คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ใบเบิกทาง 80%
16ปีผ่านไป
เสียงกรีดร้องของมนุษย์ กลิ่นซากศพที่เหม็นอย่างรุนแรงแต่กลับมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินท่ามกลางกองซากศพเหล่านั้น
เด็กหนุ่มเดินตามเสียงกรีดร้องไปเรื่อยๆราวกับต้องมนต์สะกดของใครเข้า
เมื่อเขาเดิมตามกองซากศพเหล่านั้นเขายิ่งได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นเรื่อยๆยิ่งเข้าไปใกล้ต้นเสียงมากเท่าไหร่นั้นยิ่งพบซากศพมากขึ้นจนเป็นกองมหึมามีชายผู้หนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่โดยเอาดาบพยุงตัวพอเด็กหนุ่มเข้าไปใกล้มากขึ้นเพื่อจะได้เห็นหน้าชายคนนั้นแต่ทันใดนั้นชายคนนั้นก็หันมา
ณ เวลาตรงทุกสิ่งเหมือนหยุดนิ่งเขาไม่ทันได้เห็นหน้าชายคนนั้นแต่สิ่งที่ไม่หยุดคือเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นเรื่อยๆจน....
แผละ...เสียงหยดน้ำมากระทบกับใบหน้าเด็กหนุ่มเข้าอย่างจังทำให้เขาตื่นขึ้นจากฝันร้ายเขาทำหน้ามึนงงราวกับสลบไปหลายอาทิตย์จำอะไรไม่ได้เลยว่าทำไมต้องมานอนบ้านเก่าๆแห่งนี้สักพักเขาถอนหายใจแล้วนึกได้ว่าทำไมต้องมานอนที่นี่แล้วค่อยฝืนคิดในใจว่าพรุ่งนี้ต้องมีสิ่งดีๆบ้างละน่ะ
“ยินดีต้อนรับสู่วันใหม่นะ
อลัน”ขณะที่จะลุกขึ้นจากที่ๆนอนอยู่แต่แล้วก็มีเสียงตะโกนจากไกลๆ
“เฮ้ๆเร็วเข้าได้เวลาแล้วนะวันนี้หัวหน้าใหญ่เรียกตัวพวกเราเป็นครั้งแรกเลยนะ”อลันรีบดีดตัวทันทีและวิ่งออกตามเด็กหนุ่มที่ตะโกนเรียกซึ่งก็คือ “เคน”เพื่อนรักของเขาเคนเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาเข้ม
ผมสีดำถูกตัดอย่างเรียบร้อยให้ดูเข้ากับใบหน้าของเขาดวงตาสีดำสนิทแววตาดูธรรมดาแต่แฝงความฉลาดที่ซ่อนอยู่ภายในขณะที่ทั้งคู่วิ่งไปที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง
“อลัน...นายเป็นอะไรไป ท่าทางนายเหมือนคนตายเลยนะเพื่อน”เคนถามด้วยความห่วงใยสายตาจ้องดูสีหน้าเพื่อนที่จะตอบ
“ตะกี้เราแค่....ฝันร้ายแต่ฝันร้ายแบบนี้ติดต่อกันมาเป็นเดือนแล้ว”อลันตอบแบบปัดเรื่องนี้ไป
แต่ในใจของเขาเขาคิดเรื่องนั้นตลอดเวลา
“ตลกสิ้นดี...ฝันแบบไหนที่ทำให้
Alchemist (นักเล่นแร่แปรธาตุ)
อลันกลัวได้”เคนหัวเราะร่าอย่างไม่สนใจอะไรแต่ก็ต้องเงียบลงเมื่อเห็นอลันทำท่าจะต่อยเข้าให้
“โธ่อย่าคิดมาเลยอลัน
ฉันว่านายเห็นคนตายมากไปมั้ง”เคนพูดพลางยกไหล่ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“นายว่าเราจะโดยเขาไล่ออกอ๊ะป่าวอะ-_-”
“ฉันหวังว่าไม่นะไม่งั้นคงไม่มีข้าวกินอะT-T”
ทั้งคู่เดินมาถึงร้านเหล้าแห่งหนึ่งที่มีป้ายเหล็กเก่าๆแขวนด้านบนประตูเขียนว่า”Black”อลันเคาะประตูโดนมีเคนเหลียวมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง
ครู่หนึ่งมีชายวัยกลางคนตวาดไล่ออกมาพอสักพักหนึ่งจึงมีชายแก่คนหนึ่งบอกว่า
“ร้านปิดแล้วกลับไปซะ”
“แฮมสเตอร์”อลันรีบตอบกลับด้วยเสียงเบามาก
เสียงชายแก่เงียบหายไปก่อนประตูค่อยๆแง้มออกพอให้คนเข้าได้
“เช็ดตัวสกปรกสกปรกของพวกนายก่อนฉันไม่อยากให้ร้านฉันต้องเปรอะเปรื้อนจากตัวพวกแก”ชายแก่จ้องมองทั้งคู่อย่างหน้ารังเกียจแล้วโยนผ้าเช็ดตัวโสโครกไปให้ทั้งที่ทั้งคู่เพราะทั้งคู่เนื้อตัวสกปรกเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นปี
“เลิกทำท่าเหมือนฉันน่ารังเกียจเดี๋ยวเจอกระทืบแน่”เคนพูดขึ้นเสียงดังแล้ววาดวงแหวนเวทย์ที่ผ้าเช็ดตัวกะจะทำเป็นปืนมาขู่แต่ยังไม่ทันใดชายแก่กลับหาดาบจากที่ไหนไม่รู้มาจ่อหน้าเคน
“ขอโทษคร๊าบๆ-_-”เคนรีบร้องแบบแล้วสลายวงแหวนเวทย์ที่เขียนไว้แล้วรีบวิ่งลงไปชั้นใต้ดินของร้านเหล้าอลันไม่สนใจอะไรแล้วเดินลงไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อลันถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความสมเพชใจโดยส่วนใหญ่เขามักจะถูกดูถูกแบบนี้แต่นั่นไม่ใช่สำหรับเคน
พวกเขาเป็นเด็กที่กำพร้าถูกทิ้งไว้ในสงครามและถูกเก็บมาเลี้ยงอย่างทารุณแม้ว่าปัจจุบันสถาณการณ์จะดีขึ้นจนเป็นนักเล่นแร่รับจ้างเนื่องมาจากการฝึกฝนของทั้งคู่ที่จนก้าวมาถึงจุดนี้แต่เงินของพวกเขามักจะถูกขี้โกงไปเกือบหมดเหลือแค่เพียงพอค่ากินสำหรับอลันไม่สนใจเรื่องเงินมากเท่าไหร่เขาต้องการแค่มีชีวิตอยู่รอด
แต่เคนกลับมีความฝันที่ต่างกันไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับอลันเขากลับดิ้นรนอย่างมากเพื่อหาเงินพาเขาและอลันไปสู่ชีวิตที่สบายจึงพยายามเก็บเงินทุกเหรียญความปรารถนาเหล่านี้มีแต่เพียงอลันที่รู้
“รีบๆเข้าไป
พวกเขารอพวกแกอยู่”ชายแก่เอ่ยขึ้นแล้วคลายหน้าโหดลงช้าๆพอทั้งคู่เดินลงไปยังชั้นใต้ดินจนสุดทางที่เป็นทางตันชายแก่ทุบที่กำแพง3ครั้งแล้วกำแพงก็เปิดออกจนเห็นโถงมืดแต่ทันทีที่เดินก้าวเข้ามาในห้องชายหนุ่มท่าทางดุร้ายคว้าตัวทั้ง2ขึ้นมาแล้วตะคอกด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“ถ้าพวกแกยังมาช้าอีกแค่นาทีเดียวอีกจะยิงแกให้พรุนเลย”ทันใดนั้นไฟทั่วห้องก็เปิดจนเห็นมีชาย2คนนั่งอยู่
“วางมันลงมาคัสมีเวลาอีกไม่มาก”ชายที่มุมห้องพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ...แต่แฝงด้วยอำนาจอย่างประหลาด
มาคัสลดท่าทางดุร้ายลงทันทีแล้วกลับไปนั่งเก้าอี้
“เริ่มประชุมได้”
“เอ่อ
คุณมาธิอัสครับคือว่าพวกผม...”ยังไม่ทันที่เคนจะพูดจบชายหนุ่มที่มุมห้องก็ลุกขึ้นพูดว่า
“ฉันเพิ่งพูดว่ามีเวลาไม่มากฉะนั้นฉันจะไม่ฟังคำแก้ตัวของพวกแก”
“เออ คริสฝ่ายนู้นมีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง”มาธิอัสเริ่มพูดเปลี่ยนเรื่องก่อนแล้วหันไปมองชายคนหนึ่งที่มีอายุประมาณ30เศษแต่ซูบเหมือนโครงกระดูกดวงตาพองโตเหมือนผี
“ตอนนี้ฝ่าย
รัสเซล ส่งคนหนุ่มๆในองค์กรมันไปสถาบันดาร์คไลท์ที่กำลังเปิดรับนักเล่นแร่แปรธาตุหน้าใหม่อยู่พวกมันส่งไปประมาณ3คนครับ”คริสตอบ
ตอนนี้อลันและเคนสะดุ้งเฮือกแล้วรู้แล้วว่าทำไมเรียกพวกเขามาประชุมในวันนี้
“สงสัยจะโดนไปเรียนวะ”เ
“ใช่เลยสงสัยโดนแน่เลย -*-”
“อะแฮ่มไม่ต้องคุยกันเสียงดังถูกต้องฉันจะส่งพวกแกไปโรงเรียนนี้
แต่มีการคัดตัวกันนิดหน่อยหวังว่าพวกแกจะผ่านมันไปได้หน้าที่คือจัดการฆ่าพวกมันในโรงเรียนให้ได้ภายใน3ปีเรียนจบจะได้มาเป็นกำลังสำคัญที่จะจัดการพวกรัสเซลได้ทั้งฆ่าศัตรูและได้วิชากลับมาเยี่ยมใช่ไหม”มาธิอัสพูดขึ้นมาทำเอาอลันและเคนจ้องหน้ากันแล้วซุบซิบกันพักนึงจึงให้คำตอบแก่มาธิอัสทั้งๆที่งงเมื่อมาธิอัสพูดออกมาเป็นชุดจนตั้งตัวไม่ทัน
“อืมตกลงแล้วต้องไปคัดตัวใช่มะวันไหนละ”อลันถามขึ้นพร้อมลุกขึ้นแล้วลากเคนให้ลุกขึ้นรถเปิดประทุนเก่าๆคันหนึ่ง
“วันนี้อีก1ชั่วโมงข้างหน้า”มาคัสตอบอย่างหน้าตาเฉย
“หาวันนี้แล้วจะไปทันหรอมันอยู่ห่างไปตั้ง150กิโลเมตรยังไม่นับต้องผ่านตัวเมืองใหญ่”เคนถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าตกใจสุดขึด
“ไม่ต้องห่วงฝีมือขับรถของคริสไม่เป็นรองใครหรอกแล้วเรื่องลงทะเบียนฉันลงให้แล้วจองคิวไว้ให้แล้วด้วยแค่ทดสอบให้ผ่านแล้วกัน”มาธิอัสยิ้มแล้วลากทั้งคู่ไปที่รถเปิดประทุนเก่าๆคันหนึ่งที่เตรียมหลังร้านเหล้า
“คริสไปส่งดีๆละ”มาธิอัสตะโกนไล่หลังมาแล้วหัวเรอะร่า
“อาร์กT-Tช่วยฉันด้วย”อลันร้องสุดขีดที่โดนเศษอิฐอัดใส่หน้าตอนที่คริสฝ่าซอยตันยังไม่พอคริสเหยียบคันเร่งจนทะลุหน้าปัดปาดหน้ารถคันแล้วคันเล่าทั้งที่รถเก่าๆคนนี้ไม่รู้จะพังเมื่อไหร่
“โอ้วมันส์จิงๆ^-^”เคนซึ่งต่างจากเซโร่สิ้นเชิงยิ่งผ่านผู้หญิงใส่กระโปรงแล้วกระโปรงเปิดด้วยความเร็วรถเคนจะยิ่งหัวเราะมากเข้าไปใหญ่จนในที่สุดก็ถึง
“ฉันมาส่งได้แค่นี้”คริสบอกแล้วกลับไปนั่งรถแล้วขับออกไปโดยไม่มาเหลียวมองอลันกับเคนเลย
“คงต้องลองไปทดสอบดูแล้วมั้ง”
“แข่งกันวิ่งไปห้องโถงไหม”
“เอาเลย”
“เห้ยอย่าโกงดิ”อลันร้องไล่พวกเขาไปจนถึงห้องโถงใหญ่มีคนจำนวนมากรอเข้าไปรับการทดสอบจนคิวยาวเหยียดจนอลันและเคนหมดอารมณ์พูดว่าใครชนะแล้วหาที่นั่งเตรียมตัวทดสอบทั้งสองนั่งรอนาน3ชั่วโมงจนเคนหลับไปเหลือแต่อลันที่นั่งครุ่นคิดเรื่องฝันที่ผ่านมา
“Alan The Alchemist”เสียงเรียกของผู้ประกาศดังขึ้นทำเอาอลันสะดุ้งเฮือกแล้วรีบปลุกเคน
“เฮ้ยตาเราแล้วอะ”อลันบอกเคนที่สะลึมสะลืออยู่เคนไม่พูดอะไรแต่ปัดมือไล่ให้ไปเพราะรำคาญ
“ฉันถือว่าที่นายกวักมือไล่คือขอให้โชคดี”อลันรีบเดินไปตามป้ายที่เขียนว่าห้องคัดเลือกเขาเดินเข้าไปเห็นโต๊ะตัวหนึ่งและชายชราที่มีผมและเคราที่ยาวมากที่ทำให้เขาตะลึงจนนัยตาเบิกกว้าง
“เธอคืออลันเดอะอะทีมิสใช่ไหม”
“คะ...ครับ”อลันตอบอย่างตะกุกตะกักชายแก่ที่อยู่ข้างหน้าเขาคือจอมปราชญ์อาซาเลสผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่เป็นที่ปรึกษากษัตริย์เฮกเตอร์ผู้สร้างสันติภาพในสมัยสงคราม5ประเทศเมื่อ30ปีก่อน
“ลองถือดาบที่ดู”อาซาเลสหยิบดาบขึ้นมาเล่มหนึ่งขึ้นมาทันใดนั้นที่อลันจับดาบดาบเป็นประกายอย่างประหลาดส่องสว่างทั่วห้องที่
“เกิดอะไรขึ้น”อลันร้องถามทันใดนั้นอลันรู้สึกเจ็บที่มือและค่อยๆลามทั่วร่างกาย
“ไลท์
สปิริท”อาซาเรสร่ายเวทย์มนต์อย่างเร่งด่วนทำให้อลันสลบไป
อลันรู้สึกตัวอีกครั้งแต่นี่กลับเป็นสถานที่ที่เขาเห็นในฝัน
“ไม่ๆที่เดิมอีกแล้วเราฝันอีกแล้วหรอ”อลันตะโกนลั่น
“ไม่หรอกหนุ่มน้อย”เสียงผู้หญิงดังขึ้นทันใดนั้นมีผู้หญิงที่สวยมากนางหนึ่งปรากฎที่หน้าเขา
“ท่านเป็นใคร”อลันถาม
“ข้าคือเอริส
เจ้าเก่งหนิไม่ต้องมนต์สะกดของข้า”
“เจ้าอยากได้พลังไหมพลังที่หาเงินให้เจ้าพาเพื่อนเจ้าไปอยู่ที่สบายๆ”เกิดรอยยิ้มบนหน้าเอริสยังไม่ทันได้ตอบอลันก็ฟื้นขึ้น
“เฮ้ยเราอยู่ไหนเนี่ย”อลันร้องลั่นเมื่อเขาสำรวจรอบๆตัวเขา
“เรามาอยู่ห้องนี้ได้ไงเนี่ย”
“ก็นายสลบไปน่ะ”ต้นเสียงคือหญิงสาววัยไล่เลี่ยกับเขา
“แล้วฉันสอบผ่านไหม”อลันถาม
“ผ่านสิงั้นเธอไม่ได้มารักษาในดาร์คไลท์หรอก”อลันลุกขึ้นจากเตียงที่นอนอยู่แล้วขยับตัวไปมาเพื่อสำรวจว่ายังไม่เป็นไรมาก
“แล้วเธอละคือใคร”อลันพึ่งถามคนที่ยืนตอบเขาอยู่แม้ว่าจะไม่เห็นตัว
“ฉันหรอฉันชื่อ
เอริก้าจ๊ะนึกว่าจะไม่ถามซะแล้ว”เอริก้าบอกแล้วมาปรากฎตัวตรงหน้าอลัน
“ฉันพาเธอไปห้องโถงแล้วกันจะมีการแจกอาวุธประจำตัวแล้วจะประกาศเปิดภาคเรียนน่ะ”เอริก้าเดินนำหน้าอลันปล่อยให้อลันสำรวจห้องที่เขาอยู่
“ตามมาเร็วสิ”เอริก้าตะโกน
“จ้าๆ”อลันรีบวิ่งตามเอริก้าจนถึงโดมขนาดใหญ่มีคนจำนวนมาก
“เฮ้ยแล้วเจ้าเคนล่ะผ่านหรือป่าวก็ไม่รู้อลัน”พึ่งนึกถึงเพื่อนได้
“ฉันมาส่งแค่นี้นะ”
“อืม”เอริก้าเดินกลับไปทางเดิมที่มาส่งอลัน
“ต่อไปนี้จะเริ่มการประกาศแยกหอพักและป้อมที่ต้องเข้าไปอยู่”
“ป้อมแห่งไฟ”
“ราเนส
เดอะ ปรินซ์ ออฟ ฟีเลเซีย”
“โหไรวะต้องรออีกนานเหมือนเดินแน่”อลันเดินไปบ่นไปจนเมื่อเจอที่นั่ง
“เธอไม่ต้องรอหรอก”อาซาเลสปรากฎตัวขึ้น
“หอพักนักเรียนปี1คือบริเวณชั้น2ทั้งหมดชั้นล่างประกอบด้วย”
ความคิดเห็น