ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หัวใจที่ปิดตาย

    ลำดับตอนที่ #10 : ความจำเป็น

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 50


                 

                   บรรยากาศภายนอกมืดมิด มีเพียงแสงไฟริมทางเท่านั้นที่ให้ความสว่างไสวในยามค่ำคืน  สมาชิกของแต่ละครอบครัวละแวกนี้ ต่างก็เข้านอนกันหมด  เว้นแต่คนเดียวเท่านั้น  แสงจากหลอดไฟส่องสว่างลอดออกมาทางหน้าต่างห้องนอนของบ้านหลังหนึ่ง พอให้ได้สังเกตเห็นเป็นแสงสว่างจุดเล็กๆเมื่อมองมาจากถนนใหญ่ตรงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง 

                    แจ๊สเงยหน้าดูเวลาจากนาฬิกาเรือนน่ารักที่ผนัง  เที่ยงคืนกว่าแล้ว  เธอเริ่มรู้สึกปวดตาเล็กน้อยจากการมุมานะอ่านหนังสือตั้งแต่ตอนค่ำ  เธอลุกออกจากโต๊ะเดินตรงไปยังหน้าต่างของห้องนอน  บรรยากาศรอบนอกมืดจนเกือบจะมองไม่เห็น  เว้นแต่หลอดไฟประดิษฐ์ที่ทำให้เธอมองเห็นสวนสาธารณะได้ไกลๆ

                    เราเชื่อ...มิวต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ต้องทำแบบนั้น 

    คำพูดของบอยดังขึ้นมาในความคิด น้ำเสียงนั้นทั้งจริงจังและให้ความมั่นใจในตัวของผู้ชายคนนั้นเหลือเกิน

                    บอย...ทำไมแกถึงได้เชื่อมิว

     

    เมื่อสองปีที่แล้ว

                    อ้าว! มิว กลับมาแล้วหรอลูก  ทำไมวันนี้กลับช้านักล่ะ   ชายวัยกลางคนรูปร่างค่อนข้างผอมกล่าวขึ้น  ใบหน้าของเขาดูซูบซีดมากทีเดียวเมื่อเทียบกับวัย

                    พอดีตอนกลับจากโรงเรียน  มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเพื่อนนิดหน่อยน่ะครับ   ผมช่วยเค้าไว้เลยกลับช้า...พ่อครับ  วันนี้ พ่อพักก่อนเถอะ  เดี๋ยวผมช่วยขายต่อเอง   ทั้งที่ปากยังตอบคำถามของผู้เป็นบิดา  แต่ตัวก็ไม่ได้อยู่

    แล้วไม่ทำการบ้านหรอลูก

    เอาไว้ปิดร้านแล้ว ผมค่อยทำก็ได้ครับ  มีไม่มากเท่าไหร่  แท้จริงแล้ว  คำว่ามีไม่มากที่พูดไปนั้นเป็นการโกหกคำโต แม้จะเพิ่งเปิดเทอม แต่เพราะเป็นระดับมัธยมปลายโรงเรียนจึงกวดขันความรู้อย่างแน่น

                    บ้านของมิวนั้นเป็นบ้านไม้สองชั้น  ความกว้างประมาณห้องเดียว  ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ  ส่วนชั้นบนก็เป็นที่นอนของสองพ่อลูก  วันหนึ่งๆนั้นลูกค้าเข้าออกร้านไม่มากมายเท่าไรแต่ก็มีตลอดวัน  ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำที่คุ้นหน้ากันดี  ดังนั้นวันเสาร์อาทิตย์ มิวจึงต้องทำงานเพื่อหารายได้พิเศษเพิ่ม

     

                    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

                    มิว!  ทำการบ้ายเสร็จแล้วยังลูก...ขอพ่อเข้าไปคุยอะไรด้วยหน่อย

                    ครับพ่อ   สิ้นเสียงมิวตะโกนตอบออกมาจากในห้อง   คนเป็นพ่อจึงเปิดประตูเข้าไป

                    อารัญ เข้าไปในห้องนอนของลูกชายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด  มิวจึงสามารถเดาออกได้ทันทีว่า  พ่อจะพูดเรื่องอะไร

                    บ้าน...ใช่มั้ยครับพ่อ

                    มิว...ถ้าจำเป็นเราคงต้องยอมทิ้งบ้านหลังนี้   แม้ว่า...

                    เมื่อไหร่ครับพ่อ  มิวพูดสวนขึ้นมา ซึ่งมันไม่ใช่วิสัยของเขาเลย  

                    อย่างช้าที่สุด  พ่อจะพยายามต่อรองให้มิวจบม.สี่ก่อน   แต่ลูกต้องทำใจว่าอาจเร็วกว่านี้  ตอนนี้เค้าก็เริ่มทวงบ่อยขึ้นแล้ว  โชคดีก็ที่คุณนายกับเราก็พอคุ้นเคยอยู่บ้าง  เลยขอผ่อนผันกันง่ายหน่อย   อารัญจ้องหน้าลูกชายนิ่ง  เขารู้ดีว่าลูกคนนี้ต้องสู้ถึงที่สุดและก็จะไม่ยอมอะไรง่ายๆ

                    แต่บ้านหลังนี้  พ่อกับแม่ร่วมสร้างกันมา  มันเป็นความหวังของแม่ทั้งชีวิต  มันเป็นสิ่งที่แม่รักนะครับ  พูดแล้ว  รอยสะอื้นของลูกผู้ชายก็เริ่มปรากฏ

                    ผมจะทำงานมากขึ้น  อาจจะเพิ่มวันธรรมดา แล้วก็กะดึกด้วย  ผมจะหาเงินมาใช้หนี้เค้าให้ได้    ผมไม่ยอมทิ้งบ้านหลังนี้เด็ดขาด  ผมจะ...

                    มิว! มิว!  ฟังพ่อ  พ่อเองก็รักบ้านหลังนี้  แต่ลูกต้องรับความจริงให้ได้  เราทำมาทุกทางแล้ว   เขาพูดพร้อมตบไหล่ลูกชายเบาๆเป็นการปลอบใจ

                    พ่อไม่ตั้งใจให้ลูกต้องคิดมาก  แต่พ่อจำเป็นต้องบอกลูกก่อน...เราสามารถไปได้ทุกเมื่อ

                    อารัญพูดทิ้งท้ายเป็นการเตือนสติลูกชายก่อนเดินออกจากห้องไป  มิวไม่ได้ตอบพ่อว่าอย่างไร เขาเอาแต่นั่งนิ่ง  แต่อารัญย่อมรู้ดีกว่าใครว่าในทีนั้น  ลูกชายได้ยอมรับความจริงแล้ว  หากแต่ใจมิวยังไม่ยอมแพ้  เขาต้องดิ้นรนต่อ  หากเขาทิ้งบ้านหลังนี้ ก็เท่ากับว่าเขาต้องทิ้งสิ่งที่แม่รัก  เขาต้องทิ้งที่แห่งนี้ไปยังที่ใหม่  ไกลออกไป  แล้วเขาก็จำเป็นต้องทิ้งใครบางคนด้วยเช่นกัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×