คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 เราสามคน(แก้ไข)
เราสามคน
“เลนเราเลิกกันเถอะ”สาวสวยซึ่งนั่งอยู่ในร้านอาหารหรูพูดพลางยิ้มให้อย่างมีเสน่ห์ ซึ่งเธอเป็นเพื่อนสนิทของพี่สาวและตอนนี้ก็เป็นแฟนของเด็กหนุ่ม
“อะไรกันฟาง พูดตลกร้ายแบบนี้ผมไม่พร้อมนะ”เด็กหนุ่มพูดยิ้มๆเหมือนเรื่องตลกขำขัน กับหญิงสาวหน้าซึ่งยังคงนั่งยิ้มอยู่ตรงข้าม
“ถึงเลนจะพยายามทำเป็นไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง แต่พี่ก็รู้นะว่าความรู้สึกของเลนอยู่ที่ใคร”คำพูดว่าพี่ที่ไม่ได้ยินมานานหลังจากทั้งสองตกลงคบกัน กลับมาอีกครั้งทำให้เด็กหนุ่มเริ่มรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ตลกร้ายอย่างที่คิด
“ความรู้สึกอะไรกันครับ แฟนของผมมีพี่แค่คนเดียว”คำพูดของหญิงสาวที่แทนตัวเองว่าพี่ทำให้เด็กหนุ่มต้องพูดจาสุภาพอีกครั้งหลังจากไม่ได้พูดมานาน
“ความรู้สึกที่เรียกว่าความรักไงล่ะ แม้เลนจะพยายามหลอกตัวเอง แต่พี่ก็ดูออกนะว่าเลนรู้สึกยังไงกับพลอย” หญิงสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้าๆและเดินมาข้างเด็กหนุ่ม
“ถึงพี่กับเลนจะเลิกกันแต่เราก็ยังคงเป็นพี่น้องที่ดีกันเหมือนเดิมนะ”หญิงสาวพูดพร้อมกับโน้มหน้าลงมาจูบอย่างช้าๆ ริมผีปากที่แสนอบอุ่นและความรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆที่กระทบใบหน้าของเด็กหนุ่ม
“วันนี้พี่สนุกมาก แต่เพราะเลนทำให้พี่เสียใจเพราะฉะนั้น มือนี้เลนต้องเลี้ยงพี่นะ”หญิงสาวพูดพลางเช็ดน้ำตาและยิ้มให้อีกครั้ง ซึ่งภาพนี้จะอยู่ในความทรงจำของเด็กหนุ่มตลอดไป
“เราสามคนจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป”คำสัญญาของเด็กทั้งสาม
เลน เรย์ พลอยใส ทั้งสามเป็นเพื่อนรักและผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก จนเมื่อทั้งสามเติมโตขึ้นความรู้สึกของเลนที่มีให้พลอยใสนั้นแปรเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ และเมื่อเลนเริ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงไปของตนเองความไม่เข้าใจ ทำให้ความสับสนในคำว่าเพื่อนและความรักที่ปนเปอยู่ทำให้เลนหันลองคบหาผู้หญิงอื่นเพื่อจะลืมความรู้สึกบ้างอย่าง แต่ผลกลับตรงกันข้ามความรู้สึกนั้นยิ่งเพิ่มพูน จนเมื่อผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เลนได้รู้ว่าสิ่งที่เลนทำนั้นเป็นการทำร้ายตัวเองและผู้อื่น และเธอก็ทำให้เลนได้รู้จักคำว่า ความรัก พร้อมทำให้เลนได้รู้ว่าตัวเอง ตกหลุมรักเพื่อนสนิทเข้าแล้ว
ภายในห้องนอนสีขาวเล็กๆ ที่แสงยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านสีน้ำเงินข้ามาในห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งของวางไปทั่วห้องทั้งหนังสือ แผ่นCD เสื้อผ้าที่ถอดไว้ข้างๆเตียงเลนซึ่งนอนหลับโดยเอาผ้าห่มคลุมหน้า และไม่สนใจแม้แสงแดดที่ลอยเข้ามากระทบ
“กริ๊ง...” เสียงมือถือที่ตั้งไว้เป็นนาฬิกาปลุกของเลนดังขึ้น
“หืม ขออีกสัก5นาทีน้า” เลนพูดขึ้นอย่างงัวเงีย พร้อมทั้งกวาดมือหาโทรศัพท์ข้างๆหมอนและกดปิดโทรศัพท์อย่างรำคาญ
“ตื่นนอนเดียวนี้น่ะเลน”เสียงพี่สาวตัวดีที่มาปลุกเลนหลังจากหลายนานเพราะปิดเทอม แต่วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกความหลังที่หายไปเริ่มกลับมาอีกครั้ง เลนลืมตามองขึ้นเล็กน้อยและก็เห็นปีศาจสาวที่ยืนอยู่ช้างๆเตียง เฟนพี่สาวที่อายุ20ปีซึ่งมากกว่าเลน2ปี มีผมยาวสีน้ำตาลถึงกลางหลัง (ย้อมสีผมปกติสีดำ) ดวงตาสีเทา (คอนแทคเลนส์ ปกติดวงตาสีน้ำตาลเข้ม) ใบหน้าเรียวสวยได้รูป แต่เลนกลับลงหมอนแล้วหลับต่ออย่างไม่สนใจ
“ไม่ตื่นใช่ไหม”พี่เฟนพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พร้อมเดินไปที่มุมห้องซึ่งมีกีตาร์สีดำสุดห่วงพิงพนักอยู่ ปกติเลนจะเก็บใส่กล่องไว้เพื่อไม่ให้เกิดสิ่งต่อไปนี้
(มันไม่เคยจำเลยใช่ไหมว่าถ้าไม่ตื่นอะไรเกิดอะไรขึ้น) เฟนพลางนึกถึงเรื่องสนุกๆช่วงก่อนปิดเทอมที่เธอต้องขึ้นมาปลุกน้องชายตัวดี
“แต้ว...”เสียงกีตาร์ที่ดังขึ้นทำให้เลนรู้ในทันทีว่าเมื่อคืนเลนไม่ได้เก็บกีตาร์ใส่กล่อง และบ่อยครั้งที่พี่เฟนหยิบอะไรก็ตามที่เป็นเลนมันมักจะพังไปซะทุกอย่าง จนทำให้เลนหัวเสียทุกครั้งที่เห็นพี่เฟนหยิบจับของอะไรตามที่เป็นของเลน
“เฮ้ย... จี้”เลนลุกขึ้นโวยในทันที และนึกแค้นใจที่เมื่อคืนลืมเก็บกีตาร์ (จี้ เป็นคำที่ใช้เรียกแทนพี่)
“ถ้ายอมตื่นดีๆซะก็สิ้นเรื่องแล้วแต่ก็นะถ้าไม่อยากให้ฉันเล่นอีกรอบ ก็รีบไปอาบน้ำแล้วลงไปทานอาหารเช้าได้แล้ว”เมื่อพูดจบพี่เฟนผู้แสนจะดีในสายตาน้องชายก็เดินออกจากห้องไป
“เฮ้อ... เปิดเทอมแล้วสินะไม่อยากไปเลยจริงๆ”เลนบ่นพร้อมกับลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวเพื่อเข้าไปอาบน้ำ สามสิบนาทีต่อมาเลนก็แต่งตัวในเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีดำ เนคไทสีดำ และหยิบเสื้อสูทสีดำที่แขวนอยู่ออกมา เมื่อตรวจสอบความพร้อมทุกอย่างเรียบร้อย เลนจึงเดินออกจากห้องเพื่อลงไปที่ห้องครัวของบ้าน
“ตื่นช้าจริงๆเลยนะเรา”เสียงแม่ดังขึ้นมาเมื่อเห็นเลนเดินลงมา ขณะที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ของเช้านี้อยู่
“โทษทีครับแม่”เลนกล่าวขอโทษและเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง พร้อมกับแม่บ้านที่เดินเข้ามาตักข้าวต้มใส่ถ้วยที่วางอยู่ตรงหน้า
“ขอบคุณครับป้าตา แล้วป๋ากับจี้เฟนล่ะครับแม่”เลนพูดขอบคุณแม่บ้าน และหันมาถามแม่
“พ่อเธอไปแต่เช้าแล้ว ส่วนเฟนเพิ่งออกไปเมื่อกี้”เมื่อแม่พูดจบก็ดูนาฬิกาข้อมือและวางหนังสือพิมพ์ก่อนจะดื่มน้ำส้มที่เหลืออยู่จนหมด
“เลนงั้นแม่ไปก่อน พอดีตอนเช้าแม่มีประชุม”ทันทีที่พูดจบแม่ก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าและแฟ้มเอกสาร
“แล้วก็รีบกินซะนี้ก็ 7 โมงแล้วรถก็อย่าขับเร็วให้มากนะ”แม่หันกลับมาพูด
“ครับแม่”เมื่อแม่ได้ฟังตอบก็ยิ้มให้และเดินออกจากห้องครัวไป
เลนลุกขึ้นหลังจากกินข้าวต้มจนหมด และเดินออกจากห้องครัว เพื่อไปที่โรงรถของบ้าน
เลนติดเครื่องรถมอเตอร์ไซค์ค้นโตDUCATI DESMODRTICI RR สีดำ และขับออกจากบ้านอย่างเร็ว
ออกจากบ้านได้ไม่นานสิ่งที่เลนแสนจะเบื่อเวลาขับรถในเมืองใหญ่อย่างนี้ คือรถมันติดจนทำให้หงุดหงิด เพราะแบบนี้แระเลนเลยเลือกที่จะขับรถมอเตอร์ไซค์ที่มันคล่องตัวกว่า
ไม่นานนักเลนก็มาถึงโรงเรียน หลังจากเอารถจอดเป็นที่เรียบร้อยแล้วเลนก็มุ่งตรงเพื่อจะเข้าห้องเรียนในทันที
“เลน!”เสียงตะโกนเรียกก่อนที่เลนจะก้าวขึ้นบันไดเพื่อไปที่ห้องเรียน ซึ่งแม้ไม่ต้องหันไปมองเลนก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นเรย์
“วันนี้คาบเช้าไม่มีเรียน ไม่ต้องรีบแล้ว”เรย์ชายหนุ่มลูกครึ่ง ไทย อังกฤษ ผมสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีดำซึ่งขัดกับใบหน้านิดๆ ทรงผมยาวด้านบนชี้เล็กน้อยซึ่งจัดทรงอย่างดูดี และนิสัยเงียบๆของเรย์ทำให้เป็นผู้ชายที่ป๊อปมากติดระดับต้นๆของโรงเรียนเลยที่เดียว
“อ่า... งั้นก็ดี”เลนพูดพร้อมกับเดินไปนั่งที่ขั้นบันไดหน้าตึกของโรงเรียน
“แล้วพลอยล่ะ”เลนถามถึงเพื่อนสนิทอีกคน และเป็นเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวของพวกเลน (เพื่อนผู้หญิงนะมีเยอะไปแต่พวกแกไม่สนเอง +.+)
“เอ่อ... เห็นว่าไปห้องพักครูนะ”เมื่อเลนได้ยินดังนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาพลอยใสในทันที
“ว่าไง”เสียงตอบใสๆที่เลนทำให้เลนแทบจะยิ้มจนถึงหู
“อยู่ไหน”เลนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“อยู่หน้าห้องพักครูนะ กำลังจะเดินกลับไปที่ห้องแล้ว เลนล่ะอยู่ไหน”
“บันไดหน้าตึกนะ”
“อืมๆ รออยู่นั้นแระเดียวจะไปหานะแล้วเรย์ล่ะ”
“อืม ก็อยู่ด้วย”
“งันเดียวเจอกันนะ”พลอยใสกดวางโทรศัพท์ทันทีที่เธอพูดจบ
“เป็นไงบ้างล่ะ เรื่องงานที่พ่อนายให้นายทำเป็นไงบ้าง”เรย์ถามถึงงานที่พ่อของเลนซึ่งเป็นบริษัทส่งออก และในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาพ่อลองให้เลนได้เรียนรู้งานภายในบริษัท
“ก็ดี มันก็แค่เช็คเอกสารต่างๆเกี่ยวกับการเงิน ต้อนรับลูกค้าจากต่างประเทศ หรือไม่ก็ต้องไปงานเลี้ยงของลูกค้า”เลนพูดอย่างเซ็งเพราะมันเป็นงานที่ต้องใส่หน้ากาก เข้าหากลุ่มลูกค้าของพ่อ ซึ่งเป็นงานที่เลนค่อยชอบเท่าไรถึงแม้จะถนัด (ก็ใส่หน้ากากเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด10กว่าปีแล้วนี้)
“แล้วทางนายล่ะ”เลนหันมาถามเรย์บ้าง เพราะบริษัทด้านการเงินของพ่อเรย์ก็ให้ลูกชายทั้ง3คนมีส่วนในการบริหารด้วย
“ก็มีบ้าง แต่ส่วนใหญ่พวกพี่ๆเค้าจะจัดการไปหมดแล้วก็มีเหลือแต่พวกงานตามงานเลี้ยงบ้าง แต่มีปัญหาบ้างซึ่งนายก็รู้ว่ามันคืออะไร”เรย์ตอบอย่างเซ็ง
“ฮ่าๆ...”เลนหัวเราะและนึกขำ เพราะเรย์เป็นคนเงียบๆและตรงๆ ซึ่งงานพวกเข้าสังคมกับพวกลูกค้า แบบนี้ต้องค่อยใส่หน้ากากเข้าหาลูกค้าเรย์จึงไม่ค่อยจะถนัดอยู่แล้ว
“ว่าไงทั้งสองคน”เสียงเล็กๆพร้อมกับแขนที่เข้ามากอดคอเลนกับเรย์ไว้ แต่เมื่อพลอยสบตาเรย์ พลอยใสก็รีบคลายมือออกจากคอของเลนและเรย์อย่างเร็ว ซึ่งเลนเองไม่ทันสังเกตเห็น
“คิดถึงจังเลย เป็นไงบ้าง”พลอยใสพูด เลนซึ่งมองใบหน้าของพลอยใสอย่างลืมตัว ผมสั้นสีดำ ดวงตาสีดำมันวาว จมูกและปากสวยเข้ากับใบหน้า และความสดใสที่ทำให้เลนคิดถึงมาอยู่ ตลอด1เดือนเต็มที่เลนต้องไปทำงานที่พ่อมอบให้ ซึ่งบ่อยครั้งที่เลนต้องออกนอกประเทศไปกับพ่อหรือบ้างครั้งก็ไปเพียงคนเดียว ทำให้เลนแทบไม่มีเวลาที่จะเจอเรย์และพลอยใสมีเพียงเสียงจากมือถือเท่านั้น
“เลน เลน! ฟังพลอยอยู่ไหม”เสียงตะโกนของพลอยใส ทำให้เลนที่มัวแต่เหม่อมองใบหน้าของพลอยใสจนไม่ได้ฟังคำถามรู้สึตัว
“หืม อะไรนะ”เลนถามกลับโดยพยายามควบคุมน้ำเสียงให้นิ่งเหมือนปกติ
“ไม่ได้ฟังเลยใช่ไหม ที่ถามเนี่ย”พลอยใสพูดด้วยเสียงน้อยใจเล็กๆ
“ขอโทษที่พอดีมีอะไรให้คิดนะ”เลนรีบขอโทษในทันที
“เป็นยังไงบ้างเอ่ย สบายดีไหม”พลอยใสถ้วนคำถามซ้ำด้วยน้ำเสียงน่ารักๆ
“อืม ก็ดีนะ”เลนตอบพร้อมรอยยิ้มให้พลอยเหมือนทุกๆครั้ง
ความคิดเห็น