ผู้เข้าชมรวม
2,077
ผู้เข้าชมเดือนนี้
17
ผู้เข้าชมรวม
แท็กนิยาย
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“คริส!!!!’’
ศิรินยืนนิ่งเหมือนประสาทรับรู้เธอพังและหยุดไว้แค่ภาพของคนรักที่กำลังจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านอนกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเธอเองและในห้องของเธอบนเตียงของเธอ
“ไปทำแผลก่อน เดี๋ยวบีทำให้” น้ำทิพย์ที่ยืนอยู่ข้างหลังเข้ามาจับมือศิรินที่เต็มไปด้วยเลือดจากการที่หล่อนบีบแก้วจนแตกคามือทำให้เศษแก้วทั้งบาดทั้งทิ่มมือจนเลือดไหลอาบแต่มันคงไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกเมื่อเทียบกับสิ่งที่ศิรินได้เห็น
“ไม่ต้อง! แฟนฉัน ฉันดูแลเองได้” ชายหนุ่มคนรักของศิรินปัดมือน้ำทิพย์ออกจากมือศิรินแล้วตวาดเสียงดังแต่เขาเองก็ถูกน้ำทิพย์ตวาดกลับเช่นกัน
“แฟนเหรอ? แฟนเค้าทำกันแบบนี้เหรอ? ไปดูแลผู้หญิงบนเตียงของคุณก่อนเถอะ” น้ำทิพย์พูดเสียงดังแล้วหันมาหาศิรินที่ยังช๊อคกับเหตุการณ์นี้อยู่ “ไปคริส เดี๋ยวบีทำแผลให้นะ”
“คริส มันไม่มีอะไรนะ” คนรักของศิรินพยายามอธิบายเจ้าสาวของเขาในอนาคตอย่างร้อนรน
“....” ศิรินไม่ตอบแต่สันชาตญาณบอกให้เธอถอยออกมาจากผู้ชายคนนั้น สมองเธอไม่ได้สั่งให้ร้องไห้ ณ ตอนนี้ แต่กำลังสั่งให้พาตัวเองออกมาจากที่ตรงนั้นที่ที่ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น
“คริส…” น้ำทิพย์เรียกสติศิรินเมื่อเห็นอาการของเพื่อนสนิทถึงจะไม่ได้ร้องไห้แต่อาการตัวสั่นมันทำให้น้ำทิพย์กลัว
“ที่รักฟังผมนะ มันไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจริงๆ” ชายหนุ่มในชุดคลุมอาบน้ำยื่นมาจับหน้าศิรินให้หันมองหน้าเขาและทันทีที่ศิรนสบตา
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ศิรินส่งเสียงร้องออกมาเสียงดังราวกับว่าหัวใจข้างในกำลังแตกสลายแล้วปล่อยโฮพร้อมตัวที่ทรุดลงไปนั่งกับพื้นมีน้ำทิพย์คอยประคองเอาไว้
“ฮืออออ ฮึกก ฮือออออ”
ศิรินปล่อยโฮออกมาอย่างอัดอั้นทั้งที่คนรักของเธอพยายามจะเข้ามาแต่เธอก็สะบัดออกทุกครั้งที่มือหยาบนั้นสัมผัสตัว แต่เธอกลับจับชายเสื้อน้ำทิพย์เอาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าหล่อนจะหายไปไหน
“กลับกับบีนะ” น้ำทิพย์โอบไหล่เล็กที่เคลื่อนไหวตามจังหวะสะอื้นของเพื่อนสนิทเอาไว้ค่อยๆพยุงหล่อนที่เรี่ยวแรงแทบไม่มีขึ้นมาก่อนพาออกไปจากห้องที่เต็มไปด้วยตัณหาของผู้ชายคนนั้น
ศิรินคบกับแฟนคนนี้มาเกือบ 5 ปี โดยทั้งสองตกลงที่จะแต่งงานกันเมื่อสองเดือนที่แล้วและงานกำลังจะถูกจัดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า แต่เธอเองก็ได้รับข้อความจากคนปริศนาว่ากำลังจะมีความสุขกับว่าที่เจ้าบ่าวของเธอและเมื่อศิรินมาถึงมันทำให้หัวใจดวงน้อยๆของเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ
น้ำทิพย์จับมือศิรินข้างที่ไม่เป็นแผลเดินเข้าโรงพยาบาลเพื่อทำแผลที่ไม่ทำเองก็เพราะกลัวว่าจะมีเศษแก้วติดอยู่โดยตั้งแต่คอนโดนั้นเธอก็ไม่ปล่อยมือศิรินเลยเพราะเธอรู้ดีว่าเพื่อนสนิทเธอคนนี้รักมากก็เจ็บมาก
ดีแค่ไหนแล้วที่เศษแก้วที่ศิรินบีบมันจนแตกคามือไม่ฝังเข้าไปในเนื้อและโชคดีแค่ไหนที่แผลมันไม่ได้ลึกมากถึงขั้นต้องเย็บ
“ไม่ต้องกลัวนะคะ” เสียงนุ่มของพยาบาลบอกเมื่อเห็นศิรินร้องไห้และจ้องที่แผลบนมือตัวเอง
แต่น้ำทิพย์รู้ดีว่าศิรินเจ็บใจมากกว่าเจ็บกายเพราะเธอไม่ได้สะดุ้งสะเทือนอะไรใดใดเมื่อพยาบาลกำลังทำแผลให้แต่ที่ร้องไห้อยู่ตลอดเป็นเพราะเธอกำลังเสียใจกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาอยู่ต่างหากละ
น้ำทิพย์ยังคงจับมือศิรินไม่ยอมปล่อยเพราะเธออยากส่งกำลังใจผ่านมือคู่นี้ เธอไม่อยากให้ศิรินคิดว่าเสียใจคนเดียวแต่น้ำทิพย์อยากให้รู้ว่าอย่างน้อยเธอก็เสียใจไปกับศิรินด้วย
“คริสอยากไปไหนมั้ย หรืออยากกลับบ้านกลับคอนโด” น้ำทิพย์บอกเมื่อทั้งสองเข้านั่งในรถเรียบร้อยแต่ศิรินก็ยังร้องไห้ไม่หยุดและเหมือนจะร้องหนักขึ้นด้วยอาจเป็นเพราะคิดถึงเรื่องนั้น
“อยากกินเหล้า” ศิรินหันมาบอกน้ำทิพย์ทังน้ำตานองหน้า “ไปสิคริสอยากเมา อยากลืม”
ถึงแม้น้ำทิพย์จะไม่เห็นด้วยที่ใช้เหล้าเป็นเครื่องมือในการช่วยลืมแต่ทำไมเธอถึงไม่อยากขัดใจผู้หญิงคนนี้ก็ไม่รู้ น้ำทิพย์จอดรถเสร็จแล้วกำลังจะเปิดประตูเพื่ออ้อมไปเปิดให้ศิรินอีกทางแต่เธออาจจะคิดช้าไปเมื่อศิรินเปิดประตูก็ก้าวลงจากรถแล้วเดินเข้าร้านไปเลย
ศิรินนั่งลงที่หน้าบาร์ก่อนสั่งเครื่องดื่มที่บอกกับบาร์เทนเดอร์ว่าอะไรก็ได้ที่เมาเร็วที่สุดโดยมีน้ำทิพย์นั่งในตำแหน่งถัดไปโดยสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นของเพื่อนสนิทน้ำทิพย์และบาร์เทนเดอร์ก็รู้จักกัน น้ำทิพย์จึงคิดว่าอย่างน้อยถ้าศิรินเกิดทำอะไรแผลงๆแล้วเธอรับมือไม่ไหวจะได้ขอความช่วยเหลือได้ทัน
และเมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดและเข้ากดทับประสาทในการควบคุมสติและร่างกายศิรินก็ลุกขึ้นเต้นกับเพลงจนน้ำทิพย์คิดว่าคนที่ไม่รู้อาจจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้คงเป็นนักเต้นเก่าไม่ก็เมาจนเต็มที่แล้ว
“สักแก้วมั้ยพี่บี” บาร์เทนเดอร์สาวถามเมื่อเห็นน้ำทิพย์มาแล้วยังไม่ได้ดื่มอะไรเลยซึ่งผิดปกติสำหรับหล่อนมากๆ
“ไม่อ่ะ ให้คริสเมาคนเดียวก็พอ” น้ำทิพย์ตอบกลับแต่ยังไม่ละสายตาจากศิรินที่กำลังออกสเตปเต้นท่ามกลางผู้คนอย่างสนุกสนาน
น้ำทิพย์นั่งมองศิรินปลดปล่อยอารมณ์ตัวเองไปกับเสียงเพลงอยู่สักพักก็ก้มหยิบโทรศัพท์เพื่อดูเวลาแต่ยังไม่ได้รู้เลยว่าเวลากี่โมงแล้วบาร์เทนเดอร์รุ่นน้องก็เรียกเธอก่อน
“พี่บี!”
น้ำทิพย์เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วพุ่งตรงไปที่ศิรินที่กำลังจะถอดชุดตัวเองออกแล้วกอดเธอเอาไว้ด้วยแขนทั้งสองข้าง
“ทำอะไร” น้ำทิพย์ตะโกนถามแข่งกับเสียงเพลงที่ดังจนถ้าพูดด้วยเสียงปกติคงไม่ได้ยิน
“จะถอดเสื้อ” ศิรินตอบด้วยเสียงอ๋อแอ้
“ไม่ได้” น้ำทิพย์ดึงชุดเดรสสายเดี่ยวของศิรินให้ขึ้นมาตำแหน่งเดิม
“จะถอดดด” ศิรินดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของน้ำทิพย์แบบคนที่เมาเต็มที่ทั้งหน้าที่แดงก่ำ ตาก็ปรือจนจะลืมไม่ขึ้น พยายามจะถอดชุดสายเดี่ยวของตัวเอง
“ถอดไม่ได้ จะถอดทำไม” น้ำทิพย์ถอดเสื้อคลุมตัวนอกของเธอออกจากตัวอย่างทุรักทุเรแล้วคลุมให้ศิรินอย่างยากลำบากเพราะผู้หญิงหน้าหมวยตรงหน้าเธอก็ดื้อที่จะถอดสะเหลือเกิน
“ก็อยากรู้ไงว่าถ้าแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายมันจะอยู่เฉยๆกันมั้ย” ศิรินบอกและพยายามจะถอดเสื้อออกแต่น้ำทิพย์ก็ยิ่งกอดเธอแน่นขึ้นไปอีก
“ถอดตรงนี้ไม่ได้ ไปเดี๋ยวบีพากลับคอนโด” น้ำทิพย์บอกแล้วลากศิรินออกมาจากตรงนั้นเธอสัมผัสได้ถึงการแทะเลมด้วยสายตาของผู้ชายพวกนั้นมันน่ากลัวเกินไปที่จะให้ศิรินอยู่ต่อ
“เดี๋ยวพี่มาเคลียร์บิลนะ”
“ฮืออ ไม่กลับ คอนโดฉันที่มันนอนด้วยกันอะ ไม่กลับ ฮืออออ” ศิรินร้องไห้ทั้งที่หลับตาและยืนแทบไม่อยู่ในวงแขนของน้ำทิพย์ดิ้นไปดิ้นมาจนน้ำทิพย์ดึงเธอเข้ามากอดแนบอก
“กลับคอนโดบี เดี๋ยวบีพากลับเอง ไม่เป็นไรนะ” น้ำทิพย์ลูบหัวผู้หญิงตรงหน้าอย่างใจเย็นและค่อยพยุงพาไปที่รถก่อนจะจัดท่าจัดทางให้ศิรินได้นั่งสบายที่สุด
น้ำทิพย์มองถนนสลับกับมองใบหน้าขาวเนียนที่ตอนนี้แดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ทำไมผู้หญิงที่ซื่อสัตย์กับความรักแบบหล่อนจะต้องมาถูกผู้ชายมักมากคนนั้นทำร้ายจิตใจจนเจ็บปางตายขนาดนี้
“อึก อึก… บี...จอด”
“จอดทำไมอะยังไม่ถึงเลยอีกนิดเดียว” น้ำทิพย์ตอบเรียบๆเพราะคิดว่าศิรินคงละเมอแต่ประโยคถัดมาของศิรินก็ทำให้น้ำทิพย์ต้องเลี้ยวรถเข้าข้างทาง
“จะ….อึก.....จะ…..อ้วก…....อึก”
ทันทีที่รถจอดศิรินก็เปิดประตูแล้วพ่นของเสียที่ย้อนขึ้นมาออกทั้งหมดทั้งที่ตัวยังนั่งอยู่ในรถด้วยซ้ำ
“แหวะ”
ก็ไวน์สองขวดกับคอกเทลอีกนับไม่ถ้วนเลยทำให้สภาพศิรินตอนนี้ดูไม่จืด มาสคาร่าไหลเปอะเต็มหน้าแถมยังโก่งคอขับของเสียออกมาอีกมีน้ำทิพย์คอยยืนลูบหลังและส่งน้ำเปล่าให้บ้วนปาก
เมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จแล้วศิรินก็ขยับกลับเข้าไปในรถแล้วปิดประตู ให้น้ำทิพย์ที่ยืนดูอยู่มีรอยยิ้มบนหน้ากับการกระทำของเธอ
โชคดีที่น้ำทิพย์ออกกำลังกายอยู่บ่อยๆทำให้การอุ้มศิรินที่หลับไม่รู้เรื่องขึ้นห้องเธอชั้น 15 ไม่ได้ยากลำบากมากนัก น้ำทิพย์วางศิรินบนเตียงนอนของเธอขนาดคิงไซส์ถอดรองเท้าและเครื่องประดับทั้งต่างหู สร้อยคอ นาฬิการวมถึงแหวนที่ศิรินมักใส่วันละหลายวงในหลายๆนิ้ว
เริ่มจากเช็ดตัวแล้วหยิบอุปกรณ์มาทำความสะอาดใบหน้าที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งการเสียใจจนสะอาดเกลี้ยงเกลา สุดท้ายเธอจึงเอาอุปกรณ์และชุดสำหรับทำแผลที่ได้มาจากโรงพยาบาลมาทำแผลที่มือให้อย่างเบาที่สุดมีบางที่มีเสียงครางในลำคอเมื่อถูกรบกวนและสุดท้ายเมื่อทำแผลเสร็จแล้วเธอจึงดึงผ้าห่มมาห่มให้
“พรุ่งนี้มันจะต้องดีกว่าวันนี้นะคริส”
วันรุ่งขึ้นศิรินตื่นมาในตอนบ่ายด้วยอาการหนักหัวและปวดตึบควานหาโทรศัพท์หรือไม่ก็อะไรก็ได้ที่บอกเวลาว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว
13.30 p.m.
และเมื่อหยิบนาฬิกามาดูก็พบว่ามีโพทอิทแผ่นเล็กสองแผ่นแปะอยู่เขียนด้วยลายมือเจ้าของห้อง
-บีไปทำงานนะแต่เตรียมข้าวกับน้ำผลไม้ไว้ให้แล้วบนโต๊ะ
-ผ้าเช็ดตัวบีแขวนให้อยู่หน้าตู้ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน โฟมล้างหน้า บีซื้อมาให้อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง
-ส่วนชุดบีหยิบวางไว้ที่เก้าอี้ถ้าไม่ชอบก็เลือกๆเอาในตู้
-โทรศัพท์คริสแบตหมดบีชาร์จไว้อยู่หน้าทีวี
-ถ้าจะออกไปไหนไลน์บอกบีด้วย บีทิ้งรถไว้ให้แล้วกุญแจแขวนอยู่หน้ากระจกตรงตู้รองเท้า
ศิรินชันตัวลุกขึ้นมองตามสิ่งที่น้ำทิพย์บอกไว้ในกระดาษแผ่นเล็กสองแผ่นในมือ ทุกอย่างถูกจัดไว้หมดแล้ว เธอเดินลงจากเตียงมาหยุดที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อหยิบแปรงสีฟัน ยาสีฟัน โฟมล้างหน้าเพื่อเข้าไปอาบน้ำพบว่ามันเป็นยี่ห้อที่เธอใช้ทั้งหมด
เมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จแล้วศิรินก็มานั่งที่โต๊ะกินข้าวพบว่าข้าวมันเย็นและน้ำผลไม้ที่คาดว่ามันน่าจะเคยเย็นมาก่อนตอนนี้มันไม่หลงเหลือความเย็นไว้แล้ว คิดว่าน้ำทิพย์น่าจะเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เช้าแต่ศิรินก็กินข้าวต้มกุ้งเย็นกับน้ำส้มคั้นบนโต๊ะแบบนั้นแหละ
เธอหยิบโทรศัพท์ที่ถูกชาร์จจนแบตเต็ม 100% มาเปิดดูพบว่าคนรักที่นอกใจเธอโทรมาเกือบร้อยสายและข้อความในไลน์จากเขาอีกเกือบ 20 ข้อความ ศิรินปิดหน้าจอแล้ววางมันไว้ข้างๆก่อนจะกินข้าวต้มที่น้ำทิพย์เตรียมให้ต่อ ใครไม่เคยเป็นคงไม่เข้าใจหรอกว่าการกินข้าวกับน้ำตามันทรมานแค่ไหน
Cris : ไปร้านเดิมนะ
น้ำทิพย์ได้รับข้อความจากศิรินตอน 2 ทุ่มว่าจะไปร้านเมื่อคืนนี้ เธอจึงรีบโบกรถแท็กซี่เพื่อไปที่นั่นทันทีเพราะจริงๆแล้วน้ำทิพย์เสร็จงานตั้งแต่ 6 โมงเย็นแต่ติดต่อไม่ได้ พอข้อความศิรินเข้ามาก็เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยทีเดียว
แน่นอนว่าคืนนี้ก็เป็นเหมือนเมื่อคืนคือศิรินเมาแบบสิ้นสติแต่ดีที่ไม่ได้คิดจะถอดเสื้อผ้าเหมือนเมื่อคืน และน้ำทิพย์ก็ต้องหามกลับเหมือนเดิม แวะข้างทางเพื่อให้ศิรินขับของเสีย ในทุกๆเช้าน้ำทิพย์จะทำข้าวและเตรียมน้ำไว้ให้ดื่มแก้แฮงค์ทำแบบนี้มาสามวันแล้ว และก็ได้รับข้อความจากศิรินว่าอยู่ร้านเดิมเป็นคืนที่สี่ติดต่อกัน
“เฮ้ยยยย บีมานั่งนี่เร็ว” เสียงของรุ่นพี่ที่สนิทเรียกน้ำทิพย์เสียงดังเมื่อเธอกำลังจะเดินผ่าน
“พี่แกน” น้ำทิพย์หยุดทักทายก่อนจะนั่งลงเพราะที่ตรงนี้ก็เห็นศิรินชัดเจน และสบายใจได้ว่าศิรินจะไม่คาดสายตาไปไหน
“มาไม่เห็นบอกกินไรสั่งเลยพี่เลี้ยวเอง” ออแกนบอก
“ไม่เป็นไรพี่ บีไม่กิน” น้ำทิพย์ตอบซึ่งก็ทำให้รุ่นพี่สาวแปลกใจ
“ทำไมวะ”
“บีต้องขับรถกลับ” น้ำทิพย์บอก
“แล้วนั่นมองใครเป้าหมายใหม่เหรอ เอ๊ะนั่นคริสหนิ” ออแกนและเพื่อนคนอื่นมองตามสายตาน้ำทิพย์ที่ไม่ละสายตาจากศิรินเลยตั้งแต่นั่งมา “แล้วทำไมเป็นยังงี้อ่ะ”
“เลิกกับแฟน”
“แย่เลยดิ”
“กินทุกวัน เมาทุกวัน”
“อ่ออ งั้นก็เป็นโอกาสของบีแล้ว จีบเลย” ออแกนรีบบอกอย่างตื่นเต้นเพราะเธอรู้ดีว่าน้องคนนี้แอบมีใจให้กับศิรินมาตั้งนานแล้ว
“บีไม่อยากฉวยโอกาสช่วงที่คริสกำลังอ่อนแอ”
“บีๆๆ” ออแกนเรียกน้ำทิพย์ถี่พลางยกนิ้วเรียวชี้ไปทางศิริน
“เชี่ยยย” น้ำทิพย์สบถออกมาเมื่อเห็นทีท่าของศิรินแล้วแทบจะพุ่งตัวเข้าไปหาทันที
น้ำทิพย์ถอดเสื้อสูทสีครีมตัวนอกของเธอคลุมให้ศิรินเมื่อเธอจะถอดเสื้อตัวเองอีกแล้ว
“คริส ทำแบบนี้ไม่ได้” น้ำทิพย์รวบศิรินมากอดเอาไว้แนบตัว
“ร้อนนนน”
น้ำทิพย์ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนใช้แขนทั้งสองข้างอุ้มคนที่ตัวเล็กกว่าเธอเกือบสิบเซนติเมตรขึ้นมาโดยหลังจากศิรินบ่นว่าร้อนแล้วตอนนี้เธอก็หลับไปแล้ว น้ำทิพย์เดินผ่านโต๊ะออแกนและไม่วายบอกลารุ่นพี่ก่อนพาศิรินออกไป
จากสถานบันเทิงแห่งนั้นกับคอนโดน้ำทิพย์ใช้เวลาเกือบ 45 นาทีกว่าจะมาถึงถ้าคนที่กินเหล้าแทนน้ำอย่างศิรินไม่แวะอาเจียนจนแทบหมดไส้ข้างทางละก็แค่ประมาณ 20 นาทีก็ถึงแล้ว
วันนี้เหมือนเช่นทุกๆวันน้ำทิพย์ก็ยังคงถอดเครื่องประดับ ถอดรองเท้า เช็ดหน้าเช็ดตัวให้ศิรินเพราะหล่อนเล่นหลับไม่รู้เรื่องชนิดที่ว่าตื่นมาตอนเช้ายังจำไม่ได้เลยว่ากลับคอนโดยังไง
“อือออ”
เสียงครางจากลำคอของคนเมาดังออกมาในตอนที่น้ำทิพย์กำลังจะห่มผ้าให้เพราะกลัวว่าเธอจะหนาว
“กู๊ดไนท์นะ”
น้ำทิพย์บอกเสียงเบาๆข้างหูถ้าเธอเป็นผู้ชายหรือเป็นคนที่หวังในตัวศิรินแล้วละก็การที่ผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งหุ่นดีแถมตัวเองยังมีใจให้เขาอีกมานอนอยู่ตรงหน้าแบบนี้เห็นทีคงจะมองหน้ากันไม่ติดตั้งแต่วันแรกแล้วมั้งแล้วการกระทำต่อมาก็แทบทำให้น้ำทิพย์สติแตก
เมื่อมือเล็กเจ้าของเสื้อสายเดี่ยวกำลังจะถอดมันออกพร้อมเสียงครางในลำคออยู่เรื่อยๆถ้าป็นคนอื่นมาทำแบบนี้เห็นทีน้ำทิพย์คงจะช่วยถอดให้สมใจไปแล้วแต่ตอนนี้ไม่ใช่และเหมือนน้ำทิพย์จะคิดนานไปหน่อยจนกระทั่งศิรินถอดเสื้อสายเดี่ยวของตัวเองออกเหลือแต่บลาชั้นในและกางเกงขายาว
ผิวขาวตัดกับบลาสีดำแก้มที่ถูกปัดด้วยบรัชออนก็แดงกว่าปกติเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่กินไปมันช่างสมส่วนและพอดีกันไปหมด น้ำทิพย์หลับตาและสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อเรียกสติพร้อมเดินเข้าไปหวังจะใส่เสื้อให้กลับเข้าที่เข้าทางแต่คนเมาเจ้ากรรมก็รั้งน้ำทิพย์ด้วยด้วยแขนเล็กและไม่รู้ว่าไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน
หรือกล้ามเนื้อน้ำทิพย์มันอ่อนไปเองเพราะอะไรเพราะสภาพของศิรินตอนนี้อะเหรอ
“คริส” น้ำทิพย์พยายามเรียกให้เพื่อนสนิทของเธอคนนี้รู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่กับใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบถ้าเขาไม่เอามือยันไว้กับเตียงหน้าคงจะแนบกันไปแล้ว
“อืออออ”
คนที่กอดคอน้ำทิพย์ไว้ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากการครางในลำคออย่างโดนขัดใจลมหายใจของเธอมันใกล้มากจนทำให้น้ำทิพย์รับรู้ถึงกลิ่นไวน์ เจ้าของห้องมองใบหน้าหมวยสไตน์เยาวราชที่ดวงตาเรียวเล็กปิดสนิท ริมฝีปากได้รูปนั้นเธออยากจะลองสัมผัสดูว่ามันจะหอมหวานเหมือนกลิ่นไวน์ที่ลอยคละคลุ้งนี้มั้ย
แต่น้ำทิพย์ก็สลัดทุกอย่างทิ้งไปเมื่อคนที่เธอเองยอมรับได้ว่ารักกำลังร้องไห้ ร้องแบบที่ยังหลับตา ร้องแบบที่ยังกอดคอเธอเอาไว้ ร้องแบบที่น้ำทิพย์เองก็เดาไม่อยากเลยว่าจิตใต้สำนึกของศิรินนั้นเสียใจแค่ไหน
น้ำทิพย์ไม่ได้เท้าแขนไว้กับเตียงแล้วเธอปล่อยให้ศิรินก่อนเธอไว้แบบนั้นแต่เธอแค่จัดท่านอนให้ตัวเธอเองไม่ไปทับศิรินก็พอ
เจ้าของห้องได้แต่นอนมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างห่วงใย ทำไมผู้หญิงที่ทุ่มเทกับความรักต้องมาเสียใจเพราะความมักมากของผู้ชายด้วยนะแล้วทางฝั่งนั้นะล่ะรู้สึกเสียใจแบบนี้เหมือนเพื่อนเธอคนนี้หรือป่าว
ชานนท์ หรือ ขุน นั่งมองการ์ดงานแต่งงานตัวเองกับพี่สาวด้วยใบหน้าบ่งบอกชัดว่าพวกเขากำลังเครียด
“เอายังไง ทำอะไรทำไมไม่คิดบ้าง” พี่สาวเอ่ยอย่างตำหนิในการกระทำของน้องชาย
“จะให้ทำยังไงอ่ะในเมื่อคริสยังไม่รับโทรศัพท์ ส่งไลน์ไปก็ไม่ตอบ” ชานนท์บอกถึงว่าที่เจ้าสาวของเขา ใช่ ชานนท์คนนี้แหละคือคนที่ฉีกหัวใจศิรินให้แตกละเอียดด้วยการพาเลขาหน้าห้องไปบำเรอกันบนคอนโดของศิรินอย่างมีความสุข
“ก็รู้ว่าที่นั่นมันคอนโดคริส”
“ก็ใครจะไปรู้อ่ะว่าจะมาไวขนาดนั้นเห็นโทรมาบอกว่าจะไปงานวันเกิดของลูกเพื่อน” ชานนท์บอกอย่างหัวเสียเมื่อนึกถึงวันนั้น
ศิรินโทรมาบอกกับเขาว่าเธอจะไปงานวันเกิดของหลานลูกฝาแฝดของนานาหนึ่งในสมาชิกแก๊งค์เพื่อนสนิทเพราะมีสังสรรค์กับเพื่อนด้วยเล็กน้อยจะกลับดึกหน่อยก็ไม่คิดว่ายังไม่สามทุ่มซะทีเดียวของศิรินจะดึกแล้ว
และหลังจากนั้นที่ศิรินเดินออกจากห้องไปแล้วเขาก็ติดต่อศิรินไม่ได้อีกเลย
“ยังไงแกก็ต้องแต่งงานกับคริส เพราะหน้าตาชื่อเสียงในวงการของคริสจะทำให้ธุรกิจของเราไปได้สวย” พี่สาวบอกด้วยน้ำเสียงและใบหน้าจริงจัง
“ไม่ต้องเอาธุรกิจมาอ้างหรอกยังไงผมก็ไม่ปล่อยคริสไปง่ายๆแน่นอน เจ้าสาวของผมต้องเป็นคริสคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะแลกมาด้วยอะไรก็ตาม”
Talk : เปิดเรื่องนี้แล้วนะคะ ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยน้าาาา
(อาจจะเป็นเรื่องสั้นหรือเรื่องยาวเดี๋ยวดูอีกที555)
#ฟิคmindbc
ผลงานอื่นๆ ของ Love-me-cris ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Love-me-cris
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น