เทพอพอลโล

ลำดับตอนที่ #5 : อันดรอเมด้า กาแล้กซี่ที่งามที่สุด

ในกลุ่มดาว อันดรอเมด้า จะมีแกแล้กซี่ที่มีชื่อมากที่สุด คือ กาแล้กซี่อันดรอเมด้า(วงรีสีน้ำเงินในผัง) ในชื่อเดียวกัน ในรายการเทหวัตถุบนฟากฟ้าที่เก่าแก่ที่สุด โดย เมซีเยร์ ก็เรียกกาแล้กซี่นี้ว่า M31 คือวัตถุเมซีเยร์ ที่ ๓๑

อันดรอเมด้ากาแล้กซี่นี่เป็นกาแล้กซี่ที่ใหญ่ที่สุดใน กลุ่มกาแล้กซี่ท้องถิ่น (Local Groups) ซึ่งประกอบด้วยกาแล้กซี่ประมาณ ๓๐ กาแล้กซี่ โดยมี อันดรอเมด้าอยู่ไกลที่สุด คือ ๒.๙ ล้านปีแสง และ อันดรอเมด้า เป็นกาแล้กซี่ที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มท้องถิ่น รองลงมา คือ กาแล้กซี่ทางช้างเผือกของเรา อันดับสามคือ กาแล้กซี่ Large Magellanic Clouds) แต่ความที่ อันดรอเมด้า มีขนาดใหญ่กว่า กาแล้กซี่อื่น จึงมองเห็นได้ง่ายด้วยตาเปล่า คนเรารู้จัก กาแล้กซี่อันดรอเมด้า กันมานานก่อนที่จะมีกล้องดูดาวเสียอีก เชื่อกันว่า พวกอาหรับรู้จักกันก่อน เพราะมีหลักฐานบันทึกที่กล่าวถึงเมื่อประมาณพันปีกว่ามาแล้ว โดยมีหลักฐานของนักดูดาวชาวเปอร์เซียน เรียกกาแล้กซี่นี้ว่า "ก้อนเมฆน้อย" ที่บันทึกไว้ใน ค.ศ. ๙๐๕ และมีปรากฏในแผนที่ดาวของชาวดัทช์ตั้งแต่ ค.ศ. ๑๕๐๐

กาแล้กซี่นี้ ยังมีกาแล้กซี่เล็กขนาบอยู่สองกาแล้กซี่ คือ M32 และ M110 ในคืนฟ้าเปิด และมืดมากพอ เราสามารถมองเห็นกาแล้กซี่อันดรอเมด้าได้ด้วยตาเปล่า หากใช้กล้องส่องทางไกล ก็อาจมองเห็นกาแล้กซี่เล็กทั้งสองได้

ส่วนชะตากรรมตัวละครอื่นๆ ในเรื่องที่อันดรอเมด้า ของเราเป็นนางเอกนั้น เมื่อต่างสิ้นชีวิตลงแล้ว พวกนางนิมฟ์เนเรียดส์ที่ยังไม่หายเจ็บใจ ก็ยังไม่ยอมเลิกราวีผู้ที่ลบหลู่ความสวยของตน ต่างก็พากันเก็บรักษาความเป็นเดือดเป็นแค้นที่มีต่อ ราชินี แคสซีโอพายย่า มารดาของเจ้าหญิงอันดรอเมด้า จึงไปร้องเรียน เทพเซอุส ให้ลงโทษ ราชินีแคสซีโอพายย่า ชั่วนิรันดร์ ด้วยการจับตรึงกับบัลลังก์ ให้ห้อยหัวลงบนท้องฟ้าเพื่อประจานนาง ปีละ ๖ เดือน แล้วจึงปล่อยให้ทรงบัลลังก์สมเกียรติราชินีต่อไปอีกปีละหกเดือน

กลุ่มดาวกลุ่มนี้ คือที่คนไทยเรียกว่า กลุ่มดาวค้างคาวนั่นเอง ดูเหมือนตัว W เห็นได้ชัดในท้องฟ้าทิศเหนือ เนื่องจากเป็นกลุ่มดาวที่อยู่ค่อนไปทางเหนือมาก สำหรับคนที่อยู่ในละติจูดสูงๆบนโลก จึงเห็นดาวกลุ่มนี้ได้ตลอดปี เพราะไม่ตกดิน และวนไปรอบๆดาวเหนือ

ส่วนกษัตริย์ เซฟเฟียส ก็ได้รับการสถาปนาให้สถิตย์อยู่บนฟากฟ้าเช่นกัน เป็นกลุ่มดาวเซฟเฟียส ที่ไม่ค่อยสว่างนัก คล้ายๆบ้านหลังคาจั่วทรงสูง หรือโบสถ์คริสต์ อยู่ในระดับเดียวกับ กลุ่มดาวแคสซีโอพายย่า เช่นกัน เนื่องจากบริเวณกลุ่มดาว เซฟเฟียสนั้น ไม่มีดาวอื่นใดมากนัก จึงหากลุ่มดาวนี้ได้ง่าย หากฟ้าอำนวย

ชาวจีนก็มีตำนานของกลุ่มดาวนี้เช่นกัน โดยเรียกกลุ่มดาวนี้ว่า Tsao Fu ผู้เป็นสารถีมีชื่อ ราว ๙๕๐ ปีก่อนคริสตศตวรรษ

ส่วนชาวอาหรับโบราณ ก็มองเห็นเป็นคนเลี้ยงแกะ หมาเลี้ยงแกะ กับแกะของเขา

ส่วน ม้ามีปีก เพกาซุส เมื่อเกิดมาแล้วก็บินจากไป ไปมีเรื่องราววีรกรรมของตนเอง ซึ่งจะไว้เล่าต่อไปในโอกาสหน้าอีกครั้ง