คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : แอปเปิ้ลเป็นเหตุ
กริ๊ง
เสียงกระดิ่งดังสนั่นไปทั่ว ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งบ่งบอกว่าเวลานี้เป็นช่วงที่นักเรียนทุกคนจะออกมาเล่นพูดคุยด้วยกันหลังจากการเรียนคาบแรกอันแสนน่าเบื่อจบลง เด็กผู้หญิงจะจับกลุ่มกันอวดของที่ตัวเองเพิ่งซื้อมาใหม่หรือไม่ก็เม้าท์มอยถึงผู้ชายที่ตนแอบชอบ ส่วนเด็กผู้ชายถ้าไม่นัดกันไปเล่นบอลอยู่สนามหญ้าก็จะพูดคุยกันเรื่องมังงะแนวแฟนตาชีต่อสู้ที่เพิ่งจะปล่อยเล่มมาใหม่ ทุกคนดูสนุกนานที่ได้แชร์เรื่องเล่าของตัวเองและชักชวนกันไปเล่นกิจกรรมที่เคยทำเป็นประจำ
แต่มันคงใช้ไม่ได้กับฉันในตอนนี้....
"ยูมิ! มันอันตรายนะ ลงมาเถอะ!"
"ไม่เป็นไรหรอกน่า แล้วก็ช่วยเงียบๆหน่อยได้ไหมถ้าใครมาเห็นเข้าเดี๋ยวเราก็ได้ซวยกันหมดหรอก"
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ!? ถ้าเกิดเธอตกลงมาแล้วได้รับบาดเจ็บก็ซวยนะสิ รีบลงมาเถอะ ให้ฉันขึ้นไปเองก็ได้!”
“คิดมากน่าพี่เคย์ แค่ปีนต้นไม้เองหนูไม่ตกลงไปง่ายๆหรอก พี่เอาเวลาเป็นห่วงหนูไปดูต้นทางดีกว่าไหม ถ้ามีคนผ่านมาเห็นเดี๋ยวเราก็โดนจับได้หรอก จะกินไหมแอปเปิ้ลนะ?”
“…เออๆ ระวังตัวด้วยล่ะ อย่าตกต้นไม้แล้วร้องไห้ขี้มูกโป่งมาหาฉันล่ะ!”
“ไม่มีทางหรอก! ไปได้แล้ว!”
ฉันมองตามหลังพี่ชายตัวเองด้วยสายตาเขียวปั้ดเมื่อโดนล้อว่าถ้าเกิดพลาดตกต้นไม้ลงไปจะร้องไห้ขี้มูกโป่งไปหา เหอะ คนอย่างฉันไม่มีทางร้องไห้กับเรื่องแค่นี้หรอกนะ!
ฉันบ่นกับตัวเองอยู่ในใจพลางยื่นมือออกไปจับกิ่งไม้ด้านหน้าเพื่อปีนไปขั้นต่อไป ขาก็พยายามเหยียบกิ่งไม้ด้านล่างเพื่อทรงตัวไม่ให้ตกลงไป แต่ละขั้นเป็นไปอย่างช้าๆและใจเย็นเพื่อไม่ให้เป็นการโดนครูหรือคนที่เดินผ่านมาจับได้ก็คงทำได้แค่อดทนไปละนะ
ถึงจะรู้ว่าเป็นความผิดที่แอบขโมยผลไม้ของทางโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่แค่แอบจิกไปสองสามลูกก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง แถมถ้าไม่มีใครรู้จนเอาไปฟ้องครูก็ถือว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น คิๆ (การขโมยเป็นสิ่งไม่ดี ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ!)
การปีนขึ้นไปเป็นไปอย่างเงียบเชียบใช้เวลาไม่นานแอปเปิ้ลผลสีแดงสดก็ปรากฏสู่สายตา ฉันยื่นมือออกไปข้างหน้าด้วยความดีใจและตื่นเต้น ในที่สุดแอปเปิ้นที่ฉันหมายตาไว้ตั้งนานก็อยู่ในกำมือของฉันแล้ว
แค่อีกนิดเดียว...
"เฮ้ย ทำอะไรนะ!?"
ด้วยความตกใจที่จู่ๆเสียงใครก็ไม่รู้ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังบวกกับตอนนี้มีความผิดติดตัว ขาที่เหยียบอยู่กิ่งไม้เกิดลื่นขึ้นมากะทันหัน มือเผลอปล่อยออกจากไม้เมื่อคิดว่าตัวเองคงโดนจับได้แล้ว ในชั่วขณะนั้นเองร่างกายก็จมดิ่งลงตามแรงโน้มถ่วง หัวใจเต้นกระหน่ำขึ้นมาอย่างแรง ในหัวก็ได้แต่รอรับแรงกระแทกที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
ตุบ
"โอ้ย!"
เด็กสาวลูบสะโพกตัวเองที่ได้รับแรงกระแทกเบาๆเพื่อที่จะช่วยทำให้ความเจ็บมันบางเบาลงไปบ้าง ดูเหมือนว่าโชคร้ายจะยังไม่หมดอยู่แค่นั้น ในขณะที่กำลังชุลมุนกับความเจ็บที่สะโพกจนไม่ทันได้ตั้งตัวผลแอปเปิ้ลสีแดงสดหน้า(ขโมย)ทาน ก็ได้ร่วงหล่นลงมาตามแรงโน้มถ่วง(เหมือนกับทฤษฎีของนิวตัน)แล้วตกลงที่ศีรษะของเด็กสาวเข้าอย่างจัง
"โอ้ย! เจ็บๆๆๆๆ"
ฉันมองผลแอปเปิ้ลหน่วยหนึ่งกำลังกลิ้งตัวไปข้างหน้าก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าฉันอย่างหัวเสีย ตกต้นไม้ยังไม่พอยังต้องมาโดนแอปเปิ้ลตกใส่หัวอีก อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้
จะจับกินไม่ให้เหลือเลยคอยดู!
จ้องมองแอปเปิ้ลที่ตอนนี้อยู่ในกำมือของตัวเองเขม็งพร้อมกับตั้งปณิธานในใจอย่างเคียดแค้น ก่อนที่ในวินาทีต่อมาจะนึกขึ้นมาได้ว่าเหมือนจะมีเสียงของใครสักคนร้องขึ้นจนตัวเองต้องมาอยู่ในสะภาพนี้ แต่พอหันไปมองรอบๆตัวดีๆกลับไม่ปรากฎร่างของใครทั้งนั้น
นี่ฉันตกต้นไม้ฟรีงั้นเหรอ?
หน็อย อย่าให้รู้นะว่าใคร แม่จะเข้าไปซัดให้หน้าหงายเลยค่อยดู!
ฉันค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆเมื่ออาการปวดจากสะโพกยังคงหลงเหลือให้รู้สึกเจ็บแปลบๆอยู่ ปัดเสื้อผ้าหน้าผมที่มีฝุ่นติดอยู่ให้ออกไปพร้อมกับสำรวจว่าตัวเองบาดเจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า
เสื้อนักเรียนเลอะฝุ่นหมดเลยแฮะ กลับไปต้องโดนแม่จี้ถามแน่นอน
แต่ที่แน่ๆคงโดนพี่เคย์บ่นจนหูชาก่อนน่ะนะ
"เฮ้อ~" แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว
"เฮ้ย นี่แกฟังที่ฉันพูดอยู่หรือเปล่า!?"
"เอ๊ะ?"
ฉันหันไปทางต้นเสียงที่มาจากอีกด้านของโรงเรียน จุดที่ฉันยืนอยู่จะเป็นด้านหลังของโรงเรียนเหมาะแก่การขโม-แค่กๆเก็บแอปเปิ้ล ซึ่งจะไม่ค่อยมีคนมาเล่นอยู่แถวนี้สักเท่าไหร่เพราะส่วนมากถ้าไม่อยู่เล่นในห้องก็จะออกมาเล่นที่สนามบอลเล็กๆและเครื่องเล่นเด็กหน้าโรงเรียนจึงทำให้แถวนี้ถูกลืมไปโดยปริยาย สะนั้นมันจึงเหมาะแก่การแกล้ง นัดหาเรื่องชกต่อย(ฉันยังขอยืนยันคำเดิมว่าเด็กในเรื่องนี้มันห้าวกันจริงๆ)หรือไม่ก็เอาไปสร้างเรื่องผีสางแล้วเล่าสู่กันฟังให้กลัวเล่นๆ
ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีเรื่องการชกต่อยหรือไม่ก็คงมีคนโดนรุมแกล้งอีกแล้ว
จะเข้าไปยุ่งดีไหมนะ?
แต่ขอดูหน้าคนที่ทำให้ฉันตกใจจนตกต้นไม้ที่เถอะ!
ลอบเดินไปหลบอยู่ข้างหลังกำแพงโรงเรียนก่อนจะชะโงกหน้าไปมอง อดจะรู้สึกกังวลขึ้นมาไม่ได้เมื่อภาพตรงหน้าปรากฏกลุ่มเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งกำลังยืนรายล้อมเด็กคนหนึ่งอยู่ จากที่ดูท่าทางที่เหมือนจะหาเรื่องของกลุ่มนั้นแล้วประกอบกับเด็กคนนั้นที่ตัวเหมือนจะสั่นเล็กน้อย ก็สรุปได้ว่าเด็กคนนี้ต้องโดนรุมรังแกแหงๆ
"ค…ครับ?"
"ฉันถามแกว่าแกมาทำอะไรที่นี่ ไม่ได้ยินหรือไง!?"
"ผ...ผมก็แค่มาหาที่นั่งอ่านหนังสือครับ..."
"รู้หรือเปล่าว่าที่ๆแกนั่งอยู่เป็นถิ่นของฉัน?"
"..."
"เฮ้ย ลูกพี่ฉันพูดด้วยก็ตอบสิวะ ไอ้เด็กเนิร์ด" หนึ่งในกลุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นลูกกระจ๊อกพูดขึ้นเมื่อไอ้คนที่พวกเขาเจอเอาแต่เงียบ
"ผ...ผมขอโทษครับ ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ" เด็กชายสวมแว่นหนาเตอะรีบกุลีกุจอเก็บของเข้ากระเป๋าเมื่อเห็นว่าถ้าหากตนยังรั้งอยู่ตรงนี้คงได้มีเรื่องแน่นอน
"เดี๋ยวก่อน"
"ค...ครับ?"
"ดูไปดูมาฉันก็รู้สึกคุ้นหน้าแกนะ"
"...?"
"ก็ไอ้เด็กเนิร์ดที่อยู่ห้องเราไงลูกพี่" หนึ่งในลูกกระจ๊อกอีกคนพูดขึ้น
"อ้อ ไอ้เด็กเนิร์ดที่ไม่มีเพื่อนคบนี่เอง ถึงว่าล่ะหน้าคุ้นๆ ฮ่าๆๆๆ"
"..." ฝ่ามือเล็กลอบกำมือเเน่นกับถ้อยคำเชิงเหยียดของกลุ่มคนตรงหน้า อดกลั้นอารมณ์ที่กำลังประทุอยู่ในใจเมื่อรู้ว่าถ้าตัวเองเผลอตัวสู้กลับยังไงผลออกมาก็เป็นตนที่ต้องแพ้อยู่ดี
"โอยๆ นี่แกคิดจะต่อยกับฉันเหรอ?" เด็กชายผู้ที่ได้ชื่อเป็นหัวโจกเหลือบตามองมือที่กำลังกำเข้ากันแน่นของเด็กเนิร์ดตรงหน้า ก่อนจะเค้นถามอย่างหาเรื่อง
"ป...เปล่าครับ"
"งั้นเหรอ?"
"...!" คอเสื้อถูกกระชากเข้าไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้แว่นตาที่สวมใส่อยู่ตกหล่นลงพื้น สายตาที่มองไม่ค่อยชัดฉายภาพใบหน้าเด็กหัวโจกของกลุ่มกำลังปล่อยหมัดลงบนหน้าของเขา ดวงตาทั้งสองข้างหลับตาปี๋เมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องโดนต่อยแน่ๆ
ตายแน่
ปึก
"โอ้ย!"
ในตอนที่เตรียมใจว่าจะโดนต่อยเข้าให้แล้ว เสียงกระทบกันของอะไรสักอย่างบวกกับร้องของคนตรงหน้าก็ฉุดรั้งให้เขาต้องมองว่าเกิดอะไรขึ้น คอเสื้อที่โดนกระชากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เมื่อไม่มีสิ่งใดมาเหนี่ยวรั้งเอาไว้ขาทั้งสองข้างที่หมดแรงก็ทรุดลงไปกับพื้นเพราะความหวาดกลัวที่สั่งสมไว้เมื่อก่อนหน้านี้
"นี่! อย่ามายุ่งกับเพื่อนของฉันนะ!"
สายตาทั้งหมดจับจ้องไปยังคนมาใหม่ที่เหมือนจะเป็นเจ้าของลูกแอปเปิ้ลที่ขว้างใส่มาเมื่อกี้ เด็กหญิงตัวเล็กผมสีดำยาวที่อ้างตัวเป็นเพื่อนกับเด็กเนิร์ดที่พวกเขากำลังแกล้งยืนมองพวกเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ
"ลูกพี่เป็นอะไรไหมครับ!?" ลูกกระจ๊อกตัวน้อยรีบวิ่งไปหาหัวหน้าของตนที่กำลังยืนกุมหน้าผากจากการโดนเด็กผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ขว้างลูกแอปเปิ้ลใส่อย่างโกรธแค้น
"พวกแกจะมั่วยืนบื้ออยู่ทำไม!? ยัยนั่นเพิ่งเขวี้ยงลูกแอปเปิ้ลใส่ฉันนะ! รีบไปจับตัวมันมาให้ฉันสิ!"
"ค...ครับ!"
ฉันมองเด็กผู้ชายสองสามคนเดินตรงมาที่ฉันอย่างใจเย็น ก่อนที่หนึ่งคนในนั้นจะพยายามยื่นมือมาแตะตัวฉัน มือข้างหนึ่งของฉันก็จัดการคว้าข้อมือนั้นเอาไว้ก่อนจะหมุนตัวใช้ข้อศอกเข้าไปที่ศีรษะนั้นอย่างรวดเร็ว
ตุบ
"...!"
เด็กคนที่หนึ่งล้มตัวไปกองกับพื้นในขณะที่มือก็กุมหัวของตัวเองเอาไว้
"ใครอยากเป็นรายต่อไปก็เข้ามาได้เลย"
เมื่อรู้ว่าเด็กผู้หญิงตรงหน้าไม่สามาถรเข้าไปจับได้ง่ายๆอย่างที่คิด อีกสองคนที่เหลือเลยตัดสินใจวิ่งเข้าไปพร้อมกัน ในขณะที่มือก็ข้างหนึ่งก็ยกขึ้นมาทำท่าจะต่อยร่างเล็กนั้น
ฉันยกมือขึ้นมารับหมัดอีกคนพร้อมกับใช้เท้าถีบร่างอีกคนที่วิ่งเข้ามาหมายจะต่อยฉัน เมื่อกำจัดคนหนึ่งได้แล้วก็หันมาให้ความสนใจคนข้างๆด้วยการปล่อยหมัดสวนกลับไป
ตุบ
ร่างทั้งสองร่างทรุดตัวลงไปกองกับพื้น เมื่อเห็นท่าที่ว่าคงจะไม่มีแรงลุกมาสู้ได้อีก ร่างเล็กก็จัดการก้าวเดินไปยังทางที่มีคนเป็นหัวหน้ายืนอยู่
"ป...เป็นไปได้ยังไงกัน..." เด็กชายพูดในขณะที่ร่างทั้งร่างก็กำลังสั่นด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเด็กสาวตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ตนเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งถอยหลังกลับไปเท่านั้น ก่อนที่วินาทีต่อมาจะสะดุดตัวล้มลงไปกับพื้น
"จำไว้"
"...!"
"ถ้าพวกนายไม่อยากเจ็บตัวก็อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉันอีก"
"ข...เข้าใจแล้ว! จะไม่มายุ่งแล้ว! เพราะงั้นปล่อยพวกฉันไปเถอะ!"
"เดี๋ยว"
"เมื่อกี้พวกนายเเค่ต่อยกันเล่นๆใช่ไหม?"
"...!?"
"ฉันถามว่าใช่ไหม?"
"ช...ใช่แล้ว!"
"อื้ม งั้นไปได้"
เมื่อจบประโยคกลุ่มเด็กชายพวกนั้นก็วิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ทันที เหลือทิ้งไว้เพียงแค่ที่ร่างเล็กกับใครอีกคนที่นั่งกองกับพื้นมาตั้งแต่ต้นโดยที่ตอนนี้ก็ยังไม่ขยับไปไหนทั้งสิ้น
"เฮ้อ" ฉันถอนหายใจออกมาน้อยๆอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อเรื่องทั้งหมดมันจบลงแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่โดนฟ้องจนเรียกเข้าห้องผู้ปกครองหรอกนะ ไม่งั้นโดนบ่นจนหูชาแน่ แถมตอนที่สู้ก็ไอ้เราก็ทำไปไม่ใช่หน้อยๆเลยTT
เมื่อนึกขึ้นได้ว่า ณ ตอนนี้ไม่ได้มีแค่ฉันที่อยู่ตรงนี้ ฉันก็หมุนตัวกลับไปมองคนที่ฉันตัดสินใจเข้ามาช่วยเหลือ ก่อนจะเดินเข้าไปหาพร้อมกับย่อตัวลงไปเก็บแว่นตาที่ตกอยู่ข้างๆมาให้คนตรงหน้าที่กำลังนั่งตัวสั่นหน่อยๆ
แหะๆ ก็เผลอไปต่อยคนพวกนั้นเข้าเต็มๆ จะไม่ให้เขากลัวก็คงไม่ได้
"อ่ะ แว่นตาของนาย"
"ข...ขอบคุณครับ..."
เขายื่นมืออันสั่นเทาออกมารับแว่นตาจากฉันไปสวมใส่ก่อนจะพูดขอบคุณฉันเบาๆ
ภาพของเด็กชายผมสีดำสวมแว่นตากลมใสปรากฎอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันสบตากับดวงตาสีเทาที่ฉายแววตื่นกลัวอย่างสงสัย เมื่อรู้สึกว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นเคยสำหลับฉันเหลือเกิน
เคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ?
"อ...เอ่อ"
"หืม?"
"คือว่า...ขอบคุณที่ช่วยไว้นะครับ"
"อ้อ ไม่เป็นไรๆ เห็นนายโดนพวกนั้นแกล้งแล้วจะให้ฉันยืนดูอยู่เฉยๆมันก็ยังไงอยู่"
"ว่าแต่นายเป็นอะไรมากหรือเปล่า? เจ็บตรงไหนไหม?"
"ไม่เป็นอะไรครับ แต่ดูเหมือนคุณจะบาดเจ็บนะ"
"เอ๊ะ?" ฉันมองสำรวจไปทั่วร่างกายตัวเองว่าแผลนั้นมันตรงไหน ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นรอยแผลอยู่ตรงแขนด้านซ้าย
สงสัยตอนที่ตกลงจากต้นไม้แขนน่าจะเผลอไปโดนกิ่งไม้เข้า แต่ตอนนั้นทำไมไม่เห็นนะ
"เลือดออกหน่อยๆเเหะ..."
“อ่ะ ผมมีพลาสเตอร์ปิดแผลอยู่นะครับ”
“ขอบคุณนะ ว่าแต่นายมาทำอะไรแถวนี้เหรอ?”
“ผมแค่มานั่งอ่านหนังสือเงียบๆนะ แล้วคุณล่ะครับ?”
“อ่า ค…คือฉัน…”
จะบอกได้ยังไงว่าแอบมาขโมยแอปเปิ้ลนะ!
“ฉันแค่มาตามหาของที่ฉันทำตกไว้แถวนี้นะ ใช่ แค่มาตามหาของที่ทำตกไว้!”
“ให้ตามหาช่วยไหมครับ?”
“ม…ไม่เป็นไร ฉันตามหาเจอแล้ว!”
“อย่างงงี้นี่เอง”
กริ๊ง กริ๊ง
หมดเวลาพักแล้วเหรอเนี่ย?
ฉันพูดในใจก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ปัดฝุ่นที่ติดอยู่ตามเสื้อและกระโปร่งเสร็จก็ไม่ลืมที่จะยื่นมือออกไปหาคนที่ยังคงนั่งแหมะอยู่ตรงหน้า
“ให้ฉันช่วยนะ” เด็กชายมีท่าทีลังเลเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยื่นมือออกไปจับฝ่ามือเล็กนั้น
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ทั้งเรื่องนี้แล้วก็เรื่องที่เข้ามาช่วยเด็กผู้ชายอ่อนแอแบบผม” น้ำเสียงแฝงไปด้วยคำตำหนิและดูถูกตัวเองในขณะที่ลำตัวก็เอาแต่ก้มลงขอบคุณฉัน ถึงแม้ไม่รู้ว่าตอนที่เขาพูดประโยคเหล่านั้นออกมาเขาจะแสดงสีหน้าออกมาแบบไหนแต่มันทำให้ฉันอดจะตอบโต้กลับไปไม่ได้จริงๆ
“การที่เราต่อสู้ไม่เป็นไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องอ่อนแอสักหน่อย”
“…”
“แค่นายใช้นี้แล้วก็นี้” ฉันยื่นนิ้วออกจิ้มที่หน้าอกข้างซ้ายของเขาแล้วเลื่อนมาหน้าผากของเขา ก่อนจะผละออกก็ไม่ลืมที่จะดีดหน้าผากมนนั้นเบาๆ
“ทุกๆอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตนายก็จะผ่านมันไปได้แน่นอน”
“…”
“หวังว่านายจะเข้าใจสิ่งที่ฉันจะสื่อนะ แหะๆ”
“พูดคุยด้วยกันตั้งนาน ฉันยังไม่รู้ชื่อนายเลย”
“อ่ะ ฉันชื่อ-”
“ยูมิ! เธออยู่ไหนนะ!? ถึงเวลาเข้าห้องเรียนแล้วนะ!”
“เอ๊ะ!? ลืมซะสนิทเลย! ฉันต้องรีบไปแล้วล่ะ เอาไว้เจอกันคราวหน้านะ บายๆ”
“อ…อืม”
เด็กสาวผมสีดำรีบวิ่งกลับไปทางเดิมที่เธอเดินมาเมื่อเพิ่งตระหนักได้ว่าตัวเองเข้าเรียนสายแล้วปล่อยให้เด็กชายที่เธอได้ช่วยเหลือเอาไว้มองตามหลังของเธอจนลับสายตา
“ยูมิงั้นเหรอ?”
.
.
.
.
.
Talk with ไรท์:
สวัสดีนักอ่านทุกท่านค่ะ หายหน้าหายตาไปนานหวังว่าจะไม่ลืมกันไปแล้วนะคะ แหะๆ
ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเขียนถูกใจหรือเปล่า เพราะเราลบๆแก้ๆไปเยอะพอสมควร โดยเฉพาะฉากต่อสู้มีใครพอจะคิดภาพออกไหม เราไม่ค่อยเชี่ยวชาญด้านนี้เท่าไหร่ก็เลยบรรยายไม่ถูกหวังว่าทุกคนจะเข้าใจT-T
ไรท์หย่อนตัวละครใหม่ออกมาอีกแล้ว มีใครพอจะเดาถูกหรือมีไว้ในใจแล้วหรือเปล่า?
เท่าที่รูปลักษณะที่ไรท์ได้บรรยายออกไป จากการสำรวจและคิดวิเคราะห์มาเนิ่นนานทำให้ไรท์สรุปข้อสงสัยนี้มาได้ เป็นคนที่พวกคุณคาดไม่ถึงแน่นอน ตอนนี้ทุกคนก็คงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าตัวละครลับคนนั้นแม่นใผ-อะแฮ่มๆ หมายถึงตัวละครลับคนนั้นคือใคร วันนี้ไรท์ก็จะมาบอกทุกคนให้ได้รู้กันค่ะว่าชื่อของเขาก็คือ!
คือ!
คือ!
คือ!
ชื่อของเขาก็คือยอดนักสืบจิ๋วโคนัน!-แค่กๆ (ใช่เหรอ?)
คือใครไม่รู้ต้องให้ทุกคนไปเดากันเอาเอง(เพราะไรท์เชื่อว่าทุกคนก็คงจะเดาถูกกันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ส่วนที่เขาจะมีบทบาทมากน้อยในบทต่อๆไปสักแค่ไหนต้องให้ไปลุ้นกันเอาเอง วะฮ่าๆๆ)
ยูมิ: บ่นมานานแล้ว พอเถอะ
ไรท์: อ้อ โอเค
สุดท้ายนี้ก็อย่าลืมคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ แล้วเจอกันตอนใหม่ค่ะ บายๆ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและกดเข้าชั้นเรื่องของไรท์กันนะคะ!
เจอกันตอนต่อไป~
ความคิดเห็น