เด็กชาย คอนสแตนติน - เด็กชาย คอนสแตนติน นิยาย เด็กชาย คอนสแตนติน : Dek-D.com - Writer

    เด็กชาย คอนสแตนติน

    โดย Lilla froken

    ครูเจด้าจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาดวงน้อยๆของเด็กชายคอนสแตนติน อย่างไม่กระพริบและไม่ล่ะสายตา จนทำให้น้ำใสๆไหลรินอาบแก้มของเด็กชายผู้น่าสงสารเหมือนนำ้ล้นบ่อที่ไหลไม่ยอมหยุด ไม่ร้องไห้น่ะลูก ครูแค่ต้องการคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น!!!!

    ผู้เข้าชมรวม

    81

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    81

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ค. 65 / 03:27 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    ณ โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองซิกทูนา ซึ่งห่างจากเมืองสต๊อกโฮมประมาณ 60 กิโลเมตรเจด้าทำงานที่นั่นมาเป็นเวลา2ปี ครูสาวอยู่แผนกเด็กอายุ 3-5 ขวบ ในห้องเรียนมีเด็กนักเรียนทั้งหมด 14 คน และครูประจำชั้น 3 คน

     เจด้าและเพื่อนร่วมงานอีกสองคน คือกาต้าร์และเลน่า ได้ทำงานร่วมกันช่วงซัมเมอร์สองอาทิตย์ก่อนปิดภาคเรียน 

    เดี่ยวเราจะออกไปรดน้ำดอกไม้ในสวนน่ะ เจด้าส่งเสียงบอกกาต้าร์เพื่อนร่วมงานที่กำลังล้างจานในครัว

    ครูสาวเร่งฝีเท้าไปที่ประตูและเปิดเบาๆ เพื่อที่จะไม่รบกวนเด็กๆที่นอนพักกลางวัน อยู่บนชั้นสองของโรงเรียน

    โอเคร … ครูกาต้าร์ขานรับ พลางล้างจานและฮัมเพลงไปด้วย

    เจด้ารีบเดินไปดู ดอกดาวเรืองและดอกทานตะวันที่เธอปลูกไว้กับเด็กเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ก่อนเธอจะเดินทางไปเข้าครอสเรียน 6 วัน  ที่เมืองย่านา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองซิกทูน่า 97 กิโลเมตร พอเธอกลับมา เธอก็รีบไปดูว่าดอกไม้ที่ปลูดไว้ ยังอยู่ไหม

    เจด้าเขย่งเท้าขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปเอากุญแจที่เปิดปั้มนำ้ลงมาจากที่ห้อยข้างกำแพง เพราะเธอเป็นคนตัวเล็ก ส่วนสูงไม่ถึง150 เซนติเมตรด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนที่คล่องแคล่วว่องไว เธอจึงทำด้วยความเร็ดเร็วกระฉับกระเฉง 

     เธอเปิดนำ้เต็มแรงอัดฉีด เพราะเธอต้องการแรงดันนำ้ที่สามารถฉีดนำ้ไปได้ในระยะที่ไกลๆ ตามที่เธอต้องการ เพราะเธอตั้งใจที่จะรดนำ้ให้เพื่อนร่วมงานที่ลาไปพักร้อนก่อนหน้าเธอด้วย 

    เธอใช้เวลารถน้ำอย่างมีความสุข คนเดียว และยืนจับสายยางและฟังเสียงนำ้ที่ผ่านแรงดันจากสายยาง เสียงดังซ่าๆๆๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย และมีความสุขมากเหมือนได้อยู่ใต้นำ้ตกเขาชะเมาเลย 

    ในขณะเดียวกันเธอก็เริ่มสนาทนากันดอกไม้ที่เธอปลูกไว้ ฟังดูเหมือนคนบ้าน่ะเพราะคนอะไรพูดกับดอกไม้ ได้เป็นวรรคเป็นเวร 

       แม่ดีใจน่ะที่พวกเธอรอดมาได้และกำลังเติบโตขึ้นทุกวัน ( เธอเรียกตัวเองว่าแม่กับดอกไม้) แม่ก็นึกว่าพวกหอยทากมากัดมาทำร้ายพวกเธอแล้วเสียอีก แม่เองก็คิดเป็นห่วงพวกเธอตลอด แต่พวกเธอก็เก่งน่ะ ที่สามารถเอาตัวรอดมาได้

    นี่กินเยอะๆน่ะ แม่เอานำ้มาให้ดื่ม เพราะช่วงนี้ฝนไม่ตกเลย

    เจด้าพูดไปรดนำ้ไป ด้วยหัวใจที่มีความสุขอย่างเปี่ยมล้น เธอรู้สึกได้ว่าดอกไม้มันตอบกลับเหมือนราวกับว่าเป็นการสนทนาที่มีตอบโต้และมีความรู้สึกผ่านการเคลื่อนไหวของดอกไม้ตามกระแสนำ้จากสายยาง ไหวติ่งไปมา 

    พวกหนูสัญญาค่ะว่าหนูจะเติบโตแข็งแรงให้แม่เห็น และเราจะเจอกันอีกน่ะค่ะ หนูรอแม่กลับมาจากพักร้อนน่ะค่ะ

      พอเจด้าได้ยินคำพูดของลูกๆของพวกเธอ มันทำให้หัวใจของเธอพองโตเหมือนลูกโป่งสวรรค์หลากหลายสีที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความสวยงาม คัลเลอร์ฟูมากๆเลย

     แม่สัญญาแม่จะพยายามมาให้อาหารหนูทุกวันก่อนที่แม่จะลาพักร้อนน่ะค่ะ

     เด็กๆดีใจ กระโดดโลดเต้นไปมา ตามกระแสสายนำ้ที่ไหลฉีดผ่านสายยางไปรดดอกดาวเรืองและดอกทานตะวัน เย้ๆๆๆๆๆ

    เจด้าชอบพูดคุยกับต้นไม้และดอกไม้เป็นประจำ เพราะเธอชอบปลูกต้นไม้และดอกไม้ เธอรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้คุยหรือสนทนากับสิ่งที่เธอปลูก เพราะเธอรู้สึกได้ว่า ธรรมชาติเป็นสิ่งมีชีวิต

    เด็กๆนักเรียนพักผ่อนนกลางวันเสร็จก็พากันลงมาจากชั้นสอง

    เด็กๆนอนหลับบ้างไหม อากาศร้อนแบบนี้ เจด้าตั้งคำถามกับเลน่า

     บางคนนอนแต่บางคนแค่พักผ่อน เลน่าตอบคำถามพลางก้มกวาดสายตามองหารองเท้าที่ถอดไว้ก่อนขึ้นชั้นสอง

    เออ…. แล้วน้องแซมล่ะนอนหลับไหม? เพราะช่วงเช้าน้องแซมดูเหนื่อยมาก

     โอ้! น้องแซมนี่หลับตั้งแต่นาทีแรกเลยแหละ เพราะวันนี้แดดแรงมากเลย สงสัยคงเหนื่อยแหละ เลน่าตอบพลางสวมรองเท้าที่หาเจอพอดี

    น้องแซมอายุ เพิ่งสองขวบ ตัวเล็กๆ แต่พูดจารู้เรื่องทุกคำ กินข้าวเองได้โดยไม่ต้องป้อน

    ดีจังเลย ที่น้องแซมนอนพัก เพราะเด็กวัยนี่กำลังกินกำลังนอน ต้องพักผ่อนให้เต็มที่จะได้มีแรงเล่นต่อ จนกว่าผู้ปกครองจะมารับกลับบ้าน เจด้าพูดพลางชงกาแฟดื่มตอนพักเที่ยง

    หลังตื่นนอนช่วงกลางเด็กจะพักผ่อน กับการวาดรูปหรือก็ต่อจิ๊กซอ หรือทำกิจกรรมเล็กๆน้อยๆก่อนทานอาหารว่าง

    เสียงกระดิ่งดังขึ้น เด็กๆนักเรียนรู้ว่า นี่คือสัญญาณของการทำความสะอาดเก็บของก่อนทานอาหารว่าง  เด็กๆจะรู้หน้าที่ทุกคน และรับผิดชอบต่อของเล่น คือเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย และเข้าห้องน้ำทำธุระให้เสร็จก่อนออกไปข้างนอก

     เด็กๆค่ะ คุณครูขอให้ทุกคนทาครีมกันแดดก่อนออกข้างนอกน่ะค่ะ เพราะวันนี้แดดแรงมาก ถ้าคนไหนทาครีมกันแดดเองไม่ได้ ครูขอให้หนูถือครีมมายืนเข้าแถวรอหน้าห้องนำ้น่ะค่ะเดี๋ยวคุณครูจะไปทาให้ทีล่ะคนน่ะค่ะ เจด้าส่งสัญญาณบอกเด็กๆนักเรียน

    เด็กๆไปหยิบครีมกันแดดที่ชั้นวางของ แล้วมายืนเข้าแถวรอครูให้มาช่วยทาครีม

    เจด้าพูดกับเด็กชายคอนสแตนตินว่า ครูเห็นหนูลืมครีมกันแดดไว้ที่หน้าประตูห้องเรียน หนูไปเอามาน่ะลูก เดี๋ยวครูช่วยทาให้ เด็กชาย คอนสแตนติน มองหน้าครูด้วยสายตาที่มุ่งมั่นและตอบเสียงดังว่า ครับครู !!! แล้ววิ่งด้วยความเร็วไปเอาครีมกันแดดมาเข้าแถวรอหน้าห้องนำ้กับเพื่อนๆ

    เด็กหญิง สมายา ได้ สอบถามคุณครูเพื่อความแน่ใจ ก่อนออกไปที่สนาม คุณครูค่ะ จะให้พวกหนูไปรอที่สนานไหนค่ะ? 

    เจด้าหันไปถามกาต้าร์เพื่อความแน่ใจด้วยเหมือนกัน 

    กาต้าร์ คุณมีความเห็นไหม จะ ให้เด็กๆไปรอที่สนามไหนดี?

    ไป รอที่สนาม A  เลย กาต้าร์ตอบพลางช่วยน้องแซมเปลี่ยนเสื้อผ้า

    แง่ ๆฮือๆ ……..???? เสียงเด็กร้องไห้ตามมาทันทีที่สิ้นเสียงกาต้าร์พูด

    ครูทั้ง3 คน หันควับไปตามเสียงร้องไห้ 

    ใครร้องไห้ เลน่าถามพลางทาครีมกันแดดให้เด็กหญิง ทีร่า 

    ซานเดอร์ร้องไห้ค่ะครู เด็กหญิง สมายา ตอบ

    ร้องไห้ทำไมครับ เลน่าถาม ซานเดอร์

    แง่ๆๆๆ  ฮือๆๆๆๆๆ ซานเดอร์ร้องไห้ไปพูดไป ฟังไม่ได้ศัพท์อะไรเลย

    เจด้าเดินมาหาซานเดอร์แล้ว แล้วมองเข้าไปที่ดวงตาของซานเดอร์ ซึ่งมันบ่งบอกถึงความจริงใจที่ครูพร้อมที่จะรับฟัง

    เจด้าอธิบายให้ซานเดอร์ฟัง ว่าหยุดร้องไห้ก่อน แล้วค่อยๆพูด ครูจะได้ช่วยแก้ปัญหา ครูสาวยังอธิบายต่ออีกว่า 

    ถ้าซานเดอร์ร้องไห้ไปพูดไป จะไม่มีใครสามารถเข้าใจและช่วยซานเดอร์ได้

    เด็กชายซานเดอร์ปาดนำ้ตาและมองตาครูพลางกลั้นนำ้ตาเพื่อไม่ให้มันไหลออกมา และพยายามรวบรวบ คำพูด  อธิบายเหตุผลให้ครูฟัง

    ผมไม่อยากไปเล่นที่สนาม A แต่ผมอยากไปเล่นที่สนาม B คับ ฮือๆๆๆๆ!!! พอพูดเสร็จนำ้ตาก็ไหลพรากอาบแก้มใสๆ เยอะกว่าเดิม ฮือๆๆๆๆๆๆ!!!!

    โถ่!!!! ครูทั้ง3 อุทานพร้อมกัน!!!!

    นึกว่าโดนแมลงสัตว์กัดต่อย ยิ่งช่วงน่าร้อนนี้ มีผึ้งมีแมลงเยอะแยะมาก เลน่าเปล่งเสียงพูดออกมาด้วยความเอ็นดู

    ได้สิครับ หนูไม่ต้องร้องไห้ เจด้าตอบซานเดอร์

    เจด้าเลยถือโอกาสอธิบายให้เด็กชายซานเดอร์เข้าใจว่า การที่ร้องไห้ไปพูดไป ทำให้ครูไม่สามารถเข้าใจคำพูดของหนูได้ และครูก็ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้เลย หนูทำดีมากน่ะครับที่รวบรวมความกล้าหาญและความอดทนกลั้นนำ้ตา ให้มันหยุดไหลก่อน จึงอธิบายเหตุผลให้ครูฟัง ครูก็ช่วยแก้ไขปัญหากับหนูได้ ทำดีแบบนี้อีกน่ะครับ

    เด็กชายซานเดอร์ปาดน้ำตาด้วยแขนเสื้อไปมา พร้อมพยักหน้าด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนวิ่งไปเล่นที่สนาม B

    เจด้าอุ้มน้องแซม ตามเด็กๆไปที่สนาม B และเดินผ่านดอกไม้ที่เจด้าเพิ่งรดเมื่อตอนพักเที่ยง

    เอ๊ะ! ทำไมดอกไม้มันดูแปลกๆ มีจุดๆสีขาวเล็กเต็มไปหมด ตั้งแต่กระถางต้นไม้ ลำต้นไม้ ใบไม้และดอกไม้ เจด้าแค่สงสัย พลางอุ้มน้องแซมผ่านไป สักพักหนึ่ง !!! 

    อุ้มน้องแซมกลับมาดูเพื่อความแน่ใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น หรือว่าต้นไม้และดอกไม้จะเกิดโรค หรือไม่ก็มีแมลงมาไข่บนดอกไม้และต้นไม้ เจด้าคิดในใจ

    ครูสาวจำได้ว่ารดนำ้ผ่านมาแค่หนึ่งชั่วโมงเองไม่น่าจะเกิดโรคอะไรได้น่ะ! เจด้าพยายามคิดหาเหตุผลมาหักล้างและหาสาเหตุ

    ทันไดนั้น!!!! ภาพของเด็กชายคอนสแตนตินก็พุดขึ้นมาในหัวตอนที่เจด้าบอกให้คอนสแตนตินไปเอาครีมกันแดดที่อยู่หน้าประตูมา ครูจะช่วยทาครีมกันแดดให้!!! ครีมกันแดดตั้งอยู่ใกล้ๆกับต้นไม้และดอกไม้ นั่นเอง!!

     โอ้ย!!! นาทีนั้น ไม้เรียวในมือสั่นระริกๆๆๆ พยายามระงับไม้เรียวในใจเอาไว้ แล้วท่องยุบหน๋อ!!! พองหน๋อ!!!นับ1ถึง3…….

     คอน….ส..แตน..ติน!!!!!!มาที่นี่เดี่ยวนี้!!!

     เด็กชายคอนสแตนตินเล่นอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจ ไม่รู้ว่ทเกิดอะไรขึ้น ครูเรียกเท่าก็ไม่ไดยิน ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

    ไม้เรียวในใจสั่นครั่งที่2 ริกๆๆๆๆๆๆๆ คอน…ส…แตน ตินนนนนนนนน!!!!

     เรียกยังไงก็ไม่ได้ยินเพราะมัวสาระวนอยู่กับการวิ่งเล่น จนเจด้า ต้องขอให้ซานเดอร์เรียกคอนสแตตินมาให้ครูคุยกับครู

    เจด้าตั้งคำถามทันทีเมื่อคอนสแตนตินมาถึง

    มันเกิดอะไรขึ้นครับ ช่วยอธิบายให้ครูฟังหน่อย ว่าทำไม้ต้นไม้และดอกไม้ถึงเกิดจุดสีขาวเล็กๆๆแบบนี้!!

    เด็กชายคอนสแตนตินมองหน้าครู สลับกับมองกระถางต้นไม้ กลับไปกลับมาอยู่สักพักหนึ่ง แล้วสายตาก็มาหยุดจ้องที่ครูเจด้า โดยที่ไม่กล้าล่ะสายตาไปไหน ริมฝีปากปิดเงียบสนิทเหมือนอมขนมไว้ในปาก

    ครูถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมครีมทาแดดหนูไปอยู่บนต้นไม้และดอกไม้เยอะแยะไปหมด!!

    สายตานิ่งดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความกลัว ความวิตกกังวล ของคอนสแตนตินที่จองมองมาที่ครูแบบไม่ล่ะสายตาและแทบจะลืมหายใจ และคงไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาตอบคำถามของครูเจด้าได้

    เงียบไว้ปลอดภัยที่สุด คอนสแตนตินคิดในใจ 

    เด็กชายรู้ตัวเองดีว่าที่ทำไปเพราะความอยากรู้อยากเห็น อยากทดลองฉีดสเปย์ มันมันส์มือดี และอยากทดลองทาครีมกันแดดให้ต้นไม้ 

    ทำไงดีผมไม่กล้าตอบครู เพราะดูจากสายตาของครูแล้ว เห็นทะลุไปถึงไม้เรียวในมือสั่นริกๆๆๆ ในใจของครูเลย ไม่เอาดีกว่าไม่พูด!!!!

     คอนสแตนตินเลือกที่จะไม่ตอบคำถาม ได้แต่นั่งจองตาครูด้วยสายตาที่วิตกกังวลและดวงตาเริ่มแดงนำ้ใสๆเริ่มรินไหลออกมาผ่านดวงตาคู่นั้น


    ไม่ต้องร้อง…….พูดเสร็จครูเจด้าก็หน้าหนีเพราะอดที่จะขำไม่ได้

     หายใจเข้า หายใจออก ยุบหน๋อ … พองหน๋อ…..และนับ1ถึง3…..


    หนูทำความสะอาดต้นไม้และดอกไม้ให้เรียบร้อย แล้วเดี่ยวเราค่อยมาคุยกันใหม่อีกรอบน่ะครับ

     โอ้! โล่งอกไปที ที่ครูไม่ซักถามต่อ คอนสแตนตินแสดงสีหน้าผ่อนคลายแล้วรีบไปหากระดาษทิชชู่มาเช็ด แต่เช็ดยังไงก็ไม่ออก

    เดี่ยวครูช่วยล้างพลางลากสายยางมาเพื่อฉีดล้าง   คอนสแตนตินก็ฉวยโอกาศนั้นวิ่งหนีทันที ที่ครูเจด้าหันลังให้

    เรื่องอะไรจะอยู่ให้ครูดุล่ะครับ หนีก่อนน่ะครับครู วิ่งหางจุกตูดเลย…..


     พอครูเจด้าล้างเสร็จ ก็เรียกคอนสแตนตินมาคุยอีก อย่าคิดว่าจะรอดไปได้ เรื่องนี้ต้องเคลียร์!!!!


     ไหนบอกครูว่าสิว่าหนูคิดอะไรถึงเอาครีมทาแแดดไปทาต้นไม้เยอะแยะมากมายขนาดนั้น


     เงียบกริบ! !!

    ไม่มีคำตอบไดๆออกจากของคอนสแตนตินเลย เอาแต่จองมองตาครูไม่กระพริบ แล้วน้ำใสๆก็เริ่มไหลรินอาบลงมาที่แก้มแดงๆของเด็กชาย อีกรอบ

     ไม่ต้องร้องไห้ครับ เอาอยากนี้เรามาปรับความเข้าใจกันไหมน่ะ ครูไม่ดุล่ะไม่ต้องกลัวน่ะ เราเป็นเพื่อนกันล่ะ ไหนลองเล่ามาสิค่ะ นึกอย่างไรถึงเอาสเปย์ครีมกันแดดไปฉีดใส่ต้นไม้แบบนั้น

    คอนสแตนตินไม่ยอมตอบเอาแต่จ้องหน้าครูแบบไม่กระพริบตา จนตาเริ่มแดงและนำ้ใสๆเริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตาเป็นรอบที่3

    ครูบอกแล้วไงไม่ต้องร้อง เราแค่คุยกันเฉยๆ ไม่เป็นไรน่ะ ครูไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกมาว่าทำไมเธอถึงฉีดครีมกันแดดใส่ต้นไม้ หนูคิดอะไรอยู่


    คอนสแตนตินจองตาครูและครุ่นคิดอยู่นาน และไม่ตอบอะไร จนสุดท้ายพูดออกมาว่า ผมลืมครับ! ผมลืมว่าทำไม ผมถึงทำแบบนั้นลงไป ผมจำไมได้คัรบ!

     สุดท้ายครูก็ต้องอธิบายให้ฟังว่า ต้นไม้ดอกไม้เขาไม่ชอบครีมกันแดดเหมือนพวกเรา เขาไม่จำเป็นต้องทาครีม เขาชอบแสงแดด เพราะแสงอาทิตย์ทำให้เขาเจริญเติบโต และสามารถออกดอก ออกผลได้เป็นอย่างดีเลยที่เดียว

    ครีมทาแดดมันอันตรายต่อธรรมชาติ อาจทำให้ต้นไม้หรือดอกไม้ตายได้ ครูหวังว่าคราวหน้าหนูจะไม่ทำอีกน่ะครับ

    ครับครู!! เสียงดังฟังชัดเชียวน่ะ ครูเจด้าคิดในใจ กับไม้เรียวที่ลดประมาณการสั่นลง 

    ครูครับ ผมไปเล่นได้ยังครับ?

    ไปเล่นเลยลูก เล่นให้สนุกไม่ซุกซนน่ะครับ!!

    เรื่องวุ่นๆของเด็กชายคอนสแตนก็จบเพียงเท่าของวันนี้ พรุ่งนี้ จะมีวีรกรรมอะไรอีก คอยดูกันต่อไป

    เจด้ากลับมาถึงบ้านเล่าให้ที่บ้านฟัง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งวัน ลูกสาวก็พูดว่า

     มันก็ไม่น่าแปลกน่ะค่ะ ที่คอนสแตนตินจะทำแบบนั้น เพราะมันเป็นสเปย์ เมื่อเด็กๆเห็นสเปย์ก็จับฉีดทดลองไปเรื่อยๆเพราะความอยากรู้อยากเห็น เป็นธรรมดาน่ะค่ะ

    เพราะความอยากรู้ อยากเห็น เลยเกิดการอยากทดลองของเด็กชายคอนสแตนติน ฉีดสเปย์ครีมกันแดด ใส่กระถางต้นไม้ ลำต้นไม้ ใบไม้ ลามไปถึงดอกไม้  ถามว่าคอนสแตนตินทำผิดไหม ?

    ใครมีคำตอบบ้าง?

     

     

     


     

     

     


     


     


     


     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×