ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1...จุดเริ่มต้น
.
..
.
..    เช้าวันเสาร์ที่แสนจะขี้เกียจก็มาถึงแล้ว ร่างของหญิงสาวยังคงนอนเหยียดยาว ทอดสันหลัง(ยาวยืด)อยู่บนเตียงที่ไม่ได้ซักมาเกือบแสนศตวรรษ (เว่อร์ไปแฮะ) ไม่ได้ซักมาประมาณ 2 ปีเอง
“โซลกิ พี่ไปแล้วนะ อาหารอยู่บนโต๊ะ ลงมากินเร็วเข้า”
    นี่เป็นเสียงพี่สาวของฉันเอง...แล้ว ตุ้บ...บ...บ...บ!!! -*-
“ยังไม่ลุกอีก ถ้าช้ากว่านี้ พี่ตีเธอแน่”
ทำอย่างกับว่ายังไม่ได้ตีเนอะ...(ดังตุ้บเล้ย)
“รู้แล้วน่า...พี่จะมายุ่งอะไรกับฉันนักนะ”
“เธอว่าอะไรนะ”
“เปล่าจ้า อิอิ (คือเมื่อกี้พูดเบา ๆ น่ะ)”
    ฉันลงมากินอาหารเช้าที่พี่สาวแสนดี(จริ้ง ๆ)ฉันทำไว้ให้
“อะไรเนี่ย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกแล้วเหรอ”
    เฮ้อ...ชีวิตฉันเจอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกเช้า เจอบ่อยจนตอนนี้หน้าจะเป็นมาม่าอยู่แล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ถึงยังไงก็ต้องกินอยู่ดีนี่นา อืม ลืมบอกไปว่าพี่สาวฉันน่ะชื่อ ชิน มินจี เธอทำงานเป็นนักข่าวสาวไฟแรง ไม่เคยมีเวลาให้ฉันเล้ย... เพราะพี่ต้องทำงาน อาทิตย์ละ 7 วัน ความจริงฉันก็เข้าใจความตั้งใจของพี่นะ อาจเพราะพ่อแม่ของเราเสียตั้งแต่ฉัน 10 ขวบ พี่ก็เลยต้องเป็นทั้งพ่อ และแม่ของฉัน เราอยู่ด้วยกัน2คนพี่น้อง ตอนนี้ฉันเรียนอยู่เกรด 11 แล้ว  โตแล้วสินะ นี่!แต่ยังถึงขั้นเรียกว่าแก่หรอกนะ ชีวิตฉันตอนนี้น่ะเหรอ ก็ดีนะ แต่ฉันเป็นคนขี้อาย แล้วก็ไม่ค่อยกล้าพูดอะไรตรง ๆ ไม่ชอบพูดเสียงดัง แต่เพื่อนฉันน่ะสิ...
$#...I think I love youคือรอนกาโพอาโย...#$$...<<<<----
อ๋อ...เสียงโทรศัพท์ฉันเองแหละ...อินเทรนด์ใช่มั้ยล่ะ
“ฮัลโหล”
“นี่ โซลกิ เธอทำบ้าอะไรอยู่ห๋าาาาาา มาโรงเรียนเดี๋ยวนี้นะ”
“อืม ชั้นรู้แล้วน่า --ๅ (เอ๊ะ! แต่มันแปลก ๆ อยู่นะ วันนี้มันวันเสาร์นี่นา)”
“งั้นแค่นี้นะ รีบมาด้วยล่ะ”
“เดี๋ยวนะ จุงอา”
“อะไรอีกเล่า”
“เธอก็เพิ่งตื่นล่ะสิ ละเมอรึไง นี่มันวันเสาร์นะ”
“บ้าน่า วันนี้วันศุกร์ตะหาก”
“จุงอา...าาาาา....”
“โอ้ว...โซลกิ วันนี้อากาศดีเนอะ...งั้นแค่นี้นะจ้ะ” ตรู้ดดดดดดดด
    เสียงวางสายดังขึ้นพร้อมกับเสียงหน้าแตกของเพื่อนสนิทของฉัน จุงอาน่ะชอบเป็นแบบนี้เสมอเลย เธอเป็นคนโผงผาง พูดเสียงดัง บางครั้งก็ทำตัวเหมือนทอม แต่ก็มีน้ำใจกับฉันเสมอมา ในชีวิตฉันเคยมีเพื่อนสนิทแค่ 1 คนเดียวนั้นก็คือ จุงอา เพราะเรา 2 คนรู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล แล้วก็เรียนที่เดียวกันมาตลอด แต่ตั้งแต่ขึ้นเกรด 10 มา ฉันกับจุงอาก็อยู่คนละห้องกัน ตอนกลางวันของทุก ๆ วันจุงอาจะมาที่ห้องของฉัน แล้วก็มากินข้าวด้วยกัน ฉันรู้ว่าเพื่อน ๆ ในห้องมองเราด้วยสายตาแปลก ๆ เพราะพวกเค้าคิดว่าพวกเราเป็นเลสเปี้ยน หรือไม่ก็เป็นทอมกับดี้ แต่ฉันไม่สนใจหรอก เพราะมันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น
U (^O^) U เย็นแล้วจ้า <<<<----
กริ๊งงงง....งงงงง
“ฮัลโหล”
“โซลกิเหรอ นี่พี่เองนะ”
“มีอะไรเหรอคะ พี่”
“เตรียมกระเป๋าให้พี่หน่อยนะ เอาเสื้อผ้าสัก 2-3 ชุดก็แล้วกัน”
“พี่จะไปไหนอีกแล้วเหรอ”
“พี่ต้องไปทำข่าวที่ต่างจังหวัด 2 วันน่ะ”
“แล้วพี่ทานอะไรรึยัง แล้วจะรีบไปเลยเหรอ”
“ไม่มีเวลามากนักหรอกนะโซลกิ ทำอย่างที่พี่บอก แล้วตอน 5 โมงออกมารอพี่ที่หน้าบ้านนะ”ตรู้ดดดดดดดด
    เสียงพี่สิ้นสุดลงที่ประโยคเดิม ๆ เมื่อไรพี่จะเลิกพูดคำว่า “ไม่มีเวลามากนักหรอกนะ” กับฉันสักทีนะ ฉันเบื่อคำนี้เต็มทนแล้ว
U (^O^) U...5 โมงตรง
ปี้น...น.....น (เสียงแตรรถ)
“มาแล้วค่า”
“ขอบใจมากนะ แล้วพี่จะซื้อของมาฝาก”
บรื้นนนนนนน
    ฉันได้แต่ยืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างหลังอย่างไร้อารมณ์ ฉันรู้ว่ายังไงก็ไม่ได้ของฝากอยู่แล้ว เพราะพี่คงไม่มีเวลาไปหาซื้อมาให้ฉันหรอก
U (^O^) U ...หนึ่งทุ่มตรง
ติ้ง...ต่อง
เอ๊ะ! เสียงกริ่งนี่นา หรือว่าพี่จะไม่ไปแล้วนะ
“มาแล้วค่า พี่คะ...” แอ๊ด...ดด
“หวาดดีจ้า โซลกิจ๋า...อิอิ”
“จุงอา”
    จุงอามาที่บ้านของฉัน แล้วก็บอกกับฉันว่า...
“พี่มินจีเค้าบอกว่าเป็นห่วงเธอน่ะ ไม่อยากให้เธออยู่คนเดียว”
“เค้าก็เลยโทรไปบอกเธอให้มาอยู่เป็นเพื่อนชั้นเหรอ”
“ง่ำ ๆ ๆ เค้กนี้อร่อยจัง เธอซื้อที่ไหนเนี่ย”
“นี่ เธออย่าเพิ่งกินนักได้มั้ย ฉันเซ็งจะแย่อยู่แล้ว”
“ถ้าเซ็งก็ดูทีวีสิ มา...เดี๋ยวชั้นเปิดให้”
จุงอากดรีโมตเปิดทีวี จากนั้นเราก็นั่งดูละครกัน
“นี่จุงอา เดี๋ยวชั้นมานะ”
“จะไปไหนอ่ะ”
“ชั้นปวดฉิ้งฉ่องอ่ะ เธอหิวน้ำมั้ยล่ะ เดี๋ยวจะเอามาฝาก”
“ยัยบ้า รีบไปเลยไป”
    ฉันรีบไปเข้าห้องน้ำก่อนที่จะถูกจุงอาฆ่าเอา...พอออกมาก็เห็นเธอกำลังจ้องไปที่ทีวี ตาไม่กะพริบ
“นี่จุงอา เธอดูอะไรน่ะ”
“โซลกิ เมื่อกี้เธอบอกว่าเซ็งใช่มั้ย”
“อืม...มม...ทำไมเหรอ”
“นี่!”
“1900 1900 191 อืม เดี๋ยวนี้สถานีตำรวจเค้าเปลี่ยนเบอร์มามี 1900 อยู่ข้างหน้าแล้วเหรอ”
โป๊ก...กก...กก “ใช่ที่ไหนเล่า นี่มันเบอร์หมอดูไพยิปซีที่ชั้นจดไว้ตอนโฆษณาเมื่อตะกี้ตะหาก”
“แล้วทำไมล่ะ เธอเอามาให้ชั้นทำไม”
“ก็เนี่ย เป็นสิ่งแก้เครียดไง”
“งมงายน่า เธอเชื่อเรื่องพวก...”
“ฮัลโหล...สำนักหมอดูไพ่ยิปซี ชอง นารารึเปล่าคะ”
“นี่ จุงอาเธอทำอะไรน่ะ”
“อ่ะ เร็วเข้าสิ เดี๋ยวเค้าจะต่อสายเข้าไปหาอาจารย์ชองแล้วนะ”
“ไม่เอาอ่ะ ชั้นไม่ชอบดูดวง”
“โธ่ โซลกิ เธอน่ะเป็นแบบนี้อีกแล้วนะ นี่ เจ้านี้เค้าแม่นยังกับตาเห็นเลยนะ”
“แต่...แต่...”
“เอาไปเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นชั้นจะโทรไปบอกพี่มินจีว่าเธอตกวิชาพละนะ”
    อ๊าย...ยย... ไม่ได้นะ ถ้าพี่รู้ว่าแค่วิชาง่าย ๆ แค่นี้ฉันก็ตกล่ะก็...พี่เอาฉันตายแน่ ๆ
“ก็ได้ ๆ เอามาสิ...”   
    ฉันรับโทรศัพท์จากจุงอามาด้วยอาการมือไม้สั่นไปหมด ไม่รู้ว่าต้องเจออะไรบ้างนะ
“ฮะ...ฮะ...ฮัลโหล”
“ขอต้อนรับสู่โลกแห่งความลี้ลับ...สวัสดี...ชิน โซลกิ”
“ห๋าาาา....าาา นี่เค้า...เค้ารู้ได้ไงว่า...”
    ฉันเผลอทำโทรศัพท์ตกด้วยความตกใจ แต่ก็ต้องรีบหยิบขึ้นมาใหม่
“หือ...โซลกิ เค้ารู้...รู้อะไรเหรอ”
“อ๋อ...ปะ...เปล่า ๆ ไม่มีอะไรหรอก”
“ฮัลโหล...เอ่อ...ขอโทษค่ะ เมื่อกี้โทรศัพท์มันตกน่ะค่ะ”
“เธอกำลังกลุ้มใจเรื่องอะไรอยู่งั้นเหรอ ใช่เรื่องพี่สาวของเธอรึเปล่า”
    รู้อีกแล้ว...ทำไมหมอดูคนนี้ถึงได้รู้เรื่องของฉันหมดเลยนะ
“ใช่ค่ะ...ชั้นกำลังกลุ้มใจเรื่องนั้นอยู่”
“นี่ โซลกิ ถามเรื่องความรักสิ เธอยังไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ จะได้รู้ไงว่าเนื้อคู่ของเธอจะมาเมื่อไร แล้วเธอได้เจอรึยัง”
“นี่จุงอา เธอจะให้ชั้นถามเรื่องนี้ทำไมกันเล่า”
“อันเนื้อคู่ชู้ชื่น สง่าดั่งราชา มีบริวารล้อมรอบมากมาย มีใจรักสัตว์น้อยใหญ่ ชื่อเสียงโด่งดัง เก่งการกีฬา มิเคยแพ้พ่ายผู้ใด จงจำไว้นี้คือเนื้อคู่ของเธอ”ตรู้ดดดดดดดด
    เสียงของผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว เหลือเพียงความงุนงงของฉันเท่านั้น นี่น่ะเหรอเนื้อคู่ของฉัน สงสัยว่าชาตินี้ฉันคงไม่ได้เจอเค้าแน่ ๆ เพราะดูจากคุณสมบัติของเค้าแล้ว เหมือนไม่ใช่คนธรรมดาเดินดินเลย
แล้วตกลงว่านี้มันเป็นเรื่องจริงหรือการหลอกลวงกันแน่นะ
..
.
..    เช้าวันเสาร์ที่แสนจะขี้เกียจก็มาถึงแล้ว ร่างของหญิงสาวยังคงนอนเหยียดยาว ทอดสันหลัง(ยาวยืด)อยู่บนเตียงที่ไม่ได้ซักมาเกือบแสนศตวรรษ (เว่อร์ไปแฮะ) ไม่ได้ซักมาประมาณ 2 ปีเอง
“โซลกิ พี่ไปแล้วนะ อาหารอยู่บนโต๊ะ ลงมากินเร็วเข้า”
    นี่เป็นเสียงพี่สาวของฉันเอง...แล้ว ตุ้บ...บ...บ...บ!!! -*-
“ยังไม่ลุกอีก ถ้าช้ากว่านี้ พี่ตีเธอแน่”
ทำอย่างกับว่ายังไม่ได้ตีเนอะ...(ดังตุ้บเล้ย)
“รู้แล้วน่า...พี่จะมายุ่งอะไรกับฉันนักนะ”
“เธอว่าอะไรนะ”
“เปล่าจ้า อิอิ (คือเมื่อกี้พูดเบา ๆ น่ะ)”
    ฉันลงมากินอาหารเช้าที่พี่สาวแสนดี(จริ้ง ๆ)ฉันทำไว้ให้
“อะไรเนี่ย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกแล้วเหรอ”
    เฮ้อ...ชีวิตฉันเจอบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกเช้า เจอบ่อยจนตอนนี้หน้าจะเป็นมาม่าอยู่แล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ถึงยังไงก็ต้องกินอยู่ดีนี่นา อืม ลืมบอกไปว่าพี่สาวฉันน่ะชื่อ ชิน มินจี เธอทำงานเป็นนักข่าวสาวไฟแรง ไม่เคยมีเวลาให้ฉันเล้ย... เพราะพี่ต้องทำงาน อาทิตย์ละ 7 วัน ความจริงฉันก็เข้าใจความตั้งใจของพี่นะ อาจเพราะพ่อแม่ของเราเสียตั้งแต่ฉัน 10 ขวบ พี่ก็เลยต้องเป็นทั้งพ่อ และแม่ของฉัน เราอยู่ด้วยกัน2คนพี่น้อง ตอนนี้ฉันเรียนอยู่เกรด 11 แล้ว  โตแล้วสินะ นี่!แต่ยังถึงขั้นเรียกว่าแก่หรอกนะ ชีวิตฉันตอนนี้น่ะเหรอ ก็ดีนะ แต่ฉันเป็นคนขี้อาย แล้วก็ไม่ค่อยกล้าพูดอะไรตรง ๆ ไม่ชอบพูดเสียงดัง แต่เพื่อนฉันน่ะสิ...
$#...I think I love youคือรอนกาโพอาโย...#$$...<<<<----
อ๋อ...เสียงโทรศัพท์ฉันเองแหละ...อินเทรนด์ใช่มั้ยล่ะ
“ฮัลโหล”
“นี่ โซลกิ เธอทำบ้าอะไรอยู่ห๋าาาาาา มาโรงเรียนเดี๋ยวนี้นะ”
“อืม ชั้นรู้แล้วน่า --ๅ (เอ๊ะ! แต่มันแปลก ๆ อยู่นะ วันนี้มันวันเสาร์นี่นา)”
“งั้นแค่นี้นะ รีบมาด้วยล่ะ”
“เดี๋ยวนะ จุงอา”
“อะไรอีกเล่า”
“เธอก็เพิ่งตื่นล่ะสิ ละเมอรึไง นี่มันวันเสาร์นะ”
“บ้าน่า วันนี้วันศุกร์ตะหาก”
“จุงอา...าาาาา....”
“โอ้ว...โซลกิ วันนี้อากาศดีเนอะ...งั้นแค่นี้นะจ้ะ” ตรู้ดดดดดดดด
    เสียงวางสายดังขึ้นพร้อมกับเสียงหน้าแตกของเพื่อนสนิทของฉัน จุงอาน่ะชอบเป็นแบบนี้เสมอเลย เธอเป็นคนโผงผาง พูดเสียงดัง บางครั้งก็ทำตัวเหมือนทอม แต่ก็มีน้ำใจกับฉันเสมอมา ในชีวิตฉันเคยมีเพื่อนสนิทแค่ 1 คนเดียวนั้นก็คือ จุงอา เพราะเรา 2 คนรู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล แล้วก็เรียนที่เดียวกันมาตลอด แต่ตั้งแต่ขึ้นเกรด 10 มา ฉันกับจุงอาก็อยู่คนละห้องกัน ตอนกลางวันของทุก ๆ วันจุงอาจะมาที่ห้องของฉัน แล้วก็มากินข้าวด้วยกัน ฉันรู้ว่าเพื่อน ๆ ในห้องมองเราด้วยสายตาแปลก ๆ เพราะพวกเค้าคิดว่าพวกเราเป็นเลสเปี้ยน หรือไม่ก็เป็นทอมกับดี้ แต่ฉันไม่สนใจหรอก เพราะมันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งนั้น
U (^O^) U เย็นแล้วจ้า <<<<----
กริ๊งงงง....งงงงง
“ฮัลโหล”
“โซลกิเหรอ นี่พี่เองนะ”
“มีอะไรเหรอคะ พี่”
“เตรียมกระเป๋าให้พี่หน่อยนะ เอาเสื้อผ้าสัก 2-3 ชุดก็แล้วกัน”
“พี่จะไปไหนอีกแล้วเหรอ”
“พี่ต้องไปทำข่าวที่ต่างจังหวัด 2 วันน่ะ”
“แล้วพี่ทานอะไรรึยัง แล้วจะรีบไปเลยเหรอ”
“ไม่มีเวลามากนักหรอกนะโซลกิ ทำอย่างที่พี่บอก แล้วตอน 5 โมงออกมารอพี่ที่หน้าบ้านนะ”ตรู้ดดดดดดดด
    เสียงพี่สิ้นสุดลงที่ประโยคเดิม ๆ เมื่อไรพี่จะเลิกพูดคำว่า “ไม่มีเวลามากนักหรอกนะ” กับฉันสักทีนะ ฉันเบื่อคำนี้เต็มทนแล้ว
U (^O^) U...5 โมงตรง
ปี้น...น.....น (เสียงแตรรถ)
“มาแล้วค่า”
“ขอบใจมากนะ แล้วพี่จะซื้อของมาฝาก”
บรื้นนนนนนน
    ฉันได้แต่ยืนโบกไม้โบกมืออยู่ข้างหลังอย่างไร้อารมณ์ ฉันรู้ว่ายังไงก็ไม่ได้ของฝากอยู่แล้ว เพราะพี่คงไม่มีเวลาไปหาซื้อมาให้ฉันหรอก
U (^O^) U ...หนึ่งทุ่มตรง
ติ้ง...ต่อง
เอ๊ะ! เสียงกริ่งนี่นา หรือว่าพี่จะไม่ไปแล้วนะ
“มาแล้วค่า พี่คะ...” แอ๊ด...ดด
“หวาดดีจ้า โซลกิจ๋า...อิอิ”
“จุงอา”
    จุงอามาที่บ้านของฉัน แล้วก็บอกกับฉันว่า...
“พี่มินจีเค้าบอกว่าเป็นห่วงเธอน่ะ ไม่อยากให้เธออยู่คนเดียว”
“เค้าก็เลยโทรไปบอกเธอให้มาอยู่เป็นเพื่อนชั้นเหรอ”
“ง่ำ ๆ ๆ เค้กนี้อร่อยจัง เธอซื้อที่ไหนเนี่ย”
“นี่ เธออย่าเพิ่งกินนักได้มั้ย ฉันเซ็งจะแย่อยู่แล้ว”
“ถ้าเซ็งก็ดูทีวีสิ มา...เดี๋ยวชั้นเปิดให้”
จุงอากดรีโมตเปิดทีวี จากนั้นเราก็นั่งดูละครกัน
“นี่จุงอา เดี๋ยวชั้นมานะ”
“จะไปไหนอ่ะ”
“ชั้นปวดฉิ้งฉ่องอ่ะ เธอหิวน้ำมั้ยล่ะ เดี๋ยวจะเอามาฝาก”
“ยัยบ้า รีบไปเลยไป”
    ฉันรีบไปเข้าห้องน้ำก่อนที่จะถูกจุงอาฆ่าเอา...พอออกมาก็เห็นเธอกำลังจ้องไปที่ทีวี ตาไม่กะพริบ
“นี่จุงอา เธอดูอะไรน่ะ”
“โซลกิ เมื่อกี้เธอบอกว่าเซ็งใช่มั้ย”
“อืม...มม...ทำไมเหรอ”
“นี่!”
“1900 1900 191 อืม เดี๋ยวนี้สถานีตำรวจเค้าเปลี่ยนเบอร์มามี 1900 อยู่ข้างหน้าแล้วเหรอ”
โป๊ก...กก...กก “ใช่ที่ไหนเล่า นี่มันเบอร์หมอดูไพยิปซีที่ชั้นจดไว้ตอนโฆษณาเมื่อตะกี้ตะหาก”
“แล้วทำไมล่ะ เธอเอามาให้ชั้นทำไม”
“ก็เนี่ย เป็นสิ่งแก้เครียดไง”
“งมงายน่า เธอเชื่อเรื่องพวก...”
“ฮัลโหล...สำนักหมอดูไพ่ยิปซี ชอง นารารึเปล่าคะ”
“นี่ จุงอาเธอทำอะไรน่ะ”
“อ่ะ เร็วเข้าสิ เดี๋ยวเค้าจะต่อสายเข้าไปหาอาจารย์ชองแล้วนะ”
“ไม่เอาอ่ะ ชั้นไม่ชอบดูดวง”
“โธ่ โซลกิ เธอน่ะเป็นแบบนี้อีกแล้วนะ นี่ เจ้านี้เค้าแม่นยังกับตาเห็นเลยนะ”
“แต่...แต่...”
“เอาไปเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นชั้นจะโทรไปบอกพี่มินจีว่าเธอตกวิชาพละนะ”
    อ๊าย...ยย... ไม่ได้นะ ถ้าพี่รู้ว่าแค่วิชาง่าย ๆ แค่นี้ฉันก็ตกล่ะก็...พี่เอาฉันตายแน่ ๆ
“ก็ได้ ๆ เอามาสิ...”   
    ฉันรับโทรศัพท์จากจุงอามาด้วยอาการมือไม้สั่นไปหมด ไม่รู้ว่าต้องเจออะไรบ้างนะ
“ฮะ...ฮะ...ฮัลโหล”
“ขอต้อนรับสู่โลกแห่งความลี้ลับ...สวัสดี...ชิน โซลกิ”
“ห๋าาาา....าาา นี่เค้า...เค้ารู้ได้ไงว่า...”
    ฉันเผลอทำโทรศัพท์ตกด้วยความตกใจ แต่ก็ต้องรีบหยิบขึ้นมาใหม่
“หือ...โซลกิ เค้ารู้...รู้อะไรเหรอ”
“อ๋อ...ปะ...เปล่า ๆ ไม่มีอะไรหรอก”
“ฮัลโหล...เอ่อ...ขอโทษค่ะ เมื่อกี้โทรศัพท์มันตกน่ะค่ะ”
“เธอกำลังกลุ้มใจเรื่องอะไรอยู่งั้นเหรอ ใช่เรื่องพี่สาวของเธอรึเปล่า”
    รู้อีกแล้ว...ทำไมหมอดูคนนี้ถึงได้รู้เรื่องของฉันหมดเลยนะ
“ใช่ค่ะ...ชั้นกำลังกลุ้มใจเรื่องนั้นอยู่”
“นี่ โซลกิ ถามเรื่องความรักสิ เธอยังไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ จะได้รู้ไงว่าเนื้อคู่ของเธอจะมาเมื่อไร แล้วเธอได้เจอรึยัง”
“นี่จุงอา เธอจะให้ชั้นถามเรื่องนี้ทำไมกันเล่า”
“อันเนื้อคู่ชู้ชื่น สง่าดั่งราชา มีบริวารล้อมรอบมากมาย มีใจรักสัตว์น้อยใหญ่ ชื่อเสียงโด่งดัง เก่งการกีฬา มิเคยแพ้พ่ายผู้ใด จงจำไว้นี้คือเนื้อคู่ของเธอ”ตรู้ดดดดดดดด
    เสียงของผู้หญิงคนนั้นหายไปแล้ว เหลือเพียงความงุนงงของฉันเท่านั้น นี่น่ะเหรอเนื้อคู่ของฉัน สงสัยว่าชาตินี้ฉันคงไม่ได้เจอเค้าแน่ ๆ เพราะดูจากคุณสมบัติของเค้าแล้ว เหมือนไม่ใช่คนธรรมดาเดินดินเลย
แล้วตกลงว่านี้มันเป็นเรื่องจริงหรือการหลอกลวงกันแน่นะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น