คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [Spoil] Nurarihyon no Mago - 26
เปิดเรื่องมาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งคุณยายของโทริอิ หนึ่งในสมาชิกชมรมศึกษาเรื่องปีศาจ พักรักษาตัวอยู่
"โอ้....นัตสึจังเองเหรอ แล้วก็คุณมากิด้วย อุตส่าห์มาเยี่ยมเหรอ"
ผู้เป็นยายเอ่ยทักทายหลานสาวและเพื่อนของเธอ
"เย่ แค่ฮิบาริจังสบายดีก็ดีแล้วล่ะ"
มากิเอ่ยทักทายคุณยายของเพื่อนอย่างร่าเริงราวกับเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันก็ไม่ปาน
หลังจากวางของเสร็จ โทริอิ ก็หยิบนกกระเรียนกระดาษพันตัวที่ตัวเองกับมากิช่วยกันพับ
ขึ้นมาอวดให้คุณยายดู คุณยายมองของขวัญจากหลานสาวด้วยรอยยิ้ม แล้วบอกว่า
ถ้าจะแบ่งส่วนหนึ่งไปให้ "ท่านเซ็มบะ"(Senba Sama) ด้วยจะได้ไหม
พอหลานสาวทวนคำอย่างงงๆ คุณยายฮิบาริเลยอธิบายให้ฟังว่า ท่านเซ็มบะ
เป็นเทพที่คอยปกป้องดูแลพื้นที่แห่งนี้นั่นเอง
อีกด้านหนึ่ง เหล่าปีศาจจากชิโกกุก็กำลังหารือกันเพื่อหาทางโจมตีกลุ่มนูระอยู่ในห้องประชุมที่อยู่ชั้นบนสุดของตึกสูงแห่งหนึ่ง
"อินุงามิเกียวบุ ทามาสึกิ" หัวหน้ากลุ่มแปดสิบแปดปีศาจกำลังเล่าให้เหล่าลูกน้องของตนฟังถึง "มุจิ" ลูกน้องที่ส่งไปให้จัดการกับท่านปู่นูราริเฮียงว่า
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมุจิ แต่เท่าที่ได้ยินมา ดูเหมือนว่าหัวหน้าใหญ่ของกลุ่มนูระจะ "หายสาบสูญ"ไป
อินุงามิเกียวบุบอกว่าถึงตอนนี้ทุกอย่างจึงเป็นไปตามแผน และขอให้ทุกคนปรบมือให้เกียรติแก่มุจิด้วย
และหลังจากทำให้หัวหน้าใหญ่ของกลุ่มนูระหายสาบสูญไปได้
หัวหน้าปีศาจแห่งชิโกกุก็อธิบายถึงแผนขั้นต่อไปว่าสำหรับกลุ่มนูระที่เป็นตระกูลปีศาจใหญ่ในคันโต มีพวกที่มีฝีมือเก่งๆอยู่มากก็จริง
แต่แท้จริงแล้วผู้ที่ทำให้ผู้คนเกรงกลัวได้นั้นคือพวก "เจ้าที่" มากกว่า
และแผนของอินุงามิเกียวบุก็คือ จัดการพวกเจ้าที่ในสังกัดของกลุ่มนูระออกไปเสียก่อน
ตอนนั้นเองที่ "โซเดะโมกิซามะ" (Sodemogi Sama- ท่านผู้ดึงแขนเสื้อ) ปีศาจที่เหมือนตุ๊กตาหินสวมเสื้อฟางกันฝน
ก็ออกมาอาสาจะจัดการกับเหล่าเจ้าที่ของเขตคันโตเอง
"ข้าจะเปลี่ยนให้ผู้คนหันมาเรียกชื่อของข้าแทนชื่อของเหล่าเจ้าที่ในคันโตเอง"
ปีศาจจากเกาะชิโกกุอันห่างไกลประกาศ
ความสามารถของ โซเดะโมกิ ก็คือคำสาป หากโดนจับแขนเสื้อเข้าแล้ว ถ้าไม่สละแขนเสื้อ
ข้างนั้นให้เสีย ก็จะต้องคำสาปจนตาย แม้แต่ปีศาจในกลุ่มเดียวกัน ยังต้องเกรงกลัวกับพลังอำนาจของโซเดะโมกิไม่น้อยเลยทีเดียว
และหลังจากตกลงหน้าที่กันเรียบร้อย อินุงามิเกียวบุก็ชวนให้ทุกคนเติมพลังกันก่อนออกรบ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทั้งหมดต่างเป็นปีศาจจากชิโกกุ แหล่งผลิตอุด้งอันลือชื่อของญี่ปุ่นหรืออย่างไร
แต่บนโต๊ะในห้องประชุมก็มีอุด้งเรียงราย ให้ปีศาจแต่ละตนกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะแยกย้ายกันไปปฏิบัติตามแผนการโค่นล้มกลุ่มนูระ
ทางด้านกลุ่มนูระที่เหลือแต่ริคุโอะเป็นผู้ดูแลสั่งการ ก็มีรายงานถึงความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพราะ
ปีศาจต่างถิ่นเข้ามาจากหลายมุมเมือง
ริคุโอะรู้ว่าต้องเป็นฝีมือของเด็กชายคนที่เข้ามาประกาศความเป็นศัตรูกับตนเมื่อตอนเย็นเป็นแน่
ตอนนั้นเองที่การาสุเท็งงูก็โผล่ออกมาแล้วรายงานทั้งน้ำตาว่าตามหาตัวท่านปู่ไม่พบ
ทั้งยังตีตนไปก่อนไข้ต่างๆนานา ซึ่งก็ไม่ใช่แค่การาสุเท็งงูคนเดียว แต่ตอนนี้เหล่าปีศาจในเครือกลุ่มนูระก็พากันระส่ำระสายไปตามๆกัน
พวกคุบินาชิพยายามจะปลอบให้ทุกคนสงบ แต่เหล่าปีศาจที่เป็นเจ้าที่ก็ร้องว่า
นี่เป็นปัญหาความเป็นความตายของพวกตนเลยทีเดียว
"แค่นี้ผู้คนก็ไม่เกรงกลัวในตัวพวกเราอยู่แล้ว แล้วแบบนี้จะเป็นยังไงล่ะขอรับ!!"
เมื่อเห็นเหล่าลูกน้องพากันขวัญหนี โมคุเกียวดารุมะ ผู้เป็นเสมือนมือขวาของท่านปู่นูราริเฮียง
จึงประกาศว่าตนจะรับหน้าที่เป็นตัวแทนกลุ่มนูระในเวลาที่หัวหน้าใหญ่ไม่อยู่ให้เอง
แต่ผลที่ได้กลับเป็นการเพิ่มความกลัวให้กับปีศาจชั้นผู้น้อยเข้าไปใหญ่เมื่อได้ยินว่า
ท่านปู่นูราริเฮียงไม่อยู่ให้เป็นที่พึ่งในยามวิกฤตเช่นนี้ ปีศาจแต่ละตนยิ่งขวัญกระเจิง
ทำท่าจะหนีไปให้ไกลก่อนจะถูกปีศาจต่างถิ่นจัดการ
แต่ตอนนั้นเอง เสียงอันเด็ดขาดของริคุโอะก็ห้ามทุกคนไว้
"ปีศาจน่ะ จะมาสติแตกแบบนี้ได้ยังไง!!"
เสียงของนายน้อยทำให้เหล่าปีศาจหยุดชะงัก
"ปีศาจน่ะ เป็นพวกที่ต้องทำให้มนุษย์กลัวไม่ใช่เรอะ"
และเมื่อหันมา ทุกตนก็เห็นริคุโอะกำลังยืนกอดอกด้วยท่าทางสุขุม
"ปู่น่ะก็แค่ไปเที่ยวเล่นที่ไหนเท่านั้นล่ะน่า ที่แน่ๆตอนนี้ศัตรูน่ะก้าวเข้ามาเหยียบในเขตเราแล้ว
ถ้าหากเข้ามา ก็แค่ไล่ออกไปเท่านั้นแหละ"
หลังจากทำให้ทุกคนสงบลงได้
ริคุโอะก็ประกาศก้อง
"ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป กลุ่มนูระน่ะ ผมจะเป็นคนดูแลเอง!!"
ตัดกลับมาอีกด้าน ที่โรงพยาบาลตอนต้นเรื่อง โทริอิกับมากิ กำลังเดินหาศาลเจ้าของท่านเซ็มบะ
เทพผู้เป็นเจ้าที่ของแถบนี้ตามคำบอกเล่าของคุณยายของโทริอิกันอยู่
หลังจากหาอยู่ไม่นาน สองสาวก็พบ โทริอิจึงเอานกกระเรียนกระดาษที่พับไปไหว้ท่านเซ็มบะ
พร้อมทั้งขอให้คุณยายของตนหายป่วยไวไว
ศาลของท่านเซ็มบะดูเก่าและไม่ได้รับการดูแล แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่โทริอิกับชิมะมองไม่เห็นก็คือ
ท่านเซ็มบะผู้นั้นกำลังเฝ้ามองพวกเธออยู่ ด้วยปีกที่เหมือนกับนกกระเรียนกระดาษ ท่านเซ็มบะลอยอยู่บนอากาศแล้วฟัง
คำอธิษฐานของเด็กสาว พร้อมกับนึกถึงชื่อ "ฮิบาริ" ของคุณยายของโทริอิ ที่ฟังดูคุ้นหูเหลือเกิน
หากว่าตอนนั้นเองที่ โซเดะโมกิ ปีศาจต่างถิ่นคว้าหมับเข้าให้ที่แขนเสื้อของโทริอิ
พร้อมทั้งพูดด้วยเสียงหัวเราะอันน่ากลัวว่า
"มาขอเทพที่ถูกทอดทิ้งแบบนี้ไปก็ไม่ได้ผลหรอก เปลี่ยนมาเรียกชื่อของข้าแทนดีกว่า
ข้า ท่านโซเดะโมกิยังไงล่ะ"
***********
นายน้อยจะหยุดยั้งการจ้องทำลายจากระดับรากหญ้าของ
ขบวนแปดสิบแปดปีศาจจากชิโกกุได้หรือไม่ โปรดติดตาม...
ปีศาจกับเทพ
อันที่จริง คำว่า "โยไก" ที่เอาไว้เรียกพวกปีศาจในเรื่อง เป็นคำที่เอาไว้เรียกวิญญาณที่ไม่ใช่วิญญาณของมนุษย์ค่ะ (วิญญาณของมนุษย์เรียกว่า "ยูเร" อะไรที่นอกเหนือจากนั้นเรียกว่าโยไก)
เทพบางองค์ที่ได้รับการตั้งศาล เดิมทีอาจจะเป็นโยไก เป็นวิญญาณที่ผู้คนเกรงกลัว จึงได้ตั้งศาลบูชา เพื่อให้ท่านพอใจ และคอยคุ้มครองพวกตน
"โยไก" จึงไม่ใช่ "ปีศาจ"เสมอไป แ่ต่อาจจะเป็น "เทพ"สำหรับคนในท้องถิ่นนั้นๆก็ได้
ตัวอย่างง่ายๆก็คือ "จิ้งจอก" ค่ะ
หลาจี่เอย ทามาโมะ โน มาเอะเอย ต่างเป็นปีศาจจิ้งจอกที่นำความเดือดร้อนมาให้
แต่ในขณะเดียวกัน หลายท้องถิ่น จิ้งจอกก็คือเทพผู้คุ้มครอง
ถ้าหากใครได้ดูอนิเมเรื่อง wagaya no oinarisama คงพอนึกออก
"Tenko"ในเรื่องนั้นคือเทพจิ้งจอกที่คอยคุ้มครองพระเอกและครอบครัว
และคำว่า "อินาริ" ใน "โออินาริซามะ" ก็หมายถึงจิ้งจอกนี่ล่ะค่ะ
หากไปเจอศาลเจ้าไหนที่มีคำว่า "อินาริ" อยู่ในชื่อ ก็รู้ได้เลยค่ะว่าศาลเจ้านั้นๆบูชาเทพจิ้งจอก
ดังนั้น "โยไก" จึงเป็นได้ทั้งเทพ ทั้งปีศาจ แล้วแต่ว่าคนจะมองว่ายังไงค่่ะ
แล้วก็ เชื่อกันว่าจิ้งจอกชอบกินเต้าหู้ทอดค่ะ "อินาริซูชิ" จึงหมายถึงซูชิที่เป็นข้าวห่อด้วยฟองเต้าหู้ทอด
ส่วน คิทสึเนะอุด้ง/โซบะ (คิทสึเนะแปลว่าจิ้งจอก) ก็เลยเป็นอุด้ง/โซบะที่มีเต้าหู้ทอดเป็นเครื่องเคียง
ความคิดเห็น