ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Warehouse] คลังเก็บของของข้า

    ลำดับตอนที่ #8 : City of DREAM [RP]---[Event]The Little Dream

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 60


    ...ถึงซะที...

    ชายหนุ่มร่างสูงมองประตูทางเข้าโรงเรียนอนุบาลข้างหน้าพร้อมรอยยิ้มบางๆประดับบนใบหน้า

    วันนี้จะเป็นวันที่เขาเริ่มทำงานในฐานะครูโรงเรียนอนุบาลวันแรก หลังจากที่เพิ่งย้ายมาเมืองนี้ได้ไม่กี่วัน

    งานในฐานะครูก็ดูน่าท้าทายดี ได้สอนเด็กน้อยตัวเล็กๆ คอยเฝ้ามองเขาเติบโต ก็ดูเป็นประสบการณ์ที่ไม่เลวเหมือนกัน

    เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเด็กๆฟังดูมีชีวิตชีวา เขาสาวเท้าเดินเข้าไปด้านใน ตั้งใจว่าจะไปหาครูใหญ่หรือใครซักคนที่เขาสามารถแนะนำตัวได้

    “ขอโทษครับ...ผมเป็นครูคนใหม่จะมาเริ่มงานวันนี้ครับ” เขาก้าวเข้าไปที่ห้องพักครูที่มีคนนั่งอยู่ไม่กี่คน ก่อนจะเริ่มต้นแนะนำตัว

    “โอ้....มาแล้วเรอะๆ ดีเลย..เดี๋ยวไปที่ห้องด้วยกันเลยนะ ฉันเป็นนายกของเมืองนี้ ที่นี่เป็นเมืองเล็กๆน่ะ ทุกคนก็ช่วยๆกันทำงาน” ชายคนที่บอกว่าเป็นนายกก้าวเข้ามาหาเขาก่อนจะตบหลังเขาเบาๆสองสามที แล้วพาเขาเดินไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยห้องต่างๆเรียงกันอยู่ จนมาหยุดยืนอยู่ที่ห้องที่มีป้ายว่า “ห้องพระอาทิตย์”

    “ห้องนี้แหละๆ...เข้ามาๆ....เด็กๆวันนี้ฉันมีครูคนใหม่จะมาแนะนำให้พวกเธอได้รู้จักนะ..”

    นายกหันมาบอกเขา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปหาเด็กๆภายในห้อง เสียงจ๊อกแจ๊กดังขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้ยินว่าจะมีครูมาใหม่ เฟยก้าวเท้าเข้าไปในห้องเรียนที่ประดับตกแต่งไปด้วยบรรดารูปภาพสีสันสดใสที่เดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นฝีมือของเด็กๆ หรือไม่ก็โปสเตอร์หัดเขียนหัดอ่านตัวอักษรหลากหลายแผ่น

    จำนวนเด็กๆในห้องมีไม่มากนัก นับดูคร่าวๆก็คงประมาณ 10 กว่าคนเท่านั้น แล้วยังดูมีหลากหลายวัยซะด้วยซิ แต่ก็อยู่ที่ประมาณ 3-5 ขวบละมั้ง เฟยส่งยิ้มนำไปก่อน ก่อนที่จะเริ่มต้นแนะนำตัว

    “สวัสดีทุกคน พี่ชื่อเฟย ต่อไปนี้จะมาอยู่กับทุกคนนะ...ฝากตัวด้วย” เขาแนะนำตัวสั้นๆ

    “เอ๋...แล้วสรุปเป็นครู หรือเป็นพี่กันแน่ละ..” เด็กหัวชมพูท่าทางซนๆคนหนึ่งพูขึ้นมาพลางเกาหัว ก่อนจะได้เสียงเห็ฯด้วยจากเด็กคนอื่นๆ เฟยหัวเราะกับประโยคไร้เดียงสานั้น ก่อนจะตอบ

    “แล้วพวกเธออยากให้เป็นพี่หรือเป็นครูล่ะ” ทุกคนหันไปมองหน้ากันอย่างขอความเห็นจนเด็กผู้หญิงผมสีทองที่ดูโตเป็นผู้ใหญ่เกินตัวจะพูดขึ้น

    “งั้นก็เป็นครูพี่เฟยไงคะ” เธอบอกแบบนั้น ก่อนจะได้รับเสียงสนับสนุนจากคนอื่นๆ ข้างๆเธอมีเด็กผู้ชายผมสีแดงคนหนึ่งนั่นอยู่ด้วย เด็กคนนั้นสะกิดเธอก่อนจะพูดเสียงเบา “...จะ จะดีเหรออาโออิ..”

    “ทำไมล่ะ ก็พี่เขาให้เราเลือกนี่นา ถ้างั้นก็เป็นสองอย่างเลยไง” เด็กหญิงคนที่ชื่ออาโออิว่า ทำเอาเขายิ้มน้อยๆกับการสนทนานั้น ก่อนจะเดินเข้าไปหาทั้งสองคนแล้วนั่งจนตัวเขาอยู่ในระดับเดียวกับเด็กๆ

    “ได้ซิ...งั้นพี่เป็นครูพี่เฟยละกันเนอะ...อืม..อาโออิจังกับ...” เขาหันไปหาเด็กชายผมแดงเป็นเชิงถาม แต่เด็กคนนี้ก็เอาแต่ก้มหน้าหน้าแดงไม่ตอบเขา

    “ว้าว...พี่รู้ชื่อหนูด้วย หมอนี่ชื่อคุมะค่ะ เขาเงียบๆหน่อย แต่เป็นคนดีมากเลยนะคะ!อาโออิแนะนำเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้ไปหลบอยู่ข้างหลังเธอเป็นที่เรียบร้อย จนเธอหันไปดุเขาเบาๆ เฟยยิ้มก่อนจะเริ่มใต้นทำความรู้จักเด็กๆทีละคน

    “อ้อ...จริงซิครูเฟย พรุ่งนี้จะมีเด็กย้ายเข้ามาที่ห้องนี้หนึ่งคนนะ ฝากดูและด้วยล่ะ พยายามเข้านะ” นายกพูดกับเขาก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เขาอยู่กับบรรดาเด็กๆที่ต้องนี้จ้องเขาเป็นตาเดียว

    “อืม...วันนี้ทำอะไรกันดีละ...อยากทำอะไรกัน” เขาถามความเห็นของเด็กๆ เด็กวัยนี้กำลังอยากรู้อยากลอง การให้เขาได้ลองทำอะไรที่อยากทำจะมีส่วนช่วยในพัฒนาการทั้งด้านสมองและอารมณ์ละนะ และอาจจะทำให้บางคนมีความฝันของตัวเองด้วย

    “ปลูกดอกไม้ดีมั้ยคะ เมื่อวานคุณลุงนายกเอาเมล็ดมาให้เยอะแยะเลยค่ะ” เลซี่..เด็กสาวที่เป็นหัวหน้าห้องพูดขึ้น เด็กคนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็คนละแบบกับอาโออิ รายนั้นดูโผงผางเหมือนลูกพี่ในหนังมาเฟียอะไรเทือกนั้นมากกว่า

    “เอาซิ วันนี้แดดไม่ค่อยร้อนด้วย งั้นทุกคนช่วยกันเตรียมอุปกรณ์แล้วออกไปที่แปลงปลูกกันนะ”

    แล้ววันนั้นทั้งวันของพวกเขาก็หมดไปกับการปลูกดอกไม้หลากหลายพันธุ์ เด็กๆทุกคนดูตื่นเต้นตอนที่เขาเอารูปดอกไม้ตอนโตมาให้ดู โดยเฉพาะคุมะ หมอนี่ตาเป็นประกายและดูมีความสุขสุดๆเลย เฟยถึงกับได้ยินเขาฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดีตอนแอบไปยืนข้างหลัง แต่พอหมอนั่นเห็นเข้าก็ชะงัก หน้าแดงแล้ววิ่งปรูดไปหาอาโออิ เลยโดยดุไปอีกรอบ

    แล้ววันแรกของเขาก็จบลงอย่างไม่แย่นัก ถ้าไม่นับเรื่องที่คุมะยังวิ่งหนีเขาทุกรอบ กับเจ้าซีแล้วก็ทรีสองแสบที่ขยันหาเรื่องมาแกล้งเขาอยู่ตลอดนั่นละก็นะ...

     

    เขาตื่นมาทำงานในเช้าอีกวันด้วยอามรณ์แจ่มใส วันนี้จะมีเด็กย้ายเข้ามาอีกหนึ่งคน หวังว่าจะเป็นเด็กน่ารัก ดูแลง่ายนะ เฟยคิดขณะเดินไปที่ห้องพักครูก่อน ที่นั่นเขาเจอชายคนหนึ่งที่น่าจะแก่กว่าเขาไม่เท่าไหร่กำลังยืนคุยกับนายกอยู่ ข้างๆกันมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กผมสีแดงสวยยืนเกาะขาเขาอยู่...นักเรียนใหม่ของเขารึเปล่านะ..เฟยคิดพอดีกับที่นายกหันมาเจอเขาพอดี

    “อ้าว...นี่ไง คณูเฟยมาพอดี คนนี้คือคุณโอเดอร์เป็นผู้ปกครองของหนูไอริณ นักเรียนใหม่ของนาย...คุณโอเดอร์ครับคนนี้คือครูเฟยที่ผมเพิ่งเล่าให้ฟังเมื่อวักครู่นี้” นายกแนะนำพวกเขาอย่างง่ายๆ เฟยก้มหัวทักทายโอเดอร์ ก่อนจะหันไปยิ้มให้เด็กหญิงที่เอาแต่หลบอยู่ข้างหลังคุณพ่อ

    “ถ้างั้น เราไปที่ห้องเรียนกันเลยมั้ยครับ ได้เวลาโฮมรูมพอดี” เขาบอก ก่อนจะย่อตัวลงไปคุยกับเด็กหญิง

    “ไปกับพี่นะคะ...ที่ห้องมีเพื่อนๆรอเราอยู่เต็มเลยนะ” เขาชวนคุยพลางยิ้มให้เธอ ก่อนที่เด็กน้อยจะพยักหน้าเบาๆ ด้วยสีหน้าที่ยังคงนิ่งสนิท เฟยไม่ได้ว่าอะไรกับปฏิกิริยานั้น แต่เดินนำออกไปยังห้องพระอาทิตย์แทน

    เขาเปิดประตูนำเข้าไป ก่อนจะเอ่ยทักทายเด็กๆ

    “อรุณสวัสดิ์ทุกคน”

    “อรุณสวัสดิ์ครับ/ค่ะ ครูพี่เฟย” เด็กๆส่งเสียงทักทายกลับมาอย่างสดใส ทำเอาเขาอดยิ้มน้อยๆไมได้

    “วันนี้เราจะมีเพื่อนใหม่หนึ่งคนนะ..”

    “น่ารักมั้ยครับ” เจ้าทรียกมือถาม

    “นายรู้เหรอว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” เฟยเลิกคิ้วถามเจ้าเด็กป่วน

    “ไม่รู้อะ แต่เซ้นส์ผมบอกว่าต้องน่ารักแน่ๆ” เจ้าตัวว่าอย่างนั้นด้วยสีหน้ามุ่งมั่น จนเฟยหัวเราะ ก่อนจะเปิดไปเปิดประตูให้ไอริณเข้ามา

    “แนะนำตัวให้เพื่อนๆรู้จักหน่อยค่ะ” เฟยย่อตัวลงไปนั่งพลางหันไปบอกเด็กสาว

    “....ไอริณ....”เสียงเล็กพูดออกมาเสียงเบา แล้วไม่ได้พูโอะไรต่อ มือทั้งสองข้างของเธอกำชายเสื้อแน่นอย่างคนประหม่า เฟยยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปหาเด็กๆคนอื่น

    “รู้จักเพื่อนแล้วนะ...ต่อไปนี้ไอริณจะมาเรียนกับพวกเรา สนิทกันไว้ล่ะ ไปนั่งข้างๆเด็กผมทองตรงนั้นนะ...อาโออิขยับให้เพื่อนนั่งหน่อยค่ะ” เขาแนะนำไอริณอีกครั้งก่อนจะบอกให้เธอไปนั่งข้างอาโออิที่ชูไม้ชูมืออย่างตื่นเต้น

    “เอาล่ะ....วันนี้เรา....”

    .

    .

    แล้ววันเวลาก็ผ่านไป ตั้งแต่วันแรกตอนนี้ก็เกือบปีแล้วที่เฟยได้มาสอนที่นี่ เด็กๆทุกคนเปิดใจให้เขามากขึ้น สนิทกันมากขึ้น แต่ก็มีบ้างที่มีปัญหา เขาก็ต้องค่อยๆบอก ค่อยๆสอนไป อย่างตอนนี้....

    เด็กชายผมแดงหน้าตาและตัวเขียวช้ำยืนตาแดงก้มหน้าอยู่ตรงหน้าเขา หลายครั้งแล้วที่เขาเห็นคุมะสภาพนี้ ข้างๆกันก็มีอาโออิที่เลือดกำเดาไหลต้องเอากระดาษทิชชู่อุดไว้กำลังบ่นเด็กชายอยู่...เหมือนเดิม คุมะขี้อาย ขี้แย ไม่ค่อยสู้คน เลยโดนเด็กคนอื่นๆแกล้งบ่อย แล้วก็มีลูกพี่อย่างอาโออินี่แหละคอยปกป้องพร้อมกับมานั่งบ่นตามหลังเสมอ ตลอดเกือบปีมานี่เฟยเจอเหตุการณ์แบบนี้อยู่หลายครั้ง แรกๆก็ว่าเด็กๆเล่นกันไม่มีอะไร แต่พอเห็นร่องรอยตามตัวก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว วันนี้เขาจึงตัดสินใจพูดกับเด็กชายจริงๆจังๆ

    เฟยย่อตัวลงนั่งขัดสมาธิจนความสูงอยู่ระดับไล่เลี่ยกับเด็กๆ เขามองหน้าคุมะแปบนึงก่อนจะพูดออกไป

    “รู้รึเปล่า...เป็นลูกผู้ชายสิ่งสำคัญคืออะไร” เด็กชายเงยหน้ามองเขาก่อนจะก้มเหมือนเดิมไม่ตอบอะไร

    “สิ่งสำคัญก็คือการที่เราต้องปกป้องสิ่งสำคัญของเราให้ได้ไง...ถ้ารู้ตัวว่าอ่อนแอก็ต้องทำตัวให้เข้มแข็งขึ้นเพื่อที่จะได้ปกป้องได้...ดูซิ อาโออิต้องเจ็บตัวเพราะนายกี่ครั้ง เพื่อนเป็นผู้หญิง เป็นคนสำคัญของนาย นายไม่อยากปกป้องเธอบ้างเหรอ ฮึ?” เฟยพูดพลางมองหน้าเด็กชายที่เริ่มมีน้ำตารื้นๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มสะอื้น

    “ย...อยากครับ ต...แต่ผมไม่ ก..กล้า” เด็กชายพยายามพูโขณะที่สะอื้นไปด้วย

    “นายไม่ได้ไม่กล้า...นายก็แค่กลัว เพราะนายรู้ว่าตัวเองตอนนี้มันห่วย ทิ้งความกลัวพวกนั้นไปซะแล้วฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเธอซิ ต่อไปใครมาหาเรื่องก็ตั๊นหน้ามันเข้าไปเลย” เขาสอนอีกฝ่ายที่ยังสะอื้นอยู่

    “ผม...ท ทำได้เหรอ” เด็กชายเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาที่ดูลังเล

    “ได้ซิ ที่สำคัญคือตรงนี้” เขาเอานิ้วไปจิ้มบนหน้าอกอีกฝ่าย “หัวใจ...ถ้าใจนายบอกว่าทำได้ บอกว่าอยากปกป้อง บอกว่าไม่อยากยอมแพ้ มันก็จะทำให้นายแข็งแกร่งขึ้น เข้าใจมั้ย” เขาถาม ก่อนที่คุมะจะพยักหน้าช้าๆ

    “ดีมาก...เอาล่ะเราไปทำแผลกันดีกว่า เนี่ยน้า...งบห้องพยาบาลหมดเพราะพวกเธอแน่ๆเลย” เขาแซวเด็กทั้งสองอย่างขำๆ ขณะทำแผลให้ทั้งคู่ พลางมองหน้าเด็กชาย...เขาหวังว่าต่อไปคุมะจะเข้มแข็งขึ้นได้จริงๆละนะ

    “เอ้า...กลับบ้านได้ แล้วอย่าลืมเอาการบ้านพรุ่งนี้มาส่งด้วยล่ะ” เขายืนส่งเด็กทั้งสองคน ก่อนจะเอ่ยเตือนถึงเรียงความเรื่อง “ความฝันในอนาคต” ที่ต้องส่งพรุ่งนี้

     

    เช้าวันต่อมา

    เฟยมาทำงานที่โรงเรียนเป็นปกติ แต่วันนี้ที่ไม่ปกติคือเขาเพิ่งได้รับข่าวเรียกตัวกลับไปช่วยงานจากที่บ้าน วันนี้ในกระเป๋าเขาจึงมีจดหมายลาออกอยู่ เฟยถอนใจเบาๆเมื่อนึกถึงบรรดาเด็กๆภายในห้อง...จะบอกยังไงดีล่ะเนี่ย..ช่างก่อนละกัน

    เขาเข้าไปจัดการเรื่องใบลาออกจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเดินไปสอนที่ห้องเหมือนปกติ

    “อรุณสวัสดิ์ทุกคน...”เขาทักทุกคนด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นปกติ

    “อรุณสวัสดิ์ครับ/ค่ะ ครูพี่เฟย” ทุกคนส่งเสียงตอบกลับมา เวลาเกือบปีนี่นานจริงๆ เด็กๆทุกคนค่อยๆโตขึ้นๆ จนเขาเองยังแปลกใจ อย่างไอริณที่ตอนแรกไม่ยอมพูดยอมจากับใคร ตอนนี้ก็เริ่มพูดคุยมากขึ้น ถึงจะเข้าถึงยากและออกแนวซึนเดเระไปหน่อย แต่เฟยก็คิดว่าไมได้เสียหายอะไร หรืออาโออิกับเลซี่ที่ดูใจเย็นและมีความคิดเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คุมะเองก็พูดเยอะขึ้น หัวเราะได้บ่อยขึ้น และคงเข้มแข็งขึ้นในเร็ววันนี้...เสียดายที่เขาคงไมได้เห็น เฟยออกจากภวังค์ความคิดของตนเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าเด็กๆกำลังมองเขาอย่างงๆ

    เอาล่ะ...วันนี้ส่งเรียงความนะ พี่จะให้ออกมาอ่านทีละคนนะ เรียงตามความสมัครใจเลย...แต่ยิ่งออกช้าระวังขนมจะหมดก่อนา..” เขาเอาขนมมาล่อเพื่อให้เด็กๆมีความกล้าที่จะออกมาพูดมากขึ้น

    “หนูขอก่อนค่ะ” เลซี่พูดขึ้น

    “เอาเลยค่ะ..”เฟยพยักหน้าให้เธอ ก่อนที่เด็กสาวผมยาวที่มีเค้าความสวยแต่เด็กจะเดินออกมาด้านหน้าอย่างมั่นใจ

    “ความฝันของหนูคือการที่โตไปแล้วจะกลับมาช่วยพัฒนาเมืองนี้ให้ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ เพราะว่าหนูรักเมืองนี้มาก หนูอยากให้ทุกคนที่หนูรักมีชีวิตที่ดี สุขภาพดี อยู่ที่นี่อย่างมีความสุขค่ะ......ขอบคุณค่ะ” เลซี่อ่านเรียงความจนจบ พร้อมกับเสียงปรบมือรอบห้อง ก่อนที่อาโออิจะออกมาอ่านต่อ

    “ความฝันของหนูคือการได้อยู่กับคนที่หนูรักอย่างมีความสุขค่ะ......ขอบคุณค่ะ” และอีกเช่นกัน เมืออาโออิอ่านจบก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมือ ทุกคนออกมาเล่าความฝันของตนเองต่างคนต่างก็มีความฝันที่อยากทำ อย่าเจ้าซีที่บอกว่าอยากเป็นเจ้าแห่งท้องทะเล โคลที่อยากอยู่ในที่ที่มีของกินอร่อยๆตลอดเวลา แกนนอนอยากเป็นนักดนตรี หรือเมเบิ้ลที่อยากเป็นดีไซน์เนอร์ ตอนนี้เหลือแค่คุมะกับไอริณที่ยังไม่ได้ออกมา ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนที่เด็กหญิงจะเดินออกมาก่อน

    “ความฝันของหนู...คือการได้ไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆทั่วโลกค่ะ....ขอบคุณค่ะ” ไอริณอ่านจบและก้มหัวน้อยๆ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน ก่อนที่คุมะที่เริ่มหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆจะโดนอาโออิดึงให้ลุกแล้วดันออกไปยืนด้านหน้า

    “ค...ความฝันของผม...ค..คือ...ผ...ผมอยากแข็งแกร่งมากๆ เพื่อที่จะ...ส..สามารถป..ปกป้องคนสำคัญของผมได้ครับ..จบแล้วครับ” เป็นเรียงความที่สั้นที่สุดของวันนี้จนแทบจะเรียกว่าเรียงความไมได้ แต่เฟยก็ไมได้ว่าอะไร เขาปรบมือไปพร้อมกับทุกคนก่อนจะลุกแล้วเดินไปกลางวงเด็กๆ แล้วนั่งตรงที่ว่าง

    “เอาล่ะ...ทุกคนฟังพี่นะ พี่ให้ทุกคนเขียนเรื่องความฝัน เพราะอยากให้ทุกคนมีเป้าหมาย อยากให้พวกเรารู้ว่าตัวเองชอบอะไร อยากทำอะไร...ตอนนี้พวกเรายังเด็ก ในอนาคตความฝันในมือพวกเราอาจจะเปลี่ยนไปหรือไม่เปลี่ยนพี่ก็ไม่รู้ แต่ที่พี่อยากจะบอกก็คือ ในเมื่อเราฝันแล้ว อย่าทำให้มันเป็นแค่ฝัน เราต้องหาทางทำให้มันสำเร็จด้วย แล้ววันนึงในสิบปีข้างหน้า ยี่สิบปีข้างหน้าเมื่อเรากลับมาเจอกระดาษแผ่นเนี้ย เราก็จะได้รู้ว่าเฮ้ย เมื่อก่อนเราคิดแบบนี้เหรอ หรือ ในที่สุดเราก็ทำตามความฝันได้แล้วนะ....พี่อยู่กับพวกเรามาเกือบปี เห็นการเติบโตของทุกคนเลย และพี่ก็หวังว่าต่อไป พวกเราจะเติบโตขึ้นไปอีก โตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เป็นคนที่ดูแลคนสำคัญได้ เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ เป็นคนที่มีความสุข พี่จะรอดูความสำเร็จของพวกเรานะ...” เขามองหน้าเด็กๆทีละคน เขาไม่รู้หรอกว่าเด็กๆจะได้รับสารที่เขาต้องการสื่อไปมากน้อยแค่ไหน แต่เขาบอกกันว่าเด็กก็เหมือนผ้าขาว ที่เราจะย้อมเป็นสีอะไรก็ง่ายนิดเดียว เขาไมได้อยากย้อมสีให้เด็กพวกนี้ แต่เขาอยากให้เด็กพวกนี้รู้ว่าตัวเองควรจะย้อมสีอะไรและมีพลังมากพอที่จะทำให้ตัวเองเป็นแบบนั้นมากกว่า

    เด็กๆนั่งตาแป๋วมองเขา ก่อนที่เฟยจะสูดหายใจลึกๆเพื่อพูดเรื่องสำคัญ

    “...พี่คงไม่ได้อยู่สอนอยู่เล่นกับพวกเราแล้วนะ....”

    “เอ๋....” เสียงเด็กๆประสานกันเสียงดัง ขณะที่คุมะเริ่มทำตาแดงๆและเตรียมสะอื้น เด็กผู้หญิงหลายๆคนก็เหมือนกัน เขารีบพูดต่อก่อนสถานการณ์จะยิ่งบานปลายกว่านี้

    “พี่เองก็มีสิ่งที่สำคัญมากกว่าความฝันที่พี่ต้องทำ เอาไว้ซักวันนึงถ้าหากเราได้พบกันใหม่ก็อย่าลืมเดินเข้ามาหาแล้วบอกพี่ด้วยนะว่าความฝันของพวกเราเป็นจริงรึยัง..ไม่ว่าพี่จะอยู่ที่ไหนพี่ก็จะเป็นกำลังใจให้พวกเราเสมอนะ” เฟยบอกก่อนที่เด็กๆ จะโถมตัวเข้ามาหาเขาจนเขาล้มไปนอนกองกับพื้น พลางเอื้อมมือกอดทุกคนเท่าที่จะทำได้

    เย็นวันนั้นเด็กๆห้องพระอาทิตย์ต่างมายืนส่งเขาขึ้นรถเมล์ ทุกคนมองเขาตาละห้อยเขายิ้มบางๆก่อนจะปรบมือเสียงดัง 1 ที

    “เอ้า! อยู่ห้องพระอาทิตย์ทั้งทีอย่าทำหน้าเป็นหมาหงอยซิ ไว้มีโอกาส...หวังว่าพวกเราจะได้เจอกันนะ บ๊ายบาย”

    เฟยบอกก่อนจะโบกมือแล้วเดินขึ้นรถไป ก่อนจะชะโงกหน้าออกมาบ๊ายบายๆเด็กๆ เขาเห็นคุมะร้องไห้ แต่คราวนี้อาโออิไม่ได้ดุอีกฝ่ายเพราะเธอเองก็ยืนร้องอยู่ข้างๆกัน เห็นเลซี่ยืนปลอบยูอิ เห็นทรีกับซีที่ยืนมองเขานิ่งๆ แต่ตาของเจ้าพวกนั้นก็ดูเศร้าๆเหมือนกัน เห็นไอริณที่ยืนตาแดงๆ...งแม้แต่เด็กคนนี้ก็ยังร้องไห้เพราะเขา จะว่าโชคดีหรือโชคร้ายดีนะเฟย เขามองภาพเด็กๆในอิริยาบทที่แตกต่างกันก่อนที่ตัวรถจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป โดยที่เขาก็ยังมองจุดจุดเดิมอยู่จนเด็กลับสายตาไปจึงกลับมานั่งปกติ....ลาก่อนนะ...

     

    ---แถม---

    20 ปี ต่อมา

    ชายหนุ่มวัยกลางคนก้าวเท้าลงจากรถเมล์ สายตาที่คมขึ้นเพราะผ่านอะไรหลายๆอย่างในชีวิต แต่หลังใช้เวลาหลายปีในที่สุดอิสระก็กลับมาหาเขาอีกครั้ง เขาเดินทางกลับมาที่เดิมๆที่มีความทรงจำดีๆฝังตัวอยู่

    ....เจ้าเด็กพวกนั้น...ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง...

    เขาเดินก้าวยาวๆตามนิสัยไปตามทางเดินเข้าสู่หมู่บ้าน ท่าทางวันนี้จะมีงานอะไรซักอย่างถึงได้บรรยากาศดูคึกคักๆ ปนหวานแหวนแบบนี้ เขาเดินเข้าไปหาคนแถวนั้นก่อนถาม

    “ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าวันนี้มีงานอะไรเหรอครับ”

    “อ๋อ...ก็วันนี้วันแต่งงานของไอ้หนุ่มทรีกับหนูไอริณน่ะซิ งานจัดที่โบสถ์โน่นแน่ะ”

    เขาเบิกตากว้าง ก่อนจะกล่าวขอบคุณคนคนนั้นลวกๆ แล้วเดินมุ่งหน้าไปที่โบสถ์....ไอ้เด็กนั่น...

    บรรยากาศที่โบสถ์ดูเต็มไปด้วยความสุข มีคนที่เขาคุ้นหน้าหลายคนเลย โน่นเจ้าซีกับ..คุณหนูคนนั้นใครกัน แต่ทั้งสองก็ดูสนิทกันดีอาจจะเป็นคนรักของหมอนั่นก็ได้... ส่วนโน่นอาโออิกับ...ไอ้หมีนั่นมันใคร...เขาเห็นทั้งสองคนโต้เถียงกันไปมา...รึจะเป็นคุมะ?..เขาเดินเข้าไปใกล้ทั้งสองคนแต่ยังไม่ทันทำอะไรบ่าวสาวก็ออกมาซะก่อนทรีกับไอริณโตกว่าในความทรงจำของเขามาก ทุกคนก็ด้วย เขายืนมองเจ้าสาวโยนช่อดอกไม้แล้วคุณหนูที่มากับซีรับได้ เขาเห็นซีทำหน้าเหวอ ก่อนจะยกตัวคุณหนูคนนั้นอุ้มจนตัวลอยแล้วจับหมุนไปรอบๆ...มันดีใจใช่มั้ยนั่น เขาเห็นบ่าวสาวยืนคุยกับบรรดาเพื่อนๆซึ่งก็คือเด็กๆที่เขาเคยสอน จึงยิ้มออกมาน้อยๆ แล้วเดินเข้าไปหา

    “ไง....ไอ้แสบ...ทำตามความฝันสำเร็จแล้วนี่..” เขาเดินเข้าไปตบบ่าเจ้าบ่าวไม่เบานัก พลางส่งยิ้มกวนๆไปให้ ก่อนที่คนทั้งกลุ่มจะกันมามองอย่างสงสัยว่าไอ้หมอนี่ใคร ก่อนที่เจ้าสาวจะค่อยๆ เบิกตาขึ้น แล้วเอามือชี้หน้าเขา

    “...ฟ...” พอดีกับที่คนอื่นๆ มีปฏิกิริยาต่อกันเป็นลูกโซ่

    “ครูพี่เฟยยยย!!!!

     

    เอวัง....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×