คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เครื่องอ่านความทรงจำ
ควรเปิดดู
"……" พูดปกติ
'……' พูดในใจ
[……] คอมเม้น
‘……’ เสียงย้อนอดีต
"""""………""""" เสียงฝูงชน
"……" พูดคุยในความทรงจำ
'……' พูดในใจในความทรงจำ
""""………"""" เสียงฝูงชนในความทรงจำ
*…… เสียงที่เกิดจากแหล่งกำเนินเสียงต่างๆที่ไม่ใช่เสียงพูด *ยกเว้นเสียงคำราม
ตีสามวันจันทร์ของวันนึงซึ่งก็เป็นเวลานอนของหลายๆคนในประเทศJแต่มันกลับมีชายคนนึงกำลังนั่งเขียนไดอารี่อยู่คนเดียวเงียบๆ
ไทโย'อ่า…นี่ก็เป็นอีกวันที่ผมเจม เอ็ม คาเมล็อตยังคงตื่นขึ้นมาอยู่ร่างเจ้าเด็กที่ชื่อว่าเซ็นโตคิ ไทโยล่ะนะ เมื่อวานก็ไม่ได้มีอะไรมากแค่มีเรื่องชกต่อยกับไอพวกนั้นอีกแล้ว…แต่ที่สำคัญ! ผมได้ใบอนุญาติให้สามารถเอาเครื่องF-14รุ่นAที่ผสมกับสไตล์รัสเซียออกมาบินเล่นในโลกจริงได้แล้วล่ะนะตื่นเต้นเป็นบ้าเลยวุ้ย! ถึงจะไม่อนุญาติให้ติดอาวุธก็เถอะ ฮ่าๆๆๆ ไม่รู้หรอกนะว่าจะโดนพวกรัฐบาลจับได้รึป่าว...แต่สายเลือดนักบินของฉันยังอยู่เต็มเปี่ยม!'
ไทโยได้ยกยิ้มอยู่ในใจคนเดียว ก่อนจะเริ่มละเลงเขียนลายละเอียดต่างๆลงไปอย่างสนุกสนานรวมถึงแต้มสกอร์สังหารไคจูที่จัดการไปตั้งแต่เป็นGP และเมื่อเขียนเสร็จไทโยก็ได้กระโดดลงออกจากเตียง แล้วไปอาบน้ำและเมื่ออาบน้ำเสร็จก็ออกมาเอาวัตถุดิบที่ดูมีราคาในตู้เย็นที่ซื้อมาเมื่อวานมาทำอาหารซึ่งถามว่าเขาได้เงินมาจากไหน
คำตอบก็ง่ายๆเพราะเงินเดือนการเป็นGPพึ่งออก ซึ่งก็เยอะมากๆแต่สำหรับความคุ้มค่าก็ไม่มากเท่าไหร่เพราะต้องเสี่ยงตายกับเครื่องที่มีความเร็วสูงอยู่บ่อยครั้งถ้านั้นเป็นคนอื่นล่ะนะ
แต่นี่ใครใช่แล้วเขาคืออดีตAcePilotยังไงล่ะ! ของแค่นี้จิบๆเจอขับสมัยF-45 killswitchบวกกับMiG-41ยังเดือดกว่านี้เยอะเลย นั้นทำให้เขาค่อนข้างพอใจกับเงินที่ได้ รวมถึงเงินค่าออกแบบเครื่องบินและคำปรึกษาให้กับเหล่าทีมวิศวกรอีกต่างหากนั้นทำให้เขามีเงินสดมากถึงสามร้อยล้านเยนโดยประมาณอยู่ในตู้เซฟของตัวเองที่มิติกระจก
และเมื่อเขากินเสร็จก็นั่งดูข่าวรออย่างตื่นเต้นที่ในที่สุดเขาก็จะได้ขับเครื่องบินในตำนานที่พ่อเขาเคยขับและสร้างตำนานเอาไว้มากมาย
ไทโย'พ่อครับผมจะได้ขับเครื่องที่พอได้สร้างตำนานไว้แล้วนะครับ…'
แล้วเวลาก็ได้ผ่านไปจนถึงเช้า
ไทโยได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเปิดเพลงที่เขาค่อนข้างชื่นชอบในโลกก่อนที่เขาร้องและตัดต่อขึ้นมาเองในโลกนี้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปใช้เจลเซ็ตผม จริงสิลืมบอกไปสื่อบันเทิงที่นี่โคตรหวยเพลงก็มีแต่เxี้ยอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด เลยต้องทำเพลงที่เคยฟังมาทำเองทั้งหมดตลอดหกเจ็ดปีล่ะนะ ดีที่ผมความจำแม่นแบบสุดๆล่ะนะ…
ไทโย"DI YA DA DA DE…DI YA DA DA DE…DI YA DA DA DE…"
เมื่อเซ็ตผมเสร็จก็เดินออกมาหยิบเสื้อนักเรียนมาใส่หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายและไม่ลืมที่จะปิดแอร์ ก่อนจะเดินออกมาจากถึงแม้ว่าเขาจะมีเงินเยอะขนาดนั้นแต่ว่าเขาก็ยังคงติดนิสัยประหยัดเงินอยู่ดีไม่ใช่เพราะอะไรหรอกมากหรอก ก็แค่พ่อแม่ได้เลิกจ่ายค่าต่างๆมาได้ 3 ปีแล้วเพราะว่าพวกเขาจะเอาเงินไปให้พี่สาวที่อยู่ในรุ่นเดียวกันแค่เกิดมาก่อนและน้องสาวที่อายุน้อยกว่าเขา 1 ปีแต่ทั้งครอบครังก็ยังคงไม่สนใจเขาอยู่ดี
ช่างเถอะแต่ยังไงผมก็รักพวกเขานะที่มอบชีวิตให้ผมน่ะเหมือนกับคำพูดของพ่อที่เคยพูดเอาไว้… ‘จำเอาไว้นะลูกชาย…ไม่ว่าแม่แกจะเป็นคนที่ไม่ดียังไง ไม่ว่าพ่อจะฆ่าคนมามากมายแค่ไหนในสงคราม…แต่ก็จงจำเอาไว้นะเจมไม่ว่ายังไงแม่แกก็ยังคงเป็นผู้ให้กำเนิดล่ะนะ’มันเป็นคำพูดที่สลักไว้ที่หัวใจผมได้ดีเลยล่ะ
‘จริงสิ…ไอลูกชายจำเอาไว้ด้วยล่ะที่พ่อเป็นทหารน่ะ เพราะว่าเมื่อก่อนพี่สาวกับน้องสาวของพ่อดันสมัครเป็นทหารเรือพ่อเลยต้องสมัครเพื่อดูแลล่ะนะ…ถึงแม้แกจะไม่มีพี่น้องก็ตามแต่ก็ฟังเอาไว้หน่อยก็แล้วกัน’ซึ่งวัันนั้นพวกเราก็ได้หัวเราะกันอย่างสนุกสนานตามสไตล์พ่อลูกล่ะนะ
‘อ้อ…ไอลูกชายจำเอาไว้ล่ะว่าวันนึงคนเราก็ต้องตายไป เพราะงั้นก็จงใช้ชีวิตให้มีค่าและน่าจดจำซ่ะนะ’คำพูดเหล่านั้นมันก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของฉันอยู่ล่ะนะ
หลังจากคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆไม่นานก็ได้เดินมาถึงหน้าโรงเรียนแล้ว อะ-ใช่โรงเรียนี้แหละโรงเรียนที่ดังที่สุดในประเทศแล้วที่เข้ามาได้ก็ไม่ได้ยัดตังค์หรอกนะ แต่สอบเข้ามาได้เองต่างหากล่ะถึงพ่อกับแม่จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ก็เถอะ ฮ่าๆๆๆ… ช่างเรื่องนั้นไปเถอะ
แล้วไทโยก็เดินเข้าไปในโรงเรียนซึ่งนักเรียนในตอนนี้ก็ไม่ได้เยอะมากแต่ไทโยก็ยังสัมผัสได้ถึงแววตาอันเกลียดชังที่วส่งมาให้เขาอยู่ตลอดทางเดิน ซึ่งไทโยก็ไม่ได้สนใจอะไรยังคงเดินชิวตรงไปที่ห้องเรียนของตนต่อไป
และแล้วเวลาได้ผ่านไปจนถึง 8.30 น.
เสียงตามสายก็ได้ดังขึ้น
“สวัสดีอาจารย์และนักเรียนที่น่ารักทุกๆท่านวันนี้ขอให้นักเรียนและอาจารย์ทุกท่านมารวมกันที่ห้องประชุมใหญ่นะครับ วันนี้มีงานใหญ่งดการเรียนการสอน 1 วันนะครับ”
สิ้นเสียงประกาศก็ได้เกิดเสียงดันขึ้นในห้องเท่าที่จับใจความได้ก็เรื่องงดการเรียนการสอนล่ะนะ เอาเถอะถึงไม่ค่อยรู้เรื่องว่าอะไรก็เถอะแต่ก็ไม่อยากไปเท่าไหร่หรอก เพราะมันก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน้าดูเลย แต่ไม่ไปก็ไม่ได้หรอก…
ไทโย'เอาเถอะไปก็ไปวะ…'
แล้วไทโยก็ลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องในทันที ซึ่งระหว่างทางเดินไปนั้นก็พบกับสายตาที่แสดงถึงความเกลียดชังเขามากมาย ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเกลียดฉันเรื่องอะไรในเมื่อฉันก็ไม่ได้สโตเกอร์ใครมาหลายปีแล้วนะ…ตั้งแต่ได้ร่างนี้มาแล้วนะ เอาเถอะอย่าไปสนใจเลย
สุดท้ายไทโยก็ได้เดินมาถึงห้องประชุมโดยไม่ได้สนใจสายตารอบๆแม้แต่นิดเดียว ก่อนจะเดินไปเลือกที่นั่งตกที่แอร์ลงเต็มๆซึ่งก็เป็นที่ประจำของเขาเช่นกัน
เพียงไม่กี่นาทีต่อมาทุกคนก็มาอยู่ที่ห้องประชุมกันจนเต็มห้องและมีเบียดๆกันนิดหน่อยเนื่องจากว่าไม่มีใครกล้านั่งติดกับไทโยสักคน
ไทโย'จะเหยียดก็เหยียดให้มันน้อยๆหน่อยก็ดีนะ'
แต่ในตอนนั้นเองผอ.ก็ได้เดินเข้ามาพร้อมเริ่มพูดหน้าเวที
ผอ."เอาล่ะนักเรียนทุกคนช่วยเงียบกันหน่อยครับ! วันนี้ผมผู้อำนวยการโรงเรียนxxxมีเรื่องจะมาประกาศ"
ทันใดนั้นทั้งห้องก็เงียบลง
ผอ."ทุกคนน่าจะได้ดูถ่ายทอดสดเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องอ่านความทรงจำของเหล่านักวิทยศาสตร์ที่กำลังทดลองอยู่ในขณะนี้ และในวันนี้เหล่านำกวิทยศาสตร์นั้นได้นำเครื่องอ่านความทรงจำมายังโรงเรียนของเราเพื่อสุ่มนักเรียนผู้โชคดีออกมาถ่ายทอดสดความทรงจำของตัวเองให้คนทั่วโลกได้เห็นได้รับชม! ใครคิดว่าตัวเองมีช่วงเวลาอันดีงามและรุ่งโรจน์ที่สามารถโชว์ได้ก็ก้าวออกมาเลย!"
เมื่อพูดจบก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา และนักวิทยาศาสตร์ก็ได้เปิดผ้าคลุ่มเครื่องอ่านความทรงจำออกมาซึ่งมันค่อนข้างดูลำสมัยแบบสุดเลยล่ะนะ เอ่อ! จริงสิลืมบอกไปเลยแฮะว่าเทคโนโลยีในโลกนี้ไม่ได้สูงกว่าโลกที่ฉันจากมาแถมเรื่องอาวุธก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินแบบสุดๆล่ะนะ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดสงครามก็หลายครั้งแต่เทคโนโลยีด้านอาวุธกลับแทบไม่ขยับเพราะอะไร…แต่ก็นะมันกลับมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าโลกที่ฉันจากมา บางส่วนก็ไม่รู้จักบางส่วนก็พอรู้จักอยู่ด้วยล่ะนะ
"ว้าว! คิดไม่ถึงจริงๆว่าพวกเขาจะเลือกโรงเรียนเรานะ!"
"ตื่นเต้นแบบสุดๆเลย จะมีใครเห็นฝีมือบาสของฉันแล้วอยากเรียกให้เข้าทีมไหมล่ะเนี่ย"
"ไม่อยากถูกดูความทรงจำเลย มันดูไม่ส่วนตัวเลยสักนิด"
"น่าจะสำหรับพวกดาวโรงเรียนอย่างเดียวละมั้ง"
ไทโย'ช่างเถอะ…เรื่องหน้าเบื่อฉันก็ไม่อย่างไปยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอกนะ ดูถ้าแล้วจะได้อยู่ในห้องนี่ทั้งวันเปิดเพลงแล้วนอนรอตอนเย็นดีกว่า…ผอ.แกไม่ว่าหรอก'
จริงๆแล้วไทโยค่อนข้างสนิทกับผอ.ไม่ใช่เพราะอะไรเพราะว่าเขาเป็นซ่องรถให้สมัยอาจารย์แกยังสอนอยู่บ่อยๆเนื่องจากเด็กเกเรค่อนข้างเกลียดอาจารย์คนนี้มากเพราะเป็นคนค่อนข้างเข้มงวดล่ะนะ และบางครั้งก็แอบไปช่วยพ่อครัวแม่ครัวทำอาหารโรงเรียนอยู่บ่อยๆเช่นกันแถมไม่เอาตังค์ด้วย
(นี่เพลงทั้งหมดที่ไทโยฟังSongs of the North)
เมื่อใส่หูฟังและเปิดเพลงในเครื่องที่คล้ายๆMP3ที่ซื้อมาเสร็จก็ฟุบตัวลงไปนอนในทันที
"""""เฮ!!!"""""
ด้วยความที่เครื่องนี่มันพิเศษสุดๆสามารถืทำให้มองเห็นเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 ได้ทำให้มองเห็นจังหวะดังค์สุดเท่ได้
"ลูกพี่สึคาสะดังค์บาสได้เท่มาก!!!"
"รุ่นพี่สึคาสะหล่อสุดๆไปเลยค่า!!!"
"สมกับเป็นนักบาสดาวเด่นโรงเรียนของเรา"
หัวหน้าครูจากสาขาต่างๆก็ได้ส่งคนที่มีทักษะสูงสุดของแต่ละคนมาเพื่อโปรโมทและอวดโฉมหน้าโรงเรียนเกี่ยวกับการเรียนการสอนอันมีประสิทธิภาพของโรงเรียนที่ได้ฉายาว่าอันดับหนึ่งแห่งนี้
[นักเรียนคนนั้นดูจะเก่งพอๆกับทีมระดับประเทศของประเทศJเลยแฮะ ถ้าปั้นต่อเก่งกว่านี้แน่!]
[นั้นมันลูกชายฉันนี่! สมกับเป็นลูกของฉันจริงๆด้วย!]
[เด็กนั้นเก่งคณิตศาสตร์สุดๆไปเลยล่ะ อนาคตเป็นนักคณิตศาสตร์อันดับ 1 ของโลกแน่ๆ!]
[โรงเรียนนี้สุดยอดจริงๆสอนเด็กให้เก่งสุดๆไปเลยล่ะ!]
[โอ้ว! ดูเธอสิสวยสุดๆไปเลย!]
[จริงด้วย!! สวยสุดๆไปเลย เอื้อ เลือดจะไหลหมดตัวตายแล้ว!]
[ข้างบนโรคจิตป่ะครับ]
[+1]
[เด็กๆที่นี่มีความทรงจำดีๆทั้งนั้นเลยแฮะ…]
ก็นั่นแหละนี่มันเป็นการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกให้พวกชอบยุ่งจุ้นจานเรื่องส่วนตัวคนอื่นเขาไปทั่วให้เข้ามาดูได้เนอะ
อาจารย์สอนวาดรูป"ต่อไปใครดีนะ?…มิซารี่กับเรน!มีใครอยากโชว์ไหม?"
ซึ่งทั้งสองเป็นพี่น้องของไทโยโดยมิซารี่เป็นพี่สาวและเรนเป็นน้องสาว
เรน"ไม่มีปัญหาคะ! เดี๋ยวจะโชว์ความเข็มแข็งผ่านงานศิลปะของฉันเองค่ะ!"
เรนได้ลุกขึ้นด้วยความมั่นใจและรอยยิ้มอ่อนๆที่ดูแล้วน่ารักแบบสุดๆ ก่อนจะมีเสียงเฮจากคนในห้องประชุมตามมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เธอจะเดินขึ้นไปนั่งบนเครื่องอ่านความทรงจำ
[ดูถ้าแล้วทั้งคู่พวกเธอจะเป็นนักวาดภาพล่ะนะ]
[น่าจะวาดได้สวยมากเหมือนหน้าตาของเธอแน่ๆเลย]
แล้วเรนก็ได้หันมามองไทโยซึ่งเป็นพี่ชายของเธอด้วยหน้าว่างเปล่าและเย็นชา
เรน'สุดท้ายไอพี่บ้านั้นก็ไม่สนใจพวกเราอยู่ดี…'
ซึ่งมันก็ดันเป็นเวลาเดียวกับที่เพลงที่เปิดเอาไว้จบลงพอดี
ไทโย'เพลงจบหมดแล้วแฮะ…เปิดwhen johnny comes marching homeต่อดีกว่า'
แล้วไทโยก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วกดเปลี่ยนเพลงไปเป็นเพลงที่ต้องการทันทีโดยที่ไม่ได้สนใจตัวของเรนแม้แต่นิดเดียว
ไทโย'โอเค…นอนต่อ'
ภาพความทรงจำต่างๆของเรนก็ได้ถูกฉายออกมา โดยรวมๆแล้วก็ไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่…แต่มันก็มีแค่รูปเดียวที่ทำให้พอติดใจได้ก็คือภาพโมนาลิซาในตำนาน! ซึ่งโลกใบนี้ก็เคยมีรูปนี้มาก่อนอยู่แล้วนะแต่ด้วยเพราะมันได้หายไปนานมากจนไม่มีใครรู็จักมัน แต่สุดท้ายก็เลิกสนใจอยู่ดีเพราะเขาไม่ได้ชื่นชอบงานศิลปะแบบนั้นเท่าไหร่ เพราะศิลปะคือความเร็วยังไงล่ะ!!!
ถึงกระนั้นเลยเรื่องวิชาอื่นเธอก็ยังคงทำคะแนนได้ดีล่ะนะ ถึงแม้จะมีหลุดบ้าง เช่น มีเรื่องกับนักเลงต่างๆอยู่บ่อยๆ บางทีก็หลับที่โต๊ะคาห้องเรียนบ้าง แต่ก็นั้นแหละเรื่องเล็กน้อย
เรน"นี่พี่มิซารี่ทำอะไรอยู่หรอ"
มิซารี่"อ้อ กำลังวาดรูปใหม่อยู่น่ะ"
อ่า ใช่เหมือนพี่สาวของฉันจะเป็นแวนโก๊ะเลยแฮะก็นะเธอวาดภาพThe Starry Nightทั้งๆที่ไม่มีใครวาดมาก่อนนี่เนอะ ใช่ๆศิลปะพพวกนี้โลกนี่ก็เคยมีนะแต่มันก็ได้หายไปนานมากจนไม่มีใครคิดว่ามีแล้วล่ะ ถ้าถามว่ารู้ได้ยังไงก็พวกGuardianมันชอบสะสมของต่างๆไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของพวกเขาเองนี่เนอะ ซึ่งเขาก็เคยเดินไปเจแล้วเหมือนกัน
มิซารี่"พอดีเหมือนเคยเห็นน่ะแล้วมันดูสวยมากเลยเอามาวาดน่ะ"
เรน"เหมือนฉันเลยนะฉันก็เหมือนเคยเห็นภาพนี่(ภาพโมนาลิซา)มาก่อนก็เลยวาดเหมือนกันนะ แต่ก็น่าจะเป็นจินตนาการที่เข้ามาตอนที่เราพักผ่อนชมวิวนั้นแหละ"
มิซารี่"นั้นสินะ"
ว้าว นั้นไงเป็นเรื่องแล้วไงมีพวกGuardianอนุญาติให้คนธรรมดาเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ได้ด้วยหรอเนี่ย? ช่างมันเดี๋ยวค่อยส่งคนให้ไปตรวจสอบก็แล้วกัน …แถมลืมลบความทรงจำไปคนนึงด้วยแฮะ…
[โว้ว! ที่อาจารย์เรียกเมื่อกี้ก็พี่สาวของเธออีกแถมเธอวาดได้สวยมากๆเลยด้วย!]
[แฝดคนพี่ดูค่อนข้างไปทางคนที่เรียบร้อยนะ]
[ฉันให้ภาพพวกนั้นอยู่ในระดับตำนานเลย สมแล้วที่เป็นจินตนาการของหญิงสาวสุดสวยทั้งสอง!]
ก่อนภาพฉายความทรงจำจะตัดไปที่ตอนเย็น
เรน"เลิกเรียนแล้วกลับกัน"
มิซารี่"จ้า ไปกัน"
ในภาพเมื่อพวกเธอเดินออกมาแล้วเจอกับชายคนนึงที่นั่งหันหลังให้พวกเธอและจ้องมองพวกนักเลงที่ดูแล้วน่าจะโดนซัดจนนอนมอบอยู่อย่างไม่พูดอะไร
เรน"เราไปกันทางอื่นกัน"
มิซารี่"…อะ-อืม ไปกันเถอะ"
แล้วพวกเธอก็เดินเลี่ยงออกมา
เรน"ฉันไม่อยากเดินไปใกล้กับเจ้าพี่บ้านั้นเลย"
มิซารี่"อืม…"
แล้วความทรงจำก็จบลงไป พร้อมกับเรนที่ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างสลึมสลือ
"ไม่น่าเชื่อเลยว่าไออันทพาลนั้นจะเป็นพี่ชายของเรน…"
"นั้นมันไอเจ้าไทโยนี่หว่า!"
"ใช่! ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะอยู่กับไอเจ้านั้นอย่างนั้น!"
"ไม่มั้ง? เห็นว่าพ่อแม่ของเจ้านั้นไม่ให้เงินและตัดออกจากกองมรดกแล้วนิ แถมโดนไล่ออกจากบ้านไปแล้วด้วย"
"เป็นแบบนั้นก็ดีสิ!"
"ไม่ใช่มันเปลี่ยนนิสัยไปแล้วหรอ?"
"สันดานอย่างมันเนี่ยนะจะเปลี่ยนได้!"
มิซารี่"…"
[ปกติเธอก็ดูเป็นคนที่รักเพื่อนๆรอบข้างนะแต่ทำไมกับชายคนนั้นกลับพูดอย่างงั้นล่ะ?]
[หมอนั้นใคร? ทำไมเธอถึงไม่ชอบเขานักล่ะ?]
[ไม่ได้ฟังรึไงเขาเป็นพี่ชายก็เธอไงที่เธอพูดมาก่อนจบน่ะ]
[มันมีเรื่องอะไรล่ะนะ งั้นก็หมายความว่ามันต้องมีเรื่องอะไรที่เขาก่อเอาไว้แน่!]
[แต่ถ้าเป็นอย่างงั้นทำไมมิซารี่เธอถึงดูไม่ได้เกลียดอะไรแบบนั้นเลยล่ะ?]
[ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเธออาจจะรักษามารยาทไว้อยู่ก็ได้มั้ง?]
ส่วนไทโยนั้นเจ้าตัวตอนนี้นั้นหลับลงไปแล้ว ส่วนเพลงก็ยังคงเล่นต่ออยู่เป็นเพลงของCivil War Songs of the Southอยู่
พิธีกร"ขอบคุณสำหรับความทรงจำของเธอนะนักเรียนเรน"
เรน"ไม่ใช่เรื่องใหญ่ค่ะ!"
เรนยืดอกที่แทบไม่มีด้วยความภาคภูมิใจ จากนั้นเธอก็หันไปหาที่ของตัวเองก่อนเดินกลับเธอก็ได้มองไปที่ไทโยที่กำลังหลับด้วยสายที่เกลียดชังและเย็นชา
พิธีกร"แบตเตอร์รี่เหลือ 1 ชั่วโมงและเราจะพักครึ่งแรกกันแล้วมีใครจะออกมาปิดงานรอบเช้านี้ไหม!?"
"""""………"""""
ทันใดนั้นทั้งห้องก็เงียบและมองไปไทโยที่กำลังหลับแบบสบายใจนั้นทำให้ผอ.รู้ได้ทันที
ผอ.'…ขอโทษนะไทโยคุง ถึงแม้ว่าเธอจะปรับปรุงพฤติกรรมไปมากแล้วแต่ผอ.ช่วยไม่ได้จริงๆ'
ผอ.คิดในใจอย่างรู้สึกผิด และยืนกำหมัดแน่นอย่างเงียบๆ
*หมับ!!
ไม่ทันไรก็มีเด็กนักเลงที่ตัวใหญ่กว่าไทโยแต่กลับแพ้ไทโยอย่างหน้าอนาถขึ้นมากระชากคอเสื้อและลากร่างอันไร้สติลงมาบนเวที ก่อนจะโยนลงกับพื้นอย่างแรง
"ไม่แรงไปหน่อยหรอวะ? นี่ถ่ายทอดสดอยู่นะ"
"ไม่ต้องแรงกว่านี่สิฟ่ะ!"
"เมื่อไหร่ผอ.จะไล่มันออกจากโรงเรียนวะ!"
"ถ้าผอ.ยังไม่เอาออกก็ให้สังคมและทั่วโลกตัดสินไปก็แล้วกัน!"
แล้วเจ้านั้นก็กระชากผมของไทโยขึ้นมาอย่างแรง
สึคาสะ"เงยหน้าขึ้นมาซ่ะสารเลว! ให้คนทั้งประเทศได้จดจำใบหน้าของอันทพาลเลวๆอย่างแกซ่ะ!"
ชายคนนี่ก็คือนักบาสสึคาสะนั่นเอง และก็เป็นดาวเด่นที่เป็นคนนั่งอ่านความทรงจำคนแรกอีกต่างหาก
ยูคิ(ตัวละครรับเชิญจากfullbaster)"ไม่เกินไปรึไง…"
สึคาสะ"ก็แกไม่โดนมันแกล้งไงยูคิแกจะไปรู้ได้ยังไงห่ะ!!!"
ยูคิ"ก็แล้วแต่…ก็ไม่ได้ว่าอะไร"
ยูคิ'เห…F-14สีแดงทองของแกมัน…รสนิยมดีนิเจ้าหนู'
แล้วยูคิก็เลิกสนใจไป
สึคาซะ"เอาล่ะ…ทุกคนคงจะสงสัยว่าทำไมผมถึงรุนแรงกับชายคนนี้นัก…"
แล้วสึคาซะก็สูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะพูดออกมาต่อ
สึคาซะ"เขาเป็นคนโรคจิตชอบทำตัวเป็นสโตกเกอร์ไล่ตามผู้หญิง!"
'เลิกไปนานเกือบ 8 ปีแล้ว'
สึคาซะ"ชอบแอบขโมยของของทางโรงเรียน"
'เลิกไปนานเกือบ 8 ปีแล้วเหมือนกัน'
สึคาสะ"พยายามเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้หญิง"
'ไอนั้นก็เลิกไปนานเกือบ 8 ปีแล้วเหมือนกัน'
ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่ได้้แก้ต่างแต่ผอ.และเหล่าแม่บ้านก็กลับแก้ต่างในใจให้
สึคาสะ"หนักสุดๆเคย พยายามฆ่าเพื่อนในชั้นเรียน"
'อันนี้ปั้นน้ำเป็นตัวนะ'
สึคาสะ"เนื่องจากมันยังไม่บรรลุนิติภาวะทำให้กฎหมายทำอะไรเข้าไม่ได้ แต่ตอนนี้เขา 20 ปีไปแล้วแต่กลับยังไม่รับโทษที่ก่อเอาไว้เพิ่ม วันนี้ผมจึงอยากให้สังคมเห็นถึงความเน่าเฟะของชายที่ชื่อว่าเซ็นโตคิ ไทโยคนนี้!"
'ก็ไม่เห็นก่อคดีอะไรเพิ่มนะ…'
ยูคิ'ฉันว่าน่าจะเป็นแกมากกว่ามั้ง…'
''''''''แปะๆๆๆๆๆๆๆ''''''''
แล้วเสียงตบมือก็ดังขึ้นจากทั้งห้องประชุมมีเพียงอาจารย์บางคนและนักเรียนบางคนที่ไม่ตบมือ
"นั่นแหละพูดได้ถูกใจสุดๆ!!!"
"วันนี้แหละเป็นวันที่พวกเราจะได้ลดความแค้นกับแกลงได้!!!"
"ไปตายๆซ่ะไอเศษขยะโสโครก!!!"
[หน้าตาก็ดีไม่น่าเลยเสียของจริง…]
[เจ้าหนุ่มนี่ยังอยู่ในโรงเรียนอันดับ1ได้ยังไง?]
[หรือว่ายัดเงินใต้เข้า!]
[แต่พ่อแม่ก็ไม่ส่งเงินให้เขามาหลายปีแล้วนะเขาจะเอาเงินที่ไหนยัดได้ล่ะ?]
[แค่เครื่องเปิดก็มีหลักฐานเอาผิดแล้ว!]
แล้วนักวิทยาศาสตร์ก็เอาเครื่องมาใส่แล้วสั่งเปิดเครื่องจ่ายพลังส่งพลังงานเข้าเครื่องฉายในทันที
.
แล้วภาพความทรงจำแรกก็เผยให้เห็นช่ายคนนึงกำลังทำท่าเขียนภาษาที่ใช้กันได้เกือบทุกที่ในโลกนั้นก็คือภาษาของประเทศEลงในกระดาษ แต่ก็ไม่อาจจะอ่านได้ออกเพราะเป็นหมึกล่องหน
[TBC]
ตัวอย่างตอนต่อไป!
ไทโย"เสร็จสักทีเอาล่ะกดเริ่มอัดเสียงเลยก็แล้วกัน"
"บ้าน่า- ไอบ้านั้นเก่งภาษาEขนาดนี้เลยหรอ!"
ยูคิ"วู้ว หู้ว!!! นะ-นี่มันสมบูรณ์แบบ!!!"
[เขาร้องเพลงได้สุดยอดจริงๆ!]
[ฉันอยากฟังอีก!]
ความคิดเห็น