คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 : My Family
ณ สนามบินอินชอน
พอฉันลงมาจากเครื่องบินฉันก็มองหาพ่อกับแม่จนเจอในที่สุด
“คุณพ่อค่ะ คุณแม่ค่ะ พี่จินเซ”ฉันตะโกนเรียกจนคนแถวนั้นหันมามองกันใหญ่แต่ฉันไม่สนหรอกนะ
“ชินยอง” แม่ฉันเรียก
“คิดถึงพ่อกับแม่จังเลย”
“พ่อกับแม่ก็เหมือนกัน” เสียงพ่อฉันเองเสียงยังหล่ออยู่เลยใช่ไหมหล่ะอ๋อ ลืมไปไม่ได้ยินใช่มั๊ยน่าเสียดายจัง ^๐^
“นี่ คิดถึงแต่พ่อกับแม่ไม่คิดถึงพี่ชายคนนี้บ้างเลยหรอ” พี่จินเซบอกงอนๆ
“โธ่ ชินยองก็คิดถึงพี่จินเซค่ะ จุ๊บ.....” พอฉันพูดจบก็กระโดดหอมแก้มพี่จุนเซทีนึง อุ๊ย พี่จินเซหน้าแดงด้วยแหละ “- ////- ยัยบ้าเธอทำอะไรของเธอหน่ะ” พี่ถามในขณะที่หน้ายังแดง
“ถามได้ก็หอมแก้มพี่หน่ะสิโธ่ แค่นี้ก็ไม่รู้เสียใจนะเนี้ย” ฉันแกล้งพูดเสียงเศร้า
“....”พี่ไม่ได้พูดอะไรแต่หน้ายังแดงเหมือนเดิม
“นี่ พี่จินเซ” ฉันเรียกพี่เพราะเห็นเงียบไม่พูดอะไร
“อะไร” พี่จินเซพูดทั้งหน้าก็เป็นสีแดงเหมือนเดิม
“พี่อายหรอเนี้ย ว้าย พี่จินเซอายเป็นด้วย นี่พี่ คนโหดๆแบบพี่นี่อายเป็นด้วยหรอ” ฉันถามพี่เพราะตั้งแต่เกิดมาเป็นน้องพี่จินเซเนี่ยฉันยังไม่เคยเห็นพี่หน้าแดงขนาดนี้เลย ขนาดตอนโดนสาวบอกรักนะก็ยังทำหน้าเย็นชาเหมือนเดิมไม่มีผิด อ๋อ แต่ก็มีข้อยกเว้นนะพี่จะหน้าแดงมากกกเลย รู้มั๊ยว่าอะไรมันทำให้พี่หน้าแดงขนาดนั้นได้ ฮิฮิ คงสงสัยใช่ไหมหล่ะ ก็เหล้ายังไงหล่ะแค่เพียงแก้วเดียวหน้าพี่ก็ยิ่งกว่ามะเขือเทศแล้ว แต่นี่เป็นความลับสุดยอดระหว่างเรา2พี่น้องนะเพราะถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าฉันกับพี่เคยไปไนท์คลับกันละก็ไม่ต้องพูดถึงเลยมีหวังทั้งฉันและพี่อาจจะโดนส่งตัวไปอยู่กับป้าเพื่อดัดนิสัยแน่ๆแค่คิดยังสยองเลย
“เปล๊า...พี่ไม่ได้อายซักหน่อย” พี่ตอบพร้อมกับ ..
“.....จุ๊บ.....”อ๊ายยยย พี่จุนเซหอมแก้มฉัน O^O
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เธอก็หน้าแดงเหมือนกันแหละ
“พี่ทำให้ฉันหน้าแดงหรอ ไอ้จินเซแกตายยยยย” ฉันพูดพร้อมวิ่งไล่พี่ไปทั่วและกำลังจะจับได้แล้วเชียวแต่.....
“พอๆ กลับบ้านกัน .....เสียงของแม่ดังขัดขึ้นมาก่อน” พี่จินเซหันมาแลบลิ้นใส่ฉันแล้ววิ่งออกไปที่รถเชอะ!!ฝากเอาไว้ก่อนเถอะถ้าถึงบ้านนะแกไม่รอดแน่ 5555(หมายเหตุ:ขณะที่เราทะเลาะกันอยู่นั้น พ่อกับแม่ก็ได้ทำความรู้จักกับเจ้าชินเน่อยู่ และดูเหมือนมันจะเป็นที่ถูกใจแม่เอามากๆด้วย -_-*)
บ้านของชินยอง
“ว้าว!!!บ้านยังเหมือนเดิมเลย” ฉันพูดเพราะบ้านยังเหมือนเดิมก่อนที่ฉันจะไปเลยอาจจะเปลี่ยนไปที่ต้นไม้บางต้นอาจจะสูงขึ้นบ้าง(มันก็แน่อยู่แล้วตั้ง5ปีนี่นาที่ฉันไม่อยู่ถ้ามันไม่โตเลยสิแปลก-_-**)
“ว้าว!!!บ้านยังเหมือนเดิมเลย”เสียงนี้ไม่ใช่เสียงสะท้อนของฉันนะ ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้นะว่ามันเป็นเสียงใคร ใช่แล้ว..มันเป็นเสียงไอ้บ้าตัวนึงที่ชื่อว่ามินจินเซ....
“นี่!!ห้องของลูกก็ยังเหมือนเดิมด้วยนะ” นี่เป็นเสียงแม่ของฉันแต่ตอนนี้ฉันไม่ได้สนใจหรอกนะว่าห้องฉันมันจะเป็นยังไง เพราะสิ่งแรกก่อนเข้าบ้านที่ฉันจะทำก็คือ........................แก้แค้น555ฉันมันพวกแค้นฝังลึกหน่ะอย่าคิดมากก
“ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ฉันวิ่งไปที่พี่แล้วก็......กระโดดเกาะหลังพี่พร้อมกับกัดหูพี่
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ยัยยยบ้าทำอะไรอ่ะOoO” พี่พูดพร้อมกับวิ่งไปรอบๆบ้านโดยที่มีฉันเกาะอยู่ที่หลัง
“กัดหูหน่ะสิถามได้” ฉันตอบพร้อมกับกัดต่อ
“ยัยหมาบ้าเอ้ยยยยย”พี่พูดออกมา คงเจ็บมากสินะค่ะ ^-^
แล้วฉันกับพี่จินเซก็วิ่งรอบบ้านโดยที่พี่คงจะเหนื่อยกว่าฉันหลายเท่าเพราะว่า....มีฉันอยู่บนหลัง ฮ่า ฮ่า เราวิ่งไปอีกหลายรอบจนเริ่มเหนื่อยพวกเราจึงนั่งพักกันที่สวนหลังบ้าน โดยที่พี่เดินไปหยิบน้ำมาให้ช่างเป็นพี่ที่แสนดีจริงๆเล้ยย(ไม่ได้ประชดนะ ^^)พอพี่เดินมาฉันก็ยื่นมือไปเพื่อจะรับน้ำมาแต่
“นี่!!ทำยังไงก่อนห๊ะ!!W พี่แกล้วพูดเสียงขรึม
“ขอบคุณคร้า.....พี่ชายสุดที่รัก สุดหล่อ...หล่อที่สุดในโลกเลย ^________^”ฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มเต็มที่
“พอใจยังค่ะ” ฉันพูดต่อ
“ไม่ต้องทำแล้วอยากจะอ้วก สยองซะไม่มีหล่ะ” พี่พูดแล้วทำท่าเหมือนจะอ้วกจริงๆเลย ว้าย!!ถ้าอ้วกออกมาฉันไม่เช็ดนะ
“นี่!!พี่ว่าฉันหรอ แล้วเมื่อไหร่จะส่งน้ำมาให้ฉันซะทีหล่ะหิวจะตายอยู่แล้วนะ” ฉันเริ่มบ่น
“ก็พี่หมายถึงเธอไปอยู่ที่ไทยจะไม่ขอบคุณแบบไทยๆเลยหรอ” พี่เริ่มพูดบ้าง
“อ๋อ!!!!แล้วก็ไม่บอก” ฉันพูด
“ขอบคุณคร้า...../|\” ฉันขอบคุณพี่พร้อมกับยกมือไหว้โดยไม่ลืมที่จะฉีกยิ้มกว้างเหมือนเดิม ^____________^
“ก็แค่เนี้ยแหละที่ต้องการ แต่เธอก็ไม่จำเป็นต้องฉีกยิ้มก็ได้นะมันน่าสยดสยองหน่ะ” พี่พูดพร้อมกับส่งน้ำมาให้ฉัน ชิ!! กล้าดียังไงมาว่าหน้าตาอันสวยงามของฉันจำไว้เลยนะไอ้พี่บ้า (แต่ตอนนี้ต้องยอมไปก่อนเดี๋ยวจะอดกินน้ำ)แล้วเราก็นั่งกินกันอยู่ที่ตรงนี้จนกระทั่ง.......
มีไส้เดือนตัวหนึ่งเริ่มคลานมาที่เรา2คนพี่น้องจากเมื่อกี้ที่เราแกล้งกันอยู่นะตอนนี้เรากลับกอดกันกลม....
“ปะ...ปะ...ไปไกล...ๆ....ฉัน...นะไอ้หนอนปีศาจ” นี่ไม่ใช่เสียงฉันแต่เป็นเสียงพี่จินเซ
“ชะ...ชะ....ใช่....ฉันกลัว....แล้ววววว” อันนี้สิถึงจะเป็นเสียงอันไพเราะของฉันเอง
ตอนนี้เราก็กอดกันกลมแล้วก็ดูเหมือนว่าไอ้หนอนปีศาจนั่นคงจะไม่รู้สึกสงสารในท่าทางของเรา2คนเลยแต่มันคงชอบใจนะ ก็ดูมันสิคลานมาใกล้เราเรื่อยๆ
“นี่ ลูกทำอะไรกันอยู่หน่ะมากินข้าวกันได้แล้ว” ให้ตายซิเสียงสวรรค์จริงๆเลยพี่ก็คงคิดเหมือนฉันใช่ไหมหล่ะฉันเริ่มที่จะสื่อกับพี่ทางโทรจิต
“แม่ ช่วยชินยองด้วย” นี่เสียงฉัน ToT
“แม่ ช่วยจินเซด้วยยย TTOTT” นี่เป็นเสียงพี่จุนเซดูสิเสียภาพพจน์หนุ่มหล่อพี่ชายที่ฉันภูมิใจหมดเลย
“เอ๊า!!เจออะไรอีกหล่ะ ไส้เดือนใช่มั๊ยหล่ะห๊ะ” เสียงแม่ถามกลับมาเรา2คนก็ทำได้แค่พยักหน้า พอแม่เราเห็นอย่างนั้นก็ส่ายหน้าแล้วเดินมาแล้วก็ใช้ไม้เขี่ยไอ้หนอนปีศาจออกไปโดยที่ยังไม่วายบ่นเรา2คน
“ไอ้ลูก2คนนี้นี่จะกลัวอะไรนักหนานะ มันก็ตัวเล็กกว่าเราตั้งเยอะ” โธ่....แม่อ่ะแม่ก็ลองมากลัวแบบเรา2คนบ้างสิแล้วอีกอย่างใครน้า...ที่เป็นคนทำให้เรากลัวกันถึงขนาดนี้..เฮ้อ..ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกก็แม่นั้นแหละ ตอนเด็กๆดันมาหลอกตอนพวกเราร้องไห้ว่ามันจะมากินเด็กที่ร้องไห้....(แต่คุณก็ระวังกันให้ดีนะมันอาจจะมากินคุณก็ได้ระวังตัวให้ดีนะ ฮึ...ฮึ )พอแม่บ่นจบแล้วเรายังกอดกันกลมแล้วก็เดินออกมาจากตรงนั้นแต่พอฉันหันไปมองหน้าพี่ก็ต้อง....
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ฉันหัวเราะออกมาด้วยเสียงที่คิดว่าดังแล้วนะ
“นี่ ยัยบ้ากลัวจะตายยังจะมาหัวเราะกันอีก” พี่คงคิดว่าฉันต้องหัวเราะเรื่องที่พี่ร้องไห้เมื่อกี้แน่ๆเลย
“ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะพี่ร้องไห้ซะหน่อย ฮ่า ฮ่า” ฉันยังหัวเราะไม่เลิก
“อ้าว..วววแล้วหัวเราะทำไมหล่ะบอกมานะยัยชินยอง” พี่คาดคั้นฉัน
“ก็ ฮ่า ฮ่า หู ฮ่า ฮ่า หู...ฮ่า ฮ่าหูพี่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” ฉันพูดต่อไม่ได้แล้วถ้ากลิ้งได้ฉันคงกลิ้งลงไปหัวเราะบนพื้นแล้วหล่ะ พี่เห็นฉันไม่ยอมบอกไปซักทีพี่จึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านคงไปส่องกระจกมั้งส่วนฉันก็ได้แต่หัวเราะเหมือนเดิม แล้วซักพักพี่ก็รีบวิ่งออกมาพร้อมกับทำหน้าตาเหมือนกับว่าจะฆ่าฉันซะให้ได้
“ยัยยย....ชินนนนนนนน...ยองงงงงงงงง แกกกกก ทามมมมม อา รายยยยยยย กาบบบบ หู ช้านนนนนน ห๊า!!”
“ฉันทำอะไรหรอ” ฉันแกล้งทำเป็นไม่รู้
“ก็ทำไมมันแดงเงี้ยหล่ะ ใช่แล้วเมื่อกี้เธอกัดหูฉันนี่นา ยัยชินยองไอ้น้องบ้าแกเป็นหมาหรือยังไงห๊า”
“อุ๊ย ถ้าฉันเป็นหมาพี่ก็เป็นพี่หมาหน่ะซิ” ฉันยังกวนประสาทพี่ไม่เลิก เฮ้ย ตายแน่ๆเลยชั้นทำไมหน่ะหรอก็ตอนนี้มันเหมือนกับว่ามีประกายไฟลุกโชนอยู่รอบๆตัวพี่และดูเหมือนว่ามันพร้อมจะฆ่าฉันได้ทุกเมื่อเลย แง TTOTT ฉันเริ่มกลัวขึ้นมาเรื่อยๆแล้วหน่ะสิ ฉันลืมไปสนิทเลยว่าตอนตอนก่อนไปเมืองไทยหน่ะสิพี่หน่ะเป็นถึงหัวหน้าแก๊งที่โหดที่สุดในโรงเรียนเคยได้ยินมาว่ามีคนเคยเข้าโรงพยาบาลมาแล้วด้วย เพียงเพราะไปนอนในที่ประจำของแก๊ง (และแน่นอนเรื่องนี้ก็เป็นความลับระหว่างเรา พ่อกับแม่ไม่รู้ -_-*) แต่ที่ฉันงงก็คือทำไมต้องเป็นฉันคนเดียวด้วยน้าที่ต้องไปอยู่ที่ไทยกับป้า เรื่องนี้ฉันยังสงสัยมา5แล้วจนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบเลย
“นี่ ลูกแม่บอกให้เข้ามากินข้าวได้แล้วทำไมยังไม่ยอมมาอีกถ้ายังไม่ยอมมากินอีกแม่จะเอาอาหารทั้งหมดให้เจ้าชินเน่กินนะ นี่แม่อุตส่าลงมือทำกับข้าวเองเลยนะเนี้ย”
ฉันกับพี่จินเซเริ่มมองหน้ากันความแค้นของพี่หายไปในพริบตา เพราะอะไรรู้มั๊ยสิ่งที่พวกเรากลัวซะยิ่งกว่าไอ้หนอนปีศาจนั่นก็คือ....อาหารที่แม่ทำ แต่ถ้าฉันไม่ไปกินเจ้าชินเน่ก็ต้องรับกรรมแทนฉันหน่ะซิไม่ฉันไม่ยอมให้เจ้าชินเน่น้อยๆที่พึ่งลืมตามาดูโลกไม่ทันไรต้องมาตายไปซะก่อนไหนๆฉันก็ชินแล้ว ฉันกินเองก็ได้แต่ว่าต้องหาเพื่อน ฮิฮิ
“พี่ ไปกินกันดีกว่าเนอะ” ฉันหันไปถามพี่ซึ่งแน่นอนแม่ต้องอยู่แถวๆนั้นเพราะพี่ไม่ปฎิเสธฉัน เหตุผลง่ายๆก็คือพี่กลัวโดนส่งไปอยู่ที่เมืองไทยเหมือนฉันไง เพราะฉันเคยส่งเมลล์มาเล่าให้พี่ฟังว่าเวลาที่ป้าโหดป้าก็จะโหดมากก ตั้งแต่นั้นฉันก็คิดว่าพี่ไม่กล้าที่จะขัดใจพ่อกับแม่เลยเพราะว่าตอนนี้ฉันก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน (ก็ป้าน่ากลัวอ่ะ....จิงๆนะ - o -)
แล้วเรา2พี่น้องก็เดินไปกินข้าวกันด้วยใบหน้าที่สลดสุดจะบรรยาย
เรารับประทานอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตากัน เป็นครั้งแรกในรอบ5ปีที่ฉันได้กินข้าวพร้อมครอบครัว มันควรจะเป็นบรรยากาศที่มีความสุขใช่ไหมหล่ะ แต่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นหน่ะสิ.....เรา3คน....ไม่ต้องแปลกใจ3คนหน่ะถูกแล้ว ...คือพ่อ พี่จินเซและฉันกินกันด้วยใบหน้าที่ไม่สามารถอธิบายได้ ส่วนแม่หน่ะหรอก็ฝีมือของตัวเองนี่นาก็ต้องไม่รู้สึกอะไรในรสชาติอัน.....นี่ฉันจะพูดตรงๆไม่อ้อมค้อมเลยนะ.....ห่วยแตกเป็นบ้า พ่อนี่ทนมาได้ไงน้า....เกือบ20ปี ส่วนแม่นี่ก็จริงๆเลยทำไปได้.....ตั้งเกือบ20ปีไม่เห็นฝีมือมันจะพัฒนาเล้ยยย...
=_=*** หน้าของพ่อ พี่จินเซและก็ฉัน
^-^ ใบหน้าอันเปี่ยมไปด้วยความสุขของแม่
ผ่านไป 1ชั่วโมงกับอีก25 นาที
แล้วช่วงเวลาอันเลวร้ายก็ผ่านไปด้วยดี...แต่ฉันว่ามันยังเหลือเวลาที่เลวร้ายสำหรับฉันอีกนะ...นึกไม่ออกใช่ไหมหล่ะลองนึกถึงเรื่องที่ฉันกับพี่ได้ทำกันไว้ก่อนจะกินข้าวนะ...ใช่แล้วถูกต้องฉันยังต้องโดนพี่แก้แค้นต่อไง...ที่ฉันแน่ใจก็เพราะว่าเรา2พี่น้องนั้นเป็นนนนน.........พวกแค้นฝังลึงยังไงหล่ะ
ผ่านไปซักพักฉันก็ยังอยู่ครบ32ส่วน..............มันแปลกๆนะปกติแล้วเวลาที่ฉันกับพี่ทะเลาะกันมันไม่จบง่ายๆแบบนี้นี่นา.....
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” เสียงหัวเราะของพี่จินเซดังมาจากในห้องนั่งเล่นนี่พี่กำลังดูทีวีอยู่หรือนี่!นั่งดูแล้วหัวเราะซะด้ายยย ไอ้เราก็ได้แต่ถือไม้เบสบอลป้องกันตัวเชียวนะ แหะๆล้อเล่นไม่ถึงกับไม้เบสบอลหรอกหน่า....
ฉันจึงเดินไปหาพี่เพื่อจะดูว่าพี่ดูอะไรถึงหัวเราะได้ซะขนาดนั้น.........ยิ่งฉันเดินไปใกล้ห้องนั่งเล่นเท่าไหร่เสียงหัวเราะก็ยิ่งดังขึ้นมันทำให้ฉันยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่เลย......แต่พอฉันเดินมาถึงห้องนั่งเล่นฉันก็พบว่าพี่ของฉัน.....ไม่ฉันเล่าต่อไปไม่ได้แล้วแต่ฉันจำเป็นต้องเล่าก็พี่ฉันต้องเป็นบ้าแน่ๆเลยก็หนังที่พี่ดูมันไม่ได้ไม่ตลกอย่างเดียวแต่มันกลับเป็นหนังงงง.........ผ....ผ.....ผ.....ผี หน่ะสิ เรื่อง the ring ซะด้วย พี่คงรู้ว่าฉันเดินเข้ามาในห้องมั๊งพี่จึงลุกขึ้นมาจากโซฟาแล้วก็มาลากฉันไปดูด้วย.....ใช่!!!มันต้องใช่แน่ๆพี่แกล้งหัวเราะเพื่อที่จะล่อให้ฉันมาที่นี่ แล้วพี่ก็ให้ฉันดูหนังผีซินะนี่เป็นการแก้แค้นที่โหดเหี้ยมมากแม้แต่ไม้เบสบอลก็คงช่วยฉันไม่ได้.....แง......เพราะอะไรรู้มั๊ยก็เพราะว่าฉัน....ฉัน....ฉันกลัวผีหน่ะสิ
>O< ใบหน้าของฉัน
^O^ ใบหน้าของพี่จินเซ
ทุคนต้องสงสัยแน่ๆเลยว่าทำไมฉันไม่ลุกหนีก็เพราะว่า พี่..ไม่สิตอนนี้ฉันกำลังโกรธนะ....ไอ้จินเซมันล็อกแขนฉันไว้หน่ะซิ...ชิ....ไอ้พี่บ้าอย่าให้ถึงตาฉันบ้างก็แล้วกันนะ...ฮึ่ม
แล้วช่วงเวลาอันโหดร้าย ทารุณ โหดเหี้ยม นะ.....น่า.....พอดีกว่าชักจะเว่อใหญ่แล้วเรา ไปนอนดีกว่า
หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จฉันก็รีบเข้านอนเพราะตอนนี้ก็เกือบจะ4ทุ่มแล้ว ฉันเป็นพวกอาบน้ำนานหน่ะครอบครัวหรือเพื่อนๆฉันก็ชินกันทั้งนั้นแหละกับการรอฉันหน่ะ
ครืน....เปรี๊ยงงงงงงงงง
ขณะที่ฉันเคลิ้มๆกำลังจะหลับนั้นฝนก็ได้เทลงมาเหมือนเทน้ำเลยและไม่ลงมาอย่างเดียวนะมันยังพาเสียงที่ฉันกลัวตามลงมาอีกด้วย......
ครืน.....เปรี๊ยงงงงงงงงงงงงงงงงงง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดW
ไม่ไหวแล้วววว ภาพไอ้ผี..อุ๊ย...ขอโทษนะคะชินยองไม่ได้ตั้งใจจะลบหลู่นะ ..คุณผีในหนังเมื่อกี้มันตามมาหลอกหลอนฉัน แงงงงงงง...TOT ฉันกลัวแล้วอย่ามาแกล้งกันเลยยย/|\
“โอยยยย ไม่ทนแล้วโว้ยยยย”
พอฉันตะโกนออกมาแบบนั้นแล้วฉันก็รีบคว้า.....หมอนแล้วก็ตรงไปที่ห้อง...ไอ้พี่บ้าที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ฮ่า ฮ่า มันต้องรับผิดชอบ
ก๊อก ๆๆๆๆ
แอ้ดดด เสียงเปิดประตู
“มาปลุกอะไรเอาตอน....นะ.....” พี่ยังพูดไม่ทันจบฉันก็รีบเข้าห้องพี่ไปก่อนพร้อมกับนอนลงที่เตียงพี่
พอพี่เห็นฉันทำแบบนั้นพี่จึงหายจากอาการง่วงเป็นปลิดทิ้งแล้วเดินตรงมาที่เตียงพร้อมกับดึงขาฉัน
“ยัย ชินนยองงง” พี่พูดในขณะที่ยังดึงขาฉันอยู่ ส่วนฉันหน่ะหรอ...ฉันจะทำอะไรได้นอกจากเกาะเตียงเอาไว้ เราค้างกันอยู่ในท่านี้จนกระทั่งพี่ปล่อยขาฉันในที่สุด
“นี่ เธอยังกลัวเสียงฟ้าผ่าอยู่อีกหรือเนี้ย” -_-****
(-_-)(_ _)(-_-) ฉันพยักหน้ารับ
“แล้วเธอก็คงกลัวไอ้ผีบ้าเมื่อกี้อีกอีกด้วยใช่ไหม” พี่ถามต่อ
(-_-)(_ _)(-_-) OoOพอฉันพยักหน้าเสร็จก็นึกออกว่า......
เพี้ยย ...... ฉันตีปากพี่แรงมากๆ1ที
“นี่ ไอ้น้องบ้ามาตีฉันทำไมห๊า.....”
“ก็เมื่อกี้พี่เรียกคุณผีไม่เพราะอ่ะเดี๋ยวเขาก็มาหักคอพี่หรอก” ฉันบอกด้วยใบหน้าที่ยังหวาดกลัวอยู่เล็กน้อยนี่ฉันรักพี่นะฉันถึงได้เตือนเนี้ย
“เฮ้ออ นี่หรือน้องฉันไม่เห็นว่านิสัยมันจะโตมาตามตัวมันเล้ย โอเค...ให้นอนด้วยก็ได้แต่เธอต้องนอนที่พื้นนะ..”
พอจินเซพูดจบก็พบว่ายัยน้องตัวแสบได้หลับไปแล้ว
“เฮ้อ ยัยตัวแสบเอ้ยย” บ่นไปแบบนั้นแหละแต่ความจริงจินเซเป็นคนที่รักน้องมากกกกกก(จริงเปล่า?)
แล้วพี่น้องทั้ง2ก็นอนบนเตียงเดียวกันด้วยความสบายจนกระทั่ง
ตุบ....พลั๊ก
“โอ้ย....” เสียงอันเจ็บปวดของจินเซ เพราะว่าโดนยัยน้องตัวแสบนั้น....ถีบตกเตียง จินเซก็ทำได้แค่ทนเจ็บแล้วก็ปีน กลับขึ้นไปนอนต่อ....
แต่แล้วก็...........
ตุบ....พลั๊ก
“โอ้ย....ไม่ทนแล้วโว้ยยย” ในที่สุดความอดทนของจินเซก็สิ้นสุดลงด้วยความเจ็บจึงตะโกนออกมา แต่ว่าความซวยก็ไม่จบเพียงแค่นั้น.....
ตุบ....
......เพราะยัยน้องตัวแสบก็ได้ปาหมอนมาโดนที่หัวของพี่ชายสุดที่รัก(รึเปล่า?)เต็มๆ
“ไอ้..พี่..บ้า..จาตาโกนทามมายคนจะนอน” พอพูดเสร็จชินยองก็หลับต่อ ในขณะที่จินเซก็หลับต่อเช่นกัน...แต่ว่าต่อที่พื้นนะ(ก็ใครมันจะบ้ากลับไปนอนต่อบนเตียงหล่ะ..จริงมั๊ย?)
ความคิดเห็น