คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : อาคาร2
เย็นวันนั้นพวกพี่ยังจำได้ดี มันเป็นวันที่พวกพี่ต้องจัดบอร์ดเพื่อจะส่งงานในวันรุ่งขึ้น จึงต้องอยู่ทำรายงานกันถึง6โมงเย็น ซึ่งมันเป็นวันที่พวกพี่ไม่มีวันลืม
/"เฮ้ย อ้อม ขอสกอตเทปหน่อย"/ พี่ตาลซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีในการอยู่ทำรายงานที่โรงเรียนวันนี้(เป็นคนที่เล่าเรื่องให้ฟัง)เรียกเพื่อนสาวที่อยู่ข้างตัวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความหงุดหงิดเพราะคนข้างตัวเอาแต่เงียบและนั่งขาสั่นพับๆเกาะแขนเธอแน่น
/"เฮ้ย!ย้ายอ้อมเรียกไม่ได้ยินไงวะนั่งสั่นยังกะเจ้าเข้า ถ้ากลัวนักแกจะอยู่ทำป๋อยอะไรวะ"/ เสียงตะคอกของพี่ตาลทำให้คนข้างตัวสะดุ้งโหยงราวกลับหลุดออกจากภวังค์ แล้วหันกลับมาสนทนากับเพื่อนสาวที่ตนนั่งเกาะแขนอยู่นาน
/"อยู่ใกล้กันแค่นี้ทำไมต้องตะโกนด้วยวะ...เออแล้วเมื่อกี้แกว่าไรนะ"/
/"นี่แกไม่ได้ฟังที่พูดเมื่อกี้เลยใช่ไม๊เนี่ย ถ้าแกกลัวนักก็กลับบ้านไปเลยไป๊อยู่ก็เกะกะเปล่าๆไม่ได้ช่วยอะไรเลย"/
พี่ตาลพูดด้วยความรำคาญอย่างเห็นได้ชัด
/"ใครจะไม่กลัวบ้างวะ แกก็รู้ประวัติโรงเรียนเราเนี่ย ~บรื๋อ~ ไม่อยากพูดคุกเก่าเชียวนะแก แกเห็นกำแพงหลังอาคารคหกรรมป่ะนั่นแหละกำแพงคุก เค้าว่ากันว่าตอนสร้างโรงเรียนใหม่ๆ พยายามจะถ้าสีกัน ก้อแกดูสภาพกำแพงดิโค-ตรน่ากลัวเลย แต่ทว่ากลับเกิดปัญหาขึ้น ก้อกำ--"/ เรื่องเล่าของพี่อ้อมต้องหยุดลงเพราะผู้ที่นั่งฟังอยู่นานพูดแทรกขึ้นมาว่า
/ "ให้ทายป่ะกำแพงทั้งแถบทาสีไม่ได้เพราะอะไรรู้ไม๊....."/ เมื่อเห็นสีหน้าคนที่เล่าเรื่องสยองอยู่นานเริ่มซีดลงเรื่อยๆก็เลยได้ใจจึงพูดต่อว่า /"ก็เพราะว่า....ไม่มีช่างทาสีนะสิ~ แบร้~"/
/"ว้าย! เล่นไรของแกวะตกใจหมดคนยิ่งกลัวๆอยู่ เล่นอะไรไม่ดูสถานที่บ้างเลยเดี๋ยวก็เจอดีหรอก"/ เด็กสาวบ่นกับเพื่อนรักด้วยความกังวล พร้อมกับยกมือขึ้นพนมไปมา
/"บ้าน้า...งมงายจริงเลยนะแก ผีเผอมีจริงที่ไหน ถ้ามีจริงๆวิทยาศาสตร์ก็ต้องพิสูจน์ได้สิ เราทำโครงงานวิทย์กันอยู่นะไม่อยากเชื่อเลยว่าแกจะเชื่อเรื่องพวกนี้ไรสาระสิ้นดี"/ พี่ตาลพูดพร้อมกับทำสายตาดูถูกไปยังผู้ที่อยู่ร่วมห้อง
/"ถ้าแกไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ไม่งั้นจะเจอดีขอเตือนไว้ก่อน"/ คนขี้กลัวเตือนเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง
/"ไม่ต้องมาขู่เลยแกถ้าผีสางมีจริงก็มาให้เห็นเลยสิชั้นไม่กลัวหรอก เชอะ"/ พี่ตาลพูดท้าทายสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้พร้อมกับเชิดใส่เพื่อนสาวของตนด้วยความดูถูก
เวลาเริ่มล่วงเลยไปเกือบช่วงหัวค่ำ(ถ้าขอใบอนุญาติจากอาจารย์ที่ปรึกษาก็จะสามารถอยู่ที่โรงเรียนได้) บรรยากาศของโรงเรียนเงียบสงัดราวกัลับป่าช้าต้นไม้ขึ้นเขียวครึ้ม แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปทั่วอาณาบริเวณยิ่งทำให้โรงเรียนแห่งนี้ยิ่งดูลึกลับและน่าขนลุกยิ่งกว่าเดิม
ทางด้านสองสาว ณ อาคาร2
/"ใกล้เสร็จรึยังตาลนี่มันจะทุ่มแล้วนะ เออ...น่าแปลกเนาะว่าทำไมวันนี้มืดเร็วมากๆยังกะสองทุ่มเนะว่าไม๊ตาล"/ เด็กสาวพูดเสร็จพร้อมกับหันไปหาเพื่อนสาวที่เคยอยู่ข้างตัว
/" อ้าวหายไปไหนแล้วอ้ะ"/ เด็กสาวเอ่ยอย่างสงสัยและค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นที่ทำการปักหลักปักฐานมาเป็นเวลานาน พร้อมกับบิดตัวไปมาเพื่อคลายความเมื่อยล้าและก้าวออกจากประตูห้องเพื่อไปหาเพื่อนสาวที่หายไป
ในขณะนั้นเองเด็กสาวก็ต้องตกใจสุดขีดกับภาพที่เธอเห็นตรงหน้า เธอหน้าซีดเผือดพร้อมกับร่างบางที่ค่อยๆถอยกรูครูดติดกับผนัง ภาพที่เธอเห็นนั้นเป็นด้านหลังของหญิงสาวที่อยู่ในชุดเครื่องแบบนักเรียนของที่นี่ ร่างของเธอผู้นั้นหลบอยู่ในเงามืดของตัวหลังคาที่ยื่นออกและแล้วก้อนเมฆที่บดบังแสงจันทรายามราตรีก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกอย่างช้าๆ จึงเผยให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวผู้นี้อย่างชัดเจน
/"ยายตาล! แกเล่นอะไรของแกนะตกใจหมดเลย แกก็รู้นี่หว่าว่าชั้นกลัว"/
/"ฮ่า ฮ่า เอิกๆ เอิก ก็รู้ว่าแกกลัวไงก็เลยต้องแกล้งมันส์ไม๊ล่ะ แกน่าจะได้เห็นหน้าตังเองนะซีดยังกะไก่ต้มโค-ตรขำเลยวะ"/ คนที่แกล้งทำเป็นผีหัวเราะด้วยความชอบใจในการกระทำของตนแต่พอเห็นสีหน้าคนถูกแกล้งก็รู้สึกสำนึกผิดเลยเดินเข้าไปกอดและพูดว่า
/"อ่า...ขอโทษนะไม่แกล้งแล้วก็ได้ไปเก็บของกันเถอะอยากรีบกลับไม่ใช่หรอ"/ เธอเข้าไปโอ๋เพื่อนสาวของตนด้วยความสำนึกผิด
/"จริงๆนะ"/
/"อืม"/
/"งั้นไปกันเฮอะ หิวข้าวจะแย่แล้ววันนี้ไปนอนบ้านชั้นนะ"/ เมื่อเห็นคนข้างตัวสีหน้าดีขึ้นแล้ว ก็เลยเดินตามคำชวนแล้วกลับเข้าไปในห้อง
หลังจากนั้นทั้งสองก็ใช้เวลาเก็บของอยู่สักพักแล้วก็ต้อวหยุดชะงักลงด้วยเสียงปริศนา
/"~ครืด~"/
/"ตาลแกได้ยินเสียงอะไรป่ะ"/
/"เสียงไรอ้ะไม่เห็นได้ยินเลย แกอย่าปอดแหกไปหน่อยเลยอยากกลับบ้านไม่ใช่หรอช่วยกันเก็บของดิ"/ ตาลหันไปว่าเพื่อนสาวด้วยความลำคาญ
/"~ครืด~"/
/"เฮ้ย! เสียงนั่นไงแกไม่ได้ยินหรอ ชั้นว่าชั้นไม่ได้หูฝาดนะเสียงนั่นอิกแล้วอ่ะ"/ หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับค่อยๆกระเทิบตัวไปหาเพื่อนสาวที่อยู่อิกมุมหนึ่งของห้อง ที่ตอนนี้สีหน้าของเธอเริ่มไม่ค่อยหลงเหลือความมั่นใจอยู่เช่นกัน
/"บ้าน่าปอดแหกไปได้แกก็อาจจะเป็นเสียงหนูเสียงแมวแถวนี้ก็ได้ หรือไม่ก็เสียงลมกระแทกโดนประตุก็ได้ คิดมากนะ"/ แต่ก็ด้วยความที่บอกว่าไม่กลัวพี่จึงทำให้พี่น้ำตาลต้องพูดเพื่อเสริมความมั่นใจให้ตังเองและผู้ที่อยู่ร่วมห้องอิกหนึ่งชีวิต
/"~ครืด~~ครืด~~ครืด~"/
แต่ดูท่าการพูดเพื่อเสริมความมั่นใจของพี่น้ำตาลนั้นดูจะไม่เป็นผลซะเท่าไหร่เพราะเสียงปริศนาที่ว่านี้ยังคงดังต่อไปเรื่อยๆแถมยังใกล้และถี่ขึ้นอิกต่างห่างเหมือนกลับว่าจะแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่พี่น้ำตาลพูดนั้นไม่เป็นจริงแล้วก็ทำให้คนข้างตัวของเธอยิ่งกอดแขนเธอแน่นเข้าไปอิกแล้วก็เริ่มสั่นเป็นเจ้าเข้า จนเจ้าของแขนที่ให้ยืมกอดนั้นยังรับรู้ถึงแรกสั่นสะเทือนนี้ได้เลย
/"นี่อ้อมเลิกสั่นสักทีได้ไม๊ แล้วก็จะขอบคุณมากเลยถ้าแกจะปล่อยแขนชั้นได้สักที!"/ คำพูดของพี่น้ำตาลราวกลับเป็นปลั๊กไฟเพราะเสียบปุ๊ปก็ติดปัปเหมือนกับสติที่ขาดไปของพี่อ้อมเมื่อครู่ที่ตอนนี้กลับมาเรียบร้อยแล้ว
/"เออ...ขอโทษทีพอดีชั้นลืมตัวไปนะพอดีมันตกใจอ่ะ ขอโทษนะ"/ พี่อ้อมรีบปล่อยแขนเพื่อนสาวของเธอทันทีพร้อมกับหน้าขาวนวลขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความอาย พี่ตาลก็อดขำไปกับท่าทางแบบนี้ของเพื่อนสาวของเธอไม่ได้ เหมือนคำกล่าวที่ว่าแม้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเพียงใดก้อมักจะมีความสุขซ้อนอยู่เช่นกัน แต่ความสุขในครั้งนั้ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะว่าเสียงลึกลับนั้นก็กลับมาดังขึ้นอิกครั้ง
"~ครืด~~ครืด~~ครืด~"/
ความคิดเห็น