ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My mafia husband name is JK {BTSxYOU}

    ลำดับตอนที่ #10 : EP08: ขอบคุณ 50%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.46K
      275
      3 พ.ค. 64




    ฉาวอีกครั้ง 'ฮันดาวอน' ลูกสาวคนเดียวของประธานเอสเคกรุ๊ปฮันจองซอก

    ถูกบุคคลที่อ้างตัวว่าถูกว่าจ้างโดย 'ฮันดาวอน'

    ให้ขโมยข้อสอบจากคณะจัดทำข้อสอบของมหาวิทยาลัย M

    เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา โดยการสอบครั้งล่าสุด

    ฮันดาวอนเป็นผู้ที่มีคะแนนสอบสูงสุดของภาควิชา

    จากการเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ ส่งผลให้มีการสืบสวนครั้งใหญ่เกิดขึ้น

    เพื่อหาความจริงว่า 'ฮันดาวอน' ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่

    แต่ที่แน่ๆหุ้นของเอสเคกรุ๊ปดิ่งลงอย่างน่าตกใจ รวมไปถึงภาพลักษณ์

    ที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของประธานฮันต่อผู้ถือหุ้นและบรรดานักลงทุนอีกด้วย




    ความกรุ่นโกรธที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆเมื่อตื่นมาต้องพบเจอกับข่าวฉาวของลูกสาวเพียงคนเดียว และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะสังคมเกาหลีให้ความสำคัญกับการเรียนอย่างมาก ดังนั้นหากใครก็ตามที่มีคดีทุจริตเกี่ยวกับวงการการศึกษาละก็ มีแต่ตายกับตาย

    หุ้นของเราเช้านี้ตกลง 5.7 จุดครับท่านประธานผู้ช่วยหนุ่มแจ้งความคืบหน้า ทำเอาผู้เป็นนายถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    แล้วพวกจีชางล่ะ

    'จีชาง' คือกลุ่มนักลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจด้านการแพทย์ที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนสูงมาก ใครๆก็อยากได้รับการสนับสนุนหรือจับมือกับพวกจีชางทั้งนั้น รวมถึงตัวประธานฮันเองด้วย

    เนื่องจากการก้าวขึ้นมาเป็นประธานเอสเคกรุ๊ปของเขา ใครๆก็ต่างรู้กันดีว่ามันไม่ขาวสะอาด และถึงแม้ว่าเขาจะถือหุ้นบริษัทถึง 45 เปอร์เซ็นต์ มันก็ยังไม่อาจรับประกันได้ว่าเก้าอี้ประธานของเขาจะมั่นคง หากบรรดาผู้ถือหุ้นคนอื่นแปรพักตร์ขึ้นมา เขาอาจจะหลุดจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดเมื่อไหร่ก็ได้

    มันทำให้ 'จีชาง' คือความหวังของประธานฮัน ถ้าหากเขาทำให้พวกนั้นเลือกที่จะลงทุนกับเขาได้ละก็ สิ่งที่เขาได้มาด้วยการทรยศหักหลังเพื่อนรัก ก็จะไม่มีวันหลุดลอยไปไหนได้

    ว่ายังไง ฉันถามว่าพวกจีชางว่ายังไงบ้าง!!!” พอไม่ได้คำตอบในสิ่งที่ถามออกไป ฮันจองซอกถึงกับตวาดผู้ช่วยของตัวเองทันที

    เลขาประธานของจีชางโทรมาเมื่อเช้า แจ้งว่า ขอปฏิเสธข้อตกลงทั้งหมดที่คุยกันเอาไว้ครับราวกับความหวังที่สร้างมากับมือพังทลายลง เพราะความสะเพร่าของลูกสาวของเขา เวลานี้ประธานฮันรู้สึกว่าเขาอาจจะเดินมาเจอทางตันเข้าจนได้

    แล้วฉันต้องทำยังไง

    เข้าไม่ได้นะคะคุณดาวอน

    มีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน!!!”


    ยังไม่ทันที่ฮันจองซอกจะได้คำแนะนำอะไรจากผู้ช่วยคนสนิท เสียงเอะอะโวยวายที่เขาแสนจะคุ้นหูก็ดังขึ้น พร้อมกับประตูห้องทำงานที่เปิดออก เลขาหน้าห้องหันมามองหน้าของเจ้านายอย่างลำบากใจ เพราะก่อนหน้านี้ประธานฮันสั่งเธอเอาไว้ว่าวันนี้เขาไม่ต้องการพบใครหน้าไหนทั้งนั้น แต่คนที่เข้ามาคงเป็นกรณียกเว้น เพราะเธอคือฮันดาวอนลูกสาวสุดที่รักนั่นเอง

    คุณพ่อต้องจัดการข่าวนี้ให้หนูนะคะ!!!” ประธานฮันถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหันไปบอกให้เลขาออกไปได้

    คราวนี้มันเรื่องใหญ่

    แล้วยังไงคะ พ่อจะปล่อยให้หนูถูกสอบสวนเหรอฮันดาวอนถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

    พ่อบอกแกแล้วใช่มั้ย ว่าแกจะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าให้มีร่องรอยให้คนตามจนเจอแบบนี้!”

    หลักฐานชิ้นสำคัญก็คือคลิปเสียงของเธอตอนตกลงกับคนที่เธอว่าจ้าง และด้วยเทคโนโลยีของกรมตำรวจสมัยนี้ มันพิสูจน์ได้ไม่ยากว่าเสียงในคลิปนั้นคือเสียงของเธอจริงหรือไม่

    พ่อคิดว่าหนูไม่จัดการให้เรียบร้อยรึไง พ่อรู้มั้ยว่าหนูให้เงินมันไปกี่ล้านวอน แล้วก่อนหน้านี้หนูให้เงินนังนั่นไปอยู่ต่างประเทศด้วยซ้ำ กล้องวงจรปิด คนที่รู้เห็น หนูจัดการหมดแล้ว

    แล้วมันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!”

    หนูต้องถามพ่อมากกว่านะคะ

    แกหมายความว่ายังไงฮันคนพ่อถามฮันคนลูกอย่างไม่เข้าใจ

    พ่อคิดว่าคนธรรมดาๆ ที่ไหนจะทำเรื่องแบบนี้ได้

    ค้นข้อมูลส่วนตัวของหนู จนรู้ว่าหนูจ้างคนไปขโมยข้อสอบ แถมยังสืบจนถึงตัวนังนั่น แถมยังตามเจอคนที่รู้เห็นทั้งหมดได้อีก พ่อคิดว่าเรื่องพวกนี้คือเรื่องบังเอิญเหรอ

    ที่เรื่องของหนูถูกแฉ ก็เพราะพ่อเองรึเปล่า ที่ไปสร้างศัตรูไว้กี่คนก็ไม่รู้

    มันจริงอย่างที่ลูกสาวพูด เขามั่นใจว่าสั่งสอนลูกสาวมาให้เป็นคนรอบคอบมากแค่ไหน เท่าที่ฟังจากฮันดาวอน ลูกสาวของเขาก็จัดการทุกอย่างได้ดี และมันก็จริงอีกที่ว่า เรื่องที่แดงออกมาวันนี้มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันต้องมีคนจงใจ คำถามคือ ใครกันล่ะที่จะทำขนาดนี้ได้ และทำไปเพื่ออะไร?

    หรือว่าจะเป็น..” มีเพียงคนเดียวที่มองว่าเขาเป็นศัตรู อดีตเพื่อนรักที่เขาใช้วิธีต่ำช้าแย่งทุกสิ่งทุกอย่างมา

    หยุดค่ะ ถ้าจะหมายถึงอาคิบอม ที่นอนเหมือนศพอยู่ที่โรงพยาบาลละก็ลืมไปได้เลยค่ะ แล้วอย่าแม้แต่จะคิดว่าเป็นฝีมือยัยยูรินที่มาเอาคืนเราแทนพ่อของมัน คนอย่างยัยนั่นจะมีปัญญาทำอะไรได้ เมื่อวานหนูเพิ่งตบมันจนยับเยินอยู่เลย ไม่มีวันที่คนขี้แพ้แบบนั้นจะทำอะไรหนูได้หรอก

    ผมว่า แทนที่เราจะมาหาตัวคนทำ เราควรหาทางแก้ไขกันก่อนจะดีกว่านะครับผู้ช่วยหนุ่มเอ่ยขึ้น ดึงความสนใจของผู้เป็นนายจากเรื่องน่าปวดหัวตรงหน้าได้เป็นอย่างดี

    แล้วคิดว่าเราควรทำยังไง

    ในเมื่อจีชางปฏิเสธเรา เราก็ควรหาใครก็ได้ที่มีเครดิตมากพอมาร่วมทุน หรือหนุนหลังท่านครับ

    หาผู้สนับสนุนรายใหม่งั้นเหรอประธานวัยสี่สิบปลายๆคิดตาม

    ใช่ครับ หาผู้สนับสนุนที่จะมาช่วยกู้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของเราให้กลับมา ไม่อย่างนั้นพวกบอร์ดบริหารคนอื่นๆ อาจใช้เรื่องนี้ดึงท่านลงจากตำแหน่งประธานได้ทุกเมื่อครับ

    แต่ใครกันล่ะ ใครที่จะมีทั้งเงิน อำนาจ และเครดิตดีขนาดนั้นประธานฮันคิดไม่ตก เอสเคกรุ๊ปไม่ใช่บริษัทเล็กๆ การสรรหาคนที่จะเข้ามาช่วยพยุงเขาในยามวิกฤติเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องเป็นพวกตัวท็อปของเกาหลีเท่านั้นแหละถึงจะช่วยเขาได้

    ก๊อกๆๆๆ

    เข้ามาเสียงเคาะประตูจากเลขาหน้าห้องทำให้การสนทนาของทั้งสามคนหยุดชะงักไป

    อะไรอีก

    มีคนมาขอพบท่านประธานค่ะเลขาสาวชี้แจง

    ฉันบอกแล้วไงว่าห้ามรบกวน

    เอ่อ แต่ว่า... คนที่มาขอพบท่าน คือคนของบลูอีเกิ้ลนะคะ

    อะไรนะ!! มัวรออะไรอยู่ล่ะ รีบเชิญเข้ามาสิ

    ประธานฮันตกใจไม่น้อยเลยที่จู่ๆคนขององค์กรใหญ่อย่างบลูอีเกิ้ลมาหาเขาในวันที่มีข่าวฉาวแบบนี้ มันทำให้เขามีความหวังเล็กๆขึ้นมา ว่าวันนี้อาจจะมีข่าวดีเกิดขึ้นก็เป็นได้ เพราะบลูอีเกิ้ลไม่เคยเป็นฝ่ายที่จะต้องเข้าหาใครก่อน องค์กรมหาอำนาจระดับภาคพื้นเอเชียขนาดนี้ เขาจะปฏิเสธที่จะไม่ให้เข้าพบได้ยังไงกัน

     

    ไม่ถึงสองนาทีหลังจากที่เลขาสาวเดินออกจากห้องไป ก็ปรากฏร่างสูงที่เดินมาพร้อมกับบอดี้การ์ดพ่วงตำแหน่งคนสนิททั้งสองคนเข้ามาภายในห้อง นอกจากรังสีของความน่าเกรงขาม และอำนาจที่แผ่ออกมาจากร่างสูงโปร่งแล้ว ใบหน้าหล่อคม ที่เครื่องหน้าสมบูรณ์แบบจนน่าตกใจ ดวงตากลมโตกว่าคนเกาหลีทั่วๆไป บวกกับสันจมูกที่โด่งราวกับถูกปั้น มันทำให้ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าฮันดาวอน ดึงความสนใจจากสายตาของเธอได้อย่างง่ายดาย

    คุณเจค!!” ไม่มีใครไม่รู้จักผู้สืบทอดเพียงผู้เดียวของบลูอีเกิ้ลอย่างจอนจองกุก มันทำให้ประธานฮันตกใจยิ่งกว่าเมื่อรู้ว่าคนของบลูอีเกิ้ลมาพบเขาเสียอีก เมื่อพบว่าคนที่มาพบเขาคือคนสำคัญของบลูอีเกิ้ลเลยทีเดียว

    เชิญนั่งก่อนครับชายวัยกลางคนรีบเชิญผู้มาเยือนให้ไปนั่งที่ชุดโซฟายุโรปราคาแพง ที่มีเอาไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญเท่านั้น

    จอนจองกุกเดินไปนั่งตรงโซฟาตัวยาว โดยมีสายตาหวานหยาดเยิ้มจากฮันดาวอนที่นั่งอยู่ยังโซฟาตัวเยื้องๆกันจ้องมองมาที่เขาตลอดเวลา

    เป็นเกียรติของเรามากครับที่คุณเจคมาหาเราด้วยตัวเองแบบนี้ มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับฮันจองซอกถามออกไปด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร ระหว่างที่เลขาคนเดิมกำลังนำเครื่องดื่มของว่างมาเสิร์ฟตามหน้าที่

    รับใช้อะไรกันล่ะครับจองกุกพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ

    คุณคงพอจะรู้แล้วว่า บลูอีเกิ้ลของเราตอนนี้ ยังไม่มีธุรกิจเกี่ยวกับยามาเป็นธุรกิจในเครือคนถูกถามพยักหน้าอย่างรวดเร็วก่อนจะเอ่ยตอบไป

    ผมพอจะรู้มาบ้างครับฮันจองซอกตอบพร้อมกับรอยยิ้มและหัวใจที่ลุ้นระทึกว่า วันนี้โชคชิ้นใหญ่กำลังจะหล่นลงมาทับเขาและบริษัทที่กำลังเผชิญวิกฤติอยู่ในขณะนี้

    ผมไม่อ้อมค้อมเลยแล้วกัน

    ครับจอนจองกุกชอบเป็นที่สุด แววตาที่เป็นประกายแห่งความหวังของชายวัยกลางคนตรงหน้า

    ผมจะสนับสนุนคุณในฐานะผู้ร่วมลงทุน

    จริงเหรอครับ!!!” ในที่สุดความหวังของเขาก็เป็นเรื่องจริง สองพ่อลูกต่างมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชม

    แต่... ผมมีเงื่อนไขว่า ผมจะต้องมีหุ้นในเอสเคกรุ๊ปด้วย

    ประธานฮันชะงักไปเล็กน้อยเพื่อใช้ความคิด เขารู้ดีที่จอนจองกุกต้องการมีหุ้นในเอสเคกรุ๊ปเพราะการใช้เงินสนับสนุนอะไรก็ตาม ก็ย่อมต้องการสิ่งที่เป็นหลักประกันว่า สิ่งที่ทำลงไปมันจะคุ้มค่า และถ้าหากเขาปล่อยให้จอนจองกุกไปซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ มันจะทำให้อำนาจที่เขาพึงมี อาจจะได้มาอย่างไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

    ผมมีหุ้นทั้งหมด 45 เปอร์เซ็นต์ คุณจะรังเกียจมั้ยครับ ถ้าผมจะขายหุ้นในส่วนของผมให้กับคุณ..”

    “15 เปอร์เซ็นต์ ผมต้องการแค่นั้น

    “!!!”

    คนได้ยินตกใจอีกครั้ง เมื่อเปอร์เซ็นต์ของหุ้นที่จอนจองกุกต้องการมันไม่ได้มากมายอย่างที่เขาคิด แต่ก็ดีแล้วหากการที่เขาเจียดขายหุ้นไปเพียงน้อยนิด แลกกับสิ่งที่บลูอีเกิ้ลจะมอบให้กับเขา มันไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ใครก็ตามที่ได้อยู่ภายใต้ใบบุญของบลูอีเกิ้ลแล้วละก็ อำนาจ และสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย จะหลั่งไหลเข้ามาเพื่อให้เขากอบโกยและใช้ประโยชน์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    ยินดีและเป็นเกียรติมากๆครับคุณเจค ผมกับลูกสาวยินดีมากๆเลยครับ

    เมื่อได้ยินคำว่าลูกสาว สายตาคมของชายหนุ่มก็มองไปยังคนที่ถูกเอ่ยถึงด้วยสายตานิ่งๆ ทำเอาฮันดาวอนใจเต้นระรัว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบเจอกับจอนจองกุกตัวจริง ผู้ชายตรงหน้าที่ใครๆก็บอกกันปากต่อปากว่าผู้ชายคนนี้อันตราย

    เธอไม่เถียงเลยแม้แต่น้อย หากแต่ความอันตรายตรงหน้ามันช่างมีเสน่ห์ล่อตาล่อใจเธอเหลือเกิน ผู้ชายคนนี้เก่งเกินตัวเกินอายุไปมาก เธอไม่คิดว่าตัวจริงของจอนจองกุกจะหล่อเหลาถึงเพียงนี้ และแน่นอน เมื่ออ้อยเข้าปากช้างเช่นนี้ เธอก็อยากจะลองเสี่ยงดูสักตั้ง หากเธอได้สิ่งที่แสนอันตรายมาครอบครองชีวิตนี้ของเธอก็คงสบายไปทั้งชาติ

    คุณคงเป็นฮันดาวอน

    ชะ ใช่ค่ะ ฉันฮันดาวอน ยินดีที่ได้รู้จักค่ะหญิงสาวสบโอกาส แนะนำตัวกับชายที่เธอหมายปองทันที

    กอน

    ครับ

    เหมือนอีกอนจะรู้ความต้องการของเจ้านาย เพียงแค่ถูกเรียกชื่อ เขาก็ยื่นกล่องบางอย่างไปให้กับฮันดาวอนทันที คนรับมาก็มองกล่องในมือด้วยความแปลกใจ ตกใจ และปลื้มใจยิ่งกว่า โลโก้แบรนด์ของกล่องในมือ เธอรู้ดีว่าของข้างในมันคืออะไร แต่เธอยังไม่มั่นใจนัก

    ถือว่าเป็นของขวัญสำหรับการพบกันครั้งแรกของเรา เปิดดูสิครับ อยากรู้ว่าคุณจะชอบมันรึเปล่าฮันดาวอนได้ยินอย่างนั้นก็รีบดึงริบบิ้นออก ก่อนจะเปิดกล่องใบหรูออกมา จนในที่สุดสิ่งที่เธอเห็นตรงหน้าก็ทำให้เธอดีใจจนห้ามรอยยิ้มไว้ไม่อยู่

    กระเป๋าใบนี้มัน!! คุณเจคให้ฉันเหรอคะ

    มันคือกระเป๋าใบเมื่อวาน ใบเดียวกับที่เธอใช้มันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้กลั่นแกล้งอดีตเพื่อนรักไป กระเป๋าใบนี้เป็นรุ่นลิมิเตดอิดิชั่น ผลิตมาเพียงแค่สามสิบใบในโลกเท่านั้น ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ หนังแท้ภายในสามารถปักชื่อของผู้ที่เป็นเจ้าของลงไปได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องถามถึงราคาของมันเลย แต่ไม่ใช่ว่ามีเงินเพียงเท่านั้นที่จะครอบครองกระเป๋าเลอค่าใบนี้ได้

    เธอเองอยากได้มันมาก แต่ขนาดลูกสาวประธานเอสเคกรุ๊ปอย่างเธอ ยังไม่สามารถซื้อมันได้เลยด้วยซ้ำ เหตุผลเพราะราคาที่ไกลเกินเอื้อม และโปรไฟล์ของเธอยังคงไม่ควรคู่กับกระเป๋าใบนี้ แต่คนตรงหน้าสามารถซื้อมันมามอบเป็นของขวัญให้กับเธอได้

    คงไม่ผิดหรอกที่ผู้หญิงสวยเพียบพร้อมอย่างเธอจะคิดเข้าข้างตัวเองว่า สิ่งที่ผู้ชายอันตรายตรงหน้าเธอทำอยู่ มันเป็นเพราะเขานั้นปรารถนาในตัวเธอ ซึ่งถือได้ว่าทั้งสองคนมีความต้องการที่ตรงกัน ฮันดาวอนไม่ลืมที่จะส่งรอยยิ้มที่ผู้ชายคนไหนได้เห็น เป็นอันต้องตกหลุมรักเธอไม่ยากไปให้คนที่มอบกระเป๋าใบนี้ให้กับเธอ

    ตรงที่ปักชื่อได้ รออีกสักอาทิตย์หน้าค่อยเอาไปปักชื่อนะครับอีกอนบอกไป เมื่อเห็นว่าฮันดาวอนกำลังจะดึงสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ตรงจุดที่มีไว้สำหรับปักชื่อ ทำเอามือเล็กชะงักไป

    ที่ยังไม่ได้ปักชื่อลงไป เพราะคุณเจคคิดว่าคุณอาจจะอยากเลือกแบบตัวอักษรเองครับยิ่งได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวยิ่งย่ามใจว่า เธอกำลังจะได้เป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก

     


    ผมให้ฝ่ายการเงินโอนเงินให้คุณแล้วจอนจองกุกพูดขึ้นเมื่อเขาสั่งให้ลูกน้องโอนเงินเข้าบัญชีของประธานฮันแล้ว

    ขอบคุณครับ ทางเราจะรีบทำการโอนหุ้น 15 เปอร์เซ็นต์ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของคุณเจคภายในวันนี้เลยครับได้ยินอย่างนั้น รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อร้ายเพียงชั่วขณะให้คู่สนทนาที่กำลังดีอกดีใจจนไม่สนใจสิ่งรอบตัวไปแล้ว

    ดีครับเขาตอบกลับไปเพียงเท่านั้น

     

    เมื่อแขกผู้มาเยือนทั้งสามคนเดินพ้นประตูห้องไป สองพ่อลูกแทบจะกระโจนกอดกันอยู่รอมร่อ เพราะต่างรู้สึกราวกับว่า สวรรค์ได้ประทานจอนจองกุกมาให้กับทั้งสองคน

    เห็นมั้ยว่ายังไงเราก็ต้องมีทางออก

    นอกจากพ่อจะแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว พ่อต้องให้รางวัลหนูด้วยนะคะ

    รางวัลอะไรกันคนพ่อเอ่ยถาม

    พ่อไม่เห็นที่คุณเจคเขาให้ของขวัญหนูเหรอคะ พ่อคิดว่า คุณเจคมาขอสนับสนุนบริษัทเราเพราะอยากทำธุรกิจด้วยแค่นั้นเหรอคะ

    จริงอย่างที่คนลูกพูด การที่จะยื่นมือมาเป็นผู้สนับสนุนเขา เพียงแค่ยกโทรศัพท์กริ๊งเดียวทุกอย่างก็จบ ไม่เห็นความจำเป็นอะไรที่ต้องมาที่นี่ด้วยตัวเอง แล้วยิ่งมีของขวัญสุดเลอค่ามามอบให้กับลูกสาวของเขาด้วยแบบนี้

    ฮันจองซอกเริ่มมองเห็นอนาคตรางๆแล้วว่า เขาอาจไม่ได้มีส่วนร่วมกับบลูอีเกิ้ลในฐานะธุรกิจในเครือ แต่อาจจะได้ก้าวเข้าไปดองกับตระกูลจอนโดยตรงก็เป็นได้ และหากเป็นอย่างนั้น ทั้งตัวเขาเอง ครอบครัว และธุรกิจของเขาจะต้องรุ่งโรจน์ได้อย่างสบายไร้ข้อกังวลเพราะบารมีของตระกูลจอน

    จริงด้วย ต้องให้รางวัลลูกสาวคนสวยของพ่อ ที่ทำให้คุณเจคมาหาเราได้

    แต่ผมว่ามันจะดูบังเอิญเกินไปรึเปล่าครับท่านผู้ช่วยคนเดิมพูดขึ้น หวังเพื่อจะทำให้ประธานได้ฉุกคิดเผื่อใจเอาไว้บ้าง แต่มันกลับทำให้สองพ่อลูกตวัดสายตามองเขาอย่างไม่พอใจ

    บังเอิญยังไง

    คุณเจคยื่นมือเข้ามา ในเวลาที่ท่านกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และด้วยข่าวที่เกิดขึ้นวันนี้ มันไม่น่าจะทำให้พวกเขาสนใจที่จะสนับสนุนธุรกิจของเราได้เลยนะครับ

    บริษัทที่กำลังมีข่าวฉาว แถมหุ้นตกฮวบฮาบ รวมถึงประธานที่ขาดความมั่นคงด้วยแล้ว ในความคิดของคนฉลาดอย่างมือขวาของประธานฮัน มองว่ามันดูจะไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ที่บลูอีเกิ้ลจะมาลงทุนกับเอสเคกรุ๊ป

    เคยได้ยินมั้ย ว่าลงทุนเพราะความเสน่หาน่ะฮันดาวอนพูดแทรกขึ้นมา

    อะไรนะครับ???”

    ความจริง คุณเจคอาจจะไม่ได้ต้องการร่วมทุนอะไรกับพ่อหรอก แต่สิ่งที่เขาต้องการก็คือฉันดาวอนมั่นใจเสียยิ่งกว่าเรื่องไหนๆ ความสวยของเธอไม่เคยทำให้เจ้าตัวผิดหวัง เธอมั่นใจและเอาหัวเป็นประกันเลยว่า การที่ว่าที่ผู้นำของบลูอีเกิ้ลยื่นมือเข้ามาช่วยบริษัทพ่อของเธอ เหตุผลก็คือ เธออย่างแน่นอน







    เสน่ห์แรงเกินไปรึเปล่าครับอีกอนที่กำลังขับรถไปด้วยพูดขึ้น เขาตั้งใจแซวเจ้านายสักหน่อย เพราะคนอย่างจอนจองกุกไม่เคยใช้เสน่ห์ในมุมนี้กับใครมาก่อน

    หึ ไม่เห็นจะยากเขาคิดว่าฮันดาวอนจะยากกว่านี้ซะอีก ที่ไหนได้ แค่เอากระเป๋าที่เขาซื้อด้วยเศษเงินมาล่อหน่อย ก็แทบจะเปลื้องผ้าถวายตัวให้เขาอยู่แล้ว

    ระวังนะครับ

    ระวังอะไร?” คราวนี้จองกุกตวัดสายตาไปยังโดยองที่นั่งข้างอีกอน

    ก็ถ้าคุณยูริน รู้ว่าคุณเจคซื้อกระเป๋าให้ผู้หญิงคนอื่นขึ้นมาละก็ เธอจะโกรธเอาได้นะครับ

    ยัยนั่นจะโกรธฉันทำไมมาเฟียหนุ่มถามอย่างไม่เข้าใจ คนไม่เคยมีแฟนอย่างเขา จะเอาสมองที่ไหนไปรับรู้เรื่องพวกนี้

    คนที่เป็นภรรยา ถ้ารู้ว่าสามีของตัวเอง ซื้อกระเป๋าราคาหลายล้านวอนไปให้ผู้หญิงคนอื่น ก็ต้องโกรธเป็นธรรมดาครับโดยองพยายามอธิบาย

    ไม่เห็นต้องสน ก็อย่าให้ยัยนั่นรู้สิคนที่ไขว่ห้างอยู่ที่เบาะหลังยักไหล่ตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า ประโยคที่พูดออกมา ส่วนหน้ากับส่วนท้ายมันช่างสวนทางกัน ไม่สนใจ แต่ก็ไม่อยากให้รู้

    ไม่อยากให้รู้แปลว่า กลัวเธอโกรธนะครับ

    กอน!! ขับรถไปจอนจองกุกออกคำสั่งตาเขียวปั้ด

    หากแต่มือขวาและมือซ้ายของเขากลับหันมองกัน แล้วแอบยิ้มให้กับความปากแข็งของคนเป็นนาย ที่ลงทุนทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อว่าที่ภรรยาไม่ใช่รึไง ยังจะบอกว่าไม่สนใจเธออยู่อีก ไปเรียกเด็กสามขวบมาฟังยังไม่เชื่อเลย

     


    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    ชั้นล่างสุดของตึกทกซูรี ตรงใจกลางตึกถูกออกแบบให้เป็นลานโล่งๆไม่ต่างอะไรกับโรงยิม ซึ่งคนที่นี่เรียกมันว่า โรงฝึก

    และโรงฝึกนี้ถูกจัดแบ่งเป็นโซน ทั้งส่วนที่เอาไว้ฝึกซ้อมยิงปืน ส่วนที่เอาไว้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็น ยูโด เทควันโด เคนโด้ หรือแม้แต่การฝึกดาบแบบโบราณ

    ตอนนี้นัมยูรินในชุดที่ดูทะมัดทะแมงกำลังฟังครูฝึกอธิบายในส่วนของข้อมูลสำคัญที่เธอจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการใช้ปืน วันนี้เป็นวันที่สามแล้วที่เธอได้มาเรียนยิงปืน แต่สองวันก่อนหน้านี้คนที่มาสอนเธอเป็นครูสอนยิงปืนหลักของบลูอีเกิ้ล ไม่ใช่คนที่บอกว่าจะสอนเธอยิงปืนตั้งแต่แรก แต่ก็ดีแล้ว ขืนให้เขามาสอนเขาอาจจะใช้เธอเป็นเป้าในการยิงก็เป็นได้

    ถึงยูรินจะไม่ได้อยากเรียนนัก แต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ อย่างน้อยๆก็เอาไปใช้เพื่อป้องกันตัวในสถานการณ์อันตรายในอนาคตได้

    คุณยูรินมีข้อสงสัยอะไร ถามผมได้เลยนะครับครูสอนยิงปืนเอ่ยถาม เมื่อเขาได้ถ่ายทอดสิ่งที่เป็นทฤษฎีไปหมดแล้ว

    อืม...ไม่มีแล้วค่ะ ฉันเข้าใจทั้งหมดแล้ว

    ดีครับ ถ้าอย่างนั้น วันนี้คุณจะได้ฝึกยิงจริงๆแล้วนะครับ

    โอเคค่ะ ฉันพร้อมแล้วค่ะหญิงสาวตอบไปอย่างค่อนข้างมั่นใจ เธอจดจำสิ่งที่ครูฝึกสอนได้ทั้งหมดแล้ว และจะรู้ได้ว่าเธอเข้าใจจริงๆหรือไม่ ก็ต่อเมื่อได้ลองยิงปืนจริงๆเสียก่อน

    ครับ ถ้าอย่างนั้นรอคุณเจคสักครู่นะครับ

    คะ??? รอทำไมคะ

    นัมยูรินตกใจเมื่อได้ยินว่า คนที่ไม่ค่อยอยากเจอนัก จะเป็นคนสอนเธอต่อ เธอก็อุตส่าห์หลงดีใจ และผ่อนคลายพอสมควรที่ได้เรียนกับครูสอนยิงปืนคนนี้

    ก็บอกแล้วไงว่าจะสอนเองนั่นไม่ใช่เสียงของครูสอนยิงปืน แต่เป็นเสียงของคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ

    คุณ!” จอนจองกุกไม่ได้สนใจว่าคนตัวเล็กจะพูดอะไร เขาแค่เดินผ่านเธอไปเฉยๆ วันนี้จองกุกสวมชุดที่ดูสบายๆกว่าทุกที การที่เขาสวมแค่เสื้อโปโลธรรมดาๆแบบนี้ก็ทำให้เขาดูดีได้แล้ว

    ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณเจคครูสอนยิงปืนบอกลาชายหนุ่มอย่างสุภาพ แต่ก่อนจะเดินออกไปก็มิวายพูดให้กำลังใจลูกศิษย์ของตัวเองก่อน

    ไม่ต้องกังวลนะครับ คุณทำได้ครับ คุณเจคน่ะยิงปืนเก่งกว่าผมอีกพูดจบร่างสูงก็เดินออกไปทันที ทิ้งให้เหลือเพียงสองคนที่ยังคงอยู่ในนี้

    ตามมา

    จองกุกเอ่ยโดยไม่ได้มองหน้ายูรินด้วยซ้ำ ก่อนจะเดินนำเธอไป และคนตัวเล็กกว่าก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย เพราะรู้ว่าที่ที่เขาจะพาไปก็คือห้องซ้อมยิงปืนจริงๆ ที่อยู่ด้านในสุด

    ไม่นานทั้งสองก็เข้ามายังห้องซ้อมยิงปืนของจริง คนที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็มองสำรวจไปรอบๆอย่างสนอกสนใจไม่น้อย เธอเคยเห็นมาบ้างในภาพยนตร์ แต่ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้เข้ามาในที่แบบนี้ แต่อันที่จริงชีวิตของเธอก่อนหน้านี้ เธอก็ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำไปเยอะแล้วล่ะ

    จองกุกนำยูรินไปยังจุดที่มีไว้สำหรับยิงปืน มันถูกแบ่งเป็นช่องๆ เพื่อความเป็นส่วนตัวและสมาธิของผู้ฝึก

    นั่นปืน หยิบมันขึ้นมา แล้วลองยิงดูได้ยินอย่างนั้นเธอก็เดินไปตรงจุดที่ต้องยืน ก่อนจะหยิบหูฟังป้องกันเสียงรบกวนขึ้นมาสวม

    ไม่ต้องใส่ก็ได้

    คะ?” คนที่เพิ่งถูกสอนมาว่าควรใส่หูฟังป้องกันเสียงรบกวนตอนฝึกยิง ถามอย่างไม่เข้าใจ

    ปืนกระบอกนี้ มันไม่ได้เสียงดังขนาดนั้น แล้วอีกอย่างเธอควรฝึกให้ชินกับเสียงปืน แต่ถ้าช่วงแรกๆจะใส่ก็ไม่เป็นไร

    ปืนกระบอกที่วางอยู่ตรงโต๊ะตรงหน้าของร่างบาง เธอค่อยๆหยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ใครจะไปเคยชินกับอะไรแบบนี้ได้ง่ายๆกันล่ะ แต่พอได้ลองจับปืนขึ้นมา เธอก็รู้สึกได้ว่าปืนกระบอกนี้มีน้ำหนักเบากว่ากระบอกที่เธอเคยยิงคืนวันนั้นพอสมควร

    ลองยิงดู

    นัมยูรินเม้มปากแน่นเพื่อทำใจ ถึงเธอจะเคยยิงมันมาแล้ว แต่ตอนนั้นสถานการณ์มันพาไป เธอเลยจำเป็นที่จะต้องทำ พอต้องมาฝึกยิงจริงจังแบบนี้ ทำให้เธอประหม่าไม่น้อยเลย แล้วยิ่งต้องมายิงต่อหน้าคนที่กำลังใช้สายตาน่ากลัวจ้องจับผิดเธออยู่แบบนี้ด้วย มันทำให้เธอแทบลืมสิ่งที่เรียนมาไปหมดสิ้น

    ยิงเร็วๆที่เขาบอกให้เธอยิงให้ดูก่อน เป็นเพราะต้องการที่จะประเมินก่อนว่า ความสามารถในการยิงของคนตัวเล็กนั้นอยู่ที่ระดับไหน

    รู้แล้วค่ะ

    ฟู่ว....” ยูรินพ่นลมหายใจออกมาเพื่อความผ่อนคลายและเรียกสมาธิของตัวเองไปด้วย เพราะรู้ว่าสมาธิเป็นสิ่งสำคัญในการยิงปืน

    มือข้างที่ถนัดถือกระบอกปืนเอาไว้แน่น โดยมีมืออีกข้างประคองด้านล่างของปืนเอาไว้ สายตามองผ่านปลายกระบอกปืนไปยังเป้ายิงที่อยู่ห่างออกไปราวสิบเมตร เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอด เพื่อหยุดอาการตื่นเต้นจนใจเต้นรุนแรงไปหมด เธอทั้งตื่นเต้นที่จะได้ยิงปืนจริงๆจังๆครั้งแรก และประหม่ามากยิ่งขึ้นเมื่อมองไปเห็นสายตากดดันจากคนที่ยืนอยู่ข้างกาย สายตาของจอนจองกุกที่มองเธออยู่ เหมือนกับต้องการจะบอกกับเธอว่า หากเธอไม่รีบยิง เขานี่แหละจะเป็นคนยิงเธอเอง

    ปั้ง!!!

    ในที่สุดเธอก็กลั้นใจลั่นไกยิงนัดแรกออกไปจนได้ แต่เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็พบว่า ผลของมันแย่กว่าที่คิดเอาไว้มาก และเมื่อเธอหันไปมองคนข้างๆ สายตาของเขายิ่งตอกย้ำความคิดของเธอที่ว่า เธอยิงปืนได้แย่แค่ไหน

    เธอยิงห่างจากเป้าเกือบสามเมตร

    รู้แล้วค่ะไม่เห็นจะต้องตอกย้ำกันเลย หญิงสาวคิดในใจ ความกลัวปืนก็ยังคงมีอยู่ถึงจะไม่มากเหมือนเมื่อก่อน แล้วใครกันจะยิงปืนได้ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่ยิง

    ยิงใหม่

    คะ?”

    ฉันบอกให้ยิงใหม่

    ค่ะ

    ยูรินรับคำก่อนจะค่อยๆยกปืนขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็พอรู้ชะตากรรมของตัวเองดีว่ายังไงครั้งนี้ก็คงไม่ต่างจากเมื่อครู่นักหรอก มือเล็กกระชับปืนในมือให้แน่นแต่มันแน่นเกินไป จนมันทำให้มือเธอของเธอเกิดสั่นขึ้นมา ยิ่งเห็นว่ามือของตัวเองนั้นกำลังสั่นเทายูรินยิ่งประหม่ามากขึ้นไปอีก

    แต่แล้วมือที่กำลังถือปืนของหญิงสาว ก็เกิดหยุดสั่นในทันที เมื่อมีมือทั้งสองข้างของใครอีกคนมาช่วยประคองมือของเธอเอาไว้อีกทีหนึ่ง มือใหญ่ทั้งสองข้างกุมมือเล็กเอาไว้จนเธอแทบจะมองไม่เห็นมือของตัวเอง

    และสิ่งที่มองไม่เห็นยิ่งกว่ามือก็คือ สติที่อันตรธานหายไปไหนแล้วก็ไม่อาจรู้ได้ เหตุผลที่สติของเธอหลุดลอยไป มันเป็นเพราะคนตัวสูงที่กำลังยืนซ้อนอยู่ด้านหลังเธอ

    ยูรินตกใจไม่น้อยเลยที่สิ่งที่ร่างสูงกำลังทำอยู่ในตอนนี้มันไม่ต่างไปจากการโอบกอดเธอจากทางด้านหลัง ความแนบชิดที่แผ่นหลังบางสัมผัสเข้ากับแผงอกแกร่ง มันส่งผลโดยตรงกับหัวใจดวงน้อยๆที่เต้นแรงเพราะการยิงปืนอยู่ก่อนแล้วให้มีอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี

    มีสมาธิเสียงทุ้มต่ำที่ออกมาจากริมฝีปากที่อยู่ไม่ห่างจากศีรษะของเธอ เรียกสติของเธอกลับมาได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

    วางเท้าให้ห่างกันประมาณความกว้างของไหล่และให้ขนานกันมากที่สุดสองขาขยับตามที่ชายหนุ่มบอกกับเธอ

    แขนที่ใช้ยิงจะต้องเหยียดเต็มที่ พร้อมกับข้อมือ และข้อศอกจะต้องนิ่ง

    ค่ะ ค่ะ

    ในจุดที่เตรียมพร้อม 45 องศากับเป้ายิง แขนจะถูกยกขึ้นมาสู่จุดยิงโดยการบังคับของกล้ามเนื้อไหล่เท่านั้น โดยส่วนอื่นๆ จะไม่เคลื่อนไหวเด็ดขาด

    หะ ห้ามเลยเหรอคะ

    หึ ทำไม่ได้สินะ

    ทำไมจะทำไม่ได้คะคนตัวเล็กถามกลับอย่างไม่พอใจ ที่รู้สึกเหมือนกำลังถูกสบประมาทอยู่

    ก็...ตัวเธอสั่น

    ร่างเล็กที่สั่นเป็นลูกนกจนจอนจองกุกรู้สึกได้ มันทำให้เขานึกขำในใจ ยัยตัวเล็กคงจะกลัวปืนไม่ใช่น้อยเลย หากแต่ความเป็นจริง สิ่งที่หญิงกลัวไม่ใช่ปืนอย่างที่เขาคิด แต่เป็นตัวของเขาเองต่างหากล่ะที่ทำให้เธอหวั่นกลัว

    ก็ ก็คุณอยู่ใกล้เกินไปนี่คะ ถอยออกไปหน่อยได้มั้ย

    หึ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ มันอยู่ห่างกันได้รึไงเขากำลังสอนเธอยิงปืนอยู่ จะให้ไปยืนหน้าตึกทกซูรีสอนหรือยังไงกัน

    สมาธิ!!” ร่างบางสะดุ้งโหยงที่จู่ๆจองกุกก็พูดเสียงดังขึ้นมา

    ตกใจอะไร

    อย่าดุสิคะ T^T แล้วฉันจะยิงได้มั้ยเล่าหญิงสาวหันไปบอกกับร่างสูงที่ยืนประกบอยู่ด้านหลังของเธอ

    สมาธิจองกุกพูดคำเดิม แต่ด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป

    เธอต้องยืนตรงแต่มีการผ่อนคลาย ให้น้ำหนักตกที่ระดับสะโพก เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบต่อร่างกายส่วนอื่นๆโดยเฉพาะหลัง

    มีสมาธิ ผ่อนคลาย

    เงยหน้าขึ้นแล้วใช้สายตาของเธอจ้องที่เป้าหมาย

    ค่อยๆหายใจ

    หลับตาซ้ายลง เล็งด้วยตาขวา ให้ยอดศูนย์หน้าอยู่กึ่งกลางช่องบากศูนย์หลังของปืนเสมอ วางไว้ส่วนล่างของที่หมาย

    ค่อยๆกดไกเบาๆจนกว่าปืนจะลั่นเอง เพราะถ้ากดไกปืนแรงเกินไปจะทำให้เกิดการกระชากได้

    น่าแปลกที่การปรับให้เสียงพูดเบาลง จนเหมือนจองกุกกระซิบให้หญิงสาวฟัง มันกลับทำให้การเรียกสมาธิของเธอทำได้ง่ายขึ้น ทั้งๆที่เป็นเพียงเสียงทุ้มต่ำที่ไม่ได้ดังอะไร แต่มันกลับทะลุหูฟังเข้ามาได้

    ถ้าเล็งได้ก็ยิงเลย

    ปั้ง!

    ว้าย!!”

    เป็นเพราะครั้งนี้ยูรินลั่นไกออกไปโดยที่เธอลืมยืนในท่าที่มั่นคง ทำให้ร่างบางเซไปด้านหลังตามแรงของปืน เธอคงจะล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว หากไม่ใช่เพราะร่างสูงที่ยืนซ้อนอยู่ จองกุกใช้ท่อนแขนข้างซ้ายโอบรัดเอวบางไปพร้อมๆกับใช้ร่างกายของเขาเป็นดั่งกำแพงแกร่งกันร่างบางเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอล้มลง

    เธอออกแรงลั่นไกมากเกินไป ลองใหม่ยูรินพยักหน้าตามที่จองกุกแนะนำ ก่อนจะหันไปโฟกัสกับการยิงปืนอีกครั้ง เธอตั้งใจหนักหนาว่าครั้งนี้ต้องยิงให้ดีกว่าเดิมให้ได้ และเพราะความตั้งใจมากไป มันทำให้เธอลืมไปเลยว่าตอนนี้มีท่อนแขนของว่าที่สามีกำลังโอบพาดอยู่ที่เอวบางของตัวเองอยู่

    ผ่อนคลาย ไม่ต้องเกร็ง

    ไม่ต้องกลัวล้ม ฉันยืนอยู่ตรงนี้ประโยคนั้นจากจองกุกมันทำให้คนฟังรู้สึกราวกับว่า หากมีเขาอยู่ใกล้ๆ เธอจะปลอดภัยยังไงยังงั้น

    นัมยูรินสูดหายใจเข้า แล้วพยายามตั้งสติให้มั่น ก่อนจะทำตามทุกอย่างที่ครูฝึกสอนมา รวมถึงสิ่งที่จอนจองกุกเน้นย้ำไปเมื่อกี้ และในที่สุด....

    ปั้ง!

    นัดที่สามที่เธอยิงออกไป กระสุนปืนพุ่งตรงไปเจาะทะลุเป้ายิงตรงหน้า ถึงแม้จะไม่ตรงกลางเป้า แต่ก็ถือว่าเธอทำได้ดีสมกับที่ตั้งใจยิงนัดนี้ออกไป

    คุณเห็นมั้ย!!!” คนตัวเล็กถามทั้งที่ทั้งคู่ยังยืนอยู่ในท่าเดิม

    เห็น

    เป็นยังไงคะ โอเคมั้ย

    ก็...ไม่แย่ร่างเล็กคว้ามือหนาที่วางอยู่ที่เอวคอดของตัวเองออก เพื่อให้ตัวเองหันไปเผชิญหน้ากับร่างสูงตรงๆ แต่เธอคงลืมไปว่ามือของเธอยังคงจับมือของจองกุกเอาไว้อยู่

    ไม่แย่เองเหรอคะ เกือบกลางเป้าแล้วนะ

    อยากให้ชม?” จองกุกถามพลางใช้สายตานิ่งมองคนที่อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาไปไม่มากนัก

    คนทำดีก็ต้องถูกชมสิคะ

    ชมไปแล้วได้อะไร

    ก็จะได้มีกำลังใจไงคะ

    หึ อยากได้กำลังใจจากฉัน?”

    อยากได้สิคะ

    คนตัวเล็กที่นึกเพียงจะต่อปากต่อคำกับคนตัวสูง ตอนนี้กำลังถูกสายตาคมจ้องมองมาในระยะที่เธอลืมไปเลยว่าเธอกับเขายืนอยู่ใกล้กันมากแค่ไหน ยูรินรู้สึกได้ถึงความอันตรายขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อถูกสายตาคู่นั้นจ้องมอง ราวกับดวงตาสีดำสนิทราวกับทะเลลึกที่ยากเกินจะหยั่งถึงกำลังสะกดให้เธอจ้องมองกลับไปได้อย่างไม่รู้เบื่อ

    ฝึกป้องกันตัวเองเอาไว้ จะได้ไม่ตายง่ายๆ

    นั่นคือประโยคที่เขาพูดออกมา จะจัดอยู่ในประเภทไหนดี ประโยคแสดงความชื่นชม ประโยคแสดงความเป็นห่วงเป็นใย หรือประโยคที่กำลังเยาะเย้ยเธออยู่กันแน่ ยูรินไม่สามารถคาดเดาความคิดของคนตรงหน้าได้เลยสักครั้ง

    คุณเจคครับ!!!”

    เอ่อ ขอโทษครับ

    และเพราะโดยองที่แทบจะวิ่งเข้ามา มันทำให้ทั้งคู่ละสายตาออกจากกัน แล้วหันไปมองคนที่เพิ่งเข้ามาแทน

    มีอะไรจองกุกเอ่ยถาม แต่สายตาของโดยองไม่ได้มองไปที่ใบหน้าของเจ้านาย เขากำลังมองมือเล็กที่กำลังจับมือใหญ่ของเจ้านายของเขาเอาไว้ เมื่อยูรินมองตามสายตาของโดยองมันทำให้ใบหน้าสวยเห่อร้อนขึ้นมา เธอจึงรีบปล่อยมือออกจากมือใหญ่ทันที ก่อนจะพยายามเก็บซ่อนอาการเขินอายเอาไว้

    เอ่อ...” ท่าทีของโดยองมันทำให้หญิงสาวรู้ว่า เรื่องที่ทำให้เขารีบร้อนเข้ามาในนี้คงจะเป็นความลับและเป็นธุระสำคัญ

    ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวก่อนดีกว่าค่ะหญิงสาวเอ่ยปากออกไป ก่อนจะเดินออกจากห้องซ้อมยิงปืน เพื่อให้ทั้งสองคนได้คุยกันอย่างสะดวก และอีกเหตุผลหนึ่งที่เธอจำต้องรีบออกไปจากตรงนี้ก็คือ เธอไม่อยากให้คนตัวโตมองเห็นสิ่งที่เธอพยายามเก็บซ่อนไว้

     

    อยากโดนยิงตาแตกรึไงจอนจองกุกอดทนแสร้งทำเป็นเมินเฉยไม่ได้กับสายตาของโดยองที่มองมา

    ผมไม่ได้เข้ามาขัดจังหวะใช่มั้ยครับ

    สรุปจะมากวนตีน?”

    ปะ เปล่าครับ ผมแค่จะมาบอกว่า พวกนั้นยอมขายหุ้นให้เราแล้วครับ

    ตอนนี้ได้มาเท่าไหร่โดยองคลี่ยิ้มก่อนจะตอบเจ้านายไป

    ทั้งหมดครับ

    หึ เร็วกว่าที่คิด

    เพราะข่าวฉาวของผู้หญิงคนนั้นด้วยครับ ทำให้ผู้ถือหุ้นทั้งหมดยอมขายหุ้นที่มีอยู่ในมือให้เราทั้งหมด

    หุ้นที่ตกฮวบจนราคาต่ำเตี้ยขนาดนั้น ไม่มีใครกล้าถือเอาไว้หรอก

    จองกุกยิ้มพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาวางเอาไว้ เขามีหุ้นจากฮันจองซอก 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเอามารวมกับหุ้นที่เขาสั่งให้คนไปกว้านซื้อแกมบังคับจากบรรดาผู้ถือหุ้นทุกคนของเอสเคกรุ๊ป เพียงไม่กี่วันถึงบัดนี้ จอนจองกุกกลายเป็นผู้ที่มีหุ้นของบริษัทนำเข้าและผลิตยารายใหญ่ของเกาหลี อยู่ในมือรวมๆแล้ว 70 เปอร์เซ็นต์

    มารอดูกัน ว่าถ้าฮันจองซอกมีหุ้นเหลือแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ มันจะดิ้นเป็นหมาโดนน้ำร้อนลวกยังไงบ้างแค่คิด ความสนุกก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม

    มาเฟียหนุ่มคุยธุระกับลูกน้องคนสนิท โดยไม่รู้เลยว่า คนตัวเล็กที่น่าจะกลับออกไปแล้ว กำลังได้ยินในสิ่งที่เธอไม่คิดจะอยากรับรู้เพราะมันไม่ใช่ธุระอะไรของเธอ แต่เพราะเธอลืมของเอาไว้ ทำให้ต้องกลับมาหยิบที่ล็อคเกอร์อีกครั้ง จนได้ยินชื่อของคนที่หักหลังพ่อของเธอจากปากของจอนจองกุก

    คุณคิดจะทำอะไรกันแน่...”


    50%
    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ฝาก สตรีมเเท็ก  #พี่เจคใจเย็น ด้วยน้า


    ชื่อทางการติดต่อไรท์

    twt : @Lilyn_T_V

    Facebook group : Lilyn-Fic


    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×