ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SKKS] GeolRim : Eternal Love [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter : 4

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ย. 55


     
    คนโทน้ำทรงสูงสีขาวขุ่นถูกยกรินน้ำเมรัยลงจอกสีขาว ก่อนที่มือนั้นจะฉวยขึ้นยกดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว กระแทกจอกใบเล็กกับโต๊ะตรงหน้าแล้วยกคนโทรินน้ำเมรัยอีกครั้ง เวียนวนอยู่แบบนี้จนเหล้าเมรัยในขวดหมดไม่เหลือแม้สักหยด แต่ดูท่าว่าคนที่นั่งดื่มอยู่นี่จะยังไม่สมใจ วางกระแทกขวดใบนั้นก่อนจะลุกขึ้นเดินเซๆไปยังตู้เก็บของในห้อง เปิดบานตูออกก่อนจะคว้าหยิบขวดทรงสูงออกมายกขึ้นดื่มเสียอึกใหญ่
     
    ร่างของคนเมาเดินเซออกไปยังนอกตัวบ้านก่อนจะยกขวดในมือขึ้นดื่ม สายตามองทอดยาวออกไปไกลจนสุดลูกหูลูกตา ดวงจันทร์สุกสกาวบนท้องนภาสีมืดก็หาได้ทำให้จิตใจของผู้เฝ้ามองสงบลงได้ไม่ แม้ว่าใบหน้าจะแหงนมองดวงจันทร์ที่ทอแสงทองสว่างนี้แต่ทว่าภายในจิตใจกลับว้าวุ่นเสียเหลือเกิน ทอดความคิดออกไปไกลแสนไกล ยกมือขึ้นดื่มน้ำเมาอีกครั้งก่อนจะลงนั่งกับพื้นระเบียง ปลายเท้าที่สัมผัสปลายยอดหญ้านั้นไม่ได้ทำให้ใจเป็นสุขขึ้นเลย
     
    แจชินยกขวดในมือขึ้นกระดกดื่มอีกหลายครั้งก่อนจะเขวี้ยงขวดนั้นให้ไปไกลๆ ขวดกระเบื้องเคลือบที่กระทบกับรั้วเรือนแตกละเอียด นัยน์ตาที่ทอดมองพวกมันแต่ละชิ้นหม่นแสงลงคล้ายกับอาการเต้นที่หัวใจที่มันช้าลงเช่นกัน พ่อม้าหนุ่มเปลี่ยนท่านั่งเป็นนอนหนุนมือที่ระเบียง มองคานขื่อด้านบนแทนดวงจันทร์สว่าง ที่มองทีไรก็นึกภาพไปถึงใครอีกคนเสียทุกที
     
    หลังจากที่แจชินปล่อยมือจากแขนยงฮาแล้ว สายตาสั่นไหวที่มองมาก็ทำเอาหัวใจบีบรัดเสียจนแน่หน้าอก แจชินก้าวถอยหลังออกมาก่อนจะหันหลังวิ่งจากไป แม้ว่าเสียงงที่คุ้นเคยจะเอ่ยเรียกรั้งให้หยุดและรอก่อน ร่างของม้าหนุ่มก็กระโดดข้ามรั้วออกจากซองคยุนควันไปเสียแล้ว แม้ว่ายงฮาจะวิ่งตามมามีหรือที่คนที่ไม่เคยออกกำลังกายจะวิ่งตามทัน นัยน์ตาวาวใสหม่นแสงลงเมื่อมองไปไม่เห็นแม้แต่แผ่นหลังของแจชิน
     
    คืนนี้ผู้ตรวจการณ์หนุ่มเลือกที่จะกลับมานอนที่เรือนของตน อยากที่จะทบทวนถึงสิ่งต่างๆที่ทำลงไป แม้ว่าอยากที่จะเอ่ยปากขอโทษแต่ทว่าปากก็หนักเกินกว่าจะพูดออกไปได้ ปิดเปลือกตาลงก่อนที่จะทบทวนเรื่องต่างๆในวันนี้ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงไม่ชอบใจเวลาที่ใครเข้าใกล้ยงฮาแม้แต่เหล่าหญิงคณิกา แต่วันนี้กลับเป็นดงวอน คนที่พรากยงฮาจากตนไปถึงหนึ่งปี หนึ่งปีที่แสนทรมาน หนึ่งปีที่คนอย่างมุนแจชินร่ำไห้เกือบทุกค่ำคืน
     
    ผู้ตรวจการณ์แสนเย็นชาแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน ทั้งการงานและอาหารก็แทบจะไม่แตะเลยเสียด้วยซ้ำ พยายามออกตามหาหรือถามหาข่าวคราวของยงฮา แจชินยอมที่จะไปบ้านของบิดายงฮาทั้งๆที่เขาไม่เคยนึกชอบแจชินเลยสักนิด ไปเพื่อที่จะถามหาแต่บิดาก็ไม่รับรู้ว่าลูกชายคนเดียวของตนนั้นไปไหน หรือไม่ยอมบอกกันแน่แจชินก็ไม่อาจทราบได้
     
    “ยงฮา..........ข้าขอโทษ” เอ่ยแผ่วเบากับค่ำคืนที่แสนเงียบสงบ แม้ถ้อยคำนี้จะส่งไปไม่ถึงใครอีกคนที่นอนหนาวอยู่ใต้ผืนผ้าห่ม...คนเดียว
     
    เมื่อยามเช้ามาเยือนเมืองโซชอนแห่งนี้ เหล่าชาวเมืองที่ต้องออกทำมาหากินก็เตรียมพร้อมตื่นจากนิทรา ลูกเด็กเล็กแดงก็พร้อมตื่นมาช่วยบุพการีทำงาน แต่ก็ยกเว้นกูยงฮาคนนี้ไว้เสียคนหนึ่งที่ยังคงนอนซุกตัวอยู่ในผืนผ้าห่มเยี่ยงลูกแมวตัวน้อยที่ขาดความอบอุ่น เมื่อไร้คนข้างกายยงฮาก็นอนไม่หลับกว่าที่พ่อค้าผ้าจะหลับตาลงสู่ห้วงนิทราก็เกือบจะเช้าเสียแล้ว ไออุ่นที่ได้รับอยู่ทุกคืนช่างเป็นเรื่องที่ชินเสียแล้ว แต่เมื่อไร้ความอบอุ่นร่างกายก็กลับไม่ชิน 
     
    บานประตูห้องค่อยๆถูกเลื่อนเปิดออกพร้อมกับใครอีกคนที่เดินเข้ามา ปลายเท้าหยุดยืนที่ริมผ้าปูนอนก่อนจะก้าวเข้าไปแล้วล้มตัวนอนข้างๆคนที่กำลังนอนด้วยสีหน้าอึดอัด โอบกอดก้อนกลมๆที่ขดตัวเป็นลูกแมวป่วยเข้ามาใกล้ๆ เมื่อลูกแมวได้รับไออุ่นที่คุ้นเคยก็คลายการซุกตัวแล้วหันเข้าหาไออุ่นที่เฝ้าคอย นิทราแสนอบอุ่นก็ค่อยๆสานตัวเริ่มก่อตัวขึ้นก่อนจะพาคนทั้งคู่เข้าสู่นิทราเสียที
     
    ไม่รู้ว่ากูยงฮาหลับไปนานแค่ไหน เมื่อลืมตาตื่นก็สดใสราวกับว่าตนนั้นได้นอนหลับมาแล้วเสียหนึ่งอาทิตย์ ใบหน้าขาวหันมองรอบกานก็ไม่พบกับเจ้าของไออุ่นที่คุ้นเคย ไออุ่นที่แม้แต่ยามหลับก็จำมันได้เป็นอย่างดี แต่บัดนี้ไร้ผู้ใดในห้องนอกเสียจากตนเอง หรือไออุ่นที่โอบกอดเมื่อครู่นั้น.. กูยงฮาจะคิดไปเอง
     
    “เป็นไปไม่ได้.. ข้าไม่เคยลืมไออุ่นของกอลโอ” ยงฮายกสองมือกอดตัวเองทับไออุ่นจางๆที่หลงเหลืออยู่ ไอสัมผัสยังคงอุ่นทั้งกายและใจ ปัดเป่าไล่ความหนาวเหน็บที่เกาะกินผิวกายให้หายไปภายในพริบตา กลีบปากสีสดวาดรอยยิ้มออกมาก่อนที่จะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง เพื่อเก็บเกี่ยวสัมผัสไออุ่นจากใครอีกคน
     
    “มาขอโทษสินะ... กอลโอของข้า~” ยิ้มกับตัวเองก่อนที่จะนอนกลิ้งไปมาบนฟูกนอนที่แสนอุ่น กลิ้งไปกลิ้งมาจนฟูกนอนและหมอนไปคนละทิศทาง
     
    หลังจากที่นอนกลิ้งไปมาอยู่นานยงฮาก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ต้องพาดงวอนเดินชมซองคยุนควันให้รอบ เพราะว่าเมื่อวานหลังจากที่กอลโอจากไปการเดินชมซองคยุนควันก็หยุดลง ไม่ว่ายังไงก็ต้องพาเพื่อนที่มาจากต่างเมืองเดินเที่ยวชมให้ได้ ยังมีอีกหลายสถานที่ที่ยงฮาอยากแนะนำให้เพื่อนให้ได้รู้จัก เพราะเมื่อครั้งที่ยงฮาไปเที่ยงต่างเมืองดงวอนก็คอยพาเที่ยวและคอยดูแลเป็นอย่างดี 
     
    วันนี้ยงฮาเลือกชุดสีเหลืองดำมาสวมก่อนที่จะก้าวออกจากบ้านก็ไม่ลืมหยิบพัดคู่ใจสีขาวออกไปด้วย ยงฮาเดินหมุนตัวออกจากบ้านไปก็พบว่าเพื่อนจากต่างเมืองมายืนรออยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองมุ่งหน้าไปยังซองคยุนควันที่ยงฮามักจะเข้าออกเป็นประจำด้วยก็เพราะมีทั้งอาจารย์ยุนชิกและอาจารย์ซอนจุนคอยหนุนหลัง และที่สำคัญตำแหน่งผู้ตรวจการณ์ของมุนแจชิน เพียงเท่านี้ใครจะกล้าขัดกูยงฮาคนนี้ได้
     
    เสียงเล็กเจื้อยแจ้วเอ่ยบอกเล่าประวัติและความเป็นมาตามร่ายทางให้เพื่อนต่างเมืองฟัง ยงฮาหมุนตัวเดินอย่างสนุกสนาน ดวงตาสวยวาดเป็นรอยโค้งยามที่เจ้าตัวยิ้ม ชายหนุ่มที่เดินอยู่เคียงข้างเองก็รู้สึกสนุกที่ได้เดินเที่ยวกับเพื่อนตัวเล็กของตน ยงฮาหันไปขยิบตาให้เหล่านางคณิกาที่เดินสวนกันไป ดงวอนเอ่ยปากชมกับฉายายอริมที่เจ้าตัวแสนภูมิใจเสียเหลือเกิน
     
    “แล้วนี่เจ้ามาคอยพาข้าเดินเที่ยวแบบนี้ แล้วร้านผ้าของเจ้าเล่ายงฮา” ดงวอนเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามายังประตูทางเข้าของซองคยุนควัน
     
    “ไม่เป็นไรหรอก ข้าน่ะ กูยงฮา นะ~” ว่าแล้วก็ขยิบตาให้เสียหนึ่งทีก่อนจะเดินผ่านเจ้าหน้าที่ที่คอยตรวจตราประตูทางเข้าเข้าไปด้านใน
     
    “แต่ข้ากลัวว่าเจ้าจะขาดทุนนะยงฮา” ยงฮายิ้มแล้วใช้พักตีที่ไหลของเพื่อนเบาๆ
     
    “ก็บอกแล้วไงว่าไม้ต้องเป็นห่วง ข้าน่ะ กูยงฮา นะ~” ขยิบตาแถมท้ายก่อนจะวิ่งไปหาอาจารย์ยุนชิกที่เดินยิ้มหวานมาหาตน
     
    “ว่าไงเล่าท่านอาจารย์ยุนชิค แล้วนี่อาจารย์ซอนจุนหายไปไหนเสียเล่า” ยงฮายกแขนขึ้นโอบรอบคอหญิงสาวซึ่งสาวเจ้าก็ไม่ได้ว่ากล่าวอันใด
     
    “อาจารย์ซอนจุนกำลังคุมสอบเหล่านักเรียนที่อาคารเรียนท้ายซองคยุนควันโน้นแน่ะรุ่นพี่” ยงฮาพยักหน้าก่อนจะมองสายตาสงสัยของหญิงสาวที่มองสบมา เพราะเมื่อวานที่มีเรื่องกันยุนฮีก็ยังไมได้ถามไถ่เรื่องราวเลย
     
    “อ๋อ~ นี่คือชเวดงวอน เพื่อนของข้าจากเมืองชิง เขามาคุยธุรกิจเรื่องผ้ากับข้า ข้าก็เลยพาเขาเดือนเที่ยวชมบ้านของข้าอย่างไรล่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับรู้
     
    “ถ้าอย่างนั้นให้ข้าช่วยนำเที่ยวไหมรุ่นพี่ ตอนนี้ข้ากำลังว่างอยู่เลย” ด้วยใจจริงแล้วหญิงสาวไม่อยากให้รุ่นพี่แจชินมาเห็นอีก เพราะเมื่อวานเย็นแม้จะไม่ได้ยินบทสนทนาแต่เห็นเหตุการณ์ไกลๆก็พอจะเดาได้ น่าสงสารรุ่นพี่แจชินเสียจริง เมื่อรู้จักความในภายในหัวใจแต่ไม่ยอมรับมัน .. คงจะเป็นทุกศ์น่าดู
     
    “เอาสิ เพราะข้าก็อยากเดินเล่นกับเจ้ามากกว่าเดินกันสองคนกับดงวอนนะ ฮ่าๆ~ อย่างน้อยก็ต้องมีของสวยๆงามๆไว้เชยชมจริงๆนั่นแหละ” ยงฮาหมุนตัวออกเดินไปก่อนทิ้งให้ยุนฮีและดงวอนอยู่ด้านหลัง อาจารย์ยุนชิคก้มหัวลงให้เพื่อนของรุ่นพี่ที่เธอเคารพรักซึ่งชายหนุ่มก็โค้งกลับ
     
    “เชิญครับท่านดงวอน เดี๋ยวข้าจะพาเที่ยวชมในรั้วซองคยุนควันของเราครับ” น้ำเสียงและรอยยิ้มหวานๆที่ส่งให้ชายหนุ่มผู้มาไกลก็ลดอาการตื่นสถานที่ใหม่ได้ไม่น้อย
     
    “ข้าขอถามอะไรได้หรือไม่ท่านอาจารย์ยุนชิค” หญิงสาวที่กำลังเดินมองรุ่นพี่ของตนหมุนตัวพลางชมดอกไม้ตามร่ายทางหันมายิ้มและพยักหน้าให้เพื่อนคนสำคัญของรุ่นพี่
     
    “เจ้า..เจ้าคนนั้นที่ยงฮาเรียกว่า...กอลโอน่ะ” เมื่อรับรู้ว่าเป็นเรื่องของใครหญิงสาวก็เบิกตากว้าง จากดวงตาที่กลมอยู่แล้วก็ยิ่งกลมเข้าไปใหญ่
     
    “รุ่นพี่กอลโอทำไมหรือท่านดงวอน” หญิงสาวถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น เปลือกตาบางกระพริบปริบๆอย่างตั้งใจรอฟัง
     
    “เขากับยงฮาสนิทกันมากแค่ไหน...” ยุนฮียกมือประสานไว้ที่หน้าอกแล้ววาดรอยยิ้มกว้างๆ
     
    “รุ่นพี่กอลโอกับรุ่นพี่งฮาสนิทกันมากๆ ทั้งสองรู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก..ข้างกายของรุ่นพี่กอลโอจะมีรุ่นพี่ยงฮาเสมอและที่ข้ารู้คือรุ่นพี่ยงฮาคือเงาที่ตามติดของรุ่นพี่กอลโอ” นางหันมองใบหน้าของผู้ถามคำถามก่อนจะเอ่ยต่อเบาๆ 
     
    “เพราะเป็นคนสำคัญที่ขาดไปเสียมิได้” ดงวอนวาดรอยยิ้มขึ้น รอยยิ้มที่คาดเดาความหมายไม่ได้
     
    “นั่นสินะ เพราะสำคัญมากเลยไม่ยอมเสียไปง่ายๆ” ดงวอนผินหน้ามองยงฮาที่ดูจะสนุกกับการเชยชมหมู่มวลดอกไม้ แม้ว่ากลิ่นหอมของมวลดอกไม้จะน่าเย้ายวนเพียงใดแต่สิ่งที่เน้นเฟ้นเกินกว่าความรักก็น่าหลงใหลไม่แพ้กัน 
     
    อาจารย์ยุนชิคเดินเล่าประวัติของสถานที่ต่างๆให้ชายหนุ่มข้างกายฟัง บ้างก็หยุดพักที่ใต้ต้นไม้ บ้างก็เดินไปหลบตามมุมหลังคาของอาคารเรียน รุ่นพี่ยงฮาก็ยังคงเป็นรุ่นพี่ยงฮาที่ชอบความสำราญอยู่วันยังค่ำ อาคารเรียนที่ใช้สอบวิชาปราชญ์ที่ซอนจุนเป็นผู้คุมสอบนั้น ยงฮาก็เปิดประตูแล้วยืนโบกพัดให้อาจารย์ซอนจุนที่ส่ายหน้าอย่างระอาใจกับนิสัยของรุ่นพี่หน้าสวยของตน
     
    แม้ว่าซอนจุนออกมาเดินเล่นรอบซองคยุนควันด้วยไม่ได้เพราะมีหน้าที่ที่จักต้องทำ แต่ยงฮาก็ไม่ได้นึกเคืองใจเจ้ารุ่นน้องคนนี้เสียเท่าไหร่ เมื่อออกมาจากห้องสอบแล้วยงฮาก็เดินไปตามร่ายทางเพื่อไปหาดงวอนกับยุนฮีที่เดินไปสำรวจหอนอนของเหล่าบัณฑิตของซองคยุนควัน แม้ว่าที่โรงเรียนแห่งนี้ตนจะมาบ่อยรองจากร้านขายผ้าของตนนั้น แต่เมื่อกลับมายังสถานที่เดิมกูยงฮาก็มักที่จะนึกถึงความหลังเสียทุกครั้ง
     
    ภาพความหลังในห้วงทรงจำที่มีแต่กอลโอคอยอยู่เคียงข้าง กอลโอที่เป็นโจรนำสาสน์แดงที่ต้องคอยเสี่ยงชีวิตเพื่อตามหากึมดึงจีซาเพื่อช่วยพี่ชายและยงฮาจักต้องคอยเป็นห่วงนั่งไม่ติดพื้น นอนไม่ติดเสื่อกังวลว่าเจ้าม้าบ้าจะได้รับบาดเจ็บ หลายต่อหลายครั้งที่ต้องไปช่วยกอลโอให้กลับมาอย่างปลอดภัย ยุนฮีและซอนจุนสอบเข้าซองคยุนควันมา กอลโอและซอนจุนที่หลงรักยุนฮีที่เป็นหญิงปลอมตัวเข้ามา แก๊งค์สี่หนุ่มรูปงามที่ออกตามหากึมดึงจีซาตามพระบัญชาของพระราชา และท้ายที่สุดซอนจุนที่ไดหัวใจของยุนฮีไปครอบครอง ... แต่กอลโอก็ยังรักนางไม่เสื่อมคลาย
     
    คิดได้เพียงเท่านี้สองขาก็หยุดลงหน้าประตูห้องที่ทั้งสามเคยร่วมใช้ร่วมกัน ยงฮาหันกลับไปมองบานประตูที่ปิดสนิท บัดนี้ห้องนี้กลายเป็นห้องพักของรุ่นน้องไปแล้ว ห้องที่กอลโอไม่ค่อยจะได้กลับมาหลับนอนเสียเท่าไหร่ เพราะม้าบ้าชอบไปนอนที่กิ่งต้นแปะก๊วยเสียมากกว่า และคืนไหนที่โจรนำสาสน์แดงออกภารกิจถ้าไม่บาดเจ็บกอลโอจะกลับมาห้องในตอนเช้า แต่ถ้าคืนไหนบาดเจ็บกอลโอจะนอนอยู่เคียงข้างยงฮาเสมอ กลีบปากสีสดค่อยๆวาดรอยยิ้มก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อไป
     
    คนเราต้องเดินหน้าอยู่เสมอไม่มองย้อนและเก็บเรื่องราวครั้งอดีตมาก่อกวนปัจจุบันให้เราไขว้เขว แม้ว่าเรื่องราวหรือความรู้สึกบางอย่างในอดีตจะยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แต่ถ้าปัจจุบันและอนาคตต่อจากนี้ กอลโอจะไม่ทิ้งยงฮาไปไหน.. ข้าก็พร้อมที่จะอยู่ตรงนี้เพื่อมองเจ้าหลงรักยุนฮีต่อไป ความรักมันห้ามกันไม่ได้ ในเมื่อถ้ากอลโอไม่ยอมเปลี่ยนใจและยอมแพ้ ถ้าสักวันหนึ่งข้าทนไม่ไหว ข้าอาจจะยอมแพ้เองก็เป็นได้
     
    “เฮ้~~~” ยงฮาที่เห็นยุนฮีเล่าประวัติของจุดต่างๆในโรงเรียนแห่งนี้ให้ดงวอนฟัง เจ้าตัวก็ออกวิ่งแล้วกระโดดโถมตัวกอดคอทั้งสองไว้
     
    “เจ้าทำหน้าที่ทูตได้ดีมากอาจารย์ยุนชิค~ ไว้ข้าจะเอาผ้าสีใหม่มาให้เจ้านะ” เพียงแค่ได้ยินว่าจะได้รับผ้าสีใหม่ ยุนฮีก็ตาลุกวาวทันที ด้วยเป็นที่รู้กันว่าผ้าจากร้านของพ่อค้าผ้าอย่างกูยงฮานั้นจะเป็นผ้าเนื้อดีและสีสวยกว่าร้านอื่นๆ 
     
    “ข้ารู้สึกเกรงใจรุ่นพี่จังเลย”
     
    “ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงเพราะทุกผืนเจ้าคารังก็ต้องจ่ายให้ข้าอยู่ดี” ขยิบตาส่งให้หญิงสาวก่อนที่นางจะหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
     
    “โอ้วว~ กูยงฮา นักเรียนดีเด่นของข้า~~” ผู้อำนวยการวิ่งตรงเข้ามาหายงฮาที่หาทางหนีไม่ทันเสียแล้ว …แย่ล่ะกอลโอเจ้าอยู่ไหน ช่วยข้าที
     
    แจชินที่กลับมาจากบ้านของยงฮาแล้วก็ต้องเตรียมตัวไปสะสางงานที่กระทรวงก่อน ด้วยเพราะมีพระบัญชาจากพระราชาลงมาเรื่องการดูแลความปลอดภัย เนื่องจากพระองค์ทรงเห็นว่าเดี๋ยวนี้มักมีโจรขโมยของอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรองค์ราชาก็อยากที่จะจัดการให้เรียบร้อย ให้แหล่าราษฎรของพระองค์อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข 
     
    แจชินบันทึกรายงานด้วยความรีบร้อนแต่ก็ต้องมีความรอบคอบด้วย ก่อนที่จะเดินทางมานั้นพบเจอกับมันคนนั้นที่ย่านการค้า เดินด้วยท่าทีองอาจน่าเกรงขามแต่ในสายตาของแจชินนั้นช่างอวดดียิ่งนัก ดงวอนโค้งให้ก่อนจะส่งยิ้มมาให้แล้วบอกว่าวันนี้ยงฮาจะแก้ตัวพาไปเดินในซองคยุนควันอีกครั้ง ซึ่งเจ้าตัวยังบอกผู้ตรวจการณ์ที่สวมชุดเสียเต็มยศให้รีบตามมาไวๆ
     
    เมื่อบันทึกรายงานทั้งหมดเสร็จแจชินก็วางบันทึกไว้บนโต๊ะก่อนจะเขียนคำสั่งให้ออกลาดตระเวนในยามค่ำคืนเพิ่มอีกจากเดินที่เป็นทุกชั่วยาม ก็เป็นทุกครึ่งชั่วยาม และคอยตรวจราตามที่ซ่องสุมให้เรียบร้อย เมื่อวางบันทึกและคำสั่งเรียบร้อยแจชินก็รีบวิ่งออกจากกระทรวงไปยังซองคยุนควันทันที มุนแจชินก็เป็นอีกหนึ่งคนในหน้าประวัติศาสตร์ของรั้วซองคยุนควัน ดังนั้นถ้าม้าหนุ่มจะวิ่งผ่านตรวจคนเข้าออกไปก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
     
    แจชินวิ่งตามหายงฮาด้วยความร้อนใจ ตนไม่เคยวิ่งตามหาใครจึงไม่เคยรับรู้ถึงความรู้สึกร้อนใจ กังวลใจและทุกข์ใจของคนที่วิ่งตามหาเลยแม้แต่น้อย แต่เพิ่งจะมารับรู้ถึงความรู้สึกเหล่านั้นก็วันที่จักต้องตามหายงฮานั่นแหละ อาการทรมานทุรนทุรายของคนตามหานั้นเทียบไม่ได้เลยกับที่ตนเคยออกไปก่อเหตุวุ่นวายและยงฮาต้องมาตามคอยจัดการดูแลให้เสียทุกอย่าง 
     
    คอยออกตามหาว่าตนนั้นไปแอบซ่อนตัวอยู่ที่แห่งไหน ถ้าบาดเจ็บก็จักแอบพาหมอมาคอยทำแผลให้ คอยว่าจ้างเหล่าคนรับใช้ให้มาคอยแบกตนกลับห้องนอนของยงฮา ห้องนอนที่ไม่มีใครกล้าย่างกรายนอกเสียจากฮาอินซู หลายครั้งที่เกือบจะพลาดท่าแต่ทว่าก็ได้มือของยงฮาคอยให้ความช่วยเหลือและมอบชีวิตใหม่ให้เสียหลายครั้ง กูยงฮาเป็นมากกว่าเพื่อนในความรู้สึกนึกคิดของแจชิน แต่ม้าหนุ่มก็มิอาจหาญที่จะยอมรับอะไรบางอย่างในใจ
     
    พ่อค้าหนุ่มในชุดสีเหลืองดำกำลังหยุดยืนที่หน้าห้องพักเก่าที่ซอนจุน ยุนฮีและแจชินเคยพักเพียงครู่ก่อนที่ยงฮาจะออกเดินไปหายุนฮีและดงวอน แจชินก้าวตามหลังไปช้าๆเพื่อไม่ให้ใครอีกคนรู้ว่าตนนั้นแอบตามมา ภาพที่ผู้อำนวยการวิ่งเข้ามายงฮาและหมายที่จะจับแก้มก้นของยงฮานั้นเรียกให้แจชินเผยตัว และเมื่อผู้อำนวยการเงยหน้าขึ้นมาเจอบุคคลใหม่ที่เพิ่งเดินเข้ามาสมทบ
     
    “โอ้วว~ กูยงฮา นักเรียนดีเด่นของข้า~~” ผู้อำนวยการวิ่งตรงเข้ามาหายงฮาที่หาทางหนีไม่ทันเสียแล้ว แจชินก้าวออกไปยืนซ้อนหลังของยงฮา ผู้อำนวยการทำตาโตก่อนจะวิ่งหนีไป
     
    “โอ๊ะ~ กอลโอ!!” ยงฮาเดินเข้าไปกอดคนที่เข้ามาช่วยตนได้ทันท่วงที แจชินมองตอบดงวอนที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว
     
    “ไหนๆรุ่นพี่แจชินก็มาแล้ว เราไปที่ต้นแปะก๊วยกันเถอะ!” ยุนฮีเอ่ยบอกเสียงใส ยงฮาหันมาขยิบตาให้ก่อนจะหมุนตัวเดินมาหาสาวเจ้าที่ยืมยิ้มหน้าแป้นแล้วบีบจมูกของนางเบาๆ แจชินก้าวเข้ามายืนซ้อนหลังยงฮาอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือไปกอดคอเงาที่หายไปเอาไว้ ...ข้าจับเจ้าได้แล้วยงฮา...
     
    “ก็ดี ข้ามีเรื่องที่จักต้องคุยกับเจ้าอยู่เหมือนกัน” แจชินที่ยังไม่ละสายตาจากการมองตอบของดงวอนเอ่ยขึ้น ซึ่งเจ้าของชื่อก็ก้มหัวยอมรับแต่โดยดี ยงฮากับยุนฮีกระพริบตาปริบๆหมายจะถามว่ามีเรื่องอะไรกัน
     
    “ย่อมได้ท่านกอลโอ” ยุนฮีและยงฮามองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้าไปมาหมายว่า ตนนั้นไม่รู้เรื่องสิ่งใดเลย


    _______________________

    ปวดหลังมากอ่าาาาาาาาาา T__________T อยู่ๆก็ปวดหลัง แทบจะลุกไม่ขึ้นแน่ะ ฮืออออออออออออออ

    ชอบกันใช่ไหมคะ? คิๆ จะเป็นอย่างไรนะถ้า กูยงฮากับมุนแจชินจะมีลูกด้วยกัน!? XD กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×