ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Survive from the Darkness

    ลำดับตอนที่ #4 : [W.] Chapter 2 --- The Rule

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 62



                   หลายปีผ่านไป...
                   เด็กชายตัวน้อยเรือนผมสีแดงนามออสตินก็ได้เติบโตขึ้นสมเป็นลูกคุณหนูอย่างสง่างาม..
                   ส่วนเซฟิรัสได้เติบโตเป็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งบวกกับดวงตาคมสีทองทำให้ภาพลักษณ์ดูเป็นเด็กหนุ่มที่น่าเกรงขาม..
                   ตอนนี้ทั้งสองได้รับราชการเป็นขุนนางในวังหลวง และได้เป็นบุคคลสนิทของผู้กุมอำนาจทางทหารในตอนนี้..

                   อิลลิธิออส เคอัส..

                   เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่หากโง่เขลาและหูเบา ขี้ลังเล ชอบฟังคนประจบสอพลออย่าง สตีเฟ่น เพื่อนร่วมงานของออสติน ซึ่งออสตินไม่ค่อยชอบและไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่ก็ต้องขอบคุณสตีเฟ่น ที่ทำให้เขามีตำแหน่งดีๆได้จนถึงบัดนี้
                   ส่วนเซฟิรัสถูกแยกจากออสติน เขาไปทำงานเป็นนายกองแนวหน้าให้กับแม่ทัพใหญ่ในเมืองหลวงแล้ว แต่ก็ไม่ได้อยู่ห่างจากออสตินมากถึงขั้นว่าต้องเขียนจดหมายแล้วให้นกพิราบส่งสารบินเป็นระยะหลายลี้หรอกนะ.. ยังคงไปมาหาสู่กันได้ตามปกติ

                   " ไงเพื่อน~~ "

                   เสียงนุ่มๆ ปนทะเล้นของชายหนุ่มผมสีขาวสะอาดปนฟ้าสว่างอ่อนๆนิดๆ ดวงตาสีเขียวของเขามองออสตินอย่างกวนๆ ปนอารมณ์ดี แต่เขาก็รักษาท่าเดินได้อย่างสง่าผิดกับคำพูด

                   " เอ่อ.. สวัสดี.. "

                   ออสตินทักกลับไปอย่างช่วยไม่ได้ เอาจริงแล้วเขาไม่ค่อยชอบสตีเฟ่นถึงขั้นเหม็นขี้หน้า แต่.. ก็จะให้ทำไงได้ล่ะ.. ชายหัวขาวเป็นคนดันเขาขึ้นมาจากก้นบ่อนี่นา..

                   " วันนี้พอจะว่างมั้ย? เอ่อ... พอดีว่าฉันจะชวนไป-- "
                   " อ่า... อยู่นี่นี่เอง "

                   เสียงทุ้มฟังดูดุๆดังขึ้นด้านหลัง สตีเฟ่นทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยที่มีคนมาขัดจังหวะ
                   เจ้าของเสียงปรากฏตัวขึ้นแล้วยืนมองสตีเฟ่นที่สูงกว่าออสตินมาก แต่ก็เตี้ย(?)กว่าเขามากในขณะเดียวกัน แน่นอนว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเซฟิรัส

                   " อะแฮ่ม! " สตีเฟ่นแกล้งกระแอมตักเตือน
                   " มีอะไรหรอ? " แต่สองคนนี้ไม่สนใจ..

                   สตีเฟ่นกระทืบเท้าเบาๆแล้วเดินจากไปอย่างหงุดหงิด
                   ทั้งคู่มองการกระทำที่เหมือนกับเด็กน้อยของเขาแล้วพากันส่ายหัวอย่างเอือมระอา

                   " เขาเป็นแบบนี้ประจำเลยหรอ? " เซฟิรัสเลิกคิ้วเล็กน้อยแบบงงๆ
                   " ก็..ใช่.. ช่างเถอะ.. แล้ว.. นายมีอะไรงั้นหรอ? " ออสตินกลับเข้าเรื่องต่อ
                   " ก็ไมมีอะไร.. แค่เอาข่าวมาบอก "

                   ชายร่างสูงกล่าวยิ้มๆ พลางยื่นกระดาษม้วนหนึ่งให้คนตัวเล็กกว่า
                   ออสตินรับมันมาเปิดดูก่อนจะยิ้มร่าด้วยความชอบใจ

                   " ฉัน..! ได้เป็นแม่ทัพฝ่ายเหนือ!? ฉันเนี่ยนะ!?? ... "

                   ถึงแม้น้ำเสียงจะฟังดูตกใจ แต่ปากบางกลับคลี่ยิ้มไม่หยุด จากนั้นชายผมแดงก็กระโดดไปมาอย่างติ้นตัน(?)แบบเด็กน้อย จนเซฟิรัสต้องไปจับให้อยู่นิ่งๆไว้

                   " ทำตัวให้สมตำแหน่งหน่อย ว่าที่แม่ทัพ " เซฟี่กล่าวติดตลก
                   " โอ้ยยย ฉันดีใจจนทำตัวไม่ถูกเลยย ฉัน... ฉันไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงดี "
                   " แต่อย่างน้อยก็เก็บความตื่นเต้นไว้บ้าง.. นายโตแล้วนะ "
                   " แล้วนายล่ะ? นายจะอยู่ที่นี่หรือว่า-- "
                   " แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องตามนายไป "

                   ออสตินค่อยๆหุบยิ้ม..
                   เซฟิรัสก็เช่นกัน..
                   จากนั้นคนตัวเล็กก็ยิ้มกว้างกว่าเดิมจนปากแทบฉีก แล้วเข้ากระโดดกอดคนตัวสูง

                   " ขอบคุณมากนะ.. ขนาดฉันถูกย้ายไปอยู่ฝ่ายเหนือที่ไกลแสนไกล.. แต่นายก็ยังตามฉันไป.. ฉัน... ฉัน.. " แล้วเสียงสะอื้นก็ดังขึ้น
                   เซฟิรัสจับหน้าของอีกผ่านพลางปลอบ

                   " อย่าร้องไห้สิ.. ไหนว่าเด็กผู้ชายไม่ร้องไห้ไง.. ;) "
                   
                   เซฟิรัสกล่าวปลอบคนตัวเล็ก แล้วปาดน้ำตาที่คลอเบ้าอย่างเบามือ

                   " ก็... คนมันดีใจนี่นา.. ฮะๆ " เขากล่าวพลางปัดมือหนาและหัวเราะเบาๆเป็นการแซวตัวเองและปลอบตัวเองไปพลาง
                   " แล้วรออะไรอยู่ล่ะ? ไปเก็บของกันสิ "
                   
                   คนผมดำยิ้มกล่าว พลางเดินนำไปก่อน ออสตินจึงเดินกึ่งวิ่งตามไปด้วยความรู้สึกดีใจที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้..

                   

                    3 วันต่อมา ณ ดินแดนทางตอนเหนือ
                    เซฟิรัสและออสตินที่สำรวจตำหนักเจ้าเมืองและเก็บของเรียบร้อยแล้ว ก็พากันสำรวจผู้คนและสถานที่บริเวณนอกเมือง

                   " ว้าว.. ให้ตายสิ.. ที่นี่เป็นเมืองที่ใหญ่มากๆเลยนะเนี่ย.. "

                   ออสตินกล่าวพลางแหงนมองบ้านเล็กบ้านน้อยที่ไม่ได้ดูงดงามโอ่อ่าเหมือนในเมืองหลวงที่เขาเคยอยู่นัก แต่มันกลับดูสงบสุขและเรียบง่าย ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นมิตรอย่างบอกไม่ถูก
                   เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยและหยุดเดิน
                   นั่นทำให้เซฟิรัสหยุดและหันมองคนตัวเล็กกว่า

                   " เฮ้... นายเป็นอะไรไปน่ะ? "

                   ออสตินไม่ตอบ เพียงแค่เงยหน้าแล้วส่งยิ้มให้

                   " ไม่มีอะไรหรอก... ไปต่อเถอะ "

                   แล้วเขาก็เดินนำหน้าไป ทิ้งความสงสัยไว้ให้เซฟิรัส ชายหนุ่มส่ายหัวเบาๆแล้วรีบเดินทางต่อไปอย่างรวดเร็ว

                   à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น png
                    " เฮ้อ... ช่วงนี้พวกคนของขุนนางติดต่อกับคนในเมืองบ่อยมากแค่ไหนนะ? เซฟี่? "

                   ออสตินเอ่ยปากถามพลางเอนตัวไปด้านหลัง จนหลังติดกับพนักพิงเก้าอี้ หลังจากที่เขาได้มาเป็นแม่ทัพ เขาต้องสำรวจความเรียบร้อยภายในเมือง สำรวจคนเข้าออก ต้องตรวจงานลาดตระเวนและอีกสารพัด กว่าจะได้นอนก็ดึกมากโขเลยทีเดียว

                   " ก็ยังมีอยู่เยอะเลยละ เพราะว่าทหารเกรงกลัวอำนาจของพวกขุนนาง แค่เอาชื่อมาอ้างก็ผ่านไปได้สบายๆแล้ว... "
                   " แย่จริงๆเลย... วันนี้ฉันต้องอบรมพวกทหารและคนพวกนั้นเสียหน่อยแล้ว.. "
                   " แล้วนายจะทำอะไรได้? หากพวกขุนนางรู้ว่าเป็นฝีมือนาย นายอาจจะถูกปลดเลยก็ได้นะ... "
                   " หืม?.. ปลด..? ก็ปลดไปสิ.. ฉันดีใจที่ได้ทำหน้าที่นี้นะ.. "
                   " แต่ว่า.... "
                   " แต่ถ้ากฎระเบียบมันไม่เป็นไปตามกฎแล้วละก็... คนเหล่านั้นอาจจะกลายเป็นภูเขาลูกใหญ่ที่ไม่สามารถยกออกจากอกได้เลยนะ "

                   ตอนนี้เซฟิรัสไม่รู้จะห้ามลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่างไรแล้ว... เพราะถ้าคนๆนี้สั่งอะไรหรืออยากทำอะไร... เขาเองก็ห้ามไม่อยู่...
                  
                         คำสั่งห้ามขัด... ถามได้ ปฏิเสธไม่ได้
                    ________________________________________________________     

                   เสียงของชายฉกรรจ์หลายคนหน้าประตูเมืองทางเหนือของเมืองหลวงดังระงมไปทั่วจนฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ใจความหลักๆเลย หลายคนจะตั้งคำถามว่า 'เรียกมาทำไม' 'มีอะไรกันนะ?'
                   จนกระทั่งเสียงของของหนักกระทบพื้นดังๆ 2-3 ทีดังขึ้น เหล่าทหารจึงสงบปากลง สายตาหลายคู่สังเกตเห็นสิ่งของในมือออสตินที่ใช้กระทบพื้นเมื่อครู่แล้ว ก็มีถึงกับผวาบ้าง แต่บางคนก็สงสัย หากแต่ยังถามตอนนี้ไม่ได้

                   " สวัสดีทุกๆคน... คงสงสัยสินะ ว่าวันนี้มีอะไร ถึงได้เรียกพวกนายมา.. "

                   หลายคนพยักหน้าตอบ หลายคนก็เฉยๆ บางคนก็มองหน้ากันเอง

                   " วันนี้ฉันจะมาอบรมพวกนายเรื่องการตรวจคนเข้าเมืองกันหน่อย "
                   " ฉันได้ยินมาว่า มีพวกคนที่เข้า-ออกประตูนอกเวลา และใช้อำนาจข่มขู่.. ใช่มั้ย? "

                   ทุกๆคนพยักหน้าและตอบพร้อมๆกัน

                   " หลังจากนี้ไปพวกนายห้ามให้ผู้คนเข้า-ออกนอกเมืองเกินเวลา ใครฝ่าฝืนต้องโดนลงโทษ ไม่เว้นแม้กระทั่งขุนนาง "

                   เสียงของเหล่าทหารเลวดังขึ้นอีกครั้ง บางคนเห็นด้วย บางคนก็ไม่เห็นด้วยและหวาดกลัว....
                   กลัวที่จะถูกพวกขุนนางกลั่นแกล้งและลงโทษ อย่างเบาก็แค่ถูกไล่กลับไปดูแลลูกเมียที่บ้าน แต่หนักสุดคือขัง เลวร้ายกว่านั้นอาจถูกตัดหัวแบบไม่มีเหตุผล เพียงเพราะพวกเขาทำตามกฎ
                   แต่แล้วก็มีหารคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา เพราะเขารู้ว่าถามได้ หัวหน้าใจดี(?)

                   " เอ่อ.. แล้วกระบองนั่นใช้ทำอะไรหรอขอรับ นายท่าน? "
                   " อ้อ... กระบองนี่น่ะหรอ? ก็อุปกรณ์ในการลงโทษไง~ "

                   ออสตินแสยะยิ้มเล็กๆ พลางเงื้อกระบองและฟาดมันลงพื้นไปสุดแรง จนเกิดเสียงดังสนั่นและดินตรงนั้นก็ยุบลงไปเพราะแรงกระแทก
                   
                   " เหวอ!! "

                   เหล่าทหารกล้าถึงกับผวาขึ้นอีกครั้ง เพราะผู้เป็นนายตนสาธิตกับพื้นให้ดู.. เพียงเท่านี้เขาก็รู้ชะตาของผู้โดนทำโทษแล้ว

                   " นี่แหล่ะ! นี่แหล่ะคือบทลงโทษของคนที่มันไม่ทำตามกฎ!! "

                   แล้วเขาก็ฟาดลงไปอีกครั้งด้วยหน้าตาที่ดุดันจนน่ากลัว ทำเอาเหล่าทหารนั่งกอดกันตัวสั่นหงึกๆ
                   
                   " และฉัน! จะลงโทษมันด้วยตัวเอง!!! "

                   à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น png
                   ออสตินเดินกลับเข้าห้องพักแบบปกติ
                   แต่ที่ไม่ปกติคือบรรยากาศนี่สิ

                   " .... "
                   " .... "

                   ทั้งห้องมีแต่ความเงียบสงบ สีหน้าเคร่งขรึม(และเคร่งเครียด)ของออสตินทำให้ห้องนั้นยิ่งอึดอัดมากขึ้นไปอีก

                   " วันนี้มีอะไรต้องทำอีกมั้ย? " ออสตินถามขึ้น น้ำเสียงยังฟังดูเคร่งเครียด
                   " ก็.. มีกิจกรรมเล็กๆน้อยๆแหล่ะนะ... " เซฟิรัสตอบด้วยน้ำเสียงที่พยายาม.. ต้องใช้คำว่าพยายามที่จะร่าเริง พยายามไม่ให้ออสตินเครียด เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าออสตินไปเครียดเรื่องอะไรมา แต่เขาก็ไม่ชอบเลยที่เห็นความเครียดบนใบหน้าของชายร่างเล็ก แทนที่จะเป็นรอยยิ้มเหมือนแต่ก่อน
                   " อะไร? " แต่น้ำเสียงของออสตินไม่ได้ดีขึ้นเลยสักนิด...
                   " ก็.. เอ่อ.. ไปตรวจที่ประตูนิดหน่อยน่ะ.. " เขารู้สึกเสียใจนิดหน่อยที่ไม่เป็นตามที่คาดไว้
                   " อ้อ... จริงสิ.. เกือบลืมไปเลย "

                   ชายผมแดงยืนขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูผ่อนคลายลง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับเซฟิรัส
                   ทั้งสองรีบเดินไปที่ประตูโดยไม่รอช้า เพราะเวลานี้ก็ใกล้จะเป็นเวลาที่ห้ามคนเข้า-ออกแล้วเสียด้วย..
                   ประจวบเหมาะพอดี เมื่อพวกเขามาถึงก็เป็นเวลาที่ห้ามคนเข้า-ออก พวกทหารเห็นทั้งสองก็ทำความเคารพ ชายผู้เป็นหัวหน้ายกมือเป็นสัญญาณว่าให้กลับไปทำหน้าที่ต่อ ทหารทั้งสองนายจึงเอามือลง
                   
                   " ตอนนี้เป็นไงบ้าง ยังมีคนเข้า-ออก นอกเวลาอยู่อีกมั้ย? "

                   เซฟิรัสถาม ทหารนายหนึ่งก็รายงานว่าปกติดี
                   เขาพยักหน้าและหันไปถามออสติน

                   " งั้นก็คงไม่มีอะไรแล้วแหล่ะมั้ง? กฎนายก็ออกจะเหล็กอยู่ คงไม่มีใครกล้า-- "

                   พูดยังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงกีบม้าควบมาทางประตู ทั้งสองหันไปมอง ก็พบว่าเป็นชายวัยกลางคน แต่งตัวดูภูมิฐาน กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้

                   " เปิดประตูด้วย! "

                   เขาร้องสั่ง ออสตินมองหน้าเขานิ่งๆ พวกทหารสับสน เซฟิรัสจึงบอกให้ใจเย็นๆ และอยู่เฉยๆไว้ก่อน
                   
                   " รออะไรอยู่อีกล่ะพวกชนชั้นต่ำ!? รีบเปิดประตูเมืองให้ฉันเร็วสิ! รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?! "
                   " ... ไม่รู้ "

                   ออสตินยังคงมองนิ่งๆเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความไม่ชอบใจในตัวผู้ชายคนนี้
                   ชายวัยกลางคนพยายามสูดหายใจเข้าลึกและลงจากม้า พร้อมกับเดินตรงดิ่งเข้ามาหาออสติน แต่ถูกเซฟิรัสเข้ามาขวางไว้ไม่ให้เข้าใกล้เกินไปเสียก่อน

                   " หึ.. งั้นจะบอกให้เอาบุญแล้วกันนะ.. ฉันเนี่ย.. มีศักดิ์เป็นถึงน้าของ 1 ใน 10 ขุนนางระดับสูงสุดเชีนวนา~~ เอาละ.. ที่นี้จะให้ฉันเข้าไปได้รึยังล่ะ? "

                   เขาเหยียดยิ้มออกมาเหมือนผู้มีชัย ออสตินก้มหน้าลงเล็กน้อย แต่ยังไม่ละสายตาไปจากชายคนนั้น
                   
                   " เปิดประตู "
                   " หา?! "
                   
                   ทั้งเซฟิรัสและทหารทั้งสองถึงกับอุทานด้วยความตกใจ บรรยากาศกลับมาเงียบอีกครั้ง

                   " เปิดประตูเดี๋ยวนี้ "
                   " ไม่ได้ยินที่เจ้านายพวกแกสั่งรึไง? เปิดประตูสิ! " ชายวัยกลางคนนั้นตะโกนสั่งอย่างกับเป็นเจ้านาย นั่นยิ่งเพิ่มความไม่พอใจให้ออสตินขึ้นไปอีก

                   " ฉันจะไม่ทนแล้ว... ทหาร! "

                   ทหารทั้งสองเปิดประตูได้ไม่ถึงไหนก็ต้องรีบวิ่งเข้ามาหาออสตินผู้เป็นนาย ชายผมแดงหันไปมองทั้งสองด้วยสีหน้าและน้ำเสียงอันดุดันและน่ากลัว ก่อนจะหันมามองชายวัยกลางที่อ้างว่าตัวเองเป็นน้าของ 1 ใน 10 ขุนนางที่กำลังทำน้างงๆ ปนหวาดกลัว เพราะสายตาของออสติน

                   " จับตัวเจ้านี่เอาไว้! "
                   " ข.. ขอรับ! "

                   ถึงจะตกใจในคำสั่ง แต่ก็จำต้องรับคำ และเข้าไปรวบตัวเจ้าคนอวดดีมาคุกเข่าหน้าชายร่างเล็ก ที่มีศักดิ์เป็นถึงแม่ทัพฝ่ายเหนือ มีอำนาจทางการทหารและการลงโทษผู้คนที่ผิดระเบียบ.. ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างจะมีอำนาจอยู่ในระดับหนึ่ง... แต่ ณ ตอนนี้ ขณะนี้ เขามีอำนาจมากที่สุด

                   " ลงโทษในความผิด 'เข้า-ออกประตูเมืองนอกเวลาที่กำหนด' ... ไม่ต้องกังวลไป เพราะฉันจะลงโทษมันเอง! เซฟิรัส! ไปเอากระบองมาเดี๋ยวนี้! "
                   " รับทราบ! "

                   ถึงจะรู้สึกแปลกตอนที่ถูกออสตินเรียกชื่อเต็ม แต่เขาก็รีบวิ่งไปหยิบอาวุธลงโทษมาให้ออสตินอย่างรวดเร็ว
                   ทันทีที่มือของเขาจับกระบอง ก็เกิดเป็นน้ำแข็งตรงบริเวณที่เขาจับ แล้วลามไปทั้งกระบองอย่างรวดเร็วตามอารมณ์โกรธ

                   " ดีมาก นายไปมัดเขาเอาไว้ เอาให้แน่นที่สุด.. ส่วนนายสองคน.. ไปตามคนอื่นๆมาดูเป็นเยี่ยงอย่าง "
                   " เอ่อ.. ขอรับ! "
                   
                   แล้วนายทั้งสองก็รีบวิ่งไปตามทหารนายอื่นๆให้มาดูชายคนนี้เป็นเยี่ยงอย่าง
                   ออสตินทำการฟาดกระบองลงไปที่ตัวของชายคนนั้นไม่ยั้ง เสียงร้องของเขาในแต่ละครั้งประสานกลับเสียงกระบองฟาด ทำให้ทหารที่วิ่งเข้ามาดูถึงขั้นหวาดผวากับฤทธิ์เดชของกระบองอันนี้เลยทีเดียว

                   แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับพวกขุนนางมากเลยทีเดียว
                   ออสตินก็ชักจะเริ่มทนไม่ได้กับการกระทำของเหล่าขุนนางทั้ง 10 จึงขอลาออก เช่นเดียวกับสตีเฟ่น
                   ตัวเขาและเซฟิรัสประหลาดใจมากที่สตีเฟ่นขอลาออก เพราะตำแหน่งในตอนนี้เป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างมีอำนาจพอสมควร แต่พอถามเหตุผลแล้วถึงได้เข้าใจว่า สตีเฟ่นเองก็โดนดีเช่นเดียวกัน เขารำคาญปนเอือมระอาจึงลาออก เพราะไม่รู้จะอยู่ไปทำไม
                   
                   หลังจากที่ลาออกเรียบร้อย ออสตินและเซฟิรัสที่ตัดสินใจลาออกตามกันก็เดินทางกลับบ้านเกิด ไปใช้ชีวิตอย่างปกติที่บ้าน
                   พ่อของออสตินก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเขาเข้าใจดีว่าพวกขุนนางพวกนั้นน่ารำคาญมากแค่ไหน
                   ออสตินใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อย และสังสรรค์กับเพื่อนๆทุกวัน

                   " เฮ้อ.. ไม่รู้ทำไมคนที่ตั้งเป้าหมายไว้ในชีวิตอย่างดิบดี กลับต้องมาเมาแอ๋แบบนี้นะ? " เซฟิรัสเอ่ยขึ้นมาลอยๆขณะที่ขี่ม้าไปส่งออสติน โดยให้คนตัวเล็กนั่งกอดเขาจากด้านหลัง
                   " หึหึ.. นายกลัวว่าฉันจะนอกลู่นอกทางหรอ? เซฟี่?~ " มือเล็กข้างหนึ่งเอื้อมมาสัมผัสแก้มของเซฟิรัสอย่างเบามือ ทำเอาเซฟิรัสถึงกับไปไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก
                   " เอ่อ.. ก็... "
                   " อย่ากังวลไว้เลยน่า.. ฉันก็แค่ถอยมาตั้งหลักแค่นั้นเอง.. "
                   " ให้มันจริงเถอะน่า... เออนี่.. นายว่าอยากจะไปหาหมอดูชื่อดังใช่มั้ยล่ะ? ได้ข่าวว่าเขาอยู่บ้านนี่ จะไปหามั้ยล่ะ? "
                   
                   ชายร่างสูงกล่าวอย่างไม่ค่อยเชื่อใจเท่าไหร่ พลางเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างรวดเร็ว
                   
                   " หืม?... ก็เอาสิ.. แต่ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน.. เพราะถ้าฉันไปทั้งสภาพแบบนี้คงตลกน่าดู "

                   ออสตินที่ไม่รู้จะพูดอะไรดีก็เลยพยักหน้ารับคำ แถมคำพูดติดตลก เซฟิรัสขำเล็กน้อย ก่อนบังคับม้าให้รีบมุ่งหน้าไปบ้านของออสตินโดยเร็ว

                   .
                   .
                   .

                   เช้าวันต่อมา
                   หลังจากที่หมอดูได้ดูโหงวเฮ้งให้ออสตินแล้ว เขาก็ยึกๆยักๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
                   จนเซฟิรัสเริ่มรำคาญจึงบอกให้เขาทำนายเสียที

                   " พ่อหนุ่มแน่ใจนะ? ที่จะฟังคำทำนายน่ะ? "
                   " แน่สิครับ... ทำไมหรอครับ? มันแย่มากเลยหรอ? "
                   " อืม... ถ้าอยากฟังก็พูดให้ฟังแล้วกันนะ.. "

                   " ยามสงบ เจ้าจะเป็นขุนนางฉลาด ยามศึก จะเป็นวีรบุรุษที่เก่งกล้า แต่ตัวเจ้าจะเป็นภัยต่อราชวงศ์ "

                   เป็นภัยต่อราชวงศ์....?

                   เซฟิรัสสะดุ้ง พลางทวนคำในใจอัตโนมัติ...
                   เขาชักจะกังวลแล้วสิ
                   กังวลว่าหมอดูคนนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อออสตินฟังคำทำนายจบ

                   " หึหึ... "
         
                   แต่เสียงหัวเราะอันเยือกเย็นของชายร่างเล็กที่เขาคุ้นเคยก็ดังขึ้น จนทั้งตัวเขาและหมอดูก็งุนงนปนตกใจพร้อมกัน

                   " หึหึ... ฮะๆๆ... ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!! "

                   ออสตินระเบิดเสียงหัวเราะออกมา พร้อมกับยืนขึ้น เขาวางเงินจำนวนหนึ่งให้กับหมอดูคนนั้นแล้วเดินออกไป ทำให้เซฟิรัสรีบเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้
                   
                   ออสตินเป็นอะไรไปนะ?

                   เขานึกพลางตรงดิ่งไปขึ้นมาและควบเหยาะตามออสตินไปโดยเร็ว

                   à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคั่น png
             
                   สวัสดีค่ะะะ รีดเดอร์ที่รักทุกๆคนนน
                   ขอโทษที่มาช้านะคะะ(และสั้นด้วยค่ะ ; w ;) //กราบสวยๆแบบเด็กประกวดมารยาทไทย(?)//
                   ตอนนี้ก็... แต่งมึนๆไปอีกตอน ถถถถ
                   เมาจริงๆค่ะ เนื่องจากว่าต้องเอาส่วนของเกม มาผสมกับเนื้อเรื่องหลักๆจากนิยาย ทำให้มันออกมาดูมึนๆนี่แหล่ะค่ะ 5555555555555555
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×