ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Survive from the Darkness

    ลำดับตอนที่ #5 : [W.] Chapter 3 --- Spread

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 62


                             
                     หลังจากที่ลาออกไป 1 ปี ออสตินกับสตีเฟ่นก็ถูกอิลลิธิออส หรือเคอัส เรียกกลับมาทำงาน เพราะตำแหน่งว่าง บวกกับออสตินเป็นคนเคร่งครัด ทำงานแทบจะไม่เคยผิดพลาด ส่วนสตีเฟ่น.. ถูกเรียกมาแบบไม่ทราบเหตุผล ตัวเขาเองก็งงๆเหมือนกัน เพราะไม่อยากกลับไปทำงาน แต่เป็นการเรียกตัวไปทำงาน หากไม่ไปก็เท่ากับว่าขัดคำสั่ง
                   แต่ตอนนี้เขาเป็นคนของเคอัสโดยตรง หากโดนขุนนางกลั่นแกล้งก็มาฟ้องร้องเขาได้เลย ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเยอะ

                   แต่เขาก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบอะไรนักหนา แถมมีแววว่าจะถูกเหม็นขี้หน้ามากกว่าเสียอีก
                   องค์ประมุขทรงประชวรหนักมาก เขาเลยไม่อยากสร้างปัญหาอะไรมากนัก จึงยอมทนนิ่งอยู่
                   
                   " ช่วงนี้ฉันได้ข่าวว่า พวกขุนนางชั้นสูงวางแผนจะฆ่าฉันหรอ? " เคอัสถามขึ้นด้วยสีหน้าข่มอารมณ์โกรธที่กำลังพลุพล่าน พยายามไม่ให้เอาความโกรธไปลงที่พวกลูกน้องของตน
                   " ใช่แล้วขอรับ พวกมันคงคิดว่าหากหลานชายของท่านได้ขึ้นเป็นใหญ่ อำนาจของพวกมันคงจะหายไป เลยคิดกำจัดท่านครับ " สตีเฟ่นกล่าวอธิบาย
                   " ฮึ่ม.. งั้นฉันจะฆ่าพวกมัน "
                   " เดี๋ยวก่อนขอรับ " ออสตินทักขึ้น ทุกคนในที่ประชุมชะงัก แล้วหันมองเขาช้าๆ
                   " มีอะไร? " เคอัสกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์นัก.. เช่นเคย
                   " ท่านต้องวางแผนให้รอบคอบก่อนนะขอรับ เพราะคนของพวกขุนนางนั้นก็มีมาก หากไม่วางแผนให้รอบคอบ อาจถึงตายได้เลยนะขอรับ "
                   " หึ.. เป็นแค่ผู้น้อย บังอาจมาอวดรู้มากกว่าฉันได้ยังไงกัน? "
                   " !? " ออสรู้สึกไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา และพยายามเก็บอารมณ์โกรธ ของตนเอาไว้ภายใต้สีหน้าตกใจ

                   ก่อนที่เคอัสจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ก็มีขุนนางนายหนึ่งวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในที่ประชุม

                   " ย.. แย่แล้วขอรับ! องค์ประมุข.. องค์ประมุขสวรรคตแล้วขอรับ!! "
                   " ว่าไงนะ?! " ที่ประชุมตอบรับกันเป็นเสียงเดียวพลางมองหน้ากันเอง
                   " ... ถ้าเช่นนั้น เราควรแต่งตั้งองค์ประมุของค์ใหม่เสียก่อน พวกขุนนางชั้นสูงจะต้องมาร่วมงานอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นค่อยจัดการพวกมันก็ยังไม่สายนะขอรับ " ออสตินเสนอ ทำให้เคอัสมองด้วยสีหน้าไม่พอใจมากกว่าเดิม

                   ฉลาดนักนะหมอนี่...

                   " ใครจะเข้าไปในวังกับฉันบ้าง? "
                   " ผมเองขอรับ! " สตีเฟ่นกล่าวขึ้น พลางกระชับดาบที่เอว ทุกๆคนก็เช่นกัน
                   " ดี! เราจะแต่งตั้งองค์ประมุขและจัดการพวกขุนนางชั้นสูงที่มันใช้อำนาจในทางที่ผิดกัน!! " เคอัสกล่าวและเดินนำไปที่วังหลวงทันที

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น png

                   " ฆ่าพวกมันให้หมด!! "

                   สิ้นเสียงของสตีเฟ่น เหล่าทหารที่ติดตามก็พากันกรูเข้าไปหาเป้าหมายที่ปลายดาบของชายหนุ่มเบนไปหาทันที ขุนนางชั้นสูงคนหนึ่งวิ่งหนีสุดชีวิต
                   หลังจากหาที่หลบซ่อนได้แล้ว เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่เสียงที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้เขารู้สึกไม่ดีชอบกล

                   " ทำงานผิดพลาด "
                   " หา? "

                   ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นขุนนางรุ่นเดียวกับเขาที่รวมกลุ่มกันกุมอำนาจทั้งหมดไว้ในมือและรีดไถประชาชนตาดำๆ ที่ไม่มีอันจะกิน แต่พวกเขาสนใจเรื่องปากท้องของตัวเองมากกว่าคนในประเทศอยู่แล้ว

                   ร่างสูงมองขุนนางคนที่กำลังหอบถี่เนื่องจากอายุเริ่มมาก(?)และวิ่งหนีมาสุดชีวิตด้วยสายตาเฉยชา พลางเงื้อมีดสั้นที่เก็บซ่อนเอาไว้และแทงเข้าไปที่ร่างกายของเพื่อนอย่างแรงจนร่างของขุนนางคนนั้นสิ้นใจตายทันที เขาปล่อยร่างของเพื่อนที่ไร้ลมหายใจแล้วอย่างไร้ความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น เขาเช็ดเลือดที่เปื้อนดาบด้วยสีหน้าเฉื่อยชา

                   " หึ.. เพราะแก.. งานเลยผิดพลาดไปหมด "

                   เขาพูดพลางเหยียดยิ้มแบบไร้อารมณ์พลางเดินกลับเข้าฐาน(?)ของตนและพรรคพวก

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น png

                   " ขุนนางชั่วถูกฆ่าตายโดยไม่ทราบสาเหตุไป 1 รายขอรับ " สตีเฟ่นรายงานให้เคอัสฟัง เคอัสจึงพยักหน้ารับ

                   เป็นเพราะพวกมันเองนั่นแหล่ะ..  ออสตินแอบแย้งในใจ
         
                   " แต่ใช่ว่าเหลือแค่ 9 ตัวแล้วอำนาจมันจะลดลงไปซะหน่อยนี่ขอรับ เราควรจะถอนรากถอนโคนมันเลยนะขอรับ " ออสเสนอ นั่นทำให้เคอัสรู้สึกไม่พอใจมาก
                   " เฮ้อ.. แผนมันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปซี่-- นายจะรีบร้อนไปถึงไหนเฮอะ? "

                   ออสเบะปากเล็กน้อยเพียงเสี้ยวเดียว ก่อนเคอัสจะได้ทันสังเกตเห็น
                   สาบานได้ว่าสตีเฟ่นแอบหัวเราะเขาอยู่นิดๆ...

                   " งั้นเอาอย่างนี้ดีมั้ยล่ะขอรับ เราก็.. เขียนสาส์นเชิญหัวเมืองต่างๆให้เข้าวังดีมั้ยล่ะขอรับ? " สตีเฟ่นเสนอ เคอัสก็ดูเหมือนจะเออออไปด้วย ออสตินเห็นท่าไม่ดีจึงรีบท้วง
                   " ไม่ได้นะขอรับ! เรายังไม่ทราบจุดประสงค์ของหัวเมืองต่างๆ หากเราเชิญเข้ามา แล้วมีคนที่ต้องการกุมอำนาจองค์จักรพรรดิก็เท่ากับว่าพวกเรา-- "
                   
                   เขาพูดยังไม่ทันจบดี เคอัสก็รีบขัดทันที

                   " ดีเลยสตีเฟ่น งั้นฉันจะทูลองค์จักรพรรดิให้เชิญหัวเมืองต่างๆมาแล้วกันนะ "
                   " รับทราบขอรับ "

                   ออสตินได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ แข็งทื่อเป็นเห็น แต่ตายังคงมองสตีเฟ่นที่ลอบยิ้มเยาะใส่เขา มองเคอัสที่เดินจากเขาไปอย่างไม่แยแส ปล่อยให้ทั้ง 2 คนเดินจากไปโดยที่ไม่มีสิทธิ์ทักถ้วงอะไรได้เลย

                   สตีเฟ่น... นายกำลังคิดอะไรอยู่นะ? ... นายกำลังชักข้าศึกเข้าบ้านอยู่ รู้ตัวรึเปล่า?!
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น png

                   " เจ้าขุนนางชั่วก็ตายไปหนึ่ง .. เหลืออีก 9 ตัว.. "
                   
                   ออสตินกล่าวขึ้นให้เซฟิรัสฟังหลังจากเดินทางกลับที่พักของตน

                   " แต่ตายไป 1 มันก็ไม่ได้หมายความว่าบ้านเมืองจะสงบสุขหรอก " เซฟิรัสแย้งขึ้น
                   " ก็ใช่... นายพูดถูก "
                   " .... "
                   " แต่สิ่งที่แย่ที่สุดไม่ใช่สิ่งนั้นน่ะสิ "
                   " ...มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกล่ะ? "
                   " หึ... จะอะไรอีกเล่า.. ก็เจ้าสตีเฟ่นงี่เง่าน่ะสิ เสนอให้เชิญหัวเมืองต่างๆเข้าวัง.. 1 ในนั้นต้องมีกลอราซอยู่ด้วยแน่ๆ.. "
                   " กลอราซ? "
                   " นายไม่รู้จักเขาหรอก รายนี้น่ะ โหดร้ายจะตายไป ฉันได้ข่าวมาว่าเจ้านั่นอยากได้อำนาจขององค์กษัตริย์มาไว้ในครอบครองนานแล้ว.. "
                   " แบบนี้ก็แย่เลยสินะ.. "
                   " ก็ใช่น่ะสิ.. "

                   พวกเขานั่งนิ่งกัน ต่างคนต่างใช้ความคิดของตนเอง แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งเข้ามาขัดจังหวะการใช้ความคิดของทั้งสอง

                   " นั่นแน่!! ทำอะไรกันอยู่คร้าบบบ? "

                   เซฟิรัสถึงกับกลอกตาทันทีที่เห็นหน้าของเจ้าของเสียง เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างเล็กผู้มีเรือนผมสีดำ ดวงตาสีทองเหมือนพี่ชายกวาดตามองรอบห้องของออสอย่างตื่นเต้น อย่างกับเด็กอนุบาลที่มาทัศนศึกษานอกโรงเรียนครั้งแรกอย่างไรอย่างนั้น
                   
                   " อื้อหืออ... บรรยากาศมาคุนี่มันอะไรกันครับเนี่ย? หรือว่าพี่สองคนจะงอนกันฉันสามีกับภรร--- "

                   ผั้วะ!

                   เซฟิรัสที่นั่งฟังอยู่ถึงกับรีบวาร์ป(?)ไปต่อยเซนเดอร์ เซียเอนอร์ ผู้เป็นน้องชายแท้ๆของตนก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค
                   ออสตินลอบขำเล็กๆ ก่อนจะดึงสติตัวเองกลับมาให้อยู่ในท่าทางปกติ

                   เราก็ลืมไปเลยว่าเซนเดอร์เข้ามาทำงานแล้ว..

                   " พี่เซฟี่ตบผมหรอ!? โหดร้ายที่สุด!! "

                   เซนแกล้งทำเป็นล้มลงไปนอนมือลูบหน้า ทำหน้าตาให้น่าสงสารที่สุด เหมือนนางเอกละครที่เขาเคยดู แต่มันกลับทำให้เซฟไล่กระทืบเซนไปจนถึงประตูใหญ่ของที่พัก
                   ออสตินที่ทนไม่ไหวนั้นถึงกับระเบิดหัวเราะออกมา เขารู้สึกดีขึ้นมากจนลืมเรื่องที่คิดไปเมื่อครู่ไปเลย คงต้องไปขอบใจเซนเดอร์เป็นการใหญ่เลยทีเดียว
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น png

                   " ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้วแฮะ.. พวกขุนนางชั้นสูงมันเหมือนจะยิ่งได้ใจที่พวกเราไม่ได้วางแผนกำจัดมัน มันคงคิดว่าพวกเราเกรงกลัวต่ออำนาจพวกนั้น... ฉันว่าพวกเราควรจะทำอะไรซักอย่าง " ขุนนางนายหนึ่งได้เสนอขึ้น งานนี้พวกเขาประชุมกันเองโดยลับๆ และไม่ได้เชิญเคอัสกับสตีเฟ่นเข้ามาด้วย
                   " ผมก็คิดแบบนั้น.. แต่เค... ท่านเคอัสน่ะ ไม่ฟังอะไรเลยน่ะสิ.. " ออสตินกล่าวแบบน้อยใจนิดๆ
                   " แหม.. ก็ท่านยังหนุ่มยังแน่น.. พวกอาวุโสน่ะ เขาไม่ค่อยฟังคนน้อยกันหรอกนะ " บัณฑิตหนุ่มรายหนึ่งกล่าวเชิงเข้าใจดี
                   " แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกขุนนางจะกำเริบและอาจจะเป็นผลร้ายก็ได้นา.. "

                   ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของบัณฑิตหนุ่มคนนี้ ออสตินก็เข้าใจ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากนั่งพยักหน้าอย่างเดียว

                   " อีกไม่นานพวกขุนนางชั้นสูงพวกนั้นต้องรู้แน่ๆว่าท่านเคอัส-- "
                   " รายงานสถานการณ์ครับ! "
                   
                   ขุนนางท่านหนึ่งยังไม่ทันพูดจบดีก็มีทหารสังเกตการณ์นายหนึ่งวิ่งเข้ามาในที่ประชุม แต่ก็เป็นอันเข้าใจดีว่าหากปล่อยไว้ต่อไปจะเป็นอันตรายต่อตัวเคอัสเอง

                   " มีอะไรก็ว่ามา.. " เขากล่าวอย่างใจเย็นและไม่โกรธที่ถูกขัดจังหวะ
                   " พระนางอัลริน เรียกท่านเคอัสเข้าพบครับ! "
                   " ว่าไงนะ? / อะไรนะ? " ออสตินกับบัณฑิตหนุ่มคนนั้นกล่าวขึ้นพร้อมกัน ที่ประชุมหันมองพวกเขา และพวกเขาก็มองหน้ากันเอง
                   " มีอะไรงั้นหรือ? " ขุนนางที่โดนขัดจังหวะกล่าวขึ้นอย่างช้าๆ .. เขาช่างใจเย็นได้ทุกสถานการณ์จริงๆ
                   " นี่ต้องเป็นแผนแน่ๆ ขอรับ " บัณฑิตคนนั้นกล่าว เขามีความคิดแบบเดียวกับออสตินในขณะนี้

                   ไหวพริบเป็นเลิศจริงๆ .. ออสตินแอบชมในใจ

                   " แบบนี้แสดงว่าพวกขุนนางไหวตัวทันแล้วแน่ๆขอรับ เลยใช้ชื่อพระนางอัลรินเรียกตัวท่านเคอัสเข้าพระตำหนัก ... ท่านเคอัสยิ่งกลัวอำนาจของพระนางอัลรินอยู่ด้วย " ออสเสริม
                   " งั้นเราจะรออะไรกันอยู่ล่ะ รีบไปกันเถอะ "

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น png

                   เมื่อพวกเขาไปถึงแล้ว ก็เห็นว่าสตีเฟ่นกำลังขัดขวางเคอัสอยู่

                   " ไปไม่ได้นะขอรับ! นี่อาจะเป็นแผนของพวกขุนนางก็ได้ "
                   " เอาน่า... อย่าขวางฉันเลย นายก็รู้ถ้าฉันโมโหขึ้นมาจะเป็นยังไง.. "

                   นายสตีเฟ่นนี่.. ฉลาดเป็นกับเขาด้วยหรอ?

                   " ต.. แต่ว่า... "
                   " งั้นให้พวกกระผมไปกับท่านได้มั้ยครับ? "

                   ออสตินกล่าวโผล่งขึ้นมา เคอัสหันขวับมาทางต้นเสียงทันที
                   เขาดูลังเลใจ

                   " ก็ดีนะครับ เผื่อเกิดอะไรขึ้น พวกผมจะได้เข้าไปแก้สถานการณ์ทันครับ "
                  สตีเฟ่นก็เองก็ช่วยเสริมอีกแรงเช่นกัน หากเป็นตัวชายคนนี้พูดเอง เคอัสจะต้องยอมฟังอยู่แล้ว

                   " เอางั้นก็ได้ งั้นพวกนายตามฉันมา "

                   ในที่สุดเคอัสก็อนุญาต พวกเขาไม่รอช้ารีบเดินทางตามเคอัสไปทันที
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น png

                   แต่พอไปถึงประตูพระตำหนัก กลับมีขุนนางชั้นสูงนายหนึ่งออกมาต้อนรับ และอนุญาตให้เคอัสเข้าไปได้แค่คนเดียวเท่านั้น และห้ามพกอาวุธเข้าไป

                   " นี่มันอะไรกัน?! " สตีเฟ่นกล่าวอย่างไม่พอใจ
                   " ต้องเป็นแผนลอบสังหารแน่ๆครับ! ท่านอย่าเข้าไปเลยนะครับ "
                   " เอาน่า.. พระนางอาจจะอยากพบฉันเป็นการส่วนตัว.. แล้วก็.. เขตพระราชตำหนักก็ห้ามพกอาวุธอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? " เคอัสแย้งขึ้นมาแทบจะในทันที
                   " แต่ปกติท่านก็พกนี่ครับ? " ออสตินกล่าวขึ้น ทำให้การคิดว่า การเรียกพบในครั้งนี้เป็นแผนลอบฆ่า ฟังดูน้ำหนักมากขึ้น
                   " เออๆ ช่างเถอะน่า.. ฉันไปก่อนแล้วกัน "

                   แต่คนอย่างเคอัสฟังใครง่ายๆเสียที่ไหน เขาเดินดุ่ยๆเข้าพระตำหนักไปโดยไม่ฟังคำทักท้วงใดๆทั้งสิ้น

                   ...

                   จนกระทั่งสิ่งที่ทุกคนกังวลก็เกิดขึ้น เมื่อเคอัสเข้าไปนานเกินไปและมีเสียงดาบฟันอะไรซักอย่างดังขึ้น ถึงจะแผ่วมากจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็มั่นใจได้ว่าเป็นเสียงดาบปะทะเข้ากับเนื้อคนแน่นอน

                   " นี่เจ้าพวกโง่ทั้งหลายเอ๋ย "

                   เสียงแหบๆ ที่ดังก้องมาจากด้านบนทำให้ทุกคนรู้สึกหวั่นใจ ยิ่งพอเงยหน้าไปดูคนที่อยู่บนกำแพงประตูตำหนักแล้วยิ่งมั่นใจว่า เคอัสไม่รอดแน่นอน..

                   " แก!! "
                   " ตะโกนเรียกทำไม? หืม? แล้วอีกอย่าง.. ฉันไม่ได้ชื่อ ' แก ' ซักหน่อย "
                   " ท่านเคอัสอยู่ไหน?! "
                   " เคอัส? หึหึๆ.. อยู่ไหนน่ะหรอ? "

                   ฟิ้ว..
                   ตุ้บ..

                   เสียงของวัตถุทรงกลมตกลงมาในแนวดิ่งผ่านอากาศจนเกิดเสียง และตกลงมากระทบพื้น.. ยิ่งเห็นเรือนผมสีส้มอมแดง และนัยน์ตาสีแดงฉานที่เหลือกไปด้านบนจนสุด ยิ่งแน่ใจว่านี่คือเคอัสแน่นอน

                   " !!!! "
                   " เอาละ.. ถ้าพวกแกยอมแพ้ซะเดี๋ยวนี้ ฉันจะไว้ชีวิตพวกแก และลืมสิ่งที่แก แก แกๆๆ ทั้งหลายได้เคยกระทำกับพวกฉัน "
                   " จะบ้ารึ!? ใครจะยอมก้มหัวให้กับคนที่กำลังจะหมดบุญวาสนาในวันนี้กัน?! ทหารทั้งหลาย เข้าไปจัดการมันเลย!!! "

                   สิ้นเสียงที่ชายผมขาวตะโกนลั่น พวกทหารที่ซ่อนอยู่ก็กรูเข้าไปหน้าประตูโดยที่พวกทหารด้านในไม่สามารถต้านอยู่ และเนื่องจากมีกำลังน้อยกว่ามาก จึงต้านเอาไว้ไม่อยู่ ขุนนางบางคนที่อยู่ด้านล่างก็พลอยโดนจัดการไปด้วย
                   แต่พอขึ้นไปดูด้านบน ขุนนางชั่วที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลับไม่อยู่ให้ฆ่าเสียแล้ว..

                   " พวกมันต้องไปลักพาองค์จักรพรรดิแน่ๆ พวกเรารีบไปกันเร็ว " ออสตินรีบตะโกนลั่น พลางวิ่งนำหน้าไปอย่างรวดเร็ว

                   ...

                   แต่เมื่อมาถึง กลับพบแต่เพียงพระนางอัลรินที่นั่งกรรแสงด้วยความผวา และมีขุนนางนายหนึ่งกำลังปลอบขวัญอยู่

                   " เกิดอะไรขึ้นขอรับ? " ออสตินถามออกไปอย่างรวดเร็ว ขุนนางคนนั้นหันมองและเล่าเรื่องราวให้ฟัง
                   " พวกขุนนางชั่วมันคิดจะลักพาพระนางน่ะสิ.. พระนางอุส่าห์เลี้ยงดู ตอบแทนที่พวกมันเชิดชูให้พระนางกับพี่ชายได้ขึ้นมาเป็นใหญ่ แต่ันกลับใช้ถ้อยคำรุนแรงและใช้กำลังกับพระนาง กระนางจึงเกิดอาการขวัญผวาน่ะสิ.. "
                   " ลูกฉัน.. องค์จักรพรรดิ.. รีบไปพาเขากลับมาให้ได้นะ! หากไม่มีลูกฉันอยู่ด้วย... ฉันก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไมแล้ว... "
                   
                   พระนางอัลรินเงยหน้าขึ้นมาและกล่าวกับออสตินด้วยสีหน้าแห่งความหวัง น้ำตาของพระนางทำให้เขาไม่กล้าปฏิเสธ

                   แม้แต่ขวัญผวา พระนางก็ห่วงลูกยิ่งกว่าสิ่งใด นี่หรอความรักของคนเป็นแม่น่ะ?...

                   เขาคิดในใจ ก่อนจะรีบเปลี่ยสีหน้าจากเห็นใจเป็นจริงจัง และกล่าวขึ้นมาเป็นคำสัญญา

                   " ขอรับ.. ต่อให้กระผมต้องตาย ก็จะพาองค์จักรพรรดิกลับมาให้ได้ขอรับ... "

      à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น png
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×