ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ><((^> สะดุดรัก...หนุ่มนักกีฬา <^))><

    ลำดับตอนที่ #3 : นายปากร้ายกับยัยขี้วีน

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 66


     

    เวลาของการเข้าเรียนมาถึง ใจฉันเต้นระรัวไปมา ฉันสูดลมหายใจลึกๆอีกที แล้วเดินเข้ามาในห้อง

    พวกผู้หญิงกำลังรุมกลุ่มผู้ชายสองสามคน ส่วนผู้ชายคนอื่นยังไม่เข้ามาเลย รวมทั้งหนุ่มคนนั้น...

    ฉันวางกระเป๋าแล้วเอาหน้าฟุบกับโต๊ะ ใจฉันเต้นจะแตกอยู่แล้ว ฉันเป็นบ้าไปแล้วใช่มั้ยเนี่ย ยัยเอวี่ เอ๊ย

    แล้วเขาก็เข้ามา ฉันได้แต่มองอย่างอึ้งๆอยู่แบบนั้น แล้วอีกพัก เขาก็สะกิดฉัน

    “นี่ๆ เธอฝันกลางวันเหรอ” เขาเอามือมาปัดไปมาตรงหน้าฉัน

    “เปล่า”

    “แล้วทำไมฉันเรียกแล้วเธอไม่ตอบฉันสักที” เขาถามด้วยสีหน้าดูไม่พอใจนิดๆ

    “ฉันจะต้องพูดอะไรกับนายทำไม” ฉันหาเรื่องทะเลาะกับเขา มันน่าเป็นวิธีที่ทำให้เราได้คุยกันมากที่สุด

    “ก็ถ้าเธอเป็นคนมีมารยาท...” เขาพูดค้างๆไว้อย่างนั้น

    “นายจะพูดอะไรก็ไม่พูดสักทีล่ะ”

    “ตรงนี้ว่างมั้ย” เขาชี้มาที่ที่นั่งข้างๆฉัน

    “ว่าง” ฉันตอบอย่างงงๆ เขาจะนั่งเหรอเนี่ย

    “ก็ดี ฉันชอบนั่งกลางๆห้อง” เขานั่งลงไปอย่างสบายๆ พร้อมๆกับที่นักเรียนคนอื่นๆก็เข้ามาเต็มห้องแล้ว

    แล้วสักพักเล็กๆ อาจารย์นงเยาว์ก็เข้ามา...

    “สวัสดีจ้ะ นักเรียนทุกๆคน ครูยินดีต้อนรับนะสำหรับนักเรียนจากเอกกวี ขอให้นักเรียนจากนารีรัตน์ช่วยทำหน้าที่เจ้าบ้านให้ดีด้วยนะจ๊ะ.....”

    อ.นงเยาว์ยังคงพูดอะไรเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆที่จะเกิดในปีนี้อีกมากมาย แต่มันก็ไม่ได้เข้าหูฉันเลย เพราะฉันได้แต่เกร็งที่มีเขาคนนี้มานั่งอยู่ใกล้ๆ ฉันแอบมองหน้าเขาโดนการหยิบกระจกประจำตัวขึ้นมาส่องดู เขามีเสน่ห์มากๆเลย เขาทำได้ยังไงนะ ถึงทำให้ฉันเพ้อละเมอถึงเขาได้ขนาดนี้

    “เอวิตรา เอวิตรา” เสียงหนึ่งเรียกฉัน ฉันสะดุ้งสุดตัวเมื่อจำได้ว่า คือเสียงอ.นงเยาว์

    “อะไรคะ” ฉันรีบลุกขึ้นยืน

    “เธอไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยใช่มั้ย” อ.นงเยาว์จ้องหน้าฉัน

    “เออ..คือ..ฟังสิคะ”

    “แต่ฉันเห็นเธอก้มหน้างุดๆ”

    “ก็นั่นล่ะคะ หนูกำลังมีสมาธิตั้งใจฟังอยู่”

    “แปลกดีนะ..งั้นตอบมาซิ ปีนี้ห้อง 6/2 กีฬาสีอยู่สีอะไร”

    ตายแล้ว ตายแล้วฉัน แต่ละวินาทีผ่านไปอย่างช้าๆ จนฉันทำอะไรไม่ถูก เพื่อนในห้องยิ้มหยันฉันเหมือนสมน้ำหน้า ยัยเพื่อนบ้าเอ๊ย แล้วฉันยังเหลือบเห็นรอยยิ้มเยาะของนายคนข้างๆฉันด้วย...

    “ว่าไง ใบ้กินเหรอ”

    “สี..สีฟ้าค่ะ”

    “ถูก งั้นถือว่าฉันเข้าใจผิดว่าเธอไม่ได้ฟัง นั่งลงได้”

    ฉันนั่งลงอย่างโล่งอก รอดไปนะฉัน...

    “อาจารย์เข้าใจไม่ผิดหรอกครับ เธอไม่ได้ฟังที่อาจารย์พูดหรอก เพราะมัวแต่ส่องกระจกอยู่ นี่ไงครับ”

    อ๊าย ทำไมนายมันร้ายกาจเพียงนี้ ฉันแค้นนายสุดๆเลย ไอ้บ้านี่ มันดึงกระจกจากมือฉันไปชูให้อาจารย์ดู

    “เอวิตรา ฉันพอจะเข้าใจนะ ว่าผู้หญิงย่อมอยากสวยต่อหน้าผู้ชาย แต่ฉันก็อยากให้เธอทำอะไรพอประมาณซะบ้างนะ” อ.นงเยาว์มองด้วยสายตาหงุดหงิด แง้ ทำไมฉันต้องมาเจอกับผู้ชายคนนี้ด้วยนะ...

    ...

    นี่สินะ ที่เขาบอกว่ายิ่งรักยิ่งแค้น ฉันเข้าใจดีแล้ว เพราะตอนนี้ฉันอยากบีบคอนายคนนี้ให้ตายซะ

    แล้วโอกาสที่ฉันจะได้แก้แค้นนายต้าร์ (ฉันไม่ได้ถามชื่อเขาเองหรอกนะ แต่ยัยเพื่อนทั้งหลายในห้องรีบกรูกันเข้ามาถามตอนหมดชั่วโมง และฉันก็แอบได้ยินมาเฉยๆ) ก็มาถึงในชั่วโมงเคมี ฮิฮิ รู้ฤทธิ์ฉันน้อยไปแล้ว...

    “นักเรียนหยิบอุปกรณ์มาตั้งที่โต๊ะให้พร้อมนะจ๊ะ แล้วจุดตะเกียงแอลกอฮอล์รอไว้ได้เลย” อ.วิชาเคมีสั่งด้วยเสียงแหลมๆอันเป็นเอกลักษณ์

    ฉันรีบหยิบอาวุธแก้แค้นของฉันมาทันที ไฟแช็ก ฉันจะจุดไฟสะกิดใส่นายต้าร์ให้หายหล่อซะเลย โฮะๆ (นางเอกโคต.รซาดิสม์เลย)

    “โอ๊ย ทำไมไม่ติดล่ะ” ฉันแกล้งพูดเสียงดังๆให้นายต้าร์ที่อยู่ข้างๆฉันได้ยิน แล้วหมอนั่นก็หันมามองจนได้

    “อะไรของเธอ” เขาหันมา แล้วก็ขำนิดๆ ที่เห็นฉัน(แกล้ง)จุดไฟแช็กไม่ติด

    “ก็ฉันจุดไฟไม่ติดอ่ะ” ฉันทำท่าอารมณ์เสีย

    “งี่เง่าชะมัด มาฉันทำเอง” เขาจะดึงไฟแช็กไป จังหวะนี้ล่ะ

    “โอ๊ย”

    นายต้าร์ร้องเสียงดังจนทั้งห้องหันมอง ไฟลวกโดนมือเขาไปนิดหน่อยแต่ก็เจ็บน่าดูเลย

    “อะไรกัน ใครทำอะไรกัน” อ.รีบวิ่งมาดู

    “ผมโดนไฟลวกนิดหน่อยน่ะครับ เพราะยัยซุ่มซ่ามนี่” ต้าร์มองมือตัวเอง หน้าเขาดูซีดๆไป พวกสาวรีบๆวิ่งมาดูกันจนน่าหมั่นไส้

    “เอวิตรา เธอรีบพาธนวัฒน์ไปห้องพยาบาลสิ” อ.สั่งฉัน

    “ผมไปเองก็ได้ครับ” นายต้าร์รีบบอก

    “เอวิตราฉันสั่งเธอ” อ.ทำท่าจะวีนฉัน

    “เอวี่ไม่ไป พวกเราไปเองก็ได้ค่ะ” สาวๆที่หลงเสน่ห์นายต้าร์(เหมือนฉัน)รีบพูด

    “เธอต้องไป ไปสิ” อ.ผลักฉันกับต้าร์ออกมาจากห้อง

    “ฉันไปเองได้ เธอจะไปไหนก็ไปเถอะ” ต้าร์หันมาพูดกับฉัน

    “อ.สั่ง ฉันก็ต้องทำตาม” ฉันพูดไปแบบนั้นล่ะ เพราะความจริงฉันก็ห่วงเขาเหมือนกัน

    “เมื่อกี๊เธอตั้งใจใช่มั้ย” เขาถามด้วยเสียงเรียบๆ

    “เปล่า”

    “แต่ดูเธอจะสะใจนะ”

    “คนปากพล่อยอย่างนาย ก็ควรจะได้รับโทษแบบนี้”

    “เธอโกรธที่ฉันฟ้องเมื่อเช้าสินะ”

    “แล้วแต่นายจะคิด”

    “งั้นก็ถือว่าเจ๊ากัน พอใจมั้ย”

    “ก็ดี”

    ฉันไม่เข้าใจเอาซะเลยว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่ จะมีสักวันที่ฉันจะเข้าใจมั้ยนะ

    “จะเดินเลยไปไหน ถึงห้องพยาบาลแล้วไง” ต้าร์ดึงฉันไว้

    “อ๋อ ก็ฉันไม่ค่อยเข้ามาก็เลยลืมน่ะ โทษที”

    “เธอดูเหม่อลอยแปลกๆนะ เหมือนผิดปกติทางสมอง” ปากพล่อยของเขานี่มันแก้ไม่หายจริงๆ

    “นายก็ปากเสีย จนเหมือนมีห.มาไปอาศัยในปากเหมือนกัน”

    “ขอบคุณที่ชมนะ” เขายิ้มทะเล้นๆใส่ฉัน อ๊าย ใจของฉันหลุดลอยกลับไปเขาอีกแล้ว

    “เอ๊ะ อ.พยาบาลไปไหนเนี่ย” ฉันมองซ้ายมองขวา แต่ในห้องไม่มีใครเลยนอกจากเราสองคน

    “แล้วทีนี้ทำไงล่ะ แผลมันเริ่มแสบๆร้อนๆจนจะทนไม่ไหวแล้วนะ เธอช่วยฉันทีสิ”

    “แต่..”

    ทำไงล่ะ ฉันแทบไม่มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเลยนะ นอกจากวิชาเนตรนารีที่เลือนราง

    “หรือทำไม่เป็น จริงสินะ เธอคงทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง ฉันไม่น่าถามเลย” เขาสบประมาทฉันสุดๆ จนฉันทนไม่ได้

    “ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่ฉันทำไม่ได้ ยื่นมือมาสิ” ฉันสั่งเสียงดุใส่เขา ต้าร์อมยิ้มนิดๆ ก่อนจะยื่นมือออกมา

    ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×