ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [W.] Chapter 3 --- Spread
แต่ตอนนี้เขาเป็นคนของเคอัสโดยตรง หากโดนขุนนางกลั่นแกล้งก็มาฟ้องร้องเขาได้เลย ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเยอะ
แต่เขาก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบอะไรนักหนา แถมมีแววว่าจะถูกเหม็นขี้หน้ามากกว่าเสียอีก
องค์ประมุขทรงประชวรหนักมาก เขาเลยไม่อยากสร้างปัญหาอะไรมากนัก จึงยอมทนนิ่งอยู่
" ช่วงนี้ฉันได้ข่าวว่า พวกขุนนางชั้นสูงวางแผนจะฆ่าฉันหรอ? " เคอัสถามขึ้นด้วยสีหน้าข่มอารมณ์โกรธที่กำลังพลุพล่าน พยายามไม่ให้เอาความโกรธไปลงที่พวกลูกน้องของตน
" ใช่แล้วขอรับ พวกมันคงคิดว่าหากหลานชายของท่านได้ขึ้นเป็นใหญ่ อำนาจของพวกมันคงจะหายไป เลยคิดกำจัดท่านครับ " สตีเฟ่นกล่าวอธิบาย
" ฮึ่ม.. งั้นฉันจะฆ่าพวกมัน "
" เดี๋ยวก่อนขอรับ " ออสตินทักขึ้น ทุกคนในที่ประชุมชะงัก แล้วหันมองเขาช้าๆ
" มีอะไร? " เคอัสกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์นัก.. เช่นเคย
" ท่านต้องวางแผนให้รอบคอบก่อนนะขอรับ เพราะคนของพวกขุนนางนั้นก็มีมาก หากไม่วางแผนให้รอบคอบ อาจถึงตายได้เลยนะขอรับ "
" หึ.. เป็นแค่ผู้น้อย บังอาจมาอวดรู้มากกว่าฉันได้ยังไงกัน? "
" !? " ออสรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา และพยายามเก็บอารมณ์โกรธ ของตนเอาไว้ภายใต้สีหน้าตกใจ
ก่อนที่เคอัสจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ก็มีขุนนางนายหนึ่งวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในที่ประชุม
" ย.. แย่แล้วขอรับ! องค์ประมุข.. องค์ประมุขสวรรคตแล้วขอรับ!! "
" ว่าไงนะ?! " ที่ประชุมตอบรับกันเป็นเสียงเดียวพลางมองหน้ากันเอง
" ... ถ้าเช่นนั้น เราควรแต่งตั้งองค์ประมุของค์ใหม่เสียก่อน พวกขุนนางชั้นสูงจะต้องมาร่วมงานอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นค่อยจัดการพวกมันก็ยังไม่สายนะขอรับ " ออสตินเสนอ ทำให้เคอัสมองด้วยสีหน้าไม่พอใจมากกว่าเดิม
ฉลาดนักนะหมอนี่...
" ใครจะเข้าไปในวังกับฉันบ้าง? "
" ผมเองขอรับ! " สตีเฟ่นกล่าวขึ้น พลางกระชับดาบที่เอว ทุกๆคนก็เช่นกัน
" ดี! เราจะแต่งตั้งองค์ประมุขและจัดการพวกขุนนางชั้นสูงที่มันใช้อำนาจในทางที่ผิดกัน!! " เคอัสกล่าวและเดินนำไปที่วังหลวงทันที
" ฆ่าพวกมันให้หมด!! "
สิ้นเสียงของสตีเฟ่น เหล่าทหารที่ติดตามก็พากันกรูเข้าไปหาเป้าหมายที่ปลายดาบของชายหนุ่มเบนไปหาทันที ขุนนางชั้นสูงคนหนึ่งวิ่งหนีสุดชีวิต
หลังจากหาที่หลบซ่อนได้แล้ว เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้เขารู้สึกไม่ดีชอบกล
" ทำงานผิดพลาด "
" หา? "
ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นขุนนางรุ่นเดียวกับเขาที่รวมกลุ่มกันกุมอำนาจทั้งหมดไว้ในมือและรีดไถประชาชนตาดำๆ ที่ไม่มีอันจะกิน แต่พวกเขาสนใจเรื่องปากท้องของตัวเองมากกว่าคนในประเทศอยู่แล้ว
ร่างสูงมองขุนนางคนที่กำลังหอบถี่เนื่องจากอายุเริ่มมาก(?)และวิ่งหนีมาสุดชีวิตด้วยสายตาเฉยชา พลางเงื้อมีดสั้นที่เก็บซ่อนเอาไว้และแทงเข้าไปที่ร่างกายของเพื่อนอย่างแรงจนร่างของขุนนางคนนั้นสิ้นใจตายทันที เขาปล่อยร่างของเพื่อนที่ไร้ลมหายใจแล้วอย่างไร้ความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น เขาเช็ดเลือดที่เปื้อนดาบด้วยสีหน้าเฉื่อยชา
" หึ.. เพราะแก.. งานเลยผิดพลาดไปหมด "
เขาพูดพลางเหยียดยิ้มแบบไร้อารมณ์พลางเดินกลับเข้าฐาน(?)ของตนและพรรคพวก
" ขุนนางชั่วถูกฆ่าตายโดยไม่ทราบสาเหตุไป 1 รายขอรับ " สตีเฟ่นรายงานให้เคอัสฟัง เคอัสจึงพยักหน้ารับ
เป็นเพราะพวกมันเองนั่นแหล่ะ.. ออสตินแอบแย้งในใจ
" แต่ใช่ว่าเหลือแค่ 9 ตัวแล้วอำนาจมันจะลดลงไปซะหน่อยนี่ขอรับ เราควรจะถอนรากถอนโคนมันเลยนะขอรับ " ออสเสนอ นั่นทำให้เคอัสรู้สึกไม่พอใจมาก
" เฮ้อ.. แผนมันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปซี่-- นายจะรีบร้อนไปถึงไหนเฮอะ? "
ออสเบะปากเล็กน้อยเพียงเสี้ยวเดียว ก่อนเคอัสจะได้ทันสังเกตเห็น
สาบานได้ว่าสตีเฟ่นแอบหัวเราะเขาอยู่นิดๆ...
" งั้นเอาอย่างนี้ดีมั้ยล่ะขอรับ เราก็.. เขียนสาส์นเชิญหัวเมืองต่างๆให้เข้าวังดีมั้ยล่ะขอรับ? " สตีเฟ่นเสนอ เคอัสก็ดูเหมือนจะเออออไปด้วย ออสตินเห็นท่าไม่ดีจึงรีบท้วง
" ไม่ได้นะขอรับ! เรายังไม่ทราบจุดประสงค์ของหัวเมืองต่างๆ หากเราเชิญเข้ามา แล้วมีคนที่ต้องการกุมอำนาจองค์จักรพรรดิก็เท่ากับว่าพวกเรา-- "
เขาพูดยังไม่ทันจบดี เคอัสก็รีบขัดทันที
" ดีเลยสตีเฟ่น งั้นฉันจะทูลองค์จักรพรรดิให้เชิญหัวเมืองต่างๆมาแล้วกันนะ "
" รับทราบขอรับ "
ออสตินได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ แข็งทื่อเป็นเห็น แต่ตายังคงมองสตีเฟ่นที่ลอบยิ้มเยาะใส่เขา มองเคอัสที่เดินจากเขาไปอย่างไม่แยแส ปล่อยให้ทั้ง 2 คนเดินจากไปโดยที่ไม่มีสิทธิ์ทักถ้วงอะไรได้เลย
สตีเฟ่น... นายกำลังคิดอะไรอยู่นะ? ... นายกำลังชักข้าศึกเข้าบ้านอยู่ รู้ตัวรึเปล่า?!
" เจ้าขุนนางชั่วก็ตายไปหนึ่ง .. เหลืออีก 9 ตัว.. "
ออสตินกล่าวขึ้นให้เซฟิรัสฟังหลังจากเดินทางกลับที่พักของตน
" แต่ตายไป 1 มันก็ไม่ได้หมายความว่าบ้านเมืองจะสงบสุขหรอก " เซฟิรัสแย้งขึ้น
" ก็ใช่... นายพูดถูก "
" .... "
" แต่สิ่งที่แย่ที่สุดไม่ใช่สิ่งนั้นน่ะสิ "
" ...มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกล่ะ? "
" หึ... จะอะไรอีกเล่า.. ก็เจ้าสตีเฟ่นงี่เง่าน่ะสิ เสนอให้เชิญหัวเมืองต่างๆเข้าวัง.. 1 ในนั้นต้องมีกลอราซอยู่ด้วยแน่ๆ.. "
" กลอราซ? "
" นายไม่รู้จักเขาหรอก รายนี้น่ะ โหดร้ายจะตายไป ฉันได้ข่าวมาว่าเจ้านั่นอยากได้อำนาจขององค์กษัตริย์มาไว้ในครอบครองนานแล้ว.. "
" แบบนี้ก็แย่เลยสินะ.. "
" ก็ใช่น่ะสิ.. "
พวกเขานั่งนิ่งกัน ต่างคนต่างใช้ความคิดของตนเอง แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะการใช้ความคิดของทั้งสอง
" นั่นแน่!! ทำอะไรกันอยู่คร้าบบบ? "
เซฟิรัสถึงกับกลอกตาทันทีที่เห็นหน้าของเจ้าของเสียง เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างเล็กผู้มีเรือนผมสีดำ ดวงตาสีทองเหมือนพี่ชายกวาดตามองรอบห้องของออสอย่างตื่นเต้น อย่างกับเด็กอนุบาลที่มาทัศนศึกษานอกโรงเรียนครั้งแรกอย่างไรอย่างนั้น
" อื้อหืออ... บรรยากาศมาคุนี่มันอะไรกันครับเนี่ย? หรือว่าพี่สองคนจะงอนกันฉันสามีกับภรร--- "
ผั้วะ!
เซฟิรัสที่นั่งฟังอยู่ถึงกับรีบวาร์ป(?)ไปต่อยเซนเดอร์ เซียเอนอร์ ผู้เป็นน้องชายแท้ๆของตนก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค
ออสตินลอบขำเล็กๆ ก่อนจะดึงสติตัวเองกลับมาให้อยู่ในท่าทางปกติ
เราก็ลืมไปเลยว่าเซนเดอร์เข้ามาทำงานแล้ว..
" พี่เซฟี่ตบผมหรอ!? โหดร้ายที่สุด!! "
เซนแกล้งทำเป็นล้มลงไปนอนมือลูบหน้า ทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุด เหมือนนางเอกละครที่เขาเคยดู แต่มันกลับทำให้เซฟไล่กระทืบเซนไปจนถึงประตูใหญ่ของที่พัก
ออสตินที่ทนไม่ไหวนั้นถึงกับระเบิดหัวเราะออกมา เขารู้สึกดีขึ้นมากจนลืมเรื่องที่คิดไปเมื่อครู่ไปเลย คงต้องไปขอบใจเซนเดอร์เป็นการใหญ่เลยทีเดียว
" ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วแฮะ.. พวกขุนนางชั้นสูงมันเหมือนจะยิ่งได้ใจที่พวกเราไม่ได้วางแผนกำจัดมัน มันคงคิดว่าพวกเราเกรงกลัวต่ออำนาจพวกนั้น... ฉันว่าพวกเราควรจะทำอะไรซักอย่าง " ขุนนางนายหนึ่งได้เสนอขึ้น งานนี้พวกเขาประชุมกันเองโดยลับๆ และไม่ได้เชิญเคอัสกับสตีเฟ่นเข้ามาด้วย
" ผมก็คิดแบบนั้น.. แต่เค... ท่านเคอัสน่ะ ไม่ฟังอะไรเลยน่ะสิ.. " ออสตินกล่าวแบบน้อยใจนิดๆ
" แหม.. ก็ท่านยังหนุ่มยังแน่น.. พวกอาวุโสน่ะ เขาไม่ค่อยฟังคนน้อยกันหรอกนะ " บัณฑิตหนุ่มรายหนึ่งกล่าวเชิงเข้าใจดี
" แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกขุนนางจะกำเริบและอาจจะเป็นผลร้ายก็ได้นา.. "
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของบัณฑิตหนุ่มคนนี้ ออสตินก็เข้าใจ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากนั่งพยักหน้าอย่างเดียว
" อีกไม่นานพวกขุนนางชั้นสูงพวกนั้นต้องรู้แน่ๆว่าท่านเคอัส-- "
" รายงานสถานการณ์ครับ! "
ขุนนางท่านหนึ่งยังไม่ทันพูดจบดีก็มีทหารสังเกตการณ์นายหนึ่งวิ่งเข้ามาในที่ประชุม แต่ก็เป็นอันเข้าใจดีว่าหากปล่อยไว้ต่อไปจะเป็นอันตรายต่อตัวเคอัสเอง
" มีอะไรก็ว่ามา.. " เขากล่าวอย่างใจเย็นและไม่โกรธที่ถูกขัดจังหวะ
" พระนางอัลริน เรียกท่านเคอัสเข้าพบครับ! "
" ว่าไงนะ? / อะไรนะ? " ออสตินกับบัณฑิตหนุ่มคนนั้นกล่าวขึ้นพร้อมกัน ที่ประชุมหันมองพวกเขา และพวกเขาก็มองหน้ากันเอง
" มีอะไรงั้นหรือ? " ขุนนางที่โดนขัดจังหวะกล่าวขึ้นอย่างช้าๆ .. เขาช่างใจเย็นได้ทุกสถานการณ์จริงๆ
" นี่ต้องเป็นแผนแน่ๆ ขอรับ " บัณฑิตคนนั้นกล่าว เขามีความคิดแบบเดียวกับออสตินในขณะนี้
ไหวพริบเป็นเลิศจริงๆ .. ออสตินแอบชมในใจ
" แบบนี้แสดงว่าพวกขุนนางไหวตัวทันแล้วแน่ๆขอรับ เลยใช้ชื่อพระนางอัลรินเรียกตัวท่านเคอัสเข้าพระตำหนัก ... ท่านเคอัสยิ่งกลัวอำนาจของพระนางอัลรินอยู่ด้วย " ออสเสริม
" งั้นเราจะรออะไรกันอยู่ล่ะ รีบไปกันเถอะ "
เมื่อพวกเขาไปถึงแล้ว ก็เห็นว่าสตีเฟ่นกำลังขัดขวางเคอัสอยู่
" ไปไม่ได้นะขอรับ! นี่อาจะเป็นแผนของพวกขุนนางก็ได้ "
" เอาน่า... อย่าขวางฉันเลย นายก็รู้ถ้าฉันโมโหขึ้นมาจะเป็นยังไง.. "
นายสตีเฟ่นนี่.. ฉลาดเป็นกับเขาด้วยหรอ?
" ต.. แต่ว่า... "
" งั้นให้พวกกระผมไปกับท่านได้มั้ยครับ? "
ออสตินกล่าวโผล่งขึ้นมา เคอัสหันขวับมาทางต้นเสียงทันที
เขาดูลังเลใจ
" ก็ดีนะครับ เผื่อเกิดอะไรขึ้น พวกผมจะได้เข้าไปแก้สถานการณ์ทันครับ "
สตีเฟ่นก็เองก็ช่วยเสริมอีกแรงเช่นกัน หากเป็นตัวชายคนนี้พูดเอง เคอัสจะต้องยอมฟังอยู่แล้ว
" เอางั้นก็ได้ งั้นพวกนายตามฉันมา "
ในที่สุดเคอัสก็อนุญาต พวกเขาไม่รอช้ารีบเดินทางตามเคอัสไปทันที
แต่พอไปถึงประตูพระตำหนัก กลับมีขุนนางชั้นสูงนายหนึ่งออกมาต้อนรับ และอนุญาตให้เคอัสเข้าไปได้แค่คนเดียวเท่านั้น และห้ามพกอาวุธเข้าไป
" นี่มันอะไรกัน?! " สตีเฟ่นกล่าวอย่างไม่พอใจ
" ต้องเป็นแผนลอบสังหารแน่ๆครับ! ท่านอย่าเข้าไปเลยนะครับ "
" เอาน่า.. พระนางอาจจะอยากพบฉันเป็นการส่วนตัว.. แล้วก็.. เขตพระราชตำหนักก็ห้ามพกอาวุธอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? " เคอัสแย้งขึ้นมาแทบจะในทันที
" แต่ปกติท่านก็พกนี่ครับ? " ออสตินกล่าวขึ้น ทำให้การคิดว่า การเรียกพบในครั้งนี้เป็นแผนลอบฆ่า ฟังดูน้ำหนักมากขึ้น
" เออๆ ช่างเถอะน่า.. ฉันไปก่อนแล้วกัน "
แต่คนอย่างเคอัสฟังใครง่ายๆเสียที่ไหน เขาเดินดุ่ยๆเข้าพระตำหนักไปโดยไม่ฟังคำทักท้วงใดๆทั้งสิ้น
...
จนกระทั่งสิ่งที่ทุกคนกังวลก็เกิดขึ้น เมื่อเคอัสเข้าไปนานเกินไปและมีเสียงดาบฟันอะไรซักอย่างดังขึ้น ถึงจะแผ่วมากจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็มั่นใจได้ว่าเป็นเสียงดาบปะทะเข้ากับเนื้อคนแน่นอน
" นี่เจ้าพวกโง่ทั้งหลายเอ๋ย "
เสียงแหบๆ ที่ดังก้องมาจากด้านบนทำให้ทุกคนรู้สึกหวั่นใจ ยิ่งพอเงยหน้าไปดูคนที่อยู่บนกำแพงประตูตำหนักแล้วยิ่งมั่นใจว่า เคอัสไม่รอดแน่นอน..
" แก!! "
" ตะโกนเรียกทำไม? หืม? แล้วอีกอย่าง.. ฉันไม่ได้ชื่อ ' แก ' ซักหน่อย "
" ท่านเคอัสอยู่ไหน?! "
" เคอัส? หึหึๆ.. อยู่ไหนน่ะหรอ? "
ฟิ้ว..
ตุ้บ..
เสียงของวัตถุทรงกลมตกลงมาในแนวดิ่งผ่านอากาศจนเกิดเสียง และตกลงมากระทบพื้น.. ยิ่งเห็นเรือนผมสีส้มอมแดง และนัยน์ตาสีแดงฉานที่เหลือกไปด้านบนจนสุด ยิ่งแน่ใจว่านี่คือเคอัสแน่นอน
" !!!! "
" เอาละ.. ถ้าพวกแกยอมแพ้ซะเดี๋ยวนี้ ฉันจะไว้ชีวิตพวกแก และลืมสิ่งที่แก แก แกๆๆ ทั้งหลายได้เคยกระทำกับพวกฉัน "
" จะบ้ารึ!? ใครจะยอมก้มหัวให้กับคนที่กำลังจะหมดบุญวาสนาในวันนี้กัน?! ทหารทั้งหลาย เข้าไปจัดการมันเลย!!! "
สิ้นเสียงที่ชายผมขาวตะโกนลั่น พวกทหารที่ซ่อนอยู่ก็กรูเข้าไปหน้าประตูโดยที่พวกทหารด้านในไม่สามารถต้านอยู่ และเนื่องจากมีกำลังน้อยกว่ามาก จึงต้านเอาไว้ไม่อยู่ ขุนนางบางคนที่อยู่ด้านล่างก็พลอยโดนจัดการไปด้วย
แต่พอขึ้นไปดูด้านบน ขุนนางชั่วที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลับไม่อยู่ให้ฆ่าเสียแล้ว..
" พวกมันต้องไปลักพาองค์จักรพรรดิแน่ๆ พวกเรารีบไปกันเร็ว " ออสตินรีบตะโกนลั่น พลางวิ่งนำหน้าไปอย่างรวดเร็ว
...
แต่เมื่อมาถึง กลับพบแต่เพียงพระนางอัลรินที่นั่งกรรแสงด้วยความผวา และมีขุนนางนายหนึ่งกำลังปลอบขวัญอยู่
" เกิดอะไรขึ้นขอรับ? " ออสตินถามออกไปอย่างรวดเร็ว ขุนนางคนนั้นหันมองและเล่าเรื่องราวให้ฟัง
" พวกขุนนางชั่วมันคิดจะลักพาพระนางน่ะสิ.. พระนางอุส่าห์เลี้ยงดู ตอบแทนที่พวกมันเชิดชูให้พระนางกับพี่ชายได้ขึ้นมาเป็นใหญ่ แต่ันกลับใช้ถ้อยคำรุนแรงและใช้กำลังกับพระนาง กระนางจึงเกิดอาการขวัญผวาน่ะสิ.. "
" ลูกฉัน.. องค์จักรพรรดิ.. รีบไปพาเขากลับมาให้ได้นะ! หากไม่มีลูกฉันอยู่ด้วย... ฉันก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมแล้ว... "
พระนางอัลรินเงยหน้าขึ้นมาและกล่าวกับออสตินด้วยสีหน้าแห่งความหวัง น้ำตาของพระนางทำให้เขาไม่กล้าปฏิเสธ
แม้แต่ขวัญผวา พระนางก็ห่วงลูกยิ่งกว่าสิ่งใด นี่หรอความรักของคนเป็นแม่น่ะ?...
เขาคิดในใจ ก่อนจะรีบเปลี่ยสีหน้าจากเห็นใจเป็นจริงจัง และกล่าวขึ้นมาเป็นคำสัญญา
" ขอรับ.. ต่อให้กระผมต้องตาย ก็จะพาองค์จักรพรรดิกลับมาให้ได้ขอรับ... "
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น