนี้กับต้องแบกเกล็ดและเล็บของเจ้านี่ไปเองสินะ” โมสท์เอ่ยก่อนเริ่มจัดของว่าเอาอะไรไปด้วยได้บ้าง หลังเก็บของเสร็จเขาก็ออกเดินทางต่อโดยเขานั้นจะเดินไปเรื่อยๆเผื่อจะเจอวิธีรอดได้นานขึ้นซึ่งเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะขมวดคิ้วกับการที่มันมีเวลานับถอยหลังบอกเขาอยู่
“นี่มันอะไรกัน” โมสท์กล่าวด้วยความสงสัยก่อนจะพยายามคิดว่ามันนับถอยหลังอะไร เขาเดินไปเรื่อยๆจนเจอเพื่อนร่วมชั้นของเขาที่อยู่กันเป็นกลุ่ม
“นั่นโมสท์นี่” เพื่อนผู้ชายคนหนึ่งได้พูดขึ้นก่อนชี้ไปทางโมสท์
“แสดงว่ารอดกันมาครบสินะ” เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“อยู่กันหมดทั้งห้อง1กับ2เลยแหะ” โมสท์กล่าวก่อนเดินเข้าไปใกล้พวกเขา
“เอาล่ะในเมื่อมากันครบแล้วเรามาคุยเรื่องเอาตัวรอดออกจากที่นี่กันเถอะ” สกายคนที่เป็นหัวหน้าห้อง2กล่าวออกมาพร้อมกับคนอื่นๆที่หันไปสนใจเขา
“ตอนนี้พวกเรามาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้แถมมีพวกสัตว์ประหลาดหรือจะเรียกพวกแม่งว่ามอนสเตอร์เหมือนในเกมก็ได้อ่ะนะ ซึ่งกูคิดว่าพวกเราควรอยู่รวมกันไว้และคอยแบ่งหน้าที่กัน…” ในขณะที่สกายกำลังพูดอยู่โมสท์ก็มัวแต่สนใจเรื่องของเวลานับถอยหลัง
‘มันกำลังนับอะไรอยู่กัน จะว่าไปเจ้านั่นบอกว่า 1 ประเทศรอดได้ 1 คนใช่ไหม หรือว่าเป็นเวลาที่จำกัดไว้ถ้าเราไม่ฆ่าเราจะตายแทน? จะลองดูดีไหมนะ ไม่เอาดีกว่า จะยังไงก็ไม่ควรฆ่าเพื่อนตัวเองอ่ะนะ’ โมสท์คิดในใจพลางวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆไปด้วย แต่พวกหมาป่าสี่ตาที่นับจำนวนดูคร่าวๆคือมากกว่า100ตัวก็โผล่มา
“แย่แล้ว! รีบจัดการพวกมันเร็วเข้า” เพื่อนคนหนึ่งกล่าวขึ้นก่อนจะมีสนับมือสีเขียวปรากฏขึ้นมาในมือของเขา โมสท์ก็เอื้อมมือไปคว้าคันธนูของตัวเองออกมาอยู่ในท่าเตรียมยิง แล้วก็เกิดการตะลุมบอลระหว่างนักเรียนกับหมาป่าสี่ตาขึ้น
โมสท์เล็งหมาป่าสี่ตาตัวหนึ่งก่อนจะปล่อยสายธนูส่งลูกศรสีชาดลอยออกไปหมายปลิดชีพสัตว์ร้ายตัวนั้น แต่ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งของเขากระเด็นมายังจุดที่ลูกศรจะเข้าปะทะกับหมาป่าสี่ตาพอดี ทำให้ลูกศรนั่นเสียบทะลุคอของเพื่อนเขาไป
ฉึก!
“ไม่!” เพื่อนที่จะตามมาช่วยคนที่ถูกลูกธนูของโมสท์เสียบคอร้องตะโกนขึ้นทำให้หลายคนหันมามองโมสท์ที่มือสั่นเทาจากอาการช็อค และเพื่อนคนนั้นที่นอนจมกองเลือดของตัวเอง ไม่นานก็มีเสียงของคาลอสดังขึ้นอีกครั้ง
[โอ้ ในที่สุดก็มีการฆ่ากันเกิดขึ้นสักทีนะครับ แหมๆ รอตั้งนานแหนะ ]
เสียงประกาศของคาลอสดังขึ้นก่อนพร้อมหน้าจอที่จับไปที่ตัวของโมสท์
[จะว่าไปผมลืมบอกเลยนะครับว่า จะมีนาฬิกาคอยนับเวลาถอยหลังด้วยนะครับ ถ้าเกิดเวลาหมดพวกคุณก็จะตายครับ ส่วนวิธีเพิ่มเหรอ? เมื่อกี้เพื่อนพวกคุณก็ทำให้เห็นแล้วนี่… ถ้าเกิดไม่ยอมฆ่าก็ตายไปกันได้แล้วครับไม่งั้นรายการมันจะไม่สนุก]
เสียงประกาศเอ่ยอธิบายเรื่องของเวลาที่นับถอยหลังของคนอื่นๆ นั่นทำให้ใครหลายคนเบิกตากว้างแล้วหลังไปมองเพื่อนข้างๆตัว โมสท์ที่ได้ยินเสียงประกาศก็กัดฟันแน่นด้วยความรู้สึกโกรธ โกรธที่ตัวเองพลั้งมือสังหารเพื่อ โกรธที่ตัวเองต้องเล่นไปตามเกมของมัน
“แกต้องการอะไรกันแน่!” โมสท์ตะโกนถามคาลอส ทำให้มันแสยะยิ้มอยู่หลังกล้อง
[เพื่อความบรรเทิงของเหล่าเทพไงครับ มนุษย์สำหรับเราก็เป็นแค่สิ่งสร้างความบันเทิงเท่านั้นแหละ ที่พวกคุณถือกำเนิดขึ้นมาก็เพื่อคอยเพิ่มพลังและเป็นสิ่งบันเทิงให้พวกเราเหล่าเทพก็เท่านั้น]
เสียงประกาศดังขึ้นพวกความตกตะลึงของผู้คน เหล่าสาวกของศาสนา และลัทธิต่างๆ ต่างคิดว่านี่เป็นแค่คำโกหก พวกเชื่อพยายามเชื่อว่าเหล่าเทพที่พวกเขานับถือจะไม่เป็นแบบที่พูด
[ถีงจะมีบางส่วนที่รักมนุษย์อยู่ก็เถอะ แต่ก็จะรักแค่กับคนที่นับถือตนเองนั้นแหละ แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะครับ มารับชมต่อดีกว่า ว่าเหล่าผู้ร่วมเกมจะทำยังไงกันต่อกันนะ]
“แค่ฆ่าก็จะยื้อเวลารอดได้สินะ แล้วถ้าฆ่าแกได้จะได้อะไร” โมสท์เอ่ยถามก่อนลุกขึ้นมายืน ในขณะที่คนอื่นๆเตรียมจะฆ่ากัน
[ผมจะให้คุณขอพรได้ 3 ข้อครับ]
เสียงของคาลอสเอ่ยตอบ
“งั้นก็เตรียมล้างคอรอได้เลยไอเทพเส็งเคร็ง!!” โมสท์ตะโกนก่อนง้างธนูฆ่าเพื่อนไปอีกสอง
“รุมโมสท์ก่อน มันเป็นบ้าไปแล้ว” สกายเอ่ยสั่งก่อนที่คนอื่นๆจะมาล้อมเขาไว้
“กูจะไปฆ่าไอเทพเวรนั่น เพราะงั้น ช่วยตายแล้วเป็นเหรียญให้กูซะ” โมสท์เอ่ยก่อนชักมีดบินขึ้นมา
“ใครจะไปยอมให้มึงฆ่ากันวะ” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยก่อนพุ่งมาหาโมสท์แต่ก็โดนมีดบินปาเสียบไหล่ไป ตามด้วยลูกศรเลือดเสียบทะลุหัวไป
ฉึก!
อ้ากกกก!
ฉึก!
ร่างของเพื่อนคนนั้นได้แน่นิ่งไปแล้วโมสท์ก็หลบหนีเข้าไปในป่า
ก่อนจะมีคนเข้ามาใช้ดาบแทงหลังสกาย
“ไอเหี้ยแบงค์” สกายเอ่ยด่าด้วยความโกรธ
“โทษทีว่ะแต่กุไม่อยากตายโว้ย” สิ้นคำนั้นพวกเขาก็หันมาฆ่ากันเอง
แล้วประเทศอื่นๆก็เริ่มทำการฆ่ากัน
ณ รัสเซีย
มีเด็กสาวคนหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้าศพของเพื่อนร่วมชั้นตัวเองอยู่
“พร3ข้องั้นเหรอ ถ้าขอได้จริงๆก็คงจะดีนะ” เด็กสาวเอ่ยก่อนเดินหายไปในป่า
=====================================================================
จบ ตอนที่ 1 First kill
ในที่สุดก็เขียนจบสักทีครับหลังดองไว้อยู่นานแสนนาน ชอบกันไหมครับ ตัวละครผมยังรับอยู่เรื่อยๆนะครับ ส่วนนางเอกเรื่องนี้นั้น กำลังลังเลอยู่ครับว่าจะเลือกใครดีระหว่างตัวละครที่คนอ่านส่งมาหรือจะเอา Oc ของตัวเองดีครับ อ๋อ และพวกตัวละครที่ส่งกันมาผมจะทยอยเอามาใส่ท้ายตอนจนกว่าจะครบนะครับ ถ้าถามว่าจะเจอกับพระเอกเมื่อไหร่ก็ Chapter 3 นู่นเลยครับ ช่วงนั้นจะตีกันมั่วแน่นอน ทั้งนี้ทางผมจะพยายามพัฒนาฝีมือการเขียนเรื่อยๆนะครับ ส่วนเรื่องที่เขียนช้านั้นเพราะติดเกมครับขอโทษด้วยจริงๆครับ ขอขอบคุณที่ยังตามกันอยู่ด้วยนะครับ
ความคิดเห็น