คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 7 ก้าวสู่ความยิ่งใหญ่
เมืองทริสทาน
“ท่านหัวหน้า ข้าขอโทษ” เสนาธิการแห่งกิลด์ฮาเดสคุกเข่าขอโทษต่อหัวหน้ากิลด์ เพราะความผิดพลาดครั้งนี้ทำให้กิลด์ฮาเดสจะเป็นหรือตายแขวนอยู่บนเส้นด้ายทันที
“ท่านไม่ผิดหรอก มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆใครจะคิดว่าพยัคฆ์ที่รอจับเชือดกลับมีคนไปเสริมเขี้ยวเล็บให้มัน” คนที่เป็นหัวหน้าไม่ถือสาหาความใดๆทั้งสิ้น
หัวหน้าที่ดีจะต้องแสดงพระคุณต่อลูกน้องเพื่อให้ลูกน้องเชื่อใจนี่คือสิ่งพื้นฐานที่หัวหน้าต้องมี กิลด์ฮาเดสเริ่มต้นจากปาร์ตี้เล็กๆที่มีคนมีความคิดอยากจะสู้เพื่อความเป็นใหญ่ จนสามารถรวบรวมผู้คนจนเป็นกิลด์ได้ เพราะมีเสนาธิการคนนี้ทำให้กิลด์ที่ดูไม่มีพิษไม่มีภัยใดๆสามารถตีเมืองได้ในวันแรกของเกมที่เปิดให้ตีเมือง และเพราะเสนาธิการคนนี้อีกเช่นกันทำให้ฮาเดสได้กลายเป็นใหญ่ อีกอย่างทั้งสองคนนี้ก็เป็นพี่น้องกันจะโกรธกันได้ยังไง แต่ทั้งคู่ปิดเรื่องนี้ไม่ให้คนอื่นรู้เพราะหากความเป็นคนในครอบครัวอาจทำให้ระบบการปกครองเสียได้
“ข้าขอบคุณท่านมากที่ไม่ถือโกรธข้า แต่ท่านหัวหน้า ข้า...ข้าคิดว่าเราควรจะรวมกิลด์ เหมือนที่กิลด์พยัคฆ์ขาวเสนอ” คนเป็นเสนาธิการแม้จะทำผิดพลาดแต่ต้องสามารถกลับมาลุกขึ้นยืนอีกครั้งได้
“ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเราควรรวมกิลด์หละ” หัวหน้ากิลด์ฮาเดสพูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ถือสาหาความใดๆทั้งสิ้นแสดงให้เห็นว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ยึดติดในอำนาจ
“ตอนนี้เราไม่สามารถดูแลตัวเองได้จริงๆ เมืองทริสทานสัตว์อสูรที่อยู่รอบๆเลเวลสูงเกินไปเกินกว่าพวกที่ถูกลดเลเวลจะสู้ไหว แล้ววันนี้หากเราไม่ทำอะไรสักอย่างช้าเร็วกิลด์มังกรดำก็ต้องตีเราแตกพ่ายอยู่ดี แต่หากเราไปรวมกิลด์กับกิลด์พยัคฆ์ขาวเราก็สามารถแยกตัวออกมาเมื่อไม่พอใจเมื่อไหร่ก็ได้แต่ตอนนี้ข้าว่าเราควรพึ่งพาเขาก่อน จริงๆข้าคิดจะตอบตกลงตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่เขาเสนอแล้ว แต่ข้าคิดว่าข้าควรปรึกษาหัวหน้าก่อน” เสนาธิการยังพูดได้เฉียบคมเช่นเดิม
“ข้าก็มีความคิดเช่นเจ้า แต่ความรู้สึกข้ามันกลับบอกว่าเราจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิลด์พยัคฆ์ขาวโดยไม่มีการแยกออกมาอีก” หัวหน้ากิลด์พูด
เมื่อได้รับการยอมรับจากหัวหน้ากิลด์และเสนาธิการแผนการนี้ก็เข้าสู่ที่ประชุมทันทีแม้ตอนแรกจะมีหลายคนไม่เห็นด้วยแต่ทุกคนก็ยอมรับในเรื่องที่เราจะแยกตัวออกมาเมื่อไหร่ก็ได้และเรื่องที่เราไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ผลสรุปจึงกลายเป็นว่าจะมีการรวมกิลด์ขึ้น
เสนาธิการผู้นี้ยังวางแผนได้ดีเช่นเดิมเขาคิดว่าควรจะรีบเร่งเดินทางก่อนที่กิลด์มังกรดำจะมาดักโจมตีและให้ขนคนทั้งกิลด์ร่วมในการเดินทางครั้งนี้เพราะตอนนี้เขามีแผนการทิ้งทวนเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้จะไม่มีการหิวน้ำและหิวข้าวแต่ก็ยังมีความเหนื่อยอยู่ดีทันทีที่ผู้เดินทางทั้งหมดก็พบว่าประตูเมืองเปิดคอยพวกตนอยู่แล้ว และที่หน้าประตูเมืองมีเด็กน้อยกำลังนั่งเล่นหมากรุกกับตัวเองอยู่
ผู้ที่ถือตำแหน่งเสนาธิการย่อมเป็นผู้เจรจา เสนาธิการแห่งกิลด์ฮาเดสจึงเดินออกมาและเริ่มกล่าวสนทนากับผู้ที่เล่นหมากรุกกับตัวเองอยู่
“ข้าจะมาเจรจาเรื่องการรวมกิลด์มิทราบหัวหน้ากิลด์ท่านอยู่ที่ใด” คำพูดที่ดูเหมือนเป็นการมองข้ามคนตรงหน้าทำให้เด็กน้อยคนนั้นคิ้วกระตุก
“ซุนวูเคยกล่าวไว้ แม้ฝุ่นดินที่อยู่บนพื้นก็สามารถล่วงรู้ข้าศึกได้หากฝุ่นลอยต่ำแสดงว่าเป็นทหารราบ ฝุ่นลอยสูงมีการใช้รถศึกหรือใช้ม้า ฝุ่นลอยเดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำแสดงว่าข้าศึกกำลังตั้งค่าย แต่ที่ข้าพิจารณาคือฝุ่นลอยต่ำแสดงว่ามีทหารราบหากพวกท่านคิดจะตีเมืองก็ช่วยรอจนถึงเวลาห้าทุ่มก่อนค่อยว่ากัน” อีกฝ่ายก็กล่าวไม่ไว้หน้าเช่นกัน
ผู้เป็นเสนาธิการย่อมต้องควบคุมอารมณ์ได้ ทั้งความร้อน ความเหนื่อย และการกวนอารมณ์ของอีกฝ่าย ล้วนสามารถทำให้คนธรรมดาสติแตกได้ทั้งสิ้น แต่ผู้ที่เป็นเสนาธิการย่อมไม่เป็นเช่นนั้น
“ข้าไม่มีความคิดจะตีเมืองในเวลานี้แต่หากท่านยังปฏิเสธน้ำใจอยู่ข้าคงต้องใช้วิธีของสุนัขจนตรอก หวังว่าท่านคงเข้าใจ” เสนาธิการแห่งฮาเดสยอมถอยก่อนเพื่อให้การเจรจาเสร็จโดยเร็ว
“เพียงง่ายๆขอให้ท่านจงบอกหัวหน้ากิลด์ฮาเดส ลดทิฐิลงก่อน แล้วยุบกิลด์ท่านทิ้งซะข้ารับรองพวกท่านทุกคนจะได้เข้ากิลด์พยัคฆ์ขาว” วายุกล่าวเสียงดังเพื่อให้คนที่เป็นหัวหน้ากิลด์ฮาเดสได้ยิน
“ผู้จะเป็นใหญ่ไม่สมควรมีทิฐิ ข้านั้นไร้ซึ่งสิ่งนั้นมานานแล้ว ส่วนคำขอของท่านข้าจะจัดการให้เดี๋ยวนี้” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นที่เล่นเอาวายุสะอึก
“ผู้หญิงหรอกหรือเนี่ย ฟังจากคำพูดก็สมควรแล้วที่เป็นหัวหน้ากิลด์ใหญ่ คนผู้นี้ไม่ธรรมดาต้องระวังให้ดีหน่อยแล้ว แต่คิดจะแสดงพระคุณต่อคนของตัวเองเพื่อแข่งกับหัวหน้าเราเรอะไม่มีทาง” วายุคิดในใจ และไม่นานเสียงทางระบบก็ดังขึ้น
“กิลด์ฮาเดสถูกยุบ เมืองทุกเมืองที่กิลด์ฮาเดสครอบครองตกอยู่ภายใต้การครอบครองของระบบ”
“หัวหน้าของเราได้คิดไว้อยู่แล้วว่าพวกท่านต้องมา เชิญพวกท่านพักในเมืองเพื่อหลบแดดเถิด ส่วนเรื่องการรับเข้ากิลด์ไม่ต้องเป็นห่วงทันทีที่พวกท่านเข้าไปในเมืองท่านหัวหน้ากิลด์และรองหัวหน้าจะตามไปชักชวนพวกท่านเข้ากิลด์ตอนนี้ขอให้พวกท่านรีบเข้าไปพักในเมืองก่อนเถิด” คำพูดที่ทำให้หลายฝ่ายต้องทำงานหนักขึ้นแต่เพื่อสร้างพระคุณให้แก่หัวหน้าทางอ้อมเขาจึงยอมทำ
“มิใช่ท่านคิดไว้ก่อนแล้วต่างหากหรอกหรือ” คำพูดเสียดสีของหัวหน้ากิลด์ฮาเดสดังขึ้นข้างๆเขา
“ข้าชื่อมีนา ใช้ชื่อนี้ทั้งในเกมส์และนอกเกมส์แล้วท่านหละ” อีกฝ่ายกล่าวแนะนำตัว
“ข้าน้อยชื่อวิน ส่วนชื่อในโลกจริงคือวายุ” วายุตอบไปตามความจริงเพราะตอนนี้เขาเริ่มสนใจอีกฝ่ายเสียแล้ว
“ส่วนเสนาธิการของข้าเขาชื่อคม แต่ชื่อจริงๆเขาคือมกรา เขาเป็นพี่ชายฉันหนะ แต่อย่าบอกใครนะพวกเราปิดเรื่องนี้อยู่” อีกฝ่ายพูดยิ้มๆ
“หวังว่าทั้งสองคนจะร่วมงานกันได้ดีนะฉันไปหละ” และหญิงสาวก็เดินจากไป
“เหอะๆไอเดียดีเนอะ มกรา+คม คิดแล้วขำ” เขาคิดในใจ แต่ตอนนี้เขาต้องทำอะไรบางอย่างเสียก่อน
“พี่มกราครับ หวังว่าที่พี่ทิ้งเมืองทริสทานมาแบบนี้คงจะวางแผนไว้ก่อนนะครับ” เขาเข้าไปกระซิบอีกฝ่ายเพื่อปรึกษาและยั่วโมโหกลายๆ
“พอเถอะไอ้อาการเหมือนเด็กๆแบบนั้นมันหลอกฉันไม่ได้ เห็นแล้วเซ็งคิดหรอว่าฉันจะไม่รู้แกมันต้องอยู่ม.ปลายแล้วถูกมั้ย อีกอย่างอย่าริอาจจีบน้องสาวข้าเด็ดขาดไม่งั้น เอ็งตาย” ถึงแม้เคยเป็นเสนาธิการแต่พอรู้ว่าน้องตัวเองไปบอกความลับเรื่องนี้กับคนอื่นเขาก็ฟิวส์ขาดเป็นเหมือนกันยิ่งเห็นท่าทางซื่อๆของอีกฝ่ายยิ่งรู้สึกเคือง
“ส่วนแผนฉันก็ใช้วิธีคล้ายแกนั่นแหละ ตอนนี้ก็รอเชือดมังกรทิ้งคืนนี้” เขาพูดพร้อมกับเริ่มอธิบายแผนคร่าวๆให้อีกฝ่ายได้ยิน เมื่ออธิบายจบคนที่ใช้ร่างเด็กอายุ 8 ขวบก็กระซิบอะไรบางอย่างซึ่งเมื่อกระซิบเสร็จทั้งสองคนก็ยิ้มบาง ซึ่งหากใครที่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้ของวายุก่อนที่จะจัดการกิลด์ฮาเดสแล้ว เขาจะพบว่าครั้งนี้ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับครั้งนั้นเสียเหลือเกิน
หลังจากกิลด์ฮาเดสได้รวมกับกิลด์พยัคฆ์ขาวอย่างสมบูรณ์แล้วก็จัดการส่งคนที่ระดับต่ำๆไปเก็บเลเวลที่เกาะเริ่มต้นทั้งหมดยกเว้นแค่ 2 คนซึ่งทั้งสองก็คือเสนาธิการแห่งกิลด์พยัคฆ์ขาวและคนที่พึ่งได้แต่งตั้งขึ้นมาไม่นานมานี้”คม” อดีตเสนาธิการของกิลด์ฮาเดส เพราะทั้งสองเตรียมแผนเชือดมังกรไว้แล้ว แต่เหมือนสวรรค์จะกลั่นแกล้งทั้งสองเพราะทันทีที่ข่าวเรื่องทั้งสองกิลด์รวมกันแพร่กระจายไป ทั้งเมืองทริสทานและเมืองท่าทิศใต้ก็ไม่มีใครมายุ่งเลยในคืนนั้นซึ่งเล่นเอาเหล่าคนต้นคิดถึงกับส่ายหน้าอย่างปลงๆและเข้ายึดเมืองอย่างง่ายดายเพราะไม่มีใครขัดขวาง
แต่การประชุมวันรุ่งขึ้นเล่นเอาคนที่เป็นเสนาธิการของกิลด์แทบสำลักน้ำลายเขาถูกริบเก้าอี้พร้อมกับการอัญเชิญขึ้นเป็นหัวหน้ากิลด์แทนทั้งๆที่การขึ้นตำแหน่งของเขาจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่ายแต่เขาก็รู้สึกแปลกอยู่ดี
เหตุผลก็คือการรวมกันของทั้งสองกิลด์เป็นที่แน่นอนว่าจะมีข้อผิดพลาดขึ้นมาจริงอยู่ที่อดีตหัวหน้ากิลด์พยัคฆ์ขาวเคยสร้างพระคุณเอาไว้แต่แน่นอนทุกคนก็ได้รับรู้ภายหลังเพราะข่าวที่ปิดไม่มิดที่ว่าความคิดนี้มาจากคนที่เป็นเสนาธิการและความคิดด้านการรวมกิลด์ก็มาจากเสนาธิการคนนี้เช่นกัน หรือพูดง่ายๆหากเสนาธิการผู้นี้ขึ้นตำแหน่งจะได้รับการยอมรับจากกิลด์ฮาเดสได้ดีกว่าและเช่นเดียวกันกับกิลด์พยัคฆ์ขาวเพราะอดีตหัวหน้าของพวกตนก็ไม่ได้ขึ้นตำแหน่งจึงประสบกับชะตากรรมร่วมกันที่ว่า
“อดีตหัวหน้ากิลด์ที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองไม่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้ากิลด์ทั้งคู่”จึงทำให้วิธีการนี้จะเป็นการคานอำนาจกันกลายๆคนที่อยู่กิลด์พยัคฆ์ขาวแต่เดิมก็วางอำนาจมากไม่ได้ ส่วนคนที่อยู่กิลด์ฮาเดสเดิมก็ไม่ถูกข่มมากนักและยังยอมรับในตัวหัวหน้าอีกที
ส่วนเหตุผลที่สองที่เขาได้ยินก็เล่นเอาเขาตกเก้าอี้ทันที
“เสนาธิการไม่ควรมีสองคนเพราะเดี๋ยวความคิดไม่ตรงกัน”
“มันเกี่ยวตรงไหนวะ” วายุคิดในใจแต่ก็ต้องยอมรับตำแหน่งนี้โดยดีป.ล.อธิบายเพิ่มนิดหน่อยหากสงสัยว่าหัวหน้ากิลด์พยัคฆ์ขาวยอมหรอ ต้องบอกว่ายอมครับเพราะกิลด์ที่เกือบจะสูญสลายกลับมาครองความยิ่งใหญ่อีกครั้ง เซรัน(หัวหน้ากิลด์ : เผื่อบางคนอาจลืมชื่อ)ตอนแรกก็ชื่อชอบวินอยู่แล้ว และคนนี้ก็เป็นคนมองโลกในแง่ดีจนสามารถถือได้ว่าเป็นคนดีคนหนึ่งเลยทีเดียว (วายุเคยดูนิสัยก่อนแล้วตอนเลือกว่าจะยอมเป็นเสนาธิการให้คนนี้ ตอนที่เขาบอกว่าผ่าน จำได้ป่ะ) เมื่อเห็นทางแก้ที่จะทำให้การรวมกลุ่มไม่มีปัญหาจึงยอมทำตามแต่โดยดีซึ่งพวกรองหัวหน้าแม้บางคนจะไม่ชอบใจแต่ส่วนใหญ่ก็ต้องยอมรับในเหตุผล
ความคิดเห็น