ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [W.] Chapter 2 --- The Rule
เด็กชายตัวน้อยเรือนผมสีแดงนามออสตินก็ได้เติบโตขึ้นสมเป็นลูกคุณหนูอย่างสง่างาม..
ส่วนเซฟิรัสได้เติบโตเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งบวกกับดวงตาคมสีทองทำให้ภาพลักษณ์ดูเป็นเด็กหนุ่มที่น่าเกรงขาม..
ตอนนี้ทั้งสองได้รับราชการเป็นขุนนางในวังหลวง และได้เป็นบุคคลสนิทของผู้กุมอำนาจทางทหารในตอนนี้..
อิลลิธิออส เคอัส..
เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่หากโง่เขลาและหูเบา ขี้ลังเล ชอบฟังคนประจบสอพลออย่าง สตีเฟ่น เพื่อนร่วมงานของออสติน ซึ่งออสตินไม่ค่อยชอบและไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่ก็ต้องขอบคุณสตีเฟ่น ที่ทำให้เขามีตำแหน่งดีๆได้จนถึงบัดนี้
ส่วนเซฟิรัสถูกแยกจากออสติน เขาไปทำงานเป็นนายกองแนวหน้าให้กับแม่ทัพใหญ่ในเมืองหลวงแล้ว แต่ก็ไม่ได้อยู่ห่างจากออสตินมากถึงขั้นว่าต้องเขียนจดหมายแล้วให้นกพิราบส่งสารบินเป็นระยะหลายลี้หรอกนะ.. ยังคงไปมาหาสู่กันได้ตามปกติ
" ไงเพื่อน~~ "
เสียงนุ่มๆ ปนทะเล้นของชายหนุ่มผมสีขาวสะอาดปนฟ้าสว่างอ่อนๆนิดๆ ดวงตาสีเขียวของเขามองออสตินอย่างกวนๆ ปนอารมณ์ดี แต่เขาก็รักษาท่าเดินได้อย่างสง่าผิดกับคำพูด
" เอ่อ.. สวัสดี.. "
ออสตินทักกลับไปอย่างช่วยไม่ได้ เอาจริงแล้วเขาไม่ค่อยชอบสตีเฟ่นถึงขั้นเหม็นขี้หน้า แต่.. ก็จะให้ทำไงได้ล่ะ.. ชายหัวขาวเป็นคนดันเขาขึ้นมาจากก้นบ่อนี่นา..
" วันนี้พอจะว่างมั้ย? เอ่อ... พอดีว่าฉันจะชวนไป-- "
" อ่า... อยู่นี่นี่เอง "
เสียงทุ้มฟังดูดุๆดังขึ้นด้านหลัง สตีเฟ่นทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยที่มีคนมาขัดจังหวะ
เจ้าของเสียงปรากฏตัวขึ้นแล้วยืนมองสตีเฟ่นที่สูงกว่าออสตินมาก แต่ก็เตี้ย(?)กว่าเขามากในขณะเดียวกัน แน่นอนว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซฟิรัส
" อะแฮ่ม! " สตีเฟ่นแกล้งกระแอมตักเตือน
" มีอะไรหรอ? " แต่สองคนนี้ไม่สนใจ..
สตีเฟ่นกระทืบเท้าเบาๆแล้วเดินจากไปอย่างหงุดหงิด
ทั้งคู่มองการกระทำที่เหมือนกับเด็กน้อยของเขาแล้วพากันส่ายหัวอย่างเอือมระอา
" เขาเป็นแบบนี้ประจำเลยหรอ? " เซฟิรัสเลิกคิ้วเล็กน้อยแบบงงๆ
" ก็..ใช่.. ช่างเถอะ.. แล้ว.. นายมีอะไรงั้นหรอ? " ออสตินกลับเข้าเรื่องต่อ
" ก็ไมมีอะไร.. แค่เอาข่าวมาบอก "
ชายร่างสูงกล่าวยิ้มๆ พลางยื่นกระดาษม้วนหนึ่งให้คนตัวเล็กกว่า
ออสตินรับมันมาเปิดดูก่อนจะยิ้มร่าด้วยความชอบใจ
" ฉัน..! ได้เป็นแม่ทัพฝ่ายเหนือ!? ฉันเนี่ยนะ!?? ... "
ถึงแม้น้ำเสียงจะฟังดูตกใจ แต่ปากบางกลับคลี่ยิ้มไม่หยุด จากนั้นชายผมแดงก็กระโดดไปมาอย่างติ้นตัน(?)แบบเด็กน้อย จนเซฟิรัสต้องไปจับให้อยู่นิ่งๆไว้
" ทำตัวให้สมตำแหน่งหน่อย ว่าที่แม่ทัพ " เซฟี่กล่าวติดตลก
" โอ้ยยย ฉันดีใจจนทำตัวไม่ถูกเลยย ฉัน... ฉันไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงดี "
" แต่อย่างน้อยก็เก็บความตื่นเต้นไว้บ้าง.. นายโตแล้วนะ "
" แล้วนายล่ะ? นายจะอยู่ที่นี่หรือว่า-- "
" แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องตามนายไป "
ออสตินค่อยๆหุบยิ้ม..
เซฟิรัสก็เช่นกัน..
จากนั้นคนตัวเล็กก็ยิ้มกว้างกว่าเดิมจนปากแทบฉีก แล้วเข้ากระโดดกอดคนตัวสูง
" ขอบคุณมากนะ.. ขนาดฉันถูกย้ายไปอยู่ฝ่ายเหนือที่ไกลแสนไกล.. แต่นายก็ยังตามฉันไป.. ฉัน... ฉัน.. " แล้วเสียงสะอื้นก็ดังขึ้น
เซฟิรัสจับหน้าของอีกผ่านพลางปลอบ
" อย่าร้องไห้สิ.. ไหนว่าเด็กผู้ชายไม่ร้องไห้ไง.. ;) "
เซฟิรัสกล่าวปลอบคนตัวเล็ก แล้วปาดน้ำตาที่คลอเบ้าอย่างเบามือ
" ก็... คนมันดีใจนี่นา.. ฮะๆ " เขากล่าวพลางปัดมือหนาและหัวเราะเบาๆเป็นการแซวตัวเองและปลอบตัวเองไปพลาง
" แล้วรออะไรอยู่ล่ะ? ไปเก็บของกันสิ "
คนผมดำยิ้มกล่าว พลางเดินนำไปก่อน ออสตินจึงเดินกึ่งวิ่งตามไปด้วยความรู้สึกดีใจที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้..
3 วันต่อมา ณ ดินแดนทางตอนเหนือ
เซฟิรัสและออสตินที่สำรวจตำหนักเจ้าเมืองและเก็บของเรียบร้อยแล้ว ก็พากันสำรวจผู้คนและสถานที่บริเวณนอกเมือง
" ว้าว.. ให้ตายสิ.. ที่นี่เป็นเมืองที่ใหญ่มากๆเลยนะเนี่ย.. "
ออสตินกล่าวพลางแหงนมองบ้านเล็กบ้านน้อยที่ไม่ได้ดูงดงามโอ่อ่าเหมือนในเมืองหลวงที่เขาเคยอยู่นัก แต่มันกลับดูสงบสุขและเรียบง่าย ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นมิตรอย่างบอกไม่ถูก
เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยและหยุดเดิน
นั่นทำให้เซฟิรัสหยุดและหันมองคนตัวเล็กกว่า
" เฮ้... นายเป็นอะไรไปน่ะ? "
ออสตินไม่ตอบ เพียงแค่เงยหน้าแล้วส่งยิ้มให้
" ไม่มีอะไรหรอก... ไปต่อเถอะ "
แล้วเขาก็เดินนำหน้าไป ทิ้งความสงสัยไว้ให้เซฟิรัส ชายหนุ่มส่ายหัวเบาๆแล้วรีบเดินทางต่อไปอย่างรวดเร็ว
" เฮ้อ... ช่วงนี้พวกคนของขุนนางติดต่อกับคนในเมืองบ่อยมากแค่ไหนนะ? เซฟี่? "
ออสตินเอ่ยปากถามพลางเอนตัวไปด้านหลัง จนหลังติดกับพนักพิงเก้าอี้ หลังจากที่เขาได้มาเป็นแม่ทัพ เขาต้องสำรวจความเรียบร้อยภายในเมือง สำรวจคนเข้าออก ต้องตรวจงานลาดตระเวนและอีกสารพัด กว่าจะได้นอนก็ดึกมากโขเลยทีเดียว
" ก็ยังมีอยู่เยอะเลยละ เพราะว่าทหารเกรงกลัวอำนาจของพวกขุนนาง แค่เอาชื่อมาอ้างก็ผ่านไปได้สบายๆแล้ว... "
" แย่จริงๆเลย... วันนี้ฉันต้องอบรมพวกทหารและคนพวกนั้นเสียหน่อยแล้ว.. "
" แล้วนายจะทำอะไรได้? หากพวกขุนนางรู้ว่าเป็นฝีมือนาย นายอาจจะถูกปลดเลยก็ได้นะ... "
" หืม?.. ปลด..? ก็ปลดไปสิ.. ฉันดีใจที่ได้ทำหน้าที่นี้นะ.. "
" แต่ว่า.... "
" แต่ถ้ากฎระเบียบมันไม่เป็นไปตามกฎแล้วละก็... คนเหล่านั้นอาจจะกลายเป็นภูเขาลูกใหญ่ที่ไม่สามารถยกออกจากอกได้เลยนะ "
ตอนนี้เซฟิรัสไม่รู้จะห้ามลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่างไรแล้ว... เพราะถ้าคนๆนี้สั่งอะไรหรืออยากทำอะไร... เขาเองก็ห้ามไม่อยู่...
คำสั่งห้ามขัด... ถามได้ ปฏิเสธไม่ได้
________________________________________________________
เสียงของชายฉกรรจ์หลายคนหน้าประตูเมืองทางเหนือของเมืองหลวงดังระงมไปทั่วจนฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ใจความหลักๆเลย หลายคนจะตั้งคำถามว่า 'เรียกมาทำไม' 'มีอะไรกันนะ?'
จนกระทั่งเสียงของของหนักกระทบพื้นดังๆ 2-3 ทีดังขึ้น เหล่าทหารจึงสงบปากลง สายตาหลายคู่สังเกตเห็นสิ่งของในมือออสตินที่ใช้กระทบพื้นเมื่อครู่แล้ว ก็มีถึงกับผวาบ้าง แต่บางคนก็สงสัย หากแต่ยังถามตอนนี้ไม่ได้
" สวัสดีทุกๆคน... คงสงสัยสินะ ว่าวันนี้มีอะไร ถึงได้เรียกพวกนายมา.. "
หลายคนพยักหน้าตอบ หลายคนก็เฉยๆ บางคนก็มองหน้ากันเอง
" วันนี้ฉันจะมาอบรมพวกนายเรื่องการตรวจคนเข้าเมืองกันหน่อย "
" ฉันได้ยินมาว่า มีพวกคนที่เข้า-ออกประตูนอกเวลา และใช้อำนาจข่มขู่.. ใช่มั้ย? "
ทุกๆคนพยักหน้าและตอบพร้อมๆกัน
" หลังจากนี้ไปพวกนายห้ามให้ผู้คนเข้า-ออกนอกเมืองเกินเวลา ใครฝ่าฝืนต้องโดนลงโทษ ไม่เว้นแม้กระทั่งขุนนาง "
เสียงของเหล่าทหารเลวดังขึ้นอีกครั้ง บางคนเห็นด้วย บางคนก็ไม่เห็นด้วยและหวาดกลัว....
กลัวที่จะถูกพวกขุนนางกลั่นแกล้งและลงโทษ อย่างเบาก็แค่ถูกไล่กลับไปดูแลลูกเมียที่บ้าน แต่หนักสุดคือขัง เลวร้ายกว่านั้นอาจถูกตัดหัวแบบไม่มีเหตุผล เพียงเพราะพวกเขาทำตามกฎ
แต่แล้วก็มีหารคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา เพราะเขารู้ว่าถามได้ หัวหน้าใจดี(?)
" เอ่อ.. แล้วกระบองนั่นใช้ทำอะไรหรอขอรับ นายท่าน? "
" อ้อ... กระบองนี่น่ะหรอ? ก็อุปกรณ์ในการลงโทษไง~ "
ออสตินแสยะยิ้มเล็กๆ พลางเงื้อกระบองและฟาดมันลงพื้นไปสุดแรง จนเกิดเสียงดังสนั่นและดินตรงนั้นก็ยุบลงไปเพราะแรงกระแทก
" เหวอ!! "
เหล่าทหารกล้าถึงกับผวาขึ้นอีกครั้ง เพราะผู้เป็นนายตนสาธิตกับพื้นให้ดู.. เพียงเท่านี้เขาก็รู้ชะตาของผู้โดนทำโทษแล้ว
" นี่แหล่ะ! นี่แหล่ะคือบทลงโทษของคนที่มันไม่ทำตามกฎ!! "
แล้วเขาก็ฟาดลงไปอีกครั้งด้วยหน้าตาที่ดุดันจนน่ากลัว ทำเอาเหล่าทหารนั่งกอดกันตัวสั่นหงึกๆ
" และฉัน! จะลงโทษมันด้วยตัวเอง!!! "
ออสตินเดินกลับเข้าห้องพักแบบปกติ
แต่ที่ไม่ปกติคือบรรยากาศนี่สิ
" .... "
" .... "
ทั้งห้องมีแต่ความเงียบสงบ สีหน้าเคร่งขรึม(และเคร่งเครียด)ของออสตินทำให้ห้องนั้นยิ่งอึดอัดมากขึ้นไปอีก
" วันนี้มีอะไรต้องทำอีกมั้ย? " ออสตินถามขึ้น น้ำเสียงยังฟังดูเคร่งเครียด
" ก็.. มีกิจกรรมเล็กๆน้อยๆแหล่ะนะ... " เซฟิรัสตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายาม.. ต้องใช้คำว่าพยายามที่จะร่าเริง พยายามไม่ให้ออสตินเครียด เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าออสตินไปเครียดเรื่องอะไรมา แต่เขาก็ไม่ชอบเลยที่เห็นความเครียดบนใบหน้าของชายร่างเล็ก แทนที่จะเป็นรอยยิ้มเหมือนแต่ก่อน
" อะไร? " แต่น้ำเสียงของออสตินไม่ได้ดีขึ้นเลยสักนิด...
" ก็.. เอ่อ.. ไปตรวจที่ประตูนิดหน่อยน่ะ.. " เขารู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่ไม่เป็นตามที่คาดไว้
" อ้อ... จริงสิ.. เกือบลืมไปเลย "
ชายผมแดงยืนขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูผ่อนคลายลง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับเซฟิรัส
ทั้งสองรีบเดินไปที่ประตูโดยไม่รอช้า เพราะเวลานี้ก็ใกล้จะเป็นเวลาที่ห้ามคนเข้า-ออกแล้วเสียด้วย..
ประจวบเหมาะพอดี เมื่อพวกเขามาถึงก็เป็นเวลาที่ห้ามคนเข้า-ออก พวกทหารเห็นทั้งสองก็ทำความเคารพ ชายผู้เป็นหัวหน้ายกมือเป็นสัญญาณว่าให้กลับไปทำหน้าที่ต่อ ทหารทั้งสองนายจึงเอามือลง
" ตอนนี้เป็นไงบ้าง ยังมีคนเข้า-ออก นอกเวลาอยู่อีกมั้ย? "
เซฟิรัสถาม ทหารนายหนึ่งก็รายงานว่าปกติดี
เขาพยักหน้าและหันไปถามออสติน
" งั้นก็คงไม่มีอะไรแล้วแหล่ะมั้ง? กฎนายก็ออกจะเหล็กอยู่ คงไม่มีใครกล้า-- "
พูดยังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงกีบม้าควบมาทางประตู ทั้งสองหันไปมอง ก็พบว่าเป็นชายวัยกลางคน แต่งตัวดูภูมิฐาน กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
" เปิดประตูด้วย! "
เขาร้องสั่ง ออสตินมองหน้าเขานิ่งๆ พวกทหารสับสน เซฟิรัสจึงบอกให้ใจเย็นๆ และอยู่เฉยๆไว้ก่อน
" รออะไรอยู่อีกล่ะพวกชนชั้นต่ำ!? รีบเปิดประตูเมืองให้ฉันเร็วสิ! รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?! "
" ... ไม่รู้ "
ออสตินยังคงมองนิ่งๆเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความไม่ชอบใจในตัวผู้ชายคนนี้
ชายวัยกลางคนพยายามสูดหายใจเข้าลึกและลงจากม้า พร้อมกับเดินตรงดิ่งเข้ามาหาออสติน แต่ถูกเซฟิรัสเข้ามาขวางไว้ไม่ให้เข้าใกล้เกินไปเสียก่อน
" หึ.. งั้นจะบอกให้เอาบุญแล้วกันนะ.. ฉันเนี่ย.. มีศักดิ์เป็นถึงน้าของ 1 ใน 10 ขุนนางระดับสูงสุดเชีนวนา~~ เอาละ.. ที่นี้จะให้ฉันเข้าไปได้รึยังล่ะ? "
เขาเหยียดยิ้มออกมาเหมือนผู้มีชัย ออสตินก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่ยังไม่ละสายตาไปจากชายคนนั้น
" เปิดประตู "
" หา?! "
ทั้งเซฟิรัสและทหารทั้งสองถึงกับอุทานด้วยความตกใจ บรรยากาศกลับมาเงียบอีกครั้ง
" เปิดประตูเดี๋ยวนี้ "
" ไม่ได้ยินที่เจ้านายพวกแกสั่งรึไง? เปิดประตูสิ! " ชายวัยกลางคนนั้นตะโกนสั่งอย่างกับเป็นเจ้านาย นั่นยิ่งเพิ่มความไม่พอใจให้ออสตินขึ้นไปอีก
" ฉันจะไม่ทนแล้ว... ทหาร! "
ทหารทั้งสองเปิดประตูได้ไม่ถึงไหนก็ต้องรีบวิ่งเข้ามาหาออสตินผู้เป็นนาย ชายผมแดงหันไปมองทั้งสองด้วยสีหน้าและน้ำเสียงอันดุดันและน่ากลัว ก่อนจะหันมามองชายวัยกลางที่อ้างว่าตัวเองเป็นน้าของ 1 ใน 10 ขุนนางที่กำลังทำน้างงๆ ปนหวาดกลัว เพราะสายตาของออสติน
" จับตัวเจ้านี่เอาไว้! "
" ข.. ขอรับ! "
ถึงจะตกใจในคำสั่ง แต่ก็จำต้องรับคำ และเข้าไปรวบตัวเจ้าคนอวดดีมาคุกเข่าหน้าชายร่างเล็ก ที่มีศักดิ์เป็นถึงแม่ทัพฝ่ายเหนือ มีอำนาจทางการทหารและการลงโทษผู้คนที่ผิดระเบียบ.. ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างจะมีอำนาจอยู่ในระดับหนึ่ง... แต่ ณ ตอนนี้ ขณะนี้ เขามีอำนาจมากที่สุด
" ลงโทษในความผิด 'เข้า-ออกประตูเมืองนอกเวลาที่กำหนด' ... ไม่ต้องกังวลไป เพราะฉันจะลงโทษมันเอง! เซฟิรัส! ไปเอากระบองมาเดี๋ยวนี้! "
" รับทราบ! "
ถึงจะรู้สึกแปลกตอนที่ถูกออสตินเรียกชื่อเต็ม แต่เขาก็รีบวิ่งไปหยิบอาวุธลงโทษมาให้ออสตินอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่มือของเขาจับกระบอง ก็เกิดเป็นน้ำแข็งตรงบริเวณที่เขาจับ แล้วลามไปทั้งกระบองอย่างรวดเร็วตามอารมณ์โกรธ
" ดีมาก นายไปมัดเขาเอาไว้ เอาให้แน่นที่สุด.. ส่วนนายสองคน.. ไปตามคนอื่นๆมาดูเป็นเยี่ยงอย่าง "
" เอ่อ.. ขอรับ! "
แล้วนายทั้งสองก็รีบวิ่งไปตามทหารนายอื่นๆให้มาดูชายคนนี้เป็นเยี่ยงอย่าง
ออสตินทำการฟาดกระบองลงไปที่ตัวของชายคนนั้นไม่ยั้ง เสียงร้องของเขาในแต่ละครั้งประสานกลับเสียงกระบองฟาด ทำให้ทหารที่วิ่งเข้ามาดูถึงขั้นหวาดผวากับฤทธิ์เดชของกระบองอันนี้เลยทีเดียว
แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับพวกขุนนางมากเลยทีเดียว
ออสตินก็ชักจะเริ่มทนไม่ได้กับการกระทำของเหล่าขุนนางทั้ง 10 จึงขอลาออก เช่นเดียวกับสตีเฟ่น
ตัวเขาและเซฟิรัสประหลาดใจมากที่สตีเฟ่นขอลาออก เพราะตำแหน่งในตอนนี้เป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างมีอำนาจพอสมควร แต่พอถามเหตุผลแล้วถึงได้เข้าใจว่า สตีเฟ่นเองก็โดนดีเช่นเดียวกัน เขารำคาญปนเอือมระอาจึงลาออก เพราะไม่รู้จะอยู่ไปทำไม
หลังจากที่ลาออกเรียบร้อย ออสตินและเซฟิรัสที่ตัดสินใจลาออกตามกันก็เดินทางกลับบ้านเกิด ไปใช้ชีวิตอย่างปกติที่บ้าน
พ่อของออสตินก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาเข้าใจดีว่าพวกขุนนางพวกนั้นน่ารำคาญมากแค่ไหน
ออสตินใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อย และสังสรรค์กับเพื่อนๆทุกวัน
" เฮ้อ.. ไม่รู้ทำไมคนที่ตั้งเป้าหมายไว้ในชีวิตอย่างดิบดี กลับต้องมาเมาแอ๋แบบนี้นะ? " เซฟิรัสเอ่ยขึ้นมาลอยๆขณะที่ขี่ม้าไปส่งออสติน โดยให้คนตัวเล็กนั่งกอดเขาจากด้านหลัง
" หึหึ.. นายกลัวว่าฉันจะนอกลู่นอกทางหรอ? เซฟี่?~ " มือเล็กข้างหนึ่งเอื้อมมาสัมผัสแก้มของเซฟิรัสอย่างเบามือ ทำเอาเซฟิรัสถึงกับไปไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก
" เอ่อ.. ก็... "
" อย่ากังวลไว้เลยน่า.. ฉันก็แค่ถอยมาตั้งหลักแค่นั้นเอง.. "
" ให้มันจริงเถอะน่า... เออนี่.. นายว่าอยากจะไปหาหมอดูชื่อดังใช่มั้ยล่ะ? ได้ข่าวว่าเขาอยู่บ้านนี่ จะไปหามั้ยล่ะ? "
ชายร่างสูงกล่าวอย่างไม่ค่อยเชื่อใจเท่าไหร่ พลางเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างรวดเร็ว
" หืม?... ก็เอาสิ.. แต่ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน.. เพราะถ้าฉันไปทั้งสภาพแบบนี้คงตลกน่าดู "
ออสตินที่ไม่รู้จะพูดอะไรดีก็เลยพยักหน้ารับคำ แถมคำพูดติดตลก เซฟิรัสขำเล็กน้อย ก่อนบังคับม้าให้รีบมุ่งหน้าไปบ้านของออสตินโดยเร็ว
.
.
.
เช้าวันต่อมา
หลังจากที่หมอดูได้ดูโหงวเฮ้งให้ออสตินแล้ว เขาก็ยึกๆยักๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
จนเซฟิรัสเริ่มรำคาญจึงบอกให้เขาทำนายเสียที
" พ่อหนุ่มแน่ใจนะ? ที่จะฟังคำทำนายน่ะ? "
" แน่สิครับ... ทำไมหรอครับ? มันแย่มากเลยหรอ? "
" อืม... ถ้าอยากฟังก็พูดให้ฟังแล้วกันนะ.. "
" ยามสงบ เจ้าจะเป็นขุนนางฉลาด ยามศึก จะเป็นวีรบุรุษที่เก่งกล้า แต่ตัวเจ้าจะเป็นภัยต่อราชวงศ์ "
เป็นภัยต่อราชวงศ์....?
เซฟิรัสสะดุ้ง พลางทวนคำในใจอัตโนมัติ...
เขาชักจะกังวลแล้วสิ
กังวลว่าหมอดูคนนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อออสตินฟังคำทำนายจบ
" หึหึ... "
แต่เสียงหัวเราะอันเยือกเย็นของชายร่างเล็กที่เขาคุ้นเคยก็ดังขึ้น จนทั้งตัวเขาและหมอดูก็งุนงนปนตกใจพร้อมกัน
" หึหึ... ฮะๆๆ... ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!! "
ออสตินระเบิดเสียงหัวเราะออกมา พร้อมกับยืนขึ้น เขาวางเงินจำนวนหนึ่งให้กับหมอดูคนนั้นแล้วเดินออกไป ทำให้เซฟิรัสรีบเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้
ออสตินเป็นอะไรไปนะ?
เขานึกพลางตรงดิ่งไปขึ้นมาและควบเหยาะตามออสตินไปโดยเร็ว
สวัสดีค่ะะะ รีดเดอร์ที่รักทุกๆคนนน
ขอโทษที่มาช้านะคะะ(และสั้นด้วยค่ะ ; w ;) //กราบสวยๆแบบเด็กประกวดมารยาทไทย(?)//
ตอนนี้ก็... แต่งมึนๆไปอีกตอน ถถถถ
เมาจริงๆค่ะ เนื่องจากว่าต้องเอาส่วนของเกม มาผสมกับเนื้อเรื่องหลักๆจากนิยาย ทำให้มันออกมาดูมึนๆนี่แหล่ะค่ะ 5555555555555555
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น