ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jenlisa เกลียดก็จริง แต่ยัยหน้าหยิ่งนี่น่ะของฉัน (END)

    ลำดับตอนที่ #17 : หน้าประตู

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.68K
      104
      20 มิ.ย. 63







    ผ่านมาแล้วหนึ่งวันเต็ม...


    กับการที่ฉันไม่ได้เห็นใบหน้าของคนชอบชวนทะเลาะที่อยู่ชั้น 9 


    สายตาของฉันไล่เกาะเพดานห้องสีขาวของตัวเองไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย สมองก็ค่อยๆปรับสภาพให้ตัวเองตื่นนอนเต็มที่

    เมื่อวานทั้งวันฉันขืนใจตัวเองโดยการไม่ขึ้นไปหาพี่เจนนี่ที่ห้องตามที่บอกเอาไว้ ทั้งวันกลายเป็นการทรมานจิตใจตัวเองด้วยการหมกตัวอยู่ในห้องแล้วก็พยายามทำนู่นทำนี่เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่มันก็ไม่ได้ผลสักนิดเมื่อความรู้สึกบีบคั้นในใจมันมากขึ้นเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวินาที


    แต่ในที่สุดฉันก็อดกลั้นจนผ่านมาถึงวันนี้ได้อย่างสะบักสะบอม ทั้งนี้ทั้งนั้นใบหน้าของนางก็ยังคงอยู่ในหัวฉันไม่ยอมไปไหน


    'วันอาทิตย์แล้วสินะ' ฉันเหลือบไปมองนาฬิกาบนกำแพงแล้วก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า ไอแชงน่าจะตื่นแล้วล่ะ... 


    ฉันเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเตียงแล้วก็ปิดโหมดเครื่องบินที่เปิดทุกคืนก่อนนอนเนื่องจากไม่อยากให้มีอะไรมารบกวนและมีคนเคยบอกว่าสัญญาณโทรศัพท์ไม่ดีต่อสมองถ้าอยู่ใกล้ๆหัว(- -") ทันทีที่อินเตอร์เน็ตกลับเข้ามาในเครื่องข้อความนับสิบก็เด้งขึ้นมาทันที


    แชยอง: ลิซตื่นยังวะ วันนี้ฉันออกไปข้างนอกนะ

    แชยอง: เช้าเข้ามอ บ่ายไปหาพี่จีซู

    แชยอง: ละตกลงพี่พร้อมว่าไง?


    ฉันอ่านที่เพื่อนสนิทพิมพ์ทิ้งไว้ตั้งแต่เช้าแล้วก็ต้องรีบเลื่อนลงไปดูข้อความของรุ่นพี่ปีสามที่คุยกันเมื่อคื่นทันที


    พี่พร้อม: ตกลงน้องเจนนี่มาเป็นแทนแล้วนะ เนี่ยพี่คุยเรียบร้อยละ เราไม่ต้องมาซ้อมวันจันทร์แล้วนะ

    พี่พร้อม: นอนไปแล้วเหรอ?


    'เจนนี่'


    ตึกตัก...


    บ้าจริง!! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!


    ฉันรีบพิมพ์ตอบกลับรุ่นพี่ไปทันที ใจก็นึกเกลียดตัวเองที่พอแค่เห็นชื่อของคนแก้มเยอะคนนั้นแล้วก็จะต้องใจเต้นแรงด้วย


    นี่ฉันเป็นบ้าอะไร...


    ลิซ่า: โอเคค่ะ ขอบคุณค่ะพี่พร้อม


    เท่านี้ก็เรียบร้อย ลาก่อน...ตำแหน่งดรัมเมเยอร์


    เมื่อตอบพี่พร้อมเสร็จฉันก็มาตอบเพื่อนบ้าง อ่านข้อความมันอีกรอบก็ต้องกลอกตาให้เพื่อนสนิทหนึ่งที


    'ติดพี่จีซูจังนะ เสาร์อาทิตย์ยังไม่เว้น!'  ฉํนคิดในใจแล้วก็พิมพ์ตอบเพื่อนสนิทไปตามที่คิด


    ลิซ่า: รำคาญเว่อ... ได้ข่าวว่าเมื่อวานก็เพิ่งไปด้วยกันมาไม่ใช่เหรอจ๊ะ


    พิมพ์เสร็จฉันก็ส่งสติ๊กเกอร์เหน็บแนมเพื่อนไปรัวๆ หึ... อย่าให้ฉันมีบ้างเถอะ จะหมกไว้ในห้องทั้งวันทั้งคืนไม่ให้ออกไปเรียนเลย-_-


    ลิซ่า: พี่พร้อมบอกว่าโอเค พี่เจนนี่รายงานตัวเรียบร้อย ฉันไม่ต้องไปเป็นละ

    ลิซ่า: เข้ามอทำไรวะ?


    ฉันพิมพ์ทิ้งไว้ตามเคย แล้วก็โยนมือถือไว้บนเตียงก่อนที่จะลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่


    ทำยังไงความรู้สึกหน่วงๆในอกก็ยังคงดื้อดึงไม่ไปไหน เมื่อวานทั้งวันฉันขืนใจตัวเองไม่ให้ไปคิดถึงมันแต่ทุกย่างก้าวก็กลับรู้สึกได้ถึงสิ่งที่สุมอยู่ในร่างเหมือนกับกองไฟที่กำลังเผาไหม้ตัวเองอย่างปิดบังไม่มิด


    ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มาจากไหน... มาจากใคร แต่เป็นเพราะถึงจะยังไงฉันก็ทำอะไรไม่ได้ต่างหาก เพราะงั้นทางที่ดีที่สุดก็คือพยายามไม่ไปสนใจแล้วเดี๋ยวฉันก็คงลืมๆมันไปเอง


    แต่ทำไม... ทำยังไงใบหน้านางแมวยั่วสวาทนั่นก็ยังคงมาหลอกหลอนฉันทั้งวันแม้แต่ในฝัน แถมเสียงหวานยังคงก้องอยู่ในหัวฉันแบบสะบัดไม่หลุดอีกด้วย


    'พรุ่งนี้เจอกัน'


    ไม่ๆๆๆๆๆ


    'น่ารักเหมือนกันนี่'


    ไม่!!!


    'ลิซ่า'



    "อ้ากกกกกกกก!!!!"  ฉันตะโกนออกมาเหมือนคนเสียสติเมื่อเสียงของคนในหัวไม่ยอมหยุดพูดสักที ทำไมฉันเป็นอย่างนี้เนี่ยยยยย หยุดคิดเรื่องยัยพี่นั่นเดี๋ยวนี้ =_________=


    อืม....


    เงาของตัวเองในกระจกห้องน้ำดูไม่จืดเลยสักนิด ผมก็ยุ่งหน้าตาก็ดูสติแตก มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้อีกมั้ย?


    ดิ๊งด่อง


    เฮือก!


    เสียงกริ่งที่อยู่ๆก็ดังขึ้นทำให้ฉันต้องสะดุ้งอย่างแรง แน่นอนว่าคนกดกริ่งไม่ใช่ไอแชงแน่ๆเพราะมันบอกเองว่าวันนี้ออกไปข้างนอก แถมถ้าเป็นมันก็ไม่กดกริ่งอยู่แล้วด้วย


    หรือว่า... อย่าบอกนะ...


    ฉันหมุนตัวออกจากห้องน้ำแล้วก็เดินเข้าหาประตูห้องอย่างกล้าๆกลัวๆ ความคิดที่กำลังจะอาบน้ำนั้นลืมมันไปหมดสิ้น ฉันค้อมตัวลงเล็กน้อยก่อนที่จะมองเข้าไปในตาแมวอย่างหวาดหวั่น


    ปริบๆ


    อย่านะ...ขอร้องอย่าเป็นคนที่ฉันคิดอยู่เลย ขอร้องๆๆๆๆ


    ฉันกัดฟันแน่นอย่างไม่มั่นใจในจังหวะที่ดวงตาของตัวเองกำลังจ่ออยู่ตรงหน้าวัตถุโปร่งใส่เล็กๆที่ติดอยู่กับประตู สิ่งที่เห็นคือร่างของคนหนึ่งคนที่ยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้านิ่งมองลงต่ำรอให้ฉันเปิดประตู


    'ไม่ใช่พี่เจนนี่!!! เฮ้อ... โล่งใจไป'


    ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนที่จะเปิดประตูออกทันที คนตรงหน้ามองขึ้นมาจากพื้นแล้วก็มองหน้าฉันสลับกับผ้าเช็ดตัวที่พาดบนไหล่ ผู้ที่มากดออดเป็นผู้หญิงร่างโปร่งในกางเกงขายาวสบายๆ สิ่งแรกที่เตะตาฉันก็คือเอวบางและรอยกล้ามท้องอันไร้ที่ติที่เผยออกมาจากเสื้อเอวสีดำสนิท แขนขาเรียวของคนตรงหน้าดูดีไม่น้อยในชุดกึ่งออกกำลังกาย ดูจากหน้าตาท่าทางแล้วคนนี้คงจะเป็นรุ่นพี่แหงๆ


    ดวงตาเฉี่ยวที่โดดเด่นมองมาที่ฉันที่ยังคงทำหน้างงๆใส่นาง แล้วคนหน้าหมวยก็ยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตรทันที


    "น้องลิซ่าใช่มั้ย?"  อ้าว... ยิ้มทีเดียวหน้าเปลี่ยนเลยแฮะคนคนนี้ ตอนแรกทำหน้านิ่งๆนี่หน้าดุจนฉันแอบหวั่นเลยว่าจะมาไม่ดีรึเปล่า แต่พอนางยิ้มแล้วกลับเหมือนหมีใจดีซะงั้น


    "ค่ะ"  ฉันตอบอย่างยิ้มน้อยๆ ดูท่าทางจะมาดีแฮะ แถมยังเป็นรุ่นพี่จริงๆด้วย


    "คือ... เพื่อนพี่จะมีโชว์ร้องเพลงในวันปิดสายรหัสของปีนี้น่ะ แล้วเค้าได้ยินมาว่าน้องเต้นเก่ง ก็เลยอยากจะมาชวนให้ไปแสดงร่วมกับเค้า สนใจไหม?"  คุณหมียิ้มให้ฉันทำให้ตาของเธอที่เล็กอยู่แล้วแทบจะกลืนหายไปกับหน้า


    มาถึงก็เข้าเรื่องเลยนะคนคนนี้... โชว์ร้องเพลงเหรอ? ฉันชอบเต้นน่ะก็จริงอยู่หรอกน้า... ตอบตกลงไปเลยดีมั้ยนะหรือต้องทำฟอร์มซักหน่อยก่อน-.,-?


    "ถ้าเป็นวันหลังจากกีฬามหาลัยแล้วซ้อมทันก็ได้อยู่นะคะ แล้วมีใครเต้นบ้างคะ?"  ฉันถามอย่างสนใจ แต่ยังไม่ตอบตกลงไปซักทีเดียว


    "ก็มีพี่นี่แหละ เรื่องซ้อมน่ะเดี๋ยวพี่สอนท่าให้เอง แป๊ปเดียวเราก็คงเต้นได้อยู่แล้วล่ะ ไอวานมันก็บอกว่าน้องน่ะต้องเหมาะแน่ๆ"  รอยยิ้มบนใบหน้าของอีกคนยังคงไม่หายไปไหน ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นตามดีจัง ฉันที่กำลังจะพยักหน้าตามก็ต้องสะดุดสงสัยตรงชื่อที่กล่าวมาเสียก่อน


    ว่าแต่... 'วาน' ที่ว่านี่คือคนร้องงั้นเหรอ?


    "เพื่อนพี่ที่เป็นคนร้องนี่ชื่อวานเหรอคะ?"  ฉันถามไปตรงๆอย่างสงสัย


    "ใช่ ซึงวานน่ะ บางทีคนก็เรียกมันว่าเวนดี้ หมั่นไส้ชื่อฝรั่งมันนิดนึงแต่มันก็เด็กนอกจริงๆอะนะ5555"  ฉันตาลุกวาวทันทีที่ได้ยินชื่อที่คุ้นเคยออกมาจากปากของอีกคน


    "หา!? พี่เวนดี้คณิตประกันภัยน่ะเหรอ!?!?!?!?"  ฉันตะโกนออกมาดังจนรุ่นพี่ตรงหน้าตกใจเล็กน้อย แต่นางก็พยักหน้าแล้วก็ยิ้มน้อยๆเหมือนกำลังจะขำ


    "ใช่ ไอวานมันเนี่ยแหละ"


    โอ้ววววว มายยยยยย ก๊อดดดดดดด


    พี่เวนดี้ หรือชื่อจริงก่อนไปแคนาดาคือ 'ซน ซึงวาน' นางเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในมหาลัยที่ฉันรู้จักแล้วก็แอบปลื้มมาตลอด ภาษาอังกฤษอันเป๊ะเนื่องมาจากการใช้ชีวิตวัยเรียนอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ใบเกรดที่มีตัวเลขสูงลิบลิ่ว ความชำนาญด้านการร้องเพลงที่ไพเราะเหนือชั้นกว่าทุกคน ทั้งหมดรวมอยู่ในคนคนเดียวก็คือพี่เวนดี้ปีสามคนนั้น


    เอ๊ะ... ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าพี่คนนี้ก็ต้องอยู่ปีเดียวกันน่ะสิ?


    "แป๊ปนะคะแฟนคลับอย่างหนูทำใจไม่ทัน"  ฉันพูดอย่างติดตลก เรียกเสียงหัวเราะใสๆของรุ่นพี่ตรงหน้ามาได้... เอาจริงๆฉันก็ทำใจไม่ทันจริงๆนั่นแหละ=.= นี่ถ้าเจอพี่เวนดี้ตัวจริงขึ้นมาฉันจะรอดมั้ยเนี่ย??


    "โอ๊ย... ซึงวานมันเฟรนด์ลี่จะตายไป น่ารักๆอย่างน้องเนี่ยเผลอๆพอเจอกันซักแปปมันจะหลงน้องมากกว่าน้องหลงมันอีก"


    โอ๊ยยยยยยยยยยยยย พูดอย่างนั้นมันไม่ช่วยเลยค่ะพี่ขาาาาาาา =//////////= 


    "โอย...พี่อย่าเพิ่งทำให้หนูเขินตายอยู่ตรงนี้นะ แล้วนี่ก็แปลว่าพี่ก็อยู่ปีสามเหรอคะ? พี่.... เอ่อ..."  ฉันติดอ่างเนื่องจากไม่รู้ชื่อของอีกคน รุ่นพี่ร่างโปร่งจึงรีบบอกชื่อของตัวเองทันที


    "ซิลกิ เรียกพี่สั้นๆว่าพี่กิก็ได้ ใช่พี่อยู่ปีสามเหมือนเวนดี้นั่นแหละ"


    "ตกลงเรื่องเต้นหนูตกลงนะคะ อยากเจอพี่เวนดี้แล้วก็อยากเต้นด้วย5555"  ฉันสารภาพออกมาอย่างตรงๆ คนตรงหน้าก็ยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น นี่มันขัดกับภาพแรกตอนที่นางไม่ยิ้มเลยน่ะเนี่ย ใครจะไปรู้ว่าคนหน้าดุพอยิ้มแล้วเป็นแบบนี้


    "555โอเคค ซึงวานมันต้องดีใจแน่ๆ งั้นเดี๋ยวเรานัดกันซ้อมซักอาทิตย์หน้าละกันนะ เอาให้กีฬามหาลัยจบไปก่อน"  ฉันพยักหน้าตามเบาๆเป็นการตกลง แอบตื่นเต้นนิดนึงแฮะ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเข้าใกล้พี่เวนดี้อย่างไม่รู้ตัวเลย


    พี่ซึลกิควักโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วก็เลื่อนหาเบอร์โทรในรายชื่อ เห็นดังนั้นฉันจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์มาบ้างอย่างรู้งาน ผ่านไปเพียงอึดใจนางก็ยื่นโทรศัพท์ของตัวเองมาตรงหน้าฉัน ในหน้าจอปรากฏชื่อและเบอร์โทรของนางเอง


    "อันนี้เบอร์พี่ มีอะไรก็โทรหรือไลน์มาได้เลยนะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเต้นก็ยังได้5555"  นางพูดเองหัวเราะเอง ทำเอาฉันที่กำลังเมมเบอร์แอบหัวเราะตามไปด้วยนิดๆอย่างเขินๆ


    "ส่วนอันนี้..."  มือเรียวของรุ่นพี่หันโทรศัพท์กลับไปแล้วก็เลื่อนๆหน้าจออีกนิด ก่อนที่จะยื่นมาใหม่ปรากฏเป็นชื่อและเบอร์โทรที่เปลี่ยนไปจากเมื่อกี๊


    "เบอร์ไอวาน"


    อึก... 


    ฉันแอบกลืนน้ำลายเมื่อได้ยินดังนั้น แต่ก็พยักหน้าแล้วก็ก้มหน้างกๆเมมอีกเบอร์ไว้อย่างว่าง่าย ในใจเหมือนกำลังจุดพลุฉลองกับตัวเองอย่างยิ่งใหญ่


    'ได้เบอร์พี่เวนดี้มาด้วยโว้ยยยยยยย'


    กร๊ากกกกก.... ต้องเอาไปอวดไอแชงสักหน่อยละ


    เมื่อบันทึกสองเบอร์ที่มีชื่อว่า 'พี่ซิลกิ' และ 'พี่เวนดี้' เรียบร้อยแล้ว ฉันก็พยักหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่าเสร็จแล้ว รุ่นพี่ร่างโปร่งจึงก้าวถอยหลังไปแล้วก็เตรียมโบกมือลาแต่ก็ไม่ลืมทิ้งท้ายไว้ให้ฉัน


    "พี่ไปแล้วนะ อ้อ... ไอวานฝากมาบอกด้วยว่าถ้าน้องตอบตกลงให้ไลน์ไปหามัน มันจะเลี้ยงหนม" 


    และแล้วพี่หมียิ้มก็จากไป ทิ้งไว้เพียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของฉัน


    ไลน์ไปหาพี่เวนดี้เนี่ยนะ... กรี๊ดดดดT-T แค่คิดก็ใจแป้วแล้ว ฉันยิ่งเป็นคนชวนคุยไม่เก่งซะด้วยสิ ถ้าพี่เค้ารู้จะทำยังไง


    ได้จังหวะพอดี บนหน้าจอโทรศัพท์ก็เด้งขึ้นมาว่ามีเพื่อนใหม่ในไลน์ จะเป็นใครไปได้ล่ะนอกจาก...


    'พี่ซิลกิ (Kang_Seulgi)'

    'พี่เวนดี้ (Son_Seungwan)'


    พี่เวนดี้คะ... ขอเวลาลลิษาทำใจก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวหนูจะทักไป TvT


    ว่าแล้วฉันก็วางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะแล้วก็เดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำแล้วก็แต่งตัวเสียที


    น้ำจากฝักบัวที่สาดลงมาทำให้หัวสมองของฉันวกกลับมาเรื่องเดิมอีกครั้ง 


    "เฮ้อ"


    ฉันก้าวออกมายืนบนพรมหน้ากระจกในห้องน้ำ มือก็ใช้ผ้าเช็ดหัวไปเรื่อยๆ เมื่อใส่ชุดสบายๆที่เตรียมมาแล้วฉันก็เช็ดผมต่อ แต่ยังไม่ทันแห้งสนิทหูก็ได้ยินเสียงมาจากข้างนอก


    ก๊อกๆๆ


    0_0 หืม?


    ...


    เสียงไรวะ?


    คิ้วทั้งสองข้างของฉันขมวดเข้าหากันแน่น พี่ซิลกิกลับมาเหรอ? เอ๋ แต่เมื่อกี๊นี้พี่แกกดออดนี่...


    ฉันที่กำลังเช็ดผมไม่เสร็จจึงเช็ดผมต่อโดยไม่ได้เดินไปดูที่ประตู อาจจะไม่ใช่คนเคาะก็ได้มั้ง


    ก๊อกๆๆ


    =0=


    'โอเค... ไปก็ได้'


    ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่ผมยังไม่แห้งดี มือข้างหนึ่งก็เช็ดหัวไป ส่วนมืออีกข้างก็เหวี่ยงประตูเปิดโดยไม่ได้ดูว่าใครอยู่หน้าห้อง


    "ลิซ่า"


    เฮือกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!


    ฉันสะดุ้งตกใจจนแทบล้มถอยหลัง คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใบหน้าที่ฉันไม่อยากเจอที่สุด ด้วยความไม่ระวังฉันกลับไม่ดูให้ดีก่อนว่าใครมา เปิดประตูออกมาร่างสะโอดสะองก็ยืนกอดอกอยู่หน้าห้องฉันเสียแล้ว


    ในใจฉันตะโกนกรีดร้องออกมาสุดเสียง


    'อ้ากกกกกกกกกก พี่เจนนี่!!!!!!!!!!'


    ไม่นะ...


    ฉันเริ่มเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูก เมื่อวานนี้ทั้งวันฉันอุตส่าห์หมกตัวอยู่ในห้องด้วยความที่กลัวว่าจะออกไปแล้วบังเอิญเจอนางเข้า แต่ใครจะไปรู้ว่าวันนี้ตัวมารจะมาหาถึงห้อง


    สายตาคมเฉี่ยวมองมาที่ฉันอย่างนิ่งๆ นิ่งเสียจน... น่ากลัว 


    หัวใจของฉันร่วงหล่นไปอยู่บนพื้นทันทีที่สายตามองหน้านาง ก็ใบหน้าที่ตัวเองนึกถึงมาตลอดบัดนี้มาอยู่ตรงหน้าแล้วแต่ฉันกลับไม่มีอะไรจะพูด ไม่มีเลยสักนิด


    "ฉันตกลงไปเป็นดรัมกับรุ่นพี่ที่คุมพาเหรดเรียบร้อยแล้วนะ"  เสียงหวานกล่าวออกมานิ่งๆด้วยสายตาที่ยังไม่เปลี่ยน ฉันลอบกลืนน้ำลายอย่างไม่เนียนแล้วก็พยักหน้าตอบช้าๆ


    เสียงนี้ที่ฉันอยากได้ยิน...


    แต่จะทำอะไรตามใจไม่ได้ ยังไงฉันก็ยังมีความลับที่จะต้องไม่ให้นางรู้ แล้วก็ข้อสัญญาที่จะต้องรักษา


    พี่เจนนี่มองลงไปถึงขาฉันหนึ่งทีก่อนที่จะตวัดสายตากลับขึ้นมามองตาฉันเหมือนเดิม


    "ทำไมเมื่อวานไม่มาหา?" 


    จู่ๆจิตใจส่วนหนึ่งก็อยากจะบอกความจริงไปให้จบๆ บอกว่าฉันเป็นคนจ้างแก๊งนั่นเอง ถ้าจะโดนนางตบตายอยู่ตรงนี้มันก็สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ ในเมื่อคนผิดมันคือฉันเองเต็มๆตั้งแต่แรก


    'ก็พี่บอกให้ฉันไปจัดการเรื่องตัวคนทำไม่ให้มายุ่งกับพี่อีก เพราะฉะนั้นฉันก็เลยทำตามนั้น'  ประโยคกึ่งสารภาพลอยขึ้นมาในหัว แต่แน่นอนว่าจิตใต้สำนึกส่วนที่ใหญ่กว่ามันไม่ยอมให้ตัวเองพูดออกไปหรอก


    ตึกตัก... ตึกตัก...


    ฉันได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงผิดปกติ แล้วนี่นางมาหาฉันที่ห้องเพื่อถามฉันเรื่องนี้งั้นเหรอ?


    'โกหกไปเดี๋ยวนี้!'  คำสั่งเด็ดขาดจากตัวเองส่งผลให้ปากขยับตามทันทีอย่างเชื่อฟัง


    "ฉันไม่อยากไป"  พูดแล้วก็แทบจะกัดลิ้นตัวเอง ก็ฉันไม่ใช่หรือไงที่จิตใจโหยหาอยากจะขึ้นไปที่ห้องชั้นเก้า แต่ก็ต้องหยุดตัวเองไว้ก่อนเพราะคำสัญญาและความผิดที่ตัวเองทำไว้


    แว้บหนึ่งที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววเปลี่ยนไป แต่เพียงเท่านั้นใบหน้าสวยก็กลับมานิ่งตามเดิมเหมือนกับว่าสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไปนั้นสมเหตุสมผลดีแล้ว


    "อืม เข้าใจละ"  คนหน้าสวยยังคงหน้านิ่งเช่นเคย คิ้วของนางขมวดเข้าหากันอย่างไม่สบอารมณ์ นางหันหน้าแล้วก็เดินออกไป ปล่อยให้ฉันยืนอยู่หน้าห้องรู้สึกผิดที่ต้องตอบไปแบบนั้นทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกอย่างที่ตอบสักนิด


    พี่เจนนี่คิมมาหาถึงห้อง ดูก็รู้ว่านางไม่ใช่คนประเภทที่ปกติจะทำอะไรแบบนี้กับใคร 


    แต่ฉันก็ยังต้องไล่นางไปเพราะความจำเป็นที่เรียกว่าข้อตกลง...แบบนี้มันถูกต้องแล้วสินะ


    น้ำตาอุ่นๆไหลออกมาจากเบ้าตาของฉันอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกโหยหาอีกคนที่เพิ่มขึ้นอีกมันช่างเจ็บปวด ฉันปาดน้ำตาอย่างลวกๆก่อนที่จะเดินเข้าห้องไปแล้วก็ปิดประตูดังเดิม ทั้งๆที่ใจจริงอยากจะวิ่งตามออกไปแล้วก็ดึงอีกคนเข้ามากอดเอาไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง


    'อยู่ใกล้กันแค่นี้ แต่กลับไกลกันเหลือเกิน'  หัวใจของฉันเริ่มรู้สึกเหมือนกำลังถูกบีบ


    จู่ๆฉันก็นึกถึงช่วงเวลาที่ตัวเองอยู่ในห้องชั้นบนของนาง...


    ภาพของคนหน้าเป็นแผลที่อยากกินเส้นเล็กต้มยำลอยขึ้นมาทันที


    'ตัวเตี้ยแย่งไม่ได้เลยอดกิน... ฮะๆๆตลกเป็นบ้า'


    นึกแล้วน้ำตาก็พาลจะไหลอีกรอบ นี่ฉันอ่อนแอถึงขนาดนี้เลย?


    'จะว่าไปแล้วถ้าฉันแอบซื้อไปให้นางตอนนี้จะเป็นอะไรมั้ยนะ?'  หัวสมองเริ่มแอบคิดอะไรไม่เข้าเรื่อง ทำให้ฉันต้องตบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติหนึ่งที


    เพียะ (#- -)


    ไม่ยุ่งก็คือไม่ยุ่ง... ฉันจะต้องรักษาสัญญา ถึงจะต้องทำให้นางเข้าใจฉันผิดก็ตาม


    ซักวันพี่เจนนี่ก็คงเกลียดฉันกลับเอง ไม่สิ.. อาจจะไม่ต้องรอแล้วล่ะมั้ง แค่เมื่อกี๊นางก็คงเกลียดฉันไปแล้วล่ะ แต่นั่นก็ยิ่งดี มันจะได้ง่ายขึ้นในการที่จะไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับชีวิตของอีกคน


    ทั้งๆที่สมองจะคิดแบบนั้น... แต่หัวใจฉันกลับต่อต้านอย่างชัดเจน ความรู้สึกนี้มันโกหกตัวเองไม่ได้ แต่ก็พูดออกมาไม่ได้เช่นกัน


    ท่ามกลางความหน่วงและโหยหาในใจที่ฉันพยายามเหยียบมันไว้ หัวใจของฉันก็ได้สารภาพอะไรบางอย่างออกมาให้ตัวเองได้ยิน ถึงจะอยู่แค่ในใจ...  แต่ฉันก็หลับตาลงแล้วก็ยิ้มอย่างเจ็บปวดรับฟังมันไว้ 


    'ฉันคิดถึงพี่นะ...'




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×