ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไฟเสน่หา

    ลำดับตอนที่ #6 : ภาพเด็ด

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 66


    หลังกลับจากหัวหิน ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ จนกระทั่ง...

    “น้องโมขา น้องโม” มาริสาตกใจที่เห็นนักข่าวกรูเขามาหาเธอ ขณะที่เธอเดินเข้ามาในงานเดินแบบงานหนึ่ง

    “มีอะไรกันคะ”

    “น้องโมคิดยังไงกับภาพที่ออกมาคะ พูดคุยกับน้องวารึยังคะ”

    “ภาพอะไรคะ”

    “อ้าวน้องโมยังไม่รู้เรื่องหรือคะ นี่ไงคะ”

    นักข่าวยื่นมือถือให้ดูภาพของวายุกับวิกานดา ทั้งที่โรงหนัง ห้าง รวมถึงร้านไอศกรีมที่เห็นหน้าเขาชัดเจน ส่วนหน้าของวิกานดานั้นเห็นไม่ชัดเท่าไหร่

    “ว่าไงคะน้องโม”

    “โมไม่รู้มาก่อนเลยนะคะ”

    “แล้วน้องโมคิดยังไงคะ รู้จักผู้หญิงในภาพรึเปล่า แล้วคิดว่าใช่น้องวารึเปล่าคะ”

    “เออ...” มาริสาทำอะไรไม่ถูก เธอแน่ใจว่านั่นคือแฟนหนุ่มของเธอแน่ๆ แต่เธอไม่กล้าคิด....ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับเขา

    “ขอโมคุยกับวาก่อนได้ไหมคะ ขอตอบหลังงานนะคะ โมขอไปทำงานก่อนคะ” มาริสาไหว้ลาแล้วแหวกฝูงนักข่าวไป ด้วยใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

    เมื่อเข้าไปหลังเวที ทั้งช่างหน้าช่างผม นางแบบคนอื่นๆก็มองเธอแปลกๆแล้วซุบซิบไปมา แต่ไม่มีใครถามอะไรเธอสักคน จนมาริสาทนอึดอัดไม่ไหวโทรไปหาวายุ

    “วา นี่มันเรื่องอะไรกัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”

    “อะไรเหรอ”

    “ก็ข่าวที่ลงไปไงล่ะ ไม่จริงใช่ไหม วาไม่ได้แอบคบใครใช่ไหม”

    “ข่าว วายังไม่รู้เรื่องเลย” วายุชักหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาพึ่งทำลงไป

    “ไม่มีนักข่าวมาสัมภาษณ์วาเหรอ เมื่อกี๊มีคนมาหาโม เอารูปให้ดู วาไปเที่ยวกับใครมาน่ะ”

    “โมใจเย็นๆนะ วายังไม่เห็นรูปเลย วามาถ่ายละครที่ปากช่อง แต่วา....ยืนยันนะว่า....วาไม่เคยไปเที่ยวไหนกับใครแน่ๆ มันอาจเป็นรูปตัดต่อก็ได้ พวกนักข่าวเขาก็มั่วไปได้เรื่อยๆล่ะ โม...ไม่เชื่อใจวาเหรอ” วายุยังพยายามทำให้เธอเชื่อคำลวงของเขา

    “ก็ได้ โมจะเชื่อ” มาริสาพยายามเชื่อมั่น แต่ในจิตใจนั้น เธอเริ่มหวั่นไหวเสียแล้ว

    “งั้นแค่นี้ก่อนนะ พวกนักข่าวมากันแล้ว...เชื่อใจวานะ วารักโม” วายุย้ำคำไปอีกรอบ

    “อืม โมก็รักวา” มาริสาวางโทรศัพท์ลง แต่เธอยังไม่วางใจ.....

    ทางด้านวายุก็รู้สึกผิดกับการกระทำของเขา...

    “น้องวาคะ ภาพนี้มาได้ยังไงคะ เธอคนนี้เป็นใคร” นักข่าวแย่งกันจ่อไมค์ใส่เขา

    วายุเห็นภาพแล้วก็มั่นใจว่าวิกานดาเป็นคนทำเรื่องนี้แน่นอน

    “ผมไม่รู้เรื่องครับ”

    “แต่ภาพมันชัดมากเลยนะคะน้อง ใครๆดูก็รู้ว่านี่คือน้องวา”

    “ผมไม่ได้ไปดูหนังนะครับเมื่อเร็วๆนี้ ผมงานรัดตัวตลอดเลย วันอาทิตย์ผมก็อยู่คอนโดทั้งวัน”

    “แล้วน้องวาจะอธิบายยังไงคะเนี่ย”

    “ผมยืนยันนะครับ ผมรักโมคนเดียว ผมว่าผมโดนกลั่นแกล้ง มันเป็นแค่คนหน้าเหมือน หรือไม่ก็เอาหน้าผมไปตัดต่อครับ”

    ...

    “อ๊าย...” วิกานดากรีดร้องลั่นบ้าน แล้วเขวี้ยงรีโมททิ้ง เมื่อได้ดูข่าวนี้ทางทีวี

    ด้วยความแค้นใจที่เห็นคำสัมภาษณ์ของวายุ เธอก็รีบโทรศัพท์หาทันที

    “ฮัลโหล วาคะ คุณพูดอะไรลงไปเคยนึกถึงใจเก๋บ้างไหม”

    “เก๋ ผมกำลังถ่ายละครอยู่ ค่อยคุยกันได้ไหม”

    “วาต้องคุยกับเก๋เดี๋ยวนี้ คุณรู้บ้างไหมคะว่าเก๋เจ็บ” วิกานดาร่ำไห้ออกมาเสียงดัง

    “แล้วที่เก๋ทำล่ะ มันไม่มากไปเหรอ” วายุย้อนถามเสียงเย็นชา

    “ทำอะไรคะ”

    “เก๋ส่งคนไปตามถ่ายรูปเราใช่มั้ย สิ่งที่เก๋ทำมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ยิ่งทำให้เรื่องมันแย่ลงแบบนี้” วายุกล่าวโทษเธออย่างคับแค้น

    “หรืออยากให้เก๋ไปแถลงข่าวเอง ว่าเราเป็นอะไรกัน” วิกานดาเอ่ยขู่เขา

    “อย่านะเก๋ เราคุยกันแล้วไง ผมยอมคบกับคุณต่อ ไม่งั้นเราก็เลิกกัน” 

    “ก็ได้ค่ะ” วิกานดาวางสายอย่างหงุดหงิด

    แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น วิกานดาคาดว่าเป็นคนใช้ จึงตะโกนอย่างไม่ใส่ใจ

    “มีอะไรฮะ”

    “จะไล่พี่ชายตัวเองเลยเหรอ” ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาในห้อง แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง หันหน้ามาประจันกับน้องสาว

    “ขอโทษค่ะพี่ภู เก๋มีเรื่องนิดหน่อย ทำไมกลับมาเร็วล่ะคะ เห็นว่าจะไปดูแลที่หัวหิน สักสัปดาห์นึงไม่ใช่เหรอ” วิกานดาเอ่ยถามพี่ชายของเธอ ซึ่งก็คือ....ภูษณนั่นเอง

    “พี่เบื่อน่ะ”

    “ตอนอยู่เมืองกรุงก็บ่นเบื่อ พอไปหัวหินยังเบื่ออีกเหรอคะ”

    “ว่าแต่เราเถอะเป็นอะไร พอพี่กลับมาก็ได้ยินเสียงร้องซะลั่น เป็นอะไรรึเปล่า ปรึกษาพี่ได้นะ” ภูษณเปลี่ยนเรื่องมาถามน้องสาว

    “พี่ภูไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เก๋จัดการได้”
    ”เรื่องผู้ชายล่ะสิ ทำไมโดนใครหักอกมารึไง เก๋ไม่เห็นเคยพาใครมาให้พี่หรือคุณแม่รู้จักเลยนี่”

    “แล้วพี่ภูอยู่บ้านหรือคะ วันๆก็เห็นมีแต่งาน ส่วนคุณแม่....ตั้งแต่คุณพ่อเสียก็ไปทัวร์ซะเกือบทั่วโลก”

    “พูดไปพูดมากลายเป็นตัดพ้อพี่กับแม่ซะงั้น ตกลงมีเรื่องอะไรล่ะเรา”

    “ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ค่ะ พี่ภูออกไปจากห้องเก๋ก่อนเถอะค่ะ เก๋จะไปอาบน้ำแต่งตัวไปช้อปปิ้ง พี่ภูพึ่งกลับมาก็นอนพักซะนะคะ” วิกานดาดันตัวพี่ชายออกจากห้องไป เพื่อจะใช้เวลาคิดแผนดึงวายุมาเป็นของเธอคนเดียวให้ได้.....

    ...

    ผ่านพ้นข่าวนั้นไป ความสัมพันธ์ของวายุกับมาริสาก็ยังปกติ โดยวันนี้มาริสามีซ้อมเดินแบบที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งวายุก็ขับรถไปส่งมาริสาด้วยตัวเอง

    “เสร็จแล้วโทรเรียกวามารับนะ” วายุเอ่ยทิ้งท้ายกับแฟนสาว

    “ค่ะ ว่าแต่พอโทรแล้วอย่าบอกว่ามาไม่ได้ล่ะ”

    “ไม่ครับ วาไม่ทำร้ายจิตใจโมแน่ โชคดีนะครับ”

    รถของวายุเคลื่อนออกไป มาริสมองตามอย่างมีความสุข โดยไม่รู้ว่ามีใครแอบมองอยู่ด้วยความแค้น...

    มาริสาเข้าไปที่หลังเวทีก็เจอกับแหวน โต้โผในการจัดงานครั้งนี้

    “สวัสดีค่ะ พี่แหวน ดีใจจังเลยที่พี่แหวนเลือกโมมาเดินแบบให้พี่อีก” มาริสาทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

    “เออ....น้องโมจ๊ะ พี่มีเรื่องที่ต้องบอก” แหวนทำหน้าไม่ค่อยอยากจะพูด

    “อะไรหรือคะ”

    “ที่พี่ติดต่อน้องโมให้เดินชุดฟีนาเล่น่ะ คือ....พี่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัว”

    “ทำไมเหรอคะ”

    “มีผู้ใหญ่เขาฝากสาวไฮโซคนนึงเดินแทนน่ะจ้ะ น้องโม....ไม่พอใจรึเปล่าจ๊ะ จะตกลงหรือว่าจะปฏิเสธงานนี้”

    “แหม เรื่องแค่นี้เอง โมไม่ว่าอะไรพี่แหวนหรอกค่ะ ว่าแต่...ใครเหรอคะ คนที่พี่ว่า”

    “สวัสดีค่ะ” วิกานดาเดินเชิดเข้ามาแบบไม่สนใจใคร แล้วปั้นยิ้มใส่แหวนกับมาริสา

    “นี่ไงจ๊ะ น้องเก๋ ที่พี่พูดถึง น้องเก๋จ๊ะ นี่น้องโม....”

    “พี่แหวนไม่ต้องแนะนำหรอกค่ะ เก๋รู้จักดี คุณมาริสา นางแบบแถวหน้าของวงการตอนนี้” วิกานดาแสร้งส่งสายตาชื่นชม

    “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ”
    ”เก๋ดีใจมากเลยนะคะ ที่ได้เดินแบบเครื่องเพชรคราวนี้ เพราะเพชรที่เป็นฟีนาเล่น่ะ สวยมากๆเลยค่ะ ควรค่าแก่เก๋ที่สุดเลย ว่าไหมคะ คุณโม”

    “ค่ะ”

    ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×