ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกมพิศวาส

    ลำดับตอนที่ #4 : ทำความรู้จัก

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 66


    การสัมภาษณ์งานผ่านไปด้วยดี เธอจะได้เริ่มงานในแผนกการตลาดตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เมื่อพอเธอเดินออกมาจากแผนก ก็เจอณัฐพลยืนดักอยู่

    “คุณ...ท่านประธาน” ทิพย์เทวีแสร้งทำเสียงนอบน้อม

    “คุณรู้หรือครับ ว่าผมเป็นใคร”

    “ก็นามบัตรที่คุณให้ไว้ไงคะ”

    “อ๋อ จริงสิครับ เอ่อ...ผมรู้มาว่าคุณมาสมัครงานที่แผนกการตลาด”

    “ค่ะ เริ่มงานพรุ่งนี้ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” ทิพย์เทวีพยายามทำตาใสซื่อไร้เล่ห์กลใส่เขา

    “เอ่อ...ถ้าไม่รังเกียจ ขอผมเลี้ยงกาแฟคุณสักแก้วได้ไหมครับ เป็นการขอโทษเรื่องที่สนามบิน” ณัฐพลพยายามหาโอกาสใกล้ชิดกับเธอ ซึ่งเขาเริ่มจะสนใจ....

    “แต่จริงๆ ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่คะ แล้ว....กลัวใครจะหาว่าฉันประจบหรือว่าเล่นเส้นสาย ไปทานกาแฟกับว่าที่เจ้านายตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มงานแบบนี้” ทิพย์เทวีแกล้งมีฟอร์ม

    “นะครับ อย่าปฏิเสธผมเลย”

    “พูดขนาดนี้ ก็ไม่ปฏิเสธหรอกค่ะ เดี๋ยวคุณโกรธไม่รับฉันเข้าทำงานจะทำไงล่ะคะ”

    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ งั้นเราไปกันเถอะครับ”

    ...

    เมยาวดีถ่ายละครเสร็จพอดี ก็รีบขับรถมาหาคู่หมั้นหนุ่มที่บริษัท เธอมักจะมาชวนเขาไปทานข้าวด้วยบ่อยๆถ้าว่าง เช่นเดียวกับวันนี้

    “คุณเมย่าสวัสดีค่ะ มาหาท่านประธานเหรอค่ะ” เลขาสาวหน้าห้องเอ่ยถาม

    “ค่ะ นัทอยู่ในห้องรึเปล่าคะ”

    “คือท่านออกไปแล้วค่ะ”

    “แย่จริง ออกไปที่ไหน แล้วนานรึยังคะ”

    “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ดูเหมือนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ”

    ...

    ในตอนนั้น ณัฐพลพาผู้หญิงที่เขาพึ่งรู้จักไปทานอาหารในร้านหรู แทนการดื่มกาแฟอย่างที่ชวนในทีแรก ด้วยเหตุผลว่า ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว เพื่อให้ได้ใกล้ชิดหญิงสาวมากขึ้น...

    ณัฐพลไม่ใช่คนที่จะหลงใหลผู้หญิงคนไหนง่ายๆนัก แต่คนตรงหน้ากลับทำให้หัวใจของเขาเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะเข้าให้แล้ว

    ”เป็นอะไรไปคะ เห็นมองแต่หน้าฉัน หรือเห็นหน้าฉันแล้วทานไม่ลง” ทิพย์เทวีเอ่ยถามขึ้น หลังสังเกตมานาน

    “ไม่ใช่นะครับ ขอโทษทีครับ ที่เสียมารยาทมองแต่หน้าคุณ” ณัฐพลพูดด้วยความเขิน

    แล้วตอนนั้นโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มก็ดังขึ้น ชื่อที่แสดงทำให้เขาดึงตัวเองกลับมาได้ว่า ตัวเองมีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนอยู่ ไม่ควรจะหลงเสน่ห์สาวไหนอีก

    “ฮัลโหล นัทอยู่ไหนคะ เมย่าอุตส่าห์จะมาชวนไปทานข้าวด้วย” น้ำเสียงของเธอแสดงถึงอาการงอน

    “เมย่าอยู่ที่บริษัทเหรอ”

    “ใช่สิคะ นัทอยู่ไหนล่ะคะ เดี๋ยวเมย่าจะไปหา”

    “เออ...อย่าเลยนะ เมย่า ผมเจอเพื่อนเก่าน่ะ คงไม่สะดวก”

    “ผู้ชายหรือผู้หญิงคะ”

    “โธ่ เมย่า อย่าระแวงผมเลยนะ”

    “ก็ได้ค่ะ แต่เย็นนี้พาเมย่าไปทานข้าวบ้านนัทด้วยนะคะ ไม่งั้นเมย่าโกรธจริงๆด้วยนะ”

    “ได้ครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ”

    ณัฐพลวางสายอย่างโล่งใจ เขาไม่ค่อยได้โกหกคู่หมั้นสาวนัก และเป็นคนโกหกไม่เก่งด้วย

    “แฟนโทรมาหาหรือคะ”

    “ก็...ครับ”

    “ท่าทางคงหึงมากสินะคะ ถึงไม่กล้าบอกว่า ทานข้าวอยู่กับสาว”

    “อย่าคิดมากเลยครับ ไม่มีอะไรหรอก เมย่าเขามีเหตุผล ถึงรู้จริง เขาก็คงเข้าใจ”

    “เมย่า....เอ๊ะ ใช่นางเอกชื่อดังรึเปล่าคะ” ทิพย์เทวีแกล้งถามขึ้น

    “อ๋อ ครับ”

    “ดูเข้ากันจังนะคะ นางเอกสาวสวย กับไฮโซหนุ่มรูปหล่อ แล้วแบบนี้ สาวจนๆอย่างฉันเนี่ย จะไปหาหนุ่มดีๆได้ที่ไหนกัน” ทิพย์เทวีทำเป็นตัดพ้อ

    “พูดอะไรอย่างนั้นครับ คุณทิพย์ออกจะสวย การศึกษาก็สูง คงมีหนุ่มๆมารอจ่อคิวเป็นแฟนกันจนล้น” ณัฐพลพูดปลอบใจเธอ

    “ขอบคุณนะคะที่ชมว่าฉันยังมีสิ่งดีๆ....ว่าแต่เรื่องสวยเนี่ย สวยพอจะทำให้คุณเปลี่ยนใจจากคุณเมย่าได้รึเปล่าคะ”

    ชายหนุ่มอึ้งไปกับคำถามนั้น หญิงสาวยังคงทำหน้าตาใสซื่อ จนเขาดูไม่ออกว่า เธอรู้สึกยังไงกันแน่

    “ฉันล้อเล่นน่ะค่ะ ฉันไม่กล้าเอาตัวไปเทียบกับคนอย่างคุณเมย่าหรอก” ทิพย์เทวีทำหน้าสลดลง

    “เป็นอะไรรึเปล่าครับ”

    “ไม่ค่ะ เดี๋ยวเรารีบกลับกันดีกว่านะคะ คุณเมย่าจะได้ไม่สงสัยมากไงคะ”

    “งั้นเดี๋ยวผมไปส่งนะครับ”

    “อย่าเลยค่ะ แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว” ทิพย์เทวีแสดงท่าทางเจียมตัว ข้างในแอบยิ้มอย่างได้ใจ ที่แผนการดำเนินไปได้ดีกว่าที่คิดเสียอีก...

    ...

    พอเลิกงาน ณัฐพลก็ไปรับคู่หมั้นสาว มาทานข้าวที่บ้านของเขา

    พ่อของเขาเสียไปได้ 3 ปีแล้ว ทำให้เขาต้องรับตำแหน่งประธานบริษัทเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ส่วนแม่ของเขาก็ป่วยด้วยโรคหัวใจ ที่เขายอมหมั้นกับเมย่า ส่วนหนึ่งก็เพราะคำขอร้องของแม่เขานี่เอง

    “มาแล้วหรือคะ พี่นัท....พี่เมย่า ก็มาด้วยหรือคะ” หญิงสาวเปลี่ยนสีหน้าจากดีใจ เป็นไม่พอใจอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเปลี่ยนกลับมาอย่างเดิมอีก เพื่อไม่ให้พี่ชายสังเกตเห็น

    พิมพ์ศศิธรเป็นน้องบุญธรรมของณัฐพล พ่อแม่ของเธอเสียตั้งแต่เธอยังเด็ก แม่ของณัฐพลจึงรับเธอมาอุปการะเหมือนลูกแท้ๆ เธอร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็กด้วยโรคหอบหืด และทำให้เธอแทบไม่ได้เรียนในโรงเรียน และตอนนี้เรียนจบแล้วก็ได้แต่อยู่บ้านเฉยๆ ทั้งคู่สนิทกันมาก มากซะจน...ใครคนหนึ่ง คิดมากเกินกว่าพี่น้อง

    “สวัสดีค่ะ น้องพิมพ์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ ดูซูบลงตั้งเยอะ” เมยาวดีทักทายด้วยความเกลียดชัง เธอรู้ดีว่า คนตรงหน้าไม่ชอบเธอ และเธอก็รู้สึกไม่ต่างกัน

    “แล้วพี่เมย่าทำไมชอบมาบ้านพิมพ์นักคะ” น้องสาวยังไม่วายหาเรื่องคู่หมั้นพี่ชายต่อ

    “พี่ก็มาทานข้าวด้วยน่ะสิ มาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น เพราะอีกไม่นาน พี่ก็ต้องมาเป็นสะใภ้บ้านนี้ จริงไหมคะ”

    คำพูดของเมยาวดี ทำให้พิมพ์ศศิธรแทบจะทนไม่ไหว เธอจะไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนก็ตาม มาแย่งคนที่เธอรักไปได้

    “บ้านพี่เมย่าไม่มีทานรึไงคะ”

    “เอ๊ะ...”

    “พอทีเถอะ พิมพ์ไม่ควรพูดแบบนี้นะ เมย่า....อย่าโกรธพิมพ์เลยนะ ยัยพิมพ์ก็พูดไปแค่นั้นล่ะ” ณัฐพลเอ่ยปรามขึ้น

    “เมย่าเข้าใจค่ะ น้องพิมพ์หวงนัทมาก กลัวใครจะมาเอานัทไป ไม่ต้องกลัวนะ พี่ไม่แย่งไปไหนหรอกจ้ะ ไปกันเถอะค่ะนัท เมย่าอยากไปไหว้คุณป้าค่ะ” เมยาวดีแสร้งยิ้มหวานใส่ แล้วลากคู่หมั้นหนุ่มออกไป

    “เมย่า....ฉันจะต้องจัดการแกให้ได้ คอยดูนะ” พิมพ์ศศิธรพึมพำด้วยความอาฆาตแค้น

    ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×