Doctor Cris

ตอนที่ 1 : Intro

INTRO……..

       “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยแม่หนูด้วย คุณหมอช่วยแม่หนูด้วย” เสียงใสของเด็กหญิงวัย 10 ขวบดึงแขนอาจารย์หมอที่กำลังจะเดินผ่านไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา

        “คนไข้ Cardiac Arrest ค่ะคุณหมอ” พยาบาลตะโกนเมื่อคนไข้หนึ่งในห้องฉุกเฉินเกิดอาการภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน

        ทั้งหมอทั้งพยาบาลวิ่งกรูกันเข้าไปช่วยชีวิตหญิงวัยกลางคนคนนั้น โดยต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองทั้งที่ภาพตรงหน้าดูวุ่นวายมากขนาดไหนแต่ทุกคนก็ปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งของตัวเอง

        พยาบาลหนึ่งคนพาเด็กน้อยออกมาจากตรงนั้นเพื่อไม่ให้ขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ขณะนั้น นอกจากจะพยาบาลจะมีหน้าที่ช่วยเหลือคนไข้แล้ว การดูแลสภาพจิตใจญาติผู้ป่วยก็เป็นอีกหนึ่งหน้าที่ที่เลี่ยงไม่ได้

        Residency หรือ แพทย์ประจำบ้าน คือ นักศึกษาแพทย์ที่ศึกษาเฉพาะทางทางด้านใดด้านหนึ่งพยายามปั๊มหัวใจเพื่อช่วยหญิงที่หัวใจหยุดเต้นอยู่ในขณะนี้ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล

            “19.30 คนไข้เสียชีวิต”

        ดอกไม้สดในมือแพทย์หญิงศิริน ถูกวางลงบนหน้าเจดีย์เก็บกระดูกแม่ของเธอ จากวันนั้นจนวันนี้แม่จากเธอไป 15 ปีแล้ว

        “หนูเป็นหมอแล้วนะแม่ หนูจะช่วยชีวิตคนไข้ของหนูให้สุดความสามารถ พวกเขาจะได้ไม่เสียโอกาสในการใช้ชีวิตอย่างที่พวกเราเจอ”

        ศิรินพูดประโยคเดิมๆ ซ้ำๆ กับแม่ของเธอทุกปี ว่าตอนนี้เธอทำอะไรหรือบางครั้งที่เธอเจอเรื่องหนักๆแย่ๆมามากแค่ไหน หน้าเจดีย์แม่คือที่ที่เธอระบายออกมามากที่สุด

        แพทย์หญิง ศิริน หอวัง หรือ หมอคริส เธอเป็นแพทย์เฉพาะทางถึง 3 ด้าน คือ ด้านเวชศาสตร์ฉุกเฉิน, ศัลยแพทย์ทรวงอกและศัลยแพทย์ทั่วไป เธอเก่งขนาดที่โรงพยาบาลใหญ่ในเมืองต้องการตัวเธอทั้งนั้น แต่เธอเลือกที่จะอยู่ที่โรงพยาบาลแถบชานเมือง

        ครืดดดด     ครืดดดดด

คนไข้ฉุกเฉิน

“คนไข้ฉุกเฉินครับ หลับในขับรถชนกับต้นไม้ข้างทางหมดสติตั้งแต่ในที่เกิดเหตุ ชีพจรไม่คงที่ครับ” พยาบาลหนุ่มบอกข้อมูลเบื้องต้นกับศิรินขณะที่เธอกำลังอัลตราซาวน์ตรวจความเสียหายภายใน

        “มีเลือดออกในช่องท้อง” ศิรินบอกพยาบาลหนุ่มเพียงเท่านั้น เขาก็รู้ทันทีว่าต้องทำอะไร

        ศิรินในชุดผ่าตัดสีเขียว ตรงหน้าคือคนไข้ฉุกเฉินที่ประสบอุบัติเหตุก่อนหน้า หลังเธอวินิจฉัยที่ห้องฉุกเฉินแล้วว่าคนไข้คนนี้มีเลือดออกในช่อง ทางรอดเดียวคือผ่าตัดรักษาอาการ

        พยาบาลจัดเตรียมทุกอย่างไว้รอศิรินเรียบร้อย คนแรกหัวหน้าพยาบาล เมทินี ทำหน้าที่พยาบาลส่งเครื่องมือผ่าตัด  คนที่สอง บุรุษพยาบาล ธีรดล ที่รับคำสั่งจากห้องฉุกเฉินเมื่อสักครู่ก็มาช่วยด้วยเหมือนกัน คนที่สาม วิสัญญีแพทย์ วิรายา  และมี่พยาบาลช่วยเหลือรอบห้องผ่าตัดอีกสองคน

        ทั้งที่ห้องผ่าตัดควรจะมีบุคลากรหรือเจ้าหน้าที่มากกว่านี้แต่เนื่องจากที่เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กเจ้าหน้าที่จึงมีจำกัดแต่ทุกคนก็เต็มเปี่ยมด้วยประสบการณ์และความสามารถ

        “คนไข้ชาย มีเลือดออกในช่องท้องเนื่องจากม้ามฉีกขาด เราจะผ่าตัดเปิดหน้าท้องคนไข้เพื่อห้ามเลือด” ศิรินบอกกับทำคนในห้องผ่าตัดถึงอาการและการรักษา

        “มีด”

        ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการรักษาแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น

        “ทำดีมากค่ะทุกคน”

        “ทำดีมากค่ะทุกคน”

        ทั้งหมอทั้งพยาบาลกล่าวให้กันก่อนจะแยกย้ายออกจากห้องผ่าตัด

        “หมอคริสครับ” พยาบาล ธีร์ หรือ ธีรดล เรียกศิรินก่อนที่เธอจะเดินเข้าห้องพักไป

        “ว่าไง” ศิรินตอบกลับและรับเอกสารมาถือในมือ

        “เอกสารสถิติคนไข้เดือนนี้ที่หมอให้ผมไปทำครับ”

        “อ่อ ขอบคุณมาก ธีร์ไปพักเถอะ”

        “ครับ”

        ศิรินนั่งดูเอกสารที่พยาบาลรวบรวมมาให้ ในแต่ละสัปดาห์ไปจนถึงเดือนที่คนไข้เฉลี่ย 20 คน พบว่ามันเยอะมากแต่ก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อถนนที่ผ่านหน้าโรงพยาบาลมันคือถนนหลักถึงสองสายก่อนเข้าเมือง 

        ครืดดดด  ครืดดดดด

        คนไข้ฉุกเฉิน

“ผู้หญิงค่ะเกิดอุบัติเหตุระหว่างถ่ายทำละคร มีอาการปวดท้องรุนแรง” เมทินีบอก แพทย์ประจำห้องฉุกเฉิน

“ขอเครื่องอัลตราซาวน์ค่ะกับ………….” แพทย์หญิง วิริฒิพา  ชะงักไปเมื่อเห็นว่าคนไข้บนเตียงคือใคร

        “ตอนเธอตกลงมาท้องไปกระแทกกับขอบปูนแรกๆแค่จุกเสียด พวกเราเลยให้นั่งพักก่อน แต่หลังจากนั้นเธอก็บอกปวดท้องมากเราเลยรีบพามาเลยครับ” คนเป็นผู้จัดการบอกหมอประจำห้องฉุกเฉิน”

“สัญญาณชีพเท่าไหร่” ศิรินถาม

        “ฉันตรวจให้เอง” วิริฒิพาบอกเมื่อศิรินเดินเข้ามาที่เตียงคนไข้ฉุกเฉิน

        “คนไข้สัญญาณชีพเท่าไหร่” ศิรินถามอีกครั้งโดนไม่สนวิริฒิพา ถึงจะรู้อยู่ว่าคนที่นอนอยู่เป็นใคร

        “110 / 78 ค่ะ” เมทินีบอก

        ศิรินอัลตราซาวน์ดูภายในช่องท้องมีเลือดออกเล็กน้อยไม่ได้มากถึงขั้นต้องผ่าตัดแต่เธอจะผ่าตัดด้วยวิธีการส่องกล้องแทน เผื่อลดระยะเวลาและช่วยให้คนไข้ฟื้นตัวได้เร็วอีกด้วย

        “ช่วยเซนต์เอกสารยินยอมการผ่าตัดด้วยนะคะ” ศิรินบอกกับผู้จัดการของดาราสาว

        “ผมโทรบอกแฟนเค้าเรียบร้อยครับ น่าจะใกล้ถึงแล้ว” ผู้จัดการบอกพลางเหลือบไปเห็นบุคคลที่สามที่กำลังพูดถึง “มาพอดีเลยครับ”

        ทุกคนหันไปตามสายตาของผู้จัดการและทำให้ทั้งศิรินและวิริฒิพาอึ้งไปอีกครั้งและเป็นหมอฉุกเฉินที่พึมพำออกมา

        “บี…….”