ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER8 :สองอาทิตย์
        “เอาล่ะในเมื่อมากันครบแล้วฉันจะเริ่มประชุมล่ะ”อีเกิ้ลนั่งไคว่ห้างสบายๆอยู่บนโซฟาตัวโปรด แต่บางอย่างที่ดูสะดุดตาทำให้ผู้ฟังมาใหม่ทั้งสองที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรต้องทึ่ง คือ แทนที่จะมีกาแฟดำอยู่ในมืออีเกิ้ลเหมือนเช่นเคยกับเป็นเด็กทารกที่ชื่อนาธาน
        “ก็อย่างที่พวกเธอรู้มาว่า เราจะต้องเลี้ยงดูเด็กคนนี้ตลอดสองอาทิตย์”
        “แล้วใครจะเป็นคนเลี้ยงล่ะคะ”วาคิวลี่เอ่ยปากถามมาคนแรกและก็เป็นคำถามเดียวกับที่ทุกคนกำลังคิด
        “นั่นแหละเหตุผลที่ฉันจัดประชุมครั้งนี้ขึ้น สองอาทิตย์นี้ฉันจะต้องไปเป็นตัวแทนถ่ายโฆษณาจากบริษัทเครื่องสำอางที่ผู้บริหารปฎิเสธไม่ยอมไป”อีเกิ้ลชำเลืองตามองวีนัสเล็กน้อยอย่างคาดโทษ “ซึ่งก็หมายความว่าพวกคุณสามคนจะต้องอยู่ดูแลเด็กคนนี้เอง โดยไม่มีฉัน”อีเกิ้ลมองสีหน้าสุดช๊อกของเหล่าลูกศิษย์
        “แต่พวกเราดูแลเด็กไม่เป็น”โคโพล่งออกมาเสียงดัง
        “ฉันรู้ว่าพวกนายต้องทำได้”อีเกิ้ลพูดออกมาด้วยรอยยิ้มแต่สายตาของเค้าไม่ยิ้มเหมือนใบหน้าซักนิด
        >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
        “โชคดีนะ”อีเกิ้ลโบกมือเล็กน้อยก่อนที่จะเลื่อนหน้าเข้าไปหอมแก้มวีนัสอย่างเคย
        “นั่นแหละที่ฉันต้องการมากที่สุด”วีนัสพึมพำออกมาเบาๆพร้อมทั้งชำเลืองมองเด็กในอ้อมกอดของวาคิวลี่
        “แย่แล้ว”วาคิวลี่โพล่งออกมาสุดเสียงเมื่ออีเกิ้ลลับสายตาไป “อาจาร์ยลืมบทโฆษณา” วาคิวลี่หยิบกระดาษสีขาวออกมาจากบ้าน “ฉันขับรถไม่เป็นโคช่วยไปส่งให้ทีได้มั้ย”
        “ได้”โคเคลื่อนรถมอเตอร์ไซต์ออกมาจากอู่เมื่อรับบทมาไว้ในมือก็ต้องชะงักหยุด “แต่ฉันไม่รู้ว่าอาจาร์ยไปถ่ายทำที่ไหนนะ”
        “งั้นเดี๋ยวฉันไปด้วย ฉันมีตาทิพย์ คุณวีนัสฝากเด็กหน่อยนะคะ”วาคิวลี่ส่งนาธานให้วีนัส เธอมีท่าทีลังเลเล็กน้อยก่อนจะรับเด็กมาเพราะท่าทางรีบร้อนของวาคิวลี่
        “ด..เดี๋ยว”วีนัสพูดยังไม่ทันจบวาคิวลี่ก็ซ้อนท้ายโค ตรงออกไปก่อน
        “ฉันเลี้ยงเด็กเป็นที่ไหนกันเล่า”วีนัสพึมพำออกมาเบาๆทุกเสียงหายไปหมดเหลือเพียงความเงียบและเสียงแอะๆ ของนาธานในอ้อมกอดวีนัส
        “เอาล่ะเจ้าหนู สองอาทิตย์นี้เราจะต้องอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นสมครวจะมีข้อตกลงเล็กๆน้อยกันก่อน เข้าใจมั้ย”วีนัสพูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม
        “แอะ ๆ ๆ”เด็กน้อยตอบ
        “ฉันจะถือว่านายตกลงนะ” วีนัสถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา “เวลาฉันทำงานอย่ามายุ่ง ห้ามทำข้าวของเลอะเทอะ ห้ามนำความลับภายในบ้านไปบอกคนภายนอก เห็นอะไรก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่อย่าสอดรู้สอดเห็น เข้าใจนะ”
        “แอะ ๆ ๆ”
        “ดี แต่ให้ดีอย่าร้องไห้”วีนัสชำเลืองมองด้วยสายตาอาฆาตรปนขู่หน่อยๆ
        “แง้ ๆ ๆ”
        “ฉันบอกว่าอย่าร้องไงล่ะ”วีนัสโพล่งออกมาสุดเสียง นาธานหยุดร้องซักพักและเริ่มร้องใหม่อีกครั้ง
        “ฉันบอกให้เงียบ หุบปาก”นาธานชะงักหยุดเสียงร้องลง ซึ่งมันทำให้วีนัสพอใจเล็กน้อย
        “แง้ ๆ ๆ”
        “เฮ้ย ฉันต้องการให้เธอหยุดร้องแบบถาวร”แต่ดูเหมือนเสียงตะคอกของวีนัสจะเบาๆบางมากเมื่อเทียบกับเสียงร้องของนาธาน
        “โอเค ๆ ฉันยอมแพ้ หยุดร้องได้แล้ว”วีนัสยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างถอดใจ
        “แง้ ๆ ๆ”
        “เฮ้ย หยุดซะทีสิ ฉันยอมแพ้แล้ว”
        “แง้ ๆ ๆ” วีนัสรีบตาลีตาเหลือกไปหยิบหนังสือเล่นหนาที่เขียนว่าแม่และลูกขึ้นมาอ่านเผื่อจะได้รู้ถึงสาเหตุที่นาธานร้องไม่หยุด
        “อืม..รอเดี๋ยวนาธาน ถ้าเด็กร้อง เพราะ หิวนม”วีนัสรีบวิ่งตรงคว้าขวดนมที่วางอยู่ในครัวอย่างรีบร้อน
        “อ่ะ”วีนัสจ่อขวดนมที่ปากของนาธาน ชั่วขณะนึงเธอเห็นคิ้วของนาธานชนกันและปากเบออก นาธานยกมือเล็กๆปัดไปที่ขวดนมจนมันหกกระจายไปทั่วทั้งห้องพร้อมทั้งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมา
        “ได้เด็กผี”วีนัสครางออกมาเบาๆพร้อมทั้งเพ่งมองใบหน้าอมสุขของนาธาน
        “แง้ ๆ ๆ”หัวเราะได้เล็กน้อยนาธานก็ร้องไห้อีก
        “อะไรอีกวะเนี่ย”วีนัสค่อยๆประคองนาธานขึ้นแต่เมื่อสัมผัสไปที่ก้นเธอก็รู้สึกถึงอะไรเปียกๆ “ไอ้เด็กนี่ฉี่เหรอวะเนี่ย” วีนัสทิ้งนาธานกลับลงไปที่เบาะอีกครั้ง
        ทันทีที่นาธานกระทบกับเบาะเค้าก็ร้องออกมาเสียงดังกว่าเดิม จนทำให้วีนัสเกรงว่าเสียงจะดังออกไปจนได้ยินถึงบ้านข้างๆ
        “เอาวะ เป็นไงเป็นกัน”วีนัสค่อยๆเปิดกางผ้าอ้อมออก “อี๋ แหยะ”
        วีนัสกางมันเอาไว้อย่างนั้นและเดินไปหยิบหนังสือเล่มเดิมขึ้นมาอ่าน “เปลี่ยนผ้าอ้อม ต้องเช็ดให้สะอาดก่อน แล้ว ”
        นาธานกลิ้งไปกลิ้งมาบนโซฟาทำให้ฉี่ของเค้าเปรอะไปทั่ว แต่ยังไม่พอ นาธานยังคลานออกไปและฉี่ไปด้วยผ่านออกไปทางด้านในครัว ถ้าไม่ติดที่นาธานยังเป็นเด็กทารกคงต้องคิดว่านาธานแกล้ววีนัสแน่นอน
        “เอาล่ะ”วีนัสวางหนังสือลงพร้อมทั้งหยิบผ้าอ้อมจากตระกล้าสีชมพูที่คุณนายไวโอเลตให้เอาไว้เดินตรงเข้าไปในที่ๆนาธานนอนอยู่ แต่ก็ต้องพบกับรอยฉี่ลากเป็นทางยาว มันคงจะทำให้วีนัสสติแตกไม่เท่าไหร่ถ้านาธานไม่ฉี่ลงบนพรมสุดโปรดของเธอ
        “นาธาน”วีนัสตะคอกออกมาเสียงดังพร้อมๆกับที่เดินไปตามรอยฉี่นั้น และพบเด็กน้อยกำลังเล่นกับเครื่องรายครามอันโปรดของอีเกิ้ล
        “ยอ ๆ ๆ”วีนัสโบกมือไปด้านหน้าเมื่อนาธานทำเหมือนมันจะตกลงสู่พื้น
                    “เอาล่ะไอ้หนู อย่าขยับ อยู่นิ่งๆนะ”วีนัสค่อยๆย่อตัวลงอยู่ในระดับสายตาเดียวกับนาธาน“ค่อยๆ ส่งมาให้ฉัน ช้าๆนะ”น้ำเสียงของเธอดูออดอ้อนมากขึ้น
        แอะ แอะ
        เด็กน้อยยกมืออีกข้างขึ้นลงอย่างถูกอกถูกใจแต่การกระทำนั้นทำให้วีนัสใจหลุดไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะไอ้แจกันลายครามเรือนงามมันขยับไปตามจังหวะของเด็กน้อย พร้อมๆกับใจวีนัสที่พลอยจะหลุดตุ๊บออกมาตามจังหวะของแจกัน
        “อย่าขยับสิจ๊ะ มานี่มะ ส่งมาให้พี่เร็วๆเข้า”วีนัสยื่นมือออกไปด้านหน้าเล็กน้อยพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างเสแสร้ง นาธานเอียงคอมองวีนัสเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองแจกัน พร้อมๆกับที่ปล่อยมันออกจากมือ วีนัสรีบพุ่งตังรับก่อนที่แจกันจะโหม่งโลกแตกเป็นเสี่ยง
        “เฮ้อออ”เสียงถอนหายใจยาวยืดดังออกมาเมื่อเห็นว่าเป้าหมายปลอดภัย
        เพล้ง
        วีนัสหันไปมองตามเสียงก็พบกันแจกันเข้าคู่กันอีกอันตกลงมาแตกกระทบพื้น และมีนาธานตบมือร่าอย่างพอใจอยู่ข้างๆแจกันแตกนั้น
        “ตายล่ะ”วีนัสก้มหน้าเอาหน้าผากกระแทกกับพื้นอย่างหัวเสีย
        “เอาล่ะไอ้ตัวเล็ก มานี่”วีนัสเกี่ยวเสื้อด้านหลังของนาธานด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวเดินเข้าไปห้องนั่งเล่นที่มีสภาพยับเยินเต็มไปด้วยรอยฉี่ เธอยิ้มแหยๆออกมาพร้อมทั้งเดินเข้าไปในครัวหยิบโซ่ล็อกจักรยานออกมาและล็อกขานาธานเอาไว้กับโซฟา
        “ค่อยยังชั่วหน่อย”วีนัสเพ่งมองนาธานที่พยายามจะแกะเหล็กที่ข้อเท้าแต่ดูเหมือนจะทำไม่ได้อย่างพอใจ “เอาล่ะ”เธอพับแขนเสื้อขึ้นและเริ่มจัดการกับของละเลี่ยระราดในห้องนั่งเล่น
        วีนัสใช้เวลาไปถึงหนึ่งชั่วโมงกว่าเธอจะกำจัดรอยฉี่แสนเน่าเหม็นของนาธานที่เธอเรียกว่าฉี่นรกออกจากพรมได้ และเก็บเศษแจกันที่เธอยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงกับมันดี
        “เรียกร้อย ไม่เห็นจะยากซักเท่าไหร่”เรียบร้อยจริงๆถ้าดูผ่านๆ แต่ถ้าท่านสังเกตุดีๆจะเห็นรอยคราบฉี่ที่เช็ดไม่ออก และเศษแก้วเล็กๆที่ถูกยัดอยู่ไต้พรมอย่างลวกๆ ที่สำคัญเศษแจกันที่ถูกแช่อยู่ในตู้เย็น
        RRRRRRRRRRR
        “หือ หรือว่าจะเป็นอีเกิ้ลโทรมา”วีนัสรีบตรงเข้ารับโทรศัพน์แต่ก็ต้องผิดหวังปนดีใจเมื่อพบว่าปรายสายคือบอส
        วีนัสพยักหน้าหงึกๆ กับโทรศัพน์ สายตาเพ่งมองไปที่นาธานอย่างใช้ความคิด เธอพยักหน้าอย่างนั้นอยู่ซักพักก่อนจะพูดว่า “อือ” และวางโทรศัพน์ลง
        “เอาล่ะไอ้หนู”วีนัสนั่งยองๆใกล้ๆกับนาธาน “เรามีปัญหาแล้วล่ะ ฉันมีงาน”วีนัสหลี่ตามองท่าทางไม่สนใจของนาธาน เพราะเค้าพยายามจะแกะโซ่ที่ข้อเท้า “ถึงฉันจะพูดว่ามันเป็นปัญหาของเราสองคน แต่เห็นทีฉันคงต้องแก้คนเดียว”วีนัสถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
        วีนัสเดินตรงเข้าไปในครัวอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมทั้งชงนมประมาณสองสามขวดและนำไปวางไว้ตรงโต๊ะของห้องนั่งเล่น
        “แค่นี้คงพอ”วีนัสปลดโซ่จากข้อเท้าของนาธานเด็กน้อยมีท่าทีพอใจแต่ก็เพียงแปปเดียวนาธานก็ถูกยกมาไว้ในเปลเด็กแบบสะพายไว้ด้านหลัง วีนัสล็อกด้านหน้าให้แน่นเพื่อให้แน่ใจว่านาธานจะไม่ตกลงไป เธอเดินไปหยิบสายกระบอกปืนออกมาและนำขวดนมเสียบแทนปืน ดูเหมือนจะพอดีสามขวด แต่ก็ทำให้วีนัสไม่สามารถเอาปืนประจำตัวออกไปได้ ผ้าอ้อมและทิชชู่ถูกยัดเข้าไปในเสื้อด้านในโค้ดปิดมิดชิด
        “ในเมื่อครั้งนี้มีเด็ก ฉันจะไม่ฆ่าใครก็แล้วกัน”วีนัสบ่นพึมพำกับตัวเองพร้อมทั้งเดินไปหยิบหน้ากากแฟนท่อมสีขาวออกมาจากลิ้นชักในครัวและสอดมันไว้ในเสื้อโค้ด “พร้อมนะไอ้หนู”วีนัสหันไปถามเด็กน้อยผู้ร่วมชะตากรรม
        แอะ แอะ
        “ฉันจะถือว่าพร้อมก็แล้วกัน”ทันทีที่พูดจบวีนัสก็เดินออกจากบ้านทางประตูหลังทันที บ้านของวีนัสจะปิดตัวเองอัตโนมัติทันทีที่ไม่มีคนอยู่บ้านทำให้เธอไม่ต้องมาใส่ใจกับบ้านนัก
        ขณะที่เดินอยู่วีนัสก็ทบทวนคำสั่งไปเรื่อยๆสลับกับเปลี่ยนผ้าอ้อมให้นาธาน “เด็กบ้าเด็กบออะไรกันวะ ฉี่ทุกๆสองชั่วโมง”
        ‘งานที่เธอต้องทำคือ ตามล่าและกำจัดหัวหน้าหน่วยปราบปรามเกรเตอร์ที่คอยควบคุมดูแลการค้ายาเสพย์ติด แต่เบื้องหลังกลับค้าซะเอง’
       
        เกรเตอร์ที่วีนัสจะเจอได้เพียงที่เดียวคือฐานที่มั่นสถานีตำรวจ ที่นั่นมีการป้องกันหนาแน่น ผลัดเวรยามตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง อุปกรณ์ทุกอย่างล้วนเป็นของไฮเทก อย่างที่ว่าไว้ คุกน่ะเข้าง่ายแต่ออกยาก เพราะอุปกรณ์ในนั้นส่วนใหญ่จะป้องกันการหนีซะมากกว่าการบุกลุก
        วีนัสหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและบรรจงปิดเพื่อบดบังการมองเห็นของนาธาน ก่อนจะอุ้มขึ้นสะพายบนหลัง
        การป้องกันหนาแน่น ทุกประตูมีเลเซอร์ป้องกัน หน้าต่างติดกระจบทุกบานทำจากกระจกกันกระสุน กล้องวงจรติดอยู่ทุกจุดของตึก เรียกได้ว่าไม่มีทางเข้าไปได้แน่นอน แต่นั่นไม่ใช่วีนัส
        วีนัสเงยหน้ามองตึกสูงสง่าที่มีรูปร่างเหมือนตึกคล้ายๆเรือบใจ แต่สิ่งที่เธอสนใจกับไม่ใช่รูปร่างของตึกแต่เป็นมุมอับที่คนอย่างตำรวจไม่มีทางคาดถึง
        วีนัสย่อตัวเล็กน้อยก่อนจะดีดตัวพุ่งทะยานตรงดึ่งขึ้นไปเธอได้ยินเสียงแอะ แอะ ชอบใจมาจากนาธาน
        “เอาล่ะ”วันัสยืนอยู่บนลานจอดเฮลิคอปเตอร์ เสียงสายลมพัดหวีดหวิดข้างหูเธอบอกถึงความสูงของตึกนี้ วีนัสควานเข้าไปในเสื้อหยิบหน้ากากขึ้นใส่เธอไม่อย่างเสี่ยงกับการที่มีคนจำหน้าได้เพราะเธอจะต้องฆ่าทิ้ง ถ้าเป็นปกติเธอจะพอใจกับการฆ่ามาก แต่นี่เธอมากับเด็กเล็ก
        “มาดูกันซิว่าไอ้นั่นอยู่ตรงไหนของตึกนี้”วีนัสหยิบแท่นกดปุ่มออกมาทันที่ที่เธอกดลงไปคอมพิวเตอร์โปรงแสงก็ปรากฎออมาวีนัสไม่รอช้าดึงสายสีฟ้าจากโน๊ตบุ๊กเสียบเข้ากับคอมขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับลานจอดเฮลิคอปเตอร์
        วีนัสกดครั้งสองครั้งก็ได้รับแผนผังของตึกนี้มาอย่างง่ายดาย และยังรู้ด้วยว่าจุดไหนที่เหยื่อของเธอซ่อนตัวอยู่ ดูเหมือนบอสจะเคยส่งใครบางคนมาก่อนและพลาด ทำให้เกรเตอร์ระวังตัวอยู่ตลอดเวลาอย่างน้อยก็ไม่ยอมกลับบ้านมาร่วมหนึ่งอาทิตย์แล้ว จะมีที่ไหนปลอดภัยไปกว่าสถานีตำรวจ
        “แกคงอยากตายในหน้าที่สินะ ถึงได้มาฝังตัวอยู่ในสถานี ไม่เป็นไรฉันจะให้นายได้ตายในเครื่องแบบ”วีนัสยิ้มกริ่มอย่างโหดเหี้ยม
        แอ๊ แอ๊
        เสียงของนาธานทำให้วีนัสชะงักกึกและดึงนาธานวางลงเพราะดูเหมือนเด็กน้อยจะฉี่อีกแล้ว
        “รู้ถึงไหนอายถึงนั่น นักฆ่าอย่างวีนัสต้องมาเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กในขณะปฎิบัติหน้าที่ อย่างนี้ต้องเรียกว่าบกพร่องต่อหน้าที่สินะ”ทันทีที่พูดจบวีนัสก็เปลี่ยนผ้าอ้อมเสร็จพอดีเธอโยนผ้าอ้อมลงไปทางระเบียงปล่อยให้ลอยละล่องล่วงตกจากชั้นแปดสิบ คงจะไม่มีใครโชคดีโดนหัวพอดีหรอกนะ
        วีนัสเลาะท่อแอร์อย่างเบื่อหน่าย และค่อยๆคลานลงไปโดยพยายามไม่ให้อีธานเจ็บ
    ............
        “ตรงนี้สินะ”วีนัสเพ่งมองผ่านรูและพบว่ามันตรงกับห้องน้ำหญิงพอดีที่สำคัญภายในห้องก็ว่างเปล่าเหมาะแก่การทิ้งตัวลงไปตั้งหลักเป็นที่สุด
        วีนัสกระโดดลงมา และเปิดกระจกห้องน้ำออก ถายในมีห่อสีน้ำตาลขนาดใหญ่ที่เธอเตรียมเอาไว้ วีนัสสะพายมันและเดินออกจากห้องน้ำ
        กล้องหลายตัวเห็นการเคลื่อนไหวของวีนัสทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งเกรเตอร์เองก็รู้ถึงการมาของวีนัสแต่เค้ากลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย อะไรที่ทำให้เค้ามั่นใจว่าสามารถเผชิญหน้ากับปีศาจอย่างวีนัสได้!!!!
        “ก็อย่างที่พวกเธอรู้มาว่า เราจะต้องเลี้ยงดูเด็กคนนี้ตลอดสองอาทิตย์”
        “แล้วใครจะเป็นคนเลี้ยงล่ะคะ”วาคิวลี่เอ่ยปากถามมาคนแรกและก็เป็นคำถามเดียวกับที่ทุกคนกำลังคิด
        “นั่นแหละเหตุผลที่ฉันจัดประชุมครั้งนี้ขึ้น สองอาทิตย์นี้ฉันจะต้องไปเป็นตัวแทนถ่ายโฆษณาจากบริษัทเครื่องสำอางที่ผู้บริหารปฎิเสธไม่ยอมไป”อีเกิ้ลชำเลืองตามองวีนัสเล็กน้อยอย่างคาดโทษ “ซึ่งก็หมายความว่าพวกคุณสามคนจะต้องอยู่ดูแลเด็กคนนี้เอง โดยไม่มีฉัน”อีเกิ้ลมองสีหน้าสุดช๊อกของเหล่าลูกศิษย์
        “แต่พวกเราดูแลเด็กไม่เป็น”โคโพล่งออกมาเสียงดัง
        “ฉันรู้ว่าพวกนายต้องทำได้”อีเกิ้ลพูดออกมาด้วยรอยยิ้มแต่สายตาของเค้าไม่ยิ้มเหมือนใบหน้าซักนิด
        >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
        “โชคดีนะ”อีเกิ้ลโบกมือเล็กน้อยก่อนที่จะเลื่อนหน้าเข้าไปหอมแก้มวีนัสอย่างเคย
        “นั่นแหละที่ฉันต้องการมากที่สุด”วีนัสพึมพำออกมาเบาๆพร้อมทั้งชำเลืองมองเด็กในอ้อมกอดของวาคิวลี่
        “แย่แล้ว”วาคิวลี่โพล่งออกมาสุดเสียงเมื่ออีเกิ้ลลับสายตาไป “อาจาร์ยลืมบทโฆษณา” วาคิวลี่หยิบกระดาษสีขาวออกมาจากบ้าน “ฉันขับรถไม่เป็นโคช่วยไปส่งให้ทีได้มั้ย”
        “ได้”โคเคลื่อนรถมอเตอร์ไซต์ออกมาจากอู่เมื่อรับบทมาไว้ในมือก็ต้องชะงักหยุด “แต่ฉันไม่รู้ว่าอาจาร์ยไปถ่ายทำที่ไหนนะ”
        “งั้นเดี๋ยวฉันไปด้วย ฉันมีตาทิพย์ คุณวีนัสฝากเด็กหน่อยนะคะ”วาคิวลี่ส่งนาธานให้วีนัส เธอมีท่าทีลังเลเล็กน้อยก่อนจะรับเด็กมาเพราะท่าทางรีบร้อนของวาคิวลี่
        “ด..เดี๋ยว”วีนัสพูดยังไม่ทันจบวาคิวลี่ก็ซ้อนท้ายโค ตรงออกไปก่อน
        “ฉันเลี้ยงเด็กเป็นที่ไหนกันเล่า”วีนัสพึมพำออกมาเบาๆทุกเสียงหายไปหมดเหลือเพียงความเงียบและเสียงแอะๆ ของนาธานในอ้อมกอดวีนัส
        “เอาล่ะเจ้าหนู สองอาทิตย์นี้เราจะต้องอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นสมครวจะมีข้อตกลงเล็กๆน้อยกันก่อน เข้าใจมั้ย”วีนัสพูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม
        “แอะ ๆ ๆ”เด็กน้อยตอบ
        “ฉันจะถือว่านายตกลงนะ” วีนัสถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา “เวลาฉันทำงานอย่ามายุ่ง ห้ามทำข้าวของเลอะเทอะ ห้ามนำความลับภายในบ้านไปบอกคนภายนอก เห็นอะไรก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่อย่าสอดรู้สอดเห็น เข้าใจนะ”
        “แอะ ๆ ๆ”
        “ดี แต่ให้ดีอย่าร้องไห้”วีนัสชำเลืองมองด้วยสายตาอาฆาตรปนขู่หน่อยๆ
        “แง้ ๆ ๆ”
        “ฉันบอกว่าอย่าร้องไงล่ะ”วีนัสโพล่งออกมาสุดเสียง นาธานหยุดร้องซักพักและเริ่มร้องใหม่อีกครั้ง
        “ฉันบอกให้เงียบ หุบปาก”นาธานชะงักหยุดเสียงร้องลง ซึ่งมันทำให้วีนัสพอใจเล็กน้อย
        “แง้ ๆ ๆ”
        “เฮ้ย ฉันต้องการให้เธอหยุดร้องแบบถาวร”แต่ดูเหมือนเสียงตะคอกของวีนัสจะเบาๆบางมากเมื่อเทียบกับเสียงร้องของนาธาน
        “โอเค ๆ ฉันยอมแพ้ หยุดร้องได้แล้ว”วีนัสยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างถอดใจ
        “แง้ ๆ ๆ”
        “เฮ้ย หยุดซะทีสิ ฉันยอมแพ้แล้ว”
        “แง้ ๆ ๆ” วีนัสรีบตาลีตาเหลือกไปหยิบหนังสือเล่นหนาที่เขียนว่าแม่และลูกขึ้นมาอ่านเผื่อจะได้รู้ถึงสาเหตุที่นาธานร้องไม่หยุด
        “อืม..รอเดี๋ยวนาธาน ถ้าเด็กร้อง เพราะ หิวนม”วีนัสรีบวิ่งตรงคว้าขวดนมที่วางอยู่ในครัวอย่างรีบร้อน
        “อ่ะ”วีนัสจ่อขวดนมที่ปากของนาธาน ชั่วขณะนึงเธอเห็นคิ้วของนาธานชนกันและปากเบออก นาธานยกมือเล็กๆปัดไปที่ขวดนมจนมันหกกระจายไปทั่วทั้งห้องพร้อมทั้งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมา
        “ได้เด็กผี”วีนัสครางออกมาเบาๆพร้อมทั้งเพ่งมองใบหน้าอมสุขของนาธาน
        “แง้ ๆ ๆ”หัวเราะได้เล็กน้อยนาธานก็ร้องไห้อีก
        “อะไรอีกวะเนี่ย”วีนัสค่อยๆประคองนาธานขึ้นแต่เมื่อสัมผัสไปที่ก้นเธอก็รู้สึกถึงอะไรเปียกๆ “ไอ้เด็กนี่ฉี่เหรอวะเนี่ย” วีนัสทิ้งนาธานกลับลงไปที่เบาะอีกครั้ง
        ทันทีที่นาธานกระทบกับเบาะเค้าก็ร้องออกมาเสียงดังกว่าเดิม จนทำให้วีนัสเกรงว่าเสียงจะดังออกไปจนได้ยินถึงบ้านข้างๆ
        “เอาวะ เป็นไงเป็นกัน”วีนัสค่อยๆเปิดกางผ้าอ้อมออก “อี๋ แหยะ”
        วีนัสกางมันเอาไว้อย่างนั้นและเดินไปหยิบหนังสือเล่มเดิมขึ้นมาอ่าน “เปลี่ยนผ้าอ้อม ต้องเช็ดให้สะอาดก่อน แล้ว ”
        นาธานกลิ้งไปกลิ้งมาบนโซฟาทำให้ฉี่ของเค้าเปรอะไปทั่ว แต่ยังไม่พอ นาธานยังคลานออกไปและฉี่ไปด้วยผ่านออกไปทางด้านในครัว ถ้าไม่ติดที่นาธานยังเป็นเด็กทารกคงต้องคิดว่านาธานแกล้ววีนัสแน่นอน
        “เอาล่ะ”วีนัสวางหนังสือลงพร้อมทั้งหยิบผ้าอ้อมจากตระกล้าสีชมพูที่คุณนายไวโอเลตให้เอาไว้เดินตรงเข้าไปในที่ๆนาธานนอนอยู่ แต่ก็ต้องพบกับรอยฉี่ลากเป็นทางยาว มันคงจะทำให้วีนัสสติแตกไม่เท่าไหร่ถ้านาธานไม่ฉี่ลงบนพรมสุดโปรดของเธอ
        “นาธาน”วีนัสตะคอกออกมาเสียงดังพร้อมๆกับที่เดินไปตามรอยฉี่นั้น และพบเด็กน้อยกำลังเล่นกับเครื่องรายครามอันโปรดของอีเกิ้ล
        “ยอ ๆ ๆ”วีนัสโบกมือไปด้านหน้าเมื่อนาธานทำเหมือนมันจะตกลงสู่พื้น
                    “เอาล่ะไอ้หนู อย่าขยับ อยู่นิ่งๆนะ”วีนัสค่อยๆย่อตัวลงอยู่ในระดับสายตาเดียวกับนาธาน“ค่อยๆ ส่งมาให้ฉัน ช้าๆนะ”น้ำเสียงของเธอดูออดอ้อนมากขึ้น
        แอะ แอะ
        เด็กน้อยยกมืออีกข้างขึ้นลงอย่างถูกอกถูกใจแต่การกระทำนั้นทำให้วีนัสใจหลุดไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะไอ้แจกันลายครามเรือนงามมันขยับไปตามจังหวะของเด็กน้อย พร้อมๆกับใจวีนัสที่พลอยจะหลุดตุ๊บออกมาตามจังหวะของแจกัน
        “อย่าขยับสิจ๊ะ มานี่มะ ส่งมาให้พี่เร็วๆเข้า”วีนัสยื่นมือออกไปด้านหน้าเล็กน้อยพร้อมทั้งยิ้มออกมาอย่างเสแสร้ง นาธานเอียงคอมองวีนัสเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองแจกัน พร้อมๆกับที่ปล่อยมันออกจากมือ วีนัสรีบพุ่งตังรับก่อนที่แจกันจะโหม่งโลกแตกเป็นเสี่ยง
        “เฮ้อออ”เสียงถอนหายใจยาวยืดดังออกมาเมื่อเห็นว่าเป้าหมายปลอดภัย
        เพล้ง
        วีนัสหันไปมองตามเสียงก็พบกันแจกันเข้าคู่กันอีกอันตกลงมาแตกกระทบพื้น และมีนาธานตบมือร่าอย่างพอใจอยู่ข้างๆแจกันแตกนั้น
        “ตายล่ะ”วีนัสก้มหน้าเอาหน้าผากกระแทกกับพื้นอย่างหัวเสีย
        “เอาล่ะไอ้ตัวเล็ก มานี่”วีนัสเกี่ยวเสื้อด้านหลังของนาธานด้วยนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวเดินเข้าไปห้องนั่งเล่นที่มีสภาพยับเยินเต็มไปด้วยรอยฉี่ เธอยิ้มแหยๆออกมาพร้อมทั้งเดินเข้าไปในครัวหยิบโซ่ล็อกจักรยานออกมาและล็อกขานาธานเอาไว้กับโซฟา
        “ค่อยยังชั่วหน่อย”วีนัสเพ่งมองนาธานที่พยายามจะแกะเหล็กที่ข้อเท้าแต่ดูเหมือนจะทำไม่ได้อย่างพอใจ “เอาล่ะ”เธอพับแขนเสื้อขึ้นและเริ่มจัดการกับของละเลี่ยระราดในห้องนั่งเล่น
        วีนัสใช้เวลาไปถึงหนึ่งชั่วโมงกว่าเธอจะกำจัดรอยฉี่แสนเน่าเหม็นของนาธานที่เธอเรียกว่าฉี่นรกออกจากพรมได้ และเก็บเศษแจกันที่เธอยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงกับมันดี
        “เรียกร้อย ไม่เห็นจะยากซักเท่าไหร่”เรียบร้อยจริงๆถ้าดูผ่านๆ แต่ถ้าท่านสังเกตุดีๆจะเห็นรอยคราบฉี่ที่เช็ดไม่ออก และเศษแก้วเล็กๆที่ถูกยัดอยู่ไต้พรมอย่างลวกๆ ที่สำคัญเศษแจกันที่ถูกแช่อยู่ในตู้เย็น
        RRRRRRRRRRR
        “หือ หรือว่าจะเป็นอีเกิ้ลโทรมา”วีนัสรีบตรงเข้ารับโทรศัพน์แต่ก็ต้องผิดหวังปนดีใจเมื่อพบว่าปรายสายคือบอส
        วีนัสพยักหน้าหงึกๆ กับโทรศัพน์ สายตาเพ่งมองไปที่นาธานอย่างใช้ความคิด เธอพยักหน้าอย่างนั้นอยู่ซักพักก่อนจะพูดว่า “อือ” และวางโทรศัพน์ลง
        “เอาล่ะไอ้หนู”วีนัสนั่งยองๆใกล้ๆกับนาธาน “เรามีปัญหาแล้วล่ะ ฉันมีงาน”วีนัสหลี่ตามองท่าทางไม่สนใจของนาธาน เพราะเค้าพยายามจะแกะโซ่ที่ข้อเท้า “ถึงฉันจะพูดว่ามันเป็นปัญหาของเราสองคน แต่เห็นทีฉันคงต้องแก้คนเดียว”วีนัสถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้
        วีนัสเดินตรงเข้าไปในครัวอย่างช่วยไม่ได้ พร้อมทั้งชงนมประมาณสองสามขวดและนำไปวางไว้ตรงโต๊ะของห้องนั่งเล่น
        “แค่นี้คงพอ”วีนัสปลดโซ่จากข้อเท้าของนาธานเด็กน้อยมีท่าทีพอใจแต่ก็เพียงแปปเดียวนาธานก็ถูกยกมาไว้ในเปลเด็กแบบสะพายไว้ด้านหลัง วีนัสล็อกด้านหน้าให้แน่นเพื่อให้แน่ใจว่านาธานจะไม่ตกลงไป เธอเดินไปหยิบสายกระบอกปืนออกมาและนำขวดนมเสียบแทนปืน ดูเหมือนจะพอดีสามขวด แต่ก็ทำให้วีนัสไม่สามารถเอาปืนประจำตัวออกไปได้ ผ้าอ้อมและทิชชู่ถูกยัดเข้าไปในเสื้อด้านในโค้ดปิดมิดชิด
        “ในเมื่อครั้งนี้มีเด็ก ฉันจะไม่ฆ่าใครก็แล้วกัน”วีนัสบ่นพึมพำกับตัวเองพร้อมทั้งเดินไปหยิบหน้ากากแฟนท่อมสีขาวออกมาจากลิ้นชักในครัวและสอดมันไว้ในเสื้อโค้ด “พร้อมนะไอ้หนู”วีนัสหันไปถามเด็กน้อยผู้ร่วมชะตากรรม
        แอะ แอะ
        “ฉันจะถือว่าพร้อมก็แล้วกัน”ทันทีที่พูดจบวีนัสก็เดินออกจากบ้านทางประตูหลังทันที บ้านของวีนัสจะปิดตัวเองอัตโนมัติทันทีที่ไม่มีคนอยู่บ้านทำให้เธอไม่ต้องมาใส่ใจกับบ้านนัก
        ขณะที่เดินอยู่วีนัสก็ทบทวนคำสั่งไปเรื่อยๆสลับกับเปลี่ยนผ้าอ้อมให้นาธาน “เด็กบ้าเด็กบออะไรกันวะ ฉี่ทุกๆสองชั่วโมง”
        ‘งานที่เธอต้องทำคือ ตามล่าและกำจัดหัวหน้าหน่วยปราบปรามเกรเตอร์ที่คอยควบคุมดูแลการค้ายาเสพย์ติด แต่เบื้องหลังกลับค้าซะเอง’
       
        เกรเตอร์ที่วีนัสจะเจอได้เพียงที่เดียวคือฐานที่มั่นสถานีตำรวจ ที่นั่นมีการป้องกันหนาแน่น ผลัดเวรยามตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง อุปกรณ์ทุกอย่างล้วนเป็นของไฮเทก อย่างที่ว่าไว้ คุกน่ะเข้าง่ายแต่ออกยาก เพราะอุปกรณ์ในนั้นส่วนใหญ่จะป้องกันการหนีซะมากกว่าการบุกลุก
        วีนัสหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและบรรจงปิดเพื่อบดบังการมองเห็นของนาธาน ก่อนจะอุ้มขึ้นสะพายบนหลัง
        การป้องกันหนาแน่น ทุกประตูมีเลเซอร์ป้องกัน หน้าต่างติดกระจบทุกบานทำจากกระจกกันกระสุน กล้องวงจรติดอยู่ทุกจุดของตึก เรียกได้ว่าไม่มีทางเข้าไปได้แน่นอน แต่นั่นไม่ใช่วีนัส
        วีนัสเงยหน้ามองตึกสูงสง่าที่มีรูปร่างเหมือนตึกคล้ายๆเรือบใจ แต่สิ่งที่เธอสนใจกับไม่ใช่รูปร่างของตึกแต่เป็นมุมอับที่คนอย่างตำรวจไม่มีทางคาดถึง
        วีนัสย่อตัวเล็กน้อยก่อนจะดีดตัวพุ่งทะยานตรงดึ่งขึ้นไปเธอได้ยินเสียงแอะ แอะ ชอบใจมาจากนาธาน
        “เอาล่ะ”วันัสยืนอยู่บนลานจอดเฮลิคอปเตอร์ เสียงสายลมพัดหวีดหวิดข้างหูเธอบอกถึงความสูงของตึกนี้ วีนัสควานเข้าไปในเสื้อหยิบหน้ากากขึ้นใส่เธอไม่อย่างเสี่ยงกับการที่มีคนจำหน้าได้เพราะเธอจะต้องฆ่าทิ้ง ถ้าเป็นปกติเธอจะพอใจกับการฆ่ามาก แต่นี่เธอมากับเด็กเล็ก
        “มาดูกันซิว่าไอ้นั่นอยู่ตรงไหนของตึกนี้”วีนัสหยิบแท่นกดปุ่มออกมาทันที่ที่เธอกดลงไปคอมพิวเตอร์โปรงแสงก็ปรากฎออมาวีนัสไม่รอช้าดึงสายสีฟ้าจากโน๊ตบุ๊กเสียบเข้ากับคอมขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับลานจอดเฮลิคอปเตอร์
        วีนัสกดครั้งสองครั้งก็ได้รับแผนผังของตึกนี้มาอย่างง่ายดาย และยังรู้ด้วยว่าจุดไหนที่เหยื่อของเธอซ่อนตัวอยู่ ดูเหมือนบอสจะเคยส่งใครบางคนมาก่อนและพลาด ทำให้เกรเตอร์ระวังตัวอยู่ตลอดเวลาอย่างน้อยก็ไม่ยอมกลับบ้านมาร่วมหนึ่งอาทิตย์แล้ว จะมีที่ไหนปลอดภัยไปกว่าสถานีตำรวจ
        “แกคงอยากตายในหน้าที่สินะ ถึงได้มาฝังตัวอยู่ในสถานี ไม่เป็นไรฉันจะให้นายได้ตายในเครื่องแบบ”วีนัสยิ้มกริ่มอย่างโหดเหี้ยม
        แอ๊ แอ๊
        เสียงของนาธานทำให้วีนัสชะงักกึกและดึงนาธานวางลงเพราะดูเหมือนเด็กน้อยจะฉี่อีกแล้ว
        “รู้ถึงไหนอายถึงนั่น นักฆ่าอย่างวีนัสต้องมาเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กในขณะปฎิบัติหน้าที่ อย่างนี้ต้องเรียกว่าบกพร่องต่อหน้าที่สินะ”ทันทีที่พูดจบวีนัสก็เปลี่ยนผ้าอ้อมเสร็จพอดีเธอโยนผ้าอ้อมลงไปทางระเบียงปล่อยให้ลอยละล่องล่วงตกจากชั้นแปดสิบ คงจะไม่มีใครโชคดีโดนหัวพอดีหรอกนะ
        วีนัสเลาะท่อแอร์อย่างเบื่อหน่าย และค่อยๆคลานลงไปโดยพยายามไม่ให้อีธานเจ็บ
    ............
        “ตรงนี้สินะ”วีนัสเพ่งมองผ่านรูและพบว่ามันตรงกับห้องน้ำหญิงพอดีที่สำคัญภายในห้องก็ว่างเปล่าเหมาะแก่การทิ้งตัวลงไปตั้งหลักเป็นที่สุด
        วีนัสกระโดดลงมา และเปิดกระจกห้องน้ำออก ถายในมีห่อสีน้ำตาลขนาดใหญ่ที่เธอเตรียมเอาไว้ วีนัสสะพายมันและเดินออกจากห้องน้ำ
        กล้องหลายตัวเห็นการเคลื่อนไหวของวีนัสทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งเกรเตอร์เองก็รู้ถึงการมาของวีนัสแต่เค้ากลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวแม้แต่น้อย อะไรที่ทำให้เค้ามั่นใจว่าสามารถเผชิญหน้ากับปีศาจอย่างวีนัสได้!!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น