ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Tokyo Revengers] เมื่อฉันได้ทะลุมิติเข้ามาเป็นน้องสาวของบาจิซัง!

    ลำดับตอนที่ #1 : บาจิ ยูมิ เดส!

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 64


    ผัวะ

    ผัวะ

    ตุบ

    “แฮ่กๆ” 

    เสียงหอบหายใจดังขึ้นเมื่อเจ้าของร่างใช้กำลังมาเป็นเวลานานอย่างไม่หยุดพัก เม็ดเหงื่อน้อยใหญ่ไหลมาตามกรอบหน้าตามแรงโน้มถ่วง หัวคิ้วขมวดเข้าหากันพร้อมกับพยายามปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ก่อนที่ในวินาทีตรงหน้าจะมีหน้าเช็ดหน้าสีขาวผืนเล็กปรากฏสู่สายตา 

    “ไม่เห็นจะต้องฝืนตัวเองขนาดนั้นก็ได้ ยูมิ” เสียงทุ้มต่ำเรียกเจ้าของดวงตาสีดำขลับเหมือนกับผู้มาใหม่ให้เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่เจ้าของชื่อ'ยูมิ'จะทำการยื่นมือออกไปรับผ้าผืนน้อยตรงหน้า

    “แฮ่กๆ ขอบคุณค่ะ”

    “เฮ้อ ทั้งๆที่เธอก็สามารถออกไปเล่นเหมือนกับเด็กผู้หญิงคนอื่นได้แท้ๆ ทำไมจะต้องมาหมกหมุ่นกับฉันอยู่ที่นี่ด้วย”

    “หนูก็บอกเหตุผลไปแล้วนิค่ะ แฮ่ก ว่าหนูอยากจะอยากจะแข็งแกร่งขึ้น”

    “เธอไม่จำเป็นจะต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ ในเมื่อฉันก็สามารถปกป้องเธอได้ ขอเเค่เธอเอ่ยปากบอกว่าใครรังแกเธอ ฉันก็พร้อมจะไปต่อยหน้าไอ้บ้านั่น”

    “ฮ่าๆๆๆ”

    “ขำอะไรของเธอหนักหนา ยูมิ คนเขาอุตส่าห์จริงจังนะ!”

    “ก็หนูไม่อยากโดนปกป้องอยู่ฝ่ายเดียวนิค่ะ หนูก็อยากจะปกป้องพี่ชายของหนูบ้าง”

    “ฮึ้ย ยัยบ๊องเอ้ย!”

    “โอ๊ย อย่ายี้หัวหนูสิค่ะ พี่เคย์สึเกะ!” เด็กสาวโวยวายเมื่อจู่ๆพี่ชายของเธอก็ยื่นมือขึ้นมายี้หัวของเธออย่างแรง กว่าจะหวีผมกว่าถักเปียได้ต้องใช้เวลานานมากแค่ไหน รู้ไหม!?

    “พอได้แล้วพี่เคย์สึเกะ ผมหนูยุ่งหมดแล้ว!”

    “ฮ่าๆๆๆ”

    “ยังจะมาหัวเราะอีก”

    “แค่ทำผมเอง ฉันทำให้ใหม่ก็ได้น่า”

    “คนที่ไม่เคยทำผมด้วยตัวเองอย่างพี่ ไม่มีทางเข้าใจหรอกค่ะ ฮึ้ย”

    “อะไรกันสองพี่น้องนี่ ทะเลาะกันทุกวันไม่เบื่อบ้างเหรอ?” 

    ในขณะที่เด็กชายหญิงสองคนกำลังถกเถียงกันถึงเรื่องการทำทรงผม เสียงพูดของบุกคนที่สามก็เรียกความสนใจให้ทั้งสองคนหันกลับไปมอง

    “ไมค์กี้คุง!/ไมค์กี้!”

    “ไง~ ทะเลาะเรื่องอะไรกันเหรอ? ฉันขอแจมด้วยสิ” เด็กชายเรือนผมสีทองสว่างเจ้าของนาม'ไมค์กี้'โบกมือทักทายพลางเผยยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี

    “ไมค์กี้คุง ดูสิค่ะ พี่เคย์สึเกะยี้หัวหนูจนยุ่งไปหมดเลย ไม่สำนึกไม่พอแถมยังกล้าเถียงหนูอีกด้วย” เมื่อเธอเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายเธอจึงคว้าโอกาสนี้โยนความผิดทั้งหมดไปให้พี่ชายที่ซื่อบื้อของเธอ ก่อนจะวิ่งไปหลบข้างหลังเด็กชายนามไมค์กี้โดยไม่ลืมที่จะแลบลิ้นปลิ้นตาใส่

    “เคย์สึเกะอย่าแกล้งยูมิสิ”

    “นี่แกเข้าข้างยัยนั่นมากกว่าฉันเหรอ!?”

    “แบร่~”

    “ออกมาให้ฉันดีดกะโหลกเดี๋ยวนี้นะ ยัยตัวแสบ!”

    “กรี๊ดดดดด”

    เด็กสาวออกวิ่งเพื่อหนีให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของคนที่ได้ชื่อว่าพี่ชาย ภายในห้องเต็มไปด้วยเสียงร้องประกอบกับเสียงวิ่งดังไปทั่วบริเวณจนคนข้างนอกชินชาที่ได้ยินสองพี่น้องตระกูลบาจิวิ่งไล่เถียงกันเป็นประจำทุกวัน แถมเด็กชายตระกูลซาโนะลูกหลานเจ้าของโรงฝึกซ้อมต่อสู้แห่งนี้ แทนที่จะห้ามปรามกลับเข้าร่วมด้วยซะงั้น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทุกๆวันผู้คนที่มาฝึกซ้อมต่อสู้ที่นี่มักจะได้ยินเสียงหัวเราะโวยวายหรือไม่ก็เสียงวิ่งไล่จับกันจนผู้คนที่รู้จักก็เริ่มคร้านจะใส่ใจซะแล้ว

    แต่ก็ยกเว้นพี่ใหญ่ตระกูลซาโนะไว้คนหนึ่งแล้วกัน

    ก็เพราะคำพูดแค่ไม่กี่ประโยคของเขานะ ก็สามารถทำให้เด็กๆพวกนั้นยอมสยบได้แต่โดยดี

    “เฮ้ๆ พวกเธอสามคนเล่นอะไรกันนะ เสียงดังออกไปข้างนอกเชียว”

    พี่ชินอิจิโร่ ช่วยยูมิด้วยค่ะ!” 

    “ยัยตัวแสบมานี่เลยนะ!”

    “ชินจังกลับมาแล้ว~”

    ป๊อก

    “โอ๊ย”

    “บอกให้เรียกพี่ไง ไมค์กี้”

    “ชินจังนั่นแหละ ถูกแล้ว” ชินอิจิโร่หรือเจ้าของซื่อชินจังที่มักจะโดนน้องชายแท้ๆเอ่ยเรียกมาตั้งแต่จำความได้ แม้จะขัดใจที่มักจะโดนเรียกแบบนี้บ่อยๆจนเพื่อนๆเอ่ยแซวบ่อยๆ แต่ก็เหนื่อยใจเกินไปที่จะต้องบอกเตือนหลายครั้ง

    ถือซะว่าเป็นการกระชับมิตรระหว่างพี่น้องก็แล้วกัน

    “เฮ้อ แล้วนี่ทะเลาะอะไรกันอีกล่ะ เสียงดังออกไปข้างนอกเชียว” 

    “พี่เคย์สึเกะเขา-”

    “เธอนั่นแหละที่เป็นคนเริ่มก่อน”

    “พี่นั่นแหละที่ยี้หัวหนูก่อน”

    “เธอ-”

    “เอาล่ะๆ หยุดเถียงกันก่อนดีกว่าเนาะ เพิ่งจะซ้อมเสร็จกันมาเหนื่อยๆไปพักกินขนมกันก่อนดีกว่า”

    “ขนม!” เด็กทั้งสามคนพูดออกมาพร้อมกันเหมือนกับเรื่องเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้น 

    “เน่ๆ ชินจัง มีโดรายากิหรือเปล่า?” เด็กชายเรือนผมสีทองสว่างพูดพร้อมกับดึงชายเสื้อพี่ชายของตนเพื่อเรียกร้องความสนใจ ซึ่งคำตอบรับก็ทำให้เด็กชายยิ้มกว้างออกมา จนพี่ชายที่ยืนอยู่ข้างๆอดจะยื่นออกไปลูบหัวอย่างเอ็นดูไม่ได้

    “มีสิ โดรายากิสอดไส้ถั่วแดงของโปรดนาย ฉันไม่ลืมหรอก”

    “เยส เคย์สึเกะมาแข่งกันดีกว่า ใครถึงก่อนชนะ”

    “ได้เลย ไมค์กี้!”

    เมื่อเหลือกันเพียงแค่สองคนหญิงสาวตัวเล็กก็ทำการอ้อนพี่ใหญ่ของบ้านเหมือนที่ทำเป็นประจำ

    “พี่ชินอิจิโร่ อุ้มๆ” 

    “ฮ่าๆๆ มาอุ้มก็อุ้ม ฮึบ ยังตัวเบาเหมือนเดิมเลยนะ”

    “คิๆ”

    “เป็นยังไงวันนี้ฝึกซ้อมเหนื่อยไหม?”

    “เหนื่อยมากเลยค่ะ ปวดแขนปวดตัวไปหมดเลย”

    “ถ้าเหนื่อยก็อย่าฝืนนะ พักผ่อนบ้าง ยิ่งเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆอยู่”

    “ถ้าแลกกับการทำให้หนูแข็งแกร่งขึ้นหนูก็พร้อมสู้ค่ะ” เด็กหญิงทำท่าชูมือขึ้นมาแล้วกำมือเข้าหากันเบาๆ

    “รู้ไหม? ยิ่งเธอทำตัวน่ารักก็ยิ่งทำให้ฉันอยากมีน้องสาวเป็นของตัวเองขึ้นมา” ชายหนุ่มพูดความในใจของตัวเองออกมา ยื่นมือออกไปบีบแก้มนิ่มที่มักจะส่งเสียงเจื้อยแจ้วตลอดเวลานั่นอย่างหมั่นเขี้ยว

    “งื้อ~ เดี๋ยวก็มีแล้วค่ะ”

    “หืม?”

    “อ่ะ น…หนูหมายถึงหนูนี่ไงค่ะ น้องสาวของพี่ชินอิจิโร่ ไม่ใช่เหรอคะ?”

    “อืม มันก็ใช่ แต่ฉันหมายถึงน้องสาวที่เป็นสายเลือดเดียวกันกับฉันนะ”

    “อ้อ แหะๆ”

    เกือบไปแล้ว! เกือบโป๊ะแตกแล้ว!

    สวัสดีทุกคนนะคะ ฉันซื่อข้าวต้ม แต่ถ้าเป็นซื่อที่ใช้เรียกฉันในโลกนี้ซื่อของฉันก็คือ'บาจิ ยูมิ'ซึ่งเป็นน้องสาวของ'บาจิ เคย์สึเกะ' ทุกคนคงสงสัยกันสินะคะว่าทำไมฉันถึงใช้คำว่าโลกนี้และทำไมพี่ชายของฉันถึงชื่อเหมือนบาจิ เคย์สึเกะที่เป็นหนึ่งในตัวละครในอนิเมะเรื่อง Tokyo revengers ที่กำลังเป็นกระแสดังในตอนนี้ คุณเดาถูกแล้วค่ะ นั่นก็เพราะว่าพวกเขาสองคนเป็นคนเดียวกันยังไงล่ะค่ะ และก็ใช่ค่ะเพราะฉันทะลุมิติเข้ามาในอนิเมะที่กำลังเป็นกระแสดังในตอนนี้นี่แหละค่ะ! 

    ถ้าจะให้เล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ฉันมาอยู่ในนี้ ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยค่ะว่าฉัน-ไม่-รู้! ไม่กี่วันก่อนฉันจำได้ว่าเพิ่งจะเข้านอนหลังจากอ่านหนังสือเตรียมสอบเสร็จไปเอง แต่ตอนตื่นขึ้นมานี้สิตื่นตกใจแทบแย่ที่จู่ๆตัวเองก็มาอยู่ร่างเด็กที่ไหนไม่รู้ แถมจู่ๆก็ปรากฏตัวละครที่สมควรตายไปแล้วในร่างเล็กอย่างบาจิซัง และตัวละครหลักที่มีผลต่อชีวิตของพระเอกของเรื่องในร่างเด็กอย่างไมค์กี้ผู้ไร้เทียมทาน ยังไม่พอที่พีคกว่านั่นคือชินอิจิโร่ที่เป็นพี่ชายแท้ๆของไมค์กี้ที่ตายไปแล้วและเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ไมค์กี้เสียศูนย์หรือก็คือเข้าด้านมืดนั่นกลับยังมีชีวิตอยู่ แถมเขากำลังอุ้มฉันในร่างเด็กอยู่ตอนนี้ด้วย!

    ไม่รู้ว่าพระเจ้าต้องการอะไรทำไมถึงส่งให้ฉันทะลุมิติมาใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ด้วย แต่ถ้านั่นคือความต้องการของพระเจ้า ฉันก็ขอใช้โอกาสนี้ทำตามใจตัวเองแล้วกัน! พี่เคย์สึเกะไม่จะต้องไม่เป็นอะไรตราบใดที่มีน้องสาวสุดที่รักคนนี้อยู่เคียงข้างทุกวัน ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟหนูก็พร้อมสู้เพื่อพี่ค่ะ! เมื่อถึงตอนนั้นถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี พี่จิฟุยุก็จะได้ไม่ต้องร้องไห้ไม่ต้องเสียใจกับการจากไปของพี่ พวกเขาก็จะได้อยู่ด้วยกันเปิดร้านเพ็ทช็อปด้วยกันอย่างที่ควรจะเป็น!

    แล้วตำนานแบ่งกันคนละครึ่งก็จะไม่เป็นตำนานอีกต่อไป!

    “ฮึบ!"

    “มีอะไรหรือเปล่ายูมิ”

    โอ๊ะ เผลอส่งเสียงในใจดังเกินไปหน่อย

    “เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร แหะๆ”

    “ถึงที่หมายแล้วล่ะ เจ้าหญิงน้อย”

    “โอ๊ะ ขอบคุณค่ะ พี่ชินอิจิโร่”

    “อืม งั้นฉันไปก่อนนะ”

    “อ่ะ ไม่มากินขนมด้วยกันเหรอคะ?”

    “ไม่ล่ะ เดี๋ยวกลัวพวกเธอไม่อิ่ม”

    “พวกเราไม่ได้กินจุขนาดนั้นซะหน่อย ฮึ่ม!”

    “ล้อเล่น ฉันแค่มีธุระที่ต้องไปทำนะ เพื่อนของฉันรออยู่ ฝากดูแลไมค์กี้แทนฉันด้วยล่ะ”

    “รับทราบค่ะ!”

    “ฮ่าๆๆ ไปก่อนนะ บายๆ” พี่ชินอิจิโร่ยกมือขึ้นมาขยี้หัวฉันอย่างที่เขาชอบทำเป็นประจำเมื่อเขารู้สึกเอ็นดูฉัน ก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินจากไป

    “บายค่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ!”

    “อื้ม”

    “เขาเป็นพี่ชายที่ดีจริงๆแฮะ ไม่แปลกใจเลยที่ไมค์กี้จะรักเขาและคิดถึงเขาตลอดเวลามากขนาดนี้”

    “ดีล่ะ เพื่อไม่ให้ไมค์กี้เข้าด้านมืดและห้ามไม่ให้พี่เคย์สึเกะต้องตาย ฉันจะต้องช่วยพี่ชินอิจิโร่ให้ได้!”

    “รอก่อนนะคะทุกคน!”

     


     

    ฮู่ว ตอนที่หนึ่งผ่านไปได้ด้วยดี เขียนไว้เท่านี้ก่อนนะคะเดี๋ยวตอนหน้าคิดไม่ออก555

    อย่าลืมเป็นกำลังใจให้น้องยูมิของเรานะคะ น้องจะสามาถรเปลี่ยนแปลงโชคชะตาที่กำลังจะเกิดขึ้นได้หรือไม่? ต้องติดตาม!

    ถ้าชอบก็อย่าลืมเข้าชั้นหนังสือและคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ

    เจอกันตอนหน้า สวัสดีค่ะ!

    แถม:

    คนอื่น: อยากเป็นเจ้าหญิงของพี่วากะ!

    ยูมิ/ไรท์: อยากเป็นเจ้าหญิงของพี่ชินอิจิโร่!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×