ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Jenlisa เกลียดก็จริง แต่ยัยหน้าหยิ่งนี่น่ะของฉัน (END)

    ลำดับตอนที่ #3 : สกปรก

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 62








    หลังจากที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกับเพื่อนรักจนเหนื่อยกันทั้งคู่แล้ว เด็กปีหนึ่งทั้งสองคนที่โดดเรียนคาบเช้าก็กอดคอกันออกมาหาข้าวเที่ยงกิน ก่อนที่จะตรงไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อไม่ให้ไปสายในคาบบ่ายอีก


    "ขึ้นรถแกทีไรนี่แทบจะนอนอีกรอบเลยว่ะ ขับช้าชิบ"


    "อย่าบ่นดิ้ ปลอดภัยไว้ก่อนเว่ย"  ไม่ได้ขับเองแล้วยังจะพูดอีก เดี๋ยวโดนดีด


    "เออ เดี๋ยวถึงละแกไปตึกก่อนเลยนะ เดี๋ยวตามไป"  ไอแชงมันเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์แล้วพูดขึ้นมาเนิบๆ


    "ไปไหนวะ"  ฉันถามไปงั้นๆ ว่าจะชวนไปซื้อน้ำปั่นกันก่อนซะหน่อย


    "ไปห้องสมุดตึกแพทย์"


    "ไปทำไม คณะเราก็มีห้องสมุด"


    "ก็.."


    "อ่อรู้ละ แหม่ทิ้งเพื่อนเลยนะอีเจ้" 

     
    "พี่จีซูจะให้ยืมหนังสืออออ เตงอย่างอนน้าาา"  ฉันกลอกตาเป็นรอบที่ห้าร้อย ติดสาวชะมัดอีนี่ ก็รู้หรอกว่าอีกคนเป็นถึงดาวคณะ แต่มาทิ้งเพื่อนสนิทอย่างนี้ก็น่าโดนอยู่ดีแหละวะ


    "ไม่ต้องมากอดแขนเลย จะไปก็ไป วู้ยยยยย"  ฉันสะบัดมันออกเนื่องจากทำให้ขับรถไม่ถนัด แล้วก็ถอนหายใจขึ้นมาอย่างเซ็งๆ


    "เอาน่าาา เดี๋ยวเอาชีทมาแชร์ ที่ชั้นทำเพื่อให้เราสองคนเรียนเก่งขึ้นเลยนะเว่ย"  มันแถซะจนฉันกลัวว่าสีข้างรถจะทนไม่ไหวถลอกออกมาตอนนี้เลย


    "โอโหเชื่อมากเลยค่ะเชื่อออ"  ฉันตอบอย่างประชดแล้วจอดรถเข้าซองทันทีที่ถึงมหาลัย เมื่อรถจอดสนิทไอแชงมันก็ยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มฉันหนึ่งทีเป็นการเอาใจในแบบฉบับของมัน แล้วก็เดินลิ่วไปที่ตึกคณะแพทย์ศาสตร์ทันที


    "ห่า...เบื่อจริง"  ฉันเอามือเช็ดแก้มที่มันเพิ่งจุ๊บหนึ่งที แล้วก็ออกมาจากรถโดยที่ไม่ลืมล็อคให้เรียบร้อย แล้วก็เดินไปยังทิศทางของร้านน้ำปั่นเจ้าประจำในมหาลัยด้วยตัวคนเดียว


    ก่อนที่จะถึงร้านน้ำปั่นจะต้องเดินผ่านทางที่อยู่หลังตึกคณะที่ฉันเรียน ซึ่งเป็นทางเปลี่ยวที่คนชอบมามีเรื่องกันให้เลือดตกยางออก ซึ่งปกติเขาก็ว่ากันว่าให้หาคนมาเป็นเพื่อนอย่างน้อยหนึ่งคนเวลาจะเดินผ่านทางนี้เพื่อความปลอดภัย ปกติฉันก็ไปไหนมาไหนกับไอแชงอยู่แล้วจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก

    แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่เป็นใจเมื่อวันนี้ฉันดันมาคนเดียวพอดี แล้วคนสี่ห้าคนที่กำลังเดินมาขวางทางฉันข้างหน้านี่ก็ไม่น่าจะมาแค่เพื่อเดินผ่านกันเฉยๆ


    "ลลิษา... มโนบาล"  ต้นเสียงที่มาจากข้างหลังทำให้ฉันต้องหันไปหาแล้วก็พบกับไอสามคนเดิมที่วันนั้นโดนฉันยำจนไปนอนกับพื้น คนที่พูดก็คือผู้หญิงคนเดิมที่ตัวสูงพอๆกับฉันแต่หน้าตานี่ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด ดูถ้าจะเป็นหัวหน้าแก๊งสินะ ยัยเพิ้ง


    "ว่าไง"  ฉันหันหลังไปถามอย่างไม่ได้เกรงกลัว ก็บอกแล้วว่าแข็งมาก็แข็งกลับ อยากมาสู้ฉันก็จะสู้ให้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้หรอกนะว่าคราวนี้พวกมันมีกันถึงเจ็ดแปดคนน่าจะไม่ง่ายเหมือนคราวที่แล้ว


    "แกเลวมากนะที่กล้าไปลวนลามพี่เจนนี่น่ะ"  ห้ะ!? อะไรนะ ฉันได้ยินอะไรผิดไปรึเปล่า


    "แกพูดอะไรวะไม่เห็นรู้เรื่อง"  ฉันขมวดคิ้วมองหน้ายัยเพิ้งนี่อย่างงุนงง


    "ก็แกไงล่ะ ที่ไม่ได้มาเรียนเมื่อเช้านี้เพราะไปลวนลามพี่เจนนี่ถึงห้องสินะ อยู่หอเดียวกันหน่อยไม่ได้เลยนะ สงสัยอยากโดนรุมกระทืบ!!"  นอกจากฉันจะไม่รู้เรื่องจากสิ่งที่ยัยนี้พูดแล้ว ฉันยังงงด้วยว่านางไปเอามาจากไหน แล้วคนแพร่ข่าวรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เข้าคาบเช้า


    "ใครเป็นคนแพร่ข่าวโง่ๆนี่วะ"


    "แกล้งทำเป็นไม่รู้เหรอ เหอะ! เสียใจด้วย แต่เค้ารู้กันหมดแล้ว ก็พี่เจนนี่น่ะเป็นคนบอกเองกับตัวไงล่ะไอเวร!!"  ไม่พูดเปล่ายัยนี่กับเพื่อนๆค่อยๆสาวเท้าเข้ามาใกล้ฉันล้อมเป็นวงจนไม่มีทางออก ยัยนั่นเป็นคนแพร่ข่าวงั้นเรอะ หึ เล่นสกปรกสมตัวดีนะ เจอเมื่อไหร่ล่ะก็น่าดู


    "โกหกทั้งเพ ฉันน่ะเหรอจะไปลวนลามยัยนั่นน่ะ รังเกียจจะตายอยู่ละ"  ฉันพูดไปทั้งที่รู้ว่าแก้ตัวไปพวกนี้ก็ไม่เชื่อหรอก แต่ก็รังเกียจจริงๆนั่นแหละ ยิ่งทำแบบนี้มันยิ่งน่ารังเกียจ!!


    "หุบปาก!! เอามันเลย"  สิ้นเสียงของยัยเพิ้งพวกมันก็เข้ามาหาฉันทันที


    ผลัวะ!!  ลงไปหนึ่ง เหลืออีกเจ็ด


    ตุบ!! สอง


    ปั้ก!!! สาม


    "เห้ย!! ทำไรกันอยู่วะ!? เข้าไปพร้อมกันเลยสิโว้ยยย"  ยัยบ้านั่นคอยบงการอยู่ข้างหลังทำให้อีกสี่คนที่เหลือเข้ามาหาฉันทันที


    มีผู้ชายซะด้วย...


    โครม!! ฉันซัดผู้ชายคนแรกเข้าไปหนึ่งหมัดจนมันเซไปอีกทาง แต่ก็ไม่ทันป้องกันหมัดจากผู้ชายคนที่สองที่เข้ามาที่ท้องฉันเต็มๆ

    อุ้ก!! โอย... ซี่โครงหักมั้ยวะ ด้วยความเจ็บทำให้ฉันเสียหลักไปนิดหนึ่ง และยัยผู้หญิงสองคนก็วิ่งเข้ามาพอดี คนหนึ่งทึ้งผมฉันไปข้างหลังอย่างแรง แล้วอีกคนก็กระโดดตบหน้าฉันเหมือนกับอรอุมาตบลูกวอลเล่ย์รอบชิงชนะเลิศไทย-ญี่ปุ่น ทำให้ฉันร่วงลงไปกองกับพื้นเป็นครั้งแรก เลือดสีแดงสดไหลมากบปากพร้อมกับความเจ็บปวดทั้งที่ท้องและในปากจนทำให้ฉันไม่ได้ยินเสียงอะไร


    ฉันพยายามลุกขึ้นได้สำเร็จ แล้วก็มองไปข้างหน้าด้วยสติสัมปชัญญะที่ยังพอมีอยู่ครึ่งหนึ่ง ผู้ชายสองคนกับผู้หญิงสองคนตรงหน้าดูเหมือนจะยังสมบูรณ์กันหมด ขนาดไม่นับยัยเพิ้งข้างหลังที่บอกบงการนั่นแล้วสภาพร่างกายฉันตอนนี้ยังไม่รู้จะจัดการกับพวกมันได้ไหมเลย


    "ยอมซะตอนนี้แล้วก็ไปกราบขอโทษพี่เจนนี่ซะ แล้วพวกฉันจะยอมปล่อยหน้ายับๆของแกไป"  ยัยป๊อดที่ไม่ยอมออกมาสู้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่าลากคอมาตบ ให้ตายฉันก็ไม่ยอมทำอะไรโง่ๆแบบนั้นหรอก


    "ไม่เอาว่ะ แน่จริงก็มาตัวๆดิ กระจอก!"  ฉันตะคอกไปหายัยนั่นก่อนที่จะถุยเลือดที่อยู่ในปากลงพื้นอย่างดูถูก มือทั้งสองข้างก็ยกขึ้นมาตั้งการ์ดเป็นสัญญาณพร้อมรบอีกครั้


    แน่นอนว่ายัยบ้านั่นไม่ออกมาสู้กับฉันให้แพ้หรอก นางพยักหัวมาทางฉันหนึ่งทีด้วยแววตาที่เหนือกว่า แล้วไอสี่ตัวนั้นก็พุ่งมาทางฉันอีกครั้ง


    ปั่ก!! "โอ๊ย"  ฉันยื้อไปมากับผู้ชายคนหนึ่งอยู่สักพัก ก่อนที่จะเข่าไปที่สะโพกมันหนึ่งทีแล้วก็สวนหมัดเข้าหน้าไปให้หลับสนิท

    ลงไปอีกหนึ่ง


    ผู้ชายอีกคนเห็นดังนั้นก็วิ่งเข้ามาแล้วก็ควักสิ่งหนึ่งออกมาที่ฉันเห็นแล้วก็ต้องถอยทันที


    มีด...


    ฉันถอยห่างออกมาก่อนที่จะตั้งสติว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น


    'มันมีมีด!?'


    ฉันมองไปยังยัยเพิ้งแล้วยัยนั่นก็ยิ้มมาให้ฉันอย่างน่ารังเกียจ ...รู้อยู่แล้วสินะ! สกปรกเป็นบ้า


    ไม่รอช้าผู้ชายถือมีดคนนั้นก็เข้ามาหาฉันอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า


    ฟึ่บ!! ฟึ่บ!! ฉัวะ!!  หลบคมมีดได้ไม่เกินสองครั้งมันก็กรีดเข้าที่มือฉันจนเป็นรอยบาดลึก ฉันกัดฟันทนความเจ็บปวดที่แล่นมาแล้วก็พยายามที่จะแย่งมีดมาจากมือเขา แต่ด้วยแรงของผู้ชายและความที่ฉันเจ็บตัวอยู่แล้ว ทำให้เขาฟันมีดมาที่ต้นขาฉันอีกหนึ่งที


    อึก.... เจ็บเป็นบ้า


    ฉันมองไปยังต้นขาของตัวเองที่บัดนี้เป็นรอยโดนบาดยาว กระโปรงนักศึกษาที่ฉีกขาดเป็นรอยมีดทำให้เห็นได้ว่าเลือดนั้นออกมาเยอะขนาดไหน 


    'ปวดตุ๊บๆเลย โดนเส้นเลือดใหญ่รึเปล่านะ?'  แต่นี่ก็ไม่ใช่เวลามาคิด ฉันรวบรวมแรงทั้งหมดผลักไอ้คนที่ถือมีดจนมันเซไปข้างหลัง ก่อนที่หันไปหาผู้หญิงที่กำลังจะเข้ามาซ้ำฉันแล้วก็ตบหน้านางจนล้มลง


    "ฟิล์ม!!"  ยัยผู้หญิงอีกคนเรียกชื่อเพื่อนที่โดนตบจนร่วงไปนอนกับพื้น ก่อนที่จะหันมามองฉันอย่างเคียดแค้น นางเดินไปหาผู้ชายที่ถือมีดแล้วก็ขอมีดมาถือไว้ แล้วก็วิ่งมาทางฉันทันที


    ความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่างส่งผลให้สติฉันค่อยๆขาดไป ฉันพยายามหลบมีดที่มาทุกวิถีทาง แต่นางก็ใช้ความเร็วจนมีดมาแทงเข้าที่ท้องด้านข้างฉันดังฟึ่บ!! ฉันมองไปยังมีดที่อยู่ข้างตัวอย่างเหนื่อยล้า แล้วก็ล้มตัวลงด้วยร่างกายที่สู้ไม่ไหวอีกต่อไป


    เมื่อเห็นว่าฉันหมดแรงแล้ว ยัยเพิ้งก็เดินเข้ามาหาฉันโดยที่รับมีดจากผู้หญิงคนนั้นมาถือไว้เอง


    "หึ สุดท้ายก็ไม่แน่จริงนี่หว่า อ่อนแอแล้วยังจะไม่เจียม!"  นางโยนมีดในมือทิ้งก่อนที่จะเดินเข้ามาหาฉันอย่างช้าๆ ผู้ชายกับผู้หญิงอีกสองคนก็ยืนมองลงมาที่ฉันด้วยสายตารังเกียจ


    ผลัวะ!!  นางลงมานั่งคร่อมฉันแล้วก็ต่อยหน้าเข้ามาจังๆหนึ่งทีจนฉันหน้าหัน เลือดในปากที่เพิ่งหยุดก็ไหลออกมาอีกครั้งจนกลบปาก แต่นางก็ยังไม่พอใจสวนหมัดเข้ามาอีกไม่ยั้งจนฉันหน้าชา


    โครม!! ปึ๊ก!! ปั๊ก!!  


    ภาพที่ฉันเห็นเริ่มเบลอลงเรื่อยๆตามแรงที่กระแทกหน้าเข้ามาทุกๆครั้ง สุดท้ายภาพที่เห็นก็เริ่มมืดลงๆ และก็ดูเหมือนนางจะหยุดไปแล้วหรือยังไม่หยุดก็ไม่รู้ แต่ฉันไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว ร่างกายมันปวดจนชา เลือดที่ไหลก็ทั่วร่างจนไม่รู้ว่าออกมาตรงไหนบ้าง สุดท้ายภาพก็ดับไปจนมืดดำ ฉันไม่รู้สึกตัวอีก ความเจ็บปวดที่กระหน่ำเข้ามาก็ดับไปพร้อมกับสติของฉันเช่นกัน
     

    และภาพสุดท้ายที่เห็นคือ...


    ใบหน้าที่เหยียดยิ้มของยัยหัวหน้าแก๊ง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×