ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter : 3
“ใครบอกให้เจ้ามาที่นี่ ห๊ะ!!!” เสียงทุ้มตะโกนถามซึ่งเป็นการเสียมารยาทมากแต่แขกที่(แจชิน)ไม่ได้รับเชิญ ยงฮาลุกขึ้นจับแขนของกอลโอไว้ แขกต่างบ้านต่างเมืองเพียงแค่วาดรอยยิ้มแล้วยกแก้วสีขาวขึ้นดื่ม
“เจ้าให้มันเข้าได้มาอย่างไร!!” เมื่อคนตรงหน้าไม่ตอบคำถาม แจชินหันมาไล่เอากับคนข้างกาย ยงฮาขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะลากแจชินออกไปจากเรือนรับรอง ยงฮาลากาหายรักไปยังห้องนอนของในเรือนพำนักของตน “กอลโอเจ้าเป็นอะไร” เมื่อบานประตูห้องนอนปิดลง ยงฮาก็หันมามองแจชินที่ยืนหงุดหงิดที่แทบจะเห็นทุกอย่างขวางหูขวางตาไปเสียหมด
“ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่! เจ้าพามันเข้าบ้านได้อย่างไร!!” แจชินแทบอยากจะจับคนตรงหน้าเขย่าเสียให้หัวสั่นหัวคลอน แต่ก็กลัวว่าแรงของตัวเองตอนนี้จะทำให้ยงฮาเจ็บ
“ก็เข้าบอกว่าจะมาหาข้านิ เขาเป็นแขกข้าก็ต้องเชิญเขาเข้าบ้านสิ..เจ้าเป็นอะไรหรือกอลโอ เจ้าหึงข้าหรือ” ยงฮายกแขนขึ้นกอดคอม้าหนุ่มไว้แล้วขยิบตาให้ แจชินดีดหน้าผากยงฮาแรงๆ
“มันใช่เรื่องเล่นไหมยงฮา” ยงฮาลูบหน้าผากที่โดนดีดเบาๆ ริมฝีปากสีหวานบึนปากอย่างน่ารัก
“หึงข้าก็บอกเถอะกอลโอของข้า~ ข้าน่ะ กูยงฮา นะ~” แจชินยกมือจะดีดหน้าผากมนนั่นอีกรอบแต่ยงฮาจับมือนั้นไว้ก่อนจะส่งยิ้มให้
“ไปเถอะ”
“ไปไหน ถ้าจะกลับไปหาไอ้หมอนั่นข้าไม่ให้เจ้าไป!” ยงฮาหันมามองคนที่พยายามขัดขืนแล้วจึงปล่อยมือที่พาจับลากเป็นยกขึ้นกอดคอ
“แต่ข้าจะไป เพราะฉะนั้นเจ้าก็ต้องไป”
เป็นครั้งแรกที่มุนแจชินนึกเกลียดตัวเองที่ไม่สามารถขัดคำพูดของยงฮาได้ ม้าหนุ่มนั่งเคียงข้างพ่อค้าผ้าหน้าหวานที่กำลังคุยเรื่องการค้ากับแขกต่างเมือง แจชินยกแก้วสีขาวขึ้นดื่มน้ำใสจนหมดแก้ว จากนั้นก็รินใหม่แล้วยกดื่มเสียจนหมดแก้ว แล้วก็รินใหม่ก่อนจะยกดื่มจนหมด แม้ว่าพ่อม้าบ้าจะทำเป็นไม่สนใจกับสิ่งที่ทั้งสองเจรจาการค้ากัน แต่นัยน์ตาคมก็แอบชำเหลืองมองคนด้านข้างบ่อยครั้ง เรื่องราวทั้งหลายที่ถูกถ่ายทอดเจรจากันในห้องรับรองนี้แจชินรับฟังและจดจำทุกประโยคมิมีตกหล่น
จากที่ผู้ตรวจการณ์หนุ่มมานั่งทำตัวอยากเมาอยู่นี่ก็รับรู้ว่าชเวดงวอนที่มานั่งอยู่ตรงหน้าของตนนี่ ส่งจดหมายข้ามน้ำข้ามทะเลมาพร้อมกับที่ตนออกเดินทางเพื่ออยากมาพบเจอยงฮาเพื่อเจรจาการค้า และมาเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบว่าเพื่อนต่างเมืองที่กลับมายังบ้านเมืองเกิดแล้วจะมีความเป็นอยู่อย่างไร ยงฮาไม่เคยส่งจดหมาติดต่ออีกฝ่ายไปอีกเลยเมื่อกลับมาถึงโซชอนแต่เหตุใดมันผู้นั้นถึงได้ตามมาถูกที่ ...แท้ที่จริงแล้วตอนที่ยงฮาหนีไปเมืองชิงนั้น มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...
“ถ้าเช่นนั้นข้าจักให้เด็กของข้ามาส่งผ้าให้เจ้าทุกสิบห้าวันก็แล้วกัน เจ้าวางใจได้เป็นเด็กรับใช้ในเรือนของข้าเอง” ดงวอนเอ่ยบอกก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ นัยน์เฉี่ยวคมปรายมองแจชินที่นั่งดื่มเหล้าเงียบๆตรงข้าม
“ไม่เป็นไร ข้ามีคนขนสินค้าคนสนิทข้าอยู่แล้วไม่รบกวนเจ้าจะดีกว่า” ยงฮาส่งรอยยิ้มพร้อมกับรินเหล้าให้อาคันตุกะตรงข้าม
“ข้าไม่ไว้ใจให้ผู้ใดขนผ้าของข้า เจ้าอย่าขัดใจข้าเลย” ยงฮาขยิบตาก่อนจะรินเหล้าให้อีกคน แจชินหันมองทั้งคู่ก่อนจะวางแก้วลงกระแทกกับโต๊ะแล้วก็ลุกขึ้นเดินออกจากเรือนรับรองแขกไปทันที ยงฮามองตามหลังของคนที่เดินจากไปด้วยความไม่เข้าใจ ว่าเพราะเหตุใดถึงทำตัวไร้มารยาทเช่นนี้ แต่ยงฮาก็ไม่คิดที่จะว่าแจชินเลยแม้แต่น้อย เพราะไม่ว่าแจชินจะทำอะไรนั้นยงฮาก็ไม่เคยขัด
“ท่านแจชินอารมณ์ร้ายเสมอเลยหรือกอลริม” ดงวอนมองตามหลังไปก่อนจะรับแก้วเหล้าที่ยอริมรินให้มาดื่ม
“ไม่ใช่แบบนั้น...กอลโอของข้าน่ะไม่เคยอารมณ์ร้าย กอลโอเป็นคนดีแม้ดูภายนอกจะไม่ใช่ก็ตามที...จิตใจของกอลโอน่ะดีมากเลยนะดงวอน” อาคันตุกะจากต่างเมืองมองใบหน้าที่งดงามยิ่งกว่าอิสตรีเพศของคนตรงข้ามแล้วก็วาดรอยยิ้มขึ้น
“นี่สินะกอลโอของเจ้า” ยงฮาวางข้อศอกเท้าคางไว้ที่โต๊ะตรงหน้าก่อนจะหันมาขยิบตาให้โดยไม่ตอบคำถามอื่นใด
กอลโอที่อารมณ์เสียเดินออกมาจากบ้านของพ่อค้าหนุ่มก็หัวฟัดหัวเหวี่ยงเดินไปยังย่านตลาด ด้วยภาพลักษณ์ที่สวมชุดสีหม่นซ่อมซ่อ ผมเผ้าปล่อยรุงรัง ขัดต่อสถานะที่เป็นถึงผู้ตรวจการณ์ยิ่งนัก แต่ชาวบ้านทั้งหลายต่างก็พากันมองข้ามไปแม้จะรู้สึกขัดใจกับตำแหน่งที่สูงส่งนั่นก็ตาม แต่แจชินก็ไม่ได้สนใจเพราะไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน ตนนั้นก็คือ มุนแจชิน ราษฎรต่อเบื้องบาทขององค์พระราชา
แจชินล้วงหยิบเงินในเสื้อออกมาซื้อขนมแป้งทอดชิ้นใหญ่ ก่อนจะเดินกัดกินไปด้วยความโมโห เดินไปยังประตูของรั้วซองคยุนควันที่อยู่ด้านหลังของย่านบันซุน ม้าหนุ่มกระโดดปีนข้ามรั้วเข้าไปยังต้นแปะก๊วยสูงใหญ่ต้นเดิมที่ตนเคยใช้เป็นที่พักผ่อนเสมอมาเมื่อครั้งที่ยังเป็นนักศึกษาของซองคยุนควัน กิ่งก้านใหญ่ที่ยังคงอยู่ ใบสีเขียวที่ยังคงผลัดใบตลอด แจชินกอดอกพิงหลังเข้ากับกิ่งก้านของมันแล้วมองออกไปยังบ่านบันซุน ย่านที่ถือว่ายากจนที่สุดของเมืองโซชอน แต่สีหน้าของผู้คนเหล่านั้นกลับมีแต่รอยยิ้มและความสุข
...แล้วเพราะเหตุใดข้าถึงหงุดหงิดใจได้ถึงเพียงนี้...
สายลมเอื่อยค่อยๆพัดผ่านแจชินที่ยืนมองออกไปไกลไร้จุดหมาย เสียงใบไม้เสียดสีกันเพียงได้ยินจิตใจก็สงบขึ้น ปลายหัวคิ้วที่ขมวดมุ่นก็ค่อยๆคลายลงพร้อมๆกับเรื่องขุ่นมัวในใจที่ค่อยๆจางลง... เมื่อไร้สิ่งใดกวนใจแล้วเจ้าม้าหนุ่มก็คิดไปถึงพ่อค้าผ้าหน้าหวานที่ยังคงนั่งคุยกับมันผู้นั้น คิดได้ดังนั้นแจชินก็กระโดดลงจากต้นไม้แล้วรีบวิ่งกลับไปยังบ้านของกูยงฮาทันที
“นั่นรุ่นพี่แจชินใช่หรือไม่น่ะอาจารย์ซอนจุน” เสียงของอาจารย์หญิงหนึ่งเดียวของรั้วซองคยุนควันเอ่ยถามอาจารย์หนุ่มข้างกาย
“อาจจะใช่ รุ่นพี่ท่าทางจะรีบ”
แจชินรีบเร่งฝีเท้าให้วิ่งกลับไปยังบ้านของยงฮา บานประตูใหญ่หน้าบ้านถูกเปิดออกด้วยแรงผลักของแจชินเอง ยงฮาที่เดินชมสวนเล็กๆอยู่หน้าเรือนหันมองคนที่บุกรุกเข้ามาในอาณาเขตบ้านของตัวเอง พัดสีดำอันใหญ่ที่โบกสะบัดอยู่หยุดลงพร้อมกับรอยยิ้มที่สาดขึ้นที่เรียวปากบาง แจชินเดินหอบเข้ามาใกล้ยงฮา แจชินจับแขนทั้งสองข้างของเจ้าของบ้านไว้ก่อนจะเอ่ยคำถามที่ทำให้กูยงฮาต้องยิ้ม
“มันไปไหนแล้ว” ยงฮาใช้สันพัดตีที่แขนทั้งสองข้างที่จับแขนของตนอยู่ แจชินปล่อยมือออกแล้วมองจ้องนัยน์ตาใสที่วาดเป็นโค้งตามรอยยิ้มที่ยิ้มกว้าง
“กลับไปแล้ว กลับไปนอนที่โรงเตี๊ยมที่เขามาพัก ... หึงข้าหรือกอลโอ” รอยยิ้มกวนใจที่แจชินมองยังไงก็ไม่ยอมชินสักที สองนิ้วดีดเข้าที่หน้าผากมนจนเป็นรอยแดง ยงฮาโวยวายแล้วก็ลูบหน้าผากตัวเองก่อนจะตวัดสายตาคาดโทษคนตรงหน้า
“ทำไมเจ้าถึงทำกิริยาแบบนั้นใส่ดงวอนล่ะ รู้ไหมว่ามันไม่สมควร” ใบหน้าสวยเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ยังบ่งบอกว่าเจ็บตรงที่โดนดีด จะว่าไปมันก็ไม่สมควรจริงๆนั่นแหละเพราะเมื่อครู่กำลังคุยการค้ากันอยู่ แต่อย่างว่ามุนแจชินไม่เคยทำสิ่งใดผิดเลยในสายตาของกูยงฮา
“เจ็บมากไหม” สองมือประคองใบหน้าของพ่อค้าหนุ่มไว้แล้วสัมผัสที่รอยแดงนั้นเบาๆ ใบหน้าหวานพยักหน้ารับ แววตาใสซื่อเป็นประกายเสียจนแจชินนึกอ่อนใจ แจชินเป่าลมอุ่นๆเบาเพียงแค่นี้หัวใจของยงฮาก็เต้นผิดจังหวะ พวงแก้มขาวซับสีเลือดทันทีที่ได้รับการกระทำแบบนั้น แต่แล้วทั้งหมดก็พังทลายลงเมื่อกอลโอดีดซ้ำเข้าที่รอยเดิม
“โอ๊ย!!” แจชินหัวเราะร่าแล้วก็วิ่งหนีไปรอบๆ ซึ่งยงฮาก็วิ่งไล่ตามพร้อมกับเอาพัดฟาดคนที่ทำให้ใจเต้นเมื่อครู่ เหล่าเด็กรับใช้ที่อยู่โดยรอบก็แอบยิ้มกัน
“กอลโอ หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าม้าบ้า!!” แต่มีหรือที่เจ้าม้าบ้าจะหยุดให้โดนพัดนั้นฟาดเข้าใส่
หลังจากที่วิ่งไล่กันเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาอาหารเย็นซึ่งเด็กรับใช้ที่บ้านตระกูลมุนก็มาเชิญลูกชายเจ้าของบ้านและเพื่อนรักของลูกชายไปทานมื้อเย็นกันที่บ้านของอดีตเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ทั้งแจชินและยงฮาก็พากันมุ่งหน้าไปยังบ้านของม้าหนุ่มซึ่งท่านอดีตเสนาก็มายืนคอยหน้าบ้านอยู่ก่อนแล้ว
ท่านเสนาที่เห็นทั้งสองเดินมาก็เดินเข้าไปกอดยงฮา ลูบหัวลูบหลังถามไถ่ความเป็นอยู่ก่อนจะพากันเดินเข้าบ้านโดยที่ทิ้งลูกชายให้ยืนอยู่นอกบ้านโดยไม่สนใจด้วยว่าแจชินนั้นจะเดินตามเข้ามาในตัวบ้านหรือไม่ กอลโอยืนเท้าเอว ยิ้มแหยๆอยู่หน้าบ้านก่อนจะเดินตามพ่อลูกทั้งสองเข้าบ้านไป ตั้งแต่เด็กแล้วที่พ่อของตนนั้นจะเอ็นดูยงฮามากเป็นพิเศษ แม้ว่าจะไม่มีเด็กคนไหนกล้าเข้าใกล้หรือกล้าเหยียบเข้าบ้านหลังนี้ แต่ก็เว้นกูยงฮาไว้เสียหนึ่งคน เพราะเด็กในชุดฮันบกสีสดใสก้าวเข้าออกอย่างกับบ้านตัวเองก็มิปาน
“เอ้ามาดื่มๆๆ” ท่านอดีตเสนายกแก้วขึ้นชนกับแก้วของยงฮาและแจชิน เสียงหัวเราะครื้นเครงดังขึ้นในบริเวณบ้าน ส่งให้บ้านหลังนี้ดูอบอุ่นมากขึ้นเป็นเท่าตัว ดีเสียกว่าบรรยากาศอึมครึ้มที่ไร้ทั้งแจชินและยงฮาเสียอีก
“ท่านพ่อ ข้าว่าท่านดื่มเยอะไปแล้วนะ” แจชินเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นบิดาของตนกำลังรินเหล้าใส่แก้วของตน
“เยอะที่ไหนกันเล่า นี่แค่นิดหน่อยเอง เจ้าก็ดื่มด้วยกันสิยงฮา” ว่าแล้วก็รินเหล้าให้เพื่อนของลูกชายที่นั่งอยู่เคียงข้างเสมือนเป็นลูกชายที่ให้กำเนิดมาก็มิปาน
“แล้วที่ท่านพ่อเรียกพวกข้ามามีธุระอันใดเล่า” แจชินเอ่ยคำถามที่ติดอยู่ในใจเสียนาน มือก็ฉวยเอาแก้วเหล้าในมือยงฮามาดื่มเสียเอง ท่านเสนาบดีมองหน้าลูกชายในไส้แล้วก็ส่ายหน้าอย่างระอา
“การที่คนเป็นพ่อจะเรียกลูกชายให้กลับมานอนที่บ้านสักคืน ข้าต้องมีธุระอันใดด้วยหรือมุนแจชิน” แจชินแสร้งยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มไม่ยอมต่อบทสนทนา จะมีก็แต่ยงฮาที่หัวเราะชอบใจ
“ใช่เลยท่านพ่อ ข้าก็ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดกันแจชินถึงไปหาข้าทุกวัน ..ข้าว่าคงจะละเลยการปฏิบัติหน้าที่เป็นแน่แท้” ใส่ร้ายสักนิด ใส่ไฟสักหน่อยคืองานถนัดของกูยงฮา แจชินมองหน้ายงฮาอย่างจะเอาเรื่องที่พูดเรื่องโป้ปดให้ท่านพ่อของตนฟัง
“อย่างนั้นหรือแจชิน เจ้านี่นะไม่ใช่เหมือนสมัยก่อนแล้วนะที่จะให้ยงฮามาคอยตามดูแลเจ้านะ” แจชินยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มไม่รับฟังสิ่งใดที่ท่านพ่อเอ่ยเตือน ท่านอดีตเสนาบดีมุนวาดรอยยิ้มประดับบนใบหน้า เพราะตนนั้นรู้ว่าลูกชายของตนขยันขันแข็งและตั้งใจทำงานเพียงไหน
“ไม่เป็นไรหรอกท่านพ่อ เพราะยังไงเรื่องของกอลโอก็คือเรื่องของข้าอยู่ดีต่อให้ข้าลำบากแค่ไหนข้าก็พร้อมที่จะคอยดูแลกอลโอ” ยงฮาขยิบตาส่งให้ชายวัยกลางคนที่เริ่มเข้าสู่วัยชรา ริ้วรอยบนใบหน้าชัดขึ้นตามริมฝีปากที่เหยียดยิ้ม
“นั่นสินะ ก็ยงฮาต้องลำบากคอยตามแจชินอยู่แล้วนี่นะ ฮ่าๆๆๆ~” เสียงหัวเราะดังลั่นอย่างชอบใจ แจชินตัดสินใจวางแก้วลงแล้วลุกออกจากวงสนทนาที่ตนนั้นเสียเปรียบกลับเข้าห้องนอน ปล่อยให้ยงฮาได้นั่งคุยเล่นกับพ่อของตนต่อไป
บนฟูกผืนธรรมดาที่นอนได้เพียงหนึ่งคนถูกปูไว้สองผืนเรียงต่อกัน แจชินนอนก่ายหน้าผากอย่างครุ่นคิดถึงความไม่เป็นตัวของตัวเองในวันนี้ กิริยาท่าทางของตนที่ไม่เคยแสดงออกมา ความรู้สึกบางอย่างที่ฝังมันลึกลงไปในใจค่อยๆโผล่พ้นขึ้นมา แจชินรู้ดีว่าการกระทำวันนี้ของตนนั้นไร้มารยาทสิ้นดีและม้าหนุ่มก็รู้ว่ายงฮาจะไม่มีวันโกรธเขาเด็ดขาด แม้นว่าคนตรงหน้าจะไม่ใช่ไอ้ดงวอนก็ตาม ยงฮาไม่เคยโกรธ ยงฮาไม่เคยเกลียดแจชินเลยสักครั้งที่พาลแต่จะหาเรื่องมาให้ กูยงฮามีแต่พร้อมที่จะให้อภัยและคอยอยู่เคียงข้าง อยู่ใกล้กันเกินไปจนความรู้สึกบางอย่าง..มันถูกฝังกลบเสียจนมิด
เมื่อสมัยก่อนตอนที่ตนยังคงเป็นโจรนำสาสน์แดงยงฮาก็พร้อมที่จะปกป้องและตามหาตน ไม่เคยมีสักครั้งที่กูยงฮาคนนี้จะลักไสไล่ส่งแจชินให้ไปไกลๆ แต่ครั้งนั้นที่อยู่ๆยงฮาก็หายไปไม่บอก ไม่กล่าวนั้นด้วยเพราะเหตุใด แจชินไม่รู้ว่าตนนั้นทำสิ่งใดผิดหรือเปล่า ตั้งแต่สมัยเด็กจนถึงเดี๋ยวนี้แจชินก็ยังไม่ได้โดนยงฮาโกรธเลยสักครั้ง ไม่ว่าแจชินจะทำสิ่งใด ยงฮาจะมองว่าถูกเสมอ..
แจชินไม่ใช่คนที่ชอบคิดอะไรมากมายให้วุ่นวายแต่ทุกๆครั้งที่เป็นเดือด เป็นร้อนและคิดจนหัวแทบระเบิดนี้ก็หนีไม่พ้นเรื่องของยงฮา ก่อนที่ห้วงสติของพ่อม้าหนุ่มจะดำดิ่งลงสูห้วงนิทราอยู่ๆบานประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับตัวคนเปิดที่ถลาเข้ามาด้านในอย่างรีบร้อย ยงฮารีบวิ่งมานอนซุกตัวอยู่ข้างๆแจชิน
“เป็นอะไรของเจ้า” เปลือกตาหนาลืมขึ้นก่อนจะเจอเข้ากับใบหน้าหวานที่ทำท่าหวาดระแวงและหวาดกลัว
“ก็ท่านพ่อน่ะสิ เล่าเรื่องสิ่งนั้นที่มีอยู่จริงแต่พิสูจน์ไม่ได้ให้ข้าฟัง!!” ยงฮาหันมองด้านหลังก่อนจะยกผ้าห่มขึ้นคลุมแล้วเขยิบให้ชิดแจชิดให้มากที่สุด
“ก็แล้วเจ้าจะอยู่ฟังทำไมเล่า เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อชอบเล่า” ยงฮาโผล่ใบหน้าออกมาจากผ้าห่มที่คลุมโปงแล้วมองค้อนใส่กอลโอเสียวงใหญ่ แจชินพยายามรั้งผ้าห่มไม่ให้ยงฮาได้ใช้คลุมโปงเพราะเดี๋ยวเจ้าตัวยุ่งจะหายใจไม่ออกเสียก่อน แล้วท่านพ่อจะไม่มีคนให้แกล้งเสียนี่
“ใครว่าข้าอยากอยู่กันเล่า!!! ก็ท่านพ่อน่ะสิไม่ยอมปล่อยให้ข้ากลับมาหาเจ้า ซ้ำยังจะหนีข้าเข้าห้องนอนก่อนข้าเสียอีก” สองมือจับผ้าห่มแน่นและทำท่าว่าจะห่มคลุกมิดหัวอีกครั้งแต่แจชินก็ขืนผ้าห่มนั้นไว้ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอม ม้าหนุ่มเลยต้องส่งอ้อมแขนเข้าไปกอดคนขี้กลัวเอาไว้ ซึ่งยงฮาเองก็ยินดีแล้วเขยิบเข้ามาเสียชิด
“นอนได้แล้วยงฮา” เสีงครางอื้อดังลอดออกมากับหัวกลมๆที่พยักหน้ารับอยู่ที่ซอกคอของคนกอด ผ้าห่มผืนใดที่ว่าอุ่นก็เทียบกับอ้อมแขนอุ่นๆของแจชินไม่มีเลย ยงที่ซุกหน้าเข้ากับซอกคอของกอลโอที่รักก็วาดรอยยิ้มเมื่อตนนั้นรู้สึกปลอดภัยและสิ่งนั้นจะไม่กล้าย่างกรายเข้ามาใกล้เป็นแน่ เพราะไม่ว่าจะใครก็ต้องยอมสยบต่อมุนแจชินทั้งนั้น กลิ่นของบุรุษเพศที่เป็นเฉพาะตัวของแจชินกรุ่นอยู่ที่ปลายจมูก มันทำหน้าที่คล้ายยานอนหลับชั้นดีที่ทำให้ยงฮาจิตใจสงบและหลับตาลงในที่สุด
“กอลโอ.....” เสียงเรียกชื่อคือเสียงสุดท้ายที่แจชินได้ยิน ก่อนที่ทั้งสองจะตกสู้ห้วงฝันเดียวกัน
ยามรุ่งเช้าเวียนว่ายมาบรรจบอีกครั้งดั่งเช่นทุกเช้า เปลือกตาค่อยๆลืมตื่นขึ้นก่อนจะพบถึงความจริงที่ว่าคนที่นอนกอดข้างกายอยู่ทั้งคืน บัดนี้กูยงฮาหายไปจากอ้อมแขนของแจชินอีกแล้ว แจชินลุกขึ้นนั่งก่อนจะเสยผมรุงรังของตัวเอง แล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนไป เพราะคิดว่ายงฮาจะอยู่ที่สวนเล็กๆหน้าบ้านกับท่านพ่อ
แต่เมื่อเดินออกมาก็ต้องผิดหวังเมื่อที่สวนเล็กๆนี้มีเพียงพ่อของตนที่เดินรดน้ำ ดูแลต้นไม้อยู่เพียงคนเดียว เมื่อจับใจความได้ว่ายงฮาไม่อยู่แล้วแจชินก็ออกจากบ้านของตนทันที จุดหมายปลายทางคือที่บ้านของเจ้าตัวและร้านค้าผ้า แต่ปรากฏว่ายงฮาไม่อยู่ทั้งสองที่ เพียงแค่นี้ในใจก็นึกเป็นกังวลอีกแล้ว ทำไมยงฮาชอบหนีหายไปเสียทุกครั้ง หรือจริงๆแล้วยงฮาก็เป็นแบบนี้แต่ตนนั้นไม่เคยรับรู้เอง
“อ๊ะ ซองคยุนควัน!” เมื่อครั้งที่แล้วที่ยงฮาหายตัวไปก็ไปอยู่กับยุนฮีทั้งวัน และครั้งนี้ก็ต้องเป็นแบบนั้นเช่นกัน แจชินรีบวิ่งไปยังซองคยุนควันทันที ...ก่อนที่จะเจอยงฮาข้าคงเหนื่อยตายก่อนพอดี...
ตรงประตูทางเข้าเพียงแค่เหล่าผู้รักษาความปลอดภัยที่ประตูและนายทะเบียนที่ต้องคอยลงชื่อว่าผู้ใดผ่านเข้าออกยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เมื่อเห็นหน้าผู้ตรวจการณ์หนุ่มมุนแจชิน ทุกคนก็เปิดทางให้ม้าหนุ่มเข้าไปอย่างโดยดี มิมีผู้ใดกล้าขัดใจท่านผู้ตรวจการณ์หนุ่มเป็นแน่ และยิ่งเรื่องราวในหน้าประวัติศาสตร์ที่เป็นที่ร่ำลือนั้นอีกเล่า ใครเล่าจะกล้าขัด...
แจชินวิ่งไปยังห้องพักอาจารย์ แต่ก็ไม่พบใคร หรือแม้แต่ห้องเรียนก็มีแต่เหล่านักศึกษาที่กำลังนั่งเรียนโดยมีอาจารย์ซอนจุนสอนอยู่ และวิชาปราชญ์ที่ใต้ร่มไม้ใกล้กับอาคารเรียนที่อาจารย์ซอนจุนสอนอยู่ก็มีอาจารย์ยุนชิคยืนสอนเหล่านักศึกษาของตนอยู่ ม้าบ้ายืนหันซ้ายหันขวาก่อนจะออกวิ่งไปยังด้านหลังของซองคยุนควันที่เป็นที่ที่พวกตนสี่หนุ่มรูปงามชอบไปมากที่สุด .. เบื้องหน้าคือต้นแปะก๊วยที่ตั้งตะหง่าน ใต้ร่มไม้ใหญ่คือร่างของกูยงฮา ...และชเวดงวอน
“กูยงฮา!!!!!” ทั้งสองคนใต้ร่มไม้หันมองผู้มาใหม่ด้วยแววตาฉงน แจชินย่างสามขุมเข้ามาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง
“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วใช่หรือไม่ว่าห้ามเจ้าหนีข้ามาอีก เจ้าจักทำอะไรต้องอยู่ในสายตาข้าตลอด!” สองแขนฉวยจับแขนของยงฮาเสียแน่น ใบหน้าสวยที่ยังคงฉายแววฉงนไม่ได้ยิ้มหรือเอ่ยตอบรับอะไรไป ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆยงฮาจับข้อมือของแจชินไว้แน่น
“ข้าว่าเจ้าปล่อยยงฮาเถอะ เจ้าไม่เห็นหรือว่ายงฮาเจ็บ” นัยน์สีอ่อนเริ่มคลอไปด้วยม่านน้ำ แจชินถึงเพิ่งรู้ตัวว่าแรงบีบที่บีบเรียวแขนเล็กนี้ยงฮาจะเจ็บแค่ไหน ถึงแม้ว่าคนตรงหน้าจะไม่ชอบความเจ็บปวดแต่ทว่าครั้งนี้ตนก็ทำเกินไปจริง แจชินยอมปล่อยมือที่กำรอบแขนของยงฮาออกด้วยหัวใจที่สั่นไหว รู้สึกผิดยิ่งนักที่ตนมักจะคอยปกป้องยงฮา แต่วันนี้แจชินกลับเป็นคนที่ทำให้ยงฮา ..เจ็บ..
_______________________
ที่หายไป ป่วยค่ะ TT____________TT ขอบคุณที่อ่านแล้วก็ชอบคู่นี้เหมือนกันนะคะ~~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น