ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jenlisa เกลียดก็จริง แต่ยัยหน้าหยิ่งนี่น่ะของฉัน (END)

    ลำดับตอนที่ #32 : พร่ามัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.67K
      115
      19 ต.ค. 61







    สาวร่างสูงประคับประคองคนข้างๆมาจนถึงหอจนได้อย่างยากลำบาก ใบหน้าสวยของคนที่เกาะแขนเธอเดินดูไร้สติสัมปชัญญะหลงเหลือ ท้องฟ้าที่มืดสนิทไปตั้งนานแล้วทำให้สาวนักเต้นปีหนึ่งต้องเพ่งตาดูทางเผื่ออีกคนหนึ่งด้วยเพราะพื้นหินกรวดของลานจอดรถบางทีก็ชอบมีวัตถุแปลกปลอมที่แม้แต่รถเหยียบยังเสียหายได้



    นิ้วเรียวที่โผล่พ้นเสื้อตัวนอกแขนยาวเอื้อมไปกดชั้นที่ไม่ใช่ของตัวเองอย่างยากลำบากหลังจากที่พาอีกคนเข้าลิฟต์มาด้วยกัน ทำไมน่ะเหรอ? ก็รุ่นพี่หน้าหมวยที่ใบหน้าแดงก่ำเอาน้ำหนักตัวทั้งหมดของตัวเองมากดเธอไว้กับผนังลิฟต์ข้างหลังสุดน่ะสิ



    ลิซ่าเหลือบตาขึ้นมองเพดานลิฟต์ที่เป็นกระจกแล้วก็สบตากับเงาของตัวเองที่ดูเหมือนเงยหน้ามองมาจากด้านบน แต่ภาพที่เห็นจากเงากลับเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเบือนหน้าหนีไปมองตัวเลขบอกชั้นในลิฟต์แทนเพราะเพียงลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ที่ลำคอของสาวร่างโปร่งอย่างเดียวก็ทำให้เธอทำเป็นไม่สนใจร่างเล็กตรงหน้าได้ยากพอแล้ว



    'นี่เห็นว่าเมาหรอกนะ...'



    วืด



    ประตูลิฟต์ทั้งสองข้างที่เปิดออกทำให้ลิซ่าที่โดนยันอยู่ต้องรีบดันอีกคนออกไปพร้อมๆกันก่อนที่มันจะปิดหนีบใครสักคน เธอกึ่งแบกกึ่งผลักรุ่นพี่ที่มีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาพักไว้หน้าลิฟต์ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความเหนื่อย แล้วสาวร่างโปร่งก็ใช้มือประคองอีกคนเข้าไปในห้องของเจ้าตัวจนได้โดยที่ล้วงหากุญแจในกระเป๋ากางเกงของอีกคนอยู่สักพักที่หน้าประตูห้องก่อนจะเปิดเข้าไป



    แกร๊ก



    ฟึ่บ



    แขนยาววางร่างอุ่นๆของรุ่นพี่หน้าหมวยลงบนเตียงอย่างเบามือ ลิซ่ายกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผากอย่างอ่อนแรงพลางมองอีกคนที่ยังลืมตาอยู่ เจนนี่มองไปตรงหน้าอย่างเลื่อนลอยแล้วจู่ๆนัยน์ตาสีดำสนิทที่สะท้อนมาจากความมืดสลัวของห้องก็เลื่อนมาจับจ้องที่เธอนิ่ง



    สภาพของคนหน้าหมวยในตอนนี้ถ้าตกไปอยู่กับมือคนอื่นจะต้องไม่ดีแน่ ระดับนี้เรียกว่าโดนพิษแอลกอฮอล์จนไม่มีสติไปแล้ว เสื้อยืดสีขาวตัวบางโอบเรือนร่างที่มีทรงองค์เอวได้อย่างน่ามอง กางเกงขาสั้นที่ดูจะสั้นเกินไปก็โชว์ต้นขาขาวที่นานๆครั้งถึงจะได้เห็นจากเจนนี่ แต่นั่นยังไม่นับใบหน้าที่แดงก่ำกับดวงตาเฉี่ยวที่เปิดตาเพียงครึ่งเดียวดูเย้ายวน ไม่ว่าจะเป็นใครมาเห็นบุคคลล้ำค่าที่กำลังนอนอยู่บนเตียงในสภาพเชื้อเชิญและไร้ทางสู้แบบนี้ล่ะก็...



    เรียกได้ว่าจะต้องเสร็จไปแล้ว



    ดีนะที่ตัวเธอในตอนนี้ไม่ได้เมาไปด้วยและสติยังเต็มร้อยอยู่ สาวร่างโปร่งก้าวเข้าไปใกล้เจ้าของห้องที่นอนอยู่บนเตียงอีกนิดแล้วก็หยิบผ้าห่มขึ้นมาวางไว้บนอกของอีกคน ดวงตาคมดั่งแมวป่ายังคงจับจ้องเธออยู่ทุกขณะที่ลิซ่าขยับตัว การจ้องมองของเจนนี่เป็นเหมือนกาวเหนียวที่ติดแน่นอยู่กับทุกย่างก้าวและการกระทำของสาวร่างโปร่งโดยที่ไม่ละสายตาออกไปแม้แต่วินาทีเดียว



    ตึกตัก ตึกตัก



    เมื่อถูกสายตาที่เปิดเปลือกตาเพียงครึ่งเดียวของรุ่นพี่หน้าหมวยจ้องมองมาอย่างไม่กะพริบ หัวใจบ้าๆของลิซ่าที่อุตส่าห์พยายามประคับประคองและสร้างกำแพงป้องกันอุบัติเหตุก็เผลอเต้นแรงไปเองอย่างน่าหงุดหงิด



    ลิซ่าพยายามหยุดตัวเองไม่ให้คิดหรือแม้แต่พยายามทำอะไร แต่รู้ตัวอีกทีเธอก็กำลังโน้มหน้าเข้าไปใกล้สายตาเฉี่ยวที่กำลังจับจ้องมาแล้ว 



    ไม่ทันรู้ตัวเจ้าของร่างสูงก็ปรับองศาหน้าเล็กน้อยให้เอียงพอดีมุมกับปากรูปสวยของอีกคนอย่างอัตโนมัติ ระยะห่างที่มีเพียงน้อยนิดของเธอกับรุ่นพี่ดาวคณะทำเอาสาวร่างโปร่งหยุดตัวเองไม่ได้ 



    จังหวะนี้เธอคงต้องทำในสิ่งที่รู้ว่าไม่ควรจะทำ เหตุผลก็มีเพียงอย่างเดียวคือก้อนเนื้อในอกที่กำลังเปิดแผลให้กับตัวเองอีกครั้ง เจ็บเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักจำ...พอถึงเวลาทีไรเธอก็ต้องยอมแพ้ให้กับเจนนี่ทุกครั้ง



    'ฉันขอทำตามใจตัวเองสักครั้งเถอะ!'



    ริมฝีปากอ่อนนุ่มที่กำลังรอคอยจะได้สัมผัส ไม่มีอะไรจะหยุดเธอให้เข้าไปปิดช่องว่างระหว่างเธอกับรุ่นพี่ดาวคณะอีก



    ...



    ถ้าไม่ใช่ประโยคเฉือนจิตใจของเจ้าตัวซะเอง



    "ออกไปซักที"



    "..."



    ใบหน้าที่กำลังโน้มเข้าไปใกล้ต้องชะงักค้างอยู่ตรงนั้นโดยที่ห่างกันไม่ถึงคืบ คนที่นอนอยู่ไม่มีทางรู้เลยว่าประโยคที่ตัวเองพูดไปนั้นได้เข้าไปหักชิ้นส่วนสุดท้ายที่แหลกเหลวในหัวใจของอีกคนอย่างรุนแรง



    แต่คนที่กำลังเมาไม่ได้สติก็กล่าวออกมาต่อ



    "บังอาจจริงๆ"



    'อึก'



    รู้สึกเหมือนอยากจะถอยออกมาแต่ก็ทำไม่ได้... ร่างกายของสาวร่างโปร่งแข็งเป็นหินไม่สามารถขยับไปไหนได้ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาของเจนนี่ดูเยือกเย็นเสียจนคนที่ยังไม่ทันเก็บชิ้นส่วนของใจตัวเองขึ้นมารู้สึกเหมือนหัวใจโดนเหยียบย่ำเข้าไปในพื้นดินให้มันลึกกว่าเดิม สิ่งที่ได้ยินทำเอาคนที่ฟังแทบจะยืนไม่อยู่... แต่ลิซ่าก็ไม่รู้เลยว่าคนที่สายตาดูไร้วิญญาณนั้นจะกล่าวประโยคที่ไร้ความปราณีออกมาอีกหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงเนิบๆและสายตาที่ดูหงุดหงิด



    "เธอน่ะน่ารำคาญเป็นบ้า"



    "..."  



    'ว่ายังไงนะ?'



    ถึงแม้จะพยายามเก็บอารมณ์ขนาดไหนแต่สาวร่างโปร่งก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกแล้ว จิตใจที่แย่อยู่แล้วก็ถูกบั่นทอนเข้าไปอีกจนแทบไม่เหลืออะไรให้รู้สึกอีกต่อไป เธอถอยออกมาแต่หูก็ยังไม่วายได้ยินอีกประโยคที่เหมือนกับพูดออกมาด้วยความเบื่อหน่าย



    "รู้รึเปล่าว่าถ้าเป็นคนอื่นน่ะฉันไล่ออกไปนานแล้ว"



    "ยัยบ้าเอ๊ย"



    นั่นไง... มองเห็นรึเปล่า? หัวใจของเธอที่กำลังแตกสลายทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าตัวเองควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร... ทั้งๆที่ถอยไปอยู่หลังกำแพงนั่นก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ



    ลิซ่ากำมือแน่นเก็บกดความรู้สึกก่อนที่น้ำตาหยดแรกจะไหลลงอาบแก้มอย่างควบคุมไม่ได้ เธอไม่อยากร้องไห้ให้อีกคนเห็น...แต่ความเจ็บปวดมันก็มากเกินทนจนตัวสั่น ความรู้สึกที่มีทั้งหมดมันแหลกสลาย มันเป็นเหมือนบทสรุปให้เธอทั้งหมดว่าความหวังเล็กๆที่เคยมีมานั้นมันผิดทั้งหมด อีกคนไม่เคยชอบเธอมาตั้งแต่แรกแล้วตอนนี้เธอก็เป็นเหมือนเพียงเศษขยะที่มาขวางทางและเอาตัวเข้ามายุ่งเองโดยที่อีกคนไม่ได้ขอ



    เข้าใจแล้ว...



    'คราวนี้ฉันเข้าใจแล้ว'



    ...



    เจ็บ... เจ็บจริงๆ



    นั่นสินะ



    'กำแพงคงไม่ต้องมีอีกแล้ว เพราะถ้าขนาดนี้ฉันจะเป็นคนตัดสินใจเดินออกไปเอง'



    ฟึ่บ



    มือเรียวปาดน้ำตาตัวเองอย่างลวกๆแล้วข้อเท้าที่เพิ่งเต้นมาอย่างหนักก็พลิกกลับหลังหันอย่างสมบูรณ์ ร่างสูงหมุนตัวหันหลังให้กับร่างบนเตียงอย่างรวดเร็ว ตาก็มองตรงไปยังประตูห้อง 



    ประตูนี้จะเป็นเหมือนสิ่งสุดท้ายที่เป็นสัญลักษณ์ว่าเมื่อออกไปแล้วเธอจะไม่เข้ามายุ่งกับอีกคนอีก



    'ก้าวออกไปครั้งนี้จะไม่ก้าวกลับเข้ามา... จำเอาไว้ให้ดี'  ลิซ่าบอกกับตัวเองอย่างหนักแน่นด้วยใบหน้าที่อาบคราบน้ำตา



    อุตส่าห์ช่วยเอาไว้แท้ๆ... ฉันนี่มันโง่จริงๆ



    ดวงตากลมที่รื้นน้ำตาก้มลงมองพื้นด้วยความเจ็บใจ แต่ช่างมันเถอะ...กลับไปร้องไห้มากๆเหมือนคราวที่แล้วเดี๋ยวก็คงเกลียดอีกคนไปเอง ตอนแรกเธอก็เกลียดอยู่แล้ว...ทำให้เป็นแบบเก่าก็ไม่น่าจะยากหรอก



    แต่คนที่กำลังบอกกับตัวเองในใจก็คือคนที่เพิ่งจะแอบเช็คว่าสภาพอีกคนโอเคในเสี้ยววินาทีที่ตัวเองกำลังจะละสายตาและหมุนตัวออกจากเตียงที่อยู่ตรงหน้า



    ก็เพราะส่วนลึกในใจของสาวร่างโปร่งยังคงกรีดร้องอ้อนวอนขอให้ร่างกายทำตามเสียงที่มาจากข้างในโดยไม่ขัดขืน



    อย่างสุดท้ายแล้วจริงๆ



    'ขอให้ได้มองใบหน้าหมวยเป็นครั้งสุดท้ายในฐานะคนที่แอบชอบด้วยเถอะ'















    ป.ล.ตอนนี้ตัดสั้นเพราะตอนต่อไปจะมาจากมุมของเจนนี่บ้างจ้า


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×