ตอนที่ 8 : 07
07
ร่างเล็กกลับมาถึงบ้านก็ตอนที่ท้องฟ้าสว่างพอดี เสียงเปิดประตูบ้านดังขึ้นพร้อมกับร่างโปร่งของเพื่อนที่วิ่งออกมาจนเกือบจะชนเขา คาซึระเพียงแค่เอ่ยขอตัวแล้วรีบวิ่งออกไปจนลับตาเขาจึงเลิกสนใจแล้วเดินเข้าบ้านเห็นร่างสูงกำลังนั่งกดจ้องมือถืออยู่
“กินข้าวเช้ารึยัง”
“.....”
“ซึระ ว่ายังไงบ้างที่ล้มไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย”
“.....”
“อยากทำอะไรรึเปล่า บอกฉันได้นะ”
“.....”
“งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ มีอะไรก็----“
“.....”
“.....”
ร่างเล็กเอ่ยพูดกับร่างสูงเพียงฝ่ายเดียว ยิ่งอีกฝ่ายไม่ตอบก็ยิ่งรู้สึกเสียหน้าเขาเสียใจแต่ก็พยายามที่จะชวนอีกฝ่ายคุยจนไปหยุดชะงักกับคำพูดที่ทำให้ทะเลาะกันเมื่อวานทำให้เขาเม้มปากแน่น เขารู้สึกคล้ายกับว่าจะเข้าใจความรู้สึกของกินโทกิแต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่กินโทกิพูด ร่างเล็กตัดสินใจที่จะไม่พูดต่อแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้อน้ำไป
สักพักทากาสุงิก็เดินออกมาพร้อมกับชุดใหม่เขาไม่รู้สึกง่วงนอนพูดตรงๆคือเครียดมากกว่า นัยน์ตาสีเขียวมองร่างสูงที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมในท่าเดิมเขากำลังลังเลว่าควรจะเข้าไปนั่งข้างๆดีรึเปล่า จะยังโกรธกันอยู่รึเปล่าร่างเล็กตัดสินใจเดินขึ้นชั้นสองแต่
“...จะไปไหน”
“.....”
“มานอนกับฉันตรงนี้”
“.....”
“ฉันบอกให้มาก็มาสิ ฉันเรียกแล้วก็มองมาสิอย่าหลบตา”
เสียงเอ่ยทักอย่างเย็นชาทำให้ร่างหยุดชะงัก เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไปและน้ำเสียงของร่างสูงที่ส่งมาก็เต็มไปด้วยอารมณ์โมโห แต่เขาก็โกรธกับประโยคที่ร่างสูงพูดทีเขาพูดไม่ยอมตอบแต่พอเขาไม่ตอบบ้างก็มาโมโหใส่ ร่างเล็กทำท่าทีเมินเฉยใส่บ้างขาเรียวก้าวขึ้นขั้นบันไดอย่างไม่สนใจแต่ทว่า
.
ปึก! ปึก! ปึก!
.
“กินโทกิ หยุด กินโทกิพอได้แล้ว”
ร่างสูงกระแทกแขนซ้ายที่พันเฝือกไว้กับโต๊ะ ทากาสุงิรีบวิ่งกลับมาหามือเล็กทั้งสองข้างจับแขนซ้ายของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นเพื่อให้ร่างสูงทำร้ายตัวเองได้อีก แขนขวาตวัดโอบเอวเล็กและดึงให้ลงมานอนที่โซฟาเบดแขนยาวพยายามรัดเอวอีกฝ่ายให้แน่นและดันให้แผ่นหลังเล็กเข้าใกล้กับอกของตัวเองให้มากที่สุด คนตัวเล็กนอนเกร็งไม่กล้าขยับเพราะกลัวจะทำให้แขนซ้ายของร่างสูงเจ็บกว่าเดิม
“กินโทกิ ปล่อยเถอะนะ”
“...เกลียดฉันรึไง”
“แขนซ้ายนายเจ็บอยู่”
“...ช่างมันสิ ถ้ามันไม่หายคนที่ต้องรับผิดชอบชีวิตนี้มันก็นายไม่ใช่รึไง”
ร่างเล็กได้แค่นอนนิ่งตัวเกร็งอยู่กับที่เขาหลับไม่ลง แขนยาวๆนี่ก็รัดตัวเขาเอาไว้แน่นไม่มีคลายออกเลยลมหายใจสม่ำเสมอที่รดต้นคอทำให้รู้ว่าร่างสูงข้างหลังหลับลงสนิทแล้ว ขอบตาร้อนผ่าวหยดน้ำไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย
‘หนาวจังเลย อ้อมกอดของนาย’
.
.
.
นัยน์ตาสีแดงนั่งมองร่างเล็กที่นอนร้องไห้อยู่ที่ปลายโซฟา มือใหญ่ทั้งลูบหัวจับมือแต่ไม่ว่าจะทำยังไงคนตัวเล็กก็ดูจะไม่มีท่าทีผ่อนคลายเลยสักนิด
‘ร้องไห้ทำไม เพราะฉันเหรอ?’
มือที่กำลังจะเอื้อมไปซับน้ำตาหยุดชะงักเมื่อมีมืออีกข้างตัดหน้าเขาเกลี่ยน้ำตาออกจากรอบดวงตาคู่สวย ชายร่างสูงกุมมือเล็กแล้วบีบเบาๆ ท่าทีของทากาสุงิเริ่มผ่อนคลายลงบ้างคล้ายกับเขามองเห็นมือเล็กนั่นบีบตอบมือของชายคนนั้น ดวงตาคู่สวยปรือลงราวกับว่าปลอดภัยจนสามรถหลับตาได้แล้ว
‘แกเป็นใครกัน ตอบมาสิ’
ชายร่างสูงหันกลับมามองเขาแล้วยกยิ้มมุมปากก่อนจะทำปากขมุดขมิดเหมือนกับกำลังพูดอะไรสักอย่างอยู่ เขาตั้งใจจะเข้าไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่ายเพื่อคุยให้รู้เรื่อง
“กินโทกิ ฉันหายใจไม่ออก”
เสียงละเมอของร่างเล็กทำเอาเขาหยุดชะงักและหันไปมองนัยน์ตาสีแดงสะท้อนประกายเครียดแค้นออกมาเขากำลังคิดว่าร่างเล็กที่แสนจะเห็นแก่ตัวตรงนี้กำลังฝันอย่างมีความสุข
‘นายใจร้ายมาก ชินสุเกะ ฉันอยากเกลียดนายให้ได้เท่ากับที่ฉันรักนาย’
.
.
.
“ทากาสุงิ มาทำอะไรที่นี่น่ะ”
“ซึระ”
ร่างโปร่งบางเอ่ยทักร่างเล็กที่บังเอิญเจอกันบริเวณใกล้กับช่องจ่ายยาของโรงพยาบาล ทั้งสองคนเดินคุยกันมาเรื่อยๆโดยที่คาซึระรอบมองเพื่อนตัวเล็กอยู่บ่อยครั้ง
“กินโทกิเอาแขนไปฟาดโต๊ะนะ เลยพามาตรวจอีกรอบ”
“....ฉันว่านายน่าจะตรวจแผลที่หัวด้วยนะ ไปโดนอะไรมา”
“ทะเลาะกับหมอนั่นนิดหน่อย ไม่เป็นอะไรมากแค่ถลอกนิดหน่อย”
“นายน่าจะพักผ่อนบ้าง ลางานสักวันสองวันสิ”
“ลาไปแล้ววันนี้กับพรุ่งนี้”
“...ก็ดีแล้วนิ”
“ซึระ ช่วงนี้กินโทกิดูแปลกๆน่ะ”
“หมอนั่นก็แปลกตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาแล้วนิ”
“ช่วงนี้หมอนั่นตื่นยากผิดปกติน่ะ แถมอารมณ์ก็ยังขึ้นๆลงๆอีก”
“ลองพามาตรวจสมองอีกรอบสิ ครั้งหน้าที่ฉันนัดก็ได้”
“.....”
“เสร็จแล้ว กลับกันได้แล้ว”
“โทษทีนะซึระ แล้วเจอกัน”
ร่างเล็กกำลังจะเอ่ยตอบเพื่อนไปแต่ก็โดนขัดจังหวะด้วยเสียงทุ้มของร่างสูงที่พูดออกมาด้วยเสียงไม่เบานักก่อนจะเดินนำออกไป ทากาสุงิหันไปกล่าวลากับเพื่อนแล้วรีบวิ่งตามร่างสูงไป
คาซึระมองตามหลังทั้งสองคนอย่างหนักใจ มือเรียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วกดโทรออกทันที รอเพียงแค่ไม่กี่อึดใจปลายสายก็กดรับ
“ฮัลโหล ซากาโมโต้”
.
.
.
“กินโทกิ เรากินข้าวกลางวันข้างนอกกันมั้ย”
“.....”
“อ่อ...งั้นไปเดินห้างกันมั้ยเปิดหูเปิดตา”
“.....”
“งั้น....”
“กินข้าวข้างนอก แล้วกลับบ้าน”
ร่างสูงเอ่ยเสียงแข็งแล้วเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นแม้จะไม่มากเพราะยังต้องใช้ไม้ค้ำช่วยเดินอยู่ ร่างเล็กหยุดยืนมองตามแผ่นหลังกว้างอย่างอ้างว้าง เขาได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงดุจึงรีบวิ่งตามไป
ร้านฟาสต์ฟู้ดใกล้ๆกับโรงพยาบาล ทากาสุงิเดินถือถาดอาหารและมองหาที่นั่งให้ตัวเองกับร่างสูงวันนี้คนเยอะจนแทบไม่มีที่นั่งเลย ร่างเล็กรู้สึกถึงเสียงเรียกแผ่วๆที่คุ้นเคยและมองหาต้นเสียง โต๊ะใหญ่ติดกระจกร้านที่มีเพื่อนร่างสูงอย่างฮิจิคาตะนั่งสูบบุหรี่อยู่และเพื่อนรุ่นน้องอย่างโอคิตะที่โบกมือให้เขา ทากาสุงิสะกิดให้ร่าสูงเดินไปนั่งกับทั้งคู่ด้วยกัน
“มาเดทกันเหรอครับ ทากาสุงิ”
“พากินโทกิมาหาหมอน่ะ”
“เห ยังไม่หายอีกเหรอครับลูกพี่”
“.....”
“อะไรกัน วันนี้หยิ่งจังเลยนะ”
โอคิตะเอ่ยทักทายทากาสุงิและหันไปชวนกินโทกิคุย แต่ร่างสูงไม่ยอมตอบและเอาแต่นั่งกินเบอร์เกอร์ของตัวเองนัยน์ตาสีน้ำตาลแดงของเด็กหนุ่มเลื่อนกับมามองร่างเล็กที่ทำได้แค่ยิ้มแหยๆขอโทษกลับมาก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่นแทน
“แล้วพวกนายสองคนมาทำอะไรล่ะ”
“วันนี้คุณคอนโด้ไม่อยู่ คุณฮิจิคาตะเลยพามาเลี้ยงข้าวกลางวันแทน”
“เหรอ ฮิจิคาตะฉันลางานไม่ขึ้นคืนนี้กับคืนพรุ่งนี้นะ”
“รู้แล้วน่า ลางานก็อย่ามัวแต่ดูแลเจ้าหัวหยิกนี่ทั้งวันล่ะ พักผ่อนบ้าง”
“รู้แล้ว ว่าแต่ใครขึ้นเล่นแทนฉันล่ะ”
“โซโกะไง”
“ไว้ใจผมได้เลยครับ ทากาสุงิ”
“งั้นก็คงไว้ใจได้ล่ะนะ”
ร่างเล็กเอ่ยจบประโยคพร้อมๆกับที่กินโทกิลุกขึ้นยืนจากโต๊ะแล้วรีบเดินออกจากร้าน ร่างเล็กก้มหน้าเป็นเชิงบอกขอโทษและลาก่อนพร้อมกับส่งเบอร์เกอร์ส่วนขอตัวเองให้เพื่อนรุ่นน้อง และรีบวิ่งตามร่างสูงที่เดินเร็วๆออกจากร้านไปได้นิดหน่อย
ทั้งฮิจิคาตะและโอคิตะมองตามท่าทีของทั้งสองคนก่อนจะหันมาสนใจของกินตรงหน้าขอตัวเองต่อ มือใหญ่หยิบเบอร์เกอร์ของทากาสุงิที่ทิ้งไว้เมื่อกี้ขึ้นมากินต่อ
“เจ้าโง่ฮิจิคาตะนั่นของผมนะครับ ทากาสุงิเขาบอกให้ผม”
“นายกินไปตั้งเยอะแล้ว อันนี้ให้ฉันเหอะน่า”
“แกคิดจะกวนประสาทกันเหรอ เจ้าโง่ฮิจิคาตะ อุบ!”
“หุบปากซะ”
ฮิจิคาตะหยิบเฟรนฟรายส่วนของตัวเองยัดเข้าปากของรุ่นน้องจอมปากเสียแล้วกลับมานั่งเท้าคางคิดถึงท่าทีของสองคนที่ลุกออกไปเมื่อกี้นี้ เขาสะบัดหัวสองสามทีแล้วรีบยัดเบอร์เกอร์ให้หมดก่อนจะคว้าแก้วน้ำโคล่าขึ้นมาดูดแล้ว
“อ๊ากกกกก เผ็ด ทำไมโคล่ามันถึงเผ็ดได้ฟระ”
“เอ๋ นั่นสินะครับทำไมกันนะ”
ฮิจิคาตะหันมามองรุ่นนี้และเห็นขวดซอสพริกที่ว่างเปล่าตรงหน้า มือใหญ่จับเข้าที่ผมสีอ่อนของอีกฝ่ายแล้วเขย่าไปมา
“โซโกะ แกตายแน่วันนี้”
“ทุกคนคร๊าบ ช่วยด้วยคร๊าบตรงนี้มีคนบ้าอาละวาดอยู่ด้วย”
“หนอย เจ้าบ้า”
สุดท้ายแล้วทั้งสองคนก็ถูกไล่ออกนอกแล้วยืนมองตากันปริบๆเนื่องจากสร้างความวุ่นวายให้กับร้าน
_____________________________________________________________________________________________________
Talk : ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
