2555 11 12 F D E R

ข้อมูลเบื้องต้น

นักแสดง F D E R ร่วมแสงหนังด้วยกันเรื่องหนึ่ง

F กับ D เคยเป็นนักร้องมาก่อน เลยสนิทกัน และเคยเล่นละครด้วยกัน

ส่วน E เคยเล่นหนังกับ F มาก่อน เล่ยไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่

และ R เป็นคนเงียบ ขนาด F บอกว่าเล่นละครเรื่องนี้ สามารถง้างปากให้พูดได้

ในเรื่อง F เด่นสุด รองลงมาคือ R และ E ส่วน D กลับเป็นนักฆ่าไม่ค่อยมีบทพูด แต่แสดงออกทางแววตา

ประวัติ

F ลูกชายคนเดียวของมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ นักร้อง นักแสดง อยู่ในวงการ 8 ปี อายุ 28 ปี

D ครอบครัวปานกลาง มีน้องสาว 1 คน นักร้อง นักแสดง อยู่ในวงการ 10 ปี อายุ 30 ปี

E ครอบครัวมีฐานะ มีพี่สาว และน้องชายอย่างละคน อยู่ในวงการ 12 ปี อายุ 32 ปี

R ครอบครัวปานกลาง มีพี่ชาย 1 คน (ผู้กำกับ ปัจจุบันไปเมืองนอก) พ่อแม่เสียชีวิต อยู่ในวงการ 8 ปี อายุ 28 ปี

อุปนิสัย

F ตลก นิสัยดี ร่าเริง วางตัวเหมาะสมกับที่ถูกเลี้ยงมาดี เจ้าชู้นิดหน่อย หัวโบราณบ้าง

D ร่าเริง เข้ากับคนได้ดี ยิ้มบ้าง อบอุ่น ใจดี

E ตลก ขบขัน อัธยาศัยดี ร่าเริง เข้ากับคนได้ง่ายมาก ตัวกลางคอยไกล่เกลี่ย

R เงียบขรึม เหมือนมีความในใจ อุบัติเหตุและการคบแฟนที่จบกันแบบไม่สวยนัก

รูปร่างและลักษณะ

F สูง 180 เซนติเมตร ขาว ผิวดี

D สูง 185 เซนติเมตร ผิวสองสี ไหล่กว้าง ตัวใหญ่

E สูง 179 เซนติเมตร ตัวค่อนข้างเล็ก

R สูง 182 เซนติเมตร ตัวค่อนข้างเล็ก ขาวซีด ผอม

เหตุการณ์สะเทือนใจในอดีต

F ภาพหลุดกับแฟนสาวสุดเซ็กซี่ออกมา โดนทางบ้านและบริษัทให้เลิกคบ

D ไม่ปรากฏ

E ไม่ปรากฏ

R 1.ประสบอุบัติเหตุสูญเสียพ่อกับแม่ไปในคราวนั้น ตัวเองรอดมาได้ส่วนตอนนั้นพี่ชายอยู่โรงเรียน 2. โดนตีหัวผิดคนในผับ 3.ในคราวแฟนนอกใจ

F กับ D ดังเพราะความหล่อ เป็นนักร้องมาก่อน พอมาแสดงละครยิ่งส่งเสริมให้ดังใหญ่

ส่วน E เล่นหนังกับ R บ่อยสุด รู้นิสัยกันมากสุด แต่ลักษณะตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง

พอเล่นละครด้วยกัน R พูดเยาะตามบท หรือตอนทำงาน

แต่พอจบก็กลับไปหมวดขรึมตามปรกติ ถามคำตอบคำ ทั้งๆ ที่อายุเท่ากับ F เลยเจอ F แขวะว่าเหมือนลุงแก่ๆ R ก็ไม่ใส่ใจเรียกอะไรก็เรียกไป

แต่ที่ R ไม่ได้คือเข้าห้องพักของ R โดยไม่เคาะประตู หนำซ้ำเข้าไปตอน R เปลี่ยนเสื้อผ้าพอดี ไม่แค่นั้นยังทำตลกเรียกคนมาดูอีก R ดันประตูกับ F คนละด้าน

พอปิดได้ R ก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อ

ออกมาก็ทำหน้าบึ้งใส่ F ก่อนเดินหิ้วกระเป๋าออกไปอย่างเคืองๆ

F รู้เรื่องของ R อีกเรื่องตอน บ้านที่นอกเมืองของ R โดนยกเค้า แล้วเถียงกับพี่ชายที่โทรกลับมาจากต่างประเทศ

F เลยได้เห็นบ้านของ R ที่มีความน่ารัก ไม่ใหญ่มาก แต่กว้างพออยู่กัน 2 คน

พอพี่ชายกลับมาก็ตกลงกันว่าจะขายบ้านทิ้ง ให้ R ซื้อคอนโดแทน ส่วนพี่ชายปักหลักอยู่เมืองนอก

พี่ชายกับ R ไม่เหมือนกันเลย พี่ออกจะตัวใหญ่ แต่งตัวทันสมัยคุยสนุก

R แต่งตัวแบบสบาย กางเกงยีนต์ ตอนออกไปข้างนอก

หนำซ้ำพี่คุยง่าย ยิ้มเก่ง น้องกลับเป็นเสือยิ้มยาก ไม่สุงสิงกับใครง่ายๆ

ก่อนพี่ชายกลับเคยขอให้ R ซื้อรถ แต่รู้ว่า R ยังฝังใจกับเหตุการณ์คราวนั้น เลยไม่บังคับอีก

ตลอดมา R ไปไหนโดยสารรถแท็กซี่มาตลอด หรือไม่ก็รถของบริษัท ไม่เคยขับรถเอง

เพื่อนส่วนใหญ่ของ R เป็นรุ่นพี่ในวงการ ไม่ค่อยเห็นมีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน

กับ F คงยากคุยกันเพราะแนวทางคนละแนวทาง R ไม่ชอบร้องเพลง ฟังเป็นอย่างเดียว

ตอนออกรายการด้วยกัน 4 คน R เล่นเกมด้วยไม่ได้ ความลับเปิดเผยร่างกายเสียหายจากอุบัติเหตุ หัวใจอ่อน ออกกำลังกายหนักๆ ไม่ได้ตลอดชีวิต ตอนรถชน ควันรถที่ออกมาทำลายหัวใจกับปอดของ R จนย่ำแย่แทบไม่รอดชีวิต สำหรับเด็ก 5 ขวบในตอนนั้น

3 คนรวมหัวกันแกล้ง R โดยมี E ที่รู้บ้านของ R

แกล้งโทรไปตอนที่ R อาบน้ำ พอออกมารับด้วยผ้าพันกายผืนเดียว ทั้ง 3 คนก็ตะโกนออกมาและโผล่ออกจากที่ซ่อน...

แทนที่ R จะตกใจ กลับโกรธ ด่าเป็นชุด หาว่าจะก่ออาชญกรรมงัดบ้านคนอื่น

ถ้าไม่เพราะ E อธิบาย R คงโทรเรียกตำรวจจับทั้ง 3 คนไปแล้ว

พอผ่านไปก็กลับมาทานข้าวกันหน้าตาเฉย

พอ F พูดยอกย้อน R ก็สวนทันควัน เพราะเคืองเรื่องเก่าก่อนหน้านี้อยู่แล้ว

เมื่อทำงานไปได้ 1 เดือน F มีปัญหาทางการเงิน เลยต้องหาทนายนอกที่ทางบ้านไม่รู้เรื่อง จะได้ปิดเป็นความลับ จึงปรึกษา E ได้ทนายมาที่ E รับรองเป็นมั่นเหมาะว่าไว้ใจได้ แถมเก็บความลับสุดยอด ไม่ปริปากสักคำ

F ถามว่าใคร

E ตอบว่า R

F นึกในใจ ‘ก็สมควรเป็นอย่างนั้น แต่ปัญหามันอยู่ที่จะขอให้ช่วยยังไง แกล้งเขาไว้ซะเยอะ ในเมื่อไม่มีทางเลือก ต้องเดินหน้าลูกเดียว’

หลังการถ่ายทำ R กำลังจะกลับ แต่ F ต้องถ่ายงานต่อ มีแค่โอกาสนี้หนเดียวที่จะขอคุยเรื่องงานให้โดย R ไม่ปฏิเสธ และต้องทำคนเดียว ไม่มีตัวช่วย

F ใช้การบังคับ แย่งกระเป๋าของ R ออกมาให้ R เดินตามไปเอาคืน

พอลับตาคนก็คืนกระเป๋าและขอร้องไป

R จ้องมอง F อยู่นาน ก่อนตอบ ไม่  คิดในใจว่าคงแกล้งอีกสิท่า

F รู้ทันจึงบอกจริงๆ E รู้เลยแนะนำมา

R ได้ยินชื่อ E จึงเริ่มเชื่อบ้างแล้ว

พอฟัง F พูดไปพูดมาดูท่าปัญหามันหนักตรงที่จะทำโดยหลบทางบ้านยังไงมากมาย

จากการวางแผนอันแยบยล (จากการแสดง) ทั้ง 2 คนเลยอยู่ด้วยกัน คุยกันมากขึ้น

แต่กระนั้น R ยังต้องสั่งให้ F หุบปาก มากกว่า 10 ครั้ง

และสั่งให้ถามเฉพาะที่ต้องถาม ไม่ใช่พูดเรื่อยเปื่อยขนาดนี้มันมากไป

F ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด ยังคงพูดจ้ออยู่ฝ่ายเดียว จน R ปล่อยเลยตามเลย

อดทนขนาด F บุกมาบ้านยามวิกาลในสภาพเมาเละเทะ จน R ต้องเรียกแท็กซี่ไปส่งบ้าน

บวกกับเช้าอีกวัน R ด่า F เป็นชุดในกองถ่าย ถึงสิ่งที่ทำเมื่อวาน

แต่ F กลับกอดคอ R บอกว่าจะเลี้ยงเหล้าขอโทษ

R ว่า “เชิญนายคนเดียวเถอะ”

และจะดีกว่านี้อีก F ไปถาม R ในกองว่าเป็นเกย์เหรอ?

R โกรธจนสุดระงับ ตะโกนก้องว่าไม่ได้เป็น ก่อนหมัดจะทะลวงออกไป E จับไว้ทัน พาตัว Rออกไปสงบสติในห้องแต่งตัว

ข้างนอกก็ลือกันให้แซ่ดว่า F กับ R เป็นคู่ขากัน

R อยู่กับ F ต่อมาก็เอาแต่หน้าบึ้งตลอด ตอบคำถามที่อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน คนข้างนอกเห็นตรงข้าม

เรื่องลุกลามเป็นข่าวลือใหญ่โต

ทั้งสองคนต้องคอยแก้ข่าว และคอยปิดบังเรื่องทำคดีอีก

R เฉยชาอยู่แล้ว แต่ F รอวันเปิดเผย

ขากลับจากงานเลี้ยง 4 คนนั่งรถคันเดียวกันจะกลับกองถ่ายทำต่อ

R เอาแต่เงียบเหม่อมองออกไปข้างนอก

รถแล่นไปได้ระยะเวลาหนึ่ง R ขอหยุดรถวิ่งออกไปอ้วก ทนไม่ไหวภาพในอดีตหลอกหลอนตลอดถ้านั่งรถส่วนตัว

สุดท้ายต้องขอไปรวมกับทีมงานใหญ่รถตู้คันหลัง

R ไม่เคยนั่งรถเก๋งเลย มีแต่ติดรถบริษัทกลับมา หรือไม่ก็รถโดยสารสาธารณะ

E ตื่นเห็นพอดี เลยเข้าไปช่วยและไปนั่งด้วยกันข้างนอก

วันหยุด E นัด R มาทำแฟ้มคดีของตนเองที่บ้าน R ทำจนเลยบ่ายไป F เข้าไปจะชวนไปกินข้าวข้างนอก R บอกรอก่อนขออีก 10 นาที

ในขณะนั้น ประตูเปิดออก เห็นพ่อกับแม่ของ F เข้ามาพร้อมคนอีก 2 คน บุกเข้ามาจนถึงห้องที่ R นั่งทำงานอยู่ R ตกใจแต่ทำความเคารพก่อน ต่อจากนั้นคนทั้งสองคนก็เข้ามาจับตัว R กับ F ไว้

F นี่มันเรื่องอะไรกัน

พ่อ ยังจะมีหน้ามาถาม แก 2 คนอยู่ด้วยกัน ทำอะไรกัน

F ผมเปล่านะ

R ผมก็เปล่า คุณเข้าใจผิดแล้ว

พ่อ เข้าใจผิดเหรอ ได้งั้นจะพิสูจน์ให้เห็นเอง จัดการ

สิ้นคำพูดของพ่อ คนที่จับตัว F กับ R ไว้ พยายามกดตัวคนทั้งสองเอาไว้ให้ก้มหน้าลงกับโต๊ะ ก่อนจะพยายามถอดกางเกงของทั้งสองคนออก

E เข้ามาพอดี เลยบอกความจริงให้พ่อรู้ทั้งหมด พ่อเดินไปที่โต๊ะเอกสารของ R และพอเห็นก็ปล่อยคนทั้งสองทันที

พ่อรีบขอโทษ R เป็นการใหญ่ พอจะเข้ามาช่วยพยุง R ก็ร้องออกมาแขนขยับไม่ได้ เจ็บขนาดทนไม่ไหวต้องส่งโรงพยาบาล สรุปกระดูกเคลื่อนตรงส่วนแขนที่ถูกจับไพล่หลังต้องใส่เฝือกแข็ง 1 เดือน

หยุดงานละครหมด แต่ดีที่ค่าใช้จ่าย กับข้นที่ทำงานไม่ได้ ต้องยกเงินงาน ทางพ่อของ F จะเป็นคนออกให้หมด ช่วง 1 เดือนนี้ Rเลยได้ทำแฟ้มคดีของ F อย่างเดียว ได้ไปจ่ายตลาด ได้ไปดูหนัง ได้ใช้ชีวิตอย่างที่คนธรรมดาได้ทำ ได้กลับไปเห็นในสิ่งที่หลายปีนี้ไม่ได้ทำ

และช่วงนี้เอง R มีแฟน เธอเป็นทนายเหมือนกัน พอ R เข้ามาที่ที่ทำการว่าความบ่อยขึ้นก็ได้เจอเธอ ได้คุยกันบ่อยๆ เลยสานสัมพันธ์ในรอบเดือน จนเป็นแฟนกัน

พอข่าว R มีแฟนแพร่ออกไปนักข่าวก็เอาแฟนคนเก่าที่เลิกกันไปมาเปรียบเทียบ

แฟนคนก่อนเลิกกันไป 5 ปีแล้ว ตอนนั้น R อายุ 23 ปี เพิ่งเรียนจบมาได้ 1 ปี อยู่ในวงการมา 3 ปี คบกันมาตั้งแต่ R เริ่มเข้าวงการใหม่ๆ จน R คิดว่าเธอคือคนที่ใช่ และพูดกับ E ว่าอีก 2 ปี ถ้าผมตั้งตัวได้มากกว่านี้ผมจะขอเธอแต่งงาน

แต่ผ่านไปไม่นาน เธอบอกว่าเธอท้อง ตอนแรก R ก็ตกใจ แต่ก็ไม่เป็นไร แต่งงานเลยก็ได้

ในขณะที่ R กำลังปรึกษากับพี่ R กลับจับได้ว่าเธอมีชายคนอื่น พอคาดคั้นเอากับเธอ เธอก็สารภาพว่าลูกในท้องไม่ใช่ลูกของ R เป็นข่าวใหญ่พาดหัว R ถูกแฟนสาวท้องโย้นอกใจ

ช่วงนั้น R รับหนังกับละครน้อยมากแทบไม่เห็นหน้าเลย

จนปีต่อมา R ก็กลับมาเล่นอย่างเต็มที่อีกครั้ง กับมาดนิ่งกว่าเดิม และปีทองของ R

ส่วนเธอได้ข่าวว่าแยกทางกับเขาที่เป็นพ่อของลูกเธอเรียบร้อยแล้ว หลังจากอยู่กินกันได้ 3 ปี

จิตใจของ R เป็นคนดี เชื่อใจง่าย พอเจอเข้ากับแฟนคนเก่าเลยเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น จริงแล้วๆ R เป็นคนอ่อนต่อโลกด้วยซ้ำ เนื่องจากไม่แข็งแรงพี่ชายเลยประคบประหงมเกินเหตุ

หลังจากคบกับแหนคนปัจจุบันได้ 2 ปี มีท่ารักร้างตั้งเค้า

เธอเปลี่ยนไปเริ่มสนิมกับรุ่นพี่ที่เป็นทนายด้วยกันมากขึ้น ไม่ยอมให้ R ไปรับ

บ่ายเบี่ยงไม่ค่อยพบหน้ากัน

วันหนึ่ง R มีการยกกองกะทันหันเลยว่าง กะจะมาเซอร์ไพรส์แฟนสาว พอเปิดเข้าไปกลับเจอเธอกับทนายรุ่นพี่กำลังมีอะไรกันบนโซฟา

ตัดความสัมพันธ์ “อาภัพรัก”

แต่ความนี้เพื่อเยี่ยวยาหัวใจ R โหมทำงานหนักเพื่อลืมเธอ