ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเนื้อเพลง+ฟังเพลง ของ เพลิน พรหมแดน

    ลำดับตอนที่ #17 : พรรคบังกโลไทย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.17K
      10
      5 ต.ค. 52

    [เพลง] : ผมนายหัวงู ชำนาญงาบ มาไหว้กราบชาวประชา ไม่จำเป็นผมเห็นจะไม่มา อยากเป็นตัวแทนท่านในสภา จึงถ่อกายามาหาเสียงนี่ไง พรรคผมเป็นพรรคใหญ่ ตั้งใหม่ล่ะน้ำดีมีคลัง อยากอยู่ดีและกินดีมีตัง อยากอยู่ดีและกินดีมีตัง พรรคดีทุกอย่างต้องพรรคบังกโล

    [เพลิน] : สวัสดีพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนพ้อง ญาติมิตรทั้งตายายและพี่ทิดพร้อมลุงป้าและอาหลาน สุภาพสตรีสุภาพบุรุษสุภาพตุ๊ดสุภาพกระเทย เลยไปถึงสุภาพเกย์และทอมดี้ ทั้งที่ตายไปหลายปีและที่กำลังจะตาย และที่อยู่ก็อยู่แบบซังกะตาย ท่านที่อยากตายแต่ไม่ตาย และท่านที่กำลังจะฆ่าตัวตาย
    [ชาย 1] : เฮ้ย จะมาหาเสียงหรือมาหาที่ตาย ปัดโธ่ พูดอยู่ได้ มีแต่ตายกับตาย
    [เพลิน] : เอ้า ไม่พูดก็ได้ คือว่ากระผมนายหัวงู ชำนาญงาบ จะมากราบเรียนให้ท่านทราบ มาคำนับให้ท่านเห็น มากล่าวประเด็นให้ท่านดู ว่าในเวลานี้ผมนายหัวงูได้ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่แล้ว เพื่อรับใช้ชาติและประชาชน รับใช้ชาวบ้านทุกคนทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นกรรมกรชาวไร่ชาวนาชาวป่าชาวสวน พ่อค้าข้าราชการทั้งมวลบริษัทหุ้นส่วนชาวเขาล้วนๆ ครบถ้วนไปจนถึงกลุ่มประชาชาวไฮโซ พรรคของผมชื่อพรรคบังกโล ชาวประชาจะสุขโขไม่ตรมตรอมผอมโซถ้าเลือกพรรคบังกโลเป็นรัฐบาล ค่าครองชีพจะต่ำศูนย์ ราคาหุ้นจะสูงปรี๊ด เศรษฐกิจจะเบิกบาน ทำงานไม่โหลยโท่ย โจรขโมยจะหดหัว แย่งเงินเข้าประเทศอาจช้าไม่ทันเขา แต่แย่งเงินเข้ากระเป๋ารับรองชัวร์
    [ชาย 2] : เข้ากระเป๋าใครล่ะน่ะ
    [เพลิน] : ของข่อยเอง
    [ชาย 1] : นี่ นายหัวงู ทำไมตั้งชื่อพรรคว่าพรรคบังกโล
    [เพลิน] : เพราะว่าผมจะทำอะไรก็ทำกันในบังกโล เช่น วางแผงหลบภัย ตั้งกลุ่มประชุมพรรค พูดชี้แจง แถลงนโยบาย ให้สัมภาษณ์ วิเคราะห์เหตุการณ์ กินอาหารทานกาแฟ มีปัญหาเหมือนลิงแก้แห  เราจะทำเราจะแก้กันในบังกโล
    [ชาย 3] : แก้อะไรในบังกโล
    [เพลิน] : แก้ปัญหาน่ะสิ เอ้อ สงสัยไปได้ และที่ดีที่สุดก็คือ ถ้าพรรคผมได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อเกิดการแตกแยกขัดแย้งกันขึ้นมาสร้างปัญหาไม่รู้จบพบทางตัน เราก็จะยุบทันทีไม่ต้องให้มีใครมาไล่
    [ชาย 2] : ยุบสภาน่ะเรอะ
    [เพลิน] : ยุบบังกโล
    [ชาย 1] : โหย ยิ่งฟังยิ่งมั่ว แล้วมันจะอยู่กันได้ยังไง
    [เพลิน] : เอ้า ก็อยู่กันแบบที่เคยอยู่ๆกันมาน่ะสิ
    [ชาย 1] : เออ จะได้ไม่ต้องเปลืองงบประมาณเลือกตั้งบ่อยๆ เอาคะแนนนิยมไปเลย!!

    [เพลง] : แผนงานของเราก็สวยสด หมดจดกล้าเอามาโชว์ ไม่โกงกินปลิ้นปล้อนใหญ่โต เหล่าประชาทั่วหน้าไม่อดโซ ยึดมั่นมโนฟังเสียงมหาชน พี่น้องทุกตำบล ผู้คนล่ะแสนชื่นคืนวัน ไม่โลเลโอ้เอ้ดักดาน ไม่โลเลโอ้เอ้ดักดาน ให้คนประจานเสียบานตะไท

    [ชาย 1] : นี่ นายหัวงู ชำนาญงาบ พรรคบังกโลมีแนวความคิดหรือคติคำขวัญประจำพรรคยังไงบ้าง
    [เพลิน] : คำขวัญสำหรับพรรคบังกโลไทยของผมมีดังนี้ มองการไกล เร่งแก้ไขปัญหา กล้าตัดสินใจ ทำอะไรต้องเสร็จ ต้านเผด็จการ ผลาญอิทธิพล ประชาชนคือเจ้านาย มีเรื่องวุ่นวายต้องสยบ เคารพกติกา ไม่ทำงานเอาหน้า และไม่บ้าอำนาจ ชนในชาติต้องแช่มชื่น ไม่ทำตัวให้เหม็นหืน ไม่ข่มขืนมติมหาชน ทั้งไม่กิน ไม่โกง ไม่หลงกำพืด ไม่พูดตวัสสัต ไม่ขาดประชุม ไม่อุ้มคนผิด ไม่ยึดติดตำแหน่ง ไม่แย่งเก้าอี้ ไม่หนีปัญหา พัฒนาเต็มกระบอกสูบ ปฏิรูปการเมือง ชาวบ้านรุ่งเรืองชาวเมืองสิ้นเคราะห์ กระเพราะไม่อดยาก ปราศจากเสียงโอดครวญ จะชื่นชวนต่อเสียงเสียงคราง เพราะเสียงโอดครวญน่ะอดสูไม่รื่นหูเหมือนเสียงคราง เสียงครวญหรือจะสู้เสียงคราง เสียงครวญหรือจะสู้เสียงคราง เสียงครวญหรือจะสู้เสียงคราง...
    [ชาย 1] : โว้ย จะมาแถลงนโยบายหรือจะมาขยายเสียงครางกันแน่เนี่ย หึ?
    [เพลิน] : โอ่ ไม่รู้อะไรมีปัญหากลัดกลุ้มน้อยใหญ่ทุกข์ยากขนาดไหนแก้ได้ด้วยเสียงครางทั้งนั้นแหละ
    [ชาย 4] : มันจะแก้ได้ยังไง พิเรนท์คนจริงๆ
    [เพลิน] : เอ่า ฟังให้ดีนะ เสียงครวญมันชวนให้สมเพศ เสียงครางมีฤทธิ์เดทให้เคลิ้มฝัน เสียงครวญชวนเกิดทุกข์สารพัน เสียงครางนั้นดับทุกข์พลันได้ทันใจ เอ้า ลองว่าพร้อมๆกันสิ
    [ทุกคน] : เสียงครวญหรือจะสู้เสียงคราง เสียงครวญหรือจะสู้เสียงคราง โอ.. เสียงครวญหรือจะสู้เสียงคราง.. วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
    [ชาย 1] : มันดีเหมือนกันวะ เอาคะแนนนิยมไปเลย!!

    [เพลง] : นโยบายเราก็เลอเลิศ บรรเจิดกว่าพรรคใดๆ โปรดจงฟังพร้อมกันละตั้งใจ ผมจะมาชี้แจงจะระไน ให้เข้าใจถ่องแท้แน่จริง กระผมจะทำทุกสิ่ง เรื่องจริงใช่อิงนิยาย เงินจะวนและหมุนเวียนมากมาย เงินจะวนและหมุนเวียนมากมาย รับรองสบายกันทุกรายแน่นอน

    [เพลิน] : ถ้าพรรคบังกโลของผมได้โผล่เข้าไปเป็นรัฐบาล จะกระจายทั้งเงินทั้งงาน ให้เบิกบานไปทุกจังหวัด สะพัดไปทุกอำเภอ ฟุ้งเฟ้อไปทุกตำบล อึงวนไปทุกหมู่บ้าน ไหลทะยานเข้ากระเป๋าพวกเราทุกคน
    [ชาย 1] : นี่ นายหัวงู เห็นมามากมายหลายคน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ก่อนจะเข้าไปเป็นใหญ่เป็นโต ก็พูดจาปราศัยจาระไนสะเพราะพริ้ง พอได้เข้าไปเป็นจริงๆ ทุกสิ่งก็เงียบเหมือนเป่าสาก เขาเรียกผลงานไม่มีดีแต่คุย
    [เพลิน] : แต่พี่น้องโปรดเชื่อผม ผมจะแจงให้ดู นายหัวงูทำได้ยังไง
    [ชาย 2] : งั้นลองขยายให้ฟังหน่อยเอ้า
    [เพลิน] : เรามีนโยบายพิเศษสุดคือจัดระบบเขตปลอดความจนขึ้นโดยการออกหัวเสริมเพิ่มสนามม้า
    [ชาย 3] : โว้ย แค่ทุกวันนี้หน้ามันจะมืดตายอยู่แล้ว
    [เพลิน] : ถ้าทำตามผมหน้าจะหายมืดทันที
    [ชาย 1] : เอ้า ไหนลองเรื่องหวยหน่อยสิ
    [เพลิน] : เราจะออกหัวทุกวันไม่มีหยุด เพิ่มรางวัลเข้าไป ซื้อวันนี้ไม่ถูกพรุ่งนี้ก็แทงต่อ พรุ่งนี้ไม่หยุดก็มะรืนก็แทงต่อ เรื่องอะไรจะอั้นแค่สองวันต่อหนึ่งเดือน แล้วก็เอาเงินนั้นผันไปช่วยจังหวัดอำเภอตำบลหมู่บ้านเวียนกันได้สบายแฮ เหมือนเล่นแชร์กันทั้งประเทศ
    [ชาย 1] : เข้าท่าๆ นายหัวงู ชำนาญงาบ เชิญมาคาบเอาคะแนนไปเลย

    [เพลง] : ผมนายหัวงู ชำนาญงาบ มาไหว้กราบเชิงวิงวอน ไม่จำเป็นล่ะผมไม่มาแน่นอน อยากนั่งสภาผมจึงมาอ้อนวอน ดั้นด้นตะลอนมาหาเสียงทุกวัน พรรคผมจะรับใช้ท่าน ด้วยใจล่ะมั่นคงจริงจังอยากสบายล่ะโชคช่วยรวยตัง  อยากสบายล่ะโชคช่วยรวยตัง เลือกพรรคตัวอย่างพรรคบังกโล

    [เพลิน] : เราจะสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล สระว่ายน้ำ สนามกีฬา ไฟฟ้าประปาโทรศัพท์ รวมทั้งถนนชั้นดีไปทุกตำบลหมู่บ้าน กรรมกรชาวไร่ชาวนาชาวสวนจะให้อยู่ทาว์นเฮาส์ ชาวป่าชาวดอยชาวเขาจะให้อยู่คอนโด
    [ชาย 2] : อูย อยู่ฟรีนี่น่ะเหรอ
    [เพลิน] : ฟรีนี่แหละ
    [ชาย 1] : จะเอาเงินที่ไหนมาสร้าง กู้ต่างประเทศอีกล่ะสิ
    [เพลิน] : ไม่ต้องกู้ใครที่ไหนหรอก ผมจะออกกฏหมายใหม่และมีผลบังคับใช้ทันที เราเรียกกฏหมายนี้ใหม่ว่า กฏหมายภาษีมูลค่างาบ
    [ชาย 2] : อืม เขามีแต่มูลค่าเพิ่ม
    [เพลิน] : มูลค่านี่ต่างหากไม่เหมือนกัน
    [ชาย 3] : มันเป็นจังได๋ ภาษีมูลค่างาบนี่แนะ
    [เพลิน] : ภาษีมูลค่างาบหรือเรียกสั้นๆว่างับ ก็คือ เมื่อประชาชนซื้อขายอะไรก็ตามทีต้องเสียเงินเพิ่มสิบเปอร์เซนต์ทันที เช่น ซื้อแก้วแหวนเงินทองราคาหนึ่งหมื่นบาท ต้องเสียภาษีมูลค่างาบหรืองับทันทีหนึ่งพันบาท ซื้อรถราคาหนึ่งล้านบาท ต้องเสียภาษีมูลค่างาบหรืองับอีกหนึ่งแสนบาท
    [ชาย 1] : เอ้า แล้วเวลาเอาเงินไปฝากธนาคารหนึ่งแสนบาทล่ะ จะต้องเสียค่าภาษีมูลค่างาบหรืองับด้วยหรือเปล่า
    [เพลิน] : ต้องเสียอีกหนึ่งหมื่นบาท
    [ชาย 2] : แล้วเวลาจะถอนเงินจากธนาคารหนึ่งแสนบาทล่ะ
    [เพลิน] : ก็ต้องเสียภาษีมูลค่างาบหรืองับอีกหนึ่งหมื่นบาท
    [ชาย 3] : โอย งาบถึงขนาดนั้นเชียวเรอะ
    [เพลิน] : ใช่แล้ว รวมความแล้วก็คือ ซื้อหรือขายให้หรือรับฝากหรือถอน ต้องเสียภาษีมูลค่างาบหรืองับทุกครั้งไป
    [ชาย 1] : งาบทุกอย่างว่างั้นเถอะ
    [เพลิน] : ช่าย
    [ชาย 1] : โหย น่าศรัทธาเลื่อมใส ถ้าได้เป็นผู้นำเมื่อไหร่นะ รับรองจะไปไหนมาไหนประชาชนจะลุมล้อม
    [เพลิน] : แน่นอน ต้องแห่หุ้มลุมล้อมเพราะเป็นขวัญใจของประชาชนเรอะ
    [ชาย 1] : เปล่า ลุมล้อมเพื่อลงประชาฑันท์ เพราะมันเป็นศัตรูของประชาชน ไอ้บ้า งาบไปทุกเรื่องเชียว
    [เพลิน] : โห่ ไม่ได้งาบเพื่อตัวเองสักหน่อย งาบเพื่อชาติแท้ๆ ฮิฮิฮิ งับงับงับ
    [ชาย 2] : แน่ะ ยังหันมางับอีก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×