คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter One - เริ่มต้น
เสียงฝีเท้าที่ก้าวยาวๆสลับกับเสียงหอบหายใจดังขึ้นระหว่างทางเดินในทุ่งข้าวโพดที่งอกเงยขึ้นอย่างไม่เป็นระเบียบ เจ้าของร่างนั้นเป็นเด็กชายคนหนึ่ง อายุราวๆสิบสามถึงสิบสี่ปี ผมสีแดงเพลิงไหวน้อยๆเมื่อปะทะกับลมที่พัดผ่าน นัยน์ตาสีนิลกำลังจ้องไปข้างหน้าอย่างครุ่นคิด เมื่อเดินผ่านทุ่งข้าวโพดแล้ว ภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏคือภาพของกระท่อมหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางลานกว้างอย่างโดดเดี่ยว ทันใดนั้นขณะที่เขากำลังจะเดินไปที่กระท่อม เด็กหนุ่มก็สังเกตเห็นรอยเลือดไหลมาเป็นทางหน้ากระท่อม
“ท่านแม่!” เด็กหนุ่มพึมพำในลำคอ ก่อนที่จะเปลี่ยนจากการเดินเป็นการวิ่งไปที่กระท่อมทันที มืออันหยาบกร้านกระชากประตูอย่างแรงเพื่อให้มันเปิดออก ภาพที่เขาเห็นนั้นทำให้น้ำตาไหลลงมาเป็นทางตามใบหน้าของเขา
เด็กหนุ่มวิ่งไปประคองร่างของผู้เป็นแม่ บนตัวของนางมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ดูเหมือนว่าจะถูกกรีดด้วยของมีคมเป็นทางยาวตั้งแต่ลำคอด้านขวาเฉียงลงมาจนถึงสะโพกด้านซ้ายสี่รอยติดกัน เขาพยายามเขย่าร่างที่ไม่ได้สติของแม่ คาดหวังให้ฟื้นขึ้น แต่ก็ไม่ได้ผล เขาเอาแต่พร่ำเรียกว่า แม่ ซ้ำกันหลายรอบ จนกระทั่งหมดสติลง
“ไม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่!”
เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที
“เฟลม! เฟลม! เป็นอะไรลูก เฟลม!” เสียงของหญิงวัยกลางคนดังเข้ามาในหัวของเฟลม
“เฟลม เป็นอะไรลูก!” ผู้เป็นแม่ถามด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง
แต่เฟลมไม่ได้ตอบ เขาเหงื่อแตกอยู่บนที่นอนในบ้านของเขา เด็กหนุ่มหันควับไปยังทางที่แม่ที่นั่งข้างๆทันที ภาพที่แม่นอนตายในแขนของเขาค่อยๆเลือนหายไปในอากาศ พลันภาพปัจจุบันก็เข้ามาแทนที่ เฟลมนอนลงกับหมอนอย่างแรงพร้อมกับพ่นลมหายใจยาว
“มีอะไรหรือลูก!” เคียร์ หญิงผู้เป็นแม่ถามอีกครั้ง “อยู่ดีๆลูกก็กรีดร้องขึ้นมาอย่างดัง”
เฟลมหันหัวไปหาแม่ พลางพูดด้วยเสียงทุ้มๆต่ำๆของเขา
“ข้าฝันอีกแล้ว ท่านแม่ ข้าฝันว่า..ว่า..” เด็กหนุ่มไม่อาจกล่าวคำต่อไปได้ แต่ผู้เป็นแม่ไม่ได้ถือสา ซ้ำนางยังต่อประโยคให้จบ
“เจ้าฝันว่าแม่ตายอีกแล้วหรือ เฟลม เจ้าไม่ต้องห่วงหรอกนะ มันก็เป็นแค่ฝันร้าย” นางใช้มืออันอ่อนโยนลูบศีรษะของบุตรชายด้วยท่าทีห่วงใย เสียงพูดของนางนั้นสามารถช่วยกล่อมเฟลมให้ดีขึ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังคงครุ่นคิดกับความฝันของตนอยู่
“แต่ท่านแม่ มันเกิดขึ้นหลายครั้งแล้วนะ ข้าฝันอย่างนี้มาเกือบอาทิตย์แล้วนะ ข้าว่า ท่านแม่! ข้าว่ามันเหมือนเป็นลางบอกเหตุอะไรสักอย่าง!” เด็กหนุ่มจบประโยคด้วยถ้อยคำที่หนักแน่นแต่ทว่าแฝงไปด้วยความกลัวและความตกใจ
“ใจเย็นๆสิ เฟลม แม่ยังอยู่ตรงนี้นะ แม่ยังไม่ได้จากเจ้าไปไหนสักหน่อยเลย” นางพูดแล้วยิ้มหวาน
ทันใดนั้นเฟลมก็โพล่งขึ้นมาอย่างกะทันหันเหมือนคิดอะไรได้ เขามองไปที่หน้าต่างเพื่อดูดวงตะวัน แล้วพูดกับแม่
“ท่านแม่ นี่คงสายมากแล้ว ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวข้าขอไปอาบน้ำที่ลำธารสักพัก เดี๋ยวข้าจะกลับมานะ” เด็กหนุ่มพูดแล้วมองไปที่แม่
เคียร์ยิ้มหวานพร้อมกับพยักหน้าก่อนที่จะมองดูบุตรชายของตนเดินออกจากประตูไป
เฟลมเดินตัดผ่านไร่ข้าวโพด พลันภาพความฝันก็บังเกิดขึ้นอีกครั้งในหัว เด็กหนุ่มส่ายหัวแรงๆพร้อมกับถอนหายใจเพื่อไล่มันออกไป
เนื่องจากว่าบริเวณที่เฟลมอยู่นั้นไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลย หากต้องการที่จะเจอใครสักคน ก็ต้องข้ามลำธารที่กว้างและเดินไปอีกห้าถึงหกกิโลเมตรจึงจะเจอหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เฟลมไปหมู่บ้านนั้นเป็นประจำเพื่อหาวัตถุดิบในการปรุงอาหารให้แม่ เขารู้จักกับคนในหมู่บ้านหลายคนเป็นอย่างดี รวมไปถึงหัวหน้าหมู่บ้านด้วย นั่นคือชายชราที่มีนามว่า ‘สเตรนท์’ เด็กหนุ่มรักที่จะไปที่บ้านของสเตรนท์และฟังเขาเล่าเรื่องการผจญภัยต่างๆนานาของตนเอง สเตรนท์ไม่มีลูก แต่เขาก็รักเฟลมเหมือนเป็นลูกแท้ๆของตน สเตรนท์ยังเคยสอนการยิงธนูและมอบคันธนูและกระบอกใส่ธนูให้เฟลมด้วย ซึ่งตอนนี้มันถูกเก็บไว้อย่างดีที่บ้านของเขา แต่ช่วงหลังๆนี้เฟลมไม่ได้ไปที่บ้านของสเตรนท์อีกแล้ว เนื่องจากอาการที่เขาฝันร้าย และแม่ของเขาก็มีอาการป่วยเป็นพักๆ เฟลมจึงต้องอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่เพื่อดูแลแม่ เขาจะออกมาข้างนอกก็แค่เพื่อมาหาของที่แม่ต้องการและทำธุระส่วนตัวก็เพียงเท่านั้น
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว เฟลมก็เดินไปที่หมู่บ้านแห่งนั้น หลายคนในหมู่บ้านจำเขาได้จึงร้องทัก ส่วนตัวเด็กหนุ่มเองก็ยิ้มตอบ
สิบนาทีต่อมาเขาก็เดินกลับบ้านพร้อมกับผักจำนวนหนึ่งและเนื้อสัตว์อีกหนึ่งชิ้นใหญ่ ส่วนแม่ของเขาได้ก่อไฟสำหรับทำอาหารไว้แล้ว
ในขณะที่เคียร์กำลังรับประทาน บุตรชายของนางได้จ้องมองนางอย่างเป็นห่วง เขามีความรู้สึกแปลกๆว่านางจะต้องจากไปในเร็ววัน เฟลมพยายามไม่คิดเรื่องนี้ เขาพยายามบอกกับตัวเองว่าแค่คิดมากไป ไม่มีอะไรมาก และมันก็ได้ผล
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สี่วันต่อมาหลังจากที่เฟลมไม่ฝันอะไรเลยเกี่ยวกับการตายของแม่ของเขา เขาก็รู้สึกสดชื่นกว่าเดิมขึ้นมาค่อนข้างมาก และที่เฟลมดีใจที่สุดคือ วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบสิบสี่ของเขา เฟลมเริ่มที่จะไปบ้านของสเตรนท์อีกครั้ง และชายชรายังคงให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดีเหมือนเคย
ในขณะที่เฟลมกำลังนั่งดูสเตรนท์สาธิตการยิงธนูให้ดูนั้น ในหัวของเด็กหนุ่มเกิดอาการมึนงง ภาพของผู้เป็นแม่ได้กลับเข้าในหัวอีกครั้ง นางกำลังทอผ้าอยู่เมื่อประตูบ้านพังลงมา วินาทีต่อมาก็เกิดเสียงเหมือนสายฟ้าผ่าลงมายังหน้าบ้านของนาง เมฆดำทะมึนเริ่มปกคลุมท้องฟ้า บดบังแสงอาทิตย์จนมิด ลมพายุพัดมาอย่างแรงจนเกิดความรู้สึกหนาวสั่น เคียร์จ้องไปที่ประตูบ้านอย่างไม่กระพริบตา พลันก็เกิดฟ้าผ่าครั้งที่สอง หญิงวัยกลางคนถอยกรูดไปติดกับผนังด้านในทันที ในขณะที่มือก็คลำหามีดพก นางเจอมันใต้ที่นอนของเฟลม ฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของปีศาจ จากนั้นหมอกสีดำขนาดมหึมาก็ลอยเข้ามาในบ้าน แล้วเริ่มก่อตัวเป็นรูปหญิงสาว ส่วนหมอกที่ยังคงเหลืออยู่ก็กลายเป็นอาภรณ์สีดำสวมให้นาง
“สวัสดี จอร์เจีย ดีใจที่ได้พบเจ้าอีกครั้ง” หญิงเอ่ยปากทักทายด้วยเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์หาแต่ทว่าแฝงไปด้วยกลิ่นไอของความโหดร้ายและความทารุณ
“กะ..แกเป็นใคร” เคียร์ถามด้วยเสียงที่สั่น ร่างกายของเธอดูเหมือนจะอ่อนเปลี้ยเพลียแรงทันทีที่ได้พบหญิงแปลกหน้าผู้นี้ เคียร์รู้สึกว่านางเคยพบหญิงผู้นี้มาแล้ว แต่นางก็ไม่สามารถนึกออกได้ว่าเป็นใคร
“จำข้าไม่ได้รึ จอร์เจีย - -”
“ข้าไม่ได้ชื่อจอร์เจีย ข้าชื่อเคียร์!” เคียร์พูดย้อนใส่หญิงสาว ผู้ซึ่งมีท่าทีโมโหขึ้นมาทันที
“กล้ามากนะที่บังอาจพูดตัดหน้าข้า!” หญิงสาวขึ้นเสียง แต่ประโยคต่อมาเธอก็เบาเสียงลงทันที “แต่เอาเถอะ เราไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงเรื่องมารยาทแล้วในตอนนี้ เพราะถึงอย่างไร เจ้าก็ต้องตายอยู่ดี!” หญิงสาวยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ข้า! เซอา เทพธิดาแห่งการฟื้นคืนชีพ! พันธะสัญญาระหว่างเรา ได้หมดลงแล้ว!”
หญิงสาวเริ่มร่ายเวทย์ พลันก็บังเกิดลูกไฟสีฟ้าในมือของนาง เคียร์จ้องมองด้วยความตกใจ แต่นางก็ได้ฉวยโอกาสนี้ปามีดพกไปที่เซอา มันโดนหัวไหล่ขวาของเซอาพอดี จากนั้นนางก็รีบวิ่งหนีออกไปทันที เซอาเสียหลักทำให้ลูกไฟในมือหายวับไป นางดึงมีดที่หัวไหล่ออก พลันแผลที่เปิดอ้ากว้างก็สมานปิดทันที หญิงสาวจ้องมองด้วยความพอใจ จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปยังทิศที่เคียร์วิ่งออกไปทันที แววตาอำมหิตฉายขึ้นบนใบหน้า ดวงตาของนางกำลังปะทุจนเป็นเพลิงร้อนอยู่ในนัยน์ตา จากนั้นนางก็แสยะยิ้ม
“เจ้าหนีข้าไปตลอดไม่ได้หรอก จอร์เจีย!” ในวินาทีที่นางพูดจบ ร่างกายนางก็กลายเป็นหมอกดำลอยตามเคียร์ออกไปทันที
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
“เฟลม เจ้าหนู เจ้าฟังข้าอยู่รึเปล่า เฟลม!” เสียงเรียกของสเตรนท์ดึงเฟลมเข้ามาสู่โลกปัจจุบัน เฟลมกระพริบตาแรงๆจนภาพในหัวค่อยๆเลือนหายไป
“เจ้าเป็นอะไรน่ะ ข้าเห็นเจ้านั่งเหม่อ ข้าเรียกเจ้าก็ไม่ยอมขานรับ” สเตรนท์ถาม พลางมองดูเฟลม
เฟลมไม่ตอบ เขาลุกขึ้นทันที เด็กหนุ่มมองไปที่สเตรนท์แล้วพูดด้วยท่าทางรีบร้อน
“ท่านลุง ข้าต้องขอไปก่อนนะ ข้ามีเรื่องด่วน!”
พูดจบเด็กหนุ่มก็ออกวิ่งไปที่ประตูแล้วออกไปทันที เขาคิดว่าตัวเองได้ยินสเตรนท์ตะโกนบอกว่า “แล้ววันหลังมาหาข้าอีกนะ” แต่ในใจกลับมีลางสังหรณ์ว่า เขาจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว
เฟลมวิ่งออกจากหมู่บ้าน ข้ามสะพาน และผ่านทุ่งข้าวโพดอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มวิ่งไปหยุดที่หน้าบ้าน ประตูบ้านของเขานั้นพังลงมา และของข้างในบ้านก็ถูกลมพัดกระจัดกระจาย แต่สิ่งหนึ่งที่เฟลมไม่เห็นคือ แม่ของเขา สิ่งที่เฟลมกลัวที่สุดนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว เขากลัวที่สุดว่ามันจะเป็นเหมือนภาพที่เขาเห็นเมื่ออยู่ที่บ้านของสเตรนท์
“ท่านแม่!” เฟลมตะโกน พลางมองหาอย่างกระวนกระวาย เขาหาทั่วบ้านแล้วแต่ไม่พบ ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงวิ่งออกไปนอกบ้าน เขามองไปที่ป่าที่อยู่ใกล้ๆทันที ในฝัน แม่ข้าวิ่งไปทางนั้น เฟลมคิด เขาจึงก้าวย่างไปในป่าทันที ในขณะที่เมฆฝนเริ่มก่อตัวอีกครั้ง
เฟลมพบร่างแม่ของเขานอนบนพื้นเมื่อเดินเข้าไปได้สักพัก เด็กหนุ่มวิ่งเข้าไปประคองโดยไม่รังเกียจเลือดจำนวนมากที่อยู่ตามตัวของนาง บนตัวนางมีแผลฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นจากอาวุธหลายแห่ง เด็กหนุ่มพยายามเขย่าร่างที่ไม่ได้สติของแม่ คาดหวังให้ฟื้นขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร น้ำตาที่ใสดั่งราวกับแก้วหยดลงบนร่างของผู้เป็นมารดาพร้อมกับเสียงกรีดร้องของบุตรชายที่ดังออกมาอย่างปีศาจที่บ้าคลั่ง ก่อนที่เขาจะหมดสติลงไป
--------------------------------------------------------------------------------------------------
เฟลมตื่นขึ้นมาและพบว่าเขายังคงนอนกอดร่างของแม่อยู่ เขาสังเกตว่ามีนกแร้งหลายตัวเกาะอยู่ในต้นไม้บริเวณนั้น พวกมันมาตามกลิ่นศพและเลือด
“ไป!” เฟลมไล่พวกมันพลางโบกมือ สองตัวบินหนีไป แต่อีกหลายตัวที่เหลือยังคงจ้องมองเฟลมและศพของแม่ของเขาอยู่ พวกมันคงคาดหวังให้เฟลมเดินจากไป โดยทิ้งศพนั้นไว้ พวกมันจะได้จัดการ
“ข้าจะไม่ยอมทิ้งร่างของท่านแม่ให้เป็นอาหารของพวกแกหรอก!” เฟลมตะโกน จากนั้นเขาก็ค่อยๆประคองร่างของเคียร์แล้วมุ่งตรงไปยังทางออกของป่า
เมื่อเฟลมมาถึงบ้านแล้ว เขานำร่างของแม่พิงไว้ที่ผนังบ้าน แล้วออกไปจัดการขุดหลุมศพ เด็กหนุ่มตัดสินใจจะขุดใต้กับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆบ้าน เขาตั้งใจที่จะขุดให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่ว่านางจะได้ไม่หนาว จากนั้นก็นำร่างของผู้เป็นแม่มา บรรจงวางลงในหลุมอย่างระมัดระวัง พลางจัดแต่งใบหน้าให้สวยงาม เขาก้มลงจูบแก้มแม่ครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะกลบหลุมศพ เฟลมวิ่งไปที่ริมชายป่าเพื่อเด็ดดอกไม้สีแดงที่สวยงามมาดอกหนึ่งมาวางบนหลุมศพเพื่อเป็นการไว้ทุกข์ ในขณะที่เฟลมกำลังยืนอาลัยอยู่นั้น เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากไร่ข้าวโพด
“การสูญเสีย..เป็นเรื่องธรรมดา”
เด็กหนุ่มหันควับไปทันที พลางมือก็เตรียมจับมีดพกในกระเป๋า
“ใครน่ะ” เฟลมตะโกน “เผยตัวมานะ!”
“ใจเย็นๆสิ พ่อหนุ่ม อย่าเพิ่งรีบร้อน เจ้ายังมีเวลาอีกเหลือเฟือ” เสียงๆนั้นตอบกลับมา มันเป็นเหมือนเสียงของคนชราที่ฟังดูเหนื่อยแรงคนหนึ่ง
“จงเผยตัวออกมา!” เฟลมสั่ง
บุคลนั้นค่อยๆเดินออกมาจากไร่ข้าวโพด ทันใดนั้นเฟลมก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะภาพที่เขาเห็นนั้นคือร่างของชายชราคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยเลือดเปรอะปรังทั้งตัว แววตาที่เลื่อนลอยพยายามที่จะจ้องเด็กหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้า
“ท่านลุง ใครทำร้ายท่านลุง!” เฟลมถาม พลางวิ่งไปช่วยประคองสเตรนท์มานั่งพักที่ต้นไม้ใหญ่ด้วยความเป็นห่วง
“ท่านลุง ท่านลุงรออยู่ที่นี่ ข้าจะไปเก็บสมุนไพรมาให้” เด็กหนุ่มพูดพลางเตรียมตัวจะวิ่ง แต่ชายชราส่ายหัวเบาๆ
“แต่ท่านจะตายนะ!” เฟลมแย้ง แต่สเตรนท์ก็ยังคงปฏิเสธ เขาพูดเบาๆว่า ‘ไม่’ และกวักมือเป็นสัญญาณว่าให้เฟลมเข้ามาใกล้ๆ
“เฟลม ข้ามีเรื่องต้องบอกเจ้า” สเตรนท์พูดด้วยเสียงที่เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน
เฟลมพยักหน้า พลางจ้องตาสเตรนท์
“แม่ของเจ้า..แม่ของเจ้า แค่ก แค่ก - - ” ชายชราสำลักออกมาเป็นเลือด เฟลมจึงต้องค่อยๆลูบหลังของเขา
“แม่ของข้าทำไม ท่านลุง - -” เด็กหนุ่มถามด้วยความร้อนใจ พลางเขย่าตัวสเตรนท์“ท่านลุง ใครฆ่าแม่
ข้า - -”
สเตรนท์โบกมือเป็นสัญญาณให้เฟลมเงียบ และเขาก็ค่อยๆพูด
“เฟลม แม่ของเจ้าเคยเป็นสมุนของโกลเด้นฟ็อกซ์ แค่ก แค่ก แต่นางหนีออกมา - -”
“โกลเด้นฟ็อกซ์คือใคร” เฟลมพูดตัดหน้า แต่ชายชราโบกมือให้เงียบอีกครั้ง
“จงตามหาเขา โกลเด้นฟ็อกซ์ จัดการเขาซะ แล้วเจ้าจะรอด”
“ข้าไม่เข้าใจ” เฟลมส่ายหัว
“เจ้าคือ เดอะ ดรีมเมอร์ เฟลม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าฝัน มันจะเป็นจริง...” แล้วชายชราก็ล้มลง พร้อมกลับเปลือกตาที่ปิดสนิท
“ท่านลุง! ท่านลุง!!” เฟลมพยายามเขย่าตัวสเตรนท์ น้ำตาไหลลงมาเป็นสายอีกครั้ง
เฟลมสูญเสียท่านแม่และลุงไปสองคนในวันเดียวกัน นับว่าเป็นศึกหนักสำหรับเด็กที่อายุสิบสี่ที่จะทำใจได้ เฟลมถึงกับล้มลงและท้อใจแทบจะทันทีในตอนแรก เขาเสียใจมาก และจากความเสียใจ ก็กลายเป็นความโกรธ และจากความโกรธ ก็กลายเป็นความแค้น เด็กหนุ่มแค้นถึงกับกล่าวออกมาว่า
“ถ้าข้าไม่สามารถฆ่าใครก็ตามที่มีนามว่าโกลเด้นฟ็อกซ์ได้ ข้าจะปลิดชีพตนเอง!”
ความคิดเห็น