คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [รีวิวหนังสือ] นิยมนิยาย-อุทิศ เหมะมูล หนังสือที่ทำให้คุณเข้าใจ วรรณกรรม มากกว่าเดิม
เราเห็นหนังสือเล่มนี้เด่นสะดุดตาขึ้นมาจากกองหนังสือที่ส่งเข้ามาที่ออฟฟิศเด็กดีในแต่ละครั้ง อาจเป็นเพราะตัวผู้เขียนเองที่มีรางวัลซีไรต์การันตีในผลงาน(แต่ยังไม่เคยได้อ่านเสียที วันหลัคงได้มีโอกาสล่ะนะ) ที่ทำให้ผมอยากจะลองหยิบมาอ่านดูสักครั้ง และหนังสือเล่มนี้ ได้พาเราไปจมดิ่งอยู่ให้ห้วงอวกาศอันลึกล้ำและไพศาลกว้างใหญ่ ที่เรียกว่า “นวนิยาย”
เมื่อได้ลองอ่านจากคำโปรยและเรื่องย่อในปกหลัง ก็พอจะเดาออกว่านี่เป็นความเรียงรวบรวมบทวิจารณ์นิยายที่นักเขียนมือทองคนนี้ได้เขียนเอาไว้ โดยส่วนตัวแล้วก็ยังไม่เคยได้อ่านบทวิจารณ์วรรณกรรมหรือบทวิจารณ์ใดๆ ที่เป็นทางการเลย จากการกรีดอ่านผ่านๆ และพินิจจากหน้าสารบัญแล้ว ก็พบว่านิยายแต่ละเรื่องที่ผู้เขียนเลือกนำเสนอนั้นน่าสนใจและน่าติดตามทั้งสิ้น จึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่จะไม่หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน
เนื้อหาทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้เป็นบทวิจารณ์วรรณกรรม นวนิยาย เรื่องสั้น จากนักเขียนชนชั้นต่างๆ ที่มีผลงานออกมาสู่บรรณพิภพ บางเล่มนั้นเราไม่เดยรู้จักเลย ไม่เคยรู้เลยว่ามีหนังสือเล่มนี้อยู่ด้วย แต่เมื่อได้อ่านสิ่งที่ผู้เขียนตกผลึก และสังเคราะห์ได้จากหนังสือแต่ละเล่มนั้น มันช่างมีคุณค่ามากมายมหาศาล และคงรู้สึกแย่มากๆ ถ้าไม่ได้หามาอ่าน คงจะรู้สึกผิดมากๆ ถ้าไม่ได้นำตัวเองซึมซับเข้าไปในเรื่องราวอันเข้มข้น ค้นหาปริศนาต่างๆ ที่วางเอาไว้ และขบคิดตีความไปกับสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ผู้อ่านแฝงเอาไว้ในแต่ละตัวอักษร ในแต่ละบรรทัด ในแต่ละย่อหน้า
ผู้เขียนมีทักษะในการอ่านและความเข้าใจในตัวเนื้องานวรรณกรรมเป็นอย่างดี สามารถถ่ายทอดความคิดของผู้เขียนมาเล่าได้อย่างน่าสนใจ และการตีความ การเข้าถึงเนื้อหาของผู้เขียนนั้นมีความลึกซึ้ง เขียนบรรยายความรู้สึก เนื้อหา แก่นของหนังสือแต่ละเล่มออกมาได้อย่างจ่มชัด
หลังจากที่ได้อ่านบทวิจารณ์แต่ละตอนจบ ก็มีความอยากอ่านหนังสือแต่ละเล่มนั้นโดยทันที ผู้เขียนพาเราเข้าไปตะลฃุยในโลกวรรณกรรมอันยิ่งใหญ่ โลกที่มีผลงานเขียนหลากหลายรูปแบบ หลากหลายชนชาติ หลากหลายขนบธรรมเนียม ได้รับรู้พลังความคิดของนักเขียนที่ทรงพลัง และการนำเสนอที่แปลกใหม่ ประเด็นที่ไม่กล้านำเสนอ ก็ถูกท้าทายให้อ่านและตั้งคำถามตามไปอย่างเร้าใจ
เราได้อะไรจากหนังสือเล่มนี้เยอะมาก อ่านแล้วอยากจะลุกขึ้นมาเขียนบทวิจารณ์ดีๆ(จริงๆ ก็เริ่มแล้ว ในบล็อกนี้ไง) อยากจะเข้าใจ และตีความคุณค่าของวรรณกรรมได้อย่างผู้เขียนบ้าง นิยมนิยาย เปิดมุมมองการเสพวรรณกรรมให้แก่เราเยอะมาก ทำให้รู้ว่าควรจะอ่านอย่างไร เลือกหนังสืออ่านอย่างไร(ความจริงแล้ว หนังสือแต่ละเล่มนั้นเปิดกว้างในการอ่านอย่างยิ่ง เพียงแต่เราต้องใช้เวลาและปล่อยตัวเองให้ล่องลอยไปตามพลังอักษรของนักเขียนนั้นๆ) และจะได้อะไรจากการอ่านหนังสือเล่มนั้นๆ บ้าง
หนังสือที่ผู้เขียนเลือกนำเสนอนั้น เรียกได้ว่าเป็นวรรณกรรมที่ควรอ่านทั้งสิ้น บางเล่มเป็นหนังสือหายาก แต่บางเล่มเป็นหนังสือที่คนทั่วไปไม่คิดว่าจะสนุก แต่ด้วยความที่เป็นคนอ่านมาก เสพวรรณกรรมหลายรูปแบบทำให้ผู้เขียนสามารถดึงเอาคุณค่าของวรณณกรรมแต่ละเล่มมาตีความ และถ่ายทอดออกมาเป็นบทวิจารณ์ของตนได้อย่างสนุก(ความจริงแล้ว หนังสือที่อยู่ในสารบัญนั้นเราต่างเคยเห็นผ่านๆ ตากันมา แต่ไม่หยิบมาอ่าน บ้างก็เป็นเพราะปกไม่สวย หรืออาจจะเชย แต่เชื่อเถอะ มันสุดยอดจริงๆ นะ)
อย่างไรก็ตาม นิยมนิยาย ก็เป็นหนังสือดีอีกหนึ่งเล่มที่นักอ่านวรรณกรรมและนักวิจารณ์มือใหม่มือเก่าควรจะอ่าน รวมไปถึงการศึกษา การค้นคว้า การตีความคุณค่าวรรณกรรมอย่างสร้างสรรค์ เป็นเรื่องธรรมดาที่มีใครออกมาทำอะไรแล้วจะต้องมีการวิจารณ์ แต่เราจะวิจารณ์อย่างไรล่ะ ให้เกิดการวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ เกิดการพัฒนา ต่อยอดเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เกิดแรงกระเพิ่มในแวดวงวรรณกรรม
อนึ่ง บทวิจารณ์ก็เป็นผลงานที่ถูกวิจารณ์ได้อีกทอดหนึ่ง จะบอกว่าคนเขียนนั้นพูดถูก พูดผิด นั้นไม่ใช่ ถ้าหากจะวิจารณ์ก็ต้องวิจารณ์อย่างถูกต้อง เพราะถ้าหากผิดพลาด สิ่งนั้นก็จะย้อนกลับมาทำร้ายผู้วิจารณ์ได้เช่นกัน เนื้อหาต่างๆ ต่างคนต่างตีความตามความรู้ ความเข้าใจ และสิ่งแวดล้อมที่เสริมสร้างตนเองออกมา เพราะฉะนั้นงานวรรณกรรมจะเปิดโอกาสให้เราแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่
สำหรับนักเขียน การรู้รอบเป็นอาวุธสำคัญในการลับคมความคิดของเรา ยิ่งสังเกตุมากก็ยิ่งเข้าใจมาก ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราสามารถกลั่นกรอง วิเคราะห์ ขบคิด และตกผลึกออกมาเป็นงานเขียนได้ทั้งหมด แต่สิ่งสำคัญของนักเขียนก็คือการอ่าน ยิ่งอ่านมาก ก็ยิ่งรู้มาก ยิ่งเป็นโลกทัศน์ให้เรามากยิ่งขึ้น
นิยมนิยาย เป็นหนึ่งในหนังสือเหล่านั้น.
ความคิดเห็น