ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The dragon crusaders

    ลำดับตอนที่ #19 : หลอกลวง

    • อัปเดตล่าสุด 16 ธ.ค. 49


    ความเดิมตอนที่แล้ว
    ไกรฟาสพาไรอามาจนถึงปราสาทหลักของอฟอนิเต้ เดฟก็จัดการกับมังกรทั้งฝูงได้สำเร็จ  เอ็ดกับลูฟก็ทำการได้เปรียบในการสู้กับกัลวีโน่
    ___________________________________--

    ภายใต้แสงสลัวๆจะลูกแก้วเรืองแสง
    ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตรงกลางห้อง ในห้องมืดสนิทจนไม่เห็นสภาพโดยรอบของห้องเห็นเพียงแค่โต๊ะที่ตั้งลูกแก้วไว้เท่านั้น มังกรสองตัวปรากฏร่างอยู่ภายใต้แสงสลัวๆนั่น

    "ศิษย์เอ๋ย ศิษย์ข้า ข้าดีใจจริงๆที่เจ้าพาพวกเฟร่ามาได้ถึงนี่"มังกรหนึ่งในนั้นพูดขึ้นมันสวมผ้าคลุมสีดำสนิทปิดหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า

    "ท่านอาจารย์ ท่านก็เหมือนพ่อของข้า ข้ายินดีรับฟังทุกคำพูดของท่าน"มังกรอีกตัวตอบ มันคุกเข่าอยู่กับพื้น ร่างของมันมีกลีบปลางอกอยู่ตามส่วนต่างๆ และมีผิวสีน้ำเงินลื่นเป็นมัน แสงจากลูกแก้วส่งให้เห็นถึงลูกแก้วสีน้ำเงินแวววับบนหน้าผากของมัน

                                                                                         *

                                                                           *           **         *

                                                                           **        ***       **

                                                                          ***    **   **    ***

                                                                          **** **      ** ****

                                                                                    **   **

                                                                                      ***

                                                                                       **

                                                                                        * 

                                                                                          

    "โอ้โหมังกรนี่ชอบแต่ของใหญ่ๆแฮะ"เอริคพูดพลางไล่ดู ตั้งแต่ตีนกำแพงไล่ตามสันอิฐสีน้ำตาลไหม้ จนถึงยอดสุดของกำแพงความสูงนั้นคงประมานค่าได้ยาก เพราะมันสูงลิบสุดสายตา

    "เอาไงดีล่ะนี่"เอริคหันไปถามเฟียเน่

    "อืม"เธอทำท่าคิด

    "ชั้นว่าเป็นโอกาสดีเลยล่ะที่จะลองของใหม่"เธอเริ่มยิ้ม สีหน้าแสดงออกถึงอาการตื่นเต้นเหมือนเด็กที่เพิ่งได้รับของขวัญวันเกิด

    "อะไรเหรอ"เอริคถาม

    เธออมยิ้มแล้วชี้ไปที่แขนข้างซ้ายของเอริค เขายกมันขึ้นมาดูตาม เขาแทบจะไม่ยกมือข้างนี้ขึ้นมาดูมากนัก เพราะมันออกจะเป็นของที่แปลกสำหรับเขา

    "ต่อยไปที่กำแพงเลย ไม่ต้องออกแรงมากนะ เดี๋ยวจะเกิดเรื่องใหญ่"เธอยังคงแสดงความตื่นเต้นออกมาทางสีหน้า

    "จะบ้าเรอะ หาเรื่องเจ็บมือน่ะสิ"

    "เอาน่า ใช้แขนข้างนั้นนั่นแหละ นายไม่ใว้ใจฝีมือการสร้างของชั้นรึไง"เฟียเน่เร่ง

    "ก็ได้ๆ ยังไงๆก็ไม่ใช่แขนของชั้น"เอริคยักไหล่หันหน้าเข้ากับแพงสีน้ำตาลไหม้ข้างหน้า เขาเงื้อแขนซ้ายขึ้น ทำเหมือนจะออกแรงต่อยเต็มเหยียด เขาพุ่งหมัดออกไป แต่สัญชาติญาณกลัวเจ็บของมนุษย์สั่งให้เขายิ้งแรงไว้จำนวนมากเผื่อเกิดเหตุผิดพลาด แม้เขารู้ว่าถึงแขนจะพังก็ไม่เดือดร้อนก็เถอะ

    ทันทีที่แขนของชายหนุ่มปะทะเข้ากับ กำแพงเขาไม่รู้สึกความเจ็บปวดแม้เพียงน้อยและแขนที่พังก็ไม่ใช่แขนของเขา เพียงชั่ววินาทีที่เขาต่อยมันเข้ารู้สึกว่ารอบแขนนั้นเหมือนไม่มีอะไรอยู่เลย ต่อมาเขารู้สึกถึงบางอย่างที่ร่วงลงมากระแทกมือของเขาเป็นระยะๆ

    ตอนนี้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วเขามองไม่เห็นภาพข้างหน้าเลย และฝุ่นก็ค่อยๆกระจายหายออกไปกับสายลม ภาพข้างหน้าเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้น กำแพงอิฐเบื้องหน้าของเขาพังลงมาเป็นรูปขนาดพอให้คนมังกรย่อมๆตัวหนึ่งผ่านเข้าไปได้ทีเดียว

         

                                                                                         *

                                                                           *           **         *

                                                                           **        ***       **

                                                                          ***    **   **    ***

                                                                          **** **      ** ****

                                                                                    **   **

                                                                                      ***

                                                                                       **

                                                                                        * 

    ทางด้านเอ็ด กัลวีโน่ยังคงวิ่งไปวิ่งมาเพื่อสะบัดให้ เอ็ดลงไปจากหลังของมัน

    "...อะไรกันวะ น่ารำคาญชะมัดเวลามีอะไรอยู่บนหลังเนี่ย..."

    "โถ่เอ้ย นี่เหรอ ผู้คุมกฎไม่เห็นจะยากกว่าวัวพยศตามงานวัดเลยนี่หว่า"เอ็ดเริ่มกล่าววาจาดูถูกดูแคลน

    "หนอยแน่ะ ชั้นทนแกไม่ไหวแล้วนะ"มันเปลี่ยนเป็นวิ่งเข้าไปหากำแพงบ้านแถวๆ นั้นแทน ลำบากตัวมันนั้นแค่กำแพงแค่นี้นับว่าธรรมดา แต่ถ้าเป็นเอ็ดกระแทกกำแพงนั่นอย่างจังเข้าคงสาหัส เขาปล่อยมือออกจากแผงคอของมังกร เท้าทั้งสองข้างบันตัวออกจากหลังของกัลวีโน่ทันที ลูฟโฉบเอาตัวเขาร่อนลงสู่พื้นอย่างปลอดภัย ส่วนกัลวีโน่นั้นก็พุ่งเข้าใส่กำแพงตรงหน้าอย่างรุนแรง กำแพงพังทลายลงมาตามแรงอันมหาศาลของมันฝุ่งจากกำแพงคลุ้งกระจายขึ้นมาเต็มไปหมด ลูฟๆ ค่อยก้าวเข้าไปดูส่วนเอ็ดก็จดๆจ้องอยู่ตรงรูโหว่ของกำแพงที่พังลงมาเผื่อว่าจะเห็นการเคลื่อนไหวของกัลป์วีโน่บ้าง ทันทีที่ลูฟเดินออกห่างจากเอ็ดไปเกิน 10 ก้าว เอ็ดกระเด็นออกจากที่ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นทันที

    "เฮ้ยเอ็ด"ลูฟหันหลังขวับ กลางหลังของเอ็ดมีรอยเกรงเล็บ3 รอยเป็นทางยาตั้งแต่ไหปลาร้าไปจนถึงก้นกบ กัลป์วีโน่เดินเข้ามาเหยียบหัวของเอ็ดไว้

    "ฮึ อะไรกันแค่นี้อย่าเพิ่งตายน่าแก ยังเล่นไม่สนุกเลย"มันพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก เท้าก็เขี่ยหัวของเอ็ดเล่นเหมือนแมวที่ได้ก้อนไหมพรหมมาไว้ในมือ

    "หนอย"ลูฟกำหมัดแน่น

    "เอ้า ชั้นลืมแกไปเลยนะเนี่ย"กัลป์วีโน่เดินห่างออกมาจากเอ็ด มันเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นลูฟแทน มันย่างสามขุมเข้ามาหาลูฟช้าๆ ลูฟมองมันด้วยสายตาที่โกรธแค้นสุดจะบรรยาย เขากำหมัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

    "โกรธไปก็เท่านั้น เอาล่ะ มาเล่นกันได้รึยัง"กัลป์วีโน่เริ่มทั้งท่าต่อสู้

                                                                                         *

                                                                           *           **         *

                                                                           **        ***       **

                                                                          ***    **   **    ***

                                                                          **** **      ** ****

                                                                                    **   **

                                                                                      ***

                                                                                       **

                                                                                        * 

    ทางด้านเอริค ตอนนี้เดฟเพิ่งจะร่อนลงมาสมทบด้วยพอดี  

    "โอ้โห ใครทำเนี่ย"เดฟทำท่าสำรวจรูโหว่ที่เอริคเพิ่งจะพังไปเมื่อกี้

    "ชั้นเอง"เอริคยกมือรับ

    "แรงมหาศาลไม่เบานะ เนี่ย เฟียเน่ยังทำไม่ได้เลยมั้งแบบนี้"เดฟชม

    "แต่ถ้าไม่ได้ชั้นก็ทำไม่ได้หรอกนา"เฟียเน่เริ่มดึงความดีความชอบมาหาตัว "ก็ตอนที่ทะเลสาบน่ะ ที่ชั้นยิงนายจนสลบน่ะ ตอนนั้นแหละที่ชั้นสับเปลี่ยนเลือดของนายกับเลือดของไกรฟาส นั่นน่ะทำให้นายมีพลังมหาศาลเท่ากับกริฟฟินเลยนะจะบอกให้"

    "โอ้โห ช่วยเหลือเกื้อกูลกันจังดีเลยน้า เห้นคู่นี้แล้ว นึกถึง เอ็กซ์กับมีเน่ที่เทียรี่แฮะ"เดฟความทั้งคู่เข้ามาไว้ในอ้อมแขน

    "อะไรน่ะ แอบสูบเลือดของชั้นไปให้เอริคเหรอ"ไกรฟาสพูดด้วยเสียงแหบต่ำ

    "ก็...ก็แบบว่า เลือดนายตอนนั้นมันเป็นเลือดเสียเกือบหมดแล้วน่ะ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็อาจเป็นอันตราย ก็เลยสูบออกมาแล้วก็เห็นว่าถ้าเอามาช่วยเพิ่ม พลังให้เอริคคงเป็นประโยชน์ไม่น้อย.."เธอตอบเสียงสั่น

    "เหอะ ช่างเถอะ ยังดีกว่าเอาเลือดของชั้นไปเททิ้งให้พวกไส้เดือนกิน"ไกรฟาสตัดสินใจไม่เอาเรื่อง

    "ว่าแต่ เอ็กซ์กับมีเน่ที่ว่านี่ใครเหรอ"เอริคถาม

    "ก็เป็นทหารยศครูเซเดอร์ของเทียรี่น่ะ สองคนนี้จะโจมตีศัตรูเป็นคู่จะว่าไปไม่ใช่แค่โจมตีศัตรูหรอก แต่ไปไหนก็ไปด้วยกันเป็นยาสีฟันแพ็คคู่เลยแหละ ทั้งสองคนนั้นก็เป็นมนุษย์มังกรเหมือนกัน แล้วการต่อสู้ของสองคนนั่นะ ยอดเยี่ยมมากเลย มีเน่เป็นพวกถนัดระยะประชิด มีพลังอย่างกะช้างสาร ต่อยศัตรูทีนี่แบบว่า ไม่เละก็กระดูกร้าวไปทั้งตัวเลยล่ะ ส่วนเอ็กซ์จะเป็นพวกแรงน้อยแต่ถนัดการใช้พลังเวทย์มากสามารถชาร์จพลังเวทย์ได้เร็วมาก ยิงทีก็แรงได้ใจจริงๆนา เพราะฉะนั้น เวลาต่อสู้ มีเน่ก็จะเป็นคนลุย ส่วนเอ็กซ์ก็จะคอยยิงสนับสนุน"เดฟอธิบาย

    "โห อยากเจอตัวจริงจังเลย"เอริคอุทาน

    "ซักวันคงได้เจอแหละน่า"เดฟตอบพลางปล่อยเอริคกับเฟียเน่ออกจาก อ้อมแขน

    "เอาล่ะไปกันเถอะ"เฟียเน่ชวน เธอเดินนำเข้าไปก่อนตามเคย

    "พรุ่งนี้วันเกิดเฟียเน่นา"เดฟกระซิบบอกกับเอริคระหว่างที่เดินลอดช่องกำแพงเข้าไป

    "แล้วไง"

    "ปัดโถ่นายนี่ วันเกิดก็ธรรมดาอยู่แล้ว ของขวัญน่ะของขวัญ"

    "แล้วมาบอกทำไมล่ะ"

    "เอาเถอะ ชั้นบอกนายไว้ก่อนแล้วกัน เผื่อจำเป็น"เดฟยิ้ม

    "ว่าแต่…"เฟียเน่หันหลังขวับ "ไกรฟาส แหล่งคุมขังกริฟฟินอยู่ที่ไหนเหรอ"

    "ตามชั้นมาสิ"ไกรฟาสบินเลียดพื้นดำหน้าไป ระหว่างทางเอริคมองสำรวจสภาพโดยทั่ว เขาเดินอยู่บนพื้นดินแข็งๆ รอบๆข้างค่อนข้างโล่ง มองไปทางขวาก็เจอกำแพงที่เขาเพิ่งพังเข้ามา ทางซ้ายก็เจอหมอกทึบ ปราสาททรงโรมันยังคงซ่อนอยู่หลังม่านหมอกหนาแต่ก็พอเห็นรูปร่างของมัน พวกเขาเดินต่อมาเรื่อยๆ ไกรฟาสเปลี่ยนทิศทางเป็นทางซ้ายพวกเขาเริ่มเดินเข่าสู่สายหมอกระหว่างนั้นจึงมองอะไรไม่ค่อยเห็น มองเห็นก็แค่เงาของเพื่อนร่วมทางที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้น เขาพวกเขาเดิมาจนพื้นหมอกหนาทึบ เหมือนสายตาเริ่มเข้าสู่สภาพมือสลัวอีกครั้ง คราวนี้พวกเขาโผล่มาที่ตีนปราสาทเลย พวกเขาได้เห้นความใหญ่โตของปราสาทอย่างชัดเจน ปราสาทนี้สูงกว่ากำแพงมาก ความกว้างของมัน อาจะเป็นกิโลๆเลยทีเดียว หากไม่รู้จักทางดีพอ ก็อาจะจะหลงทางในปราสาทนี้ได้ ไกรฟาสพาพวกเขาเดินอ้อมปราสาทไป ไปทางด้านข้าง เงาตะคุ่มๆของอาคารหลังหนึ่ง

    "หลังนั้นแหละ"ไกรฟาสพูดขึ้นหลังจากที่ทั้งหมดเงียบติดต่อกันมาเป็นเวลานานตั้งแต่เริ่มเข้าปราสาทมา

    "โอ้โห เข้ามาง่ายกว่าที่คิดเยอะเลย"เอริคพูดบ้าง

    "ชั้นว่ามีบางอย่างแปลกๆ"เดฟเสนอ

    "นั่นสิ ชั้นเห็นด้วย"เฟียเน่เสริม "ความจริงปราสาทใหญ่ๆแบบนี้น่าจะมียามเฝ้าเยอะนี่นา นี่เหมือนกันจงใจให้พวกเราเข้ามาได้ง่ายๆ เลย เหมือนพวกมันรู้แล้วงั้นแหละ"

    "ใช่พวกมันรู้แล้ว"ไกรฟาสตอบ เสียงนั้นเรียกร้องสายตาของทุกคนให้จับตาไปที่เขา

    "พวกมันรู้ตั้งแต่ที่ข้าเข้ามาในนี้แล้วล่ะ ข้าเลยต้องรีบหนีออกมาก่อน ต่อไปนี้ระวังตัวให้ดีด้วยมันอาจจะออกมาต้อนรับพวกเราเหมือนไรก็ได้"

    "นั่น พูดจบก็มาเลยนะเนี่ย"เดฟส่ายหัวมองรอบข้าง ทหารมังกรจำนวนมากเริ่มปรากฏเงาออกมาจากม่านหมอก เป้นจำนวนมาก มันล้อมพวกเขาไว้จนหมด

    "เมืองนี้ท่าทางจะมีทหารเยอะแฮะ ก่อนหน้านี้ก็มังกรบินเป็นฝูงเลย คราวนี้ก็มังกรดินนึเนี่ย"

    "เอาไงดีล่ะเดฟ"

    "เอริค เรียกดาบนายมา เฟียเน่ เดี๋ยวชั้นจะพาไปอยู่ในที่ๆเหมาะสมให้ ไกรฟาส ไปช่วยกริฟฟิน"เดฟสั่งอย่างรวดเร็ว นี่เป็นครั้งแรกที่ไกรฟาสยอมเชื่อฟังคนอื่น เขาบินข้ามหัวทหารหายลับไปในที่คุมขังกริฟฟินทันที

    เฟียเน่ ดึงแว่นกันทรายออก เอริคเองก็ ลืมไปว่าเขาใส่แว่นกันทรายอยู่แต่เขาไม่ดึงมันออก ดาบสองเล่ม ปรากฏขึ้นในมือของเขา เฟียเน่เกล้าผมยาวสลวยของเธอขึ้น เดฟคว้าตัวเธอแล้ว บินหายขึ้นไปบนท้องฟ้า

    "โอ๊ะ โอ ไปกันหมดเลย"เอริคทั้งท่าเตรียมรบ กับทหารมังกรราวๆ 3000 ตัวในที่นี้

                                                                                       

                                                                                         *

                                                                           *           **         *

                                                                           **        ***       **

                                                                          ***    **   **    ***

                                                                          **** **      ** ****

                                                                                    **   **

                                                                                      ***

                                                                                       **

                                                                                        * 

    กรงเล็บของลูฟและกัลวีโน่ยังคงปะทะกันเป็นระยะๆ  แม้ลูฟจะตัวผอมแห้งแต่เรี่ยวมิได้น้อยลงตามกล้ามเนื้อเลย ผิวที่แวววาวเหมือนเกราะนั้น ให้คุณสมบัติดังเช่นเกราะจริงๆ กรงเล็บของกัลป์วีโน่ทำอันตรายได้แค่บางส่วนเท่านั้น นั่นคือที่ไหล่และ ต้นขาของเขาเท่านั้น ส่วนอื่นๆนั้นเป็นแค่รอยถลอกธรรมดา

    "ผิวหนังของแกนี่ทนดียังเลยนะ"กัลวีโน่กระโดดหลบกรงเล็บของลูฟที่ฟาดต่ำลงมา

    "ท่านเองก็สมกับเป็นผู้คุมกฎนะครับ"ลูฟเองก็แทบจะไม่ไหวแล้ว เขาเริ่มหอบ ไหล่ทั้งสองข้างเป็นรอยกรงเล็บลึกและยาว

    "ท่าทางจะไม่ไหวแล้วนะลูฟ คิดจะถ่วงเวลาไปถึงไหนกัน"

    "ต้องตอบด้วยเหรอ"

    "ก็ได้ ยังไงซะชั้นก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว"

    "แล้วพวกกริฟฟิน..."

    "อ๋อพวกนั้นน่ะเหรอ"กัลวีโน่เริ่มหัวเราะหึๆในคอ "ก็แค่สิ่งที่ต้อนพวกแกมาที่นี่เท่านั้นเอง"

    "หมายความว่าไง"

    "พวกกริฟฟินน่ะอยากได้ก็เอาไปเลย แต่ว่า พวกของแกที่ล่วงหน้าไปน่ะ จะรับมือทหาร 3-4000 คนได้เชียวเหรอ"

    "ว่าไงนะ"ลูฟสะบัดปีกออก เขาแหงนหน้าขึ้นบนท้องฟ้า เขาคิดจะหนีจากกัลวีโน่ไปหาพวกเอริค แต่ทว่า กัลป์วีโน่รู้ทัน เขากระโดนตะครุบลูฟไว้กับพื้นก่อนที่ลูฟจะบินขึ้นไป

    "ไม่คิดจะถ่วงเวลาแล้วรึไง" กัลป์วีโน่ยิ้ม

    ลูฟตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียนอย่างเห็นได้ชัด ไหล่ทั้งสองข้างของเขาไม่มีแรงแล้ว แถมยังถูกกัลป์วีโน่ กดไว้กับพื้นอีก เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายของแขนทั้งสองข้าง แอบวาดอักขระมังกรไว้บนพื้น กัลวีโน่ก็ยังไม่รู้ว่าลูฟวาดอักขระอยู่

    "เอ้าแกจะทำยังไงลูฟ"

    "ก็ทำอย่างนี้ไงล่ะ"ลูฟประทับฝ่ามือของตนลงบนอักขระมังกร "คาถาอัญเชิญมหาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ กรงเล็บพสุธา!"

    "เฮ้ยวาดไว้แต่เมื่อไรวะ"กัลป์วีโน่หันไปดูอักขระมังกรที่อยู่บนพื้นข้างตัวของเขา

    "สำเร็จจนได้"เสียงของลูฟเริ่มอ่อนแรงลง

    "หนอยแน่แก"กัลป์วีโน่เงื้อกรงเล็บขึ้นเต็มหมายจะปลิดชีวิตของมังกรแดงในคราเดียว

    แต่ทว่า บางสิ่งพุ่งเข้ากระแทก สีข้างของเขาจนกระเด็นไป สิ่งที่เขาเห็นแวบนึงก่อนที่จะล้มลงกลิ้งไปบนพื้นคือ เงาของสัตว์รูปร่างคล้ายหนูมีหนามบนหลัง มีแขนและกรงเล็บยาวเยียด ขนาดตัวแค่ราวๆ 2 ฟุตเท่านั้นเอง แต่เรี่ยวแรงมหาศาลขนาดกระแทกให้เขาจุกได้เลยทีเดียว แต่พอเขาลุกขึ้นมา ก็เห็นเพียงแค่หลุม 2 หลุมบนพื้นข้างตัวลูฟ ที่ตอนนี้ยันตัวให้ลุกขึ้นได้แล้ว

    "อะไรกันลูฟ แค่สิงโตขี้เรื้อนตัวเดียวต้องเรียกชั้นมาเลยเรอะ"เสียงๆหนึ่งดังขึ้น

    "เออ ก็ต้องขนาดนั้นแหละ ศัตรูน่ะ เป็นผู้ทรยศไงล่ะ"ลูฟตอบเสียงนั้น

    "ผู้ทรยศเหรอ ยืนสีขาแบบนั้นคงไม่ใช่อิโอสินะ กัลป์วีโน่เหรอ"เสียงนั้นดังขึ้นอีก

    "ใช่"

    "แก เป็นใครกันแน่"กัลวีโน่ตะโกนถาม

    "ถามเหรอ ไม่ต้องตอบหรอกมั้ง"เสียงนั้นตอบกลับมา

    "ก็ได้ ไม่รู้ก็ได้ แต่โผล่หัวออกมาเซ่"

    "ให้โผล่หัวไปเรอะ ก็ได้"สิ้นเสียง บางสิ่งพุ่งเข้ากระแทกคางของมังกรแล้วก็หายไป แต่ก็สร้างหลุมขึ้นมาอีก 1 หลุม คือใต้คางของกัลป์วีโน่

    "ใต้ดินเรอะ ทำไมวันนี้มีแต่พวกน่ารำคาญวะ"

    "รำคาญเหรอ ยิ่งสนุกชั้นน่ะสิ หึหึหึ"

    ________________________________________________-

    จบตอน หลอกลวง

    เฉลยคำถามตอนที่แล้วนะครับ คนที่หายไปก็คือ....


    คือ.....


    คือ....


    คือ..(โป้ก เรื่องมากอยู่นั่นแหละ บอกมาๆ)


    คือไรอาคร้าบ อูยเจ็บ


    ไม่ต้องเรื่องมาก พูดกันถึงคำถามตอนนี้เลยดีกว่า ถามว่าไรดี ..อืม

    เอาเป็นว่า ลูฟเอาตัวรอดมาจากกัลวีโน่ด้วยคาถาอะไรแล้วกันนะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×