ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    All X Nico robin (SF & OS)

    ลำดับตอนที่ #1 : [ Law x Robin ] lie love away - 30 %

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.02K
      5
      29 ม.ค. 57

     
     
    name - lie love away 

    couple - law x robin 

    rate - 17+ 

    note - งานสุดท้ายที่จะช่วยเพื่อนตัวเองไว้ได้คือ " ฆ่าหัวหน้ากลุ่มโพแดง" 
     
         มือที่มันเปลื้อนเลือด ต่อให้ล้างยังไงมันก็ไม่มีสะอาด กลิ่นคาวมันก็ยังส่งกลิ่มของมันอยู่ดี มันเป็นถ้อยคำที่ฉันฟังแล้วเจ็บใจมากแค่ไหน แต่ฉันก็ต้องข่มความเจ็บเอาไว้ในใจ และส่งยิ้มแสยะให้คนพูด ประมาณว่า ต่อให้เค้าพูดแค่ไหนฉันก็ไม่เจ็บกับมันอยู่ดีนั้นและ ทั้งหมดนี้ฉันจำเป็นต้องทำเพื่อพวกพ้อง พวกพ้องที่โดนความเจ้าเล่ห์ของเจ็ดเทพโจรสลัดผู้หนึ่งทำร้าย และโดนจับตัวไป ต่อให้ฉันจะเจ็บปวดกับคำพูดพวกนั้นมากแค่ไหน ฉันก็ต้องอดทนเอาไว้ และเมื่อมีช่องทางที่จะเอาคืนได้ ฉันจะเอาคืนอย่างสาสม กับผู้ชายที่ทำให้มือฉันต้องเปลื้อนเลือด ปีศาจผู้มากไปความความโลภะ  'โดฟลามิงโก้' 
     
        " คนที่ใกล้ตาย พูดไปคำพูดมันก็เป็นแค่ธาตุอากาศ" 
     
         ผลฮานะ ฮานะ แตกหน่อจากผู้หญิงสวมชุดเมดที่ยืนทำหน้าอ่านไม่ออก ตรงกำแพงเก่า มันไม่ได้มีแค่มือที่ผลิได้เหมือนกับดอกไม้เท่านั้น มือพวกนั้นยังถือมีดสั้นอีกต่างหาก ส่วนอีกสองมือล็อคเป้าหมายให้ขยับไปไหนมาไหนไม่ได้ 
     
         " คำพูดที่มีความหมาย คือคำพูดของคนที่ยังมีชีวิตอยู่" 
     
         " อ้ากกก!!!!!!!!" 
     
           เสียงสุดท้ายของคนคนหนึ่งที่ดวงซวยทำให้กิจการของโดฟลามิงโก้ล่ม จนต้องตามมากำจัดก่อนที่มันจะเอาความลับไปเปิดเผย ก่อนที่เลือดสีแดงสดสาดกระเด็นโดนลัง และ พนังกำแพงของโรงงานผลิตผลปีศาจปลอมที่ชายผู้เป็นตัวแทนของโลภะเป็นเจ้าของ 
     
            " แต่ต่อให้มีชีวิตอยู่ คำพูดบางคำพูดก็พูดไม่ได้" 
     
           หลังจากที่งานเสร็จ ฉันก็ต้องไปรายงานให้กับบอสชั่วคราวของฉัน นี้เป็นงานที่ 8 แล้วที่ฉันทำให้เค้า รวมระยะเวลาก็ 3 ปีแล้ว และตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่ฉันต้องไปรับงานสุดท้าย งานสุดท้ายที่ฉันจะได้เห็นหน้าของเพื่อนตัวเอง และพวกเราจะได้กลับไปเดินเรืออีกครั้ง ที่จะได้ทำให้ความฝันของทุกคนเป็นจริงอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ฉันคิดถึงจิตวิญณาณของซันนี่ ว่าเค้าจะเป็นอย่างไงบ้าง ฉันหวังว่าเค้าจะยังมีความสุข และคนพวกนั้นดูแลเค้าเป็นอย่างดี และหวังเพียงว่าเค้าคงไม่เล่นตุกติกอะไรกับฉันอีก 
     
            สองมือของฉัน ตอนนี้กำลังเดินไปรอบๆเพื่อเทน้ำมัน ให้จุดไฟได้ง่ายขึ้น ถ้าตามแผนการของฉันคือเผาโรงงานนี้ เพื่อกลบหลักฐานทั้งหมด และเมื่อน้ำมันเทหมดแล้วก็ถึงเวลาที่ฉันต้องจุดไฟเผา และออกไปจากที่นี้ แต่การออกไปจากที่นี้โดยดีคงไม่ดีต่อฉันแน่ ฉันจำเป็นต้องเผาเสื้อตัวเองบ้าง และ ทำตัวเองให้มีแผลและสกปรก และต้องมีสีหน้าตื่นกลัวตอนที่ผู้คนมาเจอด้วย 
     
           " งานเสร็จแล้วเหรอ โรบิน" 
     
           " อืม …. เวอร์โก้" 
     
           " ไปอาบน้ำ เปลื่ยนชุดซะ นายน้อยเรียกเธอนะ" 
     
           "ไปพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอ … งานวันนี้เหนื่อยมากเลยนะ" 
     
           " ฉันเข้าใจ …. แต่เธอก็รู้ เธอขัดเค้าไม่ได้" 
     
           เวอร์โก้ ….. ผู้ชายที่เป็นดั่งมือขวาของคนคนนั้น เค้าเป็นคนที่น่ากลัวจนฉันเองหากช่วยเพื่อนไว้ได้แล้วจะไม่มีวันมายุ่งกับเค้าเป็นอันขาด เค้าเป็นคนสอนวิธีต่างๆให้กับฉัน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ และวิธีการทำตัวเองให้เหมือนไม่รู้ไม่เห็นกับอะไรทั้งนั้น เวอร์โก้น่ากลัวเพราะเค้าสามารถเป็นพี่ชายที่ใจดีได้ และสามารถเป็นคนที่ฆ่าคนได้อย่างไม่ต้องคิดอะไรมากมายได้ แต่ที่ฉันนับถือคือ เค้าเป็นคนที่รักโดฟลามิงโก้มาก ยอมทำได้ทุกอย่างแม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องการก็เถอะ 
     
            " ไปสายสักหน่อยเถอะ เดี้ยวฉันจะบอกให้ว่าเธอเจ็บแผล" 
     
            …. 
     
            " แต่ห้ามสร้างร่างจำลองของตัวเองไปแทน เด็ดขาด" 
     
            เวอร์โก้เข้ามาตรวจดูแผลของฉัน ก่อนที่เข้าจะลูบหัวฉันเหมือนที่เค้าเคยทำ ฉันเคยติดหนี้บุญคุณเค้าครั้งหนึ่ง ตอนที่ฉันจำงานแรกพลาด เวอร์โก้ไปช่วยฉันและไม่ได้บอกโดฟลามิงโก้ว่าฉันทำงานพลาด เค้าไปเหมือนอาจารย์และพี่ชายของฉัน เค้าสอนให้ฉันทำงานทุกอย่าง แต่เค้าไม่เคยสอนให้ฉันเคารพหรือรักโดฟลามิงโก้ เค้าบอกว่าเมื่อหมดธุระที่นี้ ก็ไปเถอะและอย่ากลับมา และจงอย่าให้ไอ้หนูกัปตันนั้นกับมาที่นี้อีก และสอนให้ฉันอย่าละอายกับสิ่งที่ตัวเองทำ ไม่ว่ามันจะชั่วหรือร้ายแค่ไหน 
     
            " เหนื่อยแย่เลยนะคะ โรบินซัง" 
     
           " อืม….ขอบใจนะที่ถาม Baby 5 " 
     
           " เป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องเป็นห่วงทุกคนนิคะ" 
      
           " ว่าเธอแต่ยังไม่นอนอีกเหรอ ดึกแล้วนะ" 
     
           " นายน้อยบอกให้ฉันมาบอกก่อนนะคะ ว่าพรุ่งนี้คุณต้องเอาข้าวไปให้นายน้อย" 
     
           " จ๊ะ….. ขอบใจมากนะ Baby 5 " 
     
           งานชิ้นสุดท้ายนั้นมาเร็จกว่าที่ฉันคิดเอาไว้ เพราะปกติกว่าฉันจะได้งานใหม่ฉันจะต้องไปเรียนอะไรสักอย่างกับเวอร์โก้ไม่ก็พิก้าก่อน ถึงจะถูกเรียกให้มาทำงานใหม่ได้ ทุกอย่างที่นี้พูดกันเหมือนกับเป็นรหัส การที่คนคนนั้นเรียกไปในการกลางดึกคือ เค้าจะบอกงานที่คุณต้องไปทำให้ได้ และถ้าตอนเช้าให้คุณเอาข้าวไปให้หรือเรียกคุณไปกินข้าวด้วย นั้นหมายถึงเค้ามีแผนการและบอกให้คุณไปทำได้แล้ว คนทุกคนในอาณาจักรเดรกโรซ่านั้นสามารถทำกับข้าวได้ ทำงานบ้านได้ และเข้าสู่สถานรบได้เลย โดยไม่ต้องมีการเตรียมตัวมาก่อน ตอนที่ฉันต้องมาทำงานกับเค้าใหม่ๆ ฉันต้องฝึกยิงปืน พร้อมกับเสริฟน้ำชา ไปพร้อมๆกัน โดยไม่ให้อย่างใดอย่างหนึ่งบกพร่อง 
     
           ชุดเมดชุดใหม่ถูกแขวนไว้หน้าห้องน้ำ 6 ตัว แต่ละตัวมีแบบที่ไม่เหมือนกัน คราวนี้มันไม่เหมือนชุดเมดแบบที่ฉันเคยใส่ทุกครั้ง ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไหมชุดฉันถึงได้เปลื่ยนไป แต่ต่อให้หาให้ตายยังไงก็หาไม่เจอหรอก เพราะคนที่จะรู้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นและ 
     
          " แล้วแบบนี้จะมีแบบมาให้เลือกกันทำไม" 
     
          "เอี้ยด!!!!!! " SFX : เสียงเปิดประตู 
     
          " ดอฟฟี่ ให้ชุดใหม่เธออีกแล้วเหรอ" 
     
          เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ที่ดูยังไงอายุก็น่าจะประมาณ 8 ขวบกว่าๆ และเป็นคนเดียวที่เรียกคนคนนั้นว่า ดอฟฟี่ และดูเหมือนรายนั้นจะไม่ได้คิดอะไรมากมายกับการโดนเรียกแบบนั้น เด็กคนนี้ขี้หวงจะตายไป โดยเฉพาะของที่เป็นของนายน้อยตัวเองนะ ไม่ยอมให้ใครมาแตะเลยละ ตอนแรกๆฉันยังคิดเล่นๆเลยว่า ท่าจะเป็นลูกติดภรรยาเก่าของอีตานกกระทุ้งนั้นละมั้ง เด็กคนนั้นไม่ยอมบอกชื่อกับฉัน เพราะบอกว่ามันไม่จำเป็น เลยโดนคุณเมด baby 5 เรียกไปดุชุดใหญ่ แต่เด็กคนนี้ก็ยังไม่ทำตามอยู่ดี 
     
          " เธออยากได้ชุดใหม่บ้างเหรอ …. แต่ชุดที่เธอใส่อยู่มันก็น่ารักอยู่แล้วนิ" 
     
         " เธอนิไม่ได้รู้อะไรเลย การได้ชุดใหม่หมายถึงการได้ทำงานตำแหน่งใหม่" 
     
        " เธออยากใส่ชุดนี้ละสินะ" 
     
        " บะ…บ้าน่า ไม่เห็นอยากใส่เลยสักนิด" 
     
       " เธอต้องได้ใส่อยู่แล้วแล่ะ แต่ต้องรอให้โตก่อนนะ" 
     
        " ฉันโตแล้วนะยะ" 
     
          จะว่าไปมันก็น่าขำดี ทำงานดีได้เสื้อผ้า ได้ย้ายตำแหน่งได้ชุดแบบใหม่ บ้านนี้เค้าเอาอะไรเป็นการตัดสินเนี่ย ฉันมองดูเด็กคนนั้นที่ปีนเตียงขึ้นไปนอนที่เตียงของฉัน พร้อมๆกับมองไปที่ชุดพวกนั้น เหมือนกับว่าเธออยากจะใส่จริงๆแต่กลัวเสียฟอร์มเลยต้องบอกว่าไม่อยากใส่ กระดาษที่แปะที่ชุดสีแดงหล่นลงมา เด็กคนนั้นปีนลงมาเก็บกระดาษนั้นไปอ่าน ก่อนที่จะทำเสียงไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม 
     
           " คราวนี้ดอฟฟี่เลือกให้ด้วย มันจะเกินไปแล้วนะ" 
     
           " นี่ดอล งานนี้เป็นงานสุดท้ายของฉันแล้วนะ" 
     
           " เธอจะไปแล้วเหรอ....." 
     
           " อืม…เสร็จงานนี้ฉันก็ไปแล้วละ" 
     
            เนื่องจากว่าเด็กคนนั้นไม่ยอมชื่อกับฉัน ฉันเรียกเธอว่าดอล ที่แปลว่าตุ๊กตา เพราะเธอมีใบหน้าที่น่ารักเหมือนตุ๊กตาแถมนันย์ตานั้นก็เหมือนตุ๊กตามากด้วย แต่เธอดูเหมือนจะชอบชื่อนี้ เพราะมันคล้องกับคำว่า ดอฟ ของคนคนนั้นได้เป็นอย่างดี แต่ว่าเมื่อกี้ฉันคิดไปเองหรือเปล่า ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะทำเสียงเหมือนไม่อยากให้ฉันไป ตอนที่ฉันบอกว่านี่มันเป็นงานสุดท้ายของฉัน เด็กคนนั้นหน้าหงอยๆก่อนที่จะกลับไปนั่งที่เตียงเหมือนเดิม ส่วนตัวฉันเมื่อมองดูเวลามันก็สายมากเกินไปแล้ว ฉันรีบแต่งตัวและเดินไปหาเค้าที่ชั้นบนสุดของอาณาจักร์นี้ 
     
           " ดอฟฟี่ รักษาสัญญาจริงๆด้วย" 
     
           คำพูดสุดท้ายของดอลที่พูดตอนที่โรบิน เดินออกไปพร้อมกับชุดใหม่ ที่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่รู้อะไรทั้งนั้นเกี่ยวกับชุดนั้น ดอลกอดสมุดนิทานที่อยากให้เจ้าของห้องมาอ่านให้ฟังก่อนจะนอน ที่เหลือก็แค่รอให้คนคนนั้นกลับมาอ่านให้ฟังสินะ ดีจังเลย 
     
          " นึกว่าฉันจะต้องมาเคาะซะอีก" 
     
           เวอร์โก้มารออยู่หน้าบันไดขึ้นห้องของฉัน สีหน้าของเค้าฉันอ่านไม่ออกมันเลยจริงๆ แต่น้ำเสียงของเค้าก็พอจะเดาได้ว่า ไม่ได้โกธรอะไรมากมาย ท่าทางวันนี้ไอ้นกกระทุ้งนั้นจะอารมณ์ดี 
     
           " ขอโทษนะ เวอร์โก้ซัง" 
     
          " โรบิน …. ชุดเมดเธอละ"  
     
          เวอร์โก้สำรวจชุดนั้นตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะถามขึ้นมา แต่ฉันก็อายๆเหมือนกันนะ ชุดนี้มันดูแปลกๆยังไงก็ไม่รู้สิ ไหนจะสัญลักษณ์โพแดงพวกนี้อีก 
     
          " มันไม่มีนะ …. ฉันเข้าไปก็เจอแต่ชุดนี้" 
     
         ….. 
     
          " ไม่เข้ามาด้วยกันเหรอเวอร์โก้ " 
     
            เวอร์โก้ส่ายหน้า เค้าบอกว่านายน้อยอยากเจอเธอลำพัง และเวอร์โก้บอกว่า ถ้าคุยเสร็จแล้วอยากไปเยี่ยมเพื่อนก็ให้รีบๆคุยและลงมาจะพาไปหา ฉันยิ้มให้เค้าก่อนที่จะเดินไปห้องของนายน้อยนกกระทุ้งนั้น ส่วนเวอร์โก้เองก็นั่งรออยู่ที่โต๊ะรับแขก ฉันเองเดินไปเรื่อยๆจนถึงหน้าประตูห้องเค้า รถเข็นน้ำชา และของว่างยามดึก ถูกวางไว้หน้าห้อง ฉันถูกสอนมาจนมันชินว่าให้ตรวจดูน้ำชาร้อนเกินไปหรือเปล่า หรือเย็นไปแล้ว และเปิดดูว่าชานั้นเข้าที่กันได้ดีหรือยัง ก่อนที่จะเสริฟ์ให้เจ้านาย ฉันวางอาวุธจำพวกมีดและปืนไว้ที่กล่องใส่ถุงชาทิ้งที่ชั้นล่างของรถ ก่อนที่จะเข็นรถนั้นเข้าไปในห้องของคนคนนั้น 
     
             " แผลพวกนั้นรอให้หายดีแล้วรับงานใหม่ก็ได้นะ" 
     
            " ไม่เป็นไร.... แผลพวกนี้ไม่ทำให้งานพลาดหรอก" 
     
            " เป็นห่วงเพื่อนดีจังเลยนะ เปิดไฟให้หน่อยสิ" 
     
            ฉันถูกสอนให้ทำงานในความมืดได้ เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเสริฟชาให้เค้าได้แม้ว่าต้องอยู่ในความมืด ปกติเค้าไม่ค่อยชอบแสงไฟจากโคมไฟตอนกลางคืนนะ แต่เอาเถอะเมื่อเข้าสั่งฉันก็ทำ มันเป็นเรื่องปกตินิ 
     
             " อืม ….. ชุดนี้เหมาะกับเธอมากนะ" 
     
             " ขอบใจ เสร็จงานฉันจะชัก รีด คืนอย่างดี" 
     
             " เธอนี่ใจร้อนนะ โอเค งานชิ้นต่อไปของเธอนะ" 
     
            เค้าเผยมือให้ฉันนั่งที่โต๊ะที่มีสัญลักษณ์ของโพแดง ถึงฉันจะงงๆแต่ก็นั่งมันแต่โดยดี ขืนว่าทำให้เค้าอารมณ์เสีย งานชิ้นสุดท้ายของฉัน กว่าจะได้ทำ เพื่อนก็ได้ตายคุกนั้นพอดีนะสิ เค้ายิ้มพอใจ ก่อนที่จะเดินไปหยิบของจากชั้นวางใต้โทรทัศน์ขนาดใหญ่ในห้องของเค้า 
     
             " เอารอยสักของผู้ชายคนนี้มาคืนฉัน" 
     
             ร่างสูงใหญ่ของเค้าละจากทีวีนั้นแล้วเดินมาข้างหลังของฉัน มือด้านขวาของเค้าโอบมาที่ไหล่ทางด้านขวาของฉัน ส่วนมือด้านซ้ายถือรูปนั้นและถือมันไว้ในอากาศให้ฉันได้เห็นงานชิ้นต่อไปของฉัน " Dead out name Trafalgar Law body" และเอาร่างของ trafalgar law มาให้เค้า ร่างไร้ลมหายใจ 
             มือขวาเริ่มบีบหัวไหล่ของฉัน พร้อมกับใบหน้าที่ชวนขนลุกของเค้า บ่งบอกเป็นอย่างดีเลยว่า ฉันต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ น้ำชาที่วางไว้ก่อนหน้านั้นแล้วเค้ายกมาดื่มมันจนหมด ก่อนท่ีจะเอาไปวางไว้ที่รถเข็นนั้น เค้กที่มีคนจัดไว้ให้แล้ว เค้าเลื่อนมาวางไว้ตรงหน้าฉัน ก่อนที่จะเทน้ำชาใส่แก้วไปเดิมที่เค้าเพิ่งกินหมดไป เอามาให้ฉัน 
     
            " กินเค้กกับน้ำชานี่ให้หมดก่อน แล้วค่อยออกไปแล้วกัน" 
     
           " อืม" 
     
           " baby 5 บอกเธอแล้วใช่ไหม พรุ่งนี้เธอต้องมากินข้าวกับฉันนะ" 
     
           " อืม บอกแล้วละ" 
     
           " อย่าเยี่ยมเพื่อนจนนอนดึกละ" 
     
           ฉันเข้าใจคำพูดของเวอร์โก้โดยทันทีว่าทำไมเค้าถึงให้ฉันรีบๆพูดธุระให้เสร็จและรีบๆออกมา ผู้ชายคนนี้อันตรายเหลือเกิน เวอร์โก้คงหมายถึงให้ฉันรีบๆทำงานนี้ให้เสร็จและรีบๆไปจากที่นี้ซะ ฉันรีบกินเค้กและน้ำชาให้หมดให้เร็จที่สุด บรรยากาศห้องนี้วันนี้มันอึดอัดเหลือเกิน จนกระทั้งมันหมด วันนี้คงเป็นแรกที่ทำให้ฉันเกลียดการกินเค้กและชา ความจริงฉันชอบเค้กมากเลยนะ เพราะมันเข้ากับกาแฟก็ได้ ชาก็ได้ แต่วันนี้ฉันรู้สึกเกลียดมันเหลือเกิน และฉันก็ดีใจมากที่ในที่สุดมันก็หมดลง ฉันหยิบจานและถ้วยไปเก็บ และโค้งให้เค้าเป็นการบอกลา เค้ายิ้มเยียดเหมือนกับที่เค้าชอบทำเวลาที่พอใจกับอะไรสักอย่าง 
     
           " เดี้ยวสิ …." 
     
          " ต้องการอะไรอีกหรือยังไง" 
     
          เค้าไม่พูดอะไร นอกจากใช้สายตามองไปที่พื้นใกล้ๆกับเตียงนอนของเค้า ฉันกลั้นความอนทนของตัวเองให้มีสูงขึ้นเรื่อยๆก่อนที่จะเดินเข้าไปตามคำสั่งของเค้า  
     
           " เธอควรพูดกับฉันให้เพราะๆนะ" 
     
           " อึก… ฉันขอโทษนะ" 
     
           " ดีมาก.... ต้องพูดแบบนี้สิ ถึงจะน่ารัก" 
     
           มือที่บีบที่คางณตอนนี้ทำให้ฉันมีความรู้สึกเจ็บปวด ฉันไม่เคยรู้ว่าเค้าจะใส่ใจกับคำพูดมากมายถึงขนาดนี้ ใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ รับรู้ได้ทันทีว่ามันคือความรู้สึกกลัว ผู้ชายคนนี้อันตราย อันตรายจนเกินไป ความละโมป และโลภะของเค้า มันควรหนีไปให้ไกลๆ แต่ตอนนี้ฉันต้องเอาเพื่อนๆฉันไปด้วย และหลังจากที่ทุกอย่างจบฉันจะไม่มายุ่งกับที่นี้อีกเด็ดขาด ฉันรีบพูดขอโทษไปอย่างเร็จที่สุด เค้ายิ้มเยียดๆก่อนที่จะคลายมือออก และถึงฉันจะรังเกียจที่อยู่ดีๆเค้ากอดฉัน แต่ฉันคงต้องยอมๆไปสักระยะ เพราะเหตุการ์ณเมื่อกี้คงสอนฉันได้เป็นอย่างดีว่าเค้า อารมณ์เปลื่ยนง่าย 
     
           " ฉันอยากกินอะไรที่หวานๆหน่อย" 
     
           "หวังว่าคุณคงทนได้ กับกลิ่นเลือดพวกนี้" 
     
          " มันก็หวานดีไม่ใช่หรือไง" 
     
         " ฮึก1111….." 
     
          แผลจากการหกล้มของฉัน ที่เพิ่งจะปิดพลาเตอร์ไป โดนแกะอย่างไม่สนใจว่ามันจะทำให้เลือดไหลมากขนาดไหน ลิ้นที่แลบเลียเลือดที่ไหลมาตามแผลมันทำให้ฉันรู้สึกรังเกียจ แต่สุดท้ายมันก็เหมือนกับคำพูดของคนที่กำลังจะตาย ต่อให้พูดมากซะขนาดไหน มันก็กลายเป็นแค่ธาตุอากาศ ที่คนฆ่าจะไม่ใส่ใจฟัง การเป็นเครื่องระบายอารมณ์ก็เป็นส่วนหนึ่งของงานที่ฉันต้องทำให้เค้าด้วย เพียงแต่ว่ามันไม่นับรวมในงาน 9 ชิ้นเท่านั้นเอง แต่ถ้าฉันไม่ทำ ฉันก็ไม่มีทางช่วยเพื่อนตัวเองไว้ได้หรอก 
     
           ริมฝีปากที่บดเบียนกับความชื่นแฉะ เรียวลิ้นที่สอดแสกเข้ามา ต่อให้อยากจะกัดให้มันขาดขนาดไหน ฉันก็ต้องข่มไว้ในใจ ทำในสิ่งตรงกันข้ามกับที่สมองคิด แต่อยู่ดีๆทุกอย่างมันก็จบลง 
     
          " ไปเยี่ยมเพื่อนเถอะ พรุ่งนี้ฉันอยากกินข้าวตรงเวลา" 
     
          " … ราตรีสวัสดิ์คะ นายน้อย" 
     
          ร่างสูงใหญ่ของเค้าลุกไปจากตัวของฉัน ก่อนที่จะลุกไปดูดาวที่หน้าต่าง ฉันจัดการกับผมและเสื้อผ้า หน้าตาของตัวเองก่อนที่จะจัดที่นอนของเค้าให้เป็นระเบียบ เค้าหันมามองระยะหนึ่งก่อนที่จะหันไปดูดาวเหมือนเดิม ฉันโค้งราตรีสวัสดิ์เค้าและลากรถออกไป 
     
          " เอามันเก็บทีนะ" 
     
          " คะ …. โรบินซัง" 
     
          เมดผู้หญิงที่รออยู่หน้าห้องอย่างเงียบๆมารับรถเข็นต่อจากฉันไปเก็บที่ครัว ฉันทำสีหน้าของตัวเองให้ปกติก่อนที่จะเดินลงบันไดไปหาคนที่เค้านั่งรอฉันอยู่ที่ห้องรับแขก เวอร์โก้ลุกจากโซฟาและเดินนำฉันไปทางคุกใต้ดิน หน้าเวอร์โก้วันนี้ดูเหมือนจะมีเรื่องหนักใจ 
     
          " โอนิ...." 
     
          " เธอขัดใจนายน้อยสินะ" 
     
          " ฉันแค่เดาอารมณ์เค้าไม่ถูกเองนะ" 
     
         "โชคดีที่มันไม่นาน ไม่งั้นเธอคงไม่มีเวลาไปเยี่ยมเพื่อนแน่" 
     
           มันก็จริงของเวอร์โก้ ที่วันนี้มันไม่นานเหมือนวันแรกๆ ที่ฉันโดนไปแบบนั้น เค้าบอกว่ามันคือวิธีการฝึกคนให้เชื่อฟังในแบบของเค้าเหมือนกัน วันแรกๆที่ฉันโดนไปแบบนั้นฉันสลบไปนาน 2 วัน ถึงตอนนี้ฉันอาจจะเริ่มชิน แต่ถ้าเจอคนคนนั้นในโหมดบ้าพลังฉันอาจจะสลบนานกว่าเดิม และไม่แน่เค้าอาจจะยกงานนี้ให้คนอื่นทำ และก็ไม่รู้เมื่อไรที่งานที่จะให้ฉันทำจะมาถึงสักที เวอร์โก้ชักสีหน้าที่ไม่สบายใจเหมือนเดิม แต่ฉันเองก็ไม่อยากจะถามเค้า 
     
            สักพักฉันกับเวอร์โก้ก็เดินมาถึงคุกที่อยู่ใต้ดิน เวอร์โก้พูดอะไรสักอย่างกับคนดูแล ก่อนที่เค้าจะเดินออกไป 

             " อย่าช้านะ พรุ่งนี้เธอต้องตื่นเร็จ" 
     
            " อืม …. ขอบคุณนะ พี่ชาย" 
     
            " เหมือนทุกๆครั้งนะโรบิน ถ้าอยากทำงานสำเร็จ อย่ามีคำว่าสงสาร" 
     
            " อืม… พี่บอกทุกครั้งและ" 
     
            เวอร์โก้เปิดประตูของคุกใต้ดิน ก่อนที่จะเผยมือให้ฉันเข้าไปคนเดียว ปกติฉันจะอยู่ที่นี้นานเท่าไรก็ได้ เพราะจะเจอเพื่อนได้แค่ อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น แต่ครั้งนี้เวอร์โก้ต้องเตือนเพราะมันดึกมากแล้ว และพรุ่งนี้ฉันก็มีธุระกับนายน้อยของบ้านนี้ด้วย เค้าเป็นพวกความอนทนต่ำ เพราะฉะนั้นคงต้องรีบไปเยี่ยมและกลับไปนอน 
     
    เดี้ยวจะมาต่อส่วนที่เหลือนะคะ 
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×