ใครฆ่าผีเยลลี่ - นิยาย ใครฆ่าผีเยลลี่ : Dek-D.com - Writer
×

    ใครฆ่าผีเยลลี่

    แทนที่จะใบ้หวยเหมือนผีต้นกล้วย ดันขอให้ช่วยซะได้ ตื๊อผมทุกที่แม้แต่ในส้วม เกินไปหน่อยไหม พอไล่ เจ้าก้อนนิ่มก็จะโดดดึ๋งๆอยู่กับที่่ บอก ใจร้ายๆ ทั้งวัน

    ผู้เข้าชมรวม

    194

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    20

    ผู้เข้าชมรวม


    194

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  7 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  11 มิ.ย. 66 / 19:55 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Prologue

    “ราม”

    “อาหารไม่อร่อยหรือคะ”

    ข้าวหน้าปาท่องโก๋ทอดอาจจะดูเป็นเมนูแปลกๆ แต่เลิศรสสำหรับผม ตอนนี้มีร่องรอยพร่องไปเพียงแค่หน่อยเดียว แน่นอนว่าปกติผมต้องกินหมดไม่เหลือ ‘เฟิร์น’ เพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่มมองผมสลับกับข้าวในจานไปมาอย่างสงสัย หล่อนวางช้อนบนจานตรงหน้า จานที่เคยมีข้าวผัดกะเพราหมูกรอบไข่ดาวประทับอยู่ได้ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงอาหารคณะนิเทศศาสตร์ของมหาลัยชื่อดังย่านชานเมือง เพื่อใช้เวลากับมื้อเที่ยงก่อนจะเข้าเรียนวิชาถ่ายรูปช่วงบ่าย

    “เฮ้อ...น่าเบื่อ” ผมทำท่าเคี้ยวอากาศไปหนึ่งที “ฉันไม่ได้เป็นอะไร”

    “ที่รัก ไม่ต้องไปยุ่งกับเจ้ารูปปั้นนี่หรอก มาสนคนหล่อๆ แบบมาริโอ้ดีกว่า” ปกติผู้หญิงสวยๆ ต้องคู่กับผู้ชายหล่อๆ ไม่ก็เก่งๆ แต่สงสัยของเฟิร์นคงเป็นข้อยกเว้น ‘เดลต้า’ เพื่อนชายที่รู้จักกับผมมาตั้งแต่มัธยม ควบตำแหน่งแฟนของเฟิร์น เขากำลังเอามือเสยผมด้วยความมั่นอกมั่นใจในความหล่อ เฉพาะเที่ยงนี้ผมเห็นเดลต้าเสยผมประมาณแปดรอบแล้วมั้ง จริงๆ แล้วผมไม่ได้เบื่ออาหารอะไรหรอก ก็แค่...

    “นี่ๆ ราม ข้ารู้ว่าเจ้าได้ยินข้า เจ้าช่วยข้าเถอะนะ นะๆๆๆๆๆ” ก้อนวิญญาณสีฟ้าอ่อน ทรงกลมขนาดเท่าลูกบอลเด้งดึ๋งๆ อยู่กับที่ข้างๆ ขา ไม่รู้ว่าเป็นวิญญาณหรือจิงโจ้โดดเก่งเหลือเกิน แถม...ตื๊อเก่งด้วย ถ้าผมปิดเสียงน่ารักๆ ของไอก้อนกลมๆ นี่ได้ ผมจะทำทันที ‘พีท’ วิญญาณเร่ร่อนที่ตามผมไปทุกที่มาสี่ห้าวันแล้ว ทุกที่แม้แต่ส้วม เป็นตัววุ่นวายแถมยังชอบมาโวยวายใส่กันอีก

    “ราม รามเป็นอะไรเหรอคะ ให้เฟิร์นป้อนไหม”

    “ไม่เอานะที่ร้ากกก โอ๊ย เจ็บไปทั้งหัวใจ ทำไมยังทน ฮือๆ”

    เพี้ยะ! ฝ่ามือเมียสุดที่รักของเพื่อนฟาดกลางกระหม่อมเพื่อนรักวัยมัธยมดังสนั่น

    “ที่ร้ากกก เค้าเจ็บนะ แต่ที่ใจเจ็บที่สุด”

    “ราม!” เสียงเจ้าก้อนกลมคำรามสุดเสียง “อย่าเมินข้านะ”

    เจ้าก้อนสีฟ้างอแงโดดดึ๋งๆ ไปทั่วโรงอาหารเพื่อให้ผมสนใจ ที่คิดว่าเหมือนจิงโจ้ คงไม่เกินจริง พอถูกเมินทีไรก็เด้งดึ๋งๆ ไร้ทิศทางแบบนี้ตลอด ถ้าคนอื่นมองเห็นเจ้าก้อนนี่ ต้องจับมันไปแสดงโชว์งานวัดเก็บเงินซื้อกล้วยแขกแน่ๆ

    เฮ้อ น่าเบื่อ

    “ราม อย่าเมินข้านะ”

    ปึง

    เสียงปิดประตูดังเป็นสัญญาณระฆังว่าให้นักมวยเริ่มชกได้ ผมเตรียมเอามืออุดหู

    “รามๆๆๆๆๆ ราม!”

    ไอตัวก้อนๆ ที่เด้งไปกำแพงด้านขวาทีด้านซ้ายที ชนโคมไฟบ้าง ชนแก้วน้ำบ้าง จริงๆ มันก็ดูน่ารักดีนะ ถ้าไม่นับเรื่องที่ชอบโวยวายกับติดดื้อไปหน่อย แต่เจอแบบนี้ซ้ำๆ ทุกวันบางทีก็ไม่ไหว น่าเบื่อ โชคดีที่เขาเป็นผีโวยวายแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน (ยกเว้นผม) เรื่องที่ว่าถ้าวิญญาณมีห่วงจะไปเกิดไม่ได้ผมก็พอจะเคยได้ยิน แต่วิญญาณที่เป็นก้อนกลมๆ เหมือนเยลลี่ก็เพิ่งเห็นนี่แหละ ยังไงก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องของผม

    เมื่อสี่ห้าวันก่อน ผมไปถ่ายรูปที่โกดังเก็บของพวกชมรมเกษตรด้านหลังมหาลัยแล้วเจอเจ้าก้อนกลมๆ นี่ดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ข้างถุงปุ๋ยเหมือนหมาชิสุโดนทิ้ง เห็นแปลกๆ นิ่มๆ ก็เลยเอานิ้วไปจิ้มๆ ดู ไม่คิดเลยว่าอามรมณ์ชั่ววูบ ไม่สิ ชั่วเสี้ยววินาทีในตอนนั้น จะนำพาเจ้าจิงโจ้มาสู่ห้องนอนในวันนี้

    เรื่องที่มีวิญญาณตามมาอยู่ด้วย ผมไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะ ถึงผมจะไม่ค่อยถูกกับสิ่งที่มองไม่เห็นสักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่เรื่องที่คอยตามตื๊อทั้งที่คอนโด ในห้องเรียน ที่โรงอาหาร ในรถยนต์หรือแม้แต่ในส้วม ดูท่าจะน่าเบื่อเกินไปหน่อย ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยไล่หรอกนะ แต่พอผลักไสเมื่อไหร่ เจ้าก้อนนิ่มก็จะโดดดึ๋งๆ อยู่กับที่ประท้วงแล้วก็บอกว่าผมใจร้ายๆ ทั้งวันทั้งคืน ก็แอบน่าสงสารเหมือนกัน ทั้งที่พีทเป็นวิญญาณอิสระแท้ๆ แต่แทนที่จะมาใบ้หวยเหมือนผีต้นกล้วย ดันมาขอให้ช่วยซะได้ นี่ถ้ามาเป็นแบบให้ผมช่วยถ่ายรูปให้ก็ว่าไปอย่าง

    ผมนั่งเช็ดเลนส์กล้องบนโซฟาในห้องรับแขกไปพลางคิดเรื่องวุ่นๆ ในหัวไปด้วย อย่างเช่น การตายของพีทอาจจะดูน่าสงสัยหรือมีเงื่อนงำมาก ไม่งั้นพีทคงสืบเองและไปเกิดแล้ว ยังไงก็แล้วแต่ มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับผมอยู่ดี ผมเอาเวลาไปนั่งเช็ดเลนส์กล้อง แล้วเตรียมออกไปถ่ายรูปสวยๆ ฝึกฝีมือดีกว่า การตายของพีทผมรู้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้ผมสร้างชื่อเหมือนพ่อได้ อีกอย่าง ต่อให้ผมไม่ช่วยสืบเรื่องนี้เดี๋ยวพีทก็คงไปหาคนอื่นให้ช่วยได้อยู่ดี

    “ราม! ถ้ารามไม่ช่วยข้า ข้าจะ... ข้าจะเล่นงานเจ้า”

    หึ เล่นงาน? อยากจะเด้งไปชนอะไรก็ตามใจ น่าเบื่อ...

     

    วันต่อมา

    แสงอาทิตย์อ่อนๆ ยามเช้าส่องลอดบานกระจกเข้ามากระทบผิวหน้า ผมที่ไม่เคยตั้งนาฬิกาปลุกสักวันก็ยังตื่นเช้าทันไปเรียนเช่นเดิม แม้ตอนนี้ผมรู้ว่าทันทีที่ผมลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ ห้อง จะต้องเห็นพีทเด้งดึ๋งๆ ดึ๊บๆ อยู่ตรงไหนสักที่ ผมก็คงไม่ตกใจแล้ว การตายของพีท พีทบอกว่าตัวเองจำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าตายตอนไหนด้วยซ้ำ เลยมาขอให้ผมช่วย แต่ผมไม่ช่วยแน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้นวันนี้ต้องไล่พีทออกไปให้ได้ ถ้าไม่สงสารอีกอะนะ

    ผมกวาดตามองไปรอบเตียงและแน่นอนว่า ผมเห็น.....

    “อ๊ากกกกก คุณเป็นใคร”

    ผมขยี้ตาตัวเองสองสามทีจนมั่นใจว่าสายตาผมยังไม่ได้ฝั่นเฟือน ผู้ชายเตี้ยๆ อ้วนๆ เหมือนโก๊ะตี๋ ในชุดเสื้อลายดอกนี่มันเป็นใครกัน ตกใจนะเนี่ย จู่ๆ ตื่นมาก็มีไออ้วนที่ไหนไม่รู้มายืนจ้องหน้าอยู่ปลายเตียง นี่ผมต้องแจ้งความหรือแจ้งยามก่อนดี

    “ท่านยมๆ นี่แหละคนที่ข้าเล่าให้ฟัง ชื่อราม” เจ้าก้อนสีฟ้าเด้งดึ๋งๆ มาจากข้างซอกโต๊ะแคบๆ หลังผ้าม่าน พีทโดดขึ้นมาบนเตียงแนะนำผมให้กับแขกไม่ได้รับเชิญ ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่ใช้สายตาพิฆาตส่งไปหาเจ้าก้อนเยลลี่เป็นเชิงถามและดุในที

    “แหะๆ อรุณสวัสดิ์ราม เจ้าอย่าโกรธข้าเลยนะ ข้าแค่พาคนรู้จักมานิดหน่อย” ผมส่งสายตาดุซ้ำ “นี่คือ ท่านยม ยมทูตในอานาเขตแถวนี้”

    อืม...ยมทูต

    ห้ะ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น