ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความทรงจำผมไม่มีอะไรมากหรอกครับ [จบ]

    ลำดับตอนที่ #1 : เครื่องอ่านความทรงจำ

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 65



    ควรเปิดดู

    "……" พูดปกติ

    '……' พูดในใจ

    [……] คอมเม้น

    ‘……’ เสียงย้อนอดีต

    """""………""""" เสียงฝูงชน

    "……" พูดคุยในความทรงจำ

    '……' พูดในใจในความทรงจำ

    """"………"""" เสียงฝูงชนในความทรงจำ

    *…… เสียงที่เกิดจากแหล่งกำเนินเสียงต่างๆที่ไม่ใช่เสียงพูด *ยกเว้นเสียงคำราม


    ตีสามวันจันทร์ของวันนึงซึ่งก็เป็นเวลานอนของหลายๆคนในประเทศJแต่มันกลับมีชายคนนึงกำลังนั่งเขียนไดอารี่อยู่คนเดียวเงียบๆ

    ไทโย'อ่า…นี่ก็เป็นอีกวันที่ผมเจม เอ็ม คาเมล็อตยังคงตื่นขึ้นมาอยู่ร่างเจ้าเด็กที่ชื่อว่าเซ็นโตคิ ไทโยล่ะนะ เมื่อวานก็ไม่ได้มีอะไรมากแค่มีเรื่องชกต่อยกับไอพวกนั้นอีกแล้ว…แต่ที่สำคัญ! ผมได้ใบอนุญาติให้สามารถเอาเครื่องF-14รุ่นAที่ผสมกับสไตล์รัสเซียออกมาบินเล่นในโลกจริงได้แล้วล่ะนะตื่นเต้นเป็นบ้าเลยวุ้ย! ถึงจะไม่อนุญาติให้ติดอาวุธก็เถอะ ฮ่าๆๆๆ ไม่รู้หรอกนะว่าจะโดนพวกรัฐบาลจับได้รึป่าว...แต่สายเลือดนักบินของฉันยังอยู่เต็มเปี่ยม!'

    เซ็นโตคิ ไทโย

    ไทโยได้ยกยิ้มอยู่ในใจคนเดียว ก่อนจะเริ่มละเลงเขียนลายละเอียดต่างๆลงไปอย่างสนุกสนานรวมถึงแต้มสกอร์สังหารไคจูที่จัดการไปตั้งแต่เป็นGP และเมื่อเขียนเสร็จไทโยก็ได้กระโดดลงออกจากเตียง แล้วไปอาบน้ำและเมื่ออาบน้ำเสร็จก็ออกมาเอาวัตถุดิบที่ดูมีราคาในตู้เย็นที่ซื้อมาเมื่อวานมาทำอาหารซึ่งถามว่าเขาได้เงินมาจากไหน

    คำตอบก็ง่ายๆเพราะเงินเดือนการเป็นGPพึ่งออก ซึ่งก็เยอะมากๆแต่สำหรับความคุ้มค่าก็ไม่มากเท่าไหร่เพราะต้องเสี่ยงตายกับเครื่องที่มีความเร็วสูงอยู่บ่อยครั้งถ้านั้นเป็นคนอื่นล่ะนะ

    แต่นี่ใครใช่แล้วเขาคืออดีตAcePilotยังไงล่ะ! ของแค่นี้จิบๆเจอขับสมัยF-45 killswitchบวกกับMiG-41ยังเดือดกว่านี้เยอะเลย นั้นทำให้เขาค่อนข้างพอใจกับเงินที่ได้ รวมถึงเงินค่าออกแบบเครื่องบินและคำปรึกษาให้กับเหล่าทีมวิศวกรอีกต่างหากนั้นทำให้เขามีเงินสดมากถึงสามร้อยล้านเยนโดยประมาณอยู่ในตู้เซฟของตัวเองที่มิติกระจก

    และเมื่อเขากินเสร็จก็นั่งดูข่าวรออย่างตื่นเต้นที่ในที่สุดเขาก็จะได้ขับเครื่องบินในตำนานที่พ่อเขาเคยขับและสร้างตำนานเอาไว้มากมาย

    ไทโย'พ่อครับผมจะได้ขับเครื่องที่พอได้สร้างตำนานไว้แล้วนะครับ…'

    แล้วเวลาก็ได้ผ่านไปจนถึงเช้า

    ไทโยได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเปิดเพลงที่เขาค่อนข้างชื่นชอบในโลกก่อนที่เขาร้องและตัดต่อขึ้นมาเองในโลกนี้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปใช้เจลเซ็ตผม จริงสิลืมบอกไปสื่อบันเทิงที่นี่โคตรหวยเพลงก็มีแต่เxี้ยอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด เลยต้องทำเพลงที่เคยฟังมาทำเองทั้งหมดตลอดหกเจ็ดปีล่ะนะ ดีที่ผมความจำแม่นแบบสุดๆล่ะนะ…

    ไทโย"DI YA DA DA DE…DI YA DA DA DE…DI YA DA DA DE…"

    เมื่อเซ็ตผมเสร็จก็เดินออกมาหยิบเสื้อนักเรียนมาใส่หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายและไม่ลืมที่จะปิดแอร์ ก่อนจะเดินออกมาจากถึงแม้ว่าเขาจะมีเงินเยอะขนาดนั้นแต่ว่าเขาก็ยังคงติดนิสัยประหยัดเงินอยู่ดีไม่ใช่เพราะอะไรหรอกมากหรอก ก็แค่พ่อแม่ได้เลิกจ่ายค่าต่างๆมาได้ 3 ปีแล้วเพราะว่าพวกเขาจะเอาเงินไปให้พี่สาวที่อยู่ในรุ่นเดียวกันแค่เกิดมาก่อนและน้องสาวที่อายุน้อยกว่าเขา 1 ปีแต่ทั้งครอบครังก็ยังคงไม่สนใจเขาอยู่ดี

    ช่างเถอะแต่ยังไงผมก็รักพวกเขานะที่มอบชีวิตให้ผมน่ะเหมือนกับคำพูดของพ่อที่เคยพูดเอาไว้… ‘จำเอาไว้นะลูกชาย…ไม่ว่าแม่แกจะเป็นคนที่ไม่ดียังไง ไม่ว่าพ่อจะฆ่าคนมามากมายแค่ไหนในสงคราม…แต่ก็จงจำเอาไว้นะเจมไม่ว่ายังไงแม่แกก็ยังคงเป็นผู้ให้กำเนิดล่ะนะ’มันเป็นคำพูดที่สลักไว้ที่หัวใจผมได้ดีเลยล่ะ

    ‘จริงสิ…ไอลูกชายจำเอาไว้ด้วยล่ะที่พ่อเป็นทหารน่ะ เพราะว่าเมื่อก่อนพี่สาวกับน้องสาวของพ่อดันสมัครเป็นทหารเรือพ่อเลยต้องสมัครเพื่อดูแลล่ะนะ…ถึงแม้แกจะไม่มีพี่น้องก็ตามแต่ก็ฟังเอาไว้หน่อยก็แล้วกัน’ซึ่งวัันนั้นพวกเราก็ได้หัวเราะกันอย่างสนุกสนานตามสไตล์พ่อลูกล่ะนะ

    ‘อ้อ…ไอลูกชายจำเอาไว้ล่ะว่าวันนึงคนเราก็ต้องตายไป เพราะงั้นก็จงใช้ชีวิตให้มีค่าและน่าจดจำซ่ะนะ’คำพูดเหล่านั้นมันก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของฉันอยู่ล่ะนะ

    หลังจากคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆไม่นานก็ได้เดินมาถึงหน้าโรงเรียนแล้ว อะ-ใช่โรงเรียนี้แหละโรงเรียนที่ดังที่สุดในประเทศแล้วที่เข้ามาได้ก็ไม่ได้ยัดตังค์หรอกนะ แต่สอบเข้ามาได้เองต่างหากล่ะถึงพ่อกับแม่จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ก็เถอะ ฮ่าๆๆๆ… ช่างเรื่องนั้นไปเถอะ

    แล้วไทโยก็เดินเข้าไปในโรงเรียนซึ่งนักเรียนในตอนนี้ก็ไม่ได้เยอะมากแต่ไทโยก็ยังสัมผัสได้ถึงแววตาอันเกลียดชังที่วส่งมาให้เขาอยู่ตลอดทางเดิน ซึ่งไทโยก็ไม่ได้สนใจอะไรยังคงเดินชิวตรงไปที่ห้องเรียนของตนต่อไป

    และแล้วเวลาได้ผ่านไปจนถึง 8.30 น.

    เสียงตามสายก็ได้ดังขึ้น

    “สวัสดีอาจารย์และนักเรียนที่น่ารักทุกๆท่านวันนี้ขอให้นักเรียนและอาจารย์ทุกท่านมารวมกันที่ห้องประชุมใหญ่นะครับ วันนี้มีงานใหญ่งดการเรียนการสอน 1 วันนะครับ”

    สิ้นเสียงประกาศก็ได้เกิดเสียงดันขึ้นในห้องเท่าที่จับใจความได้ก็เรื่องงดการเรียนการสอนล่ะนะ เอาเถอะถึงไม่ค่อยรู้เรื่องว่าอะไรก็เถอะแต่ก็ไม่อยากไปเท่าไหร่หรอก เพราะมันก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน้าดูเลย แต่ไม่ไปก็ไม่ได้หรอก…

    ไทโย'เอาเถอะไปก็ไปวะ…'

    แล้วไทโยก็ลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องในทันที ซึ่งระหว่างทางเดินไปนั้นก็พบกับสายตาที่แสดงถึงความเกลียดชังเขามากมาย ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเกลียดฉันเรื่องอะไรในเมื่อฉันก็ไม่ได้สโตเกอร์ใครมาหลายปีแล้วนะ…ตั้งแต่ได้ร่างนี้มาแล้วนะ เอาเถอะอย่าไปสนใจเลย

    สุดท้ายไทโยก็ได้เดินมาถึงห้องประชุมโดยไม่ได้สนใจสายตารอบๆแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะเดินไปเลือกที่นั่งตกที่แอร์ลงเต็มๆซึ่งก็เป็นที่ประจำของเขาเช่นกัน

    เพียงไม่กี่นาทีต่อมาทุกคนก็มาอยู่ที่ห้องประชุมกันจนเต็มห้องและมีเบียดๆกันนิดหน่อยเนื่องจากว่าไม่มีใครกล้านั่งติดกับไทโยสักคน

    ไทโย'จะเหยียดก็เหยียดให้มันน้อยๆหน่อยก็ดีนะ'

    แต่ในตอนนั้นเองผอ.ก็ได้เดินเข้ามาพร้อมเริ่มพูดหน้าเวที

    ผอ."เอาล่ะนักเรียนทุกคนช่วยเงียบกันหน่อยครับ! วันนี้ผมผู้อำนวยการโรงเรียนxxxมีเรื่องจะมาประกาศ"

    ผอ.โรงเรียน

    ทันใดนั้นทั้งห้องก็เงียบลง

    ผอ."ทุกคนน่าจะได้ดูถ่ายทอดสดเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องอ่านความทรงจำของเหล่านักวิทยศาสตร์ที่กำลังทดลองอยู่ในขณะนี้ และในวันนี้เหล่านำกวิทยศาสตร์นั้นได้นำเครื่องอ่านความทรงจำมายังโรงเรียนของเราเพื่อสุ่มนักเรียนผู้โชคดีออกมาถ่ายทอดสดความทรงจำของตัวเองให้คนทั่วโลกได้เห็นได้รับชม! ใครคิดว่าตัวเองมีช่วงเวลาอันดีงามและรุ่งโรจน์ที่สามารถโชว์ได้ก็ก้าวออกมาเลย!"

    เมื่อพูดจบก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา และนักวิทยาศาสตร์ก็ได้เปิดผ้าคลุ่มเครื่องอ่านความทรงจำออกมาซึ่งมันค่อนข้างดูลำสมัยแบบสุดเลยล่ะนะ เอ่อ! จริงสิลืมบอกไปเลยแฮะว่าเทคโนโลยีในโลกนี้ไม่ได้สูงกว่าโลกที่ฉันจากมาแถมเรื่องอาวุธก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินแบบสุดๆล่ะนะ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดสงครามก็หลายครั้งแต่เทคโนโลยีด้านอาวุธกลับแทบไม่ขยับเพราะอะไร…แต่ก็นะมันกลับมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าโลกที่ฉันจากมา บางส่วนก็ไม่รู้จักบางส่วนก็พอรู้จักอยู่ด้วยล่ะนะ

    "ว้าว! คิดไม่ถึงจริงๆว่าพวกเขาจะเลือกโรงเรียนเรานะ!"

    "ตื่นเต้นแบบสุดๆเลย จะมีใครเห็นฝีมือบาสของฉันแล้วอยากเรียกให้เข้าทีมไหมล่ะเนี่ย"

    "ไม่อยากถูกดูความทรงจำเลย มันดูไม่ส่วนตัวเลยสักนิด"

    "น่าจะสำหรับพวกดาวโรงเรียนอย่างเดียวละมั้ง"

    ไทโย'ช่างเถอะ…เรื่องหน้าเบื่อฉันก็ไม่อย่างไปยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอกนะ ดูถ้าแล้วจะได้อยู่ในห้องนี่ทั้งวันเปิดเพลงแล้วนอนรอตอนเย็นดีกว่า…ผอ.แกไม่ว่าหรอก'

    จริงๆแล้วไทโยค่อนข้างสนิทกับผอ.ไม่ใช่เพราะอะไรเพราะว่าเขาเป็นซ่องรถให้สมัยอาจารย์แกยังสอนอยู่บ่อยๆเนื่องจากเด็กเกเรค่อนข้างเกลียดอาจารย์คนนี้มากเพราะเป็นคนค่อนข้างเข้มงวดล่ะนะ และบางครั้งก็แอบไปช่วยพ่อครัวแม่ครัวทำอาหารโรงเรียนอยู่บ่อยๆเช่นกันแถมไม่เอาตังค์ด้วย

    (นี่เพลงทั้งหมดที่ไทโยฟังSongs of the North)

    เมื่อใส่หูฟังและเปิดเพลงในเครื่องที่คล้ายๆMP3ที่ซื้อมาเสร็จก็ฟุบตัวลงไปนอนในทันที

    """""เฮ!!!"""""

    ด้วยความที่เครื่องนี่มันพิเศษสุดๆสามารถืทำให้มองเห็นเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ได้ทำให้มองเห็นจังหวะดังค์สุดเท่ได้

    "ลูกพี่สึคาสะดังค์บาสได้เท่มาก!!!"

    "รุ่นพี่สึคาสะหล่อสุดๆไปเลยค่า!!!"

    "สมกับเป็นนักบาสดาวเด่นโรงเรียนของเรา"

    หัวหน้าครูจากสาขาต่างๆก็ได้ส่งคนที่มีทักษะสูงสุดของแต่ละคนมาเพื่อโปรโมทและอวดโฉมหน้าโรงเรียนเกี่ยวกับการเรียนการสอนอันมีประสิทธิภาพของโรงเรียนที่ได้ฉายาว่าอันดับหนึ่งแห่งนี้

    [นักเรียนคนนั้นดูจะเก่งพอๆกับทีมระดับประเทศของประเทศJเลยแฮะ ถ้าปั้นต่อเก่งกว่านี้แน่!]

    [นั้นมันลูกชายฉันนี่! สมกับเป็นลูกของฉันจริงๆด้วย!]

    [เด็กนั้นเก่งคณิตศาสตร์สุดๆไปเลยล่ะ อนาคตเป็นนักคณิตศาสตร์อันดับ 1 ของโลกแน่ๆ!]

    [โรงเรียนนี้สุดยอดจริงๆสอนเด็กให้เก่งสุดๆไปเลยล่ะ!]

    [โอ้ว! ดูเธอสิสวยสุดๆไปเลย!]

    [จริงด้วย!! สวยสุดๆไปเลย เอื้อ เลือดจะไหลหมดตัวตายแล้ว!]

    [ข้างบนโรคจิตป่ะครับ]

    [+1]

    [เด็กๆที่นี่มีความทรงจำดีๆทั้งนั้นเลยแฮะ…]

    ก็นั่นแหละนี่มันเป็นการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกให้พวกชอบยุ่งจุ้นจานเรื่องส่วนตัวคนอื่นเขาไปทั่วให้เข้ามาดูได้เนอะ

    อาจารย์สอนวาดรูป"ต่อไปใครดีนะ?…มิซารี่กับเรน!มีใครอยากโชว์ไหม?"

    เรน กับ มิซารี่

    ซึ่งทั้งสองเป็นพี่น้องของไทโยโดยมิซารี่เป็นพี่สาวและเรนเป็นน้องสาว

    เรน"ไม่มีปัญหาคะ! เดี๋ยวจะโชว์ความเข็มแข็งผ่านงานศิลปะของฉันเองค่ะ!"

    เรนได้ลุกขึ้นด้วยความมั่นใจและรอยยิ้มอ่อนๆที่ดูแล้วน่ารักแบบสุดๆ ก่อนจะมีเสียงเฮจากคนในห้องประชุมตามมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะเดินขึ้นไปนั่งบนเครื่องอ่านความทรงจำ

    [ดูถ้าแล้วทั้งคู่พวกเธอจะเป็นนักวาดภาพล่ะนะ]

    [น่าจะวาดได้สวยมากเหมือนหน้าตาของเธอแน่ๆเลย]

    แล้วเรนก็ได้หันมามองไทโยซึ่งเป็นพี่ชายของเธอด้วยหน้าว่างเปล่าและเย็นชา

    เรน'สุดท้ายไอพี่บ้านั้นก็ไม่สนใจพวกเราอยู่ดี…'

    ซึ่งมันก็ดันเป็นเวลาเดียวกับที่เพลงที่เปิดเอาไว้จบลงพอดี

    ไทโย'เพลงจบหมดแล้วแฮะ…เปิดwhen johnny comes marching homeต่อดีกว่า'

    แล้วไทโยก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วกดเปลี่ยนเพลงไปเป็นเพลงที่ต้องการทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจตัวของเรนแม้แต่นิดเดียว

    ไทโย'โอเค…นอนต่อ'

    ภาพความทรงจำต่างๆของเรนก็ได้ถูกฉายออกมา โดยรวมๆแล้วก็ไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่…แต่มันก็มีแค่รูปเดียวที่ทำให้พอติดใจได้ก็คือภาพโมนาลิซาในตำนาน! ซึ่งโลกใบนี้ก็เคยมีรูปนี้มาก่อนอยู่แล้วนะแต่ด้วยเพราะมันได้หายไปนานมากจนไม่มีใครรู็จักมัน แต่สุดท้ายก็เลิกสนใจอยู่ดีเพราะเขาไม่ได้ชื่นชอบงานศิลปะแบบนั้นเท่าไหร่ เพราะศิลปะคือความเร็วยังไงล่ะ!!!

    ถึงกระนั้นเลยเรื่องวิชาอื่นเธอก็ยังคงทำคะแนนได้ดีล่ะนะ ถึงแม้จะมีหลุดบ้าง เช่น มีเรื่องกับนักเลงต่างๆอยู่บ่อยๆ บางทีก็หลับที่โต๊ะคาห้องเรียนบ้าง แต่ก็นั้นแหละเรื่องเล็กน้อย

    เรน"นี่พี่มิซารี่ทำอะไรอยู่หรอ"

    มิซารี่"อ้อ กำลังวาดรูปใหม่อยู่น่ะ"

    อ่า ใช่เหมือนพี่สาวของฉันจะเป็นแวนโก๊ะเลยแฮะก็นะเธอวาดภาพThe Starry Nightทั้งๆที่ไม่มีใครวาดมาก่อนนี่เนอะ ใช่ๆศิลปะพพวกนี้โลกนี่ก็เคยมีนะแต่มันก็ได้หายไปนานมากจนไม่มีใครคิดว่ามีแล้วล่ะ ถ้าถามว่ารู้ได้ยังไงก็พวกGuardianมันชอบสะสมของต่างๆไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของพวกเขาเองนี่เนอะ ซึ่งเขาก็เคยเดินไปเจแล้วเหมือนกัน

    มิซารี่"พอดีเหมือนเคยเห็นน่ะแล้วมันดูสวยมากเลยเอามาวาดน่ะ"

    เรน"เหมือนฉันเลยนะฉันก็เหมือนเคยเห็นภาพนี่(ภาพโมนาลิซา)มาก่อนก็เลยวาดเหมือนกันนะ แต่ก็น่าจะเป็นจินตนาการที่เข้ามาตอนที่เราพักผ่อนชมวิวนั้นแหละ" 

    มิซารี่"นั้นสินะ"

    ว้าว นั้นไงเป็นเรื่องแล้วไงมีพวกGuardianอนุญาติให้คนธรรมดาเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ได้ด้วยหรอเนี่ย? ช่างมันเดี๋ยวค่อยส่งคนให้ไปตรวจสอบก็แล้วกัน …แถมลืมลบความทรงจำไปคนนึงด้วยแฮะ…

    [โว้ว! ที่อาจารย์เรียกเมื่อกี้ก็พี่สาวของเธออีกแถมเธอวาดได้สวยมากๆเลยด้วย!]

    [แฝดคนพี่ดูค่อนข้างไปทางคนที่เรียบร้อยนะ]

    [ฉันให้ภาพพวกนั้นอยู่ในระดับตำนานเลย สมแล้วที่เป็นจินตนาการของหญิงสาวสุดสวยทั้งสอง!]

    ก่อนภาพฉายความทรงจำจะตัดไปที่ตอนเย็น

    เรน"เลิกเรียนแล้วกลับกัน"

    มิซารี่"จ้า ไปกัน"

    ในภาพเมื่อพวกเธอเดินออกมาแล้วเจอกับชายคนนึงที่นั่งหันหลังให้พวกเธอและจ้องมองพวกนักเลงที่ดูแล้วน่าจะโดนซัดจนนอนมอบอยู่อย่างไม่พูดอะไร

    เรน"เราไปกันทางอื่นกัน"

    มิซารี่"…อะ-อืม ไปกันเถอะ"

    แล้วพวกเธอก็เดินเลี่ยงออกมา

    เรน"ฉันไม่อยากเดินไปใกล้กับเจ้าพี่บ้านั้นเลย"

    มิซารี่"อืม…"

    แล้วความทรงจำก็จบลงไป พร้อมกับเรนที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างสลึมสลือ

    "ไม่น่าเชื่อเลยว่าไออันทพาลนั้นจะเป็นพี่ชายของเรน…"

    "นั้นมันไอเจ้าไทโยนี่หว่า!"

    "ใช่! ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะอยู่กับไอเจ้านั้นอย่างนั้น!"

    "ไม่มั้ง? เห็นว่าพ่อแม่ของเจ้านั้นไม่ให้เงินและตัดออกจากกองมรดกแล้วนิ แถมโดนไล่ออกจากบ้านไปแล้วด้วย"

    "เป็นแบบนั้นก็ดีสิ!"

    "ไม่ใช่มันเปลี่ยนนิสัยไปแล้วหรอ?"

    "สันดานอย่างมันเนี่ยนะจะเปลี่ยนได้!"

    มิซารี่"…"

    [ปกติเธอก็ดูเป็นคนที่รักเพื่อนๆรอบข้างนะแต่ทำไมกับชายคนนั้นกลับพูดอย่างงั้นล่ะ?]

    [หมอนั้นใคร? ทำไมเธอถึงไม่ชอบเขานักล่ะ?]

    [ไม่ได้ฟังรึไงเขาเป็นพี่ชายก็เธอไงที่เธอพูดมาก่อนจบน่ะ]

    [มันมีเรื่องอะไรล่ะนะ งั้นก็หมายความว่ามันต้องมีเรื่องอะไรที่เขาก่อเอาไว้แน่!]

    [แต่ถ้าเป็นอย่างงั้นทำไมมิซารี่เธอถึงดูไม่ได้เกลียดอะไรแบบนั้นเลยล่ะ?]

    [ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเธออาจจะรักษามารยาทไว้อยู่ก็ได้มั้ง?]

    ส่วนไทโยนั้นเจ้าตัวตอนนี้นั้นหลับลงไปแล้ว ส่วนเพลงก็ยังคงเล่นต่ออยู่เป็นเพลงของCivil War Songs of the Southอยู่

    พิธีกร"ขอบคุณสำหรับความทรงจำของเธอนะนักเรียนเรน"

    เรน"ไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะ!"

    เรนยืดอกที่แทบไม่มีด้วยความภาคภูมิใจ จากนั้นเธอก็หันไปหาที่ของตัวเองก่อนเดินกลับเธอก็ได้มองไปที่ไทโยที่กำลังหลับด้วยสายที่เกลียดชังและเย็นชา

    พิธีกร"แบตเตอร์รี่เหลือ 1 ชั่วโมงและเราจะพักครึ่งแรกกันแล้วมีใครจะออกมาปิดงานรอบเช้านี้ไหม!?"

    """""………"""""

    ทันใดนั้นทั้งห้องก็เงียบและมองไปไทโยที่กำลังหลับแบบสบายใจนั้นทำให้ผอ.รู้ได้ทันที

    ผอ.'…ขอโทษนะไทโยคุง ถึงแม้ว่าเธอจะปรับปรุงพฤติกรรมไปมากแล้วแต่ผอ.ช่วยไม่ได้จริงๆ'

    ผอ.คิดในใจอย่างรู้สึกผิด และยืนกำหมัดแน่นอย่างเงียบๆ

    *หมับ!!

    ไม่ทันไรก็มีเด็กนักเลงที่ตัวใหญ่กว่าไทโยแต่กลับแพ้ไทโยอย่างหน้าอนาถขึ้นมากระชากคอเสื้อและลากร่างอันไร้สติลงมาบนเวที ก่อนจะโยนลงกับพื้นอย่างแรง

    "ไม่แรงไปหน่อยหรอวะ? นี่ถ่ายทอดสดอยู่นะ"

    "ไม่ต้องแรงกว่านี่สิฟ่ะ!"

    "เมื่อไหร่ผอ.จะไล่มันออกจากโรงเรียนวะ!"

    "ถ้าผอ.ยังไม่เอาออกก็ให้สังคมและทั่วโลกตัดสินไปก็แล้วกัน!"

    แล้วเจ้านั้นก็กระชากผมของไทโยขึ้นมาอย่างแรง

    สึคาสะ"เงยหน้าขึ้นมาซ่ะสารเลว! ให้คนทั้งประเทศได้จดจำใบหน้าของอันทพาลเลวๆอย่างแกซ่ะ!"

    ชายคนนี่ก็คือนักบาสสึคาสะนั่นเอง และก็เป็นดาวเด่นที่เป็นคนนั่งอ่านความทรงจำคนแรกอีกต่างหาก

    ยูคิ(ตัวละครรับเชิญจากfullbaster)"ไม่เกินไปรึไง…"

    โอตะ ยูคิ ตัวละครรับเชิญ ฉายา มหาเทพแห่งFullbaster

    สึคาสะ"ก็แกไม่โดนมันแกล้งไงยูคิแกจะไปรู้ได้ยังไงห่ะ!!!"

    ยูคิ"ก็แล้วแต่…ก็ไม่ได้ว่าอะไร"

    ยูคิ'เห…F-14สีแดงทองของแกมัน…รสนิยมดีนิเจ้าหนู'

    แล้วยูคิก็เลิกสนใจไป

    สึคาซะ"เอาล่ะ…ทุกคนคงจะสงสัยว่าทำไมผมถึงรุนแรงกับชายคนนี้นัก…"

    แล้วสึคาซะก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดออกมาต่อ

    สึคาซะ"เขาเป็นคนโรคจิตชอบทำตัวเป็นสโตกเกอร์ไล่ตามผู้หญิง!"

    'เลิกไปนานเกือบ 8 ปีแล้ว'

    สึคาซะ"ชอบแอบขโมยของของทางโรงเรียน"

    'เลิกไปนานเกือบ 8 ปีแล้วเหมือนกัน'

    สึคาสะ"พยายามเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้หญิง"

    'ไอนั้นก็เลิกไปนานเกือบ 8 ปีแล้วเหมือนกัน'

    ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ได้้แก้ต่างแต่ผอ.และเหล่าแม่บ้านก็กลับแก้ต่างในใจให้

    สึคาสะ"หนักสุดๆเคย พยายามฆ่าเพื่อนในชั้นเรียน"

    'อันนี้ปั้นน้ำเป็นตัวนะ'

    สึคาสะ"เนื่องจากมันยังไม่บรรลุนิติภาวะทำให้กฎหมายทำอะไรเข้าไม่ได้ แต่ตอนนี้เขา 20 ปีไปแล้วแต่กลับยังไม่รับโทษที่ก่อเอาไว้เพิ่ม วันนี้ผมจึงอยากให้สังคมเห็นถึงความเน่าเฟะของชายที่ชื่อว่าเซ็นโตคิ ไทโยคนนี้!"

    'ก็ไม่เห็นก่อคดีอะไรเพิ่มนะ…'

    ยูคิ'ฉันว่าน่าจะเป็นแกมากกว่ามั้ง…'

    ''''''''แปะๆๆๆๆๆๆๆ''''''''

    แล้วเสียงตบมือก็ดังขึ้นจากทั้งห้องประชุมมีเพียงอาจารย์บางคนและนักเรียนบางคนที่ไม่ตบมือ

    "นั่นแหละพูดได้ถูกใจสุดๆ!!!"

    "วันนี้แหละเป็นวันที่พวกเราจะได้ลดความแค้นกับแกลงได้!!!"

    "ไปตายๆซ่ะไอเศษขยะโสโครก!!!"

    [หน้าตาก็ดีไม่น่าเลยเสียของจริง…]

    [เจ้าหนุ่มนี่ยังอยู่ในโรงเรียนอันดับ1ได้ยังไง?]

    [หรือว่ายัดเงินใต้เข้า!]

    [แต่พ่อแม่ก็ไม่ส่งเงินให้เขามาหลายปีแล้วนะเขาจะเอาเงินที่ไหนยัดได้ล่ะ?]

    [แค่เครื่องเปิดก็มีหลักฐานเอาผิดแล้ว!]

    แล้วนักวิทยาศาสตร์ก็เอาเครื่องมาใส่แล้วสั่งเปิดเครื่องจ่ายพลังส่งพลังงานเข้าเครื่องฉายในทันที

    .

    แล้วภาพความทรงจำแรกก็เผยให้เห็นช่ายคนนึงกำลังทำท่าเขียนภาษาที่ใช้กันได้เกือบทุกที่ในโลกนั้นก็คือภาษาของประเทศEลงในกระดาษ แต่ก็ไม่อาจจะอ่านได้ออกเพราะเป็นหมึกล่องหน

    [TBC]

    ตัวอย่างตอนต่อไป!

    ไทโย"เสร็จสักทีเอาล่ะกดเริ่มอัดเสียงเลยก็แล้วกัน"

    "บ้าน่า- ไอบ้านั้นเก่งภาษาEขนาดนี้เลยหรอ!"

    ยูคิ"วู้ว หู้ว!!! นะ-นี่มันสมบูรณ์แบบ!!!"

    [เขาร้องเพลงได้สุดยอดจริงๆ!]

    [ฉันอยากฟังอีก!]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×