Cheerful Flower House[Ravii x Yu]
การอยู่คนเดียว ดอกไม้ และชายหนุ่ม
ผู้เข้าชมรวม
844
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
---Cheerful Flower House---
ที่สถานีรถไฟ
ผมยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า
ฝนที่ตกหนักอยู่ด้านนอก
ผู้คนเดินสวนไปมามากมาย
ช่างสับสนวุ่นวาย..น่าเวียนหัว
“อุ๊ก!!”
มีแรงชนจากด้านหลัง ทำเอาผมที่กำลังวุ่นงงกับแผนที่รถไฟต้องเซไป
“ขอโทษครับ
”
เด็กชายตัวน้อยยันตัวลุกขึ้น กล่าวขอโทษกับผม
“
ชิ
”
ผมมองจ้องดุๆ กลับไป
มันเป็นปกติอยู่แล้ว
ผมไม่อยากยุ่งกับใคร และหากใครคิดจะยุ่งกับผม
ก็มักเจอกับสายตาเย็นชา
ได้ผล ไอ้หนูนั่นหลบตาทันที
ผมมองเมินอีกครั้ง สีผมแดงๆ ของเด็กนั่นทำเอาผมรู้สึกหงุดหงิดชะมัด
“อ๊ะ!! ยู!! แย่แล้ว นายเป็นงัยบ้าง? เละหมดเลย”
เสียงไอ้เด็กนั่นดังขึ้นอีกรอบ แต่คราวนี้มันเอ่ยคำคุ้นหู
ผมหันกลับไปดู ด้วยอารมณ์ที่บูดบึ้งยิ่งกว่าเดิม
หนอยไอ้เด็กนี่ เรียกชื่อกันไม่เกรงเลยนะ
“
.!!?.....”
สิ่งที่ผมเห็นกลับทำให้ผมประหลาดใจ
เจ้าเด็กน้อยกำลังคุกเข่ากับพื้น สองมือกวาดเศษดินที่กระจัดกระจายเต็มพื้นพร้อมกับต้นกล้าเล็กๆ กลับเข้ายังถุงเพาะสีดำ
ยู
ไม่ได้เรียกชั้นหรอกเหรอ
ด้วยมือที่เล็กไม่เท่าไร
เด็กน้อยจึงกอบดินที่กระจายไม่เป็นท่าขึ้นมาได้ไม่หมดซักที
น่าแปลก
ผมที่ไม่เคยนึกอยากจะญาติดีกับใครกลับตัดสินใจนั่งลง สองมือช่วยเจ้านั่นกวาดเศษดินที่เหลือ
เพียงเพราะคำ
แค่คำเดียว
.ยู
.
“ขอบคุณมากครับ
พี่ชาย”
เจ้าเด็กนั่นยิ้มร่า
แค่ช่วยกวาดดินเนี้ยนะ??
ยิ้มอย่างกับได้เงินค่าขนมฟรีหนึ่งเดือน
เจ้าเด็กนั่นกำลังจะเดินจากไป
ผมไม่สนใจอยู่แล้วนี่
แค่ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป
“นี่!! เดี๋ยวก่อน”
ให้ตายสิ
วันนี้ผมเป็นอะไรไปเนี้ย?!?
“ครับ
”
เจ้านั่นหันมา
“ที่เรียก ยู น่ะ?”
เด็กนั่นมองงงๆ แล้วก็อมยิ้มขึ้นมา
“เนี่ยเหรอครับ?”
พูดพลางชูต้นกล้าต้นนั้นขึ้น
“ต้น
ยู
ครับ มันจะออกดอกเฉพาะหน้าฝน ช่วงนี้แหละครับ”
“ต้น
ยู
งั้นเหรอ??”
ผมทวนอีกครั้ง
ที่แท้ก็เรียกต้นไม้
น่าขำชะมัด
ผมรออะไรกันนะ
.
“พี่ชายชอบเหรอครับ
ไปที่บ้านผมสิ ที่บ้านผมมีต้นยูเต็มไปหมดเลย”
เจ้านั่นถือดีเข้ามาดึงมือของผม
“ชิ
ใครบอกล่ะ”
ผมสะบัดมือออก
เจ้านั่นทำท่าหงอยอีกครั้ง
เด็กนี่
น่ารำคาญชะมัด
“
อ่ะ
”
เสียงเล็กๆ เอ่ยขึ้นอีกครั้ง มือน้อยๆ ยื่นกระดาษใบเล็กๆ มาให้ผม
“
?....”
ผมจ้องมันอยู่ซักพัก
แต่ก็รับมันมา
“ไปที่บ้านผมนะ
แล้วพี่ชายจะเจอต้นยูเต็มไปหมดเลยล่ะครับ ไปล่ะครับ”
พูดพลางวิ่งจากไป
ฝนกำลังตกหนัก
ทำเอาอารมณ์ผมขึ้นอีกรอบ
---Cheerful Flower House---
ร้านดอกไม้??
เจ้าบ้า
ให้ตาย!! ชั้นก็ไม่ไปร้านดอกไม้เด็ดขาด
---------------------------------------------------------------------
Part 2
ไม่รู้ว่าอากาศมันเปลี่ยนไป
หรือว่าอะไรในตัวผมมันเปลี่ยนแปลงกันแน่
แต่ที่รู้
ตอนนี้ผมกำลังยืนกำร่มสีดำสนิทของตนไว้แน่นอยู่หน้าร้านดอกไม้ Cheerful Flower House
ผมแหงนหน้ามองป้ายหน้าร้าน
ใครวะตั้งชื่อร้าน
ติงต๊องชะมัด
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ
ก่อนจะใช้แรงน้อยๆ ผลักประตูหน้าร้านที่มีป้ายเขียนว่า Open เข้าไป
เสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นบอกให้คนภายในรู้ว่ามีแขกกำลังย่างกายเข้ามา
ผมยืนนิ่งอยู่พัก
หอมดีจัง
ร้านดอกไม้ก็ไม่เลวแฮะ
“รับอะไรดีครับ..??”
มีเสียงทุ่มๆ ดังมาจากมุมร้านมุมหนึ่ง
พอดีกับที่ผมหันไป
รอยยิ้มอบอุ่น
กับผมสีแดงเพลิง อยู่ในชุดขาวกับผ้ากันเปื้อนสีเขียวที่มีรอยเลอะเล็กน้อยจากภารกิจบางอย่างที่คงจะเพิ่งลามือออกมารับแขก
อายุคงจะรุ่นราวคราวเดียวกับผม
ผมยืนจ้องเจ้านั่นนิ่ง
ไอ้หมอนี่
เคยเห็นที่ไหนวะ??
“รับอะไรดีครับ??”
หมอนั่นทวนคำอีกครั้ง
พลางสาวเท้าเข้ามาใกล้ๆ ผม
ผมถอยออกหนึ่งก้าว
“ชั้นมาร้านดอกไม้
ก็ต้องอยากได้ดอกไม้สิ”
ผมตอบกลับไปแบบส่งๆ
ก็ไม่ได้ตั้งใจมานี่หว่า?? จะให้ตอบว่าจะเอาอะไรทันทีได้งัย
น่าแปลกแทนที่หมอนั่นจะตอกผมคืน
กลับยิ้มปนเสียงฮึขับๆ ในลำคอ
“ก็นั่นแหละครับ ผมถึงได้ถามว่าคุณต้องการรับดอกไม้อะไร?”
ผมยืนเอ๋อไปพัก
ฝนข้างนอกยังคงตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
ท่าทางผมจะยืนนานไปหน่อย
เจ้านั้นหันหลังพร้อมที่จะเดินจากไป
“
เออ
ดอก
??...ดอก?”
ให้ตายเหอะ
เกิดมาเพิ่งเคยเข้าร้านดอกไม้
ดอกไม้ก็ไม่รู้จักซักอย่าง
ผมคิดว่าหมอนั่นคงรำคาญผมแน่
“
ฮึ
ฮึ
”
“
!?!....”
เสียงดังจากลำคอทุ้มๆ ดังขึ้นอีกครั้ง เจ้านั่นยิ้มขำใส่ผม
ให้ตายสิ
นี่ผมทำตัวงี่เง่าขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
ผมรู้สึกใบหน้าร้อนฉ่า
ในมือกำร่มแน่น
ไม่เอาแล้วโว้ย
กรูจะออกจากไอ้ร้านบ้านี่!!
“ถ้านึกไม่ออกขนาดนั้น ผมแนะนำให้ดีไหมครับ”
ในขณะที่ผมกำลังคิดหาทางออกจากร้านบ้าๆ นี่
เจ้านั่นก็พูดขัดขึ้นมา
แต่น่าแปลก มันกลับทำให้ผมรู้สึกโล่งอกขึ้นมา
“รอเดี๋ยวนะครับ
”
เจ้านั่นยิ้มอีกครั้ง แล้วเดินหายไปที่หลังร้าน
ผมตัดสินใจทิ้งก้นลงบนเก้าอี้รับแขกหน้าร้าน สายตามองลอดออกไปนอกร้าน
ฝนที่ตกหนักตอนนี้แทบมองไม่เห็นเลยว่าใครเป็นใคร
ลองคิดๆ ดูแล้ว นี่ผมมาทำอะไรในที่แบบนี้ได้นะ
ทั้งที่ตอนนี้
ผมจะต้องตรงกลับบ้าน
เก็บตัว
อยู่ในห้อง
อยู่คนเดียว
ไม่มีใครอยากยุ่ง
และไม่เคยอยากยุ่งกับใคร
ซุกตัวอยู่กับหมอน
ฟังเสียงฝน
และหลับไป
คนเดียว
อยู่เพียงคนเดียว
“
ยูครับ”
อีกแล้ว
ความรู้สึกนี้
ผมหันกลับไปตามเสียงเรียก ในใจกำลังเต้นระส่ำ
นี่ผมเป็นอะไรไป
ชายหนุ่มผมแดงที่ยืนอยู่ด้านหลังในระยะประชิดทำเอาผมตกใจแทบตกเก้าอี้
“นี่นาย!! “
ผมหยุดไป สายตาหยุดเข้ากับดอกในมือหมอนั่น
สีขาวที่แสนจะธรรมดา แต่ทำไมผมถึงละสายตาจากมันไม่ได้เลย
“นั่นดอกอะไรน่ะ
?”
ผมเอ่ยออกไปเบาๆ
“
ดอกยูครับ
มันเพิ่งออกดอก
มันจะออกดอกเฉพาะหน้าฝน น่าแปลกตลอดเดือนที่ฝนตกมันไม่ยอมบานเลย เพิ่งจะบานก็วันนี้ทั้งสวนเลยครับ
ผมเพิ่งพบมันเมื่อครู่นี้เอง แล้วคุณก็มา
มันคงรอคุณล่ะมั้งครับ”
รอยยิ้มอบอุ่นของใครคนนึงตรงหน้าผมกำลังเบ่งบานพร้อมๆ กันกับดอกไม้ตรงหน้า
น่าแปลกที่ผมยิ้มตอบ
นี่ละมั้ง
ความรู้สึก
ที่คิดว่าตัวเอง
.เป็นคนสำคัญ
.สำหรับ
.ใครคนนึง
บานตอนที่เรามาพอดีน่ะเหรอ??
ตลกดีแท้
“เป็นไข้รึเปล่าครับ?”
“
///////??////////..” “เฮ้ย!!~”
ในที่สุดผมก็ดึงตัวเองกลับมายังโลกปัจจุบัน
เมื่ออยู่ๆ ไอ้เจ้าหัวแดงมันก็เอาหน้าผากมาอังกับหน้าผากของผม
ผมเด้งออกจากที่เดิมทันทีเหมือนมีกระแสไฟแล่น
“โทษทีครับ
ผมเห็นคุณหน้าแดงๆ คิดว่าคงตากฝนจนเป็นไข้ซะอีก”
ยังมีหน้ามายิ้มอีก
เจ้าบ้า
“ว่างัยครับ
จะรับ ยู ซักดอกไหมครับ”
ผมเบนสายตาไปที่ดอกไม้สีขาวนั่นอีกครั้ง
“
อืม
”
พยักหน้ารับ
ฝนด้านนอกยังคงตกอยู่ต่อเนื่อง และยิ่งทวีขึ้นเป็นระรอก
“จะรับแบบช่อ แบบกระเช้า หรือว่าเป็นดอกดีครับ”
ผมยืนสังเกตเจ้าหนุ่มนั่น
ดวงตาสีเขียวที่ดูขี้เล่นอารมณ์ดี ท่าทางที่ออกจะคล่องแคล่วเยี่ยงชายหนุ่มทั่วไป
น่าแปลกที่หมอนั่นยอมมาทำงานติ๋มๆ ในร้านดอกไม้นี่ได้
“
ว่างัยครับ
”
ในที่สุดผมก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองก็ถูกอีกคนจ้องมองเหมือนกัน
“
ขอแบบมีรากได้ไหม?...”
บ้าชะมัด
ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองงี่เง่าและพูดจาแปลกประหลาดก็วันนี้
มีราก
คิดไปได้งัยวะ??
“
ฮึ
ฮึ
”
อีกและ??
ให้ดิ้นตายเหอะ ผมเรียกเสียงหัวเราะจากไอ้หมอนั่นได้อีกแล้ว
อ้าก!! อยากจะทึ่งหัวตัวเอง
นี่ตูไปเป็นตลกคาเฟ่ซะเลยดีไหมเนี้ย
“คุณนี่แปลกดีนะครับ
แต่ผมก็ชอบคุณ
Ok ครับ มีราก รอซักครู่นะครับ”
เจ้านั่นพูดจบก็เดินหายเข้าไปหลังร้านอีกครั้ง
ตึก
ตึก ตึก
ตึก
ช่วยผมที ผมเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับเสียงหัวใจบ้าๆ นี่เต็มทนแล้วนะ
นี่ผมรออะไรกัน
ทำไมแค่รอรับดอกไม้ ผมถึงได้ใจเต้นแรงแบบนี้ล่ะ
ชอบเหรอ??...
จำคำนายไว้ก็แล้วกัน
“ได้แล้วครับ
”
เจ้านั่นเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมกับกระถางต้นยูเล็กๆ ที่ออกดอกสีขาวจางๆ ดูบริสุทธิ์
“จะส่งให้ใคร หรือรับเองครับ”
หมอนั่นตั้งคำถามอีกครั้งพลางก้มตัวโค้งลงกับโต๊ะเพื่อเขียนโน้ตบางอย่าง
“
มะ
ไม่
ของชั้นนี่แหละ”
“ครับ
ขอทราบชื่อด้วย
”
หมอนั่นเอ่ยคำถามต้องห้ามของผม
“ทำไมชั้นต้องบอกชื่อกับนายด้วยล่ะ!!”
ผมโวยขึ้นมาทันที
“
???......ครับ”
ผมรู้สึกได้
หมอนั่นทำหน้างงเป็นกระต่ายตาแตก
แล้วก้มกลับไปที่เดิม
“
คันดะ
คันดะ ยู
”
ผมรู้สึกว่าบางอย่างในตัวผมกำลังแปลกไป
หมอนั่นเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ยิ้มบางๆ เคลือบอยู่บนใบหน้าหล่อนั่น
“
ยู
สินะครับ
”
ยิ้มอีกครั้ง
เสียงหัวใจผมมันกำลังร้องหาอะไรอยู่
กำลังรออะไร
“นี่ครับ
”
“นี่อะไร?”
หมอนั่นส่งนามบัตรเล็กๆ ให้ผม
“บัตรสมาชิกครับ”
ผมก้มดูอีกครั้ง
“แต่มันเขียนว่าต้องเป็นขาประจำนี่
??”
ผมพูดพลางชี้ไปที่เงื่อนไขบัตร
หมอนั่นยิ้มอีกครั้ง ถือได้ว่าเป็นกิจวัตรของหมอนี่ล่ะมั้ง
“ผมชอบคุณ
รับไว้เถอะครับ แล้วมาอีกนะ
ยู
”
ผมอึ้งไป
สองมือรีบคว้าต้นยูขึ้น วางเงินกับโต๊ะ
สองเท้าสาวก้าวออกไปยังประตู ผลักมันออก
กางร่ม
ก้าวเดิน
ฝนที่กำลังสาด ค่อยๆ เบาลง
เบาลง
จนได้ยินเสียงคลืดในลำคอของผม
กับรอยยิ้ม ที่ไม่เคยเผยมาก่อน
“
ฮึ
เจ้าบ้า
ใครใช้ให้นาย
เรียกชั้นว่า ยู กัน”
คงเป็นเพราะไม่เคยมีใคร อยากรู้เรื่องของผม
ไม่เคยมีใคร ที่พูดคุยกับผมนานขนาดนี้
และไม่เคยมีใครสนใจ ที่เรียกผมว่า ยู มาก่อน
.
มันก็เลย
.ดีใจ
ล่ะมั้ง
End
Special
วันนี้ฝนก็ตกอีกแล้ว
ตัวผม กับร่มสีดำ
ด้านหน้าที่มีเพียงกระจกกั้น
ผมคงต้องว่าตัวเองบ้าอีกครั้ง
แต่ให้ตายสิ
ผมกั้นยิ้มไม่อยู่เลยสักครั้ง เพียงเพราะคำคำนั้น
“ยินดีต้อนรับครับ”
Real End
ผลงานอื่นๆ ของ NaMo_FeeZ[Y] ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ NaMo_FeeZ[Y]
ความคิดเห็น