คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : City of DREAM [RP]---[Event]The Little Dream
...ถึงซะที...
ชายหนุ่มร่างสูงมองประตูทางเข้าโรงเรียนอนุบาลข้างหน้าพร้อมรอยยิ้มบางๆประดับบนใบหน้า
วันนี้จะเป็นวันที่เขาเริ่มทำงานในฐานะครูโรงเรียนอนุบาลวันแรก
หลังจากที่เพิ่งย้ายมาเมืองนี้ได้ไม่กี่วัน
งานในฐานะครูก็ดูน่าท้าทายดี ได้สอนเด็กน้อยตัวเล็กๆ
คอยเฝ้ามองเขาเติบโต ก็ดูเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลวเหมือนกัน
เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆฟังดูมีชีวิตชีวา เขาสาวเท้าเดินเข้าไปด้านใน
ตั้งใจว่าจะไปหาครูใหญ่หรือใครซักคนที่เขาสามารถแนะนำตัวได้
“ขอโทษครับ...ผมเป็นครูคนใหม่จะมาเริ่มงานวันนี้ครับ”
เขาก้าวเข้าไปที่ห้องพักครูที่มีคนนั่งอยู่ไม่กี่คน ก่อนจะเริ่มต้นแนะนำตัว
“โอ้....มาแล้วเรอะๆ ดีเลย..เดี๋ยวไปที่ห้องด้วยกันเลยนะ
ฉันเป็นนายกของเมืองนี้ ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆน่ะ ทุกคนก็ช่วยๆกันทำงาน”
ชายคนที่บอกว่าเป็นนายกก้าวเข้ามาหาเขาก่อนจะตบหลังเขาเบาๆสองสามที
แล้วพาเขาเดินไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยห้องต่างๆเรียงกันอยู่
จนมาหยุดยืนอยู่ที่ห้องที่มีป้ายว่า “ห้องพระอาทิตย์”
“ห้องนี้แหละๆ...เข้ามาๆ....เด็กๆวันนี้ฉันมีครูคนใหม่จะมาแนะนำให้พวกเธอได้รู้จักนะ..”
นายกหันมาบอกเขา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปหาเด็กๆภายในห้อง
เสียงจ๊อกแจ๊กดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้ยินว่าจะมีครูมาใหม่
เฟยก้าวเท้าเข้าไปในห้องเรียนที่ประดับตกแต่งไปด้วยบรรดารูปภาพสีสันสดใสที่เดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นฝีมือของเด็กๆ
หรือไม่ก็โปสเตอร์หัดเขียนหัดอ่านตัวอักษรหลากหลายแผ่น
จำนวนเด็กๆในห้องมีไม่มากนัก นับดูคร่าวๆก็คงประมาณ 10 กว่าคนเท่านั้น แล้วยังดูมีหลากหลายวัยซะด้วยซิ
แต่ก็อยู่ที่ประมาณ 3-5 ขวบละมั้ง เฟยส่งยิ้มนำไปก่อน
ก่อนที่จะเริ่มต้นแนะนำตัว
“สวัสดีทุกคน พี่ชื่อเฟย ต่อไปนี้จะมาอยู่กับทุกคนนะ...ฝากตัวด้วย”
เขาแนะนำตัวสั้นๆ
“เอ๋...แล้วสรุปเป็นครู หรือเป็นพี่กันแน่ละ..” เด็กหัวชมพูท่าทางซนๆคนหนึ่งพูขึ้นมาพลางเกาหัว
ก่อนจะได้เสียงเห็ฯด้วยจากเด็กคนอื่นๆ เฟยหัวเราะกับประโยคไร้เดียงสานั้น
ก่อนจะตอบ
“แล้วพวกเธออยากให้เป็นพี่หรือเป็นครูล่ะ” ทุกคนหันไปมองหน้ากันอย่างขอความเห็นจนเด็กผู้หญิงผมสีทองที่ดูโตเป็นผู้ใหญ่เกินตัวจะพูดขึ้น
“งั้นก็เป็นครูพี่เฟยไงคะ” เธอบอกแบบนั้น
ก่อนจะได้รับเสียงสนับสนุนจากคนอื่นๆ
ข้างๆเธอมีเด็กผู้ชายผมสีแดงคนหนึ่งนั่นอยู่ด้วย
เด็กคนนั้นสะกิดเธอก่อนจะพูดเสียงเบา “...จะ จะดีเหรออาโออิ..”
“ทำไมล่ะ ก็พี่เขาให้เราเลือกนี่นา ถ้างั้นก็เป็นสองอย่างเลยไง”
เด็กหญิงคนที่ชื่ออาโออิว่า ทำเอาเขายิ้มน้อยๆกับการสนทนานั้น
ก่อนจะเดินเข้าไปหาทั้งสองคนแล้วนั่งจนตัวเขาอยู่ในระดับเดียวกับเด็กๆ
“ได้ซิ...งั้นพี่เป็นครูพี่เฟยละกันเนอะ...อืม..อาโออิจังกับ...” เขาหันไปหาเด็กชายผมแดงเป็นเชิงถาม
แต่เด็กคนนี้ก็เอาแต่ก้มหน้าหน้าแดงไม่ตอบเขา
“ว้าว...พี่รู้ชื่อหนูด้วย หมอนี่ชื่อคุมะค่ะ เขาเงียบๆหน่อย
แต่เป็นคนดีมากเลยนะคะ!”
อาโออิแนะนำเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้ไปหลบอยู่ข้างหลังเธอเป็นที่เรียบร้อย
จนเธอหันไปดุเขาเบาๆ เฟยยิ้มก่อนจะเริ่มใต้นทำความรู้จักเด็กๆทีละคน
“อ้อ...จริงซิครูเฟย พรุ่งนี้จะมีเด็กย้ายเข้ามาที่ห้องนี้หนึ่งคนนะ
ฝากดูและด้วยล่ะ พยายามเข้านะ” นายกพูดกับเขาก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
ทิ้งให้เขาอยู่กับบรรดาเด็กๆที่ต้องนี้จ้องเขาเป็นตาเดียว
“อืม...วันนี้ทำอะไรกันดีละ...อยากทำอะไรกัน” เขาถามความเห็นของเด็กๆ
เด็กวัยนี้กำลังอยากรู้อยากลอง การให้เขาได้ลองทำอะไรที่อยากทำจะมีส่วนช่วยในพัฒนาการทั้งด้านสมองและอารมณ์ละนะ
และอาจจะทำให้บางคนมีความฝันของตัวเองด้วย
“ปลูกดอกไม้ดีมั้ยคะ เมื่อวานคุณลุงนายกเอาเมล็ดมาให้เยอะแยะเลยค่ะ”
เลซี่..เด็กสาวที่เป็นหัวหน้าห้องพูดขึ้น เด็กคนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่
แต่ก็คนละแบบกับอาโออิ รายนั้นดูโผงผางเหมือนลูกพี่ในหนังมาเฟียอะไรเทือกนั้นมากกว่า
“เอาซิ วันนี้แดดไม่ค่อยร้อนด้วย
งั้นทุกคนช่วยกันเตรียมอุปกรณ์แล้วออกไปที่แปลงปลูกกันนะ”
แล้ววันนั้นทั้งวันของพวกเขาก็หมดไปกับการปลูกดอกไม้หลากหลายพันธุ์
เด็กๆทุกคนดูตื่นเต้นตอนที่เขาเอารูปดอกไม้ตอนโตมาให้ดู โดยเฉพาะคุมะ
หมอนี่ตาเป็นประกายและดูมีความสุขสุดๆเลย
เฟยถึงกับได้ยินเขาฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดีตอนแอบไปยืนข้างหลัง
แต่พอหมอนั่นเห็นเข้าก็ชะงัก หน้าแดงแล้ววิ่งปรูดไปหาอาโออิ เลยโดยดุไปอีกรอบ
แล้ววันแรกของเขาก็จบลงอย่างไม่แย่นัก ถ้าไม่นับเรื่องที่คุมะยังวิ่งหนีเขาทุกรอบ
กับเจ้าซีแล้วก็ทรีสองแสบที่ขยันหาเรื่องมาแกล้งเขาอยู่ตลอดนั่นละก็นะ...
เขาตื่นมาทำงานในเช้าอีกวันด้วยอามรณ์แจ่มใส
วันนี้จะมีเด็กย้ายเข้ามาอีกหนึ่งคน หวังว่าจะเป็นเด็กน่ารัก ดูแลง่ายนะ
เฟยคิดขณะเดินไปที่ห้องพักครูก่อน
ที่นั่นเขาเจอชายคนหนึ่งที่น่าจะแก่กว่าเขาไม่เท่าไหร่กำลังยืนคุยกับนายกอยู่
ข้างๆกันมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กผมสีแดงสวยยืนเกาะขาเขาอยู่...นักเรียนใหม่ของเขารึเปล่านะ..เฟยคิดพอดีกับที่นายกหันมาเจอเขาพอดี
“อ้าว...นี่ไง คณูเฟยมาพอดี
คนนี้คือคุณโอเดอร์เป็นผู้ปกครองของหนูไอริณ นักเรียนใหม่ของนาย...คุณโอเดอร์ครับคนนี้คือครูเฟยที่ผมเพิ่งเล่าให้ฟังเมื่อวักครู่นี้”
นายกแนะนำพวกเขาอย่างง่ายๆ เฟยก้มหัวทักทายโอเดอร์
ก่อนจะหันไปยิ้มให้เด็กหญิงที่เอาแต่หลบอยู่ข้างหลังคุณพ่อ
“ถ้างั้น เราไปที่ห้องเรียนกันเลยมั้ยครับ ได้เวลาโฮมรูมพอดี” เขาบอก
ก่อนจะย่อตัวลงไปคุยกับเด็กหญิง
“ไปกับพี่นะคะ...ที่ห้องมีเพื่อนๆรอเราอยู่เต็มเลยนะ”
เขาชวนคุยพลางยิ้มให้เธอ ก่อนที่เด็กน้อยจะพยักหน้าเบาๆ
ด้วยสีหน้าที่ยังคงนิ่งสนิท เฟยไม่ได้ว่าอะไรกับปฏิกิริยานั้น
แต่เดินนำออกไปยังห้องพระอาทิตย์แทน
เขาเปิดประตูนำเข้าไป ก่อนจะเอ่ยทักทายเด็กๆ
“อรุณสวัสดิ์ทุกคน”
“อรุณสวัสดิ์ครับ/ค่ะ ครูพี่เฟย” เด็กๆส่งเสียงทักทายกลับมาอย่างสดใส
ทำเอาเขาอดยิ้มน้อยๆไมได้
“วันนี้เราจะมีเพื่อนใหม่หนึ่งคนนะ..”
“น่ารักมั้ยครับ” เจ้าทรียกมือถาม
“นายรู้เหรอว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” เฟยเลิกคิ้วถามเจ้าเด็กป่วน
“ไม่รู้อะ แต่เซ้นส์ผมบอกว่าต้องน่ารักแน่ๆ”
เจ้าตัวว่าอย่างนั้นด้วยสีหน้ามุ่งมั่น จนเฟยหัวเราะ ก่อนจะเปิดไปเปิดประตูให้ไอริณเข้ามา
“แนะนำตัวให้เพื่อนๆรู้จักหน่อยค่ะ” เฟยย่อตัวลงไปนั่งพลางหันไปบอกเด็กสาว
“....ไอริณ....”เสียงเล็กพูดออกมาเสียงเบา แล้วไม่ได้พูโอะไรต่อ
มือทั้งสองข้างของเธอกำชายเสื้อแน่นอย่างคนประหม่า เฟยยิ้มบางๆ
ก่อนจะหันไปหาเด็กๆคนอื่น
“รู้จักเพื่อนแล้วนะ...ต่อไปนี้ไอริณจะมาเรียนกับพวกเรา สนิทกันไว้ล่ะ
ไปนั่งข้างๆเด็กผมทองตรงนั้นนะ...อาโออิขยับให้เพื่อนนั่งหน่อยค่ะ”
เขาแนะนำไอริณอีกครั้งก่อนจะบอกให้เธอไปนั่งข้างอาโออิที่ชูไม้ชูมืออย่างตื่นเต้น
“เอาล่ะ....วันนี้เรา....”
.
.
แล้ววันเวลาก็ผ่านไป
ตั้งแต่วันแรกตอนนี้ก็เกือบปีแล้วที่เฟยได้มาสอนที่นี่
เด็กๆทุกคนเปิดใจให้เขามากขึ้น สนิทกันมากขึ้น แต่ก็มีบ้างที่มีปัญหา
เขาก็ต้องค่อยๆบอก ค่อยๆสอนไป อย่างตอนนี้....
เด็กชายผมแดงหน้าตาและตัวเขียวช้ำยืนตาแดงก้มหน้าอยู่ตรงหน้าเขา
หลายครั้งแล้วที่เขาเห็นคุมะสภาพนี้
ข้างๆกันก็มีอาโออิที่เลือดกำเดาไหลต้องเอากระดาษทิชชู่อุดไว้กำลังบ่นเด็กชายอยู่...เหมือนเดิม
คุมะขี้อาย ขี้แย ไม่ค่อยสู้คน เลยโดนเด็กคนอื่นๆแกล้งบ่อย แล้วก็มีลูกพี่อย่างอาโออินี่แหละคอยปกป้องพร้อมกับมานั่งบ่นตามหลังเสมอ
ตลอดเกือบปีมานี่เฟยเจอเหตุการณ์แบบนี้อยู่หลายครั้ง
แรกๆก็ว่าเด็กๆเล่นกันไม่มีอะไร
แต่พอเห็นร่องรอยตามตัวก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว
วันนี้เขาจึงตัดสินใจพูดกับเด็กชายจริงๆจังๆ
เฟยย่อตัวลงนั่งขัดสมาธิจนความสูงอยู่ระดับไล่เลี่ยกับเด็กๆ
เขามองหน้าคุมะแปบนึงก่อนจะพูดออกไป
“รู้รึเปล่า...เป็นลูกผู้ชายสิ่งสำคัญคืออะไร”
เด็กชายเงยหน้ามองเขาก่อนจะก้มเหมือนเดิมไม่ตอบอะไร
“สิ่งสำคัญก็คือการที่เราต้องปกป้องสิ่งสำคัญของเราให้ได้ไง...ถ้ารู้ตัวว่าอ่อนแอก็ต้องทำตัวให้เข้มแข็งขึ้นเพื่อที่จะได้ปกป้องได้...ดูซิ
อาโออิต้องเจ็บตัวเพราะนายกี่ครั้ง เพื่อนเป็นผู้หญิง เป็นคนสำคัญของนาย
นายไม่อยากปกป้องเธอบ้างเหรอ ฮึ?” เฟยพูดพลางมองหน้าเด็กชายที่เริ่มมีน้ำตารื้นๆ
ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มสะอื้น
“ย...อยากครับ ต...แต่ผมไม่ ก..กล้า”
เด็กชายพยายามพูโขณะที่สะอื้นไปด้วย
“นายไม่ได้ไม่กล้า...นายก็แค่กลัว เพราะนายรู้ว่าตัวเองตอนนี้มันห่วย
ทิ้งความกลัวพวกนั้นไปซะแล้วฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเธอซิ
ต่อไปใครมาหาเรื่องก็ตั๊นหน้ามันเข้าไปเลย” เขาสอนอีกฝ่ายที่ยังสะอื้นอยู่
“ผม...ท ทำได้เหรอ” เด็กชายเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาที่ดูลังเล
“ได้ซิ ที่สำคัญคือตรงนี้” เขาเอานิ้วไปจิ้มบนหน้าอกอีกฝ่าย “หัวใจ...ถ้าใจนายบอกว่าทำได้
บอกว่าอยากปกป้อง บอกว่าไม่อยากยอมแพ้ มันก็จะทำให้นายแข็งแกร่งขึ้น เข้าใจมั้ย”
เขาถาม ก่อนที่คุมะจะพยักหน้าช้าๆ
“ดีมาก...เอาล่ะเราไปทำแผลกันดีกว่า
เนี่ยน้า...งบห้องพยาบาลหมดเพราะพวกเธอแน่ๆเลย” เขาแซวเด็กทั้งสองอย่างขำๆ ขณะทำแผลให้ทั้งคู่
พลางมองหน้าเด็กชาย...เขาหวังว่าต่อไปคุมะจะเข้มแข็งขึ้นได้จริงๆละนะ
“เอ้า...กลับบ้านได้ แล้วอย่าลืมเอาการบ้านพรุ่งนี้มาส่งด้วยล่ะ”
เขายืนส่งเด็กทั้งสองคน ก่อนจะเอ่ยเตือนถึงเรียงความเรื่อง “ความฝันในอนาคต”
ที่ต้องส่งพรุ่งนี้
เช้าวันต่อมา
เฟยมาทำงานที่โรงเรียนเป็นปกติ
แต่วันนี้ที่ไม่ปกติคือเขาเพิ่งได้รับข่าวเรียกตัวกลับไปช่วยงานจากที่บ้าน
วันนี้ในกระเป๋าเขาจึงมีจดหมายลาออกอยู่
เฟยถอนใจเบาๆเมื่อนึกถึงบรรดาเด็กๆภายในห้อง...จะบอกยังไงดีล่ะเนี่ย..ช่างก่อนละกัน
เขาเข้าไปจัดการเรื่องใบลาออกจนเสร็จเรียบร้อย
ก่อนจะเดินไปสอนที่ห้องเหมือนปกติ
“อรุณสวัสดิ์ทุกคน...”เขาทักทุกคนด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นปกติ
“อรุณสวัสดิ์ครับ/ค่ะ ครูพี่เฟย” ทุกคนส่งเสียงตอบกลับมา
เวลาเกือบปีนี่นานจริงๆ เด็กๆทุกคนค่อยๆโตขึ้นๆ จนเขาเองยังแปลกใจ
อย่างไอริณที่ตอนแรกไม่ยอมพูดยอมจากับใคร ตอนนี้ก็เริ่มพูดคุยมากขึ้น
ถึงจะเข้าถึงยากและออกแนวซึนเดเระไปหน่อย แต่เฟยก็คิดว่าไมได้เสียหายอะไร
หรืออาโออิกับเลซี่ที่ดูใจเย็นและมีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
คุมะเองก็พูดเยอะขึ้น หัวเราะได้บ่อยขึ้น
และคงเข้มแข็งขึ้นในเร็ววันนี้...เสียดายที่เขาคงไมได้เห็น
เฟยออกจากภวังค์ความคิดของตนเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าเด็กๆกำลังมองเขาอย่างงๆ
“เอาล่ะ...วันนี้ส่งเรียงความนะ พี่จะให้ออกมาอ่านทีละคนนะ
เรียงตามความสมัครใจเลย...แต่ยิ่งออกช้าระวังขนมจะหมดก่อนา..”
เขาเอาขนมมาล่อเพื่อให้เด็กๆมีความกล้าที่จะออกมาพูดมากขึ้น
“หนูขอก่อนค่ะ” เลซี่พูดขึ้น
“เอาเลยค่ะ..”เฟยพยักหน้าให้เธอ ก่อนที่เด็กสาวผมยาวที่มีเค้าความสวยแต่เด็กจะเดินออกมาด้านหน้าอย่างมั่นใจ
“ความฝันของหนูคือการที่โตไปแล้วจะกลับมาช่วยพัฒนาเมืองนี้ให้ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ
เพราะว่าหนูรักเมืองนี้มาก หนูอยากให้ทุกคนที่หนูรักมีชีวิตที่ดี สุขภาพดี
อยู่ที่นี่อย่างมีความสุขค่ะ......ขอบคุณค่ะ” เลซี่อ่านเรียงความจนจบ
พร้อมกับเสียงปรบมือรอบห้อง ก่อนที่อาโออิจะออกมาอ่านต่อ
“ความฝันของหนูคือการได้อยู่กับคนที่หนูรักอย่างมีความสุขค่ะ......ขอบคุณค่ะ”
และอีกเช่นกัน เมืออาโออิอ่านจบก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมือ
ทุกคนออกมาเล่าความฝันของตนเองต่างคนต่างก็มีความฝันที่อยากทำ อย่าเจ้าซีที่บอกว่าอยากเป็นเจ้าแห่งท้องทะเล
โคลที่อยากอยู่ในที่ที่มีของกินอร่อยๆตลอดเวลา แกนนอนอยากเป็นนักดนตรี
หรือเมเบิ้ลที่อยากเป็นดีไซน์เนอร์ ตอนนี้เหลือแค่คุมะกับไอริณที่ยังไม่ได้ออกมา
ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนที่เด็กหญิงจะเดินออกมาก่อน
“ความฝันของหนู...คือการได้ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆทั่วโลกค่ะ....ขอบคุณค่ะ”
ไอริณอ่านจบและก้มหัวน้อยๆ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน
ก่อนที่คุมะที่เริ่มหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆจะโดนอาโออิดึงให้ลุกแล้วดันออกไปยืนด้านหน้า
“ค...ความฝันของผม...ค..คือ...ผ...ผมอยากแข็งแกร่งมากๆ
เพื่อที่จะ...ส..สามารถป..ปกป้องคนสำคัญของผมได้ครับ..จบแล้วครับ”
เป็นเรียงความที่สั้นที่สุดของวันนี้จนแทบจะเรียกว่าเรียงความไมได้
แต่เฟยก็ไมได้ว่าอะไร เขาปรบมือไปพร้อมกับทุกคนก่อนจะลุกแล้วเดินไปกลางวงเด็กๆ
แล้วนั่งตรงที่ว่าง
“เอาล่ะ...ทุกคนฟังพี่นะ พี่ให้ทุกคนเขียนเรื่องความฝัน
เพราะอยากให้ทุกคนมีเป้าหมาย อยากให้พวกเรารู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร...ตอนนี้พวกเรายังเด็ก
ในอนาคตความฝันในมือพวกเราอาจจะเปลี่ยนไปหรือไม่เปลี่ยนพี่ก็ไม่รู้
แต่ที่พี่อยากจะบอกก็คือ ในเมื่อเราฝันแล้ว อย่าทำให้มันเป็นแค่ฝัน
เราต้องหาทางทำให้มันสำเร็จด้วย แล้ววันนึงในสิบปีข้างหน้า
ยี่สิบปีข้างหน้าเมื่อเรากลับมาเจอกระดาษแผ่นเนี้ย เราก็จะได้รู้ว่าเฮ้ย
เมื่อก่อนเราคิดแบบนี้เหรอ หรือ
ในที่สุดเราก็ทำตามความฝันได้แล้วนะ....พี่อยู่กับพวกเรามาเกือบปี
เห็นการเติบโตของทุกคนเลย และพี่ก็หวังว่าต่อไป พวกเราจะเติบโตขึ้นไปอีก
โตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นคนที่ดูแลคนสำคัญได้ เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ
เป็นคนที่มีความสุข พี่จะรอดูความสำเร็จของพวกเรานะ...” เขามองหน้าเด็กๆทีละคน
เขาไม่รู้หรอกว่าเด็กๆจะได้รับสารที่เขาต้องการสื่อไปมากน้อยแค่ไหน
แต่เขาบอกกันว่าเด็กก็เหมือนผ้าขาว ที่เราจะย้อมเป็นสีอะไรก็ง่ายนิดเดียว
เขาไมได้อยากย้อมสีให้เด็กพวกนี้ แต่เขาอยากให้เด็กพวกนี้รู้ว่าตัวเองควรจะย้อมสีอะไรและมีพลังมากพอที่จะทำให้ตัวเองเป็นแบบนั้นมากกว่า
เด็กๆนั่งตาแป๋วมองเขา ก่อนที่เฟยจะสูดหายใจลึกๆเพื่อพูดเรื่องสำคัญ
“...พี่คงไม่ได้อยู่สอนอยู่เล่นกับพวกเราแล้วนะ....”
“เอ๋....” เสียงเด็กๆประสานกันเสียงดัง
ขณะที่คุมะเริ่มทำตาแดงๆและเตรียมสะอื้น เด็กผู้หญิงหลายๆคนก็เหมือนกัน เขารีบพูดต่อก่อนสถานการณ์จะยิ่งบานปลายกว่านี้
“พี่เองก็มีสิ่งที่สำคัญมากกว่าความฝันที่พี่ต้องทำ
เอาไว้ซักวันนึงถ้าหากเราได้พบกันใหม่ก็อย่าลืมเดินเข้ามาหาแล้วบอกพี่ด้วยนะว่าความฝันของพวกเราเป็นจริงรึยัง..ไม่ว่าพี่จะอยู่ที่ไหนพี่ก็จะเป็นกำลังใจให้พวกเราเสมอนะ”
เฟยบอกก่อนที่เด็กๆ จะโถมตัวเข้ามาหาเขาจนเขาล้มไปนอนกองกับพื้น
พลางเอื้อมมือกอดทุกคนเท่าที่จะทำได้
เย็นวันนั้นเด็กๆห้องพระอาทิตย์ต่างมายืนส่งเขาขึ้นรถเมล์
ทุกคนมองเขาตาละห้อยเขายิ้มบางๆก่อนจะปรบมือเสียงดัง 1 ที
“เอ้า! อยู่ห้องพระอาทิตย์ทั้งทีอย่าทำหน้าเป็นหมาหงอยซิ
ไว้มีโอกาส...หวังว่าพวกเราจะได้เจอกันนะ บ๊ายบาย”
เฟยบอกก่อนจะโบกมือแล้วเดินขึ้นรถไป
ก่อนจะชะโงกหน้าออกมาบ๊ายบายๆเด็กๆ เขาเห็นคุมะร้องไห้ แต่คราวนี้อาโออิไม่ได้ดุอีกฝ่ายเพราะเธอเองก็ยืนร้องอยู่ข้างๆกัน
เห็นเลซี่ยืนปลอบยูอิ เห็นทรีกับซีที่ยืนมองเขานิ่งๆ
แต่ตาของเจ้าพวกนั้นก็ดูเศร้าๆเหมือนกัน
เห็นไอริณที่ยืนตาแดงๆ...งแม้แต่เด็กคนนี้ก็ยังร้องไห้เพราะเขา
จะว่าโชคดีหรือโชคร้ายดีนะเฟย เขามองภาพเด็กๆในอิริยาบทที่แตกต่างกันก่อนที่ตัวรถจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป
โดยที่เขาก็ยังมองจุดจุดเดิมอยู่จนเด็กลับสายตาไปจึงกลับมานั่งปกติ....ลาก่อนนะ...
---แถม---
20 ปี ต่อมา
ชายหนุ่มวัยกลางคนก้าวเท้าลงจากรถเมล์
สายตาที่คมขึ้นเพราะผ่านอะไรหลายๆอย่างในชีวิต แต่หลังใช้เวลาหลายปีในที่สุดอิสระก็กลับมาหาเขาอีกครั้ง
เขาเดินทางกลับมาที่เดิมๆที่มีความทรงจำดีๆฝังตัวอยู่
....เจ้าเด็กพวกนั้น...ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง...
เขาเดินก้าวยาวๆตามนิสัยไปตามทางเดินเข้าสู่หมู่บ้าน
ท่าทางวันนี้จะมีงานอะไรซักอย่างถึงได้บรรยากาศดูคึกคักๆ ปนหวานแหวนแบบนี้
เขาเดินเข้าไปหาคนแถวนั้นก่อนถาม
“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าวันนี้มีงานอะไรเหรอครับ”
“อ๋อ...ก็วันนี้วันแต่งงานของไอ้หนุ่มทรีกับหนูไอริณน่ะซิ
งานจัดที่โบสถ์โน่นแน่ะ”
เขาเบิกตากว้าง ก่อนจะกล่าวขอบคุณคนคนนั้นลวกๆ
แล้วเดินมุ่งหน้าไปที่โบสถ์....ไอ้เด็กนั่น...
บรรยากาศที่โบสถ์ดูเต็มไปด้วยความสุข มีคนที่เขาคุ้นหน้าหลายคนเลย โน่นเจ้าซีกับ..คุณหนูคนนั้นใครกัน
แต่ทั้งสองก็ดูสนิทกันดีอาจจะเป็นคนรักของหมอนั่นก็ได้... ส่วนโน่นอาโออิกับ...ไอ้หมีนั่นมันใคร...เขาเห็นทั้งสองคนโต้เถียงกันไปมา...รึจะเป็นคุมะ?..เขาเดินเข้าไปใกล้ทั้งสองคนแต่ยังไม่ทันทำอะไรบ่าวสาวก็ออกมาซะก่อนทรีกับไอริณโตกว่าในความทรงจำของเขามาก
ทุกคนก็ด้วย เขายืนมองเจ้าสาวโยนช่อดอกไม้แล้วคุณหนูที่มากับซีรับได้
เขาเห็นซีทำหน้าเหวอ ก่อนจะยกตัวคุณหนูคนนั้นอุ้มจนตัวลอยแล้วจับหมุนไปรอบๆ...มันดีใจใช่มั้ยนั่น
เขาเห็นบ่าวสาวยืนคุยกับบรรดาเพื่อนๆซึ่งก็คือเด็กๆที่เขาเคยสอน จึงยิ้มออกมาน้อยๆ
แล้วเดินเข้าไปหา
“ไง....ไอ้แสบ...ทำตามความฝันสำเร็จแล้วนี่..” เขาเดินเข้าไปตบบ่าเจ้าบ่าวไม่เบานัก พลางส่งยิ้มกวนๆไปให้ ก่อนที่คนทั้งกลุ่มจะกันมามองอย่างสงสัยว่าไอ้หมอนี่ใคร ก่อนที่เจ้าสาวจะค่อยๆ
เบิกตาขึ้น แล้วเอามือชี้หน้าเขา
“...ฟ...” พอดีกับที่คนอื่นๆ มีปฏิกิริยาต่อกันเป็นลูกโซ่
“ครูพี่เฟยยยย!!!!”
เอวัง....
ความคิดเห็น