ตอนที่ 11 : Labyrinth
“เอายังไงดีคะรุ่นพี่?”
เคียร่าหันไปถามรูเชียข้างๆ ในขณะที่พวกเธอกำลังยืนมองร่างกายอันบอบช้ำของซุยเซย์ที่กำลังนอนหายใจโรยราอยู่ที่พื้นตรงหน้า
“คุณหนูบอกให้พาตัวเธอกลับไป”
“ห้ามฆ่าเด็ดขาดเคียร่า”
“รับทราบค่ะรุ่นพี่”
เคียร่าเดินเข้าไปใกล้ๆร่างของซุยเซย์ แต่เธอก็ต้องถอยออกมาเพราะซุยเซย์เองพยายามจะลุกขึ้น พื้นดินรอบๆตัวเธอสั่นไหวอย่างรุนแรง ถึงเธอเองจะบาดเจ็บอยู่ แต่ความอันตรายของตัวเธอยังอยู่ในระดับหายนะอยู่ดี
“ฮ-แฮ่ก .. ย-ยังหรอกน่า !!”
ซุยเซย์ค่อยๆพยุงตัวยืนขึ้นในขณะที่ร่างกายเธอนั้นใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว
“พอสักทีซุยเซย์ เธออยากตายนักรึไง?”
รูเชียพูด
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ !!”
รูเชียหันไปหาเคียร่า
“เคียร่า ..”
“ค่ะรุ่นพี่”
เคียร่าเดินเข้าหาซุยเซย์พร้อมดาบที่กำลังติดไฟของเธอ ก่อนเธอจะฟาดมันลงไปบนพื้นใกล้ๆกับซุยเซย์จนเกิดระเบิดและเพลิงไหม้ขึ้น ซุยเซย์กระเด็นไปไกลอีกครั้ง และก็เป็นอีกครั้งที่ คาลิโผล่มาจับตัวซุยเซย์ไว้และโยนเธอกลับมาที่เดิม
ซุยเซย์พยายามตะเกียดตะกายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไร้ประโยชน์ ความสิ้นหวังเริ่มกัดกินหัวใจเธอทีละน้อย เธอได้แต่นอนมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยสีดำและแดงส้มของระเบิดและควันไฟ ยังคงมีการปะทะกันของทหารและฝั่ง Reunion อยู่ในป่า
“พอได้แล้วเคียร่า เดี๋ยวเธอก็ตายพอดีหรอก”
ช่วงวินาทีที่ซุยเซย์ใกล้จะหมดสติ เสียงเรียกของฟุบุกิก็ดังขึ้นอีกครั้ง เสียงที่เธออยากได้ยินมาตลอดหลายวัน
“ซุยเซย์ เธออยู่ไหน !?”
“ซุยเซย์ตอบฉันสิ !!”
เธอได้แต่ยิ้มออกมาแต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะตอบกลับ เธอไม่มีแรงแม้แต่จะคงเปลือกตาของเธอให้มันเปิดอยู่ด้วยซ้ำไป มันกำลังจะปิดลงอย่างช้าๆ
และในที่สุดมันก็ปิดลง ..
.
..
…
….
เสียงที่ไม่คุ้ยเคยดังขึ้นขณะที่เธอกำลังไร้สติอยู่
“รักษาเธอซะชิออน”
“เอ๊ะ? ท-ทำไมล่ะคะคุณหนู?”
“เราต้องให้เธอช่วย พลังของเธอจำเป็นกับพวกเรา”
“รับทราบค่ะ .. คุณหนู”
________________________________________________________
“อามิยะ .. ซุยเซย์ไปไหน?”
“อ-เอ๊ะ?”
ด๊อกเตอร์เรียกอามิยะเข้ามาในห้องทำงาน พยายามจะถามหาซุยเซย์
“ม-ไม่รู้สิคะ เธอไม่ได้บอกด๊อกเตอร์หรอคะ?”
“งั้นหรอ? เธอไปไหนนะ”
“อ-เอ่อ เธออาจจะไปทำอะไรตามประสาของเธอรึเปล่าคะ? เธอเองก็เป็นคนหัวดื้ออยู่แล้ว”
“งั้นหรอ?”
“เอ่อ .. นี่ค่ะ ..”
อามิยะเดินมาส่งแฟ้นข้อมูลให้ด๊อกเตอร์เหมือนเคยๆ ด๊อกเตอร์เปิดดูแฟ้มรายงานที่เป็นการรายงานภารกิจต่างๆ และเขาก็พบว่ามันครบถ้วน ไม่มีภารกิจใดๆที่ยังคงหลงเหลืออยู่เลย
“เหนื่อยหน่อยนะ อามิยะ”
“ขอบคุณค่ะ ด๊อกเตอร์”
หลังจากนั้นอามิยะก็เดินออกจากห้องด๊อกเตอร์ไป เธอหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาและพยายามโทรหาใครสักคน
“ค่ะ มาดาม Ch'en”
“ฉันกำลังจะไปรับแขกค่ะ ..”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ”
“ค่ะ .. ”
อามิยะรีบขึ้นเครื่องบินพร้อมกับทีมของเธอ ตรงไปยังจุดล่าสุดของมิโอะทันที ไม่นานนักเธอก็ได้รับสัญญาณการติดต่อจากมิโอะ เพราะการหายไปของเซเล ทำให้พวกเธอสามารถใช้เครื่องมือสื่อสารได้อีกครั้ง
ไม่นานเครื่องก็ถึงจุดหมาย เธอพบกับฟุบุกิ มิโอะ และโบตัน
“ทุกคนปลอดภัยนะคะ!”
“อามิยะ ซุยเซย์อยู่ไหน!?”
ฟุบุกิรีบวิ่งเข้ามาหาอามิยะทันที
“เอ๊ะ? เธอยังไม่มาเจอพวกคุณอีกหรอคะ?”
“หมายความว่ายังไง?”
“ฉันส่งซุยเซย์ซังมาช่วย หลายวันแล้วนะคะ ..”
“ม-ไม่นะ ..”
ฟุบุกิพยายามเรียกซุยเซย์อยู่อีกหลายครั้งแต่ก็ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา เธอจึงลองพยายามทำอะไรสักอย่าง
“อาเน่มาจิซัง ..”
เธอเรียกหาพี่สาวของซุยเซย์แทน
“หืม? ฟุบุกิจังหรอ?”
“ติดต่อซุยเซย์ได้รึเปล่าคะ?”
“ไม่ได้เลย .. เกิดอะไรขึ้นกันแน่ฟุบุกิจัง? ซุยเซย์บอกฉันว่าไปตามหาเธอนะ”
“เอ๊ะ? .. อย่าบอกนะ ..”
อามิยะเห็นดังนั้นจึงเดินเข้ามา พยายามจะให้ฟุบุกิสงบสติอารมณ์ลง
“ซุยเซย์ซังเป็นคนเก่งนะคะ เธอไม่น่าจะเป็นอะไร”
“พวกเรากลับฐานกันก่อนเถอะค่ะ”
ทั้งหมดขึ้นเครื่องชนิดพิเศษของอามิยะ ที่มีลักษณะเป็นเฮลิคอปเตอร์ชินุก หรือเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงกำลังพลที่ใช้ในการทหาร และรีบมุ่งตรงกลับฐานทันที
เมื่อถึงฐานอามิยะก็รีบนำประชาชนส่วนหนึ่งแยกตัวออกไป โดยบอกว่าจะจัดการเรื่องทั้งหมดเอง และให้มิโอะ ฟุบุกิ โบตัน นั้นไปพัก
ระหว่างที่ฟุบุกิเดินอยู่ในฐานด้วยอารมณ์ที่ค่อนข้างสับสน โดยมีมิโอะและโบตันเดินตามมาด้านหลังนั้น อาเน่มาจิและเลมมี่ก็รีบวิ่งมาหาพวกเธอ
เพี้ย !!
เลมมี่ตบเข้าที่ใบหน้าของฟุบุกิอย่างแรง จนหน้าเธอสะบัดไปด้านข้าง ฟุบุกิตกใจอย่างมาก เธอได้แต่เอามือจับที่ใบหน้าของเธอ ในขณะที่อาเน่มาจิก็รีบวิ่งเข้ามาห้ามเลมมี่ไว้
“เพราะเธอคนเดียว !!!”
“ซุยจังถึงได้หายไปแบบนี้ !!!”
“ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับซุยจัง .. ฉันจะฆ่าเธอซะฟุบุกิ !!”
“เลมมี่ !! ใจเย็นก่อนสิ เลมมี่จัง !!”
“ป-ปล่อยนะคะอาเน่มาจิซัง !!”
ด้วยอารมณ์ที่กำลังสับสนบวกกับบรรยากาศที่แย่ลงทุกที น้ำตาฟุบุกิเริ่มไหลออกมาอย่างช้าๆ จนสุดท้ายเธอก็ทรุดตัวลงกับพื้นร้องไห้อย่างกับคนบ้าที่กำลังเสียสติ
“ฟุบุกิ ฟุบุกิ ทำใจดีๆไว้ก่อนสิ ฟุบุกิ !!”
“มิโอะซัง เราพาหัวหน้าไปพักก่อนเถอะค่ะ”
มิโอะและโบตันพยายามหิ้วปีกฟุบุกิไปพักยังห้องพักของเธอ โดยที่ทั้งสองคนจะยังคงคอยดูแลอยู่ไม่ห่างเพราะกลัวว่าฟุบุกิเองจะทำอะไรโดยที่ไม่ทันคิด
_________________________________________________________________
หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องทำงานของอามิยะ โดยที่อามิยะกำลังชงชามาให้เธอ วางลงบนโต๊ะ และเดินไปนั่งตรงข้าม
“โมโม่ซูซุ เนเน่ สินะคะ?”
“ค-ค่ะ ..”
“เราได้รับคำสั่งจาก มาดาม Ch'en ให้มาช่วยคุณค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ตอนนี้ใน Lungmen กำลังวุ่นวายค่ะ เริ่มมีการประท้วงเกิดขึ้น ฉันเดามาว่าน่าจะมีการก่อกบฏขึ้นในไม่ช้านี่ค่ะ”
“แล้วฉันกลับไป จะช่วยอะไรได้?”
“ตำแหน่งของคุณตอนนี้คือผู้นำเมือง Lungmen นะคะ อย่าลืมสิคะ”
“อ-อืม ..”
อามิยะขยับเข้ามาใกล้เนเน่
“เนเน่ซังไปทำอะไรในเมืองนั้นหรอคะ? เมืองที่คุณถูกพวก Reunion ล้อมไว้”
“ฉ-ฉันก็แค่จะไปเจรจากับพวกทหาร .. ฉันไม่อยากจะส่งอาวุธให้พวกเขาอีกแล้ว”
“ทำไมหรอคะ?”
“ฉันอยากจะหยุดเรื่องนองเลือดนี่สักที พวก Reunion แค่ต้องการจะปกป้องคนของพวกเขา ..”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?”
“พวกเขาเคยบุกเข้ามา และช่วยคนของพวกเขาออกไปโดยไม่ได้มีการตอบโต้อะไร เจตนาของพวกเขาชัดเจนมากนะ”
“ … ”
“มีครั้งไหนบ้างที่พวกเขาตั้งใจจะรุกรานเราจริงๆหรอคะ? คุณเองก็น่าจะรู้ดีนะคะ อามิยะ ..”
“คุณเข้าข้างพวกเขาหรอคะ?”
“ทำไมคุณถึงเกลียดพวกเขานักหรอคะ? ทั้งๆที่คุณเองก็ไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งกับพวกเขาโดยตรงแท้ๆ”
“พวกเราเป็นทหารรับจ้างค่ะ เนเน่ซัง ศัตรูของผู้ว่าจ้างคือศัตรูของเรา”
“โดยที่คุณจะไม่สนใจว่าอะไรเป็นอะไรเลยน่ะหรอคะ?”
“สิ่งที่สำคัญที่สุดของฉันคือ Rhode Island แห่งนี้ค่ะ ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ที่นี่ยังคงเดินต่อไปได้”
อามิยะเงียบไม่พูดอะไรไปสักพักหนึ่ง และค่อยๆลุกจากเก้าอี้
“เราจะส่งตัวคุณกลับไปที่ Lungmen”
“เตรียมตัวให้พร้อมด้วยนะคะ ..”
และอามิยะก็เดินจากไป
เธอเดินไปตามทางที่ไม่มีผู้คนในฐานก่อนจะยกโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา
“ฉันจะส่งตัวเนเน่ซังให้คุณค่ะ”
“ยาหรอคะ? จะว่ามีมันก็มีอยู่หรอกค่ะ แต่การสร้างกองทัพผู้ติดเชื้อแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่เราตกลงกันไว้นะคะ”
“จะให้เนเน่ซัง เซ็นยินยอมทิ้งอำนาจให้คุณสินะคะ .. ”
“ยังไงพวก Reunion จะต้องเข้ามาขัดขวางแน่ๆค่ะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ฉันจัดการไว้หมดแล้ว ..”
“รับทราบค่ะ มาดาม Ch'en แต่จบเรื่องนี้ ค่าเสียหายที่คุณต้องจ่ายพวกเรามันก็จะเยอะหน่อยนะคะ”
_________________________________________________________
ณ ห้องแลป Rhode Island
“เยี่ยมไปเลย !"
วอฟาริน Operator ทีมแพทย์ที่กำลังวิจัยยารักษาโรคของ Rhode Island เธอกำลังตั้งใจทำงานของเธออย่างขมักเขม้น โดยที่ อาเน่มาจิกำลังนั่งอยู่ข้างๆ
“นั่นอะไรน่ะวอฟาริน?”
“ตัวอย่างยาที่จะนำไปพัฒนาต่อน่ะ”
“หืม?”
“ตัวยานี้สามารถจะยืดระยะเวลาในการทนต่อเชื้อได้มากกว่ายาที่เราใช้กันถึง 10 เท่าเลยล่ะ และอีกไม่นาน”
“เจ้านี่แหละ จะกลายเป็นยารักษาล่ะ”
อาเน่มาจิได้แต่ยืนมองวอฟารินที่กำลังตื่นเต้นอยู่ ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกแปลก ในหัวของเธอตอนนี้แน่นอนว่ามีแต่เรื่องของซุยเซย์ น้องสาวที่รักของเธอหายไปทั้งคน เธอกำลังตายจากภายในอย่างช้าๆ
แต่ด้วยอะไรบางอย่างเธอเริ่มรู้สึกแปลกกับการหายตัวไปของน้องสาวเธอ และนั่นทำให้เธอเริ่มจะทำอะไรบางอย่าง ซึ่งเธอเองมั่นใจกับสัญชาตญาณของเธออย่างมาก
ระหว่างที่วอฟารินกำลังตื่นเต้นกับผลงานของเธออยู่ อาเน่มาจิที่มีความสามารถระดับหนึ่งในห้องแลปและเรื่องการแพทย์ เธอรู้ดีว่าอะไรอยู่ตรงไหนเพราะเธอเองเข้าออกห้องแลปนี้ประจำเพื่อใช้เลือดของเธอในการทดลองเพื่อวิจัยยารักษา
เธอเริ่มเดินไปเดินมา มองหา Blueprint หรือแผงเขียว ของตัวยาที่วอฟารินกำลังถืออยู่ ว่ามันผลิตจากอะไร ใช้สารเคมีใดบาง และเธอก็เจอ ซึ่ง Blueprint อันนี้นั่นเกิดจากความร่วมมือของทีมแพทย์หลายคนอย่างมาก และมันใช้เวลานานพอสมควรเนื่องจากมันซับซ้อนจนไม่สามารถมีใครคนใดคนหนึ่งจำมันได้
อาเน่มาจิใช้พลังของเธอในการขยายขีดจำกัดสมองของเธอ โดยสั่งให้มันทำงานเกินขีดจำกัดในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งมันไม่เป็นอันตรายใดๆกับตัวเธอ อาเน่มาจิเริ่มมองและจับแปลนเหล่านั้นไว้ในสมองของเธอ เพราะเธอเองคิดว่าตัวยานี้พวกเธอเองอาจจะได้ใช้เร็วๆนี้นั่นเอง
“อาเน่มาจิ?”
“หืม? มีอะไรหรอวอฟาริน”
“เดินหาอะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้วน่ะ?”
“เปล่าหรอกฉันแค่เป็นห่วงซุยเซย์น่ะ”
“ง-งั้นหรอ?”
หลังจากนั้นอาเน่มาจิก็เดินออกไป เธอสวนทางกับอามิยะที่กำลังเดินเข้ามาพอดี
“ไปถึงไหนคะแล้ววอฟารินซัง?”
“ใกล้แล้วล่ะ อีกนิดเดียวเท่านั้น ยารักษาครั้งแรกของโลกจะถูกผลิดขึ้นที่นี่”
“งั้นหรอคะ? แล้วมีปัญหาอะไรอีกมั้ยคะ?”
“อืมมม …”
วอฟารินนั่งครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง
“เลือดของอาเน่มาจิก็ยังคงเป็นตัวประกอบสำคัญล่ะนะ”
“แล้วเราสำรองมันไว้พอรึเปล่าคะ?”
“อืม เหลือๆเลยล่ะในตู้นั่น”
เธอชี้นิ้วไปที่ตู้เก็บหลอดเลือดที่เหมือนกับตู้เย็นขนาดใหญ่ มีแท่งแก้วที่มีของเหลวสีแดงวางเรียงอยู่เต็มไปหมด
“งั้น เหนื่อยหน่อยนะคะ”
อามิยะเดินออกมาและมองไปทางที่อาเน่มาจิเดินจากไปด้วยสายตาที่แปลกประหลาด
“หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดนะคะ …”
“อาเน่มาจิซัง ..”
________________________________________________________________
3 วันต่อมา
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ..”
ฟุบุกิรีบวิ่งอย่างสุดชีวิตไปยังห้องทำงานของอามิยะ
“อามิยะ ซุยเซย์หรอ!?”
“ตามที่เราได้รับรายงานมาใช่ค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นกับซุยเซย์!?”
อามิยะได้แต่ก้มหน้าไม่พูดไม่จา ฟุบุกิสังเกตเห็นจึงรับรู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
“อามิยะได้โปรด .. เกิดอะไรขึ้น?”
“ซุยเซย์ซังทำร้ายคนของเราค่ะ ..”
“เอ๊ะ!?”
“พวกเราได้รับภารกิจจากนคร Lungmen ว่ามีพวก Reuinon เข้ามาดักโจมตีขบวนรถเสบียง”
“ฉันเลยส่งทีมคุ้มกันเข้าไป และนี่คือภาพที่เราได้มาค่ะ ..”
อามิยะลุกขึ้นและฉายภาพบนจอมอนิเตอร์ให้ฟุบุกิดู มันเป็นภาพกล้อง Real-Time ของ Operator คนหนึ่ง เขากำลังจะเข้าปะทะกับฝั่ง Reunion บริเวณชานเมือง Lungmen แต่แล้วเขาก็ถูกยกตัวให้ลอยสูงขึ้นอย่างปริศนา
กล้องของเขาหันลงไปด้านล่างก็พบกับซุยเซย์ที่กำลังยืนจ้องมองเขาอยู่ด้วยสายตาอาฆาต ก่อนสัญญาณจะขาดหายไป
ฟุบุกิทรุดตัวลงบนเก้าอี้ทันทีที่ได้เห็น เธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
“ซุยเซย์ .. ไม่นะ ..”
เธอพยายามเอามือแนบที่หู ใช้พลังของเธอเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา
“เธอทรยศพวกเร-”
“ไม่ !!! เป็นไปไม่ได้ !!”
“ … ”
“พวกมันจะต้องทำอะไรกับซุยเซย์แน่ๆ !!”
อามิยะถอนหายใจและทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ของเธอ
“พรุ่งนี้จะมีภารกิจส่งตัวผู้นำเมือง Lungmen กลับเมืองของเธอค่ะ”
“ฉันอยากให้คุณเป็นหัวหน้าทีมส่งมอบตัวเธอกลับไป”
“และหลังจากนั้นพวกเราจะไปตามหาซุยเซย์ซังกัน ตกลงมั้ยคะ?”
_________________________________________________________
เช้าวันรุ่งขึ้นอามิยะจัดทีมแบ่งออกเป็นสองทีม เพื่อป้องกันการถูกดักโจมตี โดยทีม A จะเป็นทีมที่มีการคุ้มการหนาแน่นที่สุด และมีเนเน่อยู่ในรถ และทีม B จะเป็นทีมเป้าลวงที่มีเพียงฟุบุกิ มิโอะและโบตันเท่านั้น
ซึ่งอามิยะวางแผนให้ทีม A นั้นเป็นทีมลวงที่จะล่วงหน้านำไปก่อน และจะมีทีม B ตามไปห่างๆ
“เธอโอเคนะฟุบุกิ?”
มิโอะถามขณะที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังฟุบุกิ พวกเธอกำลังเตรีมขึ้นรถ โดยที่เป็นรถหุ้มเกราะขนาดเล็กมันสามารถเคลื่อนที่ได้เร็ว จึงเหมาะมากกับงานนี้
“อืม .. ขอบใจนะมิโอะ ..”
“ฟุบุกิ !!”
เสียงเรียกจากเพื่อนสาวทั้งสองคนของเธอ ในตอนที่เธอยังเป็นทหารก็ดังขึ้น พวกเธอไม่ได้เจอกันนานเพราะทั้งสองถูกส่งไปทำภารกิจในเขตแดนที่ห่างไกลจากฐานมาก
“มัตสุริ วาตาเมะ !”
“เป็นยังไงบ้างฟุบุกิ?”
มัตสุริถาม
“อ-อืม ฉันโอเค ขอบใจนะ”
“อย่าหักโหมนะฟุบุกิ”
วาตาเมะเสริม
มัตสุริและวาตาเมะนั้นถูกจัดอยู่ในทีม A พร้อมกับ Operator คนอื่นๆ พวกเธอไม่ใช่ผู้ติดเชื้อแต่เป็นทหารที่มีความสามารถสูง จึงถูกเรียกตัวกลับมาทำภารกิจนี้
ระหว่างที่ทั้งสามกำลังยืนคุยกันอยู่ ฟุบุกิก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่กำลังมองมาที่เธออยู่ นั่นทำให้เธอรู้สึกไม่ดีอย่างมาก เธอจึงกวาดสายตาไปรอบๆก็พบว่ามันมีคนยืนมองเธออยู่จริงๆ
“พวกเธอจะยืนคุยกันอีกนานมั้ย?”
มิโกะเดินเข้ามาแทรกในวงสนทนา จนทำให้มัตสุริและวาตาเมะต้องรีบแยกย้ายกันออกไปเตรียมตัว มิโกะเป็นหัวหน้าทีม A นั่นเอง
เธอยืนมองฟุบุกิด้วยสายตาที่ไม่พอใจอย่างมาก ก่อนจะค่อยๆหันหลังกลับไป
“เธอมีปัญหาอะไรกับฉันหรอมิโกะ?”
“หึ .. ไม่หรอก”
มิโกะหันมามองฟุบุกิด้วยหางตาก่อนจะเดินจากไป ฟุบุกิสัมผัสได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนที่เธอถูกเลมมี่ตบหน้าเข้าอย่างจัง และเธอก็ยังพบว่า คานาตะและโทวะที่ยืนพิงรถหุ้มเกราะอยู่ก็มองมาที่เธอด้วยเช่นกัน
เธอเข้าใจทันทีว่าซุยเซย์มีความสำคัญมากแค่ไหน ไม่ใช่แค่กับเธอแต่เป็นทุกคน และตอนนี้เธอคือสาเหตุที่ทำให้ซุยเซย์ต้องหายไป ซึ่งทุกคนรู้ดี
“เราไปกันเถอะ ฟุบุกิซัง”
“หลังจากนี้เราจะไปตามหาซุยเซย์กันนะคะหัวหน้า”
มิโอะและโบตันได้แต่พยายามปลอบใจฟุบุกิที่กำลังจิตตกอย่างหนัก พวกเธอเธอทำได้แค่นั้น
สายตาของฟุบุกิยังคงเหม่อลอยขณะที่รถกำลังแล่นไปเรื่อยๆ ตามภารกิจ ตอนนี้ในหัวและในใจของเธอกำลังวุ่นวาย จิตใจเธอไม่ปกติอย่างมาก
แผนการของอามิยะดูเหมือนจะราบรื่นดี แต่แล้วปลาก็กินเบ็ด
.
..
…
ตู้ม !!!
รถของฟุบุกินั้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เหมือนมันถูกเหวี่ยงไปมาจน คนขับรถถูกแรงกระแทกจนเสียชีวิตคาที่ ทั้งสามรีบคลานออกจากตัวรถที่มันใกล้จะระเบิดทุกที
แต่ก็ต้องพบว่ารอบๆตัวพวกเธอนั้นมีเปลวเพลิงสีแดงกำลังล้อมรอบตัวรถอยู่มีเงาของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากควันไฟที่กำลังโพยพุ่งอยู่รอบๆตัวพวกเธอ
“สวัสดี Rhode Island”
ทั้งสามกำลังมองเห็นเคียร่าที่อยู่ในสภาพพร้อมต่อสู้ และดาบที่มีเปลวไฟลุกอยู่ในมือของเธอเดินออกมา
“หัวหน้าคะ !! พวก Reunion !”
“ฟุบุกิ เอายังไงดี!?”
มิโอะและโบตันรีบตั้งการ์ด ในขณะที่ฟุบุกิกำลังมองไปอีกทางหนึ่ง อีกทางหนึ่งมีเงาของหญิงสาวที่เธอคุ้นเคยอีกคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ในเปลวไฟ ก่อนเงานั่นจะปรากฎร่างและรายละเอียดออกมาอย่างช้าๆ
ฟุบุกิถึงกับสายตาเบิกโพลงด้วยความตกใจอย่างหนัก มันไม่ใช่ใครที่ไหน แต่มันคือคนที่เธอกำลังตามหาอยู่
ซุยเซย์นั่นเอง
เธอค่อยๆเดินทะลุเปลวไฟของเคียร่าออกมาอย่างช้าๆ ..
“ไม่เจอกันนานนะ .. ฟุบุกิ ..”
To be continued …
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

114 ความคิดเห็น
-
#96 Shin_Sama (จากตอนที่ 11)วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 / 17:37เรื่องนี้มันต้องเงื่อนงำอะไรสักอย่างแน่ๆ // ข้าน้อยกลับมาแล้วววว!!!! ขอประทานอภัยอย่างสูงที่ไม่ได้มาอ่านแล้วคอมเม้นขอรับ!! เพราะข้าน้อยไปติดเรื่องอื่นอยู่ครับ ขอประอภัยจริงๆครับ!!!#962
-
#96-1 Lissette.(จากตอนที่ 11)21 พฤศจิกายน 2563 / 23:47นายบอกให้แต่งต่อ แต่นายไปติดเรื่องอื่นเรอะ !!#96-1
-
-
#95 EarthDodo (จากตอนที่ 11)วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 / 08:51ทำไม......รู้สึกแปลกๆกับRhodes island.....เหมือน....ไม่ใช่คนดีนะนี่.........อ๋อ...ลืมไป..สถานการณ์แบบนี้ใครก็เลงได้หมดแหละ#951
-
#95-1 Lissette.(จากตอนที่ 11)21 พฤศจิกายน 2563 / 10:47นั่นสิน้าาาา#95-1
-
-
#94 Pang2p11 (จากตอนที่ 11)วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 / 08:40อีหยังฟะเนี่ยยยยยย โอ๊ยให้ตายสิ เซยเซเขียนได้แบบหักมุมไปมาจนนักอ่านตามไม่ทันเเล้ววว จะว่าไปอาเน่มาจิเห็นอะไรอะทำไมถึงออกจากห้องไปแบบสายตาแปลกๆ#945
-
#94-2 Lissette.(จากตอนที่ 11)21 พฤศจิกายน 2563 / 10:47ฉากนั้นอินมากกกก#94-2
-
#94-5 Lissette.(จากตอนที่ 11)21 พฤศจิกายน 2563 / 11:32อาเน่มาจิคือตัวละครหลักสำคัญเลยแหละ#94-5
-
#93 0621198225 (จากตอนที่ 11)วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 / 08:18ถ้าฟุบุกิไก็ซุยเซย์เป็นอะไรไปนะขอมให้ซุยเซย์กลับมาเถอะอย่าทำร้ายฟุบุกิเถอะ :) //ถือมีดเตรียมไฟเช็ค#932
-
#93-1 Lissette.(จากตอนที่ 11)21 พฤศจิกายน 2563 / 10:43ใจเย็นๆนะะ#93-1
-
-
#92 Sadkilcer (จากตอนที่ 11)วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 / 06:20สัมผัสได้ถึงความตายยย~#922
-
#92-1 Lissette.(จากตอนที่ 11)21 พฤศจิกายน 2563 / 10:43ใครตายยย#92-1
-
-
#91 Amari_Sama (จากตอนที่ 11)วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 / 03:10อืมม...~~ จะทะเลาะกันไหมเนี้ย ?! (*’O’*) // เห็นชื่อตอนละ เดินออกทางเข้าเลย 😂#911
-
#91-1 Lissette.(จากตอนที่ 11)21 พฤศจิกายน 2563 / 04:11ฮาเร็มเยอะไปก็งี้แหละนะ#91-1
-
-
#90 Vethaka GV (จากตอนที่ 11)วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 / 01:07คิดว่า มันมีเบื่อหลังใช่ไหม ต้องมีอะไรแน่ๆ (คนอ่านก็นอนดึก เหมือนคนเขียน 55)#902
-
#90-1 Lissette.(จากตอนที่ 11)21 พฤศจิกายน 2563 / 01:16มันกำลังปูไปภาคจบยังไงล่ะ จบจริงป่าวก็ไม่รู้ ถถถ#90-1
-
-
#89 ฟุบุกิบันไซ (จากตอนที่ 11)วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 / 00:27ลูกรักช้านนนนนนนไม่น้าาาาา(ลงดึกจิงๆ เอ๊ะมันไม่ดึกเเต่เช้าเเล้วนี้หว่า)#892
-
#89-1 Lissette.(จากตอนที่ 11)21 พฤศจิกายน 2563 / 00:31หายไปหลายวัน ติดเกมส์ 555#89-1
-