ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ครั้งหนึ่งในชีวิต (หลายครั้งแล้วเอ็งน่ะ_*_)
    ห่างหายไปซะน้านนาน เป็นเดือนๆแล้วสิเนอะ ก็มันไม่มีอะไรจะเขียนนี่หว่า ยิ่งตอนนี้ขึ้น ม.2 แล้ว งานเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นโหล ทั้งโมเดล สานด้าย ทำรายงาน โครงงาน สิ่งประดิษฐ์ เพียบจนแทบจะอยากลาออกให้มันรู้แล้วรู้แรดปาย
    วันนี้ถือว่าได้มีประสบการณ์ใหม่ในชีวิต
    นั่นคือ
    การโดนเข้าห้องปกครอง (ทีเดียวสิบกว่าคน อบอุ่นวึ้ยอบอุ่น ^_^)
    แต่เราไม่ได้ทำไรผิดนะ
    เราไปเป็นพยานให้เพื่อนเราตะหาก (แดกเวลาไปเลย 3 คาบ ไม่ต้องเรียนช่วงเช้า บาย..^_^) ก็เด็กห้อง 12 มันมาด่าเพื่อนตูนี่หว่า แถมไม่ได้ด่าคนเดียวนะ ลามปามไปด่าพ่อด้วย ก็พ่อของเพื่อนเรานั่นแหละเป็นอาจารย์คนหนึ่งในโรงเรียน นั่นก็แสดงว่ามันด่าจารย์ด้วย ด่าว่าไงเรอะ
    พ่อก็เห้ย ลูกก็เห้ย ถ้าเป็นกู กูไม่หน้าด้านอยู่หรอก แม่งจะลาออกไปนานแล้ว
    ถ้ามีคนมาด่าพ่อเราแบบนี้ เราจะโกรธเปล่า? (มันก็แหงล่ะวะ -_-“)
    ไม่นับอีกหลายๆครั้งที่เจอหน้า เวลาเดินผ่านโต๊ะ มันจะพูดลอยๆมาเสมอว่า
    มองหา ห-อี มึงเหรอ
    พอมันผ่านไป เราก็มานั่งขำกับเพื่อน
    เอ๊ะ.. กูว่ากูมองหน้ามันนะ นี่แสดงว่าไอ้นั่นของมันมาอยู่ที่หน้าล่ะสิ 55555
    หลังจากที่ด่าเห้ยไม่นาน รถคันงามของจารย์ที่โดนด่าก็ปรากฏรอยขูดขีดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
    ก็เลยมีเรื่องตั้งแต่บัดเดี๋ยวนั้น เมื่อเช้าโดนติดสอยห้อยตามไปเป็นพยาน ฝ่ายเรามี 8 คน เข้าไปนั่งแช่ในห้องปกครอง แอร์โคตรเย็นเลย (555 สบาย ^O^) ส่วนฝ่ายโน้น ความจริงตอนที่มาด่านั้นมีอยู่ 4 คน พอเข้าไปไอ้เราก็งง เอ๊ะ.. ทำไมมันมีตั้งเกือบสิบคนล่ะฟะ
    มารู้เอาทีหลังว่าไอ้ที่มันตามมาด้วยน่ะ มันเป็นกลุ่มเดียวกัน พลอยโดนหางเลขไปด้วย ส่วนใหญ่ก็เด็กห้อง 12 หมดแหละ (โอ้ววว เสียจายด้วยนะเพื่อน)
    สำหรับเราน่ะเรอะ เด็กห้อง 2/1 ห้องคิงที่แสนน่ารัก เรียบร้อย พูดจาไพเราะ(ไปหมด) โกหกใครไม่เป็น มีใบหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์ (เน้นที่หน้าใส) ที่สำคัญ
    ตอแหลไม่เป็นฮ่ะ!!!! (โคตรความจริงเลยว่ะ)
    ฝ่ายโน้นโดนเชิญผู้ปกครองมาเป็นทิวแถว ส่วนฝ่ายเรา เอิ๊กๆๆๆส์ ^O^ มานั่งแช่แอร์เมาท์กันสบายใจเฉิบอยู่ชั่วโมงกว่า ปล่อยให้ไอ้พวกโน้นมันไปนั่งก้มหัวงุดๆอยู่ในห้องสอบสวน
    คุยไรกันมั่งล่ะ เอาว่าตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ตั้งแต่ละครไปจนถึงนินทาเพื่อน แอบเหล่พี่ ม.ปลาย (ความจริงตั้งใจจะยกครกมาตำส้มตำ ตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ ที่ตรงนั้นไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่าอาจารย์ยังคงหย่อนก้นนั่งแหมะอยู่รอบๆ เกิดอาการเกรงใจ เพราะเผอิญยังพอมีสมบัติผู้ดีอยู่บ้าง <แม้จะน้อยเต็มที> -_-“)
    ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงอันแสนสุขกับการพร่ำพรรณาถึงความหล่อเหลาของพี่ ม.ปลายทั้งหลาย พวกฝ่ายโน้นก็เดินออกมา แต่ละคนนี่ก็สวยนะ (แต่เผอิญสวยสู้กลุ่มเราไม่ได้ ชิ!!) หน้างี้บูดเป็นตูดวัว ส่วนเรา พอเค้าเรียกให้เข้าไปปุ๊บ
    พยายามปั้นสีหน้าให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยังไม่ดีนัก (ก็บอกแล้วว่าเราตอแหลไม่เป๊นนนน!!!) ยกมือไหว้ผู้ปกครองอย่างนอบน้อม ค่อยๆก้าวเท้าเพราะกลัวพื้นจะพัง ในใจก็คิด
    ป้าๆ สอนลูกหลานน่ะช่วยดูด้วยว่า ที่เขาเชื่อเขาฟังเราน่ะ เขาทำด้วยรึเปล่า (เพราะหลายคนต่อหน้าทำเป็นเชื่อ แต่พอลับหลัง ลายชักออก พาดกลอนไปทั้งตัว)
    คล้ายๆกะการโต้วาทีเลยแฮะ แต่เป็นการพูดคุยระหว่างผู้ปกครองกะนักเรียน เพื่อนเรามันบอกเลยนะว่าถ้าเกิดไม่ติดว่าเป็นเด็ก ม.2 แสนน่ารักสุภาพเรียบร้อย แม่งจะแถลงไขด้วยโทรโข่งไม่ให้เถียงได้ซักคำเลยคอยดู
    ตำรวจเอามาสิ กูไม่กลัวเฟ้ย..
    เอ็งไม่กลัวใช่มะ งั้นดี..ถ้ามาจริงถ่วงเวลาให้กูวิ่งหนีด้วยละกัน (โคตรรักเพื่อน)
    สรุปคือ วันนี้จบเรื่องจบราวกันไป เพราะผู้ปกครองคนหนึ่งเขาขอร้องว่าเป็นเพื่อนกัน อย่าเรื่องมีราวให้ต้องออกจากโรงเรียนกันเลย ไอ้เรานี่นั่งตาลุกพรึ่บ เหงือกกระทบกันดังกึกๆ อยากพูดเต็มทีแล้วว่า ‘ใครมันมาหาเรื่องกูก่อนกันแน่โว้ย!!!!’ แต่ติดที่ว่าเป็นเด็กห้องคิงสุภาพเรียบร้อย (เข้าอีหรอบเดิม..) เลยต้องนั่งยิ้มแย้ม จับไม้จับมือกันคนละหนุบสองหนุบ (ทั้งๆที่ในใจก็หวั่นนิดๆว่ามันจะมาดักตบกูเมื่อไหร่ว้า )
    ขอยืนยันไว้เลยว่า ครั้งนี้ถือว่าจบเรื่องจบราวกันไป อีเบียร์ เอ็งสัญญาแล้วนะว่าจะไม่มาหาเรื่องพวกเรา แต่ถ้าเอ็งมาทำอะไรแบบนั้นกับเราอีกเมื่อไหร่ รับรอง 1000% เรื่องมันจะไม่จบง่ายๆแบบนี้หรอก คอยดู
(แล้วนี่ตกลงกูจะหาเรื่องเหมาะๆที่จะลงในนี้อีกได้มั้ยเนี่ย? สมองเนาะ.. สรรหาอะไรโคตรมีสาระเลย ทนๆอ่านไปก่อนละกัน)
    เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการ
    หวัดดี!
    วันนี้ถือว่าได้มีประสบการณ์ใหม่ในชีวิต
    นั่นคือ
    การโดนเข้าห้องปกครอง (ทีเดียวสิบกว่าคน อบอุ่นวึ้ยอบอุ่น ^_^)
    แต่เราไม่ได้ทำไรผิดนะ
    เราไปเป็นพยานให้เพื่อนเราตะหาก (แดกเวลาไปเลย 3 คาบ ไม่ต้องเรียนช่วงเช้า บาย..^_^) ก็เด็กห้อง 12 มันมาด่าเพื่อนตูนี่หว่า แถมไม่ได้ด่าคนเดียวนะ ลามปามไปด่าพ่อด้วย ก็พ่อของเพื่อนเรานั่นแหละเป็นอาจารย์คนหนึ่งในโรงเรียน นั่นก็แสดงว่ามันด่าจารย์ด้วย ด่าว่าไงเรอะ
    พ่อก็เห้ย ลูกก็เห้ย ถ้าเป็นกู กูไม่หน้าด้านอยู่หรอก แม่งจะลาออกไปนานแล้ว
    ถ้ามีคนมาด่าพ่อเราแบบนี้ เราจะโกรธเปล่า? (มันก็แหงล่ะวะ -_-“)
    ไม่นับอีกหลายๆครั้งที่เจอหน้า เวลาเดินผ่านโต๊ะ มันจะพูดลอยๆมาเสมอว่า
    มองหา ห-อี มึงเหรอ
    พอมันผ่านไป เราก็มานั่งขำกับเพื่อน
    เอ๊ะ.. กูว่ากูมองหน้ามันนะ นี่แสดงว่าไอ้นั่นของมันมาอยู่ที่หน้าล่ะสิ 55555
    หลังจากที่ด่าเห้ยไม่นาน รถคันงามของจารย์ที่โดนด่าก็ปรากฏรอยขูดขีดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ
    ก็เลยมีเรื่องตั้งแต่บัดเดี๋ยวนั้น เมื่อเช้าโดนติดสอยห้อยตามไปเป็นพยาน ฝ่ายเรามี 8 คน เข้าไปนั่งแช่ในห้องปกครอง แอร์โคตรเย็นเลย (555 สบาย ^O^) ส่วนฝ่ายโน้น ความจริงตอนที่มาด่านั้นมีอยู่ 4 คน พอเข้าไปไอ้เราก็งง เอ๊ะ.. ทำไมมันมีตั้งเกือบสิบคนล่ะฟะ
    มารู้เอาทีหลังว่าไอ้ที่มันตามมาด้วยน่ะ มันเป็นกลุ่มเดียวกัน พลอยโดนหางเลขไปด้วย ส่วนใหญ่ก็เด็กห้อง 12 หมดแหละ (โอ้ววว เสียจายด้วยนะเพื่อน)
    สำหรับเราน่ะเรอะ เด็กห้อง 2/1 ห้องคิงที่แสนน่ารัก เรียบร้อย พูดจาไพเราะ(ไปหมด) โกหกใครไม่เป็น มีใบหน้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์ (เน้นที่หน้าใส) ที่สำคัญ
    ตอแหลไม่เป็นฮ่ะ!!!! (โคตรความจริงเลยว่ะ)
    ฝ่ายโน้นโดนเชิญผู้ปกครองมาเป็นทิวแถว ส่วนฝ่ายเรา เอิ๊กๆๆๆส์ ^O^ มานั่งแช่แอร์เมาท์กันสบายใจเฉิบอยู่ชั่วโมงกว่า ปล่อยให้ไอ้พวกโน้นมันไปนั่งก้มหัวงุดๆอยู่ในห้องสอบสวน
    คุยไรกันมั่งล่ะ เอาว่าตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ตั้งแต่ละครไปจนถึงนินทาเพื่อน แอบเหล่พี่ ม.ปลาย (ความจริงตั้งใจจะยกครกมาตำส้มตำ ตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ ที่ตรงนั้นไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่าอาจารย์ยังคงหย่อนก้นนั่งแหมะอยู่รอบๆ เกิดอาการเกรงใจ เพราะเผอิญยังพอมีสมบัติผู้ดีอยู่บ้าง <แม้จะน้อยเต็มที> -_-“)
    ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงอันแสนสุขกับการพร่ำพรรณาถึงความหล่อเหลาของพี่ ม.ปลายทั้งหลาย พวกฝ่ายโน้นก็เดินออกมา แต่ละคนนี่ก็สวยนะ (แต่เผอิญสวยสู้กลุ่มเราไม่ได้ ชิ!!) หน้างี้บูดเป็นตูดวัว ส่วนเรา พอเค้าเรียกให้เข้าไปปุ๊บ
    พยายามปั้นสีหน้าให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ยังไม่ดีนัก (ก็บอกแล้วว่าเราตอแหลไม่เป๊นนนน!!!) ยกมือไหว้ผู้ปกครองอย่างนอบน้อม ค่อยๆก้าวเท้าเพราะกลัวพื้นจะพัง ในใจก็คิด
    ป้าๆ สอนลูกหลานน่ะช่วยดูด้วยว่า ที่เขาเชื่อเขาฟังเราน่ะ เขาทำด้วยรึเปล่า (เพราะหลายคนต่อหน้าทำเป็นเชื่อ แต่พอลับหลัง ลายชักออก พาดกลอนไปทั้งตัว)
    คล้ายๆกะการโต้วาทีเลยแฮะ แต่เป็นการพูดคุยระหว่างผู้ปกครองกะนักเรียน เพื่อนเรามันบอกเลยนะว่าถ้าเกิดไม่ติดว่าเป็นเด็ก ม.2 แสนน่ารักสุภาพเรียบร้อย แม่งจะแถลงไขด้วยโทรโข่งไม่ให้เถียงได้ซักคำเลยคอยดู
    ตำรวจเอามาสิ กูไม่กลัวเฟ้ย..
    เอ็งไม่กลัวใช่มะ งั้นดี..ถ้ามาจริงถ่วงเวลาให้กูวิ่งหนีด้วยละกัน (โคตรรักเพื่อน)
    สรุปคือ วันนี้จบเรื่องจบราวกันไป เพราะผู้ปกครองคนหนึ่งเขาขอร้องว่าเป็นเพื่อนกัน อย่าเรื่องมีราวให้ต้องออกจากโรงเรียนกันเลย ไอ้เรานี่นั่งตาลุกพรึ่บ เหงือกกระทบกันดังกึกๆ อยากพูดเต็มทีแล้วว่า ‘ใครมันมาหาเรื่องกูก่อนกันแน่โว้ย!!!!’ แต่ติดที่ว่าเป็นเด็กห้องคิงสุภาพเรียบร้อย (เข้าอีหรอบเดิม..) เลยต้องนั่งยิ้มแย้ม จับไม้จับมือกันคนละหนุบสองหนุบ (ทั้งๆที่ในใจก็หวั่นนิดๆว่ามันจะมาดักตบกูเมื่อไหร่ว้า )
    ขอยืนยันไว้เลยว่า ครั้งนี้ถือว่าจบเรื่องจบราวกันไป อีเบียร์ เอ็งสัญญาแล้วนะว่าจะไม่มาหาเรื่องพวกเรา แต่ถ้าเอ็งมาทำอะไรแบบนั้นกับเราอีกเมื่อไหร่ รับรอง 1000% เรื่องมันจะไม่จบง่ายๆแบบนี้หรอก คอยดู
(แล้วนี่ตกลงกูจะหาเรื่องเหมาะๆที่จะลงในนี้อีกได้มั้ยเนี่ย? สมองเนาะ.. สรรหาอะไรโคตรมีสาระเลย ทนๆอ่านไปก่อนละกัน)
    เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการ
    หวัดดี!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น